++ร่วมแชร์เรื่องราว++หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ดุจเพชร, 22 พฤศจิกายน 2014.

  1. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ชายชราลึกลับ​


    เพื่อนพระสงฆ์ที่เคยอยู่ร่วมกันกับท่านในสมัยเป็นเณรได้เล่าว่า " หลวงพ่อวงศ์เป็นผู้มีขันติและอภัยทานสูงส่งจริงๆ " ครั้งหนึ่งท่านเคยถูกเณรองค์อื่น เอาน้ำรักทาไว้บนที่นอนของท่านในสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้า และเทียนก็หาได้ยาก ท่านจึงมองไม่เห็น เมื่อท่านนอนลงไป น้ำรักก็ได้กัดผิวหนังของท่านจนแสบจนคัน ท่านจึงได้เกาจนเป็นแผลไปทั้งตัว ไม่นานแผลเหล่านั้นก็ได้เน่าเปื่อยขึ้นมาจนทำให้ท่านได้รับทุกขเวทนามาก แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนดีมีธรรมะเมตตาให้อโหสิกรรมกับผู้อื่น ท่านจึงใช้ขันติข่มความเจ็บปวดเหล่านั้นโดยไม่ปริปากหรือกล่าวโทษผู้ใด

    ทุกครั้งที่ครูบาอาจารย์ถาม ท่านก็ไม่ยอมที่จะกล่าวโทษใครเลย เพียงเรียนไปว่า ขออภัยให้กับพวกคนเหล่านั้นเท่านั้นและขอยึดเอาคำของครูบาอาจารย์มาปฏิบัติ เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมกันต่อไปในอนาคต และเพื่อความหลุดพ้นจากวัฎสงสารแห่งนี้เข้ามรรคผลดังที่ครูบาอาจารย์ได้อบรมสั่งสอนมาด้วยความยากลำบาก เพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาเป็นคนดีและเป็นพระสงฆ์เนื้อนาบุญของพุทธบริษัทต่อไป

    ด้วยผลบุญที่ท่านได้สั่งสมมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน จึงดลบันดาลให้มีชายชราชาวขมุนำยามาให้ท่านกิน ให้ท่านทาเป็นเวลา ๓ คืน เมื่อท่านหายดีแล้ว ชายชราผู้นั้นก็ได้กลับมาหาท่าน และได้พูดกับท่านว่า " เป็นผลบุญของเณรน้อยที่ได้สร้างสมมาแต่อดีตถึงปัจจุบันไว้ดีมาก และมีความกตัญญูเคารพเชื่อฟังพ่อแม่ครูบาอาจารย์ดีมาก จึงทำให้แผลหายเร็ว ขอให้เณรน้อยจงหมั่นทำความดีปฏิบัติธรรม และเคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ต่อไปอย่าได้ท้อถอย ไม่ว่าจะมีมารมาขัดขวางอย่างไรก็ดี ขอเณรน้อยใช้ความดีชนะความไม่ดีทั้งหลาย ต่อไปในภายภาคหน้าสามเณรน้อยจะได้เป็นพระสงฆ์เนื้อนาบุญของพุทธบริษัทต่อไป "

    เมื่อชายชราผู้นั้นกล่าวจบแล้ว จึงได้เดินลงจากกุฏิที่ท่านพักอยู่ สามเณรชัยลังก๋านึกได้ยังไม่ได้ถามชื่อแซ่ของชายชราผู้มีพระคุณจึงวิ่งตามลงมา แต่เดินหาเท่าไรก็ไม่พบชายชราผู้นั้น ท่านจึงได้สอบถามผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พบเห็นชายชราเช่นนี้มาก่อนเลย นอกจากเห็นท่านนอนอยู่องค์เดียวในกุฏิ จากคำพูดของคนเหล่านี้ทำให้ท่านประหลาดใจมาก เพราะท่านได้พูดคุยกับชายชราผู้นั้นถึง ๓ คืน เหตุการณ์นี้ทำให้ท่านคิดว่าชายชราผู้นั้นถ้าไม่เป็นเทพแปลงกายมา ก็อาจจะเป็นผู้ทรงศีลที่บำเพ็ญอยู่ในป่าจนได้อภิญญา

