มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย studio214, 19 กรกฎาคม 2015.

  1. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 63 ดาวก้าวหน้าดวงตาสวรรค์ หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต
    เนื้อรวมผงพุทธคุณ (รวมผงในสายวิชาหลวงพ่อ)ติดพลอยนพเก้าคุ้มดวง

    ค่าจัดส่ง 60 บาท ปิดรายการ

    "ดวงตาสวรรค์" เปิดดวง หนุนดวง คุ้มครองดวงชะตา กระทำกิจสิ่งใดมีแต่ความราบรื่น มองเห็นทะลุปัญหา ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ดาวเนื้อผงพุทธคุณ สร้างจากผงมวลสารเฉพาะ และผงพุทธคุณรวมของหลวงพ่อ ท่านบอกว่าผงนี้แรงดีนะ

    คาถาดาวเก้าหน้าดวงตาสวรรค์
    ตั่งนะโม ๓ จบ
    พุทธะนิมิตตัง อะระหังพุทโธ โลกะวิทู
    จักกะวาเฬสุ ทิพพะจักขุง จะมหาลาภัง
    ชัยยะสุขขัง จะมหาโภคัง นะเตสุเต
    มหาสุเต นะฦาชา นะชาลีติ

    หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อนพวรรณ เจ้าอาวาสวัดเสนานิมิต ต.บ้านหีบ อ.อุทัยจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ได้รับการสืบทอดวิชาโดยผ่านโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นโดยตรง โยมย่าของท่านก็เป็นน้องสาวของ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติฯ ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อกลั่นเช่นกัน และเป็นผู้ได้รับการถ่ายวิชาอาคมและสรรพตำราต่างๆ ของหลวงพ่อกลั่นเอาไว้ทั้งหมด ต่อมาเมื่อหลวงพ่ออั้นมรณภาพ ผู้ที่ได้รับตำราต่างๆ ก็คือน้องสาวของท่าน ซึ่งเป็นโยมย่าของหลวงพ่อวรรณนั่นเอง ตำราทั้งหมดในสายวัดพระญาติฯ จึงตกอยู่กับหลวงพ่อวรรณจนทุกวันนี้หลวงพ่อวรรณ จึงนับเป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ในทุกวันนี้ ที่มีความเชี่ยวชาญในสรรพวิทยาคาถาอาคมต่างๆ อย่างมากมาย จนสามารถปลุกเสกวัตถุมงคลได้อย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย อย่างกว้างขวาง ชื่อเสียงของหลวงพ่อนพวรรณโด่งดังไปทั่วประเทศ รวมทั้งนักสะสมพระเครื่องรางของขลัง ในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วยหลวงพ่อวรรณ ท่านชอบศึกษาหาความรู้ทั้งด้านธรรมะ และไสยศาสตร์อย่างจริงจัง ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมกับอาจารย์เลื่อน และอาจารย์ใหญ่ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่นเช่นกัน จนได้สำเร็จวิชา เก้าเฮ อันเป็นเอกลักษณ์อันลือลั่น ของวัดพระญาติฯ โดยตรงต่อมาท่านได้ศึกษาไสยเวทจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ อาจารย์เจ๊ก และ อาจารย์เยื่อ ได้สอนวิชามลกระจายจนสำเร็จแตกฉาน และยังสำเร็จวิชาธรรม ๙ โกฏิ จาก พระอาจารย์โฮม ที่ได้ศึกษามาจาก สำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่งลาว ได้ศึกษาวิชาผูกหุ่นพยนต์ กำบังตน และถอนคุณไสยจาก หลวงพ่อพา วัดกะโพ จ.สุรินทร์ รวมทั้งได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง จนหมดสิ้นและที่สำคัญสุด หลวงพ่อวรรณได้รับตำราการสร้างวัตถุมงคล และพิธีการต่างๆ ของสำนักวัดประดู่ทรงธรรม จาก หลวงพ่อนาค และ หลวงพ่อสละ อีกด้วยจึงนับได้ว่า หลวงพ่อวรรณเป็นผู้ที่คงแก่เรียน และเป็นเอกอุในศาสตร์ต่างๆ อย่างแท้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2016
  2. อภิญญา8

    อภิญญา8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,864
    ค่าพลัง:
    +6,799
    ขอจองรายการที่ 61 ครับ
     
  3. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ
     
  4. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 64 ตะกรุดรกแมว (ตะกรุดน้องแมว) หลวงปู่ไม อินทสิริ
    ปิดรายการ

    ตะกรุดน้องแมวนี้ถือเป็นวัตถุมงคลที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งขององค์หลวงปู่ ตะกรุดสร้างจากรกแมวแห้งแท้ๆ ผสมกับผงมวลสาร เกศาจีวรหลวงปู่ แผ่นจารยันต์ พอกด้วยครั่งหรือวัสดุอื่นๆที่ใช้สำหรับอุดล็อคเก็ต ปั้นเป็นตะกรุดและถักเชือก ดังนั้นตระกรุดนี้จึงไม่ควรที่จะใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือวางไว้ในที่ไม่สมควร เพราะไม่ใช่เป็นแค่เพียงเครื่องราง แต่ได้ผสมเกศาจีวรของหลวงปู่เข้าไปด้วย

    ตะกรุดนี้ได้รับการอธิษฐานจิตจากพระอริยเจ้า ด้วยความเมตตาที่จะให้ลูกศิษย์มีความคล่องตัว เจริญก้าวหน้าในการงาน โดดเด่นมากทางเมตตามหานิยม เมตตาค้าขาย เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง และยังสามารถคุ้มครองป้องกันภัยได้ตามแต่จะอธิษฐานเอา

    หลวงปู่ไม อินทสิริ พ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ องค์ท่านมีบารมีเกี่ยวข้องกับองค์พระอุปคุต ท่านเทศน์ว่าท่านบวชป็นเณรและเป็นไข้ป่าสิ้นในสมัยพระอุปคุต วัตถุมงคลของหลวงปู่มีพุทธคุณทั้งเมตตาและมหาปราบ ดังเช่นบารมีแห่งองค์พระอุปคุต คือทั้งมหาลาภ และ ทรงฤทธิ์ปราบมาร ประสบการ์เรื่องกันผี ไล่ผี มีอยู่มากมาย สมัยก่อนท่านว่า หากผีเข้าให้นำรูปถ่ายท่านอธิษฐาน ใช้ไล่ผีได้

    ประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดนั้นก็มีอยูมากมาย เมื่อเสร็จจากเทศนาแล้วหากมีเวลา หลวงปู่มักจะเล่าเรื่องที่ลูกศิษย์ที่ห้อยเหรียญท่านแล้วแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุให้ฟังอยู่หลายครั้ง

    หลวงปู่ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ไว้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นพวกไม่ชอบวัตถุมงคลนะ ไม่ชอบเลยของพวกนี้ แต่ทีนี้มันมีเหตุให้ต้องทำ คือชาวบ้านเขาเดือนร้อนมีผีเข้าปอบเข้า ก็เลยต้องทำของพวกนี้เพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์เขา เลยเป็นเหตุให้ได้ทำของพวกนี้

    เรื่องเกี่ยวกับองค์ หลวงปู่ไม อินทสิริ จากกระทู้(หลวงปู่ไม อินทสิริ ลูกศิษย์พระอุปคุต-ทายาทธรรมหลวงปู่มั่น)
    - ท่านเป็นทายาทธรรมหลวงปู่มั่น(ลูกศิษย์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ) เป็นสหธรรมมิกกับพระอาจารย์ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ และเป็นลูกศิษย์สายพระอุปคุตอีกรูป ที่ยังเหลืออยู่ ในปัจจุบันนี้ (อดีตชาติท่านเคยเกิดเป็นลูกศิษย์พระอุปคุต)
    - มีทหารชอบนำเหรียญท่านไปลองยิง แล้วยิงไม่ออก
    - ท่านได้หูทิพตาทิพย์ตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร
    - ท่านเคยกล่าวว่า "ที่ไหนผีดุ ให้นำรูปท่านไปติดไว้"
    - ท่านเคยไปปราบปอบที่ออกอาละวาดแถบศรีษะเกษ โดยใช้จิตผูกไว้ แล้วเทศน์ทรมานสั่งสอน จนปอบพวกนั้นมีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
    - คนที่โดนผีเข้า นำพระของท่านไปคล้องคอ ผีออกทุกราย
    - มีเด็กชาวบ้าน ห้อยพระของท่าน โดนรถชนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร แต่ไม่เป็นอะไรเลย
    - มีเด็กชาวบ้านหลายราย ห้อยพระของท่าน ตกน้ำไป ไม่จม
    - มีคนบูชาเกศาของท่าน แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว
    เพิ่มเติม
    - ท้าวสักกะเทวราชมาสอนวิชาท่านตั้งแต่สมัยเด็ก
    - เทพเทวดามักมานิมนต์ท่านให้ไปพบเห็นในภพภูมิต่างๆ
    ฯลฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2016
  5. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 65 ผ้ายันต์พุทธนิมิตร มีจาร หลวงพ่อสุริยัณ จนฺทวณฺโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  6. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 66 นพเก้า : กระเบื้องหุ้มองค์พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก
    ปิดรายการ

