เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ได้รับพระขุนแผนแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

 

มีคนในกระทู้เราไม่ยอมฟืนดวง...
โดนจับหมายหมั้นยามข้าวจะกรอกหม้อไม่มี
ค่าขันหมากหมั้นคงจะแพง....
ฝากนิมนต์พระฯย้ายวัตร

พระปิดตาเนื้อแร่ไหลเพชรดำ แต่เลี่ยมทองฝังเพชรเทียม ถ้าไม่เอาทองไม่เอาเพชรผมจะแกะออกให้

รูปเหมือนบูชาหลวงพ่อกวย ขนาด12นิ้ว รุ่นฉลองพิพิธภัณฑ์

ราคากำลังต่อรองให้อยู่ ให้มีความสุขทั้งเจ้าของเดิมและเจ้าของใหม่ ตกลงกันได้แล้วคุยกันเอง....

..........................

วันวานมีพระธุดงค์มาปักกลดหลังบ้านพี่นิ่ม ไม่รู้ว่าเป็นที่สัปปายะหรืออย่างไร มีมาเป็นประจำ

พอเย็นพี่นิ่มกับลูกน้องก็พากันไปกราบไหว้ ระหว่างทางพื้นที่มันรกก็ไม่ทันดู เดินเหยียบสายยางก็สงสัย หยุดดู ลูกน้องก็ร้องเฮ้ยอยู่ข้างหลัง

ก้มดูเห็นเป็นงูกะปะนอนเฉยๆ ไม่ตื่นไม่ขยับก็ตกใจ รีบชักเท้ากลับ
งูมันคงนึกได้ เลยเลื้อยหนี
พี่นิ่มหันมาหาลูกน้อง..ไม่เหลือซักคน โดดหนีไปหมด!

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า งูบางตัวก็ใจดี แต่ลูกน้องบางคนก็ใจหาย

...................

วันเสาร์หน้าผมนัดท่านพิมานมาทานอาหารสนทนากัน ว่าจะเลี้ยงอาหารท่านพิมาน แต่ท่านฯกลัวกินไม่อิ่ม ขอแชร์ค่าอาหาร
ผมเป็นคนมีความสุขกับการกิน ได้ยินดังนี้ก็อยากเพิ่มเมนู

ใครว่างในวันเสาร์หน้า ก็ขอเชิญนะครับ มาช่วยกันเพิ่มเมนู
หรือถ้าใครสนใจจะเพิ่มเติมทักษะในการทำนาย ก็อาจจะได้คำแนะนำที่ดีจากท่านพิมาน

ช่วงนี้ผมติดเรียนโหราศาสตร์ ไม่ได้เข้ามาอัพกระทู้เท่าไร ก็ขออภัย

 

ขืนเลี้ยงอีก คราวนี้หายว๊าบบบไปเลยนิ

 

ตายแล้วไปไหนต้องพิสูจน์
ด้วยการตายก่อนถึงจะรู้ใช่ใหม?

เช้านี้มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อนำ
นักเรียนมาชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์สิรินธร แล้วจึงพานักเรียน
ขึ้นมาวัดเพื่อมากราบหลวงพ่อบันดาล(พระพุทธบันดาลฤทธิผล)
พระพุทธรูปโบราณคู่วัดสักกะวัน และเมื่อเห็นหลวงปู่นั่งอยู่
จึงเข้ามาแวะกราบ สนทนากันได้ระยะหนึ่งจึงเอ่ยถามหลวงปู่ว่า

