อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระที่ควรบูชาอย่างยิ่ง

โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

• สมเด็จพระสังฆราชเสด็จวัดสามพระยา


ทราบจากท่านผู้ว่าแม่ฮ่องสอนว่ามีคนมาบอกว่า สมเด็จพระสังฆราชเสด็จ เรื่องนี้เป็นปรกติเพราะสมเด็จพระสังฆราชองค์นี้ เป็นพระที่ควรแก่การบูชา ไม่มีเวร มีภัยกับใครๆ ตั้งแต่รับตำแหน่งมา ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่พระใต้บังคับบัญชา มีแต่เตือนให้สามัคคีกัน

เมื่อท่านเสด็จมา ก็ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพด้วยศรัทธาแท้ คิดว่า “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” ท่านจะยืนรับเหมือนผู้เขียน เห็นท่านนั่งเป็นปรกติ สมเด็จพระสังฆราชท่านเข้ามาถึง ท่านนั่งกับพื้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นั่งบนเตียงตามปรกติ สมเด็จพระสังฆราชท่านกราบแล้วถวายของ (เครื่องสักการะและของใช้) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์พนมมือให้พร

• ท่านที่ควรบูชา

เป็นอันว่าเมื่อเห็นเข้าอย่างนั้น จิตก็มีอารมณ์คิดบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้นอย่างยิ่ง ท่านอาจจะเคารพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ในฐานะอะไรเป็นเรื่องของท่าน แต่ที่่เพิ่มความเคารพบูชาสมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น เพราะท่านไม่มีมานะ คำว่า มานะ แปลว่า การถือตัวถือตน หรือถือยศถือศักดิ์ โดยคิดว่าเวลานี้ฉันเป็นสังฆราช ใครจะโตกว่าฉันไม่ได้ ฉันต้องโตกว่าทุกคนที่เป็นพระสงฆ์ การตัดมานะตัวนี้ เป็นเรื่องที่่ผู้เขียนบูชาน้ำใจอย่างยิ่ง และบูชาทุกคนที่ตัดได้ ไม่ใช่เฉพาะสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น วันนั้นถือว่าเฮงที่สุด ท่านที่ตัดมานะ หมดการถือตัวถือตน ตามภาษาพระที่่เรียกว่า สังโยชน์ ท่านถือว่ามีความดีสูง ควรแก่การบูชาอย่างยิ่ง ใครบูชา คนนั้นเป็นคนมีอุดมมงคล คือมงคลสูงสุด (หรือเฮงที่สุด)


(ธัมมวิโมกข์ เมษายน ๒๕๓๓ โดย หลวงพ่อฤาษี)​

 

สมเด็จพระญาณสังวรกับครูบาวงศ์


พระสังฆราช ญาณสังวร ท่านเสด็จมาหาครูบาวง เคยถามท่านว่า พระญาณสังวร ท่านมาหาครูบา คุยอะไรกัน

ครูบาตอบ.. เป็นเพื่อนกัน เพื่อนเป็นสังฆราช ตัวนี่ (ใช้นิ้วชี้ตัวท่าน) เป็นสังคโลก แล้วท่านก็หัวเราะ

อีกครั้งนึง ถามครูบาว่า ครูบารู้จักหลวงพ่อเกษมที่ลำปางไหม

ครูบาบอก..รู้จัก

ถามว่า เคยเจอกันไหมครับ

ท่านบอกว่า..เคยเจอกัน

ถามว่า เจอกันได้ยังไง

ครูบาบอก...พระสังฆราชมาหา มารับไปด้วย เลยเจอกัน

ถามท่านต่อว่า หลวงพ่อเกษมดีไหมครับ

ครูบาท่านบอกว่า..ดี

เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน เรื่องนี้วันหลัง มาคุยกับ หลวงพี่เต๋ ครูบาเราเคยเจอหลวงพ่อเกษมเหรอ บอกว่าครูบาเล่าให้ฟัง

หลวงพี่บอกว่า วันนั้นได้ตามครูบาไปด้วย บอกว่าทั้งสามองค์พอเจอก็คุยสนทนากัน (พระสังฆราชญาณสังวร หลวงพ่อเกษม ครูบาวง)