    แผ่นกระเบื้องมงคลนพเก้า บางท่านนำไปอธิษฐานวางไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปที่บ้าน นำไปเลี่ยมห้อย หรือ นำไปขอเมตตาครูบาอาจารย์อธิฐานอีกครั้งให้เป็นแผ่นทำน้ำมนต์

    ลักษณะเป็นกระเบื้องโบราณมี 9 ช่องจึงเป็นที่มาของนพเก้า และจะมีการลงรักปิดทองคำแท้ไว้ด้านนอก ส่วนด้านหลังกระเบื้องที่มี9ช่องเอาไว้โบกปูนปิดหุ้มองค์พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปัจจุบันอายุเกิน100 ปี และ ผ่านการปลุกเสกมานานแสนนานทุกพิธีใหญ่ในการปลุกเสกจะมีการโยงสายสิญจน์จากองค์พระปรางค์นี้เข้าไปยังวิหารพระพุทธชินราชทุกครั้ง ซึ่งพิธีใหญ่ๆพิธีหลวงที่ผ่านมาเกิน100ปี คิดเอาครับว่าผ่านการปลุกเสกยาวนานขนาดไหน นพเก้านี้ถือเป็นของสูงปิดไว้บนยอดหุ้มองค์พระปรางค์ของวัดเลย สืบเนื่องจากกาลเวลาผ่านไปทำให้นพเก้าบางส่วนได้หลุดออกมา และทางวัดได้นำมาเปิดให้ประชาชนบูชาในช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะหมดไปอย่างรวดเร็ว สำหรับประวัติรายละเอียดมีดังนี้
    วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช มีการบูรณะพระปรางค์ประจำวัด ศิลปะสมัยอยุธยา ที่ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารพระพุทธชินราช ในการบูรณะจะมีการแกะชิ้นส่วนของพระปรางค์ ที่เรียกว่านพเก้า (แผ่นกระเบื้องโมเสกสีทอง ขนาด 3 x 3 ซ.ม.) ออก (เป็นพระปรางค์องค์เดียวในประเทศไทยที่มีการติดนพเก้า หรือกระเบื้องโมเสกสีทอง) ซึ่งทางกรมศิลปากร และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้มีมติให้นำชิ้นนพเก้าออกให้ประชาชนเช่าบูชาเก็บไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ พระปรากรมมุณี ( เปลี่ยน ) เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหา วิหาร จังหวัดพิษณุโลก ในขณะนั้น ได้รวบรวมเงินจากผู้มีจิศรัทธาสั่งซื้อกระเบื้องสีทองจากประเทศอิตาลี เรียกว่าแผ่นนพเก้า สาเหตุที่เรียกว่าแผ่นนพเก้า เนื่องจากมี ๙ ช่อง แต่ละช่องมีจุด ๓ จุด ๓x๙ = ๒๗ และ ๒+๗ =๙ บางแผ่นแต่ละช่องมี ๔ จุด ๔x๙ = ๓๖ และ ๓+๖ = ๙ แผ่นนพเก้าปิดทองนี้ติดบนองค์พระปรางค์เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔และในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐบาลได้มอบให้กรมศิลปากรทำการซ่อมแซมองค์พระปรางค์ใหม่ จึงได้นำแผ่นนพเก้าที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ออก และมอบให้ทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อมอบให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาทำบุญสร้างนพศูลทองคำติดบนยอดพระปรางค์ แผ่นนพเก้านี้ มีอายุ ๑๐๖ ปี ใครบูชาหรือมีไว้นับว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

    นพเก้านี้จากการบอกเล่าจากคนเฒ่า คนแก่บอกว่าเมื่อสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันนี้เมื่อมีงานพุทธาภิเษกพระหรืองาน มงคลต่างๆทางวัดใหญ่ก็จะนำสายสิญจ์ขึ้นไปโอบพันรอบพระปรางค์เก่านี้ไว้โดย ตลอด เท่ากับว่านพเก้านี้ผ่านการปลุกเสกมานับไม่ถ้วยเลยทีเดียวครับ แต่ก่อนนั้นนพเก้ากว่าจะได้มาสักหนึ่งองค์นั้นยากแสนยาก เพราะต้องรอนพเก้าหลุดล่วงหล่นลงมาถึงจะมีการเอานพเก้านี้ออกมาให้บูชากัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2016
  7. ภูมิบุญ

    ภูมิบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +109
    บูชารายการ ที่56 ลปไม เหรียญ หลังพระอุปคุต
    โอนเงินให้แล้ว รายละเอียด ใน PM
    -รวมกับขุนแผนเทพอุดร อีกหนึ่งองค์
     
  8. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รับทราบครับ พรุ่งนี้จัดส่งให้ครับ โมทนาบุญที่ร่วมบุญวิหารทานกับหลวงปู่ด้วยครับ - ขอบคุณมากครับ
     
  9. ภูมิบุญ

    ภูมิบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +109
    ได้รับพระแล้ว ขอบคุณมากครับ
     
  10. ดับขันธ์5

    ดับขันธ์5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +630
    รายการ66จองครับนพเก้ากับรายการที่ 51
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2015
  11. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    ปิดรายการครับ

    รายการที่ 49 มัจฉานุ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน (คณะศิษย์หลวงปู่พิศดูสร้าง)
    รายการที่ 66 นพเก้า : กระเบื้องหุ้มองค์พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2016
  12. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 67 ล็อกเก็ตหลังพระอุปคุต+จีวรหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี (รุ่นประสบการณ์)
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท ปิดรายการ

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้แม้ไม่ทันหลวงปู่ แต่ประสบการณ์เยอะมากๆ ที่คัดลอกมาลงนี้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น

    ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด คัดลอกจากบทความ คุณทุเรียนทอด

    ‪#‎วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงครับ‬ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย..ผมได้ฟังมาก็หลายคนแล้วถึงประสบการณ์วัตถุมงคลล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้ แม่ไม่ทันท่านอธิษฐาน ก็ยังปรากฏอิทธิปาฏิหาริย์ให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด แม้แต่เรื่องทางโชคลาภนี้ ถ้าถึงคราวจำเป็นอธิษฐานจิตบอกหลวงปู่ก็เห็นผลกันแทบทุกราย บางคนที่ผมฟังมาใส่ของชุดนี้ไปอธิษฐานซื้อหวยก็ยังถูก บางคนก็เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ใช้ล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้แล้ว "เฮง..มาก ทำอะไรไม่เคยพ่ายเลย.." ขนาดใส่เอาไปเล่นไพ่ก็ยังได้อยู่เสมอ ยิ่งถ้าวันไหนใส่สวดมนต์บูชาหรือใส่นอนยิ่ง ป๊อก.. เลย.. 
แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ และไม่ได้สนับสนุนให้ท่านผู้อ่านเอาวัตถุมงคลไปใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการพนัน เพราะหลวงปู่ท่านก็ยังบอกว่า " การพนัน ขันต่อ เป็นข้อทุกข์.. " แต่ว่าประสบการณ์ที่ฟังๆมาส่วนมากเป็นอย่างนั้นจริงๆ และส่วนมากที่เขาได้ผลกันจะประมาณว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นจริงๆแล้วอธิษฐานขอหลวงปู่ท่าน ก็มักจะได้สมความปรารถนากันแทบทั้งสิ้น ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยขออะไรจากท่านครับ เพียงแค่บูชา มีท่านอยู่ในใจและรู้สึกว่าองค์ท่านยังคุ้มครองเราอยู่เพียงเท่านี้ก็พอใจแล้วครับ..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสกเลย มีแต่เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปเท่านั้นครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพในตัวแล้ว สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ

    ล่าสุด.. !!! ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุต ชายจีวรหลวงปู่พิศดู
    ‪#‎การกลับมาใหม่‬..
เมื่อไม่นานมานี้เอง มีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นครับ เป็นประสบการณ์จากคุณ บวรรัตน์ อยู่ที่ดอนเมืองครับ
คือคุณบวรรัตน์ได้ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว ต่อมามีอาการน้ำเดิน คือมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด และมีไข้ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ทางแพทย์แทบไม่ได้ทำการรักษาอะไร เพียงแต่ให้นอนที่โรงพยาบาล 2 วัน รักษาไปตามอาการ ต่อมาอาการเริ่มทรุดหนักขึ้นจึงได้ย้ายไปตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ผลจากการตรวจคือ ครรภ์เป็นพิษ จนทำให้เด็กแท้งครับ ทางแพทย์ต้องทำการผ่าเอาเด็กออก ต่อมาก็มีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น มีไข้ขึ้นสูงจนสลบไปไม่ได้สติ ความดันตกเหลือเพียง 40-45 เท่านั้น และต้องใช้อ็อกซิเจนช่วยในการหายใจ ซึ่งเคสนี้มีความเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้ง่ายมาก ทางคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ และญาติๆก็กังวลกันมาก และทางแพทย์ก็ไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้ แต่ก็จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่..!! 
ทางพี่อั๋น ซึ่งถือเป็นญาติห่างๆกับคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงแนะนำให้พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถืออยู่ จึงได้ไปเอาล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุตชายจีวร ที่ทางวัดเทพธารทองแจกมา เอามาอาราธนาขอบารมีพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดู ให้ช่วยลูกสาวคนนี้ด้วย เขาเป็นคนดี ชอบทำบุญ ไม่เคยก่อกรรมอะไรร้ายแรง.. และจากนั้นก็ขอให้พยาบาลเอาไปคล้องคอของคุณบวรรัตน์ เพื่อหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์.. !!! ผู้เป็นแม่ และญาติๆก็พร่ำสวดมนต์แผ่เมตตา และรอความหวังอย่างใจจดใจจ่อ แม้ความหวังที่มีในตอนนั้นจะดูน้อยนิดก็ตาม.. ซึ่งหลังจากได้นำเอาล็อกเก็ตกระดาษไปคล้องคออยู่ได้เพียงไม่ถึง 1 วัน คุณบวรรัตน์ก็ฟื้นขึ้น อาการทุกอย่างดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางแพทย์ที่ทำการรักษายัง งง..??(แปลกใจ) เลยครับ พอหลังจากที่คุณบวรรัตน์ฟื้นขึ้นมาแล้ว ได้เล่าเหตุการณ์ที่คล้ายความฝันให้ฟังว่า..
" หลังจากที่เธอสลบไป ก็เห็นภาพตัวเองกำลังจมลงไปในท้องทะเลลึก และมืด ในใจก็คิดว่า ชาตินี้เรายังทำความดีไม่พอ นี่เราจะไม่รอดแล้วหรือ เราอยากจะกลับไปอีกครั้งเพื่อทำความดีให้มากกว่านี้.. ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า.. " กลับไปไม่ได้แล้ว.. " !!! 
ในวินาทีนั้น เธอก็คิดถึงพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดูขึ้นมาเอง ก็พลันเห็นภาพพระองค์ผอมๆใส่จีวร แต่ว่าไม่ทันมองหน้า ท่านได้จับผมของเธอและเหวี่ยงขึ้นมาจากทะเลลึกนั้นกลับขึ้นมาบนฝั่งอย่างฉับพลัน แล้วเธอก็ได้สติขึ้นมา พบว่านอนอยู่บนเตียง ที่โรงพยาบาล.. พอตื่นขึ้นมา ก็เจอแม่เข้ามาเยี่ยม จึงได้บอกแม่ว่า ให้โทรไปขอบคุณ " น้าอั๋น " ที เพราะเชื่อว่า น้าอั๋นต้องเป็นคนที่มีส่วนช่วยให้ตนเองกลับมาในครั้งนี้อีก เนื่องจากน้าอั๋น ศรัทธาในพระมหาอุปคุต และหลวงปู่พิศดูเป็นที่สุดครับ..
หลังจากนั้นมาคุณบวรรัตน์ ก็มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถกลับมาบ้านได้แล้วครับ.. สาธุ

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษชายจีวร‬ ‪#‎หลังพระมหาอุปคุต‬
    เรื่องนี้ท่านพระอาจารย์หนึ่ง สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ เป็นผู้เมตตาเล่าให้ฟังครับว่า..
‪#‎ชะตาขาด‬..!!!
ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 มีโยมคนหนึ่งมาหาท่านพระอาจารย์ที่สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ บอกว่ามีเพื่อนแนะนำให้มาหา ให้พระอาจารย์ช่วย.... แล้วโยมคนนัั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า.. 
ตนเองมีความไม่สบายใจ จึงไปหาหมอดูดวง ซึ่งพอหมอดูได้ตรวจดวงแล้วก็บอกว่า ชะตาขาด จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงเดือนมีนาคม ทำให้ตนตกใจอย่างมาก จึงไปหาหมอดูอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ทักตรงกันว่าชะตาขาด จะอยู่ได้อีกไม่ถึงเดือนมีนาคม จากนั้นจึงไปหาร่างทรง อาจารย์ฆราวาส และก็พระเกจิอาจารย์ผู้มีความสามารถตรวจดวงได้อย่างแม่นยำ หลังจากท่านเหล่านั้นตรวจดวงอย่างละเอียดแล้วก็ยังบอกตรงกันอีกว่า จะอยู่ได้แค่ไม่ถึงเดือนมีนาคม จึงทำให้ตนเป็นทุกข์กายทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางออกอีกแล้ว พอดีมีเพื่อนแนะนำให้มาหาพระอาจารย์ให้ช่วยต่อดวงชะตาให้ ซึ่งพระอาจารย์ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกเห็นใจมาก และคิดว่า คนคนนี้อาจยังมีโอกาสรอด ด้วยอาศัยบารมีขององค์หลวงปู่ให้ช่วยปกปักรักษา ดังนั้นท่านพระอาจารย์จึงเรียกให้พระภิกษุในวัด มาร่วมสวดพระปริตร และสวดเสริมบารมีให้พอเป็นพิธี จากนั้นท่านพระอาจารย์ได้นำล็อกเก็ตกระดาษหลังพระมหาอุปคุต ที่มีชายจีวร มาอธิษฐานขอบารมีขององค์หลวงปู่ช่วยคุ้มครองให้โยมผู้นี้ปลอดภัย และมีอายุมั่นขวัญยืน แล้วท่านก็อธิษฐานคล้องคอให้ โดยบอกว่าให้โยมใส่ไป แล้วไม่ต้องคิดมาก หลวงปู่บารมีท่านสูงท่านจะคุ้มครองเรา แล้วท่านพระอาจารย์ก็เล่าชาดกบางตอนให้โยมฟัง ทำให้เขาสบายใจขึ้นเยอะ.. 
หลังจากนั้นไปอีกหลายวัน ประมาณวันที่ 20 กว่าๆของเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ขณะที่โยมคนนี้ขับรถอยู่ด้วยความเร็วพอสมควร อยู่ดีๆกรอบล็อกเก็ตกระดาษที่คล้องคออยุ่ก็มีเสียงดัง โพล๊ะ..!!! พอจอดรถดูก็ตกใจ เพราะว่ากรอบล็อกเก็ตกระดาษนั้นแตกละเอียดโดยที่ไม่มีสาเหตุ ใจก็เริ่มไม่ดี จึงโทรหาพระอาจารย์และเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ท่านฟัง พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า.. 
" ไม่เป็นไรแล้วหละโยม เพราะพระท่านรับเคราะห์แทนเราไปแล้ว ไว้โยมมาหาอาตมาที่วัด แล้วอาตมาจะคล้องให้ใหม่.. "
ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาโยมคนนั้นก็ยังอยู่รอดปลอดภัย หน้าตาดูสดใสจนถึงทุกวันนี้ครับ..