    การกลั่นแกล้งจากพระเณรที่อิจฉาริษยายังไม่สิ้นสุดแค่นั้น บางครั้งเวลานอนก็ถูกเอาทรายกรอกปาก ถึงเวลาฉันก็ฉันไม่ได้มาก เพราะถูกพระเณรที่ไม่เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษรังแก หรือหยิบอาหารของท่านไปกิน แต่ด้วยความที่ท่านเป็นผู้มีความอดทนและยึดมั่นในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจึงอโหสิกรรมพวกเขาและใช้ขันติในการปฏิบัติธรรมรับใช้ปรนนิบัติครูบาอาจารย์ด้วยดีต่อไป

    ครูบาชัยลังก๋ามักลูบหัวของท่านด้วยความรักเอ็นดูและสั่งสอนให้ด้วยความเมตตาอยู่เสมอว่า " มันเป็นกรรมเก่าของเณรน้อย ตุ๊ลุงขอให้เณรน้อยใช้ขันติและความเพียรต่อไป เพื่อโลกุตตรธรรมอันยิ่งใหญ่ในภายหน้า เมื่อถึงเวลานั้นแล้วทุกคนที่เคยล่วงเกินเณรน้อย เขาจะรู้กรรมที่ได้ล่วงเกินเณรน้อยมา "
     
  2. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]
     
  3. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ไปวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม​

    ในระยะที่อยู่กับครูบาชัยลังก๋าๆได้เมตตาอบรมสั่งสอนวิชาการต่างๆให้แก่ท่าน เช่น ภาษาล้านนา ธรรมะ การปฏิบัติกรรมฐาน รวมทั้งธุดงควัตร ตลอดถึงการดำรงชีวิตในป่าขณะธุดงค์ ครูบา-ชัยลังก๋ามักพาท่านไปแสวงบุญและธุดงค์ไปในที่ต่างๆเสมอ เพื่อให้ท่านมีประสบการณ์ ทั้งยังเคยพาท่านไปนมัสการรอบพระพุทธบาทห้วยต้มหลายครั้ง ( วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ในสมัยก่อนนั้นชื่อว่า วัดพระพุทธบาทห้วยข้าวต้ม ) สมัยนั้นวัดนี้เป็นวัดร้างยังเป็นเขาอยู่

    ครั้งหนึ่งสามเณรชัยลังก๋าเห็นวิหารทรุดโทรมมาก จึงกราบเรียนถามครูบาชัยลังก๋า " ทำไมตุ๊ลุงถึงไม่มาสร้างวัดนี้มันทรุดโทรมมาก " ครูบาชัยลังก๋าตอบด้วยความเมตตาว่า " มันไม่ใช่หน้าที่ของตุ๊ลุงแต่จะมีพระน้อยเมืองตื๋นมาสร้าง " ขณะที่ครูบาชัยลังก๋ากล่าวอยู่นั้น ท่านก็ได้ชี้มือมาที่สามเณรน้อยชัยลังก๋าพร้อมกับกล่าวว่า " อาจจะเป็นเณรน้อยนี้กะบ่ฮู้ที่จะมาบูรณะวัดนี้ " ท่านจึงได้เรียนไปว่า " เฮายังเป็นเณรจะสร้างได้อย่างใด " ครูบาชัยลังก๋าจึงกล่าวตอบไปด้วยความเมตตาว่า " ถึงเวลาจะมาสร้าง ก็จะมาสร้างเอง "

    คำพูดของครูบาชัยลังก๋านี้ไปพ้องกับคำพูดของครูบาศรีวิชัยที่เคยกล่าวกับหม่องย่นชาวพม่า เมื่อตอนที่ท่านอายุได้ ๕ ขวบ ในครั้งนั้นครูบาศรีวิชัยได้รับนิมนต์จากหม่องย่นให้มารับถวายศาลาที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม หม่องย่นให้ขอนิมนต์ครูบาศรีวิชัยมาบูรณะวัดพระพุทธบาทห้วยต้มให้เจริญรุ่งเรือง แต่ครูบาศรีวิชัยได้ตอบปฏิเสธไปว่า " ไม่ใช่หน้าที่กู จะมีพระน้อยเมืองตื๋นมาสร้างในภายภาคหน้า "

