ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

อันอังคารสังขาร ของกูนี้
บัดนี้ผ่านสี่ร้อยกว่าปี หามีไม่
ถึงกายกูตัวกู จะจากไป
วิญญาณไซร้ยังอยู่ คู่แผ่นดิน

ก็แผ่นดินผืนนี้ หรือมิใช่
ที่กูสู้กู้ไว้ ให้ลูกหลาน
บัดนี้เหลนโหลนอยู่ สุขมานาน
ถึงปราศปราณญาณยังอยู่ คู่พวกมึง

กู...สู้กู้แผ่นดินไว้ ให้อิสระ
นำคนไทยสู่ชัยชนะ มิรู้สิ้น
ถึงตัวตาย(ไป)รักษ์ไว้ ซึ่งแผ่นดิน
ปณิธานนี้มิเลือน ถึงสิ้นปราณ

แผ่นดินผืนนี้มี ความศักดิ์สิทธิ์
แม้นมันผู้ใดคิดมุ่งร้าย ต้องตายสิ้น
เหตุเพราะกูผู้กอบกู้ กู้แผ่นดิน
ยังดูแลตราบสิ้น ชั่วกาลนาน

กรุงศรีฯเคยคลุกคลี ด้วยสีเลือด
แผ่นดินเดือด เลือดโลมไหล
แต่ไทยต้องคงนาม ความเป็นไทย
ถึงไม่มีใครวิญญาณกู จะสู้เอง

...........................................

คัดลอกจากแผ่นหินอ่อนหน้าพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์

 

เพราะความกล้าหาญและปณิธานอันมุ่งมั่นของพระองค์ ทำให้ทหารกองหน้าต้องไม่กลัวตาย ให้กลัวอย่างเดียวคือไม่ได้ตายต่อหน้าพระองค์ พฤติกรรมคนไทยสมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างจากคนสมัยก่อนสักเท่าไร มีการแบ่งฝ่ายตลอด ทหารกองหน้าจึงเป็นทหารจากหัวเมืองต่างๆ ไม่ได้มาจากราชสำนักอยุธยา เมื่อสิ้นพระองค์พวกเราที่เหลือก็ใช้ชีวิตต่างกันไปบ้างก็รับราชการต่อ บ้างก็กลับไปยังภูมิลำเนา ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนใหญ่ก็กลับไปอยู่หัวเมือง(บ้านนอก) ใครที่บุญกรรมสัมพันธ์กันมากก็จะได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกันเป็นญาติเป็นเพื่อนสนิท ส่วนใครที่ไกลกันหน่อยก็อาจได้เป็นคนรู้จักหรือสนทนากัน แต่มันจะมีจุดเชื่อมโยงในชีวิตให้มาพบกัน แม้ในกระทู้นี้ก็ตามเหตุเพราะกล่าวนามของพระองค์ "นเรศวร"

 

ผมว่าสมเด็จพระนเรศวรท่านทำงานรวบรวมและป้องกันแผ่นดินนี้มานานแล้ว
ตั้งแต่ศาสนาพุทธเข้ามาถิ่นนี้นานกว่าสองพันกว่าปี
ด้วยอานิสงส์นี้จะทำให้ท่านสำเร็จเป็นพระยาธรรมิกราชในชาติปัจจุบัน

 

มาช้าดีกว่าไม่มา ข้าพเจ้าเจ้าพระยาแสนศึกสะท้าน(ขุนศึกดาบคู่) ขออนุญาตรายงานตัวผองเพื่อนทุกคนครับ(จตุรงคบาทหน้าขวา)

 

เสมาเลือกเจ้านายที่จะยอมก้มหัวรับใช้ให้ มิใช่จะก้มหัวให้กับทุกคน
เสมาก้มหัวให้กับพระนเรศและพระเอกาเท่านั้น

ตอนสงครามยุทธหัตถี ช้างทรงของทั้งสองพระองค์มิได้ตกมันพร้อมกันตามที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์และพงศาวดาร
แต่เพราะตะพุ่นหญ้าช้างเสมาได้เสนอกลอุบายต่อทั้งสองพระองค์ว่า ขอพระราชอนุญาตเอาหญ้าชุบเหล้าให้ช้างกินก่อนออกศึก เพื่อให้ช้างทรงมีความฮึกเหิม ไม่เกรงกลัวช้างทรงของฝ่ายพม่าที่ตัวใหญ่กว่า และเพื่อมิให้ไพร่พลของทั้งสองฝ่ายต้องมาล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับฝ่ายพม่ามีกำลังพล 2.4 แสน ฝ่ายไทยมีกำลังพลหนึ่งแสน เสียเปรียบ 1.4 เท่า การจะรบเอาชนะพม่าจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

ในตอนกลางวันตะพุ่นหญ้าช้างเสมาได้รับคำสั่งให้เสแสร้งเป็นไอ้ขี้เมา เอาเหล้าราดตัว เดินโซซัดโซเซถือเหล้าไปยังชุมชนต่าง ๆ เพื่อหาข่าวความไม่ซื่อตรงของคนไทยบางกลุ่มที่อาจคิดคดทรยศเป็นไส้ศึกให้กับฝ่ายพม่า พอตกกลางคืนก็ไปรายงานให้ทั้งสองพระองค์ทราบ และทั้งสองพระองค์ก็ได้ให้เกียรติ์เป็นที่ปรึกษาในด้านการวางแผนการรบอย่างลับ ๆ

