วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ยินดีด้วยครับ เพราะแบบนี้สินะครับเราถึงเต็มใจเหนื่อยได้

เพราะยังไงเขาก็มุ่งในธรรมอันเป็น สัมมาทิฐิ พยายามประพฤติปฎิบัติตามวิสัยที่เขาทำได้กัน ยังงี้น่าชื่นใจ หายเหนื่อย

ดูไว้เป็นตัวอย่างได้เลยครับว่า ปราถนาแล้วไม่ใช่ว่าจะได้เป็นใหญ่เหนือใคร

หรือจะได้นั่งแท่น เป็นคุณหญิงคุณนาย ถ้าวางกำลังใจอยากเด่นบนทางนี้ พัง

เรื่องที่ได้มีนั่นมีนี่ มียศ มีศักดิ์ มันเป็นโลกธรรมเท่านั้น เดี๋ยวมันก็สลายตัวไปหมด

คนอยากเป็น นางแก้ว แต่ดันสร้างแต่เรื่องแต่ปัญหาไม่รู้จบ

แบบนี้ไม่ใช่ "แก้ว" หรอกครับ เป็น "กรวด" จะเหมาะสมกว่า

คนใดต้องการเป็นนางแก้ว ต้องมีความประพฤติที่ เหมาะสม กับคำนัันแล้ว

อันที่จริงแล้วคำว่า นางแก้ว ที่เราใช้เรียกน่ะว่ากันตามจริงมันคือ สมมุติสัจจ์ ใช้เรียกให้เข้าใจ

แต่ยังก่อน ยังไม่เข้าถึงใจ เข้าถึงใจ คำนี้คืออะไร ?

เข้าถึงใจความ หรือ หัวใจของคำนี้ ความหมายของคำนี้ ว่าออกมาจากอะไร ทำไมถึงใช้คำนี้

แล้วถามว่าหัวใจของคำนี้อยู่ที่ไหนกันล่ะ ?

ก็ต้องว่าอยู่ที่ ความประพฤติ ปฏิบัติ นั่นเอง เป็นหัวใจ

หรือ พูดให้ละเอียดเข้าไปอีก ก็ต้องว่าอยู่ที่ กำลังใจตามปกติ

ก็กำลังใจของผู้เป็นคู่บารมีหน่อพระบรมพงศ์โพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายเป็นเช่นไร ?

กำลังใจนั่นย่อมมีปกติ คือ เป็นผู้มีใจเสมอด้วย หน่อพระบรมพงศ์โพธิสัตว์เจ้า

พระโพธิสัตว์ รักษา ศีล กุศลกรรมบถ จรณะ และ ให้การสงเคราะห์ เป็นเนืองนิจ

ก็นางแก้วนั้นเองย่อมทำเช่นนั้นเป็นปกติวิสัย ไม่ใช่ว่า อยากเป็นใหญ่เหนือใคร

นั่นมันเป็นแค่ สตรีผู้มีใจทะเยอทะยาน เท่านั้นเอง


เดี๋ยวผมต่อให้อีกพรุ่งนี้ ยังไม่จบครับ

เจริญในธรรมทุกท่าน

 

ก็ดึกอีกตามเคยครับพี่ เขาชวนกลับบ้านแล้วครับค่อยมาต่อใหม่

 

สวัสดีครับ พี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ทั้งที่ เป็นสมาชิก และไม่ใช่สมาชิก การทำความดีนั้น มันไม่ง่ายและก็ไม่ยาก ที่เราๆท่านๆจะทำกัน จากเล็กๆน้อยๆ ไปหาใหญ่ ครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่า คนส่วนใหญ่บอกไม่มีบารมี กับเขา ก็ในเมื่อ เรารู้ว่าไม่มีบารมี เหมือนคนอื่นเขา ก็ทำใหม่ สร้างใหม่สิ ทำบ่อยๆ มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก ตามกำลังทรัพย์ ของเราอย่าให้ ครอบครัว หรือตัวเองเดือดร้อนใช่ไหม หรือทำด้วย กำลังกายใจของเราก็ได้ หรือโมทนาสาธุกับเขา ยินดีกับเขา รักษาศิล พูดง่ายๆ ทำให้มันครรบ ถ้าเรายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ความจน ขัดสนใดๆจะไม่มีกับเราอีกต่อไป จะได้ไม่ต้องมาตกระกำลำบาก เช่นชาตินี้อีก ก็ไม่แน่หรอกครับ บุญและบาป มีกำลังเหมือนกัน บุญหรือ บาปกรรม บางอย่างให้ผลเร็วมาก ให้ผลในปัจจุบัน กรรมดีและชั่ว ให้ ผลในวันนี้ ให้ผลในวันต่อๆไป หลายวัน หลาย เดือน หลายปี หรือหลายสิบปี ทำอย่างต่อเนื่อง กรรมทั้ง ๒ อย่าง บางอย่างที่เป็นกรรมหนัก ให้ผลเร็ว ทันตาเห็น


ผมเจอมาทั้ง ๒ อย่างแล้ว ในชาตินี้ ขอรับรองผลนั้น ด้วยใจจริง เป็นไปตามนั้นแน่นอน ไม่เป็นอื่น ทางเดิน นั้นอยู่ที่เมืองมนุษย์ เป็นแดนกลางแดนเลือก ที่จะไปเป็นอะไร ตามวิบากกรรมที่ตนกระทำทั้งสิ้น บุญกุศล เมื่อทำบ่อยๆ อยู่เนืองๆเป็จนิจอาจิน มันก็เกิดเป็นบุญญาบารมีขึ้นมา ได้ตามลำดับ ของบุญนั้นๆที่จะให้ผลครับ ขอเอ่ย ชื่อบุคคลตัวอย่าง ว่า พระพุทธเจ้าทั้ง หลาย พระปัจเจกพุทธเจ้า ทั้งหลาย พระอรหันต์ทั้งหลาย ตั้งแต่อดีด ถึงปัจจุบัน ทุกๆพระองค์ท่าน ต้องบำเพ็ญบุญญาบารมีมาแบบเราๆท่านๆเหมือนกันหมด และที่ผม มีจุดประกาย ที่จะสร้าง รูปสมเด็จองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน พระปัจเจกพุทธเจ้า หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อ ไว้ให้คน สัตว์ มนุษย์ เทวดา พรหม วิญญาณ ทั้งหลายได้กราบไหว้ บูชา เป็นสิ่งมงคลแก่ชีวิต จากเล็กไปหาใหญ่