    ท่านอยู่กับครูบาชัยลังก๋าที่วัดพระธาตุแก่งสร้อยเป็นเวลา ๑ ปี หลังจากนั้นครูบาชัยลังก๋าได้ออกจาริกธุดงค์ไปโปรดชาวบ้านที่จังหวัดเชียงราย ครูบาชัยลังก๋าได้ให้ท่านอยู่เฝ้าวัดกับพระเณรองค์อื่น ในช่วงที่ท่านอยู่วัดนี้ ท่านก็ได้พบกันครูบาศรีวิชัยเป็นครั้งแรกซึ่งท่านเคารพนับถือครูบาศรีวิชัยมาก่อนหน้านี้แล้ว

    ในครั้งนั้นครูบาศรีวิชัยได้มาเป็นประธานในการฉลองพระธาตุที่วัดพระธาตุแก่งสร้อย ในโอกาสนี้ท่านจึงได้อยู่ใกล้ชิดปรนนิบัติรับใช้ครูบาศรีวิชัยเป็นเวลา ๗ วัน การพบกันครั้งแรกนี้ ครูบาศรีวิชัยก็ได้รับท่านไว้เป็นศิษย์ตั้งแต่นั้นมา หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้ว ท่านก็ยังประจำอยู่ที่วัดพระธาตุแก่งสร้อยได้ไม่นาน เพราะทนต่อการกลั่นแกล้งจากพระเณรอื่นไม่ไหว จึงได้เดินทางกลับมาอยู่กับหลวงน้าของท่านเพื่อช่วยสร้างพระวิหารที่วัดก้อท่าซึ่งเป็นวัดร้างประจำหมู่บ้านก้อท่า ตำบลก้อทุ่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

    ในระหว่างอายุ ๑๕-๒๐ ปีนั้น ท่านได้ติดตามครูบาอาจารย์หลายองค์ และได้จาริกออกธุดงค์ ปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ ตลอดจนได้ไปอบรมสั่งสอนชาวบ้านชาวเขาในที่ต่างๆด้วยเช่นกัน ในบางครั้งก็ไปกับครูบาอาจารย์ ในบางครั้งก็ไปองค์เดียวเพียงลำพัง เมื่อมีโอกาสท่านก็จะกลับมารับการฝึกอบรมจากครูบาอาจารย์ทุกองค์ของท่านเสมอๆ

     
  4. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ชอบอ่านประวัติท่าน อ่านกี่รอบก็รู้สึกดี...

    ลป.ครูบาวงศ์น่ะ ศิษย์ของจริงของครูบาศรีวิชัย ไม่ใช่พวกมั่วแอบอ้าง ยุคนั้นจะมีครูบาขาวปี ครูบาอินปั๋น ครูบาสิงแก้ว ที่ถูกสอบวินัยสงฆ์พร้อม ๆ กับครูบาศรีวิชัย หรือภาษาพระเข้าเรียกต้องอธิกรณ์ ประมาณนี้ ยุคนี้แหละจะบอกได้ว่าใครเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย

    ผมรู้ไม่มาก ไม่ขอโม้ แต่รู้มาจากปากของครูบาอาจารย์ของผม(ครูบาวังทอง) ท่านก็อายุ 100+ สมัยท่านอยู่กับครูบา ท่านก็เกณฑ์คนเมืองยองไปช่วยงาน ท่านอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น และเล่าให้ฟังว่า... มี ลป.ครูบาวงศ์ ท่านร่วมขบวนการสร้างทางขึ้นดอยด้วย และบารมีของท่านไม่ธรรมดาเลย ดูจากชุมชนกะเหรี่ยงวัดพระบาทห้วยต้มเอาก็แล้วกัน เป็นหมื่นคน กินเจกันทั้งหมู่บ้านอีก ลป.ครูบาวงศ์ ท่านสอนและวางรากฐานไว้ดีแล้วจริง ๆ

    ครูบาวังทองยังเคยพูดให้ฟังว่า... สมัยนั้น มีทั้งพระทั้งโยมเกลียดครูบา พยายามจะขับไล่ให้ออกจากเชียงใหม่ แต่พอท่านตาย มีแต่คนบอกเป็นศิษย์ท่าน ตลก...