อาจารย์ ; หลวงปู่ครับ พระพุทธเจ้าทรงตรัสในกาลามสูตร
ในสิ่งไม่ควรเชื่อ ๑๐ อย่าง ท่านให้พิสูจน์ทดลองก่อนจึงเชื่อ
ผมไม่เห็นด้วย ถ้าอย่างนั้นเราอยากรู้ว่า ตายแล้วไปไหน
ไม่ต้องพิสูจน์ ด้วยการตายก่อนหรือครับถึงจะทราบ
หลวงปู่ ; คุณมาจากไหน
อาจารย์ ; ร้อยเอ็ด ครับผม
หลวงปู่ ; ถ้าคนกาฬสินธุ์ เขามีพิธีกรรมบางอย่าง
ที่คนร้อยเอ็ดไม่มี ไม่ทำ คุณว่าคนกาฬสินธุ์เขางมงาย
เขาทำถูกหรือทำผิด
อาจารย์ ; ไม่งมงายไม่ผิดครับผมหลวงปู่ เพราะ
คนกาฬสินธุ์ก็คือคนกาฬสินธุ์ จะเอาความคิดคนร้อยเอ็ด
มาตัดสินคนกาฬสินไม่ได้ครับผม
.
หลวงปู่ ; เออ ตอบคำถามสมกับเป็นครูคน ก็ในเมื่อ
เอาคนร้อยเอ็ดมาตัดสินความเป็นคนกาฬสินธุ์ไม่ได้
ก็เอาคนกาลามะมาตัดสินคนไทยไม่ได้
เหมือนกัน คนที่ศึกษาแต่ข้อความทั้ง๑๐ แล้วไม่ได้ดู
ที่ไปที่มาของเรื่องเลย จะสรุปว่าข้อความทั้ง๑๐
คือทั้งหมดไม่ได้ คนกาลามะเป็นคนหัวอ่อนเชื่อง่าย
ใครสอนอะไร บอกอะไรเชื่อหมด ไม่ไตร่ตรองเสียก่อน
พระองค์ท่านจึงให้ข้อตัดสินความเชื่อไว้อย่างนั้น
ก็ในเมื่อเราไม่ได้มีจริตนิสัยเป็นอย่างนั้นเราจะเอา
มาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ ศาสนธรรมคำสอนพระองค์เจ้า
มี ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ คุณอย่าเอามาใช้ทั้งหมด
สมัยก่อนพระองค์เทศน์สอนใคร เทศน์เรื่องเดียว
อย่างเดียวคนนั้นก็บรรลุธรรม
คนทุกวันนี้ชอบแบกคัมภีร์แบกธรรม แบกจนหนัก
โดยไม่รู้ตัว มัววุ่นอยู่แต่กับหนังสือกับข้อความ
รับมาก ฟังมาก แบกมาก หนักมาก เลยเอาหนังสือ
เอาคัมภีร์มาข้องมาคา มาติดมาขัด ไปไหนก็ไม่ได้
มันติดคัมภีร์ มันติดความรู้ ความรู้ที่รู้เพื่อหนักสมอง
รกสมอง ใช้ประโยชน์ไม่ได้
สังเกตไหมว่า คนในสมัยพระพุทธเจ้า เขาปฏิบัติ
อย่างเดียว เอาธรรมตัวเดียว สิงคาลมาณพ เอาทิศ ๖
หลวงพ่อโมคคัลลา เอาความง่วง หลวงพ่อพาหิยะ
ฟังธรรมสั้นๆ หลวงพ่อ นาลกะ เอาโมเนยยะ ท่านเหล่านี้
ไม่ต้องแบกคัมภีร์ ไม่ต้องแบกความรู้ที่รกสมอง
พระองค์เจ้าเป็นสัพพัญญูเป็นผู้รู้แจ้งนะ สัพพัญญู
ไม่ได้แปลว่ารู้ทุกเรื่อง เรื่องไม่เป็นประโยชน์
ท่านก็ไม่รู้ บางเรื่องรู้แล้วมันทุกข์ อย่ารู้เสียดีกว่า
ทุกวันนี้มันมีแต่ประเภท " รู้ไปหมด แต่มันอดไม่ได้
รู้ไปทั่ว แต่เอาตัวไม่รอด"
เลือกเอาธรรมที่เป็นตัวเรา เข้าจริต นิสัยเรามาปฏิบัติ
ไม่ใช่มีแต่แบกแต่ขน ขนไปหมดจนไม่รู้จะใช้ได้หรือไม่
อย่าเอาคนอื่นมาเป็นมาวัดกับเรานะ เรากับเขามันคนละคน
การปฏิบัติตามธรรมเป็นเรื่องส่วนตัว ของใครของมัน
อย่าเอามาอวดมาอ้างกัน อย่าเอาเขามาทำให้เราทุกข์
เหมือนคุณที่ทุกข์กับคนกาลามะ
ส่วนการพิสูจน์ชีวิตหลังความตายนั้น โลกคนตาย
เป็นโลกทิพย์ อยากเห็นโลกทิพย์ต้องมีตาทิพย์
อยากได้ยินเสียงทิพย์ต้องมีหูทิพย์ อยากไปโลกทิพย์
ต้องมีกายทิพย์ การมีกายทิพย์ เกิดจากการปฏิบัติ
พากเพียรภาวนาและการตาย มันมีวิธีอื่นนอกจาก
การตาย แล้วแต่คุณจะเลือกหรอก

หลวงปู่ไดโนเสาร์ ตอบปัญหาธรรม

 

เนื่องด้วยพระเดชพระคุณพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ ได้เป็นประธานในการจัดหาทุนเพื่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดโพธิผักไห่ เพื่อใช้สอยในการจัดการเรียนการสอน จึงได้ทำการจัดสร้างพระพิชัยสงคราม ไม้โพธิ์นิพพาน ปางห้ามสมุทร ซึ่งพระพิชัยสงครามนี้ จัดสร้างได้ยาก เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญรู้ถึงในศาสตร์โบราณ ด้วยพระเดชพระคุณพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ ได้ทำการอนุรักษ์ศาสตร์ไว้ จึงขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพิชัยสงคราม ไม้โพธิ์นิพพานปางห้ามสมุทร
ณ.อุโบสถ วัดโพธิผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

