ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ransang, 6 มิถุนายน 2011.

  1. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    การปฏิบัติตามแนวหลวงปู่สอนนั้นมีหลายแนวมาก ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่ทำสะสมอะไรมา มากน้อยแค่ไหน สำหรับท่านอาจารย์หลวงปู่ท่านจะไม่ค่อยให้เข้าไปยุ่งเรื่องของปาฏิหาริย์เท่าไร แต่ให้ปฏิบัติเพื่อสะสาง และเพื่อพ้นมากกว่า ดังนั้นสิ่งที่ท่านอาจารย์ได้ทำเพื่อสะสางนั้นจึงมีทั้งการแก้ไขและช่วยเหลือลูกหลานและบริวารที่เคยเกี่ยวพันกันมาด้วยพร้อม ๆ กัน

    ท่านอาจารย์จะเน้นเรื่องการสร้างพื้นฐานของกรรมฐานและสติให้แน่น แต่ไม่ง่ายเลยเพราะยิ่งทำยิ่งละเอียด ๆ เข้าไปเหมือนกับการลอกเปลือกที่ห่อหุ้มใจเราออกแม้จะไม่เห็นและรู้สึกทันทีแต่พอรับรู้เข้าแล้วก็ต้องวาง

    ท่านอาจารย์มักจะสอนเรืองการละ ปล่อย วาง ว่าง ใน 4 ตัวนี้สิ่งที่ยากที่สุดคือการ วาง ยากอย่างไรลองทำดูครับผิดถูกไม่ว่ากันแต่ต้องทำจึงจะเข้าใจ

    ท่านอาจารย์มักจะไม่สอนให้นั่งหลับตาเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยเข้าใจตอนนี้พอจะเข้าใจมากขึ้น เพราะการหลับตาคือการที่จะทำให้เราลืมหรือกดทับสภาวะของเราไปชั่วขณะ พอทำบ่อย ๆ เข้าก็จะหนักแน่นดังหินที่ทับผืนหญ้าไว้ แต่ใต้หินนั้นก็ยังมีรากมีเหง้าของหญ้าที่พร้อมจะงอกงามอีกครั้ง เมื่อหินนั้นเคลื่อนย้ายจากจุดนั้นไปหรือแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หญ้าก็เปรียบดังกิเลสต่าง ๆ ที่เราเอาความมืด ความแน่นหนักของฌาณมากดทับไว้ พอเกินขีดจำกัดก็จะกระเพื่อมโผล่ ระเบิดขึ้นมาทันที

    แต่สิ่งที่หลวงปู่ได้สอนและแนะนำท่านอาจารย์ไว้จนมาถึงสอนผวกผมจอมดื้อทั้งหลายคือ ปฏิบัติด้วยการเคลื่อนไหวและลืมตา เพื่อให้รู้และทันต่อกิเลสและอารมณ์ แรก ๆ อาจจะยากหน่อยแต่พอถึงจุดแล้ว จะรู้ว่าสิ่งที่เขาเรียกว่าปฏิบัติได้นั้นเป็นเช่นไร แม้จะได้น้อยให้เกณฑ์นี้ แต่ก็มากพอที่จะยื้อยั้งกิเลสให้เบาและน้อยลงได้บ้างจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2014
  2. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***คิดถึงครับ สาธุ ครับ***
     
  3. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    วัตถุมงคลที่สร้างด้วยกรรมฐาน ต่างจาก วัตถุมงคลที่สร้างจากบารมี อย่างไรครับ เป็นความรู้

    พระอรหันต์เหมือนกัน แต่ต่างกันที่บารมี

    ผมเคยลงในกระทู้บางกระทู้ว่า ของเวียงนาคราชสร้างวัตถุมงคลด้วยกรรมฐาน 555 แต่ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจความหมาย แต่รู้ว่า
    ผลที่ได้ต่างกัน


    ก้อถูก

    จะทำอะไรถ้ามีบารมีจะทำสำเร็จเร็ว...แต่ถ้ามีพลังงานจากการปฎิบัติดีปฎิบัติชอบจะทำได้เร็วกว่าสมบูรณ์กว่า

