เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ภาพปี2508แท้ๆ ต้องชัดและจารแบบนี้

 

เปรียบเทียบภาพปี08 ที่ระบาดในตลาดพระและภาพแท้ๆที่ใครก็พิจารณาได้ด้วยตนเอง
ถ่ายภาพมาวันเดียวกัน ใช้กล้องตัวเดียวกัน ปรับภาพให้มีคุณสมบัติและลักษณะเดียวกัน
ภาพแรก เป็นภาพของ ลป.ทิมที่มีลงในเวปพระหลากหลาย เล่นหาเป็นแท้ไปนานแล้ว
ภาพที่สอง เป็นภาพแท้ที่นำมาเทียบเคียงกัน ทั้ง2ภาพอยู่ที่ผมทั้งสิ้น ไม่ได้ก้าวล่วงใคร

 

การดูภาพถ่ายเก่า

วิธีการสังเกตเบื้องต้นว่ารูปถ่ายนั้นเก่าถึงยุคไหม ประการแรก ภาพถ่ายเก่าอย่างไร ก็ต้องเป็นภาพขาวดำหรือที่เรียกว่าซีเปีย ต้องดูสารซิลเวอร์ไนเตรท รูปถ่ายเก่าจะต้องมีแสงสะท้อนของสารตัวนี้ แต่ถ้าเป็นรูปเล็กประกบกระจกสองด้านจะมองไม่เห็น เนื่องจากไม่มีการทำปฏิกริยาออกซิไดเซชั่นกับออกซิเจนในอากาศ ต้องดูที่ความแห้งเก่าคร่ำของภาพแทน

1.พยายามดูด้วยตาเปล่า ว่ารูปมีความคมชัดหรือเปล่า ถ้าไม่ชัดก็เป็นรูป copy มาอีกที รูปเปล่าจะดูความคมชัดของรูป ขอบรูปจะต้องมีความคมชัดเจนไม่เบลอ พลิกดูที่ด้านหลังของรูปภาพมีตราหรือยี่ห้อของกระดาษติดอยู่ด้วยหรือไม่ ถ้าไม่มีลองดูความเก่าของเนื้อกระดาษ คราบหรือร่องรอยที่ติดอยู่กับรูป รูปเก่าๆมักจะมีร่องรอยอย่างชัดเจนเช่น คราบของความชื้น รอยของสัตว์ที่เข้าไปกัดกินเนื้อกระดาษ ลองดมดูกลิ่นของกระดาษเก่าใหม่จะไม่เหมือนกัน ถ้ามีกาวติดอยู่ลองดูว่าจะเป็นกาวประเภทไหน รูปที่ใหม่ๆแล้วนำมาติด กาวมักจะยังไม่แห้งสนิท หรือไม่ก็เป็นพระเภทกาวตราช้าง ดมดูก็จะรู้ได้ทันที

2.รูปที่ติดการ์ดรองด้านหลังมา กาวที่ติดสำคัญมาก ลองเปิดดูรูปใหม่ๆมักจะใช้กาวแบบที่เหมือนกับชีลิโคลน ออฟชั่นของการ์ด การ์ดใหม่มักจะทำออกมาทีละเยอะๆและเหมือนกันเกือบทุกวัดทุกเกจิอาจารย์ ซึ่งโดยธรรมชาติในแต่ละวัดมักจะไม่เหมือนกัน ตราวัด ตราปั๊ม ที่ปั๊มติดระหว่างรูปกับการ์ดรอง ยี่ห้อของร้านที่ถ่ายภาพ ความเก่าใหม่ของรูปกับการ์ดรองจะต้องสัมพันธ์กัน เช่นมีรอยแตกรอยขาดของการ์ดก็มักจะรอยนั้นๆกับรูปด้วย