การเป็นทหาร โอกาสที่จะต้องฆ่ามนุษย์ด้วยกันนั้นมีมาก หากไม่จำเป็นจริง ๆ ก็จะไม่เป็นทหาร
วิธีที่จะชดเชยบาปเหล่านั้น ก็คือการพยายามช่วยชีวิตคนให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม

 

ชอบใจมากมาย

 

อ้างอิง

เอ้า ใครมารายงานตัวแล้ว ก็เตรียมใจไปช่วยทหารรบได้
เอาแค่ส่งกำลังใจคอยช่วยก็พอแล้วล่ะมั้ง นะ
หรือใครอยู่ใกล้ จะช่วยส่งน้ำหรืออาหาร ขนมหรือบุหรี่
ให้พี่น้องทหารหาญของเราด้วยก็ดี จะเป็นพระคุณและกำลังใจอย่างยิ่ง
กรุณาอย่ารักชาติแต่คีย์บอร์ด (ขออภัย)

ภารกิจกอบกู้ชาติ ได้เริ่มต้นอีกครั้งนึงแล้ว
แม้จะดูแตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ แต่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะครับ

คราวนี้คงไม่พลาดแน่ๆ น่าจะสามารถขับไล่เจ้าแมวและสมุน
ออกไปไกลๆ กระเป๋าตังค์ของชาติได้ นะ ช่วยกันเชียร์หน่อย

ตอบ

ชาติปัจจุบันนี้ผมก็ยังรับราชการทหาร ไม่ถนัดอาชีพอื่น ชั้นนายพันแล้วครับ แอบเอาบุญช่วยชาติอยู่เงียบ ๆ และถวายบุญให้
ในหลวง(พระองค์ดำ) ทุกวัน เผื่อในกาลข้างหน้าจะได้เป็นอย่างรุ่นพี่ ๆ ในแบบวิริยาธิกะพิเศษครับ

 

หลายคนเป็นข้าราชการนั่นแหละ ตามความถนัด ระลึกถึงพระองค์ ร่วม สดุดีวีรกรรม

 

ม

 

หน้าที่ราชการคือสิ่งที่ต้องทำ ไม่ต้องเตรียมไปมากเดี๋ยวอะไรที่ควรรู้ก็ไม่รู้ แล้วแต่คุณก็แล้วกัน
จำบทสวดมนต์เตรียมทำบุญดีกว่า เดี๋ยวพระองค์คงมอบหน้าที่อะไรบางอย่างให้คุณ กลับมาก่อนแล้วค่อยเล่า

 

ก่อนที่พวกคุณจะไล่ใคร พวกคุณพิจารณาก่อนหรือไม่ว่า อำนาจที่กดขี่จะไปล้างอำนาจที่กดขี่ได้อย่างไร

คุณไปเกลียดพม่าแล้วได้อะไร เรื่องของพระองค์ดำกับพระมหาอุปราชท่านจบกันไปแล้ว จะไปหยิบมาเป็นความอาฆาตความผูกเวรกันอีกทำไม

 

ไม่เกลียด ไม่ผูกเวร ใครมีหน้าที่ก็ต้องทำ ทุกคนมีกรรมเป็นของตน เพียงแต่ระลึกได้ก็ซึ้งใจไปตามนั้น

 

กลับมาจากพม่าแล้วครับ ดูงานแถบอาเซี่ยน(เขมร สิงคโปร์ พม่า) ประเทศไหนก็ไม่อบอุ่นน่าอยู่เท่ากับประเทศไทยครับ
shut down ตัวเอง ก่อนเครื่องแตะพื้นที่เขมร หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง ท่านสอนไว้ว่า
อย่ากล้ากับผี อย่าดีกว่าพระ อย่าเก่งกว่าเทวดา ผมจำคำสอนนี้จนขึ้นใจ เลยจำเป็นต้อง
shut down ตัวเองครับ เพื่อความปลอดภัยเบาตัวไปเยอะ เพราะเราไปแผ่นดินเขา ๆ ลับมีด
รอเราไว้แล้วครับ ทุกย่างก้าวที่เราไปเจ้ากรรมนายเวรเขารอเราอยู่