    ถ้าไม่มีบารมีทำไม่สำเร็จ มีบารมีน้อยทำได้แต่อาจเล็กๆตามกำลัง ถ้ามีพลังงานจากการปฎิบัติดีปฎิบัติชอบจะทำได้ตามความพอเหมาะแก่ตนเอง

    กรรมฐานจะช่วยเสริม เพิ่มเติมส่วนที่ขาดตก จากบารมีให้สมบูรณ์

    และตัดสิ่งที่ร้อยรัดผูกพันมีกรรมไม่ดีต่อกันคลายตัวสลายหายไปกลายเป็นอโหสิกรรมกัน หมดเวรซึ่งกันและกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2014
  4. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    มานั่งดูข้อมูลตาม internet ทั้งเว็บและเฟสบุค ตอนนี้เห็นอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะความไม่เที่ยงของการใช้ชีวิตการเจ็บป่วยตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เด็ก หนุ่มสาว กลางคน แก่ชรา มีทุกวัย ทั้งเจ็บป่วยจากโรคภัย จากอุบัติเหตุ สุดท้ายช่างน่ากลัวจริง ๆ

    ครั้งเมื่อก่อนทำความดีไม่รู้จักคำว่าความตายอย่างแท้จริง พอเริ่มเข้าทำความดีก็คิดว่าไม่กลัวตาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ช่วงนี้แล้วเห็นมากมายจนลายตาแล้ว มันช่างน่ากลัวซะจริงในใจยังหวั่น ๆ กลัวความตายอยู่ แต่ก็พอรู้ว่าผลการฝึกนั้นพอจะทำให้เข้าใจความตาย ความเจ็บป่วยได้บ้าง แต่ยังไม่พอ ยังไม่แกร่งพอดังที่ท่านอาจารย์เมตตาสอนไว้ แนะนำและเตือนสติไว้

    จริง ๆ ความตายไม่น่ากลัวแต่มันละเอียดอ่อน มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแค่เสี้ยวนาที ที่เราควรจะฝึกฝนและทบทวนอยู่เสมอ ไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างความตายทำให้เราพลาดตกไปในที่ ๆ ไม่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2014
  5. เช่นนี้เอง

    เช่นนี้เอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +1,817
    สาธุครับผม
     
  6. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    การปฏิบัติจริงๆ ต้องปฏิบัติเมื่อประสบอารมณ์
    มีสติตามรู้เท่าทันอารมณ์อยู่ตลอดเวลา
    ไม่เลือกเวลา สถานที่ หรือโอกาส
    ทุกอิริยาบท เป็นการปฏิบัติอยู่ทั้งนั้น

    ผู้ใดมีสติอยู่ทุกเวลา ผู้นั้นก็ได้ฟังธรรมะของ
    พระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา

    พระโพธิญาณเถร
    (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
     
  7. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    การปฏิบัติมันก็อยู่ในชีวิตประจำวันนั่นละ ให้มีสติระลึกรู้ โลภ โกรธ หลง แล้วลดละอารมณ์และความคิดที่จะต่อเติมกิเลสให้น้อยลง ๆ ๆ นี่ก็คือการปฏิบัติ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ได้ผลจริง ๆ ผลที่ได้จริง ๆ เมื่อมันเกิดไม่ว่าเมื่อใดก็จะรั้งและละมันได้ไม่ให้ต่อเติมทั้งอารมณ์และความคิด

    นี่คือผลที่ผมได้มาจากการปฏิบัติตามแนวท่านอาจารย์

    ซึ่งจริง ๆ มันก็แยกยากนะครับถ้าท่านฝึกด้านฌาณมาแล้วก็ทำได้เช่นกันแต่จะมีอารมณ์บางอย่างแตกต่างกัน ต้องลองทำดูเองครับ

    ขอแก้ไข นะครับ

    หลวงปู่ท่านเมตตาให้ผมได้รับรู้และสัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่มากระทบว่าสิ่งนั้นมีสภาวะอย่างไร ซึ่งมีรายละเอียดมาก ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  8. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    พระกริ่งเมตตาหนอ.....ทำไมยกหรือยื่นมือออกมา ????

