คุณคิดว่า ufo อาจใช้พลังงานจากแสงในการขับเคลื่อนเป็นไปได้ไหม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย KasroK, 15 ธันวาคม 2014.

  1. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    เพราะในหนังหรือในผู้ที่พบเห็นufoก็มักจะมีแสง ดังนั้นผมจึงคิดว่าการขับเคลื่อนของยานอาจจะใช้พลังงานจากแสงก็เป็นได้ หรือในรูปที่มียาน ufo มาดูดสิ่งมีชีวิตบนโลกขึ้นไปบนยาน ถ้าดูดสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของขึ้นไปได้แล้วทำไมจะใช้ขับเคลื่อนยานไม่ได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 247362838.jpg
      247362838.jpg
      ขนาดไฟล์:
      735.6 KB
      เปิดดู:
      2,549
    • images (3).jpg
      images (3).jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.6 KB
      เปิดดู:
      214
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  2. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    แสงเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง มีความสามารถที่จะทำงานได้ นอกจากนั้นยังเปลี่ยนเป็นพลังงาน รูปอื่นได้ (ดูเรื่องพลังงาน) สิ่งที่สนับสนุนให้เห็นว่า แสงเป็นพลังงาน คือ กังหันแสง (radiometer)
    กังหันแสดงในภาพนั้น ประกอบด้วยแผ่นโลหะเบามากสี่แผ่น ยึดติดกันด้วยก้านโลหะ และแขวนติดกับแกนหมุน ซึ่งบรรจุภายในกระเปาะแก้ว แผ่นโลหะนี้มีสองด้าน ด้านหนึ่งฉาบสีดำ อีกด้านหนึ่งฉาบสีเงิน ด้านที่ฉาบสีเดียวกันหันไปทางเดียวกัน
    เมื่อแสงส่องไปที่แผ่นโลหะนี้ มันจะหมุนได้ทันที นี่แสดงว่าแสงทำงานได้

    ดังนั้น แสงจึงเป็นพลังงาน https://www.youtube.com/watch?v=cey-JBeHrww มันอาจจะต้องใช้ปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องด้วยก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • l1-184a.jpg
      l1-184a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.7 KB
      เปิดดู:
      258
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  3. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    เขาบอกว่าแสงไม่สามารถผ่านวัตถุทึบแสงได้มันก็จริง แต่ วัตถุที่ทึบแสงผ่านแสงได้ ถ้าแสงอยู่รอบๆวัตถุทึบแสงนั้น ผมคิดเล่นๆนะ ถ้าสมมุติว่าแสงสามารถเดินทางผ่านวัตถุทึบแสงได้ละโดยผ่านมาจากวัตถุทึบแสงในรูปแบบเงาโดยใช้เงาแทนแสงที่มองไม่เห็นเป็นไปได้ไหม55
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  4. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    ที่ผมต้องคิดตอนนี้ก็คือมนุษย์นำสิ่งประดิษฐ์รับแสงมาเป็นพลังงานได้ ในทางกลับกันถ้าผมคิดได้ว่าทำยังไงถึงนำสิ่งประดิษฐ์เข้าไปในแสงได้ มันน่าจะมีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น
    แต่ที่ผมคิดได้ตอนนี้คือแสงทำได้แค่ลอกเลียนแบบเป็นที่ส่งข้อมูลสิ่งๆนั้น เช่น กล้องส่องทางไกล กล้องถ่ายรูป เครื่องสแกน โดยวัตถุนั้นมีแสงเป็นตัวช่วยส่งข้อมูลมาถึงตัวรับอีกทีนึง
    ช่วยผมคิดหน่อยจะทำยังไงดีที่จะเอาวัตถุรวมกับแสงแล้วเคลื่อนย้ายไปด้วยกันได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  5. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    แบบธรรมดาก็มีนะครับ แล้วก็ไม่ได้เคลื่อนที่เป็นแบบดวงแสงอย่างเดียวด้วย เคยศึกษาและสรุปเรื่องนี้ไว้ว่าอาจจะเป็นระบบการเคลื่อนที่ได้ 3 ระบบ

    ระบบแรกอาศัยแรงต่างๆ เป็นตัวกระทำ อย่างเช่น เครื่องบินอาศัยอากาศเป็นแรงยก หรือรถแม่เหล็กไฟฟ้าก็อาศัยสนามแม่เหล็กเป็นแรงผลักให้ยกขึ้น ลักษณะนี้จะเกิดการเคลื่อนที่โดยอาศัยแรงทางกายภาพเป็นหลักเสมอ รวมถึงแรงแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เพราะสนามแม่เหล็กยังจัดอยู่ในแรงภายนอกเหมือนกับเราผลักสิ่งของเช่นกัน

