แชร์ผลการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐสิษฐ์929, 13 มิถุนายน 2014.

  1. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ผมตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อแชร์การปฏิบัติและผลของผม ตลอดยินดีให้เพื่อนนักปฏิบัติได้แชร์ร่วมด้วย
    เบื้องต้นผมขอแชร์เรื่องแรกคือมองทะลุผนังโบชถ์และพวกกายละเอียดภายในโบชถ์ เรื่องนี้เกิดขึ้นภายหลังที่ปฏิบัติแบบนำประคำและภาวนาพุธ-โธ การนับของผมเริ่มจาก 3 จบไม่ให้ผิด(ประคำ 108 ลูก) เมื่อได้แล้วก็เพิ่มอีก 3 จบเป็น 6 จบ ผมเพิ่มไปได้จนถึง 12 จบ จะไปถึงสภาวะหนึ่งที่นิ่งมาก มีแต่นิ่งและเบาเหมือนลอยอยู่ในอากาศ การปฏิบัตินี้กระทำภายในโบชถ์แห่งหนึ่งที่อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ราวปี 2530
    ในช่วงนั้นก็เกิดระลึกว่าภายนอกโบชถ์เป็นอย่างไร ก็หันมองไปดูก็ปากฏว่าผนังโบชถ์นนั้นหายไป สามารถของเห็นสภาพภายนอกโบชถ์ได้ชัดเจน ทั้งเห็นชาวบ้านแถวนั้นกำลังเดินผ่านไปด้านข้างโบชถ์
    การปฏิบัติขณะนั้นเป็นพระภิกษุผมพักอาศัยและปฏิบัติในโบชถ์ ในช่วงนั้นได้สัมผัสกับพวกกายละเอียดที่อยู่ในโบชถ์หลายครั้ง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นพวกไหน แต่พวกเขาจะมาแกล้งผมในระหว่างที่พักการปฏิบัติ เช่นว่านอนพัก มาเหยียบ มาจับขาดึง เวลาเขาแกล้งนั้นอาการคล้ายถูกผีอำคือขยับตัวไม่ได้ ผมแก้ด้วยการเอาสติระลึกไปตามร่างกาย หากเขาแกล้งอย่างไรเมื่อระลึกไปถึงก็จะรู้ว่าเขาแกล้งเราอย่างไร พอเรารู้เขาก็หยุด หากว่าเราปฏิบัติเขาจะไม่ยุ่งเลย หากหยุดเมื่อไหร่ก็ต้องระวังตัว เพราะจะถูกแกล้ง สำหรับครั้งนี้พอแค่นี้ก่อนครับ
    เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2014
  2. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ดีครับ แชร์ประสบการณ์
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ดีครับ.ถือว่านำประสบการณ์ที่ได้มาเล่าสู่กันฟัง
    .มารออ่านด้วยคนครับ..
     
  4. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    สาธุคะ
     
  5. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    แชร์เรื่องเปรตที่อ่างทอง

    ช่วงนั้นเป็นงานปริวาสกรรมที่วัดกุญชรชาติการาม ผมได้เข้าร่วมอยู่กรรม ถึงเวลาจำวัดประมาณ 4 ทุ่มก็เข้าจำวัดที่กลด พอนอนลงได้สักพักก็รู้สึกว่ามีคนมานั่งทับและบีบคอ ลืมตามาดูเห็นเป็นคนร่างผอมสูงคล้ายกับรูปเปรตที่ปั้นแต่ไม่น่ากลัวเท่าที่เขาปั้น ผมตอนนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูกแต่ได้นึกถึงคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกชึ่งช่วงนั้นสวดก่อนนอนทุกคืน แต่คาถานี้ยาวมากในช่วงนั้นผมจึงท่องเอาเฉพาะบทสุดท้าย ท่องจบมันก็ไม่ไป นั่งตาแป๋ว มองดูผมเฉยเลย ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความจริงน่าแผ่เมตราให้แต่นึกไม่ออกในตอนนั้น ท่องแล้วก็ไม่ไปผมจึงระลึกถึงตัวพระคาถาที่ท่องไปแล้วให้มารวมกันที่ในปาก จากนั้นก็รวบรวมให้เป็นพลังและเป่าออกไปใส่เปรตตนนั้น ได้ผลครับ มันปลิวไปเลย ไม่ได้เก่งอะไรนะครับแต่อยากแชร์พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกบทสุดท้าย เพื่อว่าบางคนอาจนำไปใช้ได้ในยามจำเป็นครับ พระคาถาว่าอย่างนี้
    "นะโมพุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ยาวะตัส สะหาโยโมนะ อุอะมะ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา อุอะมะ อะวันทา นะอะกะติ มิสะระณะ อาระปะขุทัง อะมะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา"
    เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2014
  6. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    แชร์การถอดจิต