ขอเชิญชมภาพต่อนะครับ นี่คือ ผมใช้ทั้ง กำลังกาย กำลังใจ ทำการก่อสร้าง ค่อยๆทำไป เดี๋ยวคงเสร็จ มีคน พระท่านก็มาช่วยสนับสนุนเองแหละครับ ในเมื่อเราทำเพื่อส่วนรวม จะเสร็จหรือไม่เสร็จ ก้ไม่เป็นไร เจนตนาเราดีเสียอย่าง

เบอร์โทรศัพบ้าน 056-511-971
มือถือ 086-169-7786 - 081-8866-104
ธนาคาร ออมสิน ออมทรัพย์ สาขา อุทัยธานี
บัญชีเลขที่ 020-108-44246-6
บุญทรง ทองคง

 

๑ /๘/ ๕๗ สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน เย็นวันนี้ผมได้เข้ามา ในกระทู้บุญ จึงได้นำภาพ ที่ทำการเทพื้น และ หล่อฐานพระ ไว้ ได้เสร็จลงแล้ว ๕ ฐาน ทุกๆฐานบรรจุ วัตถุมงคล ไว้ แต่ละฐานไม่เท่านกันครับ ฐาน ที่ ๑ ตั้ง สมเด้จหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ บรรจุพระใต้ฐาน ๑๙๙ องค์ เหรียญ ร.๙ อีก ๔๙ เหรียญ / ๑ สลึง ๕๐ สต. / บาท ๕บาท ๑๐ บาทรวม ๔๙ เหรียญ พร้อมด้วยพระแก้ว ๕ นิ้ว ๑ องค์ ๓ นิ้ว ๑ องค์ ฐานที่ ๔ แต่ทำการสร้าง ครั้งที่ ๒ บรรจุพระไว้ ๒๒๙ องค์ เหรียญ ร.๙ หนึ่งสลึง ๕๐ สต. ๑บาท ๕ บาท ๑๐ บาท อีก ๓๐ เหรียญ พระหลวงปู่ปาน ๕ นิ้ว ทองเหลือง หลวงพ่อ ๕ นิ้วทองเหลือง อีก ๒ องค์ บรรจุใต้ฐาน หลวงปู่ปานหลวงพ่อ อยู่ฐานเดียวกันครับ กว้างวาเศษๆ


ฐานที่ ๓ ฐาน รองรับไว้หล่อสมเด็จองค์ปัจจุบัน บรรจุ พระไว้ ๒๕๙ องค์ เหรียญ ร.๙( ๑ สลึง ๕๐ สต. ๕ บาท ๑๐ บาท ๖๙ เหรียญ พระแก้วใส ๕ นิ้ว ๑ องค์ ฐานที่ ๒ สร้างครั้งที่ ๔ ไว้หล่อ สมเด็จองค์ปฐม บรรจุพระ ๓๐๙ องค์ มีดหมอด้ามงาฝักงา ๑ เล่ม เพชร รัสเซีย ๑ ชุด ปลุกเศกวัดท่าซุง และวัดท่าขนุน ของคุณ พัฒนา จ.ชุมพร พระแก้วใส ๕ นิ้ว ๑ องค์ หลวงปู่ปานหลวงพ่อ ๓ นิ้ว ๑ คู่ เหรียญ ร.๙ หนึ่งสลึง ๕๐ สต. ๑ บาท ค บาท ๑๐ บาท แบงค์ ๒๐ หนึ่งใบ รวม ๖๙ เหรียญ ส่วนฐานที่ ๕ ไว้หล่อ พระปัจเจกพุทธเจ้า บรรจุพระไว้ ในฐาน ๓๒๓ องค์ พระแก้วใส ๕ นิ้ว ๑ องค์ เต่าปลุกเศก ๑ ตัว นิล ๒๓ ก้อน เพชร ๓ เม็ด ๑ ชุด มีดหมอชาตรี ๑ เล่มเข้าพิธีหลวงพ่อ ฤาษี เหรียญ ร.๙ ๖๙ เหรียญ ๑ สลึง ๕๐ สต. ๑ บาท ๕บาท ๑๐ บาท แบงค์๒๐ หนึ่งใบครับ ทั้ง ๕ ฐาน รวมพระบรรจุไว้ทั้งสิ้น ๑,๓๑๙ องค์ ไม่รวมองค์ใหญ่ นะครับ

เบอร์โทรศัพบ้าน 056-511-971
มือถือ 086-169-7786 - 081-8866-104
ธนาคาร ออมสิน ออมทรัพย์ สาขา อุทัยธานี
บัญชีเลขที่ 020-108-44246-6
บุญทรง ทองคง