    ระบบที่สองเป็นการอาศัยช่องว่างในระบบการทำงานของธรรมชาติที่เป็นส่วนของการแสดงตำแหน่ง ตัวอย่างเช่นไฟกระพริบเป็นแถว ถ้าทั้งแถวกระพริบมั่วไปมาก็จะไม่เห็นรูปแบบการเคลื่อนที่ แต่ถ้ามีการกระพริบติดที่ละดวงและดับไล่ลำดับไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นเป็นการเคลื่อนที่เช่นกัน ระบบธรรมชาติในชั้นนี้สามารถควบคุมด้วยสนามพลังงานแม่เหล็กและสนามพลังงานอื่นๆ ที่สามารถจัดเรียงให้อยู่ในองศาที่ถูกต้องจนทำให้การกระพริบในระบบเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยจากแรงทางกายภาพ เหมือนกับเราลากเส้นการเคลื่อนที่ได้เลย โดยไม่ต้องสร้างปัจจัย

    ระบบที่สามเป็นการควบคุมระบบธรรมชาติในชั้นแรกสุดของระบบคือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลตำแหน่งการเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ในลักษณะนี้ไม่ใช่การเคลื่อนที่ แต่เป็นการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุธาตุโดยตรงโดยไม่อาศัยปัจจัยอะไรเลย ผลที่เกิดขึ้นในภาพที่เราเห็นจะเป็นลักษณะของการวาร์ปถ้าเทียบกับความรู้ของมนุษย์เราตอนนี้ เหมือนกับหายไปโผล่อีกที่นึงได้เลยทันทีทันใด

    ที่นี้ลองวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของ UFO ที่ว่าในลักษณะเป็นแสง แสงที่ปรากฎอาจจะเกิดจากสนามพลังงานรอบๆ ตัวยานก็ได้ ซึ่งการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงโดยไม่เกิดแรงเสียดทานอาจจะต้องอาศัยเกราะพลังงานป้องกันพื้นผิวของยานไม่ให้สัมผัสกับอากาศหรือพื้นที่ภายนอกโดยตรง ผลคือจะเกิดเป็นแสงพาสม่าที่เกิดจากโมเลกุลของอากาศแตกตัวคลายพลังงานออกมาในรูปแบบของแสงก็ได้ ซึ่งการเคลื่อนที่แบบนี้ก็ยังอยู่ในระบบการเคลื่อนที่แบบที่สองอยู่

    ส่วนอีกแบบถ้า UFO เป็นก้อนแสงทั้งลำจริงๆ เป็นไปได้ว่าระบบการเคลื่อนที่แบบนี้อาจจะเป็นการเป็นระดับพลังงานเสถียรของทั้งตัวยานให้อยู่ในรูปแบบอื่น ซึ่งอาจจะหมายถึงการเปลี่ยนวัตถุทั้งยานให้กลายเป็นพลังงานทั้งลำ ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการเคลื่อนที่ในแบบที่สาม เพราะสามารถเคลื่อนโดยการเปลี่ยนตำแหน่งชั้นข้อมูลโดยตรงได้ผลคือสามารถวาร์ปหายไปโผล่ยังเป้าหมายได้ทันที โดยไม่สนใจสิ่งกีดขวาง

    UFO เดินทางด้วยความเร็วขนาดไหน ก็ลองดูระยะห่างระหว่างดวงดาวดูก็ได้ครับ ว่ามันห่างไกลชนิดที่แทบจะมองไม่เห็นกันเลย ระยะทางไกลขนาดแสงเดินทางเป็นปีได้ และระยะที่ห่างไกลที่สุดเท่าที่เราจะวัดได้ในเอกภพก็ปาเข้าไป 13,500 ล้านปีแสง ซึ่งแน่นอนว่าเอกภพกว้างกว่านั้นอีก ถ้า UFO เดินทางได้แค่วินาทีละ 10-20 ปีแสง อาจจะเดินทางไปไหนได้ไม่ไกลนัก เอาแค่แกแลคซี่เรากว้างประมาณ 100,000 ปีแสง ถ้าเดินทางด้วยความเร็วแค่ 10-20 ปีแสง ยังต้องใช้เวลาเป็น ชม. ถ้าเป็นเราจะรอไหวไหม ดังนั้นความเร็วพื้นฐานอย่างต่ำๆ ก็น่าจะเกิน 100 ปีแสงต่อวินาทีขึ้นไป ถึงจะช่วยให้การเดินทางในอวกาศเป็นไปได้ หมายถึงเดินทางข้ามแกแลคซี่

