กรรมสนอง@แรงอธิษฐาน

เขาบอกคนตายที่ไม่เคยสร้างกุศลเมื่อเป็นคนตายไปจะเป็นวิญญาณเร่ร่อน ไม่ได้ไปผุดไปเกิดจริงหรือป่าวค่ะ
แล้วก็จะมีบุคคลอีกประเภทหนึ่งคือตอนเป็นคนเป็นๆชอบจับผิดคนอื่นไม่ดูตัวเองประเภทว่าตัวเองทำอะไรดีและถูกไปหมดอาศัยว่ามีพวกมากชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นอยู่เสมอทั้งที่ความจริงเป็นยังไงก็ไม่รู้เอาเขาไปพูดเสียๆหายๆให้คนอื่นเขาเสื่อมเสีย. เคยอ่านเจอเขาว่าคนปากพล่อยๆพวกนี้มักจะมีลมหายใจที่เหม็น บ้บ้างก็เป็นโรคพวกโรคในช่องปากเรื้อรังรักษาไม่ค่อยหาย.. อันนี้เท่าที่เคยเจอก็ท่าจะจริงเหมือนที่ในหนังสือเขียนค่ะ..นี่คือตอนที่คนคนนั้นมีชีวิตอยู่แต่ชีวิตหลังความตายไม่รู้เป็นยังไงค่ะ..
.… แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าคนที่เขาถูกใส่ร้ายได้ตั้งสัตย์อธิษฐานต่อหน้าองค์พระพุทธรูป ..และพระแม่ธรณีให้เป็นพยานต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหากเขาไม่ได้มีจิตคิดร้ายตามคำนินทาใส่ร้ายขอให้ชีวิตเขามีแต่สุขและความเจริญ… และขอให้ผู้ใส่ร้ายป้ายสีเจอแต่ความอัปมงคล ทำมาหากินไม่ขึ้น..มีแต่ปัญหาชีวิต..ให้แพ้ภัยตนเองคำอธิษฐานนั้นจะมีผลต่อผู้มีจิตริษยาชอบใส่ร้ายคนอื่นบ้างหรือเปล่าค่ะ

 

การพูดสาปแช่งใคร เท่าที่รู้ ทั้งคนสาปและคนถูกสาป จะรับกันไปคนละครึ่งค่ะ

แรงจิตที่สาปแช่งพวกนี้รุนแรงนะค่ะ ยิ่งจิตอาฆาตมากยิ่งรุนแรง

และเท่าที่รู้คำสาปพวกนี้เป็นผลจริงค่ะ

 

คนที่ถูกกระทำบางทีเขาก็โมโหนะค่ะ
คำว่าอภัยพูดง่ายนะค่ะ
แต่ทำยากมาก..
บางทีพูดกับคนมันพูดไม่รู้เรื่อง ก็อยากให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้รับรู็ถึงความบริสุทธ์ใจ. เป็นบรรยากาศอึดอัดค่ะ
เหมือนคำสาบาน ถ้าคนที่สาบานเขาไม่ได้ทำไรผิดต้องรับโทษด้วยเหรอค่ะ

 

ขนาดคำสาบานเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ดื่มน้ำพิพัฒสัตยา จะไม่ทรยศ คิดคดทรยศต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าผิดคำสาบานให้มันอันเป็นไปต่าง ๆ นา ๆ
สรุปแล้วทุกคนอยู่สุขสบาย ร่ำรวย ไม่เห็นมีโทษอะไร เปรียบเทียบกับคำอธิษฐานของคุณแล้วต่างกันมาก ผมว่าไม่น่าส่งผลอะไรเลย

 

คนพวกนี้ชอบตามราวีคนอื่นไม่เลิกลาค่ะเหมือนปลิง เหมือนยุง ไม่รู้ไม่มีอะไรทำหรือเปล่าคอยจ้องแต่จับผิดกับหาเรื่องใส่ร้ายคนอื่น.