    มันตรงกับที่ ลป.ตื้อ ท่านบอก ลป.จามไว้ ผมขอขอบคุณพี่ JOMKAMUNG ขอคัดลอกมาให้อ่าน จากกระทู้นี้

    http://palungjit.org/9325160-post2.html

    จาก ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
    : เดินทางเสาะหาครู สู่เมืองเหนือล้านนา 2

    ๑๔๖. ผู้ข้าฯ จำวัดอยู่ในวิหารอยู่ซอกหลัง
    พระอัฏฐารส ท่านเจ้าคุณขันธิ์จัดให้อยู่ที่นั่น มีอยู่พรรษาหนึ่งได้อยู่กุฏิ แต่ภาวนาไม่ค่อยดีหากนั่งภาวนารอบเจดีย์ ซุ้มพระ วิหาร วัดเจดีย์หลวงภาวนาได้ดีแค่ ๓ ที่ เสาอินทขิล นั้นมียักษ์กับคนธรรพ์รักษาอยู่ ต้นไม้ยางมีรุกขเทวดาอารักษ์วัดอาศัยอยู่
    เขาจัดงานอินทขิลพวกยักษ์ คนธรรพ์ จะต้องมารับสังเวยแต่ก่อนสังเวยด้วยเลือดเนื้อ มาภายหลังเปลี่ยนมาสังเวยด้วยผลไม้ของหวาน ดอกไม้หอมต่าง ๆ
    ท่านเจ้าคุณจันทร์ (กุสโล) ได้นำเอาพระพุทธรูปไปไว้ให้ผู้คนได้กราบไหว้พระพุทธรูปแทนแทนที่ที่จะต้องไปไหว้ผี เทวาอารักษ์
    มีเทวดาพระโพธิสัตว์คนหนึ่งอยู่ทิศตะวันออกของเจดีย์ตรงที่แทนแท่นพระแก้ว รูปงามมีรัศมีสีทองร่างใหญ่นั่งสมาธิอยู่ชอบมาหาผู้ข้าฯ สนทนาเรื่องบารมีธรรม การบำเพ็ญพุทธธรรมเทวดาตนนี้เป็นเจ้าหลวงเมืองเชียงตุง เคยได้ทำบุญให้ทานแก่ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีฯ ไปเป็นเทวดาติดตามมาอยู่วัดเจดีย์หลวง จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑๙๐ นับแต่พระศรีอารีย์ไป (อันนี้ตัวเขาเป็นคนบอกไว้เอง)
    “ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีฯ อยู่วัดเจดีย์หลวงในตอนหลังนี้ได้ ๕ ปี เจ้านาย คุณหญิงคุณนาย ในกรุงเทพฯ อยากฟังเทศน์ธรรมต้องการที่จะทำบุญให้ท่านด้วย ขึ้นมานิมนต์ขอให้ท่านลงไปทุกปี สุดท้ายท่านก็ลงไปกรุงเทพ ลงไปแล้ว มีโยมทางลพบุรีมานิมนต์ไปเทศน์ธรรมท่านไปโปรดขณะขึ้นธรรมมาสน์หัวเข่ากระแทกกับหัวเม็ดข้างธรรมมาสน์ กระดูกหัวเข่าแตกแข้งหัก แต่ท่านก็เทศน์ไปจนจบแล้วให้โยมอุ้มลง เข้าไปรักษาตัวอยู่กรุงเทพฯ”
    เพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ได้ข่าวจึงมอบหมายให้ท่านอาจารย์แหวน (สุจิณฺโณ)ลงไปช่วยดูแล จนที่สุดไม่นานก็มรณภาพ
    ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) ว่า “จามเอ๋ย เจ้าคุณปู่ใหญ่พระอุปัชฌาย์ของผม สมณศักดิ์ก็ได้หลายตำแหน่ง
    คุณของธรรมะก็แจ้ง อาจาระก็งาม มีความรู้ความสามารถแจกอรรถแปลแก้ธรรมก็ดีมาก การปกครอง การบริหาร การวางแผนการศึกษา เข้าเจ้าเข้านายได้หมดทุกอย่าง ครูบาเจ้าศรีวิชัยก็เคารพกราบไหว้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ครูบาเจ้าศรีวิชัยมาขอนิสสัยท่านเจ้าคุณใหญ่พระอุปัชฌาย์ท่าน ก็เทศน์นิสัยพุทธให้แก่ครูบาเจ้าศรีวิชัย”