กำหนดการพิธีพุทธาภิเษกพระพิชัยสงคราม
วันเสาร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ๒๕๕๘
เวลา ๑๗.๐๐น. พระสงฆ์ ๙ รูปเจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๒๑.๑๕น. พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เวลา ๒๒.๓๐น.เริ่มพิธี รับศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๒๓.๑๐ น.ลงพระราชลัคนา
พระสงฆ์ชยันโต เสร็จแล้ว ทำการจุณเจิมตามตำรับ พระพิไชยสงครามต่อไป เมื่อแล้วเสร็จ อัญเชิญสู่
หน้าพระประธาน ระหว่างนั้น พระสงฆ์ยังเจริญ มหาสมัยสูตรและธรรมจักรกัปปวัตนสูตรและ อิติปิโสรัตนมาลา
ทำพิธีบรรจุดวงชะตาพระพิไชยสงคราม
เสร็จแล้วพัก
เวลา ๐๔.๒๐ น. เริ่มพิธีเบิกเนตรพระพิไชยสงคราม ไปจนเสร็จ

วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘
เวลา ๐๘.๔๕ น.พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เวลา ๐๙.๑๕ น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์
เสร็จแล้วทำการเบิกเวียนเทียนแว่นฟ้า แล้วเป็นอันจบพิธี
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพล

จึงขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีโดยพร้อมเพียงกัน

ติดต่อสอบถาม
๐๘๐-๔๒๒-๙๓๕๓ ชวลิต

 