    ‪#‎วันนี้ขอแถมให้อีกเรื่องแล้วกันครับ‬.. สำหรับล็อกเก็ตกระดาษ
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังชายจีวร หลวงปู่พิศดู
วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงๆครับ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย.. 
ปลายปีก่อนมีพี่คนหนึ่งมาเล่าให้ผมฟังครับว่า มีคนได้ล็อกเก็ตกระดาษที่ด้านหลังมีชายจีวรขององค์หลวงปู่ชิ้นเล็กๆ พร้อมสายสร้อยเชือกสำหรับคล้องคอไปจากทางวัด ผู้ที่ได้รับแจกหลายคนได้ไป ก็นำไปบูชาแขวนคอ เขาบอกกันว่า เมตตาค้าขายดี บางคนก็บอกว่า แคล้วคลาดปลอดภัยดี...ฯลฯ
    ‪#‎งูเห่าฉก‬..!!!
มีคุณป้าอยู่ท่านหนึ่งครับ บ้านอยู่แถว ต.บางกะจะ แกได้ไปก็นำมาแขวนเหมือนกัน และมีอยู่วันหนึ่งขณะที่คุณป้าท่านนี้กำลังเก็บผลไม้อยู่ในสวน โดยที่ไม่ทันระวังตัวปรากฏว่าลื่นไถลล้ม ตกลงไปในท้องล่องเล็กๆข้างๆสวนนั่นเอง พอตกลงไป ปั๊บ..!!! ก็จังหวะไปเจอกับงูเห่าตัวเกือบเท่าข้อมือตัวหนึ่ง คงด้วยความตกใจงูตัวนั้นได้พุ่งฉก ที่บริเวณหน้าผากของคุณป้าท่านนั้นทันที..!!! ปึ้กก.. แล้วเจ้างูก็เลื้อยหนีไป พอคณป้าตั้งสติได้ก็คลำตรงบริเวณหน้าผากดู แต่คุณป้าท่านนั้นกลับไม่ได้รับอันตรายจากพิษงูเลย ‪#‎เพราะงูตัวนั้นเวลาพุ่งฉกกลับอ้าปากไม่ขึ้น‬.. ได้แต่เพียงเอาปากมาชนแบบจุมพิตที่หน้าผากเท่านั้น คุณป้าบอกว่า แกหัวใจเกือบวาย นี่คงเป็นเพราะบารมีขององค์หลวงปู่แท้ๆที่ช่วยชีวิตแกไว้ เพราะทั้งตัวของคุณป้ามีเพียงสายสร้อยที่มีรูปกระดาษและชายจีวรเล้กๆ ขององค์หลวงปู่พิศดูเท่านั้นไม่มีวัตถุมงคลใดๆเลย..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสก(เพียงแต่จุดธูปขอบารมีหลวงปู่ท่านเท่านั้น) เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพได้ สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่ท่านอธิษฐานด้วยแล้ว โดยเฉพาะของที่ท่านตั้งใจทำอย่างนี้ จะมีอานุภาพและความพิเศษขนาดไหนกันจริงไหมครับ..

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร‬..
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวรขององค์หลวงปู่พิศดู เหล่านี้ จริงๆผมน่าจะเคยลงไปบ้างแล้ว แต่ก็คงมีบางท่านยังไม่เคยอ่าน..
    มีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณ 6 ขวบ ด้วยความที่เล่นซุกซน จนทำให้เกิดพลัดตกจากตึกสูงหลายชั้น ลงมาที่พื้นล่าง แต่กลับไม่เป็นไรเลย มีเพียงฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่เพียงองค์เดียว..
    อีกประสบการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นกับเด็กอีกเช่นกัน เด็กคนนี้อายุก็ราว 5-6 ขวบ ไปเที่ยวกับพ่อแม่ ด้วยความที่วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานจนลืมระวังตัว ก็ทำให้ตกลงไปในสระน้ำ แล้วจมดิ่งลงไป แล้วจากนั้นตัวก็ลอยขึ้นมา และไม่จมลงไปอีกเลย เพียงแต่ลอยน้ำอยู่อย่างนั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่องค์เดียวเช่นกัน..
    อีกเรื่อง เป็นประสบการณ์ของผู้ที่นำล็อกเก็ตไปแขวนไว้หน้ารถ ขณะขับรถไปทำธุระ ด้วยความเร่งรีบจึงขับด้วยความเร็จ 140-150 ก.ม.ต่อชั่วโมง แล้วอยู่ดีๆ ฝาที่ประกบล็อกเก็ตกระดาษ ที่แขวนอยู่หน้ารถก็กระเด้งออกจากกัน จึงทำให้เขาต้องถอนคันเร่งแล้วก็เบรกชะลอความเร็วลง ปรากฏว่าทางข้างหน้านั้นมีอุบัติเหตุ เนื่องจากว่าทางชำรุดอยู่ ทำให้เขาใจหายวาบเลย เพราะว่าถ้าหากฝาของล็อกเก็ตนี้ไม่กระเด้งออกจากกัน เขาก็อาจเป็นหนึ่งในผู้ประสบอุบัติเหตุนั้นก็ได้ ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2016
  13. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 68 เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี หลังรอยพระพุทธบาท
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    เหรียญนี้ถือได้ว่าเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายที่สร้างทันหลวงปู่ แม้จะไม้ได้กราบขอท่านอธิษฐานจิตให้เพราะท่านอาพาธ แต่มั่นใจว่าได้รับความเมตตาจากองค์ท่านแน่นอน
    เป็นที่รู้กันว่าหลวงปู่ท่านมักจะสวดบทลายลักษณ์พระพุทธบาทเป็นประจำ ลูกศิษย์ผู้
    นับถือหลวงปู่ก็มักจะสวดกัน และ หลายท่านก็ใช้เหรียญรุ่นนี้สวดเพื่อบูชาหลวงปู่และ
    บูชาลายลักษณ์รอยพระพุทธบาทอีกด้วย

    ข้อมูลจากคุณทุเรียนทอด
    เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู หลังรอยพระพุทธบาท จัดสร้างโดยพระอาจารย์สุรพงศ์ ปญฺญาวุฑโฒ และคณะศิษยานุศิษย์ เพื่อบูชาพระคุณองค์หลวงปู่พิศดู และเหตุที่ได้อัญเชิญรูปรอยพระพุทธบาทมาประดิษฐานไว้ด้านหลังของเหรียญชุดนี้ก็เพราะว่า
    เป็นการระลึกบทสวดลายลักษณ์ เบื้องซ้าย-เบื้องขวา ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นบทสวด
    ที่องค์หลวงปู่ท่านใช้สวดเป็นประจำ และยังได้นำมาเผยแพร่ให้บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้คนทั่วไปใช้สวดเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตในทางโลกและทางธรรม เวลาสวดก็อยากให้ใช้เหรียญนี้ใส่ติดตัวไว้ แล้วจึงสวดสาธยายเพื่อผลสมบูรณ์แห่งรูปธรรม และนามธรรม มีขึ้นพร้อมๆกัน เพื่อเป็นอนุสติแห่งการระลึกบูชาซึ่งรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า...ฯลฯ และเหรียญนี้ยังได้ออกแบบให้สอดแทรกปริษนาธรรมหลายอย่าง
    ให้ได้ขบคิด ซึ่งแต่ละอย่างล้วนแต่เป็นมงคลอย่างสูงสุด ซึ่งมีอยู่ครบทั้งสามรัตนคือ
    ที่พึ่งอันสูงสุดทั้ง 3 ประการ อันได้แก่.. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    ตอนแรกคิดกันว่า เหรียญรุ่นนี้จะเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายขององค์หลวงปู่ เพราะว่าสร้าง
    ทันตั้งแต่ยังไม่ละสังขาร แต่ด้วยความเกรงใจ เพราะว่าองค์หลวงปู่ท่านอาพาธ จึง
    ไม่ได้เข้าขอความเมตตาตอนยังดำรงค์ขันธ์อยู่ เพียงแต่เก็บไว้เฉยๆ แต่ภายหลังก็
    ได้ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญบารมีธรรมขององค์ท่านมาสถิตเป็นที่น่าเชื่อถือมาก โดย
    ขอบารมีตลอดทั้งไตรมาสเลย โดยทุกวันจะจัดอาสนะเปล่าไว้หนึ่งที่ และเอารูปหล่อ
    บูชา 9 นิ้ว มาตั้ง โยงสายสิญจน์ไปที่ของทั้งหมด ซึ่งของดังกล่าวนั้น จะปูลาดด้วยอาสนะอย่างดี โดยทุกวันพระนั้น จะมีพระภิกษุนั่งล้อมวงสวดสรรเสริญคุณองค์พระ
    ทำอย่างนี้จนครบไตรมาส จากนั้นได้มีการทดสอบพลังพุทธคุณ โดยได้นำไปให้
    อาจารย์ผู้มีจิตสัมผัสถึงพลังงานประเภทพุทธคุณได้ และมีความแม่งยำสูงช่วยตรวจ
    พลังให้ ท่านถึงกับบอกว่า.. " พลังเต็มแล้ว ศักดิ์สิทธิ์มากๆ เหมือนกับตอนสมัย
    หลวงปู่ยังอยู่เลย.. ชุดนี้หลวงปู่ท่านมาช่วยเสกให้แน่นอน.."