 

l;lyfu ๘/๘/๕๗ สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกๆท่าน การที่เราจะได้ขนขวายกระทำบุญนั้นยากยิ่ง แต่ก็ไม่ยาก ที่เราจะใขว่ขว้าหาบุญทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ การหล่อพระ สร้างพระ มันก็ยากที่จะได้ สร้างขึ้นนั้นไม่ง่ายเลย นอกจากเราได้ กระทำไว้เป็นอย่างดี บางคนเกิดมาเจอ พระศาสนา ไม่มีโอกาศแม้แต่สักครั้งเดียว ที่จะได้หล่อ ร่วมบุญกับเขา แม้แต่บุญที่จะใส่บารตพระสงฆ์ ก็ยากแล้ว ถ้าเราไม่ ขนขวายสันหาในสิ่งดีๆให้กับตัวเอง เพื่อในปัจจุบันหรืออนาคต เพื่อนำไปสู่หนทาง ของความดับทุกข์ คือหนทาง มนุษย์ สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ และพระนิพพานสมบัติ ไม่มีคำว่าสาย เร่งรีบทำเสียแต่เดี๋ยวนี้ วันนี้ จะได้เกิดเป็นบุญญาบารมี วันนี้ไม่ได้พรุ่งนี้ก็ต้องได้ หรือวันต่อๆไป คงสำเร็จ ชาตินี้ไม่ได้ ชาติหน้าต้องได้ แน่นอน ไม่เป็นอื่น ไม่มีใครทำวันเดียว สำเร็จหรอก ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ต้องสะสมไว้เมื่อชาติก่อนๆ มาถึงบัดนี้ และชาตินี้ สักวันคงเป็นวันของเราแน่นอนครับพี่ๆน้องๆ


ภาพต่อไปนี้คือภาพผม ลูกชายคนเล็ก หลานซึ่งนำมาฝึกงานให้ช่วยกันทำฐานพระ จ้างคนอื่นได้ ก็เลยต้องจ้างหลานลูกให้มาทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จะได้มีกระตังใช้สอย โดยไม่ต้องมาพึ่งพ่อแม่ให้มากนัก ภาพยืม มาจาก วิหารสมเด็จองค์ปฐม ที่จะสร้างไว้หมู่บ้านเพนด้า และรูปพระปัจเจกพุทธเจ้า ของพระ อ.สมปอง ที่ในสมัยท่านอยู่ที่วัดท่าซุง ผมขอท่านมาไว้บูชานานมาแล้วครับ จึงถ่ายมาให้ชมกันว่า สร้างคล้ายแบบนี้ครับผม และภาพ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง และฐานพระทั้ง ๕ ฐานได้ทำการหล่อไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่การในวันงานหล่อ เริ่มงาน วันที่ ๑๓/๙/๕๗ และวันหล่อพระ สมเด็จองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน และหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้า วันที่ ๑๔ / ๙ /๕๗ และมีการบวงสรวงบายศรีชุดใหญ่ครับ ยังต้องใช้ จตุปัจจัยเป็นจำนวนมากครับ จึงต้องบอกกว่าว ผ่านห้องกระทู้ของพี่ พีซีโอด้วยครับ ขอบคุณครับ และอนุโมทนาสาธุบุญทุกประการ




เบอร์โทรศัพบ้าน 056-511-971
มือถือ 086-169-7786 - 081-8866-104
ธนาคาร ออมสิน ออมทรัพย์ สาขา อุทัยธานี
บัญชีเลขที่ 020-108-44246-6
บุญทรง ทองคง

 

โมทนาสาธุอย่างยิ่งกับพี่บุญทรงทุกรายการนะครับ

อานิสงส์สร้างพระพุทธรูป โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง​

ผู้ถาม :- "หลวงพ่อคะ การสร้างพระพุทธรูป กับการถวายปัจจัย อย่างไหนมีอานิสงส์ดีกว่าค่ะ…?"

หลวงพ่อ :- "การสร้างพระพุทธรูป จัดว่าเป็นพุทธบูชา ถ้าในเรื่องกรรมฐานจัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก

ถ้าถวายปัจจัย ถวายเป็นของสงฆ์ จัดว่าเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา จัดเป็นจาคานุสสติกรรมฐาน เกิดมาชาติหน้าก็รวย

การสร้างพระถวาย ด้วยอำนาจพุทธบูชา ทำให้มีรัศมีกายมาก เป็นคนสวยตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "พุทธบูชา มหาเตชะวัณโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"

แต่ถ้ามีอำนาจแต่ขาดสตางค์ก็อดตายนะ ใช่ไหม…. แต่งตัวเป็นจอมพลแต่ไม่มีสตางค์ในกระเป๋า แย่นะ… อีกแบบหนึ่ง มีสตางค์มาก ๆ แต่ขาดอำนาจราชศักดิ์ ก็โดนโจรปล้นอีก ฉะนั้นทำมันเสีย ๒ อย่างเลยดีไหม…?"

ผู้ถาม :- "ดีค่ะ…แต่ได้ยินเขาว่า ถ้าสร้างพระพุทธรูปนี่ควรสร้างพระประธานจึงมีบุญมาก"

หลวงพ่อ :- "ก็เขียนไว้ซิ สร้างพระประธาน องค์เล็กองค์ใหญ่ก็เขียนไว้ ก็เป็นพระพุทธรูปเหมือนกัน เราสร้างก็ได้บุญแล้ว ใครไปโยนทิ้งก็ซวยเอง"

 

ใช่อย่างที่พี่Amarmyพูดปรารถนาแล้วไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้ความเป็นใหญ่เหนือใครได้อย่างที่ บางคนในนี้ ที่พูดเรื่องนางแก้วเข้าใจกัน ความเป็นใหญ่ความเป็นเลิศนั้นหากพูดกันจริงๆแล้วมีหนึ่งเดียว ถึงจะเรียกว่าเป็นเลิศอันนี้นั้นจริง

ทั้งๆที่ทุกคนที่ผมรู้จักทั้งหมด รวมถึงน้องนางแก้ว ผมให้เขาตั้งใจเมื่อทำบุญทานกองการกุศลทั้งปวงใด ก็ให้ทุกคนตั้งใจ คือ