นิยายโหร
บทที่สิบเอ็ด วิชาบัวน้อยใต้น้ำ

ตั้งแต่พบกันวันนั้น
ใจก็รู้ว่าเราจะมีกันวันนี้
เสียงเพลงของ ดา อินโดฟิน ทำให้ผมนึกถึงน้องเจี๊ยบทุกครั้ง
ครั้งแรกที่เจอกันที่วัด ครั้งต่อมาที่เคาน์เตอร์บาร์
จนในที่สุด เราได้เป็นแฟนกัน ยิ่งรู้จักเธอมากขึ้น
ก็ยิ่งทึ่งขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผมมีความสุข
ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชิดเธอ จนผมเลิกกะล่อนเลิกเที่ยวไปเลย
จากที่เคยเที่ยว ผับ บาร์ เกือบทุกคืน โดยเฉพาะย่านหลังสวนในอดีต
เดี๋ยวนี้ถ้าว่าง ก็มักจะไปอยู่บ้านน้องเจี๊ยบซะส่วนใหญ่
ก็ไปเป็นลูกมือช่วยเธอล้างผัก หั่นหมู แกะกุ้ง ทำกับข้าวนะครับ
ได้กินอาหารอร่อยๆที่เธอทำ โดยเฉพาะอาหารล้านนาที่เธอถนัด
อย่างวันนี้ เธอทำแกงฮังเล และ ยำผักเฮือด ให้ผมทาน
กินแกล้มกับ แคบหมู และหอมหัวใหญ่กัน
หลังทานอาหารแล้ว เธอพาผมไปนั่งที่ซุ้มเรือนไม้
เธอชวนผมไปเที่ยว สวนผึ้ง ราชบุรี ในวันหยุดวิสาขบูชาปลายเดือนนี้
ผมตอบตกลงจะไปกับครอบครัวของเธอ แต่ขอไปเคลียร์งานก่อน
น้องเจี๊ยบ เคยได้ยิน วิชา กุงกชัมพุ์ ไม๊จ๊ะ ผมเอ่ยถามออกไป
อ้อ...บัวน้อยใต้น้ำ น้องเจี๊ยบตอบกลับมา เลยทำให้ผมขมวดคิ้วสงสัย
เธอเห็นผมทำหน้าแบบนั้น จึงบอกว่า ลุงดิษฐ์ เคยสอนวิชานี้แก่เธอ
ยังบอกอีกว่า กุงกชัมพุ์ เป็น ภาษาเขมร แปลว่า บัวน้อยใต้น้ำ
ถ้างั้น น้องเจี๊ยบก็ต้อง อ่านจรของ วิชา กุงกชัมพุ์ เป็นซิ ผมยิ้มอย่างดีใจ
คือพอดีพี่ได้บทความของอาจารย์เอื้อน ที่เขียนเกี่ยวกับการใช้ ดวงกุงกชัมพุ์มา
แต่พี่อ่านแล้ว มันงงๆ มากเลย ไม่ค่อยจะเข้าใจนะ
น้องเจี๊ยบจึงขอดูบทความหน่อย ผมจึงไปหยิบ ไอแพด ที่รถมา
แล้วเปิดที่บันทึก บทความกุงกชัมพุ์ ให้น้องเจี๊ยบดู
น้องเจี๊ยบอ่านจบแล้วยิ้ม บอกผมว่า อาจารย์เอื้อน ท่านไม่ได้
อธิบายการอ่านดวงบนฟ้านะ เฮียหนา จึงอ่านแล้วไม่เข้าใจ
ปกติเวลาเราอ่านภพของดวงจักรราศี เราจะอ่านภพทวนเข็มนาฬิกากัน
แต่ดวงบนฟ้าของ กุงกชัมพุ์ เราจะอ่านภพตามเข็มนาฬิกานะค่ะ
ยกตัวอย่าง ลัคนาอยู่ราศีสิงห์ ภพกดุมภะจะเป็นราศีกันย์
แต่ดวงกุงกชัมพุ์ ลัคนาราศีสิงห์ ภพกดุมภะจะเป็นราศีกรกฏ นะค่ะ
มิน่า พี่งงตั้งนาน ว่าทำไมภพถึงไม่ตรงกัน อ่านอย่างงี้นี่เอง
แล้วตรง พระเคราะห์เสวยอายุและพระเคราะห์เสวยแทรกหละ
เค้าคำนวณกันอย่างไง น้องเจี๊ยบรู้ไม๊จ๊ะ ผมถามต่อ
อ้อ...ทราบค่ะ เค้าเอามาจากแผนภูมิของทักษานะค่ะ
โดยใช้กำลังของดาวทั้งแปดมาบวกรวมกันจะได้ 108 ปีพอดี
แล้วเธอก็อธิบาย ถึงวิธีคำนวณว่า ดาวตัวไหน จะแทรกกี่ปีกี่เดือนกี่วัน
และกี่ชั่วโมงจนผมเข้าใจหมด งั้นถ้าพี่เอาดวงนี้ให้น้องเจี๊ยบอ่านแบบ กุงกชัมพุ์
ให้พี่ดูจะได้ไม๊ ผมจึงเขียนรูปดวงให้เธอไปดังนี้ครับ
เป็นหญิงเกิดวันที่ 27 พย 2518 เวลา 11.32 น. ที่ราชบุรี
เกิดเหตุอะไรแก่เจ้าชะตาในวันที่ 3 กพ 2527 เวลาประมาณ สองทุ่ม
ลัคนา กุมภ์
ดาว 5 9 มีน
ดาว 3 เมถุน
ดาว 7 กรกฏ
ดาว 2 สิงห์
ดาว 6 กันย์
ดาว 8 0 ตุลย์
ดาว 1 4 พิจิก
5..6..7..1..2..3..4
5..6..7..1..2..3..4
4..5..6..7..1..2..3
14.17.20.9.5.8.11
รูปดวงกุงกชัมพุ์
ลัคนา พฤษภ
ดาว 6 พฤษภ
ดาว 1 2 เมถุน
ดาว 3 กรกฏ
ดาว 0 สิงห์
ดาว 7 8 มังกร
ดาว 9 กุมภ์
ดาว 4 5 เมษ
พอน้องเจี๊ยบเห็นรูปดวงกุงกชัมพุ์ จึงบอกผมว่า
ดวงนี้คงอายุสั้น เพราะดาวศุกร์เจ้าเรือน มรณะเป็นตนุลัคน์และสถิตลัคนา
แถมดาว 6 ในเลขเจ็ดตัว ยังเป็น หินะ อีกด้วย ตั้งอยู่บนฐานคู่ศัตรูกำลังดาวเสาร์ใหญ่
เจ้าชะตาเกิดวันพฤหัส ดาว 5 จึงเสวยอายุตั้งแต่ 1-19 ปี
ดาว 5 กุมดาว 4 ในภพกดุมภะ ดาว 4 มาจากเจ้าเรือนวินาศน์
แถมดาว 5 ในดวงกุงกชัมพุ์ยังเป็นเจ้าเรือน อริ อีกด้วย
ดาว 4 ในเลขเจ็ดตัว ก็เป็น มรณะ อีกด้วย อายุคงไม่พ้นวัยพฤหัสไปได้
การอ่านจรในวิชา กุงกชัมพุ์ มี 2 แบบ
แบบหนึ่งใช้ระบบ พระเคราะห์เสวยอายุและพระเคราะห์แทรก
อย่างดวงนี้ ตอนเกิดเหตุ เจ้าชะตาอายุย่าง 9 ปี
จึงยังอยู่ในช่วงของพฤหัส เสวยอายุอยู่
ช่วงแรกพฤหัสจะแทรกเป็นเวลา สามปี สี่เดือน สามวัน แปดชั่วโมง
ช่วงสองราหูจะแทรกเป็นเวลา สองปี หนึ่งเดือน สิบวัน
ช่วงสามศุกร์จะแทรกเป็นเวลา สามปี แปดเดือน สิบวัน
เมื่อเจ้าชะตาอายุย่าง 9 ปี จึงอยู่ในช่วงดาว 6 แทรก
ดาวพฤหัสเสวยอายุ เราก็เอาดาว 6 มาอ่าน
ดาว 6 เป็นเจ้าเรือน มรณะ สถิตภพลัคนาเป็นเกษตร
ไม่มีดาวร่วมเรือนเกษตรหรือดาวแฝงเรือนเกษตรมาสัมพันธ์ด้วย
มีแต่ดาว 3 ในมุมโยค ดาว 3 เป็นเจ้าเรือน ปัตนิและกดุมภะ
ในเลขเจ็ดตัว ดาว 3 ยังเป็นเจ้าเรือน อริ อีกด้วย
จึงนำความหมายทั้งหมดที่อ่านจากดาว 6 พระเคราะห์แทรกมาประมวณ
เข้าด้วยกัน ก็จะได้ความหมายดังนี้ คือ เจ้าชะตามรณะเพราะปัตนิทำร้าย
ผมร้อง ว้าว แล้วลุกขึ้นจะไปหอมแก้ม น้องเจี๊ยบ เหมือนเช่นเคย
แต่คราวนี้ น้องเจี๊ยบรู้แกว จึงลุกหลบผม ทำให้ปากผมไปจูบกับ
พนักเก้าอี้ทรงสูงแทน ผมร้อง โอ๊ย พร้อมกับเอามือกุมปาก
น้องเจี๊ยบตกใจ จึงเอามือเธอมาจับไหล่หันตัวผมมาดู
ผมจึงฉวยโอกาสจังหวะนี้ หอมแก้วซ้ายขวาของน้องเจี๊ยบไปข้างละที
คราวนี้ น้องเจี๊ยบร้อง ว๊าย...เฮียหนา รังแกเจี๊ยบอีกแล้วนะ
ส่วนผมยืน หัวเราะชอบใจ ข้อเท็จจริงของดวงนี้คือ
เจ้าชะตาโดนข่มขืน ใต้สะพานโกรกหิน ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง
โดยบีบคอไม่ให้ร้อง แล้วกระทำการข่มขืนทั้งทางอวัยวะเพศ
และทางทวารหนักอย่างทารุณ ตำรวจจับกุมชายสองคนได้
ทั้งคู่สารภาพว่า คืนวันที่ 3 กพ 2527 เด็กหญิงผู้นี้มาร่วมร้องเพลง
กับเพื่อนๆข้างบ้านของฆาตกรสองคนนี้ ฆาตกรทั้งสองคนพอใจ
เด็กคนนี้ และอยากจะร่วมเพศด้วย จึงหลอกเด็กให้มายังสถานที่ดังกล่าว
คนแรกลงมือข่มขืนเด็กก่อน แต่ไม่สำเร็จความใคร่ เนื่องจากเด็กร้อง
คนที่สองลงมือข่มขืนบ้าง โดยบีบคอไม่ให้เด็กร้อง เด็กจึงเสียชีวิตลง
จบตอน

