แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

โอวาทธรรมท่านพ่อลี ธมฺมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ

การนั่งสมาธิจริงๆ คือ กายก็นั่งตรงไม่คดงอ หรือเคลื่อนไหว วาจาก็สงบนิ่งไม่กล่าวคำพูดใดๆ ใจก็ตั้งเที่ยงไม่เอียงเอน และไม่วอกแวกไปจากตน

เมื่อใจว่างแล้ว มันก็โปร่งเบาสบายไม่รับอารมณ์ใดๆ เหมือนนกที่มีตีนแต่ก็ไม่มีรอยในอากาศ เราจะมองไม่เห็นรอยตีนของมันเลย นี้ฉันใด ใจที่ว่างเปล่านั้นถึงใครจะด่าว่าให้มันก็ไม่มีตัวหนังสือในอากาศ ย่อมไม่มีอะไรติดอยู่ในใจฉันนั้น

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร

 

โอวาทธรรมหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหาย จ.อุดรธานี

จิต คนเรามีพลัง มีอำนาจมาก ขอให้ภาวนา ทานก็ทำ เป็นสมบัติติดตัว ติดตามไป ทุกภพ ทุกชาติ แต่จิตภาวนานี้