    การที่"พระกริ่งเมตตาหนอ"มีรูปร่างลักษณะพิเศษ"ยกมือขวาขึ้นมาลักษณะแบมือยื่นออกมาข้างหน้า" แปลกแหวกแนว ให้มีความพิเศษแตกต่างพระกริ่งทั่วไป...ไม่ใช่ครับ

    มีที่มาที่ไป...ซึ่งเกี่ยวข้อง "กรรมฐานเมตตาใหญ่ และ กรรมฐานหนอ" ที่เป็นกรรมฐานวิปัสสนาญาณแบบ การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวเปล่งเสียง...กำกับให้สอดคล้องสัมพันธ์ของ กายเคลื่อนไหว วจีเปล่ง ใจจับอาการทั้งสอง...เมื่อเกิดความสัมพันธ์สอดคล้องกัน

    กาย วาจา ใจ รวมเป็นหนึ่ง เกิด "ศีล 5 ที่บริสุทธิ์" เกิดสมาธิ สติตั้ง ปัญญาเกิด...ที่จะรู้เท่าทันอารมณ์ที่มากระทบ...ไม่ไปผสมปรุงแต่ง ให้เกิดวิตก วิจารณ์ ให้เกิด สุข หรือ ทุกข์ เป็นการรู้ทันอารมณ์ ณ.ปัจจุบัน

    กรรมฐานเจริญสติแบบเคลื่อนไหวเปล่งเสียงนี้...หลวงปู่เมฆ กิตติสัทโท เป็นผู้เผยแผ่โดยอาศัยคำภาวนา "หนอ" กำกับภาวนา ซึ่งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า"กว่าที่ท่านจะสอนได้ ท่านปฏิบัตินั่งหลับตาภาวนาในใจภึง 20 กว่าปีที่จะพบวิธีการปฏิบัตินี้" เพื่อให้จิตเกิดผลทั้งสมถะวิปัสสนาญาณควบคู่...โดยไม่ต้องอาศัยการพิจารณาข้อธรรมขึ้นมา

    เป็นแนวทางที่ท่านอาจารย์ปฏิบัติกรรมฐาน ข้อคัดบางตอนประวัติพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาให้อ่านกัน...เพื่อเกิดความเข้าใจมาขึ้น

    หลังจากนั้นไม่นานปณิธานที่ท่านปรารถนา ก็เริ่มได้รับความอนุเคราะห์เป็นลำดับขั้น คือ ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ เมื่อพระอาจารย์ได้เดินทางไปกับเพื่อนพระภิกษุเพื่อปฏิบัติธรรม ก็ได้ไปพักอยู่ที่วัดบุปผาราม กรุงเทพมหานคร โดยสมัยนั้น ท่านเจ้าคุณพระธรรมวราลังการ เป็นเจ้าอาวาสและเป็นผู้ช่วยภาค ท่านผู้นี้เป็นพระปฏิบัติดี เมื่อท่านทราบถึงความมุ่งมั่นของพระอาจารย์ที่ต้องการปฏิบัติธรรม ท่านจึงนำไปฝากไว้กับพระปัญญาพิสาร วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งท่านผู้นี้เป็นพระผู้ปฏิบัติจริงจังและเคร่งครัด ท่านก็ได้สอนกรรมฐานวิปัสสนาให้พระอาจารย์


    พบสัจธรรม

    เมื่อพระอาจารย์ได้รับกรรมฐานวิธีปฏิบัติแล้ว ก็เริ่มต้นเข้ากรรมฐาน ตั้งใจทำความเพียรที่ตึกพระสังฆราชอย่างเคร่งครัดด้วยการเก็บวาจา ฉันน้อย นอนน้อย การขบฉันนั้นมีผู้ดูแลคอยนำมาถวาย โดยมื้อเช้าฉันเพียงข้าวต้ม ๑ ถ้วยกับถั่วลิสง ๒๐ เม็ด และในมื้อเพลก็ฉันอาหารอย่างมากเพียง ๒๒ คำ กำหนดสติในการฉันตลอดเวลา ท่านปิดไฟภายในตึกที่บริกรรมภาวนาสำรวมกาย วาจา ใจ กำหนดสติมั่นอยู่ในการเคลื่อนไหวโดยอาศัยการเดินจงกรมตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่นั่งบริกรรม เพราะการนั่งเมื่อสงบก็มักจะปรากฏนิมิตต่างๆ เช่น ตัวท่านใหญ่ขึ้นและมีความฟุ้งซ่านมาก ท่านจึงกำหนดสติระลึกรู้อยู่ที่กายและใจสลับกันอย่างต่อเนื่อง