    ไม่ได้นั่งเทียนมั่วเอาเองนะครับ กว่าจะสรุปได้แบบนี้ก็นานพอดู เรื่องโลกๆ มีให้เราได้อึ่งกันทั้งชาติก็ไม่หมด ถ้าเรายังคิดว่าโลกนี้จริงสำหรับเราคนเดียว
     
  6. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    เคยดูหนังเกี่ยวกับจานบิน มนุษย์ต่างดาวเค้าจะมีแท่งพลังงาน แท่งพลังงานนี้จะเรืองแสงได้ และให้พลังงานในการขับเคลื่อนจานบิน บินจากดาวของเขามาดาวโลกก็แค่แปล๊บเดียวเองโดยผ่านรูหนอนของกาลเวลา แท่งพลังงานที่ว่านี้ไม่มีในโลก

    อยากเรียนรู้เรื่องพวกนี้ก็ลองค้นดูจากยูทูปหรือดูหนังประเภท syfy นิยายอิงวิทยาศาสตร์ก็ได้ บางครั้งเขาก็สร้างอิงมาจากเรื่องจริง
     
  7. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    ผมเห็นด้วยกับคุณ GenetionXXX นะครับ ยานอาจใช้ระบบที่สามในการขับเคลื่อนโดยเปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงาน เมื่อเปลี่ยนแล้วก็เข้าสู่ในรูปพลังงานซึ่งมันก็สอดคล้อง ว่าอาจจะใช้สนามแม่เหล็ก และ รูหนอนได้เพราะอยู่ในรูปพลังงานเหมือนกันแล้ว บางคนอาจสงสัยว่าตอนกลางคืนไม่มีแสงแล้วยานเคลื่อนที่ยังไง ผมคิดว่าแสงมีอยู่ตลอดเวลาและทุกทิศทางเพียงแต่มนุษย์ใช้สายตาเป็นตัววัดเท่านั้นเอง แท้จริงแล้วทำไมสัตว์บางชนิดถึงมองเห็นได้ดีทั้งที่ไม่มีแสงไม่นั้บพวกที่ใช้โซนาร์ในการมอง
    และยานที่ไม่มีแสงเราก็จะไม่เห็นในตอนกลางคืนแต่จะเห็นตอนกลางวันเพราะกลางวันมีแสงยานจึงไม่จำเป็นต้องมีแสงหรืออาจจะมี เป็นไปได้เหมือนกันใช่ไหมคับอาจเปรียบเช่น หลอดแบคไลท์ (Black lights) เมื่อเปิดจะไม่เห็นแสงถ้าที่นั้นสว่าง แต่ถ้าที่นั้นมืดจะเห็น ผมคิดว่ายานอาจใช้หลักการสลับกันของแสงเหมือนกับแผ่นกังหันแสงที่มีสีเงินและสีดำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2014
  8. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    ลองหาหนังสือ 3 เล่มคือ มนุษย์ต่างดาวยึดโลก วิธียุติสงครามจักรวาล และ เจ็ดพิภพจักรวาล ของสำนักปู่สวรรค์ บางแค ยังพอมีเหลือ ออกวางตลาดมาก่อนเกิดกระแสร์จานบินหรือมนุษย์ต่างดาวเสียอีก

    เขาไปกันถึงไหนแล้ว มีข้อมูลแม้นาซ่ายังงง รู้ไว่ใช่ว่านะ.......55555
     
  9. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    คุณตราใจช่วยเล่าให้ฟังแบบย่อๆได้ไหมคับ เอาตอนที่นาซ่าเขางงอะ พอดีผมไม่รู้ว่ากระแสจานบินมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมพึ่งจะมาสนใจไม่กี่ปีมานี่เอง เพราะผมมีโอกาศเห็นครั้งนึงหลังจากได้สนใจเรื่องนี้ อีกอย่างหนังสือก็นานมากแล้วที่คุณตราใจบอกในกระทู้นู้นว่า มีหนังสือ 3 เล่มที่ออกวางตลาดนับสิบๆปีแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2014
  10. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    https://www.youtube.com/watch?v=LAdj6vpYppA

    มีคนเคยคิดแบบนี้หลายปีแล้วเหมือนกัน ลองดูตัวอย่าง
    วีดีโอแสดงผลการทดลองการใช้แสงเลเซอร์ยิงให้พลังงาน
    แก่วัตถุเพื่อส่งให้ลอยขึ้นไปในอากาศนี้ดูสิครับ
     