หนึ่งขอจงมีรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ทรวดทรง สวยสดงดงามเป็นเลิศ
สองมีโภคทรัพย์ เหลือล้นเปรี่ยม สมบูรณ์ บริบูรณ์ ไปด้วยประการทั้งปวง
สามมีปฏิภาณปัญญาดีเป็นเลิศในทุกที่ทุกสถานที่ไปเกิด
สี่มีเดชอำนาจวาสนาบารมี ตบะเดชะแค่ย่างก้าวไปในทิศน้อยใหญ่ใดๆ ประดุจแก้วมณีพระเจ้าจักพรรดิ์ดั่งพระอาทิตย์เที่ยงวัน แสงสว่างใดๆแม้จะมีก่อน มีหลัง ก็ไม่อาจสว่างจ้ากว้างไกลได้เท่า

นี่หลักๆแล้วผมก็เอามาบอกเล่าเป็นสาธารณะ ทั้งๆที่ทุกคนก็รู้กันทั้งโลกใบนี้ที่อ่านเว็ปพลังจิต แต่คนที่จะมีคุณสมบัติ ทำให้ได้ไปให้ถึงสิ่งประเสริฐเหล่านี้มันไม่ได้แค่ภาษาพูด ภาษาเขียน นี่มันเป็นภาษาของการปฏิบัติ

นางแก้วจะเป็นเลิศเป็นพี่ใหญ่ เป็นแม่ใหญ่ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานอย่างถูกต้อง ตามขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่างก็ตาม เมื่อดำรงค์ตำแหน่งโดยศักดิ์นั้นได้ นั้นง่าย แบบที่เรียกว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างผมนี่ง่าย เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก ทำงานตามหน้าที่ สิ้นเดือนก็รับเงิน

แต่หากเป็นเจ้าของกิจการ แต่หากต้องปฏิบัติหน้าที่ของนางงาม หน้าที่ของแม่บ้านผ่านเมืองขึ้นมาบ้างล่ะ ปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง หน้าที่ของลูกที่ปฏิบัติต่อ พ่อแแม่ หน้าที่หลานปฏิบัติต่อปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา

หน้าที่ของน้องปฏิบัติต่อพี่ เมื่อเป็นพี่ปฏิบัติต่อน้อง เป็นแม่ปฏิบัติต่อลูก ต่อเพี่อน แก้วปฏิบัติได้ดีระดับ ลูกแก้วของพ่อแม่ แม่แก้วของลูกๆ หลานแก้ว เป็นหัวแก้วหัวแหวนของหมู่ญาติ ดั่งเช่นท่านวิสาขา เพื่อนแก้วของเพื่อนๆ เมียแก้วของสามี ขึ้นมาบ้างล่ะ พร้อมหรือยัง ใจน่ะถึงพอหรือเปล่า ใจถึงพอขนาดใหนหากว่าคนในปกครองมีความเดือดร้อน แล้วตัวเองต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ไปหาสตางค์ มาจ่ายเงินเดือนดูบ้าง ไอ้คนที่รับเงิน กับคนที่ต้องหาสตางค์มาจ่ายเงินเดือน นี่มันคนละเรื่อง หากว่าต้องทำหน้าที่อย่างนี้เข้าจริงๆเข้า จะทำไง

คำว่านางแก้ว เบอร์หนึ่งคู่บารมีนั้นคุณสมบัติเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่แค่แต่งานแล้วมีทะเบียนสมรสแล้วจะใหญ่กว่าเมียรองๆ หรือแม้แต่เดี่ยวๆนี่แหละ แล้วลองวัดกันกับเมียชาวบ้านเขานี่ หากไม่มีคุณสมบัติถึงพร้อม ดิ้นปั๊ดๆ อยากเป็นอย่างไรก็เป็นไม่ได้ เพราะฉะนั้นยิ่งคนที่จะเป็นแก้วใหญ่ได้นี่เขาต้องถึงพร้อมด้านความดี ไปด้วยประการทั้งปวงอย่างหมดจดงดงามขนาดน้องนางรองอื่นๆยอมรับได้ด้วย ว่าสู้เรื่องใจไม่ได้จริงๆ

คนที่อ่านหนังสือมาสถานเดียว แล้วก็จินตนาการไปตามประสาอารมณ์ปุถุชนของตัวเอง แล้วไปตัดสินมั่วอารมณ์คนอื่นนี่มันทะแม่งๆพิกล แล้วมาหมั่นใส้แก้วที่เขาปฏิบัติหน้าที่ แก้วที่เขามีคุณสมบัติเดิมโดยเนื้อแท้ รวมทั้งฝึกฝนภายหลังสัมผัสทุกข์ สัมผัสร้อนหนาวของเขาอยู่ เมื่อร้อนเขาหาร่ม หาที่เย็น เมื่อหนาวเขาหาผ้าห่ม หาที่อบอุ่นของเขา

ส่วนคนที่ดูก็ดูไปสิ จะไปให้เป็นอย่างอารมณ์ตัวเองได้ไง กลุ่มนี้ไม่ได้ไปเกณฑ์ใคร ไปบังคับใคร ล่อหลอกใคร มาขึ้น มาร่วมเดินทางไปกับด่วนขบวนพิเศษ อันนี้บอกได้เลยหากใจไม่ถึงพอ ผมเซย์โนเด๊อ

ที่จะต้องทั้งอุ้ม ทั้งแบก ทั้งหาม ประคับประคองก็คือหมู่ญาติ พรรคพวก เพื่อนฝูง ของผมเท่านั้น ผมต้องอุ้มพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ผู้เฒ่าผู้แก่ ลูกเด็กเล็กแดงทั้งหลาย นางแก้วๆของผม ผมก็กางร่มให้ตั้งแต่เขาจะไปกับขบวน เขาเหล่านี้จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจผมก็จะแบกเอาไปแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นสลึมสลือเข้าพระนิพพานผมก็จะแบกไป พ่อของผม แม่ของผม จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจผมจะแบกของผมไปจนได้


คนที่ไม่อยากจะไปด้วย ไม่ว่าอะไรสักกะคำ ชวนนั้นชวน แบบชาวบ้านนอกทั่วไป กินข้าวอยู่ใครเดินผ่านมาก็ชวนกินข้าว ก๊งยาดองอยู่ใครผ่านมาก็ชวนก๊ง กินไม่กินเรื่องของเขา แต่จะวิ่งเอาไปยัดใส่ปากเขานี่ไม่เอา เขาไม่หร้อมจะกินเขาบ้วนทิ้งมันเสียดายของ ข้าวปลาอาหารนั้นเป็นของพ่อของแม่ท่านหามาด้วยเหนื่อยยาก ขบวนรถมีอีกนับไม่ถ้วน จะไปกับขบวนใหนก็เรื่องของใคร ทีคนอื่นผมโมทนาสาธุการ ใครจะไปทางใหนผมก็สาธุไปกับเขา

รถขบวนของผม ผมว่าผมสร้าง แล้วก็ประดับตกแต่ง ให้เป็นขบวนที่ สวยงาม สะดวก สบาย ปลอดภัยตลอดการเดินทาง ที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากว่าไม่โผล่หัว หรือเปิดหน้าต่าง ประตูรถให้จิ๊กโก๋ขว้างกะบาลเอา อันนั้นสุดวิสัย ก็หมายความว่า บารมีทั้งสิบเป็นเกราะแก้วแนวทางอันประเสริฐ เห็นๆอยู่แล้ว หากแส่โผล่ออกนอกหน้าต่างรถให้ใครเขาฟาดกะบาลเอา อันนี้ ช่วยได้ก็แค่ใส่ยาแดงให้

ไม่ช่วยก็ไม่ได้ขอร้องอะไร ยังจะมีการมาหมั่นใส้ขบวนรถผมเข้าให้ โทษฐานไม่ปฏิเสธคนที่มาชอบรถไฟอะไรของมันวะใส่ล้อแม็ก ติดเครื่องเสียงชุดใหญ่ ไฮเอ็น เข้าไปของผม แล้วมันเป็นไงหากรถไถนามันติดแอร์กับเขานี่

พี่Amarmy ขอคั่นรายการโชว์รถไถนาของผมนิดหน่อยนะครับพี่ อีตอนผมขับรถไถนาตากแดดไถนาทั้งวันร้อนตับจะแตก รถไถนามันไม่ได้วิ่งบนไฮเวย์ มันเขย่ากระแทกเอาจนกระดูกสันหลังจะหัก ไม่ยักกะมีใครว่าอะไร น้ำสักขัน ก็ไม่มีใครยื่นให้ นอกจากแก้วเล็ก ปูเสื่อนั่งยิ้มดูผมโดนรถเขย่าอยู่ใต้ต้นไม้โน่น

แต่พออีตอนเอารถไถนาไปติดแอร์ ดันมีคนจะหมั่นไส้ ข้อหารถมันเย็นเลยทำให้น้องนางบ้านนาอยากขึ้นนั่งเล่นบนรถด้วย

นี่ผมไปยืมรูปเขามา รถไถนาคันที่ไม่ติดแอร์น่ะ มันของผมขนานแท้ดั้งเดิม มีแต่ลูกๆของผมตอนเล็กๆปีนเล่น แล้วก็แก้วเล็กเท่านั้นที่ขึ้นรถคันนี้ไปไร่ไปนากับผม ลูกๆนั่งตักบ้างขี่คอบ้างตามเรื่องตามราว

ไอ้คันติดแอร์น่ะของชาวบ้านเขา ผมเห็นเข้า ก็ถ่ายรูปเก็บไว้

นี่ก็ต่างกัน อีกคันหนึ่งรถไถนาธรรมดา
อีกคันหนึ่งพิเศษ ติดแอร์ เครื่องเสียง ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีผานไถดินด้านหลัง มีใบมีดดันดินด้านหน้า ใครยังไม่รู้จักคำว่าพิเศษเป็นไงก็ดูรถไถนาสองคันนี้ก็ได้ ยังดีที่ไม่เอาไปแต่งซิ่งใส่ล้อแม็ก นี่ก็ดูเอาไว้รถไถนายังมีรถไถพิเศษ

 

นี่ก็อีกรถ ไปเป็นช่างที่ตะวันออกกลาง ว่างจากงานช่างเขาก็ให้ไปขับรถ แล้วก็แส่ขับเอาซะได้หลายชนิด แล้วก็ขับได้ดีกว่าคนที่ขับเป็นอาชีพเอาซะอีก เพราะมันลำบากมามาก พอมาทำงานแค่ขับรถใช้เครื่องจักรทำงานแทนมือ แหมมันง่าย มันสะบายกว่าแบกกว่าหาม มันก็เลยตั้งใจมาก มันเลยทำได้ดีกว่า ทั้งๆที่ใช้เวลาฝึกฝนน้อยกว่า ความยากลำบากมันทำให้คนมีความมานะพากเพียรแบบนี้

นี่ก็ทั้งร้อนทั้งลำบากหลายอย่าง ถึงไม่ค่อยมีใครเขาขับกัน รถเครนขับมันมันตั้งแต่ขนาด15ตันจนถึง 300ตัน พนักงายคนไทยไม่มีใครเอาสักคน ร้อนก็ร้อนตับจะแตกอีก ทีอย่างนี้ไม่ยักกะมีใครแย่งงานจากมือเอาไปทำ

เวลาที่รถไม่มีงาน หรืองานเชื่อม วิริยาธิกะพิเศษซะอย่าง ล้างรถเครนซ่อมแซมตัวถังแล้วพ่นสีเก็บเข้าโรงเก็บรถ ฉะเพาะรถเครนทุกขนาดที่บริษัทนี้มี52คันผมกับเพื่อนคนไทยสองสามคนซ่อมกัน