 

เห็นด้วยนะค่ะ
บางครั้งพาลคิดว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน
ทำชั่วพวกมากลากกันได้ดีถมไปค่ะ

 

เขาอิจฉาคุณ

 

กรรมทางวาจามีผลร้ายแรงมาก การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดีจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
หรือไปพูดทำลายความหวังต่าง ๆ ของเขาถ้ารู้ตัวให้หยุดเสียถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสียกรรม
ไม่สนองแต่ในชาตินี้ พอตายลงไปยังต้องไปใช้กรรมยังนรกตามขุมต่าง ๆ อีก
" ความหมายว่าคนดีไม่ตีใคร ไม่ใช่เอาไม้
หรือของแข็ง ๆ ไปตีเขา แต่ท่านไม่ให้พูดจาไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียหายและ "ทุกข์ใจ"เบื้องหน้าหลังตายจากความเป็นมนุษย์ หากกรรมที่ชอบใส่ร้ายชาวบ้านมีน้ำหนักล้ำหน้ากรรมอื่นๆ ก็จะไปเสวยอัตภาพอันน่ารังเกียจ และตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเสียดแทง เร่าร้อนทรมาน เพราะจิตที่คิดประทุษร้ายด้วยการใส่ไคล้นั้น มีลักษณะเสียดแทง ต้องการให้ผู้ถูกใส่ไคล้เดือดร้อนในทางใดทางหนึ่ง นี่คือกฎธรรมดา จิตมีกิริยาในการก่อเหตุอย่างไรก็เท่ากับเข้าไปยึดภพแห่งความเป็นเช่นนั้น ภพที่ต้องรับผลทำนองนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ..... เศษของกรรมที่ใส่ร้ายคนอื่นจนติดเป็นนิสัยนั้น ถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลรูปชีวิตที่ไม่ดี ไม่น่าพอใจ กล่าวคือมีอายุสั้น มีผิวพรรณทราม ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องไม่เป็นสุข และเป็นผู้มีกำลังน้อย....
.มูลรากของการใส่ร้ายมา จากอคติ อคติมีบ่อเกิดมาจากความเกลียดชังและความริษยา.....
เช่น.บางคนชอบว่าลูกคนอื่น… สอนว่าถ้ามีลูกชายเวลามีแฟนก็ให้เอาเปรียบผู้หญิงได้ให้สูบเงินผู้หญิงมาให้หมด…
ผลกรรมก็เห็นได้อย่างรวดเร็วลูกสาวของเขาตั้งท้องทั้งที่อายุยังน้อยและยังเรียนไม่จบค่ะ

 

ผู้ชายเจ้าชู้ชอบเอาเปรียบผู้หญิงก็มักจะมีลูกเป็นผู้หญิง…และต้องอยู่กับความหวาดระแวงกลัวคนอื่นจะมาเอาเปรียบลูกสาวเหมือนที่ตนเคยทำไว้กับผู้หญิง…

 

เมื่อจิตดับ ก็เป็นดวงวิญญาณที่ไปตามทางของแต่ละท่าน ตามผลของบุญและกรรมที่ได้กระทำมา หากต้องไปรับกรรมก่อน เมื่อกรรมหมด ก็มารับผลบุญ เรื่องอย่างนี้ รู้หรือไม่รู้ จริงหรือไม่จริง ก็อย่าไปคิดถึงผลของมัน แล้วก็ทำตามจิตที่หวาดกลัว
ให้เรายึดเราทำตามธรรมชาติของตัวเราเอง เข้าใจในเรื่องของบุญและกรรมด้วยตัวเราเอง ประพฤติไปตามความเข้าใจของตัวเราเอง แล้วอะไรจะเกิด ก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องไปคาดเดา หรือเตรียมทำบุญล่วงหน้าอะไร
การอธิษฐานขอพรต่างๆ จากองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า หรือทวยเทพต่างๆ มักไม่ควรให้ร้ายต่อผู้ใด เพราะท่านเป็นผู้หลุดพ้นไปแล้ว จะไม่มายุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องแบบนี้อีก แต่ใจของเราที่คิดให้ร้ายคืนแก่ผู้อื่นเขา จนถึงมาอธิษฐานขอนั้น ก็ลองไตร่ตรองให้ดี ว่าทำแล้วดีหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่อย่างไร

 

