แชร์ผลการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐสิษฐ์929, 13 มิถุนายน 2014.

  1. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    คุณ Sriaraya5 ครับ --- ผู้เขียน สำเร็จจริง ก็ชั้นพระศาสดา --- แปลว่าอย่างไรครับ ช่วยขยายความด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    ตัวตนไม่มีอยู่จริง เพียงแต่ละเวทนาในจิตได้ แม้นผู้ไม่รู้หนังสือ

    ก็เข้าใจปฏิจสมุปบาท กฏของการดับอย่างต่อเนื่อง เวทนาในจิตดับ ภพดับ
    ชาติดับ ชราดับ มรณะดับ วิญญาณดับ
    ซึ่งต่าง กับ การยังหลับไหลอยู่ อยู่บนพื้นฐานที่เข้าใจว่าตัวตน
    มีอยู่จริง ตามกฏอิทัปปัจยตา มีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    เด่วขออนุญาต จขกท. และขอคุยกับคุณ เคนซิโร่ เลยนะครับ
    ส่วนตัวพอรู้ว่า พอจะคุยกับคุณได้ ประเด็นแรกฟังหูไว้หูนะครับ..
    เพราะอะไรนั่นหรือครับ.. เพราะจิตของคุณ มันมีฝ่ายความดีขึ้น
    มาแล้วและชัดเจนในระดับหนึ่ง..ในความหมายก็คือ..
    จิตที่ผ่านการเดินปัญญาเพื่อลดละเกิสที่ออกจากตัวจิตได้แล้วจริงๆ
    คือตัวจิตมันได้พอเห็นได้รู้แล้ว ว่าอะไรควรละควรวาง
    และมันก็จะพอรู้ว่าควรจะเดินทางต่ออย่างไรไปปลายทาง
    ตามแต่แนวการปฏิบัติของตนร่วมกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคม
    ไม่ใช่ตัวจิตที่ลดละกิเลส ภายใต้ความคิด การวิเคราะห์
    จากการอ่าน ได้ยิน ได้ฟังมา หรือในอดีตเคยไปปฏิบัติเพื่อหวัง
    ผลทางด้านฤิทธิ์ ด้านความสามารถพิเศษเพื่อให้มีขึ้นในจิตตน
    แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะไปมุ่งเน้นเฉพาะตน หาได้ปฏิบัติ
    เพื่อประโยชน์ทางธรรมหรือมุ่งเน้นเพื่อส่วนรวม..เลยเป็นเหตุ
    ให้เข้าไม่ถึง.และถอยออกมาทางด้านแนวคำสอนตามตำรา.
    ซึ่งไม่ผิดนะครับ..แต่ความสามารถในการเข้าถึงส่วนนามธรรม
    ต่างๆจะยังไม่เพียงพอ..ขาดความรอบคอบในการเข้าถึง
    เพราะไม่เข้าใจตัวบทสมมุติของตำราที่จะส่งผลแสดงถึง
    กิริยาต่างๆที่เกิดกับจิต..เพราะไม่เคยเห็นจิต