ยิ่งตอนเย็นเลิกจากงานในหน้าที่ปกติ ต้องเอาเครื่องมาดูดน้ำโสโครกจากบ่อพักน้ำจากส้วมใส่รถ แล้วขับรถเอาไปทิ้งทุกวัน มันไม่มีใครทำ ทางหัวหน้าให้เป็นโอทีวันละสองชั่วโมง ผมมันตำแหน่งช่างเชื่อมท่อ เอ๊กซเรย์ เมื่อไม่มีใครทำผมก็ทำ ทำอย่างนี้ไม่ยักกะมีใครอิจฉา ไม่มีใครหมั่นใส้

 

ขับรถแบคโฮ ก็ทั้งร้อนทั้งเสียงดังเพราะต้องเร่งเครื่องแรงมาก เวลายากเวลาลำบากไม่มีใครว่าไม่มีใครเอา ไม่มีเลยที่จะมีคนที่ว่าใจดี คนที่ประกาศตัวว่าเรียนเตรียมอนุบาล หรือเตรียมอุดมนางแก้ว ไปยื่นยามถามไถ่ ว่าพี่ทิศสะบายดีไม๊ หิวน้ำคอแห้งใกล้ตายแล้วหรือยัง หิ้วชาเขียวไข่มุกไปส่งให้ หากบอกว่าพี่ทิศยังพอทนได้ เพราะปรารถนาพระโพธิญาณมันจึงตายยากหน่อย หากว่าติดป้ายข้างรถแบคโฮบอกว่าคนที่ขับรถแบคโฮขุดดินเหย็งๆอยู่นี้กำลังบำเพ็ญพุทธภูมิบารมีอยู่ อาจจะโดนรองเท้าแก้วเอาง่ายๆ เพราะคิดว่าแดดร้อนเครื่องแฮ๊งไปแล้ว

รูปแบคโฮที่มีผ้าใบกันแดดค้านหลังมันเหลืออยู่แค่รูปเดียว เป็นการวางระบบท่อน้ำทิ้งทั้งเมือง อัลโคบ้า และเมืองดัมมัมใช้เวลาขุดฝังเดินท่อใหม่ใช้เวลาสองปีเศษ บาครั้งบางคราวต้องโดดลงไปช่วยเพื่อนๆในน้ำโสโครกลึกแค่คอ เอาปลั๊กยางไปอุดท่อ ไอ้ผมมันขับรถ แล้วเสือกเป็นช่างเชื่อมท่อด้วย เรื่องงานช่างบางอย่างเพื่อนทำไม่ได้ ไอ้วิริยาธิกะพิเศษนี่แหละมุดมันลงไปทำ อาบน้ำแล้วสามวันยังกินข้าวร่วมวงกับเพื่อนไม่ค่อยจะได้ ใครอยากจะรู้ว่ามันเป็นไง ไอ้บ่อกลมๆกลางถนนที่มีฝาเหล็กปิดในตัวเมืองนี่แหละ น้ำเสียในนั้นลองลงไปแช่ดูนะ

 

แต่อีตอนติดแอร์ ติดเครื่องเสียง รถแบคโฮ ให้ลูกน้องขับ แหมดันมีคนหมั่นใส้ซะได้ เสียดายมันไม่มีล้อแม๊กรถแบคโฮ

 

โซโล่กีต้าร์ ขับรถแบบนี้พาน้องนางลูกครึ่งอเมริกันอินเดีย และอีกหลายลูกครึ่ง ไปปูผ้านั่งดูพระจันทร์ แล้วหัดแทะแฮมเบอเกอร์ เป๊ปซี่ ที่ชายหาดเมืองอัลโคบ้า คนก็อุตส่าห์มีเมตตาไปหมั่นใส้

ไอ้เราก็แทะเบอเกอร์ไม่ค่อยถนัด หากเป็นผักบุ้งต้ม น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้านี่ค่อยคุ้นเคยหน่อย

 

ทีอีแบบนี้ไม่ยักกะมีนางแก้วใหน หรือใครหมั่นใส้หรืออิจฉา ทำแบบนี้หาคนอิจฉายาก

 

แบบนี้ยิ่งหาคนอิจฉายากหนักเข้าไปอีก นอกจากน้องนางแก้วของผมแล้ว ไม่มีแก้วใหนมองเห็นเอาซะเลย

 

ก็กลับมาคุยกับพี่บุญทรง เวลาที่พี่ขุดดินฟันป่า ถากถางต้นไม้ใบหญ้า ลำบากตรากตรำ ผสมปูน หิ้วปูน เหงื่อหยดติ๋งๆ แดดร้อนลมจะใส่ หอบลิ้นห้อยหน้าจะมืด แหมมันไม่ค่อยจะมีใครมาอิจฉา ฟันดินเหย็งๆไม่มีใครหมั่นใส้ จะมีบ้างก็ยกมือท่วมหัวสาธุ ขอให้ทั้งพี่ทั้งผมขุดดินหาบดินเป็นกรรมกรให้ตายคาที่ไปเลย อย่างนี้จะยินดีมาก จึงไม่มีใครแย่งจอบจากมือไปขุดดินแทนให้แบบไม่ยอมวางจอบ

แต่นี่หากอานิสงค์ของการขุดดินก่อสร้างทุกอย่างส่งผลตายแล้ว เผลอไปแวะเทวโลก แล้วมีนางสาวฟ้าแก้วจำนวนเป็นโกฏ เมื่อไรเมื่อนั้นแหละงานเข้า มีคนจะกระเด้งตื่นไปหมั่นใส้พี่บุญทรงว่ามีนางสาวฟ้ามากเกินไปเขาเป็นห่วงว่าพี่จะจำหน้าไม่ทั่วถึง จะโดนใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับโทษฐานตายแล้วไม่เข้าพระนิพพาน แวะเทวโลก แล้วมีนางสาวฟ้ามาก เกินพิกัด ไงๆพี่ก็ลดความเร็วลงมั่งนะพี่ตอนนี้เขากำลังฮิตกันเรื่องนี้

