เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__4161575.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__4161575.jpg" border="0" alt=" photo S__4161575.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__4161576.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__4161576.jpg" border="0" alt=" photo S__4161576.jpg"/></a>

เหรียญเศรษฐีเนื้อเงินขนาดเล็ก,กลาง,ใหญ่

 

น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

อรุณสวัสดิ์พี่วรรณและทุกๆท่าน

​

​

 

เหมือนผมจะเคยอ่านเจอในเรื่องของหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม เรื่องการตั้งศาลพระภูมิใหม่ หลวงพ่อท่านบอกว่าให้เปิดเทปบวงสรวงของท่านแล้วตั้งจิตระลึกและอารธนาคุณพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ รวมถึงเทพพรหมเทวดาทั้งหลายเป็นอันใช้ได้ แต่ญาติผู้ใหญ่ของผมบอกว่า เวลาบวงสรวงไม่ว่าจะตั้งศาลใหม่หรืออะไรก็ตามห้ามเปิดเทปบวงสรวง เพราะ ผีจะเข้ามาอยู่แทนที่เทวดา เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหนครับพี่วรรณ หลวงพ่อท่านเคยได้พูดถึงเรื่องการเปิดเทปบวงสรวงในประเด็นอิ่นๆบ้างไหมครับ

 

ผีที่ญาติผู้ใหญ่น้องอุทยัพพูดถึงคงหมายถึงพวกสัมภเวสี พวกสัมภเวสีไม่น่ามีฤทธิ์เกินกว่าภูมิเทวดาและเทวดาชั้นจาตุมหาราชที่ท่านเป็นพระภูมิและเจ้าที่ที่ดูแลเขตบ้านของเรานะครับ ถ้าตามความเห็นส่วนตัวพี่ว่าไม่จริงหรอกครับ

เรื่องเกี่ยวกับเปิดเทปบวงสรวงอื่นๆลองอ่านในเรื่องโพสต์ถัดไปดูครับ

 

สนทนาที่สายลมฉบับนี้มีคนถามหลวงพ่อเรื่องการเปิดเทปบวงสรวงชุมนุมเทวดา บางท่านมีความเห็นประมาณว่าไม่สมควรเปิดบ่อยเพราะเสมือนเป็นการใช้ท่าน ท่านท้าวมหาราชท่านเป็นพระอริยเจ้ากันแล้ว

ผมคิดว่าท่านที่อยากเปิดเทปบวงสรวงบ้างเสียโอกาสเสียประโยชน์ไปเพราะเชื่อไปตามความคิดเห็นแบบนั้น

ลองอ่านที่หลวงพ่อตอบดูนะครับ ท่านผู้ถามถามด้วยว่าจะนำไปเปิดเพื่อทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นและก่อนออกจากบ้านอีกตะหาก หลวงพ่อไม่เคยห้าม ไม่เคยว่าไม่ควรเปิดบ่อยนะครับ หากเป็นเรื่องไม่สมควรจริงแล้วหลวงพ่อต้องบอกให้ทราบกันชัดเจนให้ทราบทั่วถึงกันแล้วครับ





















(จากสนทนาที่สายลม ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2532 หน้า 77 - 83)

 

พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

พระชัยวัฒน์ เดิมมีพระนามว่า "พระชัย" หรือ "พระไชย" ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ออกพระนามเพิ่มว่า"พระไชยวัฒน์" และได้เปลี่ยนพระนามมาเป็น "พระชัยวัฒน์' ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗

พระชัยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีลักษณะพิเศษคือ พระหัตถ์ซ้ายจะทำพระหัตถ์อยู่ในลักษณะถือด้ามพัด และเป็นแบบนั่งขัดสมาธิเพชร จากหลักฐานที่พบน่าจะเกิดมีขึ้นตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา พระราชพิธีต่าง ๆ ที่อัญเชิญพระชัยวัฒน์ไปด้วยคือ

พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จะอัญเชิญพระชัยมาตั้งที่หน้าพระพุทธสิหิงค์ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็เช่นเดียวกัน

พระราชพิธีโสกันต์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจะอัญเชิญพระชัยมาตั้งที่ซ้ายและขวาของพระพุทธสิหิงค์

พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จะอัญเชิญพระชัยมาประจำรัชกาลต่าง ๆ มาร่วมพิธี

พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ มักอัญเชิญพระชัยมาด้วย

พิธีพระประทีปมีเรืออนันตนาคราชแต่งเครื่องประทีปทรงพระชัย

ในการเสด็จพระราชสงครามจะอัญเชิญพระชัยไปในกองทัพด้วย ถ้าไปทางเรือก็จะอัญเชิญประดิษฐานในเรือเป็นพิเศษ

ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ ได้เสด็จจากกรุงศรีอยุธยาทางเรือได้ตั้งพระชัยในเรือสุพรรณหงส์ ถ้าเสด็จไปทางสถลมารคก็จะอัญเชิญพระชัยขึ้นประดิษฐานบนหลังช้าง จึงได้ชื่อว่า "พระชัยหลังช้าง" พระราชพิธีราชาภิเษกจะอัญเชิญพระชัยมาประดิษฐานในมณฑลพิธี ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทยซึ่งไม่มีชาติใดมี เป็นพระราชประเพณีของพระมหากษัตริย์ไทยที่ได้ทรงปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน แสดงให้เห็นว่าได้ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภกอย่างชัดแจ้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ได้ทรงมีพระบรมราโชวาทก่อนพระราชทานพระชัยวัฒน์มงคลวราภรณ์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ให้ผู้รับยึดมั่นอยู่ในเรื่อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นพระราโชบายเพื่อความดำรงคงอยู่ของชาติไทย

พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลทุกพระองค์ ประดิษฐานอยู่ ณ หอพระสุราลัยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง


พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช




เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ภายใต้ฉัตร ๕ ชั้น หน้าตักกว้าง ๗ นิ้ว ความสูงยอดพระรัศมี ๙ นิ้ว ทรงพัดแฉก หล่อด้วยเงิน สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระราชพิธี โดยย่อดังนี้


วันอังคารที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์แล้ว ทรงจุดธูปเทียนมนัสการทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะรวม ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์


วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ ทรงจุดเทียนทอง และถวายเทียนทองแด่สมเด็จพระสังฆราช ได้เวลาพระฤกษ์โหรลั่นฆ้องชัย สมเด็จพระสัฆราชจุดเทียนชัย ชาวประโคม ประโคมสังข์แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ พระราชาคณะอีก ๒๙ รูปเจริญคาถาจุดเทียนชัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชาธรรมที่เตียง พระสงฆ์สวดภาณวาร


วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ เสด็จพระราชดำเนิน เข้าสู่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงศีล แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ ได้เวลาพระฤกษ์ ๗ นาฬิกา ๑๒ นาที ถึง ๗ นาฬิกา ๒๒ นาที โหรลั่นฆ้องชัย ทรงเททองและเงิน หล่อพระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล พระสงห์ ๓๐ รูป ในพระอุโบสถ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเจริญชัยมงคลคาถา ชาวประโคม ประโคมสังข์ แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ ทหารปืนใหญ่ (จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๑ รักษา พระองค์ จำนวน ๑ กองร้อย โดยมี ร้อยโท ชูชาติ หิรัญรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย) ยิงปืนพระฤกษ์ มหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค ๑๙ นัด พระครูวามเทพมุนี ถวายน้ำสังข์ที่พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์ ๓๐ รูป รับพระราชทานฉัน สมเด็จพระราชาคณะดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย


เจ้าพนักงานอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หล่อใหม่ ไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภช เป็นเสร็จการพระราชพิธี

 

เป็นประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด ชาตรี และเมตตามหานิยม ของเหรียญพระชัยหลังช้างครับ










จากหนังสือ ปรากฏการณ์อันน่าพิศวง (ของเหรียญพระชัยหลังช้าง)

หากอ่านหนังสือปรากฏการณ์อันน่าพิศวงเล่มนี้หมดเล่มจะทราบได้ว่าเหรียญนี้มีพระพุทธคุณรอบด้านทุกอย่าง แม้เพียงเหรียญเดียวก็คุ้มภัยได้ทั้งบ้านจริงๆอย่างที่หลวงปู่วัดสามพระยาท่านได้เคยปรารภไว้