    แต่ก็ยังได้ขอความเมตตาจากครูบาอาจารย์ และเกจิอาจารย์ทั้งหลายอีกนับสิบท่านช่วยอธิษฐานให้อีกเพื่อกำลังใจของผู้ที่ได้รับไป

    ครูบาอาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานจิตพระชุดนี้ให้ มีดังนี้
    1.ทำพิธีบวงสรวงโดยท่านพระอาจารย์สุรพงศ์ ปญฺญาวุฑฺโฒ ตลอดทั้งไตรมาส
    2.หลวงปู่รวย วัดตะโก จ.อยุธยา
    3.หลวงปู่เสียน วัดมะนาวหวาน จ.อ่างทอง
    4.หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดสุทธาราม กรุงเทพฯ
    5.หลวงปู่เปรี่ยม อติภทฺโท วัดโพธิ์เรียง กรุงเทพฯ
    6.หลวงปู่มหาปลอด ติสฺสเทโว วัดโพธิ์นิมิตร กรุงเทพฯ
    7.หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    8.หลวงปู่อั้น วัดธรรมโฆษก จ.อุทัยธานี

    เหรียญที่จัดสร้างทั้งหมดมีดังนี้
    เหรียญเนื้อนวโลหะ 150 องค์
    เหรียญรียญเนื้ออัลปาก้า 200 องค์
    เหรียญทองแดงจ่าเงา 1000 องค์
    เหรียญเนื้อทองแดง รมมันปู 1800 องค์
    เหรียญเนื้อทองเหลือง 1800 องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2017
  14. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 69 เหรียญพ่อท่านอิ้น ปภากโร วัดทับใหม่พัฒนา จ.สุราษฏร์ธานี
    บูชา 0 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    พ่อท่านอิ้นและท่านครูบากฤษดา ต่างกล่าวรับรองชื่นชมซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ท่านทั้งสองยังไม่เคยได้เจอกันเลยสักครั้ง ครูบาท่านว่า พ่อท่านอิ้นนั้นหมดสิ้นกิเลสแล้ว วัตถุมงคลของท่านโดดเด่นทั้งเมตตาและด้านความเหนียวตามเอกลักษณ์ของพระสายใต้ เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นสอง พ่อท่านเสกอย่างดีครับ

    "ตาหลวงท่านบอกว่าใครแขวนเหรียญผมไม่ต้องกลัว เวลามีภัยมาเดียวผมช่วยคุณเอง ให้นึกถึงผมนิมาช่วยเอง"

    ประวัติ หลวงพ่ออิ้น ปภากโร เจ้าอาวาสวัดรัชราษฎร์พัฒนา (ทับใหม่พัฒนา)
    ชื่อเดิม อิ้น ชูเมือง โยมบิดาชื่อนายบุตร โยมแม่ชื่อนางเขียว (มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช) เกิดในวันพฤหัสบดี เดือน๘ ปีระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ ในวัยหนุ่มก่อนอุปสมบทท่านชื่นชอบและฝักใฝ่ในวิชาอาคมต่างๆเนื่องจากสมัยก่อนนั้นจำเป็นต้อง
    มีวิชาไว้เพื่อป้องกันตัว องค์ปฐมบรมครูที่สั่งสอนสรรพวิชาให้กับท่านคือโยมพ่อนั่นเอง โดยโยมพ่อเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์ชูเฒ่า วัดพัทธสีมา นครศรีธรรมราช ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆมากมายหลายวิชา แต่ที่โดดเด่นคือวิชา การทำตะกรุดโทน
    ซึ่งวิชานี้ก็ได้รับการถ่ายทอดมายังหลวงพ่ออิ้น และถือได้ว่าเป็นสุดยอดเครื่องรางอันเอกอุของท่านโยมบิดาท่านสามารถล่วงรู้ถึงกาลมรณะของตนเองและในวันมรณะท่านก็ได้นั่งสมาธิจนดวงวิญญาณออกจากร่าง โดยมรณะในท่านั่งสมาธิมีเพียงเท้าด้านซ้าย เท่านั้นที่ตกลงจากเข่า จากการที่ผูกพันกับวัดพัทธสีมา ท่านจึงได้วนเวียนเรียนรู้ฝึกปรือวิชาอาคมและฝากตัวเป็นศิษย์กับพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ พ่อท่านหนูจันทร์ พ่อท่านอาจารย์โรย พ่อท่านเอียด และยังได้ข้ามเขตไปยังจังหวัดพัทลุงเพื่อศึกษาอาคมเพิ่มเติมจาก พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา และอาจารย์นำ แก้วจันทร์ (สมัยที่อาจารย์นำยังเป็นฆาราวาส) ซึ่งสหมิกธรรมของท่านคือ หลวงพ่อเอื้อม กตตปุญโญ วัดบางเนียน และหลวงพ่อพ่วง วัดแดง นครศรีธรรมราช

    กล่าวได้ว่าท่านเป็นศิษย์ทั้งสายเขาอ้อ และสายวัดพัทธสีมา ซึ่งเป็น ๒ สายหลักที่โด่งดังแห่งเมืองใต้

    ท่านเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่า ในระหว่างครองเพศบรรพชิตท่านผ่านประสบการณ์ด้านต่างมาอย่างโชกโชน เคยเป็นทั้งเสือและหัวหน้าหน่วยพื้นที่สีแดง สมัยนั้นเคยหนีการจับกุมไล่ล่าของตำรวจมือปราบท่านขุนพันธ์ฯจอมขมังเวทย์ในระยะประชิดตัว แต่ด้วยอำนาจเดชะบุญของตะกรุดโทนที่ท่านทำใช้เองตามตำราที่ได้เล่าเรียนมาทำให้ท่านรอดพ้นจากภัยอันตรายมาได้หวุดหวิด และเมื่อท่านโดนจับกุมในข้อหาคดีความต่างๆ ถูกนำตัวสู่การพิจารณาของศาล ท่านก็อาศัยบารมีแห่งตะกรุดโทนนี้ ทำให้ศาลยกฟ้องคดีท่านมาจนนับครั้งไม่ถ้วน