    ๑๔๗. ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) เล่าให้ฟังว่า “ครูบาศรีวิชัยท่านเทศน์น้อย แต่รู้จักความนึกคิดของผู้คน รู้ได้ใกล้ไกล เจริญแต่คาถาอิติปิโสฯอยู่เป็นนิจ ทีแรกครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) จะสอนวิปัสสนากรรมฐานบอกอุบายธรรมให้แต่เมื่อท่านเจ้าคุณพระอุปัชฌาย์ท่านให้พิจารณาจึงรู้ได้ว่า ยังไม่อาจที่จะบรรลุมรรคผลได้ แต่จักได้ด้วยตนของครูบาเจ้าเอง เป็นอิติปิโสฯ ได้เอง”
    “ พวกยางปะเก่อ พวกมูเซอ คนภูเขา แห่กันมาทำบุญกับครูบาศรีวิไชย เอาเงินเหรียญใส่กระบอกไม้ไผ่ไม้เฮี้ยะ เต็มกระบอกอัดปากกระบอก แล้วเอามาถวายครูบาศรีวิไชย
    “ พวกสูแบกอะไรมา”
    “ กระบอกเงิน”
    “ เอามาดูดู๊”
    พวกเขาเปิดปากกระบอกออกแล้วก็เทเป็นกอง ๆ “ เอามาถวายบูชาครูบาเจ้าตนบุญของหมู่ตูข้า สุดแท้แต่จะทำอันใด”
    ครูบาศรีวิไชย เป็นพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญมาอย่างรวยอุตมลาภชาติชีวิตนี้ไปไหนมาไหนก็มีผู้คนแห่แหนเอาเงินเอาปัจจัยทั้ง ๔ มาทำบุญให้ทาน เพิ่นก็เอาไปสร้างวัดได้หลายร้อยวัด ทั้งบูรณปฏิสังขรณ์และทำขึ้นมาใหม่ก่อสร้างร่างแปลน
    แต่เช้าจนค่ำคืน นั่งปันพรให้แก่ผู้เอาเงินมาให้ถวายทาน
    เทศน์ธรรมก็บอกแต่ว่า “ ให้สวดท่องอิติปิโส” สอนผู้คนชาวบ้านให้ถือศาสนารักษาศีล ๕ ศีล ๘ สอนคนก็สอนจี้ลงไปที่ใจ เพิ่นภาวนาเก่ง รู้ใจผู้คนหลายอย่าง
    ตายแล้วยังลุกขึ้นมาสร้างสะพานข้ามปิงได้แล้วเสร็จ
    พระภาคเหนือรังเกียจเพิ่นมาก แต่พอเพิ่นจากไปตุ๊คนใด๋ก็อ้างว่า
    “ข้าลูกศิษย์ครูบ๋าเจ้า”
    “ข้าก็ลูกศิษย์ครูบ๋าเจ้า”
     
  5. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]
     
  6. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    เกร็ดประวัติ อภินิหาร ครูบาวงศ์ (๔) โดย อ.เล็ก พลูโต