 

สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ

หลวงปู่คูณ ละสังขารเข้าสูแดนบรมสุขแล้ว
เหลือแต่ลูกช้างลูกม้าทั้งหลายที่ยังต้องดิ้นรนขวนขวายต่อไป

 

สมาชิกคณะพี่นิ่ม กราบนมัสการ ส่งหลวงพ่อฯสู่พระนิพพาน

 

ช่วยบอกความหมายของประโยคนี้หน่อยได้ไหมครับ
พี่ศนิวาร

 

ขออนุญาตนะครับ

สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง

สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์

สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

 

งานการพิธีจารจารึกดวงพระชะตา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามแบบตพรสพระพิไชยสงคราม และการจัดสร้างพระพิไชยสงคราม ณ.วัดโพธิผักไห่ ได้เริ่มโดยพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์

................

งานยุ่งจนลืม
ขอลงเตือนตัวเองไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ลืม

.......................

 

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับพี่ทิพย์และเพื่อนสมาชิกครับ

พี่ทิพย์ครับ ผมได้รับพระขุนแผน จำนวน ๒ องค์เรียบร้อยแล้วครับ

 

นิดๆหน่อยๆ แก้เหงา





ก่อนเกิดเหตุ ทิดนำฝันว่าได้สร้อย ตื่นมาดีใจซื้อหวยได้รางวัลมานิดหน่อย
ตอนเกิดเหตุลืมหมดทุกอย่าง ห่วงแต่มอเตอร์ไซค์สุดรัก....