    ด้านการครองเรือนเคยมีภรรยาอยู่กินกันถึง ๗ คน แต่มีบุตรเพียงคนเดียวและได้เสียชีวิตไปแล้ว ในสมัยที่ท่านปกครองคนในเขตอำเภอเคียนซา ซึ่งสมัยนั้นถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดง ท่านมีที่ดินในการปกครองมากมาย มีบริวารห้อมล้อมและคนเกรงขามจำนวนมาก แต่ท่านก็หาได้มีความสุขอย่างแท้จริงเลย หลังจากที่ท่านคิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านๆมา จึงทำให้รู้ซึ้งถึงสัจจะธรรมความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิต อีกทั้งท่านยังเป็นห่วงชีวิตของ
    ชาวบ้านภายใต้การปกครองของท่าน อยากให้ชาวบ้านเหล่านั้นเป็นคนดีได้มีโอกาสรับใช้ประเทศชาติ ในที่สุดท่านจึงได้ตัดสินใจยกที่ดินทั้งหมดเป็นพันๆไร่แจกจ่ายแก่ชาวบ้านเพื่อให้เป็นที่ทำกิน โดยที่ดินเหล่านั้นปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่หมู่บ้านเขารักษ์ หมู่๘ หมู่๙ ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเคียนซา โดยชื่อหมู่บ้านนั้นท่านเป็นผู้ตั้งชื่อโดยมาจากคำว่า “ คุณรักษา “ ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นเขารักษ์ ( จากประวัติโรงเรียนเขารักษ์ อำเภอเคียนซา )
    และท่านยังได้ยกที่ดิน ๑๐๐ ไร่เพื่อจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น โดยช่วงแรกได้ชื่อว่า โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๒๒ (ใต้ร่มเย็น) สาขาบ้านเขารักษ์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนบ้านเขารักษ์ จวบจนปัจจุบัน และท่านยังได้ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาของเด็กนักเรียนไว้ โดยใช้ชื่อว่ากองทุนหลวงพ่ออิ้น ปภากโร ( นายอิ้น ชูเมือง ) อีกด้วย ปี ๒๕๓๒ หลังจากที่ท่านได้สละสิ่งของนอกกายจนหมดสิ้นแล้วก็ได้ก้าวเข้าสู่ร่มของกาสาวพัสตร์ ณ.พัทธสีมาวัดบางสะพาน ตำบลบางจาก จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพระครูวิธานชุลาธรณ์เป็นพระอุปัฌชาย์ และท่านได้กลับมาตั้งสำนักสงฆ์บ้านทับใหม่ในเขตพื้นที่สีแดงตามเจตนารมณ์เดิมของท่าน บนเนื้อที่ประมาณ ๑๙ ไร่ ที่มาจากการร่วมกันบริจาคของชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาในละแวกนั้น หลังจากนั้นท่านก็เริ่มออกธุดงค์เพื่อแสวงหาในสิ่งที่ท่านยังสงสัย ในการธุดงค์ของท่านนั้นท่านได้ไปทั่วทุกภาคของประเทศไทยและเลยออกไปยังประเทศใกล้เคียงจนท่านพอใจและค้นพบสิ่งที่ท่านสงสัยแล้ว หลังจากนั้นท่านจึงกลับมาที่เดิมและเริ่มพัฒนา สำนักสงฆ์บ้านทับใหม่ อย่างจริงจัง ปัจจุบันกลายเป็นวัด มีกุฏิสำหรับพระสงฆ์จำพรรษา ศาลาปฏิบัติธรรม เมรุ และปัจจุบันกำลังก่อสร้างพระอุโบสถ เพื่อให้เป็นวัดที่สมบูรณ์รองรับชาวบ้านที่เข้ามาสู่ร่มเงาของพระพุทธศาสนา

    หลวงปู่อิ้น ปภากโร ได้ละสังขาร ณ โรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดพิธีรดน้ำสรีระสังขาร ในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 และประกอบ
    พิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็น เวลา 17 คืน ได้ประกอบพิธีปิดศพเมื่อ วันที่ 8 มกราคม 2558 เวลา 13.00 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  15. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 70 หน้ากากพรานบุญ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี รุ่น "เจ้าสัว"
    เนื้อเจ้าน้ำเงินลงสีแดง

    ค่าจัดส่ง 60 บาท ปิดรายการ

    หน้ากากพรานบุญ รุ่น "เจ้าสัว" รูปแบบเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ พ่อแก่เจ้าแสงปลุกเสกตลอดไตรมาส และมีพิธีพุทธาภิเษกปิดท้ายสุดเข้มขลังโดยพ่อแก่เจ้าแสง และพ่อท่านซุ่น ซึ่งได้รับขนานนามว่าเทพเจ้าแห่งบ้านเกาะหวาย พิธีศักดิ์สิทธิตามสูตรโบราณของวัดบ้านตรังทุกประการ พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้ายันค่ำ-ไปค่ำยันรุ่งของอีกวันหนึ่ง และมีการแสดงมโนราห์มารำแสดงทั้งก่อน-หลังพุทธาภิเษกทุกอย่างครบสูตร
    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่อุดด้านหลังประกอบด้วย
    1.ไม้จันทันรอดโบสถ์อายุกว่า 200ปี
    2.จีวร,เกศาพ่อแก่เจ้าแสง
    3.ทับทิมแดงแท้เสก
    4.ตะกรุดไม้คานโบสถ์ อายุ200ปี
    5.ผงพรายกุมาร พ.ศ.2488 ของพ่อแก่เจ้าแสง
    6.ผงขมิ้น/อาพัดมหาตะหมื่น
    7.หมากพูลบูชาครูมโนราห์
    8.ผงเปลือกตะเคียนทวด 300ปี
    9.แป้งเสก-มโนราห์ ผงมโนราห์ น้ำมันมโนราห์
    10.ผงเก่าในการสร้างพระของวัดบ้านตรังทุกรุ่น
    11.กระเบื้องหลังคาโบสถ์+จาร+เสกเพิ่ม
    12.ข้าวสารเสก
    13.ผงนะลือชา
    14.ลูกอมพระเจ้าห้ามทุกข์
    15.ผงปถมัง
    16.ผงเศรษฐี
    17.ผงปัทฐมัง
    18.ผงนอโม
    19.ผงเศรษฐี
    20.ทรายท้องคลอง ดินท้องโบสถ์
    21.ชันนาง พระบุโบราณอายุ 300ปี ฯลฯ

    พระครูมงคลประภาต (แสง จนทวณโณ)
    “พ่อแก่เจ้าแสง” ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่อาวุโสและทรงภูมิมากรูปหนึ่ง ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๒ ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดประเวศน์ภูผา เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๘๓ โดยมี “พระครูสุวรรณไพบูลย์ (จันทร์ทอง)” เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้ศึกษาหลักธรรม วิปัสสนากรรมฐาน ไสยวิชาอาคมสรรพวิชาการเรียกสูตร ลงอักขระ เลขยันต์ ลงสูตรลบผงวิเศษ และ มหาธาตุวัตถุ อาถรรพณ์ในตำราพิชัยสงคราม จากองค์พระอุปัชฌาย์ของท่าน โดยท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของ พ่อท่านหวาน (พระครูสุวรรณโสภิต) แห่งบ้านลานควาย ซึ่งเป็นพระอาจารย์ ผู้เข้มขลัง มากด้วยบารมี เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอย่างกว้างขวาง

    นอกจากนี้ท่านยังได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ของ “พ่อแก่เจ้าไชย” (เจ้าอาวาสวัดบ้านตรังในขณะนั้น) ท่านได้เรียนวิชาโบราณต่างๆ ที่อยู่คู่กับวัดบ้านตรังมาแต่เดิม เช่น วิชาสั่งสูญ (ธนูสั่ง) การผูกหุ่นพยนต์ การทำควายธนู และสรรพวิชาต่างๆอีกมากมาย

    พ่อท่านเป็นเนื้อนาบุญผู้เป็นแสงสว่างให้กับชาวมายออย่างแท้จริง ท่านเป็นดั่งคมในฝัก สงบเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและบารมีอย่างประมาณไม่ได้ ปัจจุบันท่านอายุ 96 ปี 75 พรรษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2015
  16. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    กราบขอบพระคุณครับ
     
  17. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 71 ดาวก้าวหน้าดวงตาสวรรค์ หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต
    เนื้อทองผสมชนวน ติดพลอยนพเก้าคุ้มดวง

    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    "ดวงตาสวรรค์" เปิดดวง หนุนดวง คุ้มครองดวงชะตา กระทำกิจสิ่งใดมีแต่ความราบรื่น มองเห็นทะลุปัญหา ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย หลวงพ่อท่านกำหนดสร้างและเป็นสิ่งที่ท่านทำเป็น คือเรียนมาจริง สร้างได้ขึ้นจริง ไม่แพ้ดาวยุคเก่า

    คาถาดาวเก้าหน้าดวงตาสวรรค์
    ตั่งนะโม ๓ จบ
    พุทธะนิมิตตัง อะระหังพุทโธ โลกะวิทู
    จักกะวาเฬสุ ทิพพะจักขุง จะมหาลาภัง
    ชัยยะสุขขัง จะมหาโภคัง นะเตสุเต
    มหาสุเต นะฦาชา นะชาลีติ

    หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อนพวรรณ เจ้าอาวาสวัดเสนานิมิต ต.บ้านหีบ อ.อุทัยจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ได้รับการสืบทอดวิชาโดยผ่านโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นโดยตรง โยมย่าของท่านก็เป็นน้องสาวของ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติฯ ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อกลั่นเช่นกัน และเป็นผู้ได้รับการถ่ายวิชาอาคมและสรรพตำราต่างๆ ของหลวงพ่อกลั่นเอาไว้ทั้งหมด ต่อมาเมื่อหลวงพ่ออั้นมรณภาพ ผู้ที่ได้รับตำราต่างๆ ก็คือน้องสาวของท่าน ซึ่งเป็นโยมย่าของหลวงพ่อวรรณนั่นเอง ตำราทั้งหมดในสายวัดพระญาติฯ จึงตกอยู่กับหลวงพ่อวรรณจนทุกวันนี้หลวงพ่อวรรณ จึงนับเป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ในทุกวันนี้ ที่มีความเชี่ยวชาญในสรรพวิทยาคาถาอาคมต่างๆ อย่างมากมาย จนสามารถปลุกเสกวัตถุมงคลได้อย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย อย่างกว้างขวาง ชื่อเสียงของหลวงพ่อนพวรรณโด่งดังไปทั่วประเทศ รวมทั้งนักสะสมพระเครื่องรางของขลัง ในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วยหลวงพ่อวรรณ ท่านชอบศึกษาหาความรู้ทั้งด้านธรรมะ และไสยศาสตร์อย่างจริงจัง ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมกับอาจารย์เลื่อน และอาจารย์ใหญ่ ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่นเช่นกัน จนได้สำเร็จวิชา เก้าเฮ อันเป็นเอกลักษณ์อันลือลั่น ของวัดพระญาติฯ โดยตรงต่อมาท่านได้ศึกษาไสยเวทจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ อาจารย์เจ๊ก และ อาจารย์เยื่อ ได้สอนวิชามลกระจายจนสำเร็จแตกฉาน และยังสำเร็จวิชาธรรม ๙ โกฏิ จาก พระอาจารย์โฮม ที่ได้ศึกษามาจาก สำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่งลาว ได้ศึกษาวิชาผูกหุ่นพยนต์ กำบังตน และถอนคุณไสยจาก หลวงพ่อพา วัดกะโพ จ.สุรินทร์ รวมทั้งได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ จาก หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง จนหมดสิ้นและที่สำคัญสุด หลวงพ่อวรรณได้รับตำราการสร้างวัตถุมงคล และพิธีการต่างๆ ของสำนักวัดประดู่ทรงธรรม จาก หลวงพ่อนาค และ หลวงพ่อสละ อีกด้วยจึงนับได้ว่า หลวงพ่อวรรณเป็นผู้ที่คงแก่เรียน และเป็นเอกอุในศาสตร์ต่างๆ อย่างแท้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  18. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 72 พระขุนแผน หลวงปู่ไม อินทสิริ ด้านหน้าเป็นพระพุทธ ด้านหลังเป็นองค์หลวงปู่ด้านบนเป็นองค์พระอุปคุต
    ปิดรายการ

    หลวงปู่ไม อินทสิริ พ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ศิษย์ของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ องค์ท่านมีบารมีเกี่ยวข้องกับองค์พระอุปคุต ท่านเทศน์ว่าท่านบวชป็นเณรและเป็นไข้ป่าสิ้นในสมัยพระอุปคุต วัตถุมงคลของหลวงปู่มีพุทธคุณทั้งเมตตาและมหาปราบ ดังเช่นบารมีแห่งองค์พระอุปคุต คือทั้งมหาลาภ และ ทรงฤทธิ์ปราบมาร ประสบการ์เรื่องกันผี ไล่ผี มีอยู่มากมาย สมัยก่อนท่านว่า หากผีเข้าให้นำรูปถ่ายท่านอธิษฐาน ใช้ไล่ผีได้

    ประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดนั้นก็มีอยูมากมาย เมื่อเสร็จจากเทศนาแล้วหากมีเวลา หลวงปู่มักจะเล่าเรื่องที่ลูกศิษย์ที่ห้อยเหรียญท่านแล้วแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุให้ฟังอยู่หลายครั้ง

    หลวงปู่ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ไว้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นพวกไม่ชอบวัตถุมงคลนะ ไม่ชอบเลยของพวกนี้ แต่ทีนี้มันมีเหตุให้ต้องทำ คือชาวบ้านเขาเดือนร้อนมีผีเข้าปอบเข้า ก็เลยต้องทำของพวกนี้เพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์เขา เลยเป็นเหตุให้ได้ทำของพวกนี้

    เรื่องเกี่ยวกับองค์ หลวงปู่ไม อินทสิริ จากกระทู้(หลวงปู่ไม อินทสิริ ลูกศิษย์พระอุปคุต-ทายาทธรรมหลวงปู่มั่น)
    - ท่านเป็นทายาทธรรมหลวงปู่มั่น(ลูกศิษย์หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ) เป็นสหธรรมมิกกับพระอาจารย์ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ และเป็นลูกศิษย์สายพระอุปคุตอีกรูป ที่ยังเหลืออยู่ ในปัจจุบันนี้ (อดีตชาติท่านเคยเกิดเป็นลูกศิษย์พระอุปคุต)
    - มีทหารชอบนำเหรียญท่านไปลองยิง แล้วยิงไม่ออก
    - ท่านได้หูทิพตาทิพย์ตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร
    - ท่านเคยกล่าวว่า "ที่ไหนผีดุ ให้นำรูปท่านไปติดไว้"
    - ท่านเคยไปปราบปอบที่ออกอาละวาดแถบศรีษะเกษ โดยใช้จิตผูกไว้ แล้วเทศน์ทรมานสั่งสอน จนปอบพวกนั้นมีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
    - คนที่โดนผีเข้า นำพระของท่านไปคล้องคอ ผีออกทุกราย
    - มีเด็กชาวบ้าน ห้อยพระของท่าน โดนรถชนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร แต่ไม่เป็นอะไรเลย
    - มีเด็กชาวบ้านหลายราย ห้อยพระของท่าน ตกน้ำไป ไม่จม
    - มีคนบูชาเกศาของท่าน แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว
    เพิ่มเติม
    - ท้าวสักกะเทวราชมาสอนวิชาท่านตั้งแต่สมัยเด็ก
    - เทพเทวดามักมานิมนต์ท่านให้ไปพบเห็นในภพภูมิต่างๆ
    ฯลฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2016
  19. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 73 พ่อแก่คู่ปู่องค์พระพิราพ พ่อครู พระอาจารย์ ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
    ปิดรายการ

    สายศิลปินแท้ๆ พ่อครูท่านสามารถอัญเชิญพลังแห่งบรมครูได้อย่างแท้เจริง เป็นที่ประจักษ์กับเหล่าลูกศิษย์เรือนพระภรตมุนี แรงครูสายศิลปิน เมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่ของคนหมู่มาก อีกทั้งยังคุ้มครองรักษาเหล่าศิษย์ให้เจริญรุ่งเรือง

    วัตถุรูปเคารพฯอันเป็นมหาอุดมมงคล พ่อแก่คู่ปู่องค์พระพิราพเนื้อผงอิทธิเจสายศิลปินผสมมวลสารมงคลของคุณครู อาคม สายาคม หลังอักษรมงคลจีน "ฮก" อักษรมงคลไทย "รวยหมื่นลี้เศรษฐีหมื่นล้าน"

    องค์พ่อแก่พระภรตมุนี
    พลังเมตตามนต์แห่งเทพฤๅษี อำนาจเมตตาย่อมดึงดูดทั้งจิตใจคนและทรัพย์ให้มาหา ที่ไหนเย็นที่นั่นย่อมเป็นที่มาแห่งทรัพย์ที่ไหนมีทรัพย์ภายในคือเมตตา ทรัพย์ภายนอกคือแก้วแหวนเงินทองย่อมไหลมากองเนืองนองมาหา

    องค์ปู่พระพิราพ
    บารมีองค์ท่านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันสิ่งร้ายสิ่งไม่ดีอันเป็นอัปมงคลที่เกิดขึ้นและช่วย เปิดดวงเปิดโชคลาภนำพาซึ่งความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จมาให้แก่ท่าน

    พ่อครูของเรา (พระศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ)