    เรื่องที่ ๒๔ ประทับรอยเท้าเป็นอนุสรณ์ ขณะที่ท่านช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ท่านได้ประทับรอยเท้า ลึกลงไปในหินประมาณ ๑ ซ.ม. ข้างน้ำตกห้วยแก้ว (ช่วงตอนกลางๆ ของทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้มาช่วย ครูบาศรีวิชัยสร้างทาง

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ หลวงพ่อขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ขากลับท่านได้พาไปนมัสการวัดอนาคามี (ซึ่งเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยได้มอบให้ท่านเป็นผู้ควบคุมการสร้าง ปัจจุบันทรุดโทรมหมดแล้ว) ระหว่างทาง ท่านได้พาพวกเราไปดูรอยเท้าที่ท่านประทับไว้ รอยเท้านั้นลึกลงไปในหินประมาณ ครึ่งเซนติเมตร มีรอยถูกน้ำกัดเซาะ พวกเราแปลกใจมากที่เห็นรอยเท้านั้น พอดีกับเท้าของท่านเมื่อท่านเหยียบลงไป (การประทับรอยเท้า เช่นนี้ ท่านเคยไปประทับรอยเท้า และรอยมือ ไว้บนแผ่นหิน ณ ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นอนุสรณ์ เช่นกัน เป็นที่ประจักษ์สายตาของคณะศิษย์ที่ร่วมเดินทางไปทุกครั้ง)

    รอยเท้าที่น้ำตกห้วยแก้ว ดอยสุเทพ อยู่ข้างๆ รอยเท้า ของครูบาศรึวิชัย เหยียบไว้กลางลำห้วย จะเห็นชัดเวลาหน้าแล้ง (เคยมีลูกศิษย์ได้ทำที่ครอบไว้ แต่คนใจบาปได้ทุบทำลายไป) น้ำที่ผ่านลำห้วยนี้ ก็เป็นเสมือนน้ำมนต์ที่ผ่านรอยเท้าของพระอาจารย์ทั้ง ๒ องค์ ได้อธิษฐานไว้ ส่วนรอย อื่นๆ ของครูบา ผมรวบรวมจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด และที่ผมทราบมีประมาณ ๙ แห่ง ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยชอบเล่า หรือเขียนเรื่องทำนองนี้ ไว้ในที่สาธารณะ แต่เห็นว่าไหนๆ ก็มีคนกล่าวกันมามากแล้ว ก็ เขียนไว้กับเค้าด้วย

    หมายเหตุ. รอยเท้าของครูบาที่ท่านเหยียบไว้ บางแห่งก็อยู่ในที่ไปมาลำบาก ผมเข้าใจว่า เทวดาคงขอท่านไว้ ตอนท่านยังดำรงขันธ์อยู่ ผมแทบจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เชื่อก็ดีไป ไม่เชื่อก็ลำบาก ครูบาท่านก็ไม่เคยอวดตัว แต่ละวันท่านก็สอนลูกศิษย์ทำบุญทำทาน นั่งกรรมฐาน และสวดมนต์ เท่านั้นเอง

     
  7. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  9. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    น้อมกราบครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม...
     
  10. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    น้อมกราบครูบาวงศ์ -/\-
     
  11. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ขอน้อมกราบหลวงปู่ครูบาวงศ์เหนือเศียรเกล้าครับ
     
  12. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    เกร็ดประวัติ อภินิหาร ครูบาวงศ์ (๔) โดย อ.เล็ก พลูโต

    เรื่องที่ ๒๒ พระรอดเนื้อดิน ครูบาวงศ์ คือ ว่าพระรอดรุ่นนี้ หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ท่านสร้างขึ้น เป็นพระรอดที่ดังมาก จนกระทั่งเป็นเบญจภาคีในจำนวนพระเครื่องสุดยอด ๕ องค์ ก็จะมีสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พระซุ้มกอกำแพงเพชร พระนางพญาพิษณุโลก แล้วก็ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพระผงสุพรรณ ใช่มั้ย ๕ องค์?พระรอดลำพูน สร้างขึ้นโดยฤๅษีวาสุเทพ ผู้เป็นอาจารย์ของพระนางเจ้าจามเทวี ปรากฏว่าหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ ท่านหลับๆ ตื่น นึกขึ้นมาได้ว่า ท่านเคยเกิดเป็นฤๅษีวาสุเทพ ท่านก็เลยสร้างพระใหม่ซะอีกยกหนึ่ง อย่าลืมว่าดินลำพูนแพงที่สุดนะ แค่นิ้วมือแค่นี้ตั้งหลายล้าน นั่นแหละดินที่สร้างพระรอด ตอนนี้พระรอดองค์หนึ่งหลายล้าน สมัยโน้นอาจจะไม่เก่งพอ สมัยนี้สะสมบารมีต่อมาเก่งกว่าเดิม สร้างของใหม่ก็คงจะดีกว่าเดิม