    ไม่ทราบอาการของจิต อาการของความคิด อาการของขันธ์ ๕
    ส่วนนามธรรมว่าเป็นอย่างไร..ไม่ทราบว่าจิตที่เป็นกลางเป็นอย่างไร
    ไม่ทราบว่า กิริยาที่จิตว่าง จากความคิด ว่างจากอารมย์เป็นอย่างไร
    เป็นเหตุให้เกิดความยึดมั่นถือมั่น ว่าจะต้องชี้ชัด ว่าอย่างนี้เท่านั้น
    แบบนี้เท่านั้น.มีการแยกแยะ แบ่งกลุ่ม แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย
    ตลอดจนลามไปถึงขั้นตัดสินว่า อย่างนั้น อย่างนี้ไม่ดี..และมักจะ
    มีอาการทางความคิดอย่างหนึ่งคือ มักจะยอมรับความคิดเห็นต่างๆไม่ได้
    คิดว่าสิ่งที่ตนพูดดีที่สุด ถูกที่สุด และมักจะกล่าวอ้างระดับสูงสุด
    มาเสริมความคิดเห็นของตน.ชมคนอื่นๆ ยินดีกับผู้อื่นๆได้ยาก
    และลึกๆภายใจจิตยังชอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าตนมีคุณธรรมขั้นสูง
    ทั้งๆที่กิริยาจิตว่างจากการเกิด..ในชีวิตประจำวันเคยเกิดซักวินาทีไหม
    รู้ไหม กิริยาที่มันส่งผลทางกาย ต่อการมองเห็นสภาวะละเอียดต่างๆ
    มันเป็นอย่างไร ส่งผลต่อความเข้าใจทางด้านนามธรรมมันเป็นอย่างไร
    .และมันก็ไม่ใช่ผลที่เกิดจากการปฏิบัติที่จะนำ
    มาซึ่งปัญญาทางธรรมจริงๆ.ที่จะทำให้ความเห็นชอบเริ่มเปิดทางให้เพื่อ
    การเดินเริ่มต้นที่จะเดินปัญญาลดละกิเลส..
    และที่สำคัญมักมีความเข้าใจคาดเคลื่อน
    โดยเฉพาะเรื่องนามธรรมต่างๆ..

    พอไปพูดตรงๆ..เจาะเรื่องจิตก็มักจะรับไม่ได้ และไม่ฟัง เพราะชอบ
    คิดปรุงร่วมกับจิต ว่าตนมีคุณธรรมขั้นสูง.เหนือกว่าคนอื่นๆเสมอ..
    ปากบอก ยึดพระรัตนตรัย..ลองไปซ้อมตายดูซิ..เอาง่ายๆไปทำฟัน
    เวลาหมอกรอฟัน ลองซ้อมส่งจิตดูซิ ว่าจิตตอนนั้นเห็น พระรัตนตรัย
    อย่างที่ชอบนำมาอ้างไหม จิตมันออกไปได้ในระดับไหน หรือออก
    ไม่ได้แล้วติดแหงกอยุ่ระดับผิวโลก..จะเข้าใจ จะได้ไม่หลงไม่ตัวเอง
    จบประเด็นแรกก่อนนะครับ ถือว่าเล่าให้ฟังนะครับ สำหรับประเด็นนี้
    เพื่อว่าจะได้ข้อคิดสะกิดใจบ้างไม่มากก็น้อย..

    ปล.ประเด็นนี้หวังว่าจะพอเข้าใจนะครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    ประเด็นที่ ๒ นะครับ ขออนุญาตคุณ ฐสิษฐ์929 สนทนากับคุณ เคนชิโร่
    ต่อ.เพราะส่วนตัวพอทราบว่า ประเด็นที่คุยต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณ
    ฐสิษฐ์929 จะเข้าถึงได้...
    กิริยาต่างๆนะครับ คุณ เคนชิโร่ ถ้าคุณ อ่านที่เขียนไป และทราบทุกกิริยา
    ที่ได้เขียนก่อนหน้านั่นไป..ในทางปฏิบัติก็คือ จิตมีความสามารถที่จะเริ่มเดิน
    ปัญญาได้ ***ย้ำว่าจิตพึ่งมีความสามารถในการที่จะเริ่มปัญญาได้***
    ควรอ่านแล้วทำความเข้าใจให้ดีๆนะครับ ว่าทำไมถึงต้องพูดอย่างนี้ ถ้าคุณ
    ยังมองว่า เรื่องกิริยาทางจิตแบบนี้เป็นเรื่องที่ยาก ผมบอกได้ครับว่าไม่ต้อง
    ไปพูดถึงเรื่องการเดินปัญญา หรือ เรื่องวิปัสสนาอะไรให้เสียเวลาเลยครับ.
    .