3.ดูที่ความคมชัด ไม่เบลอ มีแววตา ความเก่าของกระดาษ ชนิดของกระดาษ หนังไก่ หนังช้าง หรืออาบมัน มีมิติความตื้นลึกขององค์ประกอบภาพ สีขาวต้องไม่ขาวจนไม่เห็นลายละเอียด หรือสีดำก็ไม่ดำจนเกินไป (แต่บางทีก็มีการถ่ายจากรูปเดิมมาก๊อปปี้แจกจ่ายลูกศิษย์อีกทีก็มี แต่เป็นของก๊อปเก่า ตรงนี้จะดูที่ความชัดเจนอาจจะไม่ได้ ต้องดูที่ความเก่าของรูปเท่านั้น) ถ้ากระดาษอัดรูปรุ่นเก่าจะต้องมีแสงปรอทที่ใช้ในส่วนที่เข้ม (ท่านลองเอาภาพเก่ามีเอียงทำมุมให้ได้องศากับแสงจะเห็นจากเข้มเป็นขาวสว่าง) ปรอทในรูปภาพ ไม่ใช่ตัวยืนยันว่าเป็นรูปแท้ เพราะพวกทำปลอม ก็ทำรูปมีปรอทได้แล้ว กระดาษจะต้องไม่หนาจนเกินไป (ส่วนใหญ่ภาพเก่าจะบาง) กระดาษที่ใช้ในการอัด เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการตัดสิน รูปแท้ หรือไม่แท้ เพราะกระดาษแต่ละยุค มีความแตกต่างกัน ตามวิวัฒนาการที่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ รายละเอียดมีมาก

บางรูปก็มีร่องรอยการหลุดร่อน แตกแห้ง ของเนื้อฟิล์มบนรูป เหมือนถูกแมลงแทะ เกิดจากการหมดอายุ นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องสังเกตบางสิ่งก็บอกเป็นภาษาเขียนไม่ได้ ต้องอาศัยประสบการณ์ที่เคยสัมผัสบ่อยๆ ครับ และข้อแนะนำควรระวัง หากภาพเก่าถูกแสงมากๆ จะซีดจางกลายเป็นโทนสีน้ำตาล (สีซีเปีย) จนเลือนหายไปได้

4. หากมีกระจกที่มาประกบรูป ก็จะมีส่วนในการตัดสินใจว่าเป็นรูปแท้ได้ สมัยก่อนกระจกจะบางมากๆ ออกโทนฟ้าก็มี

 

ภาพถ่ายชุดวัดป่าประดู่ปี 08 ที่เคยแตกกรุออกมาจากพื้นที่เมื่อ3ปีก่อน แทบทั้งหมดจะเลี่ยมประกบมาแบบที่ลงไว้แล้วนี้ บางคนแกะดูพบว่ามีรอยจารไว้ก็ขายกันแพงลิ่ว มีเลี่ยมมา3แบบ คือสอดไส้ลาย สอดไส้ทึบสีและไม่ใส่ไส้ แตกกรุออกมาประมาณ800-1200ชิ้น สายตรงสายอ้อมแย่งบูชาหมดในเดือนเดียว แล้วขายต่อๆกันในตลาดพระ คนนิยมเสาะหาเพราะถือเป็นของดีตกค้างจากวัดแห่งหนึ่งในระยอง และราคายังไม่เกินหมื่นบาท ด้วยประสบการณ์เชื่อถือได้ในเรื่องต่างๆมีมานานแล้วสำหรับรูปถ่ายของ ลป.ทิม

ผมขอแบ่งน้องที่เป็นสายตรงลำดับต้นๆของ ลป.ทิมมาชุดหนึ่ง เก็บไว้นานโดยไม่เคยแกะออกดูข้างในหรือคิดเทียบเคียงของคนอื่นเพราะไม่รู้จะเอาของแท้ตรงไหนมาเปรียบเทียบ จนวันหนึ่งที่ได้มีโอกาสรู้จักผู้อาวุโสอดีตคนใกล้ชิดหลวงปู่ทิม และได้มีโอกาสรู้จักรังเก็บวัตถุมงคลสมัยก่อนที่มีสะสมทั้งของยุคเก่าและยุคสมัยสากลตามที่ลงในหนังสือพระ ทุกชิ้นที่เป็นวัตถุมงคลแบบสากลของ ลป.ทิมล้วนแท้ดูง่ายและสวยสมบูรณ์มาก กว่า60ชิ้นที่แบ่งออกสู่นักสะสมสายตรงมีชื่อเสียง ล้วนมีราคาสูงกว่าที่ขายๆกันในเวปพระ เพราะที่มาดีและความสวยงามเดิมๆที่หาได้ยาก ได้พบภาพถ่ายในยุคต่างๆของ ลป.ทิม เมื่อเทียบเคียงกับที่มีอยู่ทั้งภาพปี08 ภาพปี17 ภาพวัดตีนเนิน ทำให้เห็นความแตกต่างที่พิสูจน์ได้เอง