    เรื่องที่ ๒๓ ครูบาแจกพระรอด มีเรื่องเล่าเพิ่มเติมอีกหนึ่งเรื่องครับ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๖ เป็นวันเสาร์ ๕ ผมได้นั่งรถตู้จากวัดพระบาทห้วยต้ม ไปวัดมหาวันกับหลวงปู่ด้วย หลวงปู่ไปปลุกเสกพระรอด กับพระนางจามเทวี ในวันนั้นเมื่อหลวงปู่ปลุกเสกเสร็จ หลวงปู่ก็เดินออกจากโบสถ์ไปที่รถตู้ โดยหลวงปู่ถือไม้เท้าโดยใช้มือทั้งสองจับไม้เท้าทั้งสองข้าง ตามแบบฉบับของหลวงปู่ ดังที่เราเห็นกันจนชินตา โดยมีลูกศิษย์ติดตามมาส่งหลวงปู่ถึงรถกันจำนวนหนึ่ง เมื่อหลวงปู่เข้าไปนั่งในรถ ก็ปล่อยมือที่ถือไม้เท้าทั้งสองข้างออก โดยเอาไม้เท้าวางไว้ข้างๆ ขณะนั้นลูกศิษย์ต่างก็กราบหลวงปู่กัน

    มีคนหนึ่งเอ่ยปากขอพระรอดกับหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยื่นมาให้องค์หนึ่ง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ขอพระรอดกับหลวงปู่บ้าง หลวงปู่ซึ่งขณะนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็ใช้มือไปเอาพระรอดที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายท่าน ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ซึ่งก็ไม่ทราบว่าหลวงปู่ไปนำพระรอดมาได้อย่างไร เพราะที่ๆ หลวงปู่เอามือไปแตะไม่น่าจะเก็บพระรอดได้ และหลวงปู่ก็ไม่ได้กำพระมาจากไหนแน่นอน เพราะหลวงปู่ท่านกำไม้เท้ามา บริเวณส่วนของร่างกายที่ท่านเอามือไปแตะ ก็ไม่มีที่ใส่ของ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ผมก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน จำภาพได้ติดตาว่า เห็นมือหลวงปู่อยู่ตรงหน้า ผมมองหน้าหลวงปู่ หลวงปู่ก็ยิ้มแล้วแบมือออก ปรากฏว่ามีพระรอดหล่นมาจากมือหลวงปู่หนึ่งองค์ วันนั้นหลวงปู่คงต้องเรียกพระรอดมาหลายองค์เลยครับ เรื่องแบบนี้ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ทราบกันดีครับ

    ตอนที่ไปวัดบ้านปาง เพื่อไปหารอยเท้าท่านบนหิน ว่าจะยกกลับมาวัดห้วยต้ม เพราะไม่มีคนสนใจ ครูบาให้ไปแจ้งเจ้าอาวาสก่อน ตอนนั้นหลวงพ่อมหาจรูญ เป็นเจ้าอาวาส นั่งคุยกันเรื่องพระรอดครูบา มหาจรูญบอก...มีนายธนาคารคนนึง มาขอพระรอดจากครูบา แต่ท่านก็ไม่ได้ให้ไว้...