ผมว่าจริงครับ แต่อาศํยเวลาหน่อย ที่ทำงานผมเงินในลิ้นชักเก็บเงินหาย ประตูก็ไม่มีรอยงัด ลิ้นชักไม่แน่ใจนะ เพราะผมไม่เห็นเหตุการณ์ จึงทำให้ผู้ดูแลเงินตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะถือกุณแจลิ้นชักแล้ว ยังถือกุญแจประตูด้วย สมมุติเธอชื่ออ้อยนะครับ แต่อ้อยก็บอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนเอาไป มีการสาบานด้วยการจุดธูปเทียนต่อหน้าพระพุทธรูปและกล่าววาจาสาปแช่ง แต่จุดสำคัญผมไม่เชื่อว่าเธอเอาไปหรอก เพราะเธอต้องชดใช้อยู่แล้ว แต่มีพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือได้ทั้ง วัยวุฒิและคุณวุฒิเพศหญิง ยืนยันว่าเห็นอ้อยมาไขกุญแจห้องในวันหยุด ผมสมมุติว่าเธอชื่อศรีนะครับ ศรียืนยันว่ามีคนนั้นเห็นคนนี้เห็นเป็นพยานด้วย แต่พยานทุกปากบอกว่าไม่มีใครเห็นอ้อยในวันหยุด ศรียังตามไปต่อว่าอ้อยถึงที่พักอีกด้วยคำพูดแบบนี้ แต่อ้อยก็ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็นที่มาของคำสาบาน ผ่านไปเป็นปีถึงจับคนที่ขโมยเงินที่แท้จริงได้ อ้อยถึงพ้นผิด แม้แต่ผมเองก็ยังคิดว่าอ้อยเอาเงินไปเลยเพราะศรียืนยัน ศรีขอโทษอ้อยสักคำไม่มี ทำเหมือนไม่เคยปรักปรำคนอื่นเขาให้ทุกข์ ผ่านไปสักหน่อยลูกสาวศรีมีหนุ่มมาขอหมั้นหมาย ไม่เกินหกเดือนเขามาขอถอนหมั้นซะงั้นและมีการฟ้องร้องเรื่องสินสอดของหมั้นกันด้วย ลูกชายคนโตก็มีเมียแต่ไม่เอาแม่ ผลาญไปเยอะ ลูกชายคนเล็กเหมือนเพี้ยนๆ ขโมยชุดชั้นในเพื่อนบ้านให้ได้อายกัน เรียนไม่จบอยู่กับพ่อแม่ เวลาผ่านไปครอบครัวศรีย้ายไปอยู่ที่อื่นแต่ศรียังเข้ามาในที่ทำงานเก่าบ้าง พอใครถามถึงลูกๆปุ๊บน้ำตาเธอพราวเลย บรรยายความทุกข์พร้อมน้ำตา ผมเดินหนีเลย ทำให้นึกถึงคำปรักปรำ คำสาบานคำสาปแช่งว่าถ้่าอ้อยไม่ได้เป็นคนผิดขอให้ศรีอย่าได้มีความสุขความเจริญตลอดจนลูกหลาน ใครว่าคำสาบานไม่เป็นจริง ผมเชื่อว่าเป็นจริงครับ ที่สำคัญไอ้คนที่จัดเอาพระพุทธรูปมาให้สาบาน เจ้ากี้เจ้าการทำไมยังไม่ฉิบหายสักที เพราะเป็นหน้้าที่ของตำรวจ เห็นเงียบนี่เวลาจับขโมยตัวจริงได้ ขอโทษอ้อยสักคำไม่มี

 

สาธุธรรมค่ะ แต่ละคนมีกรรมเป็นของตัวเองค่ะ ที่เขายังไม่เป็นอะไรก็เพราะบุญเกื้อหนุนเขายังมีอยู่ ที่เขาแย่ก็เพราะกรรมเขาตามทัน

 

… .ค่ะทางเรา
อยากให้ชีวิตไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนประเภทนี้อีกเลยค่ะ… .อยากอยู่อย่างสงบ แต่ก็รำคาญใจที่โดนรังควญให้หงุดหงิดอยู่เรื่อยค่ะ

 

****************************
ทําบุญ พยายามถือศีลห้าให้แน่นๆ ทําสมาธิทุกๆวัน(นิดๆหน่อยๆก็ทําไป)แล้วสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับคุณค่ะ ขอให้โชคดีและเจอแต่กัลยาณมิตรค่ะ
(ปล่อยวาง...ช่างมันๆๆ)

 

.........ขอบคุณค่ะ