 

l;ylfu8iy[ rujru:uFv สวัสดีครับพี่พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน เมื่อวานไปทำบุญที่ สำนักสงฆ์เขากะจีมา และถ้ำเขาพระ และโอนเงินทำบุญ กับเว็บพลังจิต เมื่อวานได้โอนเงินทำบุญกับเว็บพลังจิต เผยแพร่พระศาสนา ๑๐๐ กว่าภาษา ๑๐๐กว่าประเทศ จากบัญชีบุญทรง ทองคง ธนาคาร กรุงไทย สาขาอุทัย โอนทาง เอทีเอ็ม บัญชี เลขที่ 619-0-15742-4 เข้าบัญชี คุณสุรภา คงนิล 500 บาท ค่าธรรมเนียม 10 บาท เลขบัญชี 980-5-89379-0 และค่าใช้จ่ายเช่าที่ ปีละ แสนกว่าบาท จากบัญชีบุญทรง ทองคง 619-0-15742-4 เข้าบัญชี คุณสุรภา คงนิล สาขาเทสโก้โลตัส วังหิน 500 บาท เลขบัญชี 980-5-89378-2

และโอนทำบุญ พระไตรปิฎก พระพุทธศาสนา พระไตรปิฎก หลายภาษา จากบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย สาขา อุทัยธานี บุญทรง ทองคง เลขบัญชี 155-2-28405-0 จำนวนเงิน 500 บาท ค่าธรรมเนียม 25 บาท เข้าบัญชีคุณ ดร.ณัฐภัชร จันทรสูตร ธนาคารกรุงเทพ บัญชี เลขที่ 134-7-02014-9 ทำบุญ รวม ๓ อย่าง 1,500บาท ครับ และขออนุโมทนาสาธุบุญทุกๆอย่างที่ คณะชาวเว็บพลังจิตทำครับ

เบอร์โทรศัพบ้าน 056-511-971
มือถือ 086-169-7786 - 081-8866-104
ธนาคาร ออมสิน ออมทรัพย์ สาขา อุทัยธานี
บัญชีเลขที่ 020-108-44246-6
บุญทรง ทองคง

 

๘/๘/๕๗ สวัสดีตอนเย็นๆครับพี่ๆน้องๆที่รัก ในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบันของเราเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ในสมัยนั้นดึกดำบรรพมาแล้ว พระองค์และ ขณะ ๓๓ คน ช้าง ๑ เชือก สร้างสาลาริมทาง ๑ หลัง ไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สำหรับผู้เดินทางผ่านไปมา ได้อาศัยหลับนอน พักร้อน ยามเดินทางเหน็ตเหนื่อยเมื่อยล้าและ ดื่มน้ำ และพระนางพิมพา ชื่อสุธรรมมา ขอร่วมด้วย ติดช่อฟ้าใบระกา และมีผู้ร่วมอีกหลายคน ขุดสระน้ำ มีสวน ดอกไม้จำชื่อไม่ได้ว่าชื่ออะไรบ้าง ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก


ทุกคนที่มีส่วนร่วมไปบังเกิด บนสวรรค์ดาวดึง พระโพธิสัตว์ ไปเกิดเป็นพระอินทร์ นอกนั้นก็ไปเกิด ในสวรรค์ชั้นนี้ มีวิมานคนละหลัง มีนางฟ้า ๑,๐๐๐ คนเป็นบริวาร ศาลาสุธรรมมา เป็นที่ประชุมของเหล่า เทวดา ๖ ชั้น มีสวน ดอกไม้ มีสระโบกขรณี ส่วนช้าง ไปเกิดเป็นเอราวัณเทพบุตร นี่แค่ยกตัวอย่างมานะครับ


ไงๆก็ฝาก พี่ พีซีโอ เอาคำสอนที่พ่อเทสสอน ประวัติของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ตอนที่ท่านและคณะสร้างบรรณะศาลาริมทาง จนไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ผมนำมาไม่ละเอียดจำไม่ได้ มาให้พี่ๆน้องๆได้อ่านเป็นกำลังใจหน่อยครับ

เบอร์โทรศัพบ้าน 056-511-971
มือถือ 086-169-7786 - 081-8866-104
ธนาคาร ออมสิน ออมทรัพย์ สาขา อุทัยธานี
บัญชีเลขที่ 020-108-44246-6
บุญทรง ทองคง

 

พี่บุญทรง กราบงามๆอย่างสายัญ กราบแฟนเพลง โมทนาสาธุอย่างยิ่งในบุญทานกองการกุศลทั้งปวงของพี่นะครับ

ท่านมฆมานพท่านไม่ได้มีนางสาวฟ้าแค่จำนวนพันนะพี่ สมัยเป็นมฆมานพท่านมีภรรยาหลวงหนึ่งท่านคือท่านแม่สุธรรมมา ภรรยาราฎร์สามท่าน คือท่านแม่สุจิตรา ท่านแม่สุนันทา ท่านแม่สุชาดา

ผมมันชอบเอาอย่าง เห็นท่านใดทำดีก็อยากจะดีกับท่านบ้าง เพราะพื้นเพเดิมเป็นคนไม่ค่อยจะถึงดี กับเขาเท่าไร อันนี้ก็เป็นเรื่องราวขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันของเราชาวพุทธทั้งหลาย สมัยพระองค์ท่าน เสวยพระชาติเป็นมาฆะมานพ ท่านสั่งสมบุญทานกองการกุศล ผมฟังเรื่องของท่าน ผมก็เอามั่งตั้งแต่เป็นนักบวช ที่วัดศรีมณีวรรณ สร้างศาลาน้อยๆ เพื่อคนเดินทาง ท่านทำสวนผมก็ทำมั่ง ทำมันหลายอย่าง โรงสีข้าว ธนาคารข้าว โรงเลื่อย และอื่นๆ เมื่อสึกหาลาเพทออกไปก็พาหมู่ญาติสร้างศาลาริมทางที่ในหมู่บ้านเกิด สมัยนั้นท่านมาฆมานพท่านมีภรรยา สี่ท่าน ต่างก็ร่วมกันทำบุญ และอานิสงค์ยังคงอยู่ถึงปัจจุบันบนดาวดึงค์เทวโลก

ตัดมาบางตอนอานิสงค์ของท่านมาฆะมานพ ตอนพระมาลัยไปเยี่ยมสวรรค พระมาลัยท่านพบพระศรีอริยะ ดังนี้นะพี่

แท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ เป็นแท่นที่นั่งของข้าพเจ้าซึ่งชาวโลกรู้จักกันดี ถ้ามีเหตุเดือดร้อนขึ้นในเมืองมนุษย์ แท่นนี้จะแข็งกระด้าง ไม่อ่อนนุ่มเหมือนเวลาปกติ เป็นเครื่องหมายบอกให้ข้าพเจ้ารู้ว่า มีเรื่องร้ายเป็นเหตุเภทภัยแก่ผู้มีบุญ ในเมืองมนุษย์ขึ้น แล้วจำต้องลงไปช่วยขอรับ"

"แท่นนี้กว้างใหญ่ขนาดไหน มหาบพิตร?"

"ยาว 60 โยชน์ กว้าง 50 โยชน์ หนา 15 โยชน์ มีสีแดงเหมือนดอกชะบา และ หงอกไก่ พระคุณเจ้า"

"แล้ววิมานที่มหาบพิตรอยู่นั่น มีชื่อว่าอะไร?"

"ชื่อ เวชยันต์มหาปราสาท สูงพันโยชน์ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว 7 ประการ และมีวิมานทองอีกหลังหนึ่ง อยู่ภายในเวชยันต์มหาปราสาทนั้น สูง 700 โยชน์ ประดับประดาด้วยแก้ว 7 ประการ ขอรับ พระคุณเจ้า"

"มหาบพิตรอยู่คนเดียวหรือมีคนอื่นอยู่ด้วย?"

"ข้าพเจ้าอยู่กันหลายคน พระคุณเจ้า มีมเหสีของข้าพเจ้า 4 คนคือ นางสุธัมมา นางสุจิตรา นางสุนันทา และ นางสุชาดา กับนางฟ้า อีกประมาณ สองโกฏิห้าล้าน ขอรับ"

"โอโฮ้! มหาบพิตรมีชายามากถึงสองโกฏิห้าล้าน แต่พระองค์ยกย่องให้เป็นมเหสีเพียง 4 คนเท่านั้น นางทั้งสี่นี่ พระองค์ทรงรักมากใช่ไหม?"

"มิใช่หรอก พระคุณเจ้า เรื่องของเรื่องเป็นเพราะบุญกุศลที่ได้ทำไว้เมื่อชาติก่อนต่างหาก ข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟัง เมื่อข้าพเจ้าเป็นมฆมาณพอยู่นั้น ข้าพเจ้าได้สร้างศาลาขึ้นหลังหนึ่ง อัครมเหสีทั้งสี่นี้ มีน้ำใจเลื่อมใสเป็นอันดี นางสุจิตรา ได้ปลูกสวนดอกไม้ไว้ข้างศาลา นางสุนันทา ได้ขุดสระไว้สำหรับให้ผู้คนที่สัญจรไปมาพักที่ศาลา ได้อาบน้ำชำระกาย นางสุธรรมา ได้สร้างช่อฟ้า แต่งเติมศาลาให้สวยงาม ส่วน นางสุชาดา ได้รักษาศีลโดยเคร่งครัด นางทั้งสี่ ได้ทำบุญกุศลต่างๆ ครั้นสิ้นชีพแล้ว ก็ได้บังเกิดบนสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติร่วมกับข้าพเจ้า"

นางสุจิตรา มีสวนจิตรลดา กว้างได้ 500 โยชน์ นางสุนันทา มีสระนันทโบกขรณี กว้างยาวได้ 500 โยชน์ นางสุธรรมา มีโรงธรรมเทวสภา กว้างยาวได้ 300 โยชน์ วัดโดยรอบได้ 900 โยชน์ สูง 500 โยชน์ พื้นโรงธรรมสภานั้น ปูด้วยแก้วผลึกและแก้วอินทนิล ด้วยบุญกุศลที่นางได้ทำไว้นั่นเอง"

เดี๋ยวมาต่อนะพี่ ตอนนี้ต้องไปส่งแก้วใหญ่ของผมไปอยู่เวณเฝ้าวิหาร

 

({) อนุโมทนาสาธุ กับพี่ พีซีโอครับ ที่นำมากว่าวไว้ ให้อนุชนรุ่นนี้ และรุ่นต่อๆไปว่า ได้อ่านและจดจำเอาเป็นตัวอย่าง ที่ผมทำนี้เขาว่าไม่ใช่วัดเขาไม่ทำ มาทำทำไม มาสร้างทำไม ผมรู้ว่าผมทำอะไร ใครไม่รู้ก็ช่างแม่มันปะไร จริงไหมพี่ ทั้งๆที่ ๓ สถาบันมันอยู่ในธงไตรรงค์ ของชาติ ที่มันอาศัยกันอยู่ บางคนมันพูดว่าออกมากันได้ ไม่ยักกะอายตนเอง ไม่เป็นไรใครทำใครได้ ของใครของมันจริงไหมครับ ต้องขอบคุณพี่อีกครั้ง ผมชื่นใจ ที่ได้ทำ ถึงจะร่วมบุญ ทั่วไป ให้จนทั่วประเทศ มันยังไม่ภูมิใจที่ได้ลงมือทำด้วยตนเองนะพี่

 

อนุโมทนาสาธุกับพี่บุญทรงด้วยนะครับ ขอให้มีความสุข และสำเร็จในสิ่งที่หวังไว้ทุกประการครับ สาธุ สาธุ

 

ของคุณธรรมวิวัฒน์ ก็ขอจงได้อย่างที่ให้พี่บุญทรงทุกประการเช่นกันครับ