    ด้วยความเพียรอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนั้น เพื่อนร่วมรุ่นที่เข้าปฏิบัติด้วยกันได้ท้อถอยหนีกรรมฐานกันไปหลายรูป ความวิริยะของพระอาจารย์ที่ปฏิบัติโดยตลอด อาจารย์ผู้คอยแอบดูศิษย์อยู่เสมอนั้น ดูเมื่อไรก็พบว่าพระอาจารย์บริกรรมเดินจงกรมอยู่อย่างตลอด ท่านได้รับคำชมเชยว่า “พระที่มาจากนครศรีธรรมนี้เป็นคนจริงคนหนึ่งทีเดียว” ท่านทำความเพียรอยู่อย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งวันที่ ๒๒ ของการปฏิบัติ พระอาจารย์ได้พบธรรมะ ที่ยังจิตให้เข้าถึงสัจธรรม ละสมมุติบัญญัติ สติสัมปชัญญะรู้ทันอารมณ์ปัจจุบันแจ่มแจ้งในสัจธรรม

    การพบสัจธรรมของท่านดูจะไม่เหมือนพระกรรมฐานรูปอื่น ท่านเล่าว่า “อาตมาธุดงค์ในป่าคอนกรีตภายในตึกพระสังฆราช จับหลักมหาสติล้วนๆ อยู่ที่ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้รู้ทันอารมณ์ปัจจุบันเป็นสำคัญ” ตลอดระยะเวลา ๕ เดือน ภายในตึกพระสังฆราชท่านยิ่งทำความเพียรเพิ่มขึ้นในการเดินจงกรม และอยู่จำพรรษาที่วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระอาจารย์สอนว่า ท่านค้นพบสัจธรรมที่ยังจิตให้ถึงพระนิพพานเข้าตามหลักสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบและได้สอนไว้แล้วนั้น คือ ขันธ์ ๕ อยู่ที่ไหน พระนิพพานอยู่ที่นั่น ไม่ต้องแสวงหาที่ไหน ให้เอาจิตตั้งอยู่ที่กายใจ ให้มีสติรู้ทันกายใจแล้วไม่ต้องธุดงค์ตามป่าก็ได้ การธุดงค์เป็นการหนีอารมณ์ แต่การอยู่ในหมู่คณะเป็นการแก้อารมณ์ รู้ทันอารมณ์ปัจจุบัน สร้างมหาสติได้ง่าย ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมื่ออายตนะทั้งหก คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบสิ่งภายนอก ให้รู้ทันอารมณ์ อย่ายินดียินร้าย”


    การยกมือแบขึ้นมายื่นไปข้างหน้า....คือการขยับมือให้เป็นจังหวะแล้วหยุดเป็นช่วงๆ แล้วเปล่งเสียงให้สัมพันธ์สอดคล้องกัน...ซึ่งเป็นการปฎิบัติกรรมฐานอีกแนวหนึ่ง...จริงๆ

    ตอนแรกจะตั้งชื่อพระกริ่งว่า "พระกริ่งทำหนอ" แต่มีเหตุว่าหลังจากที่ผมได้ปฎิบัติกรรมฐานแนว"หนอ" มาจนได้ผลในระดับหนึ่งแล้ว แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดแนวกรรมฐาน"เมตตาใหญ่" ซึ่งต้องอาศัยหลักวิธีกรรมฐาน"แนว" ของหลวงปู่เมฆ กิตติสัทโท พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพียงแต่เปลี่ยนคำภาวนาจาก "หนอ" เป็น "พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม" ถ้าจะถามว่ามีผลการปฏิบัติต่างกันไม่ มีครับ...แต่จะยกเปรียบเทียบง่ายๆ ดัง "มโนมยิทธิครึ่งกำลัง" กับ "มโนมยิทธิเต็มกำลัง" ครับ