 

เมื่อวานนั่งนึกๆอยู่ ว่าจะขอความรู้พี่ศนิวาร
เพราะไปเจอว่า โหราศาสตร์สมัยก่อนมาพร้อมกับพุทธศาสนา
เรียกวิชานี้ว่า ปฏิจจสมุปบาท

ขอแบบฉบับประชาชนนะครับ
และถ้าท่านพิมานว่าง ขอคำอธิบายประกอบตามจักราศีด้วยครับ

 

วิชานี้อยู่ในตำราโลกธาตุนิ
ผมให้ตำราเล่มนี้แก่ท่านหยก ค่ะ ไปแย้ว
อีกอย่างปกติ เป็นคนไม่ชอบท่องจำ
อาศัยความเข้าใจเรื่องโหราศาสตร์เอานิ
แบบว่าขี้เกียจจำง๊ะ

 

เรื่องนี้เกินความรู้ความสามารถของผม แต่ไม่เกินความสามารถของอากู๋
นี่เป็นข้อความที่เขาคุยกันในกระทู้นี้น่าสนใจดี โดย ท้าวเมืองมา

ภพที่ 1 ดนุ คือตัว อวิชชา / เป็นจุดทำให้เกิดชีวิตขึ้นมา เป็นชีวิตทั้งชีวิต จุดวางลัคนา
ภพที่ 2 กดุมภะ คือตัว สังขาร /การปรุงแต่ง ตัวแสวงหา
ภพที่ 3 สหัสชะ คือตัว วิญญาณ /ตัวรับรู้ สรรพสิ่งที่จรมา เหมือนเพื่อนที่เข้ามามีดีมีชั่ว
ภพที่ 4 พันธุ คือตัว นามรูป / คือเรือนร่าง กายใจ
ภพที่ 5 ปุตตะ คือตัว สฬายตนะ / จุดติดต่อให้เกิด จะเกิดบุตรได้ เกิดการกระทำที่ใหม่ๆๆ
ภพที่ 6 อริ คือตัว ผัสสะ/จุดที่ทำให้เกิดปัญหา ปัญหาเกิดจากตัวกระทบ (หลวงพ่อพุทธทาสกล่าวไว้ชัดที่สุด)
ภพที่ 7 ปัตตนิ คือตัว เวทนา/ ตัวนี้คือ จุดที่ทำให้มีชีวิตคู่ ความรู้สึก ทำให้หลงติด
ภพที่ 8 มรณะ คือตัว ตัณหา / ที่ส่งผลให้ชีวิต เหมือนตายแล้ว อยากจนตัวตาย
ภพที่ 9 ศุภะ คือตัว อุปาทาน/ ความยึดทุกอย่างทำให้มีความสุข
ภพที่ 10 กัมมะ คือตัว ภพ/ ตัวสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง กรรมภพ ภพคือกรรม
ภพที่ 11 ลาภะ คือตัว ชาติ/ การได้มา การเกิดขึ้น คือตัวลาภ ได้สิ่งที่ถูกใจ
ภพที่ 12 วินาสน์ คือตัว ชรามรณะ/ สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่มองไม่เห็น ตัวทำลาย
หมายเหตุ ลองมองสัมพันธ์ แบบโยค ตรีโกณ เล็ง ดูจะเห็นสิ่งที่เป็นธรรมะในจักรราศี อ่านความหมายตัวปฏิจจสมุปบาทแบบธรรมชาติ พื้นๆ ไม่ทิ้งความหมายเดิม จะเห็นอะไรดีมากมาย จะทำให้เห็นว่าโหราศาสตร์ ในมุมอีกมุมหนึ่งที่ ก่อให้เกิดสัมมาทิฏฐิ

ดาวพระเคราะห์ ทั้ง 10 ดวงในแง่ของธรรมะ
ประกอบการอ่านดวงแบบปฏิจจสมุปบาท
1. ดาวอาทิตย์
สัมมาอาชีวะ ,ทิฏฐิ,บุพพการี,โลภะ,ถัมภะ,มานะ,ทิฏฐิ,ตัณหา
2.ดาวจันทร์
ปิยวาจา, เมตตา, จาคะ,กรุณา,มายา,ทาน
3.ดาวอังคาร
โทสะ,วิริยะ,โกสัชชะ,โกธะ,ปฏิฆะ
4.ดาวพุธ
สัทธา,สัมมาวาจา,มิจฉาวาจา,สัมมาอาชีวะ,มิจฉาอาชีวะ,กกุจจะ,ปฏิภาณ
5.ดาวพฤหัส
สันติ,มุทิตา,ปัญญา,สารัมภะ,เนกขัมมะ,สัจจะ,หิริ,โอตัปปะ,ศีล.กตเวที,สุขโลกุตตระ
6.ดาวศุกร์
ราคะ,กามฉันทะ,กามคุณ,กามวิตก,กาเมสุมิจฉาจาร,วัตถุกาม,กามสังวร,สุขโลกียะ
7.ดาวเสาร์
มัจฉริยะ,พยาบาท,อุปนาหะ,อุทธัจจะ,ขันติ,ทุกขัง,โทมนัส.
8.ดาวราหู
โมหะ,มทะ,ปาปิจฉา.ฉันทาคติ,นิวรณ์,กิเลสกาม,กามสุขัลลิกา
9.ดาวเกตุ
วิตก,ญาณ,สมาธิ,มิจฉาสติ,นิพพิทา,กัมมัฏฐาน
0.ดาวมฤตยู
อุเบกขา,อุปสมะ