หลวงพี่บอก คุยภาษาบาลีกันตลอด โต้ตอบกันใหญ่

ถามหลวงพี่ว่า คุยอะไรกัน

หลวงพี่บอก ฟังไม่รู้เรื่องเลย

เรื่องเดียวกัน มาย้อนถามครูบาท่าน ครูบาครับพูดภาษาบาลีเก่งไหมครับ (ไม่ค่อยเห็นท่านพูด)

ครูบายิ้มแล้วตอบว่า...นะโม เฮายังสวดบ่จ้าง (ยังสวดไม่เป็น)

ท่านคงถ่อมตัว



ที่มา: เล่าเรื่องถิ่นเมืองเหนือ เด็กดี​

 

สมเด็จพระญาณสังวรกับหลวงปู่โต๊ะ


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จะเสด็จไปทรงกราบนมัสการพระรูป
“พระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ)”
ณ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร เป็นประจำมิได้ขาด
แม้ต่างด้วยนิกายแต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ นั้นได้มีความคุ้นเคย
กับองค์หลวงปู่โต๊ะตั้งแต่เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ
ทั้งยังได้มีการกราบอาราธนาให้องค์หลวงปู่โต๊ะไปสอนกรรมฐานบรรยายธรรม
ที่วัดบวรนิเวศวิหารอยู่เป็นประจำ แต่ทุกครั้งที่ได้มีปฏิสันถารกัน
องค์หลวงปู่โต๊ะก็มักแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งที่พรรษายุกาลมากกว่า
นับเป็นความผูกพันกันจนในทุกปีเจ้าประคุณสมเด็จฯ ต้องเสด็จ
ไปกราบนมัสการอยู่เป็นประจำ (ภาพล่างสุดบันทึกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๒)



ที่มา: เว็บธรรมจักร​

 

สมเด็จพระญาณสังวรกับหลวงตามหาบัว


หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เคยกล่าวยกย่อง
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ไว้ว่า

“หลวงตาอาจจะมีบารมี
ทางด้านคุ้มครองรักษาประเทศชาติไทยเราได้
แต่หากเป็นด้านค้ำจุนพระศาสนาแล้ว
สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศ จะมีบารมีมากกว่าเสียอีกน๊ะ”


“ท่านไม่ได้ใช้วาจาเลยนะ ไม่พูดเลย
มีแต่เราพูดเล็กน้อย พอให้ท่านทราบเท่านั้น แล้วก็ไม่อยู่นาน
เวลาสำคัญๆ ท่านคุยธรรมะเรื่องภายในสำคัญๆ อยู่มาก
เฉพาะสองต่อสอง เรื่องสำคัญท่านจะถามคุยกันธรรมดา
ว่าท่านพูดน้อยท่านก็ไม่ได้พูดน้อย
เวลาคุยกันเฉพาะสองต่อสองคุยกันธรรมดาเลยนะ
เวลาออกสังคมท่านพูดน้อยมาก
เวลาคุยกันสองต่องสองนี้คุยกันธรรมดาเลย
มีอะไรท่านก็รับสั่งถามมา เราก็ตอบไปๆ
ท่านถามข้ออรรถข้อธรรมข้อใด พูดกันธรรมดา
แต่เวลาสิ่งสำคัญๆ ท่านมักจะถามเฉพาะสองต่อสอง
อยู่วัดบวรฯ ก็ดี อยู่วัดป่าบ้านตาดก็ดี
ก็เราสนิทกับท่านมานานเท่าไหร่แล้ว อยู่วัดบวรฯ มาด้วยกัน
ท่านเคยไปเป็นพระภาวนาอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดหลายครั้ง ครั้งละเป็นอาทิตย์”


ภาพล่างสุดบันทึกภาพร่วมกันเมื่อวันที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๐๘
ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร หลวงตามหาบัวองค์ซ้ายมือสุด



ที่มา: เว็บธรรมจักร​

 

สมเด็จพระญาณสังวรกับหลวงปู่สามและหลวงปู่สิม











สมเด็จพระญาณสังวรกับหลวงพ่อคูณ​

​

​

ที่มา: เว็บธรรมจักร​

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/CLP/01-12.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/01-12.jpg" border="0" alt=" photo 01-12.jpg"/></a>

 

เหรียญพระพุทธชินราช ออกที่วัดบวรนิเวศน์​

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
supatorn*, ปู ท่าพระ

จับตัวได้แล้ว ตื่นแต่เช้าเลยนะคะท่านปู

 