    การถอดจิตนี้หลวงปู่สาวกโลกอุดร ธัมมะปาโล ได้แสดงไว้ว่าจิตนั้นไม่ได้มีการถอดออกไปไหนได้ แต่จิตเขาสามารถคิดมโนภาพได้ ไม่ว่าใกล้หรือไกลเขาก็คิดมโนภาพได้ทั้งหมด การถอดจิตนั้นก็คือจิตคิดมโนภาพออกจากร่างไปที่หนึ่งที่ใดนั้นเอง ที่ยกคำแสดงของหลวงปู่เพราะปัจจุบันผมเป็นลูกศิษย์ท่านครับ
    ***การถอดจิตนี้ผมได้พบกับพระธุดงค์องค์ท่านสอนวิธีให้ ท่านบอกว่าหากปฏิบัติโดยต่อเนื่องรับรองไม่เกิน 15 วัน จะสามารถถอดจิตได้ การปฏิบัติก็คือให้กำหนดพุธโธ ทุกอริยาบท ทุกสิ่งให้เรียงเป็นพุทธโธทั้งหมด สรุปว่าให้กำหนดพุทธโธตลอดเวลา งดการสนทนากับผู้อื่นในระหว่างการปฏิบัติตลอดเวลา(เท่าที่ทำได้) ผมก็ใช้หลักเกณฑ์นี้ปฏิบัติ แต่ผมปฏิบัติในขณะที่ผมก็ได้มีพื้นฐานทางสมาธิพอสมควรจึงสามารถปฏิบัติได้โดยใช้เวลาเพียง 1 วัน
    ***ในวันที่ปฏิบัติ ผมเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ตื่นนอน กำหนดอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดคุยกับใคร ทำกิจกรรมอะไรก็กำหนดอยู่อย่างนั้น กำหนดไปจนถึงเวลานอน ขณะที่นอนอยู่และกำหนดอยู่อย่างนั้น ก็ปรากฏว่าร่างกายผมลอยหมุนขึ้นไปในอากาศและตกลงมาที่พื้น ซึ่งการหมุนนั้นละครับเป็นภาวะการถอดจิตของผม ที่ตกลงมาที่พื้นสภาพพื้นที่ได้เปลี่ยนไปจากพื้นที่เดิมที่ผมอยู่ ขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด พื้นที่นั้นเป็นป่ากล้วยมีฝนตกพรำๆ มีแสงไฟคล้ายที่พักของคนเฝ้าสวนนั้น ผมก็เดินไปเรื่อยๆเข้าหาแสงไฟนั้น เดินไปเรื่อยๆก็นึกได้ว่ากำลังกำหนดพุทโธในขณะนอนอยู่ จิตก็วูบกลับมาที่ร่างทันที แรงที่กลับมานั้นมีความรู้สึกว่าร่างสะท้านอยู่สักพักหนึ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ต่อๆมาก็ได้ทำอีกหลายครั้ง ไปที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง สุดท้ายจะหยุดทำเพราะไปเจอผีที่สุสานคนจีนมันไล่จับผมแต่ผมหนีมันมาได้ หลังจากนั้นผมก็เลิกทำอีกครับ
    ***ใครอยากลองก็ลองทำตามวิธีข้างต้นดูครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2014
  7. data44