ครั้งนี้เอาแค่ภาพถ่าย1นิ้วปี08 วัดป่าประดู่มาเทียบเคียงให้ดูก่อน เพราะภาพชุดนี้เป็นที่นิยมมาแต่ยุคก่อน แต่ปลอมมากมายหลายเวอร์ชั่น และยังพัฒนาออกมาเรื่อยๆแม้ปัจจุบัน ของแท้มีไม่มากนักและน่าใช้บูชาเพราะท่านปลุกเสกนานหลายเดือนมาก เมื่อเทียบเคียงของแท้ด้วยตนเองด้วยอุปกรณ์ที่หาได้และนำไปให้ผู้มีอาชีพด้านการแต่งภาพช่วยตรวจสอบ ผลก็ตรงกันว่า แบบไหนแท้มาแต่เดิมและแบบไหนที่แต่งภาพมาใหม่หรือcopyมาเมื่อไม่ถึง20ปีนี้เอง

1. ภาพปี08 ของแท้เท่าที่เห็นเกิน 20ใบ จะเป็นภาพขาวดำ
2. มีขนาด 15 mm. x 23 mm. อาจขาดหรือเกินได้เล็กน้อยแล้วแต่การตัดขอบ
3. ด้านหลังภาพมีทั้งจารและไม่จารกำกับมาแต่เดิม
4. ไม่เจอแบบเลี่ยมประกบสองใบ หรืออาจจะมีก็ได้
5. ไม่ใช่ภาพกระดาษหนังไก่ แต่มีคราบปรอท(ซิลเวอร์ไนเตรท)ทุกใบ
6. ภาพแท้มีทั้งแบบเลี่ยมพลาสติกและไม่เลี่ยมมาแต่เดิม
7. พลาสติกที่เลี่ยมเป็นแบบบาง หนา1mm ใช้น้ำยาอัดพลาสติกรุ่นเก่า
8. กระดาษภาพทุกใบ จะมีการกินตัวตามอายุของกระดาษ มีความบางกว่ากระดาษยุคใหม่
9. ภาพจะคมชัดเห็นนัยน์ตา และเส้นกล้ามเนื้อ มีเงาวัตถุไล่ระดับแสงถูกตามความเป็นจริง
10. รอยจารจะเป็นปากกาลูกลื่นหมึกแห้ง ไม่ใช่ปากกาลูกลื่นหมึกเคมี เพราะหมึกเคมี เพิ่งจะมีในเมืองไทยเมื่อปี2541

 

ขอลงภาพถ่ายปี08แท้ๆ ให้ดูหลายสภาพ
มีทั้งแบบเลี่ยมมาเดิมๆ และแบบไม่เลี่ยม

 

บรอนซ์ทองยุคแรกๆ ที่เคยใช้ทาพระผงของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
เนื้อพระผงยุคแรกของ ลป.ทิม จะไม่ขาวเสียทีเดียวแต่ผสมบางอย่าง

 

พิมพ์หัวโตเนื้อผงพรายกุมารแบบนี้ เมื่อก่อนหลายคนเขาว่าปลอม
แต่เวลานี้ พิมพ์นี้กลับมาแพงมาก เพราะคนพื้นที่ให้ข้อมูลน่าสนใจ
สร้างไว้น้อย และ เป็นครั้งแรกๆของการกดพระพิมพ์ผงพรายกุมาร
ลองอ่านตามลิงค์ด้านล่างนี้ดูครับ เป็นของแรงทางเมตตามหานิยม


พระผงรูปเหมือน พิมพ์หัวโต หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง

 

พระผงพรายหลวงปู่ทิม ผมไม่สู้เลย ปลอมหลายตำราไม่รู้ไหนจริงไหนแท้ เซียนเก่าเซียนใหม่ เซียนท้องที่เล่นกันนัวไปหมด ออกตำราเอง ถ้ามีเงินก็อยากได้ของแท้ ของแท้ของเราไม่ใช่ของแท้ของเซียนก็ปล่อยต่อไม่ได้ ยามขัดสนหาคนปล่อยพึ่งพาไม่ได้ เวรกรรมเล่นพระเก๊กันเป็นระบบ ดูหมิ่นครูบาอาจารย์ พวกนี้ตายไปคงลงนรก แต่มันอยากรวยก่อน ถ้าคู่มือเล่มเขียวดูแล้วเป็นของแท้ก็ดีนะครับ

 