คร๊าบบ บรรยากาศดีมากเลย :d

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DSC04984.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DSC04984.jpg" border="0" alt=" photo DSC04984.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DSC04995.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DSC04995.jpg" border="0" alt=" photo DSC04995.jpg"/></a>

 

*************
ท่านนั่งนานเกินไปเห็นเลยว่าเท้าท่านบวม:'(

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/1444075778203.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/1444075778203.jpg" border="0" alt=" photo 1444075778203.jpg"/></a>

 

อรุณสวัสดิ์พี่ปู พี่วรรณ และทุกๆท่าน​

 

นับเป็นความเมตตาของครูบาอาจารย์หลายๆองค์ที่ท่านทนฝืนสังขารเพื่อประเทศชาติ เพื่อลูกหลาน เพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ศิษยานุศิษย์ให้มีที่พึ่งและมุ่งมั่นที่จะทำความดียิ่งๆขึ้นไป เคยอ่านพบมาว่าครูบาอาจารย์หลายองค์ก็หมดอายุขัยแล้วแต่ท่านก็เจริญอิทธิบาทสี่เพื่อยืดอายุสังขารที่แสนหนักออกไปก็เพื่อเจริญศรัทธาญาติโยมทุกท่าน ทางที่เราจะตอบแทนคุณครูบาอาจารย์ได้ดีที่สุดก็คือปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยความตั้งใจครับ

ดังเช่นพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีที่ท่านถูกสารพัดโรคโจมตีที่ท่านมักปรารภบ่อยๆก็คืออุจจาระที่แข็งตัวไปขวางลำไส้ยิ่งลงมาที่ซอยสายลมต้องนั่งรับแขกนานลำไส้ไม่ค่อยได้ขยับมันก็ยิ่งสั่งสมท้องก็ยิ่งถ่ายลำบากท่านต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์มากกว่าคนธรรมดาใช้กันเพื่อให้ถ่ายออกมาได้ ที่ท่านทนลำบากอยู่ก็เพื่อลูกหลานนั่นแหละครับ

 

วันออกพรรษา หรือ วันปวารณาออกพรรษา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่งในประเทศไทย วันออกพรรษา คือ วันที่สิ้นสุดระยะการจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน (นับตั้งแต่วันเข้าพรรษา) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันมหาปวารณา” คำว่า “ปวารณา” แปลว่า “อนุญาต” หรือ “ยอมให้” ใน วันออกพรรษา นี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรมใหญ่ เรียกว่า มหาปวารณา เป็นการเปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนกันได้ เพราะในระหว่างเข้าพรรษา พระสงฆ์บางรูปอาจมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข การให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนได้ ทำให้ได้รู้ข้อบกพร่องของตน และยังเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันด้วยซึ่งจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ​

 

เหรียญหล่อหลวงปู่คำพัน



อีกหนึ่งกิจกรรมในวันออกพรรษาคือการชมบั้งไฟพญานาค




​

 

ภาพที่หาชมได้ยาก ภาพสมเด็จพระสังฆราชอยู่และพระมหาเถระที่รับนิมนต์มาร่วมงานที่ใดซักแห่ง ตอนนั้นคงไม่มีใครคาดคิดว่าพระมหาเถระอีกสี่รูปในกาลต่อมาจะได้รับการสถาปณาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชกันตามลำดับ


ขอบคุณภาพจากเว็บธรรมจักร​

 

หน้ากฐินได้เริ่มขึ้นแล้ว อานิสงค์แห่งทานบารมีนี้หลักๆก็จะส่งผลให้ทุกท่านมั่งมียิ่งๆขึ้นไปหรืออย่างน้อยก็ทำให้ทุกท่านความคล่องตัวในธุรกิจการงาน

แต่จริงๆแล้วพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีเคยสอนว่าในบารมี๑๐ หากเราทำบำเพ็ญข้อไหน อีก๙ข้อก็จะตามมาด้วยครับ บุญแม้เพียงเล็กน้อยหากสั่งสมบ่อยๆก็เป็นบุญใหญ่ซึ่งจักเป็นสิ่งที่ติดตามเราไปได้อย่างแท้จริง อนุโมทนาบุญกฐินกับทุกท่านด้วยคร๊าบบ​