คำพยากรณ์ดวงปฏิจจสมุปบาทจากหนังสือ "โลกธาตุ" หน้า ๒๑๓ ท่านกล่าวไว้ว่า

(๑๙๔)ดวงปฏิจจสมุปบาทนี้ ขึ้นต้นที่ราศีมังกร ดูเฉพาะอาทิตย์กำเนิด และลัคนา
(๑๙๕) พยากรณ์ (ก) ถ้า ๑ กำเนิดอยู่ในราศีอวิชชา ขุนนางรัก เมื่อหนุ่มตกเข็ญใจ ภายแก่ทรามด้วย ลูกหลานมิยืนอาภัพนักฯ
อยู่ในราศี สังขารา เมื่อน้อยพรากกำพร้า เมื่อใหญ่พึ่งตัวเอง หาที่พึ่งไม่ได้ ภายแก่จะเป็นสุขนักฯ
อยู่ในราศีวิญญาณัง สำเร็จเมื่อภายแก่ สมบัติน้อย พี่น้องมักดูถูก ย่อมมีคุณแก่คนฯ
อยู่ในราศีนามรูปัง ทำคุณคนมิขึ้น ท่านมักร้ายแตนฯ
อยู่ในราศีสฬายตนัง มีข้าวของมาก ตัวนั้นกล้าแข็ง มีพี่น้องมักริษยา แต่ว่าขุนนางพอใจเลี้ยงดูดีนักฯ
อยู่ในราศีผัสโส เมื่อหนุ่มพ่อแม่ได้กินแรงบ้าง ฯ
อยู่ในราศีเวทนา เมื่อหนุ่มตกเข็ญใจ เมื่อแก่จะได้สมบัติมากฯ
อยู่ในราศีตัณหา มีข้าวของแล้วจะฉิบหาย ภายแก่อุดมฯ
อยู่ในราศีอุปาทานัง ทำคุณแก่ท่านต่อหน้าว่าดี ภายหลังว่าร้ายแก่ตนฯ
อยู่ในราศีภโว ผู้นั้นเกิดเข็ญใจ เป็นกำพร้า พี่น้องย่อมดูหมิ่น ทำคุณแก่ท่านมิขึ้น เจราจาด้วยผู้ใหญ่เจ้าไท พระสงฆ์ดี มีปัญญาและความรู้มาก แต่ว่าเลี้ยงตัวเองฯ
อยู่ในราศีชาติ ผู้นั้นสำเร็จจะได้สมบัติแห่งญาติกา ขุนนางพอใจ ทำราชการจะเกิดสถาพรฯ
อยู่ในราศีชรามรณัง เลี้ยงยากแต่น้อย จะตาย ๕ ครั้ง เมื่อน้อยพี่น้องญาติบ่มินับ ข้าวของทรัพย์มาก จะมีผู้นับถือ หญิงชายก็ดี มีคนรักมาก บริวารมากฯ
(ข) ถ้า ล อยู่ในราศีอวิชชา เกิดมาพ่อแม่ใจกุศลสุภาพ ได้สมบัติแห่งผู้เฒ่าผู้แก่ แต่ว่าอาภัพ ว่าพี่น้องได้ยศศักดิ์ฯ
อยู่ในราศีสังขารา เมื่อน้อยเข็ญใจ ต่อได้ ๑๖ ปี ๒๐ ปี จะพลัดที่อยู่ จะพึ่งคนเข็ญใจ ต่อภายแก่จะได้ดีฯ
อยู่ในราศีวิญญาณัง เกิดมาเลี้ยงตัวเอง พ่อแม่สั่งสอนได้ ย่อมฟังคำคน ค้าขายย่อมขาดทุน เรือจะเสีย ต่อแก่จึงได้ดี ถ้าหญิงจะได้เป็นเมียเจ้าเมือง ถ้าชายจะได้กินเมืองฯ
อยู่ในราศีนามรูปัง พึ่งพ่อแม่ ย่อมเป็นศัตรูพ่อแม่ พ่อแม่มิพอใจ อยู่ด้วยท่านผู้อื่นเป็นพ่อแม่ฯ
อยู่ในราศีสฬายตนัง เกิดมามีข้าวของมาก แต่ภายกลางแก่จะถอย จะได้ทุกข์อันใหญ่ต่อแก่จึงสำเร็จด้วยทรัพย์ สมบัติเกิดด้วยปัญญาฯ
อยู่ราศีผัสโส มักมีศัตรูเบียน ถ้ามีเมียเขาย่อมเอาใจออก ทำคุณท่านมิขึ้นเลยฯ
อยู่ในราศีเวทนา สมบัติมาก พี่น้องมักเบียนสิ่งสิน ผู้อื่นย่อมให้ลาภแก่ตนฯ
อยู่ในราศีตัณหา มักเล่นชู้มิเลือก มักเมียท่าน ถ้าหญิงดุจเดียวกันฯ
อยู่ในราศีอุปทานัง ย่อมทำบุญใจกุศล เมื่อน้อยเลี้ยงยาก ต่อแก่จึงดีมีทรัพย์ฯ
อยู่ในราศีภโว เกิดมาพ่อแม่ย่อมเป็นทุกข์ด้วย ศัตรูเบียนข้าวของ ภายแก่จึงดี เพราะผู้เฒ่าผู้แก่พี่น้องจึงได้ดี อายุยืนฯ
อยู่ในราศีชาติ ใจแข็ง ใจน้อย ใจเร็ว มักเสียทรัพย์สิน ต่อแก่จึงดีฯ
อยู่ในราศีชรามรณัง ถ้าหญิงจะได้เป็นใหญ่ ถ้าชายเกิดมาจะตาย ๕ ที ย่อมเป็นทุกข์ เมื่อน้อยพลัดพรากพ่อแม่ ทำคุณคนมิขึ้น ย่อมเลี้ยงตัวเอง ภายหลังมีทรัพย์สมบัติ มีปัญญากว่าพี่น้องทั้งหลายฯ
ข้อความของคุณ natty