  11. nat_cool

    nat_cool สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +10
    สุดยอดเลย เพิ่งเคยเห็นวิธีนี้ครับ
     
  12. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2014
  13. Nakashima Michiko

    Nakashima Michiko สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
  14. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ต้องปรึกษาเทพแสงดู
     
  15. snakejoke

    snakejoke เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +699
    ผมก็มโนไปว่า ถ้าคนเราสามารถแยกจิตออกจากกายและทำให้จิตที่แยกสามารถมีความเร็วมากกว่าแสง จะสามารถแทรกกาลเวลา ไปทราบอดีต อนาคตหรือไปยังต่างจักรวาลได้ แต่นั่นคือไม่ได้เอากายหยาบไป แต่ถ้าจะเอากายหยาบ คงใช้กระบวนการเครื่องอุปกรณ์กระมัง เช่นเครื่องแยกมวลสารให้เป็น อะตอม โมเลกุลที่เช็กละเอียดระดับที่สามารถส่งไปยังต่างจักรวาลที่ไกลโพ้น ด้วยความเร็วแสงหรือมากกว่า ตามแต่นวตกรรมของดาวใดๆๆสร้างได้ ไหมนะ

    มโนไปว่า 60-100ปี โลกคงมีใครสร้างได้กระมังคร๊าบ

    นานๆมาแวะทักทายในบอร์ดครับ
    อนันแห่งจิตตะกุศลดาราจักรธรรมจักรวาลกาลอนัน สาธุ
     
  16. badboy_cyber

    badboy_cyber รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +173
    สุดยอดเลย เพิ่งรู้น่ะเนี่ย!!!
     
  17. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • download.jpg
      download.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.1 KB
      เปิดดู:
      110
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2015
  18. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    https://www.youtube.com/watch?v=SJEYFwJil-0
    คลิปด้านบน คือสารคดียานตกที่รอสเวล และตั้งแต่นาที ที่ 9 เขาได้บอกสัญลักษณ์ต่างๆ
    ที่ค้ลาย ในคลิปวีดีโอที่สอง ด้านล่างนี้
    https://www.youtube.com/watch?v=1CVP_STkCfw บางทีสัญลักษณ์พวกนี้อาจจะสื่อถึงกลไกของยานก็ได้ https://www.youtube.com/watch?v=UnOG0oMfLr0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ufo.jpg
      ufo.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.9 KB
      เปิดดู:
      150
    • ufo3.jpg
      ufo3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.9 KB
      เปิดดู:
      128
    • ufo1.jpg
      ufo1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83 KB
      เปิดดู:
      157
    • ufo2.jpg
      ufo2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150.6 KB
      เปิดดู:
      116
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2015
  19. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    เรือใบสุริยะ ขับเคลื่อนด้วยกระแรงดันของลมสุริยะครับ ซี้งเกิดจากพายุสุริยะครับ ส่วนยูเอฟโอใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์ขนาดเล็ก สร้างสนามไฟฟ้าขึ้นรอบตัวยาน และเดินทางข้ามอวกาศโดยใช้การแปรสภาพ สสาร เป็นคลื่นหรืออนุภาค แล้วแปรกลับมาเป็นสสาร อีกที ปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว ที่ออสเตเรีย มีการวิจัย โดยส่งผลแอปเปิล จากเครื่องมีลักษณะคล้ายเตาไมโครเวฟ ส่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ผลปรากฏว่า สามารถทำได้จริง การค้นพบนี้เป็นผลงานสิทธิบัตร ของออสเตเรีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015
  20. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    เรือใบสุริยะ ขับเคลื่อนด้วยโฟตอนของแสงสุริยะครับ ซึ่งเกิดจากแสงของดวงอาทิตย์ครับ ลองหาข้อมูลอ่านดูได้ครับ http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/howstuff1/solar-sail/solar-sailthai1.htm ถ้ารอแต่ลมสุริยะอย่างเดียวนานๆจะเกิดสักครั้งนึง แต่เขาบอกว่าสามารถเดินทางได้เรื่อยๆคุณ java108 ลองอ่านดูนะคับ

    ที่บอกว่าออสเตรเรียได้ส่งผลแอปเปิ้ลไปอีกที่นึงได้ผมขอข้อมูลหน่อยคับ ผมว่าถ้าได้จริงๆออสเตรเรียควรจะเก็บเงียบเป็นความลับนะครับเพราะถ้ามีชาติมหาอำนาจรู้จะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้ อาจจะนำไปใช้ในทางที่ผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...