<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140612_021.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140612_021.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140612_021.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/WP_20140612_016.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/WP_20140612_016.jpg" border="0" alt=" photo WP_20140612_016.jpg"/></a>

 

อาวรรณครับ ผมจำได้ว่าอาวรรณเคยเอาเรื่องที่ท่านป้านิภาเล่าเรื่องพระรอดกริ่งเนื้อว่านปี25ไว้ ผมอยากอ่านอีกรอบครับแต่หาบทความนั้นไม่เจอแล้ว ถ้าอาวรรณสะดวกเมื่อไหร่โพสเอามาให้อ่านอีกรอบนะครับ(deejai)
ผมสงสัยอีกอย่างนึงครับ พระรอดปี25ที่เป็นกริ่งเนื้อว่านความจริงแล้วมีกริ่งหรือไม่ครับ ผมหยิบออกมาจากกล่องใส่พระมาไม่เคยได้ยินเสียงกริ่งเลย

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC02962.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC02962.jpg" border="0" alt=" photo DSC02962.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC02970.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC02970.jpg" border="0" alt=" photo DSC02970.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC02968.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC02968.jpg" border="0" alt=" photo DSC02968.jpg"/></a>

พระรอดเนื่อว่าน 108 ปี 2525 สร้างแบบเดียวคือแบบมีกริ่ง ที่กริ่งไม่ดังอาจเป็นเพราะกริ่งติดกริ่งค้างก็ได้ครับ หรือบางองค์ช่างไม่ได้ใส่กริ่งเข้าไปก็เป็นได้เหมือนกันครับ

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0071_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0071_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0071_1.jpg"/></a>

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0062_2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0062_2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0062_2.jpg"/></a>

หนังสือ "ก่อนตะวันจะลับฟ้า" ของป้านิภา คงสุขเล่มนี้พิมพ์แจกเมื่อปี พ.ศ. 2539 เป็นเล่มที่ผมชอบมากที่สุดแต่เล่มของผมเองไม่เหลือไว้กับตัวแล้ว เป็นลูกศิษย์ของท่านป้านิภาท่านนึงได้สงเคราะห์ส่งมาให้เพื่อเผยแพร่ธรรมในส่วนของป้าท่านได้ปฏิบัติและประสบเรื่องต่างๆมา ต้องขอขอบคุณลูกศิษย์ท่านผู้นี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0065_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0065_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0065_1.jpg"/></a>

 

รอยพระพุทธบาทสวยค่ะ ถ้าเป็นแบบเหรียญโลหะคงจะสวยมากๆ (good)

 

ไวมากครับอาวรรณ encyclopediaเคลื่อนที่จริงๆ

 

มีท่านใดเคยเช่าบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคล และอื่นๆกับทางวัดผ่านการสั่งผ่านไปรษณีย์แล้วชำระเงินด้วยธนานัติไหมครับ คือ ผมอยากจะสอบถามเล็กน้อยครับว่า จะใช้เวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มส่งรายการที่เราต้องการผ่านไปรษณีย์จนถึงได้รับสิ่งที่เราต้องการนานเท่าไหร่ครับ

 

ผมเคยสั่งหนังสือทางธนาณัติ ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 10 วัน

 

ผมเคยสั่งหนังสือทางธนาณัติ ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 10 วัน

 

ขออนุญาตสอบถามครับ ตอนนั้นส่งธนานัติแบบไหนไปครับ แบบธรรมดาหรือแบบEMSครับ

 

สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)

 

อาหาจากกูเกิ้ลเอานะครับ คือจำบางประโยคในโพสต์นั้นได้บ้างเพราะลงเป็นเรื่องนั้นเป็นเรื่องแรกของหนังสือเล่มนี้เลยพิมพ์หาว่า "ก่อนตะวันลับฟ้า ผมชอบมากที่สุด นานาเรื่องราวหลวงพ่อ" ก็เจอเลยครับ

เพราะฉะนั้นเวลาลงเรื่องต่างอาจะเขียนเกริิ่นไว้ในหัวเรื่องเผื่อไว้วันหน้าจะต้องกลับมาหาก็จะค้นเจอไม่ยากมากครับ

 

หลวงพ่อตอบปัญหาในฉบับนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิ ลองอ่านกันดูครับ






























(จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ เมษายน 2536 หน้า 93 - 102)