    data44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +158
    รออ่านครับ
     
  8. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ปิติที่รุนแรงที่สุด

    ผมปฏิบัติมาหลายแบบหลายวิธีเริ่มด้วยการนับประคำ+พุทโธ พุทโธ+ลมหายใจ พอง-ยุบ(วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรี) ยุบหนอ-พองหนอ(สายวัดพระพุทธบาทตากผ้า) หลักอนิจนัง(หลวงปู่ชา) พุทโธ(หลวงตามหาบัว) ผมปฏิบัติต่อเนื่องประมาณ 5 ปี ก็เกิดติดสภาวะแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกเมื่อมีสมาธิ เมื่อปฏิบัติอะไรก็ไม่ได้เพราะทุกอย่างจะมีสมาธิเป็นเบื้องบาททั้งนั้น สุดท้ายผมจึงปฏิบัติแบบง่ายที่สุดคือนั่งก็รู้นั่ง เดินก็รู้เดิน จะไปจุดใดกำหนดรู้ก่อนไป ทำอะไรก็รู้อยู่อย่างนั้นโดยไม่ต้องกำหนดอะไร ไม่ว่าจะปฏิบัติเองหรือร่วมกับผู้อื่นก็สามารถปฏิบัติได้
    การปฏิบัติของผมอย่างนี้ครั้งหนึ่งกับเกิดปิติในงานอยู่กรรมอย่างรุนแรงมาก ปิตินี้ถึงกับร้องไห้ออกมาจริงๆ บังคับอย่างไรก็ไม่อยู่ เมื่อหยุดปฏิบัติผมต้องเข้ากุฏิแล้วปล่อยมันร้องไปเลย ปิตินี้มันต่อเนื่องเกือบ 20 ชั่วโมง โดยระหว่างนั้นผมบวชเป็นพระแก้บน 1 เดือน บังเอิญมีพระท่านหนึ่งได้สอบถามผมว่าผมปฏิบัติอย่างไรผมก็ท่านไปอย่างนั้น ท่านบอกว่าเป็นการปฏิบัติแบบอริบทบัพพะ
    ระหว่างนั้นผมก็ได้พูดคุยกับอาจารย์สายวัดมหาธาตุ(แบบยุหนอ-พองหนอ) และมีผู้อื่นรับฟังร่วมด้วย ท่านพูดถึงการเดินจงกลมลำดับที่หก ซึ่งถือเป็นขั้นที่สูงสุดของการปฏิบัติ ท่านก็ถามผมว่า "ขณะเดินจงกลมได้กำหนดเป็นลำดับใด" ผมก็ตอบว่า"ไม่มีอันดับครับ ผมเพียงแต่รู้อาการของการเดิน และอีกอย่างผมก็มีความเห็นว่าการเดินจงกลมนั้นมีลำดับมากกว่าหกชั้น" ท่านก็ยิ้มๆ และถามผมว่า "มันมีกี่ชั้นละ" ผมตอบว่า "จะว่าเป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นหรือเป็นแสน ก็ได้ครับ" ท่านก็พยักหน้าและตอบว่า "นั้นละถูกต้องแล้ว"
     
  9. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เวทนาที่รุนแรงที่สุด

    เป็นช่วงที่ปฏิบัติธรรมแบหยุบหนอ-พองหนอ ที่ภาคเหนือสายวัดพระพุทธบาทตากผ้า ก่อนการปฏิบัตินี้ผมติดสภาวะเวทนามาก่อนคือแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ขณะมีสมาธิ แต่อาการไม่รุนแรงมาก ผมมาปฏิบัติที่นี้ 1 พรรษา แต่ปฏิบัติจริงได้เพียงประมาณ 2 เดือน เพราะมีอาการเวทนาตัวใหม่เพิ่มมารุนแรงมาก จนไม่สามารถจะปฏิบัติต่อไปได้
    อาการนี้เกิดขึ้นขณะเดินจงกลมก่อน ขณะเดินคล้ายว่ามีอะไรบางอย่างมันวิ่งออกจากส้นเท้าด้านขวาแล้วลอยไปตกที่กลางกระหม่อม ต่อมาเมื่อมานั่งปฏิบัติ อาการเริ่มที่กลางกระหม่อม เหมือนว่ามีเหล็กปลายมนขนาดประมาณเท่าดินสอ ทิ่มแทงลงกลางกระหม่อมปักแทยงลงไปหาจนถึงหัวใจ ปฏิบัติสู้ว่าตายเป็นตาย มันก็ไม่ตาย มีแต่ทุกข์มหันต์ คิดเห็นถึงตอนเป็นเด็กไปหาปลาได้มาก็จะเอามาย่างกิน ประสาเด็ก เวลาจะย่างนี้ก็ใช้ไม้ปักเข้าที่ปากมันจนไปถึงกลางลำตัว นำไปปักข้างกองไฟย่างกิน ตอนนั้นก็คิดเห็นว่าจะเป็นกรรมเวรตรงนี้ละมั้งที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้
    พอออกพรรษาผมก็ลาสิกขาบท เพราะเหตุไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ สภาวะที่เกิดมันรุนแรงเกินกว่าผมจะรับไหวครับ
    ผมหยุดปฏิบัติไปประมาณ 5 ปี อาการที่เป็นค่อยๆหายไป ยังคงเหลือสภาวะเดิมคือแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกที่ยังคงอยู่กับผมต่อไปอีกร่วม 15 ปีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2014
  10. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    แก้สภาวะดับเวทนา