ของท่านดีจริงๆครับ
องค์นี้ประทับใจผมมาก มีบุญมีวาสนาอยากได้เป็นเจ้าของเหมือนกันครับ

 

พระผงพรายกุมารนั้น มีคนหูตั้งสนใจเพราะคำว่า พรายกุมารก็มากไม่น้อย เพราะคิดว่าคงจะเฮี้ยนขลังด้วยผงชนิดนี้ แต่พระผงของ ลป.ทิม มีดีกว่าแค่จะใส่ผงพรายกุมารหรือไม่ได้ใส่ ผมยืนยันว่า หากเป็นขุนแผนผงพรายกุมาร เอาแบบที่ทันท่านแน่ๆที่สากลยอมรับและขายได้แพงคือ บล็อคนิยม (บล็อคอื่นก็มีทันท่านแต่ยังไม่กล่าวถึงตอนนี้) แต่จะฉุกคิดบ้างไหมว่า เมื่อ ลป.ทิมละสังขารแล้ว ยังพบว่ามีพระบล็อคนี้อีก2กระสอบปุ๋ย น่าจะไม่น้อยกว่า2500องค์ ตกค้างอยู่ที่บ้านคนรับจ้างกดพระขุนแผนบล็อคนี้ แน่นอนว่าพระตกค้างชุดนี้ หลวงปู่ทิมไม่ได้ปลุกเสกให้แน่ๆ ส่วนจะเอาไปให้ ลป.แก้วหรือท่านใดปลุกเสกนั้น ไม่มีใครรู้จริงแล้วมายืนยันด้วยหลักฐาน เพียงแต่บอกเล่าต่อๆกันมาเท่านั้น แต่ที่มีผลทางการบูชาเพราะผงต่างๆที่หลวงปู่ทิมมอบไปให้ผสมกดพระ

หากคิดแบบคนวงนอกที่ช่างคิดช่างซักถาม แล้วบล็อคพระขุนแผนพิมพ์นิยมนั้นล่ะ เอามาคืนวัดหรือเปล่า แล้วใครเก็บไว้ ทำลายต่อหน้าใคร มันแตกจริงหรือเพราะทำด้วยโลหะแล้ว กดพระจนมือหงิกก็คงไม่แตก พระขุนแผนบล็อคนี้ส่วนหนึ่งหลวงปู่ทิมปลุกเสกให้แน่ แต่พระอีกหลายเท่าตัวท่านไม่ได้ปลุกเสกแน่นอน หากจะหามาบูชาติดตัวจะเลือกยังไงดี ใช้การจับพลังพระพุทธคุณก็มีอยู่เพราะผงของท่านแท้ๆ แต่เหมือนแบตเตอรี่ชาร์ตไม่เต็มพลัง ไฟแรงไม่นาน หากเป็นบล็อคพิมพ์อย่างอื่นอาจใช้การอนุมานเทียบเคียงหลักฐานจากองค์ประกอบรวมและส่วนควบของวัตถุ ด้วยวิธีการจากหลักการวิทยาศาสตร์ หรือด้วยกล้องไมโครสโคปที่ผมนำมาใช้พิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง รวมทั้งใช้พิสูจน์พระยุคเก่าๆของท่าน เทียบเคียงจากข้อมูลองค์ประกอบต่างๆในวัตถุสากลนิยมที่มีหลักฐานการยอมรับมาก่อน

 

พระนอกสายตาแบบนี้ เจอ2องค์แล้วแบบอยู่ในคอนักสะสมพระของ ลป.ทิม เป็นหนุ่มใหญ่เศรษฐีคนนอกวงการที่มีพระกริ่งท่านถึงสามองค์ แต่แขวนเดี่ยวแบบนี้ ฟังๆไว้เท่านั้นครับ เพราะพระผงชุดนี้ที่กดลองพิมพ์เนื้อนี้ มีไม่ถึงสิบ เมื่อชี้แนวทางการพิจารณาของวัตถุมงคลต่างๆไปบ้างแล้ว ก็มีน้องๆเพื่อนๆในวงการซื้อขายต่างขอร้องมาว่าอย่าแฉอีกเลย ปล่อยเป็นทางใครทางมัน เดี๋ยวจะวุ่นวายใหญ่ ที่เตรียมจะลงเทียบภาพถ่ายปี17ที่ตอนนี้ใบละแสนกว่าบาท หรือภาพของวัดตีนเนินที่ตอนนี้ใบละห้าหมื่นเศษ อาจจะต้องทำเฉยๆไปก่อน ที่ระยองกำลังร้อน