ดวงปฏิจจสมุปบาท นั้นมีอยู่ในตำราจักรทีปนี ในคัมภีร์พฤหัสบดีจักร
ซึ่งเป็นบทว่าต่อมาจาก คัมภีร์ ภวชาติ
และ ดวงคัพพปักกมูล
และ บทต่อจากดวงปฏิจจสมุปปบาท นั้น ก็คือ เรื่อง พระเคราะห์รูป และ พระเคราะห์สม
ซึ่งบทโหราศาสตร์ ในตอนนี้ ท่านเอาไว้ใช้ พยากรณ์
(1 ) ดวงมูลกำเนิด ประการหนึ่ง
(2) เป็นการตรวจสอบเกณฑ์ชะตา ว่าตั้งแต่เริ่ม "จุติ" ลงใน ครรโภทร แล้วจะมีแยกไปเป็นดวงสามัญ ดวงกษัตริย์ ดวงปราบดาภิเศก (ซึ่งต้องต้องใช้ประกอบกับคัมภีร์อื่น เช่น คัมภีร์อสีติธาตุ และ คัมภีร์ราชมัญตัญ)
(3) ใช้ประกอบกับการดูดวงชะตา พระสงฆ์ เพราะ ถ้าดูในบทพยากรณ์เก่าๆ จะมีคำพยากรณ์ แยกเอาไว้โดยเฉพาะ ว่า จะสึกได้หรือไม่? จะสึกปีไหน? จะบวชทนหรือไม่? จะได้บูญหรือไม่? จะคู่ควรกับสมณานุรูป หรือไม่? ครับ

วิธีการอ่านดวงปฏิจจสมุปบาทนั้น ให้ดูจาก มุมตรีโกณ ก่อน
(ตำราเดิม คือ ตรีเกณ) จะจัดไว้เป็นจำพวกหนึ่ง
แล้วลองดูตัวที่โยค นั้น เช่น
พวกที่หนึ่ง คือ ภพที่ 1 อวิชชา , ภพที่ 5 สฬายตนะ , ภพที่ 9 อุปาทาน
พวกที่สอง คือ ภพที่ 2 สังขาร , ภพที่ 6 ผัสสะ , ภพที่ 10 กรรมะ
พวกที่สาม คือ ภพที่ 3 วิญญาณ , ภพที่ 7 เวทนา , ภพที่ 11 ชาติ
พวกที่สี่ คือ ภพที่ 4 นามรูป , ภพที่ 8 ตัณหา , ภพที่ 12 ชรามรณะ

แล้วดู กลุ่มพวกที่ หนึ่ง และสาม ที่โยคกัน ชุดหนึ่ง
แล้วดู กลุ่มพวก ที่ สอง และ สี่ ที่โยคกัน อีกชุดหนึ่ง

ส่วนความหมายนั้น ไม่ต้องใช้ตามเรือนภพก็ได้ครับ
ใช้ตามคำศัพท์บัญญัติได้เลยครับ

0497 :

 

ท่านnatty ไม่แน่ใจว่าใช่ท่านหลวงพ่ออภิสิทธิ์ รึเปล่า ...ท่านหนา?

 

ใช่ครับ ท่านคือ หลวงพี่อภิสิทธิ์ อภิญโญ แห่งวัดยานนาวา

 

22 พ.ค. 2525 เวลาเช้ามืดคับ จังหวัดชุมพร ดวงนี้มีโอกาสติดคุกไหมครับ(ถ้าเมื่อครู่ ดวงน้องชายคนถาม)

สดๆร้อนๆ...ใครอยากฝึกบ้าง

ผมจะลองใช้มหาภูติดู เพราะเจ้าชะตาไม่ให้เวลาเกิด (เวลาเกิดคร่าวๆประมาณ 08.00ล่วงไปแล้ว)

เจ้าชะตาเกิดวันเสาร์ อายุจรตกภูมิอาทิตย์