    ถ้าบทความนี้ทำให้ท่านสงสัย ก้อขอให้ท่านอย่าปรามาสในแนวปฎิบัติกรรมฐานข้างต้น เพราะการปฎิบัติมีหลากหลายแนวทาง เพียงแต่ใครปฎิบัติได้มีผลถูกกับจริตของตนเองเท่านั้น....สิ่งสำคัญพาตนเองให้ออกจากกองทุกข์ทั้งปวง...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  9. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ได้สร้างรูปหล่อองค์จิ๋วไว้จำนวนหนึ่ง นำไปแจกในห้องแจกฟรี 40 องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. FATAL_FRAME

    FATAL_FRAME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +3,990
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่เทพอุดร ปรมาบาจารย์ของกระผมครับ

    [​IMG]
     
  11. FATAL_FRAME

    FATAL_FRAME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +3,990
    สนใจจะรับไปบูชา ต้องทำอย่างไรหรือครับ

     
  12. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    เมื่อวาน 23/10/57 ท่านอาจารย์พาไปกราบขอพรพ่อร่างรัชกาลที่ 5 ซึ่งท่านอาจารย์ได้รู้จักกับพ่อร่างมาร่วม 10 ปี ทำให้มีโอกาสได้พบพี่ ๆ ที่ฝึกกรรมฐาน หนอ สายหลวงปู่เมฆซึ่งท่านเหล่านั้นก็ร่วมบุญกับท่านอาจารย์มาตลอด

    พี่ ๆ เหล่านั้นท่านเป็นผู้หญิงครับเป็นพี่น้องกัน 4-5 คน ผมก็ลำดับไม่ถูกเพราะไม่กล้าซักไร่เรียงเพราะผมยังเด็กครับ แต่ทุก ๆ ครั้งที่ได้พบพี่ ๆ กลุ่มนี้จะมีพี่ท่านหนึ่งที่ฝึกกรรมฐานหนอได้แล้ว พี่ท่านนี้ก็จะเล่าถึงหลวงปู่ครูบาอาจารย์ให้ฟังรวมถึงเรื่องจิต เรื่องการปฏิบัติ ผมได้ฟังก็พยายามจำ พยายามเก็บไว้เป็นความรู้ บางสิ่งบางอย่างมันต้องรู้เฉพาะตนจริง แต่เมื่อได้ฟังพี่ท่านนี้เล่าก็ทำให้มีความเข้าใจที่จะไปปฏิบัติไปทำตามในระดับที่ผมเข้าใจ เรื่องของการปฏิบัติกรรมฐานหนอนี้ มีประโยคหนึ่งที่น่าฟังมาก ๆ คือ
    หลวงปู่เมตตาบอกแก่พี่สาวท่านนี้ว่า " หนอทำง่าย แต่ได้ยาก " และ " ประตูพระนิพพานเปิดต้อนรับตลอดเวลา อยู่ที่จะเข้าไปได้หรือไม่" ทั้ง 2 ประโยคนี้มีความหมายมาก ๆ เมื่อฟังคำอธิบายแล้ว ได้แต่อึ้งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2014
  13. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    สำหรับงานใหญ่ ที่จะถึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN1755.JPG
      DSCN1755.JPG
      ขนาดไฟล์:
      249.1 KB
      เปิดดู:
      73
    • DSCN1758.JPG
      DSCN1758.JPG
      ขนาดไฟล์:
      300.2 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSCN1759.JPG
      DSCN1759.JPG
      ขนาดไฟล์:
      315.4 KB
      เปิดดู:
      70
  14. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    นี่คือสำคัญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ช่วงนี้หลวงปู่ให้ทำแบบฝึกหัดครับ สวดเมตตาหลวง 9 จบ 7 วัน เล่นเอาเหนื่อยเลย ผมสวดวันนหึ่งใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง สวดแบบเร็วหน่อย แต่ตอนนี้ต้องซ่อม อีก 1 วัน เพราะหมดแรง จะพยายามครับ
     
  16. FATAL_FRAME

    FATAL_FRAME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +3,990
    กราบ กราบ กราบ ครูบาอาจารย์ที่เคารพ ในวันพระครับ

    [​IMG]
     
  17. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    วันอาทิตย์ มีโอกาสได้พบร่างทรงหรือผู้ผ่านบารมีหลวงปู่โตที่เป็นญาติกัน อายุ 76 ปี มาแนะนำถึงบ้าน ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ค่อยอยากจะแวะมาเท่าไร อยู่ดี ๆ ก็อยากมาซะงั้น เลยได้คำแนะนำหลายอย่าง ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องการสร้างพระ และการจัดพื้นที่สำหรับบูชาหลวงปู่โต ปู่ฤาษีที่ห้องชั้นล่าง(เมียจะได้เชื่อซะที 555)

    ร่างทรงหลวงปู่โตท่านนี้อดีตเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง และย้ายมาเป็นนายร้อยตำรวจจนเกษียณ ได้มีโอกาสเป็นญาติกับท่าน ท่านก็เมตตาพอมาเห็นพระบูชาหลวงปู่โตองค์ใหญ่ ท่านคงถูกใจพูดคุยซะจนงง เพราะที่เคยเห็นไม่เห็นท่านคุยซะเท่าไร

    ก็ถือว่าเป็นวาสนาในการเผยแพร่บารมีหลวงปู่โตท่านต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2014
  18. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ช่วงนี้ไม่มีอะไรมาเล่า ได้แต่ถูกหลวงปู่เตือนสติและแนะนำต่่าง ๆ นา ๆ
     
  19. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    กรรมฐานเมตาใหญ่ + บารมีปู่พญายมราช + จิตวิญญาณ

    เมื่อวันลอยกระทงที่ผ่านมา ท่านอาจารย์ได้พาไปถวายเศียรปู่พญายมราชเนื้อผงจำนวน 105 เศียร ณ ศาลปู่แถวเมืองทองธานี ทางไปปทุมธานี ผมทำหน้าที่จัดเศียรปู่ใส่พานให้เรียบร้อย แปลกว่าปีนี้คนมาไม่มาก เทียบกับปีก่อนคนมามากมาย เมื่อจัดทุกอย่างเรียบร้อยท่านอาจารย์ก็พาสวดมนต์และทำกรรมฐานถวาย ซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้สัมผัสถึงบางสิ่งบางอย่าง (จะนำมาให้อ่านภายหลัง) และด้วยการที่มาที่ศาลปู่นี้เป็นครั้งที่ 4-5 น่าจะได้ทำให้ผมอดคิดในใจว่าท่านอาจารย์นั้นเป็นสายบารมีหลวงปู่ใหญ่ แล้วท่านถึงมาหาปู่บ่อย ๆ ปู่พญายมราชเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ใหญ่ใหม

    จนเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็หาข้อมูลปู่ท่านหนึ่งจนพบแต่ผมไปแชร์ข้อมูลที่เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวก่อน จนท่านอาจารย์มาตามอ่านและเข้าไปอ่านเรื่องของปู่... ซึ่งบางสายเชื่อกันว่าเป็นปู่มัจจุราชองค์ปัจจุบัน เมื่อท่านอาจารย์ได้เข้าไปแชร์ข้อมูลผมก็ตามอ่านพบว่าปู่พญายมราชองค์ปัจจุบันเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ใหญ่ด้วย และการที่ท่านอาจารย์ทำเศียรปู่พญายมราชสีแดงก็เหมือนยืนยันว่าปู่พญายมราชที่บางท่านเชื่อว่าปู่.....ไปทำหน้าที่แทนองค์ก่อนนั้นจริง

    นี่คือควาามเชื่อส่วนตัวนะครับ เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2014
  20. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    เวียงนาคราช คณะทานบารมี

    ***เรื่องเล่า...ปนมโน*** ตอนพิเศษ...กรรมฐานช่วยคนตาย

    (ตอนพิเศษ...รู้สึกอยากจะเขียนเล่าให้อ่านก่อนที่ความบรรเจิดจะหายไป)

    ตอนเช้าวันพุธ ที่ 12 พ.ย.57 โดนสัญญากระตุ้นว่าเมื่อคืนประมาณเกือบสี่ทุ่ม หลวงพี่(พระอธิการพันธวีร์ อภิวัณโณ เจ้าอาวาสวัดดอนคลังโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยเรื่องต่างๆ จนได้เล่าเรื่อง “การได้ความรู้ใหม่เพิ่มเติมของกรรมฐานที่สามารถช่วยเหลือคนเป็นได้” ระหว่างที่คุยเรื่องนี้ฝนตกลงมาทันที่และพอคุยจบเรื่องฝนก้อหยุดทันทีเหมือนกัน เสมือนเป็นการยืนยันจากเบื้องบนว่า “มีผลจริง”

    ด้วยบารมีพระเดชพระคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่เมฆ กิตติสัทโท ที่เมตตาชี้แนะลูกศิษย์คนนี้จนพอที่จะเอาเองรอดได้แล้วพอสมควร ในสมัยที่ท่านอาจารย์ดำรงขันธ์อยู่นั้น...ด้วยความที่ผมช่างคิดช่างสงสัยอยากรู้ทดลองก้อไปสอบถามท่านอาจารย์จนได้ข้อกระจ่างเป็นเรื่องไป ถ้าไม่นอกเหนือวิสัยไป

    เริ่มจาก...ที่ผมได้ฝึกกรรมฐาน “หนอ” เจริญสติเคลื่อนไหวออกเสียงกำกับ ทำบ้างไม่ทำบ้างไปเรื่อยๆ เพราะยังคิดว่าเดี๋ยว....ได้สุกขวิปัสสโก 5555 พร้อมกับการฝึกมโนยิทธิตามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...มันดีครับ บางวันลองฝึกว่าเดี๋ยวใครเดินผ่านมาผู้หญิงผู้ชายก่อน ระหว่างรอขึ้นลิฟต์ลิฟต์ด้านซ้ายขวามาก่อน...บางครั้งเล่นเอา งง คือ ความคิด กับ คำตอบของจิต มันแยกไม่ออกมั่วไปเลย ต้องมาสงบจิตใจดูว่าทำไมอะไรยังไงตลอด....

    วันหนึ่ง...ความอยากที่ตนเองจะลองเสกพระภาษาชาวบ้าน...เอาไปให้หลวงปู่ที่วัดเทพศิรินทร์สัมผัสดู...ผลโดนอย่างจังเบอร์เร่อจิตตกไปหลายวันเต็มๆ ลองใหม่ตั้งจิตใหม่ตามแนวหลวงปู่ปาน...ผลใช้ได้ เลยได้ความรู้ว่า “อยู่ที่จิตตัวเดียว” แต่จะทำอย่างไรละ เริ่มฉลาดมานิดหนึ่งแล้ว...จะนั่งสมาธิยกภูมิวิปัสสนาญาณพิจารณาอสุภะกรรมฐานก้อแล้ว ไม่เกิน100 ม.เป้กอยู่ตรงนั้น...จึงต้องกลับมาปฎิบัติ “หนอ” จริงจังขึ้นมา

    ต่อมา...ได้บอกว่าพี่ญาติธรรมท่านหนึ่งว่า มีวิธีเปลี่ยนพลังงานพระเครื่องด้วยการ นำพระผงของพี่เขาที่มอบให้ผมมาวางเป็นฝ่ามือแล้วขยับมือเคลื่อนไหวและกำกับด้วยกรรมฐาน “หนอ” ผมลองทำให้ดูซึ่งพี่เขานั่งดูตรงหน้าผม สักครู่หนึ่ง...จึงบอกผมว่า “ตั้งแต่เริ่มทำมีพลังพุ่งออกมากระทบจนแขนชาไปถึงข้อศอกเลย” ผมฟังแล้วแปลกใจ และให้พี่เขาลองจับพลังดูใหม่บอกว่า “พลังงานเปลี่ยนไปนะ สูงและเย็นขึ้น” ความสงสัยจึงโทรไปหาท่านอาจารย์ที่วัด ได้รับคำตอบว่า “ใช่แล้ว กรรมฐานหนอนี้มีผลสูงขึ้นอยู่กับผู้ปฎิบัติจะนำไปใช้” (ต่อ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...