    อย่างที่ทราบ บางคนท่านก็ให้ บางคนท่านก็ไม่ได้ให้

    มีลูกศิษย์อีกคน มาเล่าเรื่องให้ฟัง ตอนประมาณปี ๒๕๒...กว่า เค้าบอกว่า ครูบารับนิมนต์ไปวัดที่ชลบุรี ถ้าจำไม่ผิด วัดนอก?? ไปงานพุทธาภิเษก เค้าบอกว่า หลังงานเสร็จ มีคนมาขอวัตถุมงคลจากท่าน ครูบาล้วงเอาพระเนื้อผงในย่ามแจก มีอยู่คนนึงมาขอ แต่พระของครูบาหมด ท่านหยิบส้มให้แทน เค้าเล่าว่า ครูบาบอก ลองดูซิ พระอาจจะอยู่ในส้ม โยมคนนั้นแกะส้มออกมา เจอพระรอดข้างในจริงๆ
     
  13. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    [​IMG]
     
  14. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    น้อมกราบองค์หลวงปู่ครูบาวงศ์ ครูบาอาจารย์อีกรูปที่กระผมเคารพรักครับ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124


    น้อมกราบองค์หลวงปู่ครูบาวงศ์...
     
  16. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    ติดตามอ่านครับ...ขอขอบคุณที่ตั้งกระทู้ของครูบาวงษ์ให้ได้ติดตามครับ...:cool:
     
  17. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    สาธุๆๆ ไหว้สาตุ๊เจ้า

    เรื่องพระรอด ผมได้ยินจากศิษย์พี่ผมเหมือนกัน คล้ายเรื่องผลส้ม

    มีคนไปพระรอดกับท่าน ลป.ท่านให้นมหนองโพมา1กล้อง บอกว่าพระอยู่ในนี้ ไอ้คนรับมาก็ฮา นึกว่า ลป. พูดเล่น ที่ไหนได้ กินนมหมดกล่อง เขย่าดูดัง กรุกๆๆ เหมือนในกล่องนมมีอะไรอยู่ พอฉีกกล่องออกเจอพระรอดเฉยเลย ฮาไม่ออก แจ้นกลับไปขอ ลป. ท่านอีก ท่านบอกว่า "ขอองค์เดียวไม่ใช่เหรอ" ....
     
  18. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    เมืองลำพูนไม่ธรรมดา เที่ยววัดในตัวเมืองก็เป็นวันแล้ว นั่งรถราง ช่วงก่อนพาครอบครัวไปเที่ยวเหมารถตู้ไป สนุกมาก ถ้าคนที่ชอบเที่ยววัดนะ ศรัทธาของชาวกระเหรี่ยงที่มีต่อครูบาสุดยอดมาก หมู่บ้านศีลห้าอย่างแท้จริง ประทับใจมาก เหตุที่ต้องไปลำพูนเพราะว่าขอบารมีครูบาศรีวิชัย ตอนพ่อข้าพเจ้าไปผ่าตัดหัวใจ ก็ไปพระบาทห้วยต้มที่แรก วัดที่ไม่ได้เข้าก็คือวัดพระธาตุดวงเดียว แบบใกล้กันมากกับวัดพระธาตุห้าดวง ชาวประชาพากันหน้ามืดหิวกาแฟ ไม่มีขายเลย ขับรถเลยอยู่ที่นึงต้องวกกลับไปกิน ไม่พอน้องสาวเราไปลืมมือถือจนเจ้าของร้านโทรตามอีก เลยไปรอที่วัดบ้านปาง แล้วให้คนขับรถตู้กลับไปเอาให้ เป็นการเดินทางที่ประทับใจมาก อยากให้ทุกคนได้ไปเยือน วัดพระบาทห้วยต้ม เณรน้อยน่ารักมาก รู้หน้าที่เก็บดอกไม้บูชา เชิญทุกท่านสัมผัสดินแดนสัมปายะเถิด
     
  19. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    อ่านไปนึกภาพตามไปเหมือนได้ไปเที่ยวเมืองลำพูนเลยครับ ว่างๆก็มาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ
     
  20. ดุจเพชร

    ดุจเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2014
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,456
    ใครได้พระรอดจากหลวงปู่ถือว่าโชคดีสุดๆเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...