    ในราวปี 49 ผมได้พบกับพระลูกศิษย์หลวงปู่สาวกโลกอุดร ท่านแนะนำให้ผมเอาแผ่นซีดีหลวงปู่ไปลองฟังดู บอกตรงๆเลยครับ ไม่ได้สนใจเลย ผมคิดว่าตัวเองฟังมาแยะรู้มามาก แต่ท่านเป็นพระอยู่แถวบ้านได้พบเจอกันบ่อยๆ เมื่อเจอท่านก็จะบอกอยู่เรื่อยไป ในต้นปี 52 ผมจึงได้เอาซีดีมาฟัง บอกเลยแปลก ธรรมแปลกๆ วิธีปฏิบัติก็แปลก ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน เป็นฌานสมาบัติเพ่งสติเข้าจุดมโนทวาร ฟังแต่ชื่อก็พิลึกกึกกืออย่างเหลือหลาย ผมเริ่มฟังก็เริ่มปฏิบัติทันที และโดยนิสัยของผมเป็นประเภทชอบลองของอะไรประมาณนั้น
    เริ่มปฏิบัติอาการเวทนาเดิมๆมันก็เริ่มมาเยือนทันที แน่นหน้าอกหายใจไม่ออกมาอีกแล้ว แต่การเพ่งฌานนี้ไม่อาศัยลมหายใจแม้นลมหายใจจะหายไปก็เพ่งได้อยู่ เออดีเหมือนกัน แต่ก่อนพึ่งลมหายใจตอนนี้ไม่ต้อง เพ่งต่อๆๆ
    เพ่งไปเพ่งมาสภาวะที่แน่นหน้าอกมันนิ่ง แต่ก่อนมันปวดแสบปวดร้อนวูบๆ วาบๆ ใจจะขาด ตอนนี้มันสงบนิ่ง เป็นก้อนแข็งๆ ขยับไปมาเล็กน้อย คล้ายๆมีก้อนอะไรซักอย่างที่หน้าอก ผมปฏิบัติไปเรื่อยๆ ทำงานบ้างปฏิบัติบ้างประมาณ 7 วัน ระหว่างปฏิบัติผมเปลี่ยนจากเพ่งมาเป็นเดินสติไปดูที่จุดสภาวะ พอเข้าถึงก็เดินสติเข้าไปดู ที่มันขยับอยู่เล็กน้อยมันก็ขยับค่อยๆมากขึ้น เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆมันคล้ายกับปลาช่อนซัก 4-5 ตัวนอนอยู่รวมกันในนั้น เพียงรู้แค่นั้นทันใดปลาทั้งหมดก็เคลื่อนหนีออกจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว ไปด้านขวาของร่างกายและหายไป บางตัววิ่งมาซุกที่หลังไหล่และดิ้นอยู่ตรงนั้น สภาวะที่หน้าอกหายวาบไปเลย ตอนนั้นดีใจจนแทบน้ำตาไหล ติดมาร่วม 20 ปี แก้ได้เพียง 7 วัน ดีใจสุดๆ
    บอกได้เลยว่าที่ผมทำอยู่มันจะเป็นอะไร จะใช่ฌานหรือไม่ ไม่สำคัญเลย แต่ผมรู้ว่าสิ่งนี้ละชุบชีวิตผมมีบุญคุณกับอย่างสุดประมาณได้
    นับจากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็ปฏิบัติเพ่งฌานสมาบัติมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
    เจริญในธรรมทุกท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2014
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...........อันที่จริงพระท่าน เทศนา เรื่อง ปริยัติ และ อภิธรรมอยู่ แต่ท่าน เน้น การปฎิบัติตามแบบที่ท่านว่าดี..อาจจะ คล้ายคล้าย ที่ท่านโปฎิละ ไป ถาม เณร...เณรให้ ปิดรู เหี้ย5รู...ก็ จะเจอตัว.ในที่สุดพระโปฎิละ ก็ บรรลุผลสำเร็จ..อันนี้ผมคิดไปเองนะ....คล้ายคล้าย พระอาจารย์มั่น พูดถึง ศิลข้อเดียว คือการ รักษา "ใจ":cool:
     
  12. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ตำราว่า 5 รูหรือครับ
    หลวงปู่สาวกโลกอุดรสอน 7 รูคือปาก1 จมูก2 หู2 ตา2 ครับ ส่วนนี้เป็นปริศนาธรรมของจุดมโนทวาร
    การรักษาใจเป็นปริศนาธรรมเรื่องฌานสมาบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2014
  13. arjhansiri

    arjhansiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +148
    พระพุทธองค์รู้กฎอิทัปปัจยตาและปฏิจสุมปบาท
     
  14. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    พระพุทธองค์รู้ทุกเรื่องในธรรมครับ
    กระทู้นี้ว่าด้วยการแชร์ผลการปฏิบัติ ท่านใดจะแชร์ก็เชิญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2014
  15. arjhansiri

    arjhansiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +148
    ท่านผู้ร่วมสนทนาปฏิจสมุปบาทนั้นเป็นความรู้ที่พระอรหัต์ต้องทราบนะครับ
     