    เด็กยังไม่เริ่มคลาน..ไม่ต้องไปพูดถึงเทคนิคการเดิน และเทคนิคการวิ่ง
    ให้เสียเวลาครับ..เพราะพูดไป ก็ไม่พ้นสมมุติ ไม่พ้นการพูดที่อยู่ภายใต้
    สภาวะของความคิดที่เกิดจากจิตปรุงร่วมกับจิต โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวครับ.
    สภาวะต่างๆที่เป็นนามธรรม ไม่ว่าจะความเห็น ฝ่ายกุศล หรืออกุศล
    เรื่องกิเลสต่างๆ เรื่องอารมย์ต่างๆมันเป็นฝ่ายนามธรรมทั้งนั้นหละครับ..
    เรามาปฏิบัติกัน.ก็เพื่อให้จิตมันคลายจากเรื่องพวกนี้ จนกระทั่งจิตไม่ยึดเกาะ
    ซึ่งแต่ละบุคคล เค้ามีความสามารถในการเข้าถึงส่วนนามธรรมได้แตกต่างกัน
    แล้วแต่ว่าอดีตใครจะเคยสะสมบารมีมามากน้อยเพียงใด..โดยทั่วๆไปเราต่าง
    คนต่างรู้ว่า เป็นหมายหลักคือการหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

    หากเปรียบปลายทางเป็นยอดเขาที่เราจะต้องไปให้ถึง..ใครอยากจะเดินทาง
    อย่างไรก็สุดแล้วแต่เค้า..ไม่ใช่หน้าที่เราที่จะต้องไป แยกแยะ ไปชี้ชัด ว่า
    อย่างนั้น อย่างนี้ไม่ดี..หน้าที่เราคือ เดินทางไปตามแนวทางของตนเองให้ดีที่สุด
    เพื่อให้ถึงปลายทาง..แต่เราสามารถมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ ว่าคุณเดินทางอย่างนี้
    อย่างนั้นเป็นอย่างไร..ส่วนใครจะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมันก็เรื่องของเค้า..
    จะมาถกเถียงกันกับภาษาสมมุติ กับ วิธีการเดินทาง ให้เสียเวลาและไม่ก่อเกิดประโยชน์ไปเพื่ออันใด.

    .เพราะบุคคลต่างๆย่อมเข้าถึงพาหนะที่ตนใช้เดินทางได้ดี..
    การที่เราจะสามารถไปเตือน ไปบอกเค้า ไปแนะนำเค้าได้ นั่นหมายความว่าเราต้องใช้
    พาหนะชนิดเดียวกันกับบุคคลนั้นๆ ถึงขั้นระดับที่เข้าถึง รู้จริง เห็นผลมาแล้ว
    และรู้จริงๆว่า ทางที่คุณกำลังจะขี่ไปนั้น มันออกนอกเส้นทางนะ ถึงไปช่วย
    แนะและถึงจะไปบอกไปเตือนเค้าได้..หากไม่เคยลองขับ ลองขี่
    ก็ควรแค่ดูไปก่อน.ถ้าเพียงแค่ ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านๆมา.
    ไว้มีโอกาส ได้ขับ ได้ขี่ ค่อยมาคุยกัน
    ตอนนี้หน้าที่ก็คือ เอาตัวเองให้มันพ้นให้ได้ก่อนครับ
    ถ้ารู้ว่ายังไม่พ้น อย่างไรก็ตามเราทุกคนก็ยังถือว่าเป็นบุคคล
    ที่จะต้องปฏิบัติกันต่อไป.เพื่อให้ถึงยังปลายทางหลักกันทุกคน.

    ปล.หวังว่าจะพอเข้าใจที่สื่อนะครับ..

    และสุดท้ายนะครับ(ความเห็นส่วนตัว)..สำหรับบางท่านที่คิดว่าตนมีคุณธรรมสูงส่ง..
    หากคุณ ยังไม่สำเร็จวิชาเดินธาตุถึงระดับจิตธาตุจนสามารถเล่นแร่
    แปรธาตุได้หยิบจับอะไรเคลื่อนย้ายวัตถุข้ามมิติได้..

    ..แกนไขสันหลังของคุณยังไม่เป็นสภาวะแกนสนามเหล็ก
    ในระดับที่สามารถเกิดเครื่องรู้ได้ทุกเรื่องในจักรวาลระดับที่รู้ลึกรู้จริง ...
    ผมขอร้องเถอะครับคุณ..กรุณาเงียบๆอย่าเอาความคิดตัวเองไปวิเคราะห์
    คุณธรรมต่างๆเกี่ยวกับสายโลกอุดรเลยครับ..บอกตามตรงส่วนตัว
    แค่จะคิดยังไม่กล้าเลยครับ.เพราะรู้ตัวเองดีว่าแค่เสี้ยวยังไม่กล้าพูดเลยครับ
    ขอบคุณครับ..
     