ที่พม่ามีเรื่องตื่นเต้นจนนาทีสุดท้ายก่อนกลับประเทศไทย เครื่องบินทอ. C-130 H สตร์าทไม่ติด(สตร์าทด้วยเครื่องบินเอง)
ผมต้องกราบขออราธนาบารมีหลวงปู่องค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ หลวงปู่ปาน
หลวงพ่อหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง จนถึง พรหมเทพเทวดาที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า
ในทางกุศลทั้งหมด ให้ช่วย พักเดียวทำงานเป็นปกติต้องใช้รถช่วยสตร์าทเสียหลายเที่ยวเสียเวลาไปชั่วโมงครึ่ง(รอรถช่วยสตร์าท)
เพื่อความไม่ประมาทกราบอาราธนาหลวงปู่องค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง
และพรหมเทพเทวดาที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าในทางกุศลทั้งหมด เสด็จประทับอยู่เหนือเครื่องบิน(กองทัพเรียกพี่)
พร้อมอาราธนาฉัพพรรณรังษีหลวงปู่องค์ปฐมคลุมเครื่องบินตลอดการเดินทางกลับจนถึงประเทศไทยด้วยความปลอดภัยทุกอย่างครับ
ช่วงอยู่บนเครื่องแอบนั่งน้ำตาระรื่นอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกตื้นตันใจที่หลวงปู่องค์ปฐม และผู้มีคุณทุกท่านทรงเมตตาผมและคณะ
แล้วจะทะยอยเล่าเรื่องให้ฟังพร้อมรูปสวย ๆ ครับ

ขอขอบคุณทุกคำแนะนำ และความหวังดีของทุกท่านครับ

 

อย่าเข้าใจผิดเลยครับ ผมมีหน้าที่รักทุก ๆ ชีวิตเสมอเท่ากับชีวิตของผม ทุกข์ของผมไม่มีความหมาย ทุกข์ของสัตว์โลกคือทุกข์ของผม
ทำอารมณ์เข้าถึงที่สุดแล้วจะเข้าใจครับ

 

การใช้อำนาจกดขี่ย่อมทำให้เกิดความเดือดร้อน

ผู้ที่ไม่ใช้อำนาจกดขี่อย่างพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ท่านมีความตัญญู ถึงท่านไม่อยากเป็นใหญ่ แต่เมื่อถึงเวลาแล้วท่านก็ต้องได้เป็น เพราะท่านคือผู้เหมาะสม

ผู้ที่ใช้อำนาจกดขี่ แม้นจะมีบุญมากเสียอย่างไร มีความสามารถที่จะหักหาญเอาประเทศมาครองไว้ ก็ไม่สามารถปกครองประเทศไทยได้ ด้วยเนื่องจากเป็นผู้ไม่เหมาะสม

 

มีอยู่คืนหนึ่งไม่นานมานี่เอง เห็นพระนเรศวรมหาราช บรรทมอยู่กับทหารหาญกล้า
ซ้าย และ ขวาพระนเรศวรโดยมีพระองค์อยู่ตรงกลาง
แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร​

 

ตอบของคุณtbravo ก่อนนะ ดูงานแถบนี้ใช่ไหม แสดงว่าคุณใกล้ชิดพระองค์ท่านมาก อุดมการณ์ตีพม่าให้แตกน่ะเป็นกลุ่มสายตรง ตอนนั้นที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ไปพม่าครั้งแรกซื้อทัวร์ไป ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต กลับจากที่นี่ถึงเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว หลังจากยั้นก็ได้ไปเขมร เวียดนาม ลาว ตอนหลังนี่ไปกับหน่วยงาน ไม่ได้ใช้เงินตัวเอง บางครั้งไม่ใช่หน่วยงานตัวเองซะหน่อย แต่ก็ได้ไปกับเขา ตอนนั้นอยากพิสูจน์ก็เลยอธิษฐานขอว่า หากเป็นข้าพระองค์จริง ขอให้ได้ไปตามเส้นทางศึก เลยได้ไป

 

ถ้าพระองค์คิดตีพม่าให้แตกจริงๆ ที่สิ้นวงศ์จะเป็นฝ่ายไทย สังเกตดูบ้างหรือไม่ ว่ามีกษัตริย์ที่ทรงพระเดชานุภาพของไทยพระองค์ใดบ้างเคยคิดที่จะไปตีพม่า พวกท่านไม่คิดล้างคุณกันหรอก บ้านเมืองไทยและวงศ์วานของท่านจึงสืบเนื่องมาถึงทุกวันนี้ ฝ่ายพม่าเขาทำก่อน เขาล้างคุณก่อนวงศ์จึงสิ้นอย่างที่เห็น

ถ้าพระองค์เกลียดพม่าและคิดจะตีพม่าให้แตกจริงๆ วงศ์ของพระเจ้าบุเรงนองที่เมืองเชียงใหม่ไม่ตั้งอยู่ได้โดยสะดวกในสมัยพระองค์หรอก แมันสมัยพระเจ้าเอกาทศรถก็ยังต้องเรียกเจ้าเมืองเหนือที่คิดร้ายต่อเชียงใหม่ไปถือน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อพระเจ้าเเชียงใหม่เลย

 

การที่จะตัดสินผู้หนึ่งผู้ใดว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งที่สำคัญหรือไม่
ไม่ควรนำความรู้ของตนเองมาตัดสิน โดยเฉพาะตำแหน่งทางธรรม ผู้ที่รู้ลึก
ได้ยาวไกลไม่มีที่สิ้นสุด เห็นจะมีแต่แค่องค์สมเด็จ ฯ ท่าน
พระองค์ตรัสหรือพยากรณ์อย่างไร ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น
มิใช่เรื่องของความเหมาะสม แต่เป็นเรื่องของบุญบารมีล้วน ๆ