  16. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844

    ผมไม่ได้เป็นพระอรหันต์ครับ
    แต่หลวงปู่ท่านรู้ทั้งวิชชา3 รวมทั้งปฏิสัมภิทาฌาน4 ปฏิจสมุปบาทท่านแสดงไว้มีแยะครับ รับรองไม่มีการลอกมาจากตำรา
     
  17. arjhansiri

    arjhansiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +148
    ท่านรู้ได้อย่างไรครับว่าท่านใดได้อะไรยังไงครับ
     
  18. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    หลวงปู่ท่านแสดงไว้ ส่วนหนึ่งท่านใช้วิชชา3 หยั่งรู้ในอดีต ตั้งแต่กำเหนิดโลกและจักรวาล กำเหนิดคน สัตว์ พืช การมาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าองค์แรกของภัทรกัปป์นี้ ที่มาของวันมาฆบูชา พระอรหันต์ที่มาประชุมทั้ง 1,250 รูปมาได้อย่างไรเป็นใครบ้าง ประวัติของพระอรหันตสาวกเพียงหนึ่งเดียวที่ปฏิบัติแบบโมนัยปฏิบัติ วิธีปฏิบัติแบบโมนัยปฏิบัติ การทำสังคายนาปิฎกครั้งแรกเป็นอย่างไร ความผิดเพี้ยนของการทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งต่อๆมา ธรรมแทรกซ้อนในพระพุทธศาสนา ที่ท่านแสดงหลายส่วนไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎกฉบับปัจจุบัน
    พวกจานบินจานผีมันคืออะไร บ้องไฟพยานาคเป็นอะไร ท่านรู้ท่านได้แสดงไว้ทั้งนั้นครับ
    ธรรมเหล่านี้ผมได้พบภายหลังที่ท่านได้ละสังขารไปแล้ว ซึ่งลูกศิษย์ท่านได้รวบรวมไว้ 413 กัณฑ์
    ก็ท่านแสดงได้ขนาดนี้ละครับผมจึงเชื่อว่าท่านใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2014
  19. arjhansiri

    arjhansiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +148
    ท่านได้ยินกับตัวเองเลยหรือครับ พออจะเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับว่าจักรวาลจานผีเกิดขึ้นมาอย่างไรเป็นธรรมทานครับ
     
  20. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เป็นซีดีครับ ได้ยินกับหูแน่นอน ทุกวันนี้ผมเอาลงไว้ในคอมทั้งหมด แผ่นส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้เพราะใช้มาหลายปี
    ผมขอเล่าให้ฟังคร่าวๆนะว่า
    ก่อนที่เกิดจักรวาลนั้นมันก็ไม่มีอะไรเลย ต่อมาจะมีลมกลดซึ่งลร้อนพัดไปมาเร็วมาก จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง การพัดไปมานี้ใช้เวลาหลายล้านปี ต่อมาก็เกิดแร่ธาตุขึ้นและก็ปลิวไปมากับลมกลด ต่อมาแร่ธาตุนี้ก็รวมตัวกันใหญ่ขึ้น โดยมีลมกลดอยู่ภายใน การรวมตัวนี้ก็เกิดเป็นดวงดาวต่างๆทั้งโลกและดวงอาทิตย์ด้วย แต่ละขั้นตอนต่างใช้เวลาหลายล้านปี ดาวอื่นไม่มีไฟ แต่ดวงอาทิตย์มีไฟเพียงดวงเดียว ท่านแสดงว่าดวงอาทิย์นี้เป็นสีน้ำเงิน ที่เห็นคือประกายไฟ ต่อมาก็เกิดฝนตกและน้ำท่วมจักรวาล ท่วมดาวทุกดวงสูงไปจนเกือบถึงดวงอาทิตย์ แต่ท่วมต่อไปไม่ได้เพราะความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ ต่อมาด้วยความร้อนของดวงอาทิตย์ น้ำก็ลดลงๆไปเรื่อย
    มาดูเอาแต่โลกของเรา เมื่อน้ำลดลงสภาพดินจะเป็นแบบดินเลน พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นน้ำอยู่ เมื่อน้ำลดลงมาก็ปรากฏมีธาตุเรืองแสงชนิดหนึ่งเต็มไปทั่วพื้นผิว ทั้งในกาศด้วย ธาตุนี้หลวงปู่สมมุติเรียกว่าปรอธธาตุ
    แค่นี้ก่อนเดียวต่อให้
     

แชร์หน้านี้

Loading...