 

ภาพถ่ายในวงการพระเครื่องที่ได้รับความนิยมกันมาก จะมีของหลวงปู่ทิม ระยองและของหลวงพ่อกวย ชัยนาท เห็นมีลงขายกันวันละไม่ต่ำกว่ายี่สิบภาพและติดต่อกันทุกวันมานานหลายปีแล้ว ได้นำภาพถ่ายของหลวงพ่อกวยที่มีจีวรด้านหลังพิสูจน์ตามหลักการและวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว พบว่าผ้าจีวรที่ติดมาของบางภาพ เป็นเส้นใยต่างจากยุคสมัยช่วงปี2520 และต่างไปจากเส้นใยด้ายในจีวรด้านหลังองค์พระแท้ๆยุคก่อน โดยเส้นใยดังกล่าวที่พบช่วงหลังๆ มาอยู่ผิดยุคสมัย

หลักการพิสูจน์ จากเส้นใย สู่เส้นด้าย ก่อนจะมาเป็นผ้าทอ

เส้นใยที่นำมาถักทอเป็นเส้นด้ายเพื่อใช้ทอผ้าจะมีคุณลักษณะเฉพาะตัวและพัฒนาไปตามยุคสมัย ปัจจุบันเส้นใยทำมาจากฝ้ายและใยสังเคราะห์ โดยมีอัตราส่วนขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นด้ายที่จะใช้ทอผ้าแต่ละชนิด บางอย่างใช้เส้นใยสั้น บางประเภทใช้เส้นใยยาว และยังมีความหลากหลายของเส้นใยอีกหลายประเภท เช่นเส้นใยแท้จากธรรมชาติ (พืช สัตว์ แร่ธาตุ) หรือเส้นใยสังเคราะห์ (สังเคราะห์จากธรรมชาติ จากสารเคมีและจากแร่ธาตุ) ผ้าที่ใช้การถักทอจากเส้นใยฝ้ายและผ้าที่ใช้เส้นใยไนลอน จะมียุคสมัยแตกต่างกันและมีคุณสมบัติต่างกัน สามารถตรวจสอบได้ง่ายมาก แม้เพียงใช้กล้องMicroscope ตัวละ 5,000บาทก็ทำได้แล้ว

 

เส้นใยด้ายของผ้าจีวรที่ติดด้านหลังภาพล่าง เป็นเส้นใยฝ้ายชนิดเส้นใยสั้น ถูกตามยุคสมัยเมื่อกว่าสามสิบปีก่อน มีการขาดและกินตัวของเส้นใยเมื่อขยายดู100เท่า ยิ่งประกอบกับภาพถ่ายที่แม้ถ่ายจากวัตถุมีระนาบแบนระดับเดียวกัน ก็ยังมีมิติของแสงไล่ระดับเป็นธรรมชาติของความจริง ทำให้ใช้เป็นมาตรฐานเทียบเคียงได้ว่า แบบนี้แท้และดูง่าย ส่วนอีกภาพหนึ่งไม่บอกว่าแท้หรือปลอม ให้เทียบกันเอาเอง เพราะภาพขาวๆแบบข้างบนนี้ มีมากกว่าภาพเทาๆด้านล่างสามสิบเท่าตัว

 

หากเป็นภาพถ่ายจริง จากวัตถุต่างระนาบ จะมีมิติแสงที่ดูได้ง่าย
แสงเงาจะไล่เรียงระดับและลดความเข้มลง เป็นสัดส่วนที่ถูกต้อง
ไม่มีร่องรอยการตกแต่งภาพหรือแต่งฟิล์มจนเห็นผิดปกติในภาพ
ภาพถ่ายหลวงพ่อกวยแบบนี้แท้ ดูง่ายและน่าสนใจหากจะใช้บูชา
ผิดจากธรรมชาติแบบนี้ ก็คิดหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ
X 50 เท่า จะเห็นจุดนูนและหลุมซ้อนของเนื้อกระดาษในยุคก่อน


ปล. ต้องขอขอบคุณร้าน มรดกพ่อ เจ้าของภาพสวยๆดูง่ายๆใบนี้ด้วยครับ

 