    เกิดวันเสาร์ที่ ๗ กรกฏาคม พ.ศ.๒๔๙๙ (ตามทะเบียนบ้าน) เป็นบุตรคนเดียวของนายแม้น (ขอด) ครุพันธ์ ชาวสวนบางบำหรุ และนางฉลวย (แจ่มจันทร์) ชาวอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

    การศึกษาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนอำนวยวงศ์วิทยา อำเภอธนบุรี เข้าศึกษาต่อวิทยาลัยนาฏศิลป เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ในชั้นต้นปีที่ ๑ ออกจากวิทยาลัยนาฏศิลป ขณะศึกษาอยู่ชั้นสูงปีที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๙ วิทยฐานะชั้นกลางปีที่ ๓ ศิลปเอกดุริยางค์ไทย ศิลปะโทคีตศิลป์ไทย

    หลังลาออกจากวิทยาลัยนาฏศิลป ได้ฝึกฝนวิชาช่างศิลปไทย ด้านการประดิษฐ์หัวโขน จนสามารถสร้างผลงาน (หัวโขน) ได้ดีเยี่ยม ได้รับพระราชทานรางวัล ศาสตรเมธี สาขาช่างศิลปะไทยด้านการประดิษฐ์หัวโขน จากมูลนิธิศาสตราจารย์ ม.ล.ปิ่น มาลากุลเมื่อวันพุธที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔

    อุปสมบทที่วัดสุทธาราม ตำบลบางลำพูล่าง อำเภอคลองสาน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๙ ฉายา ติสฺสาภรโณ สอบได้นักธรรมตรีที่สำนักศึกษาวัดประยุรวงศาวาส นักธรรมโทที่สำนักศึกษาวัดอนงคาราม รับตราตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทธาราม เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘ รับพระราชทานเข็มที่ระลึก ผู้อนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมไทย จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙

    ผลงาน

    ๑. เป็นครูผู้อนุรักษ์ ถ่ายทอดวิชาศิลปะดนตรีไทย (ปี่พาทย์) คีตศิลปไทย และสอนการประดิษฐ์หัวโขนที่วิจิตรบรรจง

    ๒. เป็นกรรมการที่ปรึกษาหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร

    ๓. สร้างรูปปั้นพระดาบส ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของคน ด้วยผงจันทน์หอมนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่มูลนิธิพระดาบส

    ๔. สร้างหัวโขนพระภรตมุนี ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานเป็นสมบัติของโครงการยุวศิลปิน ในมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕

    ๕. สร้างพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก ๓๐ นิ้ว ๑ องค์ พระพุทธรูปปางสมาธิ ทรงเครื่องจักรพรรดิราช ๒องค์ แทนพระพุทธรูปปูนปั้นของเดิมที่ชำรุด และสร้างซุ้มจรนำปูนปั้นถวายพระประธานในอุโบสถหลังเก่าของวัดสุทธาราม เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖

    ๖. สร้างศีรษะ พระคเณศ พระพิราพ ทูลเกล้าถวายสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานเป็นสมบัติของหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร เมื่อวันที่๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

    ๗. สร้างศีรษะพ่อครูฤๅษี และพระพิราพขนาดเล็กที่สุด (ขนาดปลายนิ้วก้อย) ถึงใหญ่ที่สุดในโลก เผยแพร่แก่สาธารณชน โดยจัดนิทรรศการเพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจริญพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

    ๘. เป็นผู้ริเริ่มสร้างหัวโขน พระภรตมุนี พระพิราพ พระศรีมหาคเณศ ในรูปแบบวัตถุมงคลเป็นท่านแรก เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๙

    ที่มา/คัดลอกจาก www.monnut.com :
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2016
  20. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 74 เสือกินปรอทชุดกรรมการพร้อมลูกแก้วสารพักนึก หลวงปู่เท สุธัมโม
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    เสือกินปรอทลงชาดทาทอง บรรจุปรอทและผงยาจินดามณี ปิดด้วยชันโรง จากนั้นปิดด้วยโลหะตอกโค๊ดและหมายเลข (โค๊ด ก ในรัศมี) ลงอักขระยันต์โดยหลวงพ่อสัญญา ศิษย์สายตรงแห่งสำนักวัดกลางบางแก้ว พร้อมลูกแก้วสารพักนึกที่อัญเชิญบารมีหลวงปู่ทวดลงปลุกเสก ปิดแผ่นตะกั่วตอกโค็ต

    สร้างจำนวน ๙๙ ชุด ปลุกเสกในวันที่ ๖ เม.ย.๒๕๕๖

    หลวงปู่เท สุธมฺโม อายุ 100 ปี เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457 (ไม่ตรงกับเอกสารทางราชการเพราะแจ้งเกิดภายหลัง) ณ บ้านบางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เดิมชื่อนายเท นามสกุลสีบัวงาม เมื่อครั้งเยาว์วัย หลวงปู่เทท่านได้ติดตามหลวงน้าเล็ก พระน้าชายของท่านมาเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว และมีโอกาสได้คอยอุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่บุญ เจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วในขณะนั้นด้วยความเป็นเด็กน่ารักฉลาดหลักแหลม นิสัยดีไม่เกเร หลวงปู่บุญจึงเมตตาอบรมสั่งสอนการปฏิบัติต่างๆให้ท่านด้วยหวังว่าจะให้ท่านบวชเป็นพระ ส่วนหลวงปู่เทเองก็มีใจฝักใฝ่ทางนี้เหมือนกัน เพราะยิ่งนานวันไปก็ยิ่งซึมซับการปฏิบัติและพระเวทย์วิทยาคมจากหลวงปู่บุญไว้มาก กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์จึงเตรียมตัวอุปสมบท แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเนื่องจากโยมของท่านป่วย ท่านจึงต้องกลับบ้านไปดูแลโยม และต่อมาหลวงปู่บุญก็ถึงแก่มรณภาพอีกจึงทำให้การบวชของท่านต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย ต่อมาชีวิตต้องระหกระเหินเดินทางไปอยู่กับพี่สาวที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส อำเภอนี้เดิมชื่อ ยีรีงาว์ ซึ่งเป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีขึ้นอยู่มาก หลวงปู่เทหรือนายเทในขณะนั้นหันมายึดอาชีพ รับจ้างทั่วไป ไม่มีภรรยาและครอบครัว ได้แต่คอยช่วยพี่สาวทำมาหากิน โดยท่านก็ไม่ทิ้งการปฏิบัติธรรมกรรมฐานและวิชาที่ร่ำเรียนมาจากหลวงปู่บุญ ทำการเสกเป่ารักษาผู้คนทั่วไปโดยไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนแต่อย่างใด

    หลวงปู่สัมผัสกับญาณบารมีของหลวงปู่ทวดได้เมื่อครั้งที่ท่านป่วยหนักจนเพื่อนนำพระหลวงปู่ทวด 2 หน้ามามอบให้ไว้ปกปักษ์คุ้มครอง และหลวงปู่เทท่านก็ได้นิมิตเห็นหลวงปู่ทวดเดินออกมาจากพระหลวงปู่ทวด 2 หน้าองค์นั้น โดยมาบอกให้หลวงปู่เทบวช แล้วโรคที่เป็นอยู่จะค่อยๆหายไป เมื่อหลวงปู่เทปฏิบัติตามคำแนะนำของหลวงปู่ทวดท่านก็หายจากอาการป่วยโดยเร็ววัน ท่านอุปสมบทเมื่อวันจันทร์ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2505 ขณะอายุได้ 48 ปี ณ วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส หลังจากนั้นก็สามารถสื่อสารกับกายทิพย์ของหลวงปู่ทวดได้อย่างใจนึก ภายหลังได้รับการชี้แนะจากหลวงปู่ทวด บอกแนวทางการปฏิบัติขั้นสูงให้อีก..ทำให้ท่านพบเจอกับความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย สำเร็จได้ดั่งที่หลวงปู่ทวดสอนสั่ง รวมทั้งลูกแก้วสารพัดนึกนี้้วยเช่นกันที่หลวงปู่ทวดแนะนำให้หลวงปู่เทพกติดตัวไว้ หากใครมีปัญหามาขอให้ช่วยเหลือ จะได้นำมาช่วยเหลือผู้คนได้ทุกเมื่อ ในความศักดิ์ที่มากล้นของลูกแก้วสารพัดนึกนี้เอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...