  5. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ผมจะแปลบ้างนะ
    ภายหลังที่พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้วก็ทรงระลึกถึงการปฏิบัติของพระองค์ และกล่าวอุทานถึงหลักปฏิบัติว่า "ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พรามณ์(หมายถึงพระองค์เอง ผู้ปฏิบัติในสมัยนั้นล้วนเรียกว่าพรามณ์ ทั้งเรียกตัวเองด้วย ตอนนั้นมีแต่พระองค์เพียงคนเดียวเท่านั้นไม่มีคนอื่น)ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ ในกาลนั้น ความสงสัยทั้งปวงเทียว ของพราหมณ์(พระองค์เอง)ย่อมสิ้นไปเพราะมาทราบชัดซึ่งธรรมพร้อมทั้งเหตุ"
    คำว่าฌานกับคำว่าเพ่งเป็นความเดียวกัน ตัดคำว่าฌานออกไปเลยก็ได้ สรุปพระพุทธองค์ตรัสรู้ธรรมโดยการเพ่ง
    ภายตรัสรู้พระพุทธองค์ท่านเสวยวิมุติสุขอยู่ 49 วัน ช่วงนี้ท่านยังไม่คิดจะสอนใครเลย ต่อมาเมื่อพระพรหมมาอาราธนาตั้ง 3 ครั้ง พระพุทธองค์จึงยอมจะแสดงธรรม โดยมาพิจารณาเรื่องบัว 4 เหล่า จากนั้นก็จะไปแสดงธรรมให้พระอาจารย์เก่าของพระองค์ แต่ปรากฏเสียชีวิตไปแล้ว จึงไปแสดงธรรมให้ปัญจวัคคี คำว่าพรามห์จึงจะหมายไปหาคนอื่นนอกจากพระองค์นั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2014
  6. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ระหว่างปฏิบัติฌานสมาบัติจะมีการปรับโครงสร้างธาตุในร่างกายไปตลอดเวลา สภาวะฌานเขาปรับให้ ของผมก็เป็นไปบางส่วน สำหรับท่านอื่นที่ปฏิบัติก่อนผม นั้นมีการปรับโครงสร้างของกระดูกไปทีละส่วน ได้มีการสอบถามพูดคุยกันจึงทราบ ของหลวงปู่ท่านแสดงถึงการปรับโครงสร้างของเส้นเลือดเส้นเอ็น จนทุกเส้นอ่อนสลวย ซึ่งจะเป็นก่อนที่จะบรรลุธรรม ตรงนี้เห็นท่านว่ามา ผมก็เลยว่าไปครับ
     
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    โพธิสัตว์ศาสตร์ ดวงจิตนี้มีธาตุลักษณะความเพียรปัญญา เป็นธรรมธาตุ ที่มีแนวทางในการดำเนินชีวิต จนได้มาจุติในโลกนี้อีกครั้ง จึงเป็นเหตุปัจจัยให้
    แรงกุศลที่ทำมาเพียงพอ กรรมดีทำให้ได้พบพระพุทธเจ้าโคดมได้ถูกพระพุทธเจ้าโคดมพยากรณ์ ท่านจะได้ เป็นพระพุทธเจ้าชื่อว่า พุทธะอริยเมตไตย์
    แต่มันเป็นเรื่องของกรรมอดีตชาติอันไกล โพ้น จะต้องได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน การจะได้เป็นพระพุทธเจ้าหาได้เกิดจาก พระพุทธเจ้าโคดมพยากรณ์ไม่ แต่มันเป็นเรื่องของกรรมที่เคยประกอบขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ธรรมญาณนี้เป็นลักษณะของมหาบัณฑิต เป็นการใช้ความเพียรนำหน้าตามด้วยปัญญาก็ด้วยเหตุ ปัจจัยที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าประเภทวิริยาธิกะบารมีบรมหาโพธิสัตว์ศาสตร์ ธรรมธาตุ เมื่อตรัสรู้แล้ว จะเป็นพระพุทธเจ้า ตนจะรู้ด้วยญาณวิถีหลุดพ้น ว่าเป็นชันภูมิของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ด้วยประการฉะนี้
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    เปล่าๆ เข้าใจผิด ผมพูดถึงคุณ แค่ ๘ บรรทัด..โทษทีที่ทำให้เข้าใจผิด
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    ยังไงรบกวนอ่านดีๆอีกรอบนะครับ คุณ เคนชิโร่..
    ใน #Rep 207 นะครับ ส่วน #Rep 208 ช่วงต้นเป็นกล่าวถึงคุณ
    และทั่วๆไป..ส่วนหลังจาก ประโยค ปล.นั้น คุณ เคนชิโร่ อ่านเนื้อหา
    ดีๆอีกรอบนะครับถ้ายังไม่เข้าใจ.ลองย้อนไปอ่าน Rep # 204 แล้วจะเข้าใจ..
    ส่วนตัวอาจจะเขียนติดๆไปหน่อย เลยเข้าใจคลาดเคลื่อนได้
    ยังไงถ้าคุณอ่านประโยคนี้แล้ว..ค่อยมาคุยกันนะครับ
    ;)
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    งั้นขอคุยเลยแล้วกัน..ประเด็นนี้ใช่ครับ..
    พระบางรูปบางท่านเนี่ยตับเป็นทองแดงก็มีครับ..
    เอาฆารวาสที่ผมรู้จักนะ..แนวแกนกระดูกสันหลังเป็นสนามแม่เหล็ก
    แล้วก็มีครับ..เครื่องรู้เค้าจะเกิดจากการเชื่อมแหล่งองค์ความรู้ต่างๆ
    กลุ่มนี้เค้าจะเดินทางสายพระโพธิฯ ซะส่วนมาก.แต่ไม่ได้หมายความว่า
    จะเป็นคนดีนะครับ..ว่าง่ายๆคือ จิตเดิมเค้าสะสมบารมีมาทางด้านนี้..
    แม้แต่พระป่าสายวิปัสสนาบางท่านแนวแกนกระดูกสันหลังท่านก็เป็น
    สนามแม่เหล็กครับ..คือ พอเข้าใจเลยครับว่า มันยากจะอธิบายหรือพูด
    ให้เชื่อได้ยาก หากว่าไม่ได้เดินเข้ามาในเส้นทางนี้
    หรือว่าพอที่สัมผัสหรือเข้าใจในประเด็นนี้ได้.
    .คนก็จะมองเห็นหรือเข้าใจว่าท่านเป็นพระอรหันต์
    ซึ่งประเด็นที่มองก็ถือว่าถูก..แต่เครื่องรู้หรือความสามารถที่ทำให้ท่าน
    เป็นต่างๆหากที่หาคนเข้าใจได้ยากยิ่ง และยากที่จะพูดในวงกว้าง..
    ท่านพระอาจารย์ในดงท่านจะเลือกที่จะสอนให้เฉพาะบุคคลบางกลุ่ม

    และตอนนี้นะครับ ไม่ทราบว่าคุณ ฐสิษฐ์929 จะรู้เหมือนที่ผมเห็นมาหรือเปล่าว่า
    มีพระปฏิสัมภิทาญาณที่เพิ่งเกิดขึ้นมาอีกไม่นับกลุ่มท่าน
    ตั้งแต่สมัยที่อยู่ตอนยุคที่ผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพท่านยังมีสังขารอยู่นะครับ
    .ที่รู้กันในนามพระอาจารย์ในดงที่อายุตอนนี้ ๑,๒๐๐ กว่าปีตอนนี้
    ส่วนตัวเห็นอยู่ ๒ รูปแต่อยู่ประเทศใกล้ประเทศไทยทั้ง ๒ ท่าน
    องค์แรกที่เห็นเนี่ยเห็นแบบชนิดที่ท่านเดินเข้ากองไฟ
    แล้วเผาร่างตัวเองท่ามกลางกองไฟร้อนๆ
    จนกระทั่งไฟหมอดแล้วปรากฏเป็นร่างกายใหม่ขึ้นมา
    อีกองค์เนี่ย ท่านให้เห็นได้ ๔ คนกับ ๑ รูปจากคณะที่ไป
    ทั้งหมดประมาณ ๓๐ กว่าคน..แต่ส่วนตัวพอรู้อีก ๓ ท่าน
    ซึ่งอยู่กัน ๒ ประเทศแต่ยังขอไม่พูดดีกว่า..คุณ ฐสิษฐ์929
    ถ้าเคยๆอ่านที่ผมเขียนน่าจะพอคาดได้ว่า ส่วนตัวไม่ค่อยแชร์
    ผลการปฏิบัติ.เพราะรู้ตัวว่าไม่ดีพอ.แต่จะชอบขอเสริมขอแนะมากกว่า
    ที่พูดๆให้อ่านมานี้ หวังว่าจะพอเข้าใจที่สื่อนะครับ..
     
  11. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ทุกอย่างที่เคลื่อนไปสัพเพธรรมมาอนัตตา ถ้าเข้าใจตรงนี้แล้วจะไม่มีใครสนใจอะไรเลย แต่นี้ดูจะมีเรื่องราวเยอะกันเหลือเกิน นี่แหล่ะทำให้เรื่องมันยุ่ง ปัจจัตตังจริงๆ
     
  12. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    องค์แรกที่เห็นเนี่ยเห็นแบบชนิดที่ท่านเดินเข้ากองไฟ
    แล้วเผาร่างตัวเองท่ามกลางกองไฟร้อนๆ
    จนกระทั่งไฟหมอดแล้วปรากฏเป็นร่างกายใหม่ขึ้นมา
    อีกองค์เนี่ย ท่านให้เห็นได้ ๔ คนกับ ๑ รูปจากคณะที่ไป
    ทั้งหมดประมาณ ๓๐ กว่าคน..แต่ส่วนตัวพอรู้อีก ๓ ท่าน
    ซึ่งอยู่กัน ๒ ประเทศแต่ยังขอไม่พูดดีกว่า..คุณ ฐสิษฐ์929
    ถ้าเคยๆอ่านที่ผมเขียนน่าจะพอคาดได้ว่า ส่วนตัวไม่ค่อยแชร์
    ผลการปฏิบัติ.เพราะรู้ตัวว่าไม่ดีพอ.แต่จะชอบขอเสริมขอแนะมากกว่า
    ที่พูดๆให้อ่านมานี้ หวังว่าจะพอเข้าใจที่สื่อนะครับ..[/COLOR][/SIZE][/QUOTE]

    ท่านอื่นผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าหลวงปู่ท่านเนื้อจะแข็งเหมือนเหล็ก มีหมอนวดขอนวดให้ท่าน ท่านก็ให้นวด พอบีบลงไปหมอนวดตกใจมากเพราะเนื้อตัวท่านแข็งเหมือนเหล็กครับ
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตัวตนมีอยู่จริง

    [​IMG]
    ไม่มีการบรรลุ ในเนื้อหาความหมายที่แท้จริง ปากประตูธรรมชาติแห่ง
    ความเป็นพุทธะ อิสระอยู่ในตัวมันเอง หากผู้ศึกษาฝ่ายข้างโน้น
    เข้าใจว่าจะต้องให้ลุถึงมัน ก็จะต้องปรุงแต่งให้รู้สึกว่าตนเองขาดความเป็นอิสระ
    ในแบบพุทธะ ซึ่งมันเป็นความสุขที่นิรันดร
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0847.jpg
      IMG_0847.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.3 KB
      เปิดดู:
      481
    • IMG_0848.jpg
      IMG_0848.jpg
      ขนาดไฟล์:
      840.4 KB
      เปิดดู:
      251
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    พอเข้าใจครับ..คือกลุ่มที่เค้าบอกว่าเค้าเดินทางพระโพธิฯนั้น
    เค้าก็จะสร้างตัวเองให้เป็นประมาณหลวงปู่ท่านที่คุณกล่าวถึง
    นี้หละครับให้ได้ก่อนในเบื้องต้นนะครับ...คือถ้าสามารถ
    ทำได้.จะได้กายทิพย์ที่กลุ่มนั้นเค้าเรียกว่า กายวัชระ เป็นกายที่ไม่มี
    อาวุธทิพย์ใดๆทำลายได้.บางคนเรียกกายทิยย์พิเศษ หรือ
    กายทิพย์ที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะบุคคล เช่น บุคคลที่มีความ
    สามารถในการรักษาโรคจะออกเขียว ส่วนที่เด่นทางฤิทธิ์จะออก
    สีแดง..กลุ่มที่เน้นความบริสุทธิจะออกขาว ประมาณนี้..และกลุ่ม
    ที่ว่านี้พอถึงเวลาสิ้นอายุไขแล้ว..ในส่วนที่เดินทางสายพระโพธิฯ

    เค้าก็จะยังพาวนเวียนอยู่ในวัฏจักรนี้เพื่อเป้าหมายในการสงเคราะห์
    มนุษย์ตามแนวพื้นฐานเดิมของจิตใจเค้า..ส่วนท่านที่เป็นพระสงฆ์
    ท่านจะเน้นหลุดพ้น..บางท่านก็ยังคงร่างกายตอนเป็นมนุษย์ไว้..
    ส่วนท่านที่ไม่คงร่างกายมนุษย์ไว้ ด้วยคุณธรรมอันวิเศษที่ท่านได้
    บรรลุซึ่งมาจากการวิปัสสนา
    บวกกับความสามารถทางจิตท่านในระดับที่ถึงขั้นเชื่อมพลังงาน
    ภายนอกต่างๆจากแนวแกนกระดูกสันหลังที่เป็นสนามหรือแม้
    กระทั้งอวัยวะร่างกายบางส่วนกลายเป็นทองแดงจนเกิดเครื่องรู้ต่างๆ.
    ทำให้สามารถเล่นแร่แปรธาตุได้.ก็จะทำให้ร่างกายท่านแปร
    เปลี่ยนสภาพกลายเป็นพระธาตุสีใสหรือสีต่างๆ
    ตามบารมีที่ท่านเคยสะสมมา..ส่วนการไปปรากฏให้
    บุคคลอื่นๆเห็นได้ด้วยตาเนื้อของพระอาจารย์ในดง
    ..เป็นส่วนของการสำเร็จวิชาเดินธาตุ
    เด่วมีโอกาสจะเล่าหลักการในการสร้างเป็นอีกกายให้ฟังแล้วกันครับ
    ถือว่าแลกเปลี่ยนหรือแชร์ประสบการณ์กันครับ
    ต่อขอดูก่อนว่าจะเล่าได้หรือยังครับ.
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    กฎปฎิจสมุปบาทนั้นเป็นความรู้ที่พระองค์ทรงเข้าไปรู้เรื่องราวของสัตว์เป็นเรื่องของเหตุและผลเป็นเรื่องของสัตว์ที่ถูกขังไว้ในวัฏฏะ และพระองค์ก็แสดงเหตุของการที่สัตว์ติดข้องอยู่ในวัฎฎะและพระองค์ก็แสดงเหตุที่ทำให้สัตว์หลุดพ้นจากวัฎฎะ ซึ่งตกอยู่ภายใต้กฏอิทัปปัจยตา
     
  16. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เดี๋ยวก็มีเรื่องท่านโน้นทำอันนี้ได้เป็นแบบนี้บ้าง เรื่องมันคงทำให้ งง เหมือนดูหนังเลยสนุกดีจัง อึมถูกแล้วที่พระองค์กล่าวอย่างนั้น
     
  17. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    มีผลการปฏิบัติหรือไม่ มาแชร์หน่อยครับ อย่าบอกว่าไม่ปฏิบัติแต่รู้เพราะว่าจะเก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก พระพุทธเจ้าท่านปฏิบัติตั้ง 6 ปีนะครับ
    เจริญในธรรม
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ผมสรรเสริญ ผู้มีปัญญาฆ่ากิเลส ไม่ต้องประฏิบัติอยู่นานปี
    ทั้งยังประหยัดระยะเวลา ที่สิ้นเปลืองไปกับ การนั่งนาน นั่งทน นั่งตาย
    ที่พระพุทธะโคดม เพียรปฏิบัตินานถึง 6 ปีจึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณนั้น ในความเห็นของผม ฐานบารมีของท่านที่ลงมาตรัสรู้นั้น
    สลับ จากปัญญาธิกะบารมี มาเป็นวิริยธิกะบารมี ปัญญาธิกะจึงมาตกที่
    พุทธะเมตไตย์ ใช้เวลา 7 วันพระองค์ก็ตรัสรู้พระตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    และยังมีกรรมที่พระองค์ตรัสแสดงแก่บรรดาสาวกของพระองค์เอง
    ในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึง การที่พระองค์ต้องใช้เวลายาวนานกว่า 6 ปีภายหลังการออกบวชในการเรียนรู้ธรรมเพิ่มเติมและได้ประพฤติวัตรในรูปแบบต่าง ๆทั้งแบบเดียรถีย์ และแบบโยคีนอกรีตได้รับความทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม จนกระทั่งพระองค์ใช้วิธีสุดท้ายคือต้องอดอาหารเป็นเวลากว่า 49 วันจนเกือบจะสิ้นพระชนม์
    การที่พระพุทธองค์ได้รับความยากลำบากและเผชิญกับความทุกขเวทนามากถึงเพียงนี้กว่าจะทรงค้นพบธรรมะอันสูงสุดคืออริยสัจ 4 แล้วตรัสรู้ได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ มูลเหตุแห่งเจ้ากรรมนายเวรที่พระองค์เคยได้กระทำในชาติก่อนตามมาให้พระองค์ได้ชดใช้เศษกรรมที่เหลือ
    ในอดีตชาติอันยาวไกลพระพุทธองค์ได้เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อว่า “โชติปาละ” ซึ่งยังเป็นผู้ที่มีกิเลสและยังเป็นผู้ที่มีความเห็นผิด โชติปาละได้กล่าวถึงการตรัสรู้ด้วยความเห็นผิดของตนเอง ต่อพระพุทธเจ้านาม “กัสสปะ” ว่า การตรัสรู้ของพระองค์นั้นเป็นของที่ทำได้ยากและการที่พระกัสสปะพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ได้นั้นไม่น่าจะแสวงหาได้โดยเพียงการนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์นี้
    ด้วยผลกรรมแห่งการกล่าวด้วยความเห็นผิดอันนั้น ในชาติสุดท้ายพระพุทธองค์จึงต้องได้รับผลแห่งความลำบากในการบรรลุธรรมต้องหลงผิดไปปฏิบัติทางอื่นอยู่นานถึงหกปี เมื่อเปลี่ยนวิธีมาเดินทางสายกลางก็ถูกเหล่าปัญจวัคคีย์โกรธกล่าวหาว่าเป็นนักบวชผู้มักมากและได้ทอดทิ้งไปเสียอีก แต่ภายหลังตรัสรู้แล้วก็สามารถโปรดปัญจวัคคีย์ให้บรรลุธรรมได้เช่นเดียวกัน
     
  19. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    คุณ nopphakan ครับจริงๆจะกล่าวกับผมก็ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ได้ซีเรียสแต่ งงๆ เห็นระบุชัดๆ เลยต้องการคุยกับผม เคนชิโร่ อ่านแล้วก็ขำๆครับ รู้จักชื่อผมด้วย 555

    ก่อนคุยกันเรื่องอื่นต่อ มีคำถามซักข้อนะครับ ของดูทิฐิคุณ nopphakan หน่อยนะครับ คำถามก็คือคำถามของคุณฐสิษฐ์ ใน#199 คุณ nopphakan จะตอบว่าอย่างไรครับ และคำตอบของคุณฐสิษฐ์ใน#209 ตรงกับคำตอบของคุณ nopphakan หรือไม่ อย่างไรครับ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
     
  20. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    จิ้งจกของคุณ Sriaraya5 ใน#220 ตัวใหญ่มากเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...