มีคนถามมาว่าหากจะซื้อกล้องไมโครสโคปมาใช้บ้าง จะใช้ทำอะไรได้บ้าง ต้องบอกว่า..ทำได้หลายอย่างครับ แค่ขยาย 20 - 500 เท่าก็ทำให้เราค้นคว้าอะไรได้มากมาย ราคาก็ไม่ได้แพงไปกว่าพระเครื่องดีๆสักองค์ แต่มีประโยชน์มากหลายอย่าง ดูเชื้อโรคก็ได้ พิสูจน์สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ได้ เช่นกระดาษแต่ละประเภทที่ผลิตในยุคสมัยต่างๆ มีเนื้อเยื่อหรืออนุภาคและสารประกอบแตกต่างกัน กระดาษสมัยใหม่ๆมีเทคโนโลยีการผลิตดีขึ้นๆและดีถึงขีดสุด ยุคใหม่ๆเนื้อจะแน่น เนียน มีช่องว่างในอนุภาคน้อย ต้องใช้กำลังขยายสูงกว่ากระดาษยุคก่อนหลายเท่าตัวจึงจะเห็นช่องว่างหรือเส้นใยกระดาษ

พลาสติกที่หุ้มพระมาเก่าๆเมื่อสามสิบปีก่อน เมื่อขยาย250เท่า จะเห็นรอยย่นและฟองอากาศเล็กๆมากมาย เพราะยังใช้เม็ดพลาสติกที่ไม่บริสุทธิ์ดีพอหรือมีเทคโนโลยี่ทันสมัยเช่นยุคใหม่ที่เนื้อจะใสและต้องขยายสูงกว่าอีกเท่าตัวจึงจะเห็นในสิ่งเดียวกัน ในแต่ละยุคสมัยของวิวัฒนาการทั้งปวง ย่อมมีหลักฐานของตัวเองทิ้งร่องรอยไว้ ลองหามาทำวิเคราะห์และบันทึกข้อมูลในสิ่งที่สงสัย เมื่อเจออะไรที่อยากค้นคว้าก็นำมาเทียบเคียงได้เลย พระผงต่างๆนั้น มีร่องรอยของพยานวัตถุที่เป็นส่วนผสมทิ้งไว้ให้เทียบเคียงได้ทั้งสิ้น แม้แต่ดินโคลนและเศษผงในแต่ละจังหวัดที่ติดล้อรถมา เขายังแยกกันได้เลยครับ แต่เรื่องแบบนี้วงการพระบ้านเราไม่ยอมรับการพิสูจน์ กลัวอะไรกันไม่รู้ ยอมรับและให้การเชื่อถือเพียง หนังสือพระและปากคนขาย ก็ต้องแล้วแต่มุมคิดของแต่ละคน

 

รบกวนพี่หนุ่ม ขอร่วมศึกษารูปถ่ายหลวงปู่ทิมด้วยครับ พอดีได้รูปถ่ายหลวงปู่ทิม 2517 ขนาด 1 นิ้วมานานแล้ว แต่ไม่แน่ใจมีโอกาสแท้หรือเปล่า เพราะตั้งแต่ได้มาก็ไม่เคยให้ใครช่วยดู พี่หนุ่มพอจะมีรูปถ่ายปี 2517 แท้ๆ ที่มาดี จะขอเอามาลองเปรียบเทียบดูครับ

 

ภาพถ่ายปี17 ของ ลป.ทิม มีราคาแพงมากในเวลานี้ มีหลายๆเวอร์ชั่นในท้องตลาดพระ หากนำมาวิเคราะห์แยกแท้หรือเลียนแบบจะทำให้เกิดข้อพิพาทได้มาก ผมคิดเตรียมไว้แล้วเช่นกัน แต่มีการขอร้องไว้จากหลายๆฝ่าย ขอลงไว้แบบมีข้อคิดเตือนใจว่า ภาพชุดนี้ถ่ายย่อมาจากใบใหญ่เพื่อทำภาพเล็กแขวนคอ จำนวนก็ไม่น้อยเลย เมื่ออัดภาพมาในครั้งเดียวกันแล้ว ความคมชัด ขนาด มุมแสงต่างๆควรเหมือนกัน ลองพิจารณาดูภาพที่ลงไว้จะพบว่ามีความหลากหลาย ลองดูความแตกต่างเรื่องความคมชัด เงาแสง ซึ่งไม่ได้แท้หรือปลอมมาทุกภาพ ดูดีๆอาจพบความผิดปกติได้เอง

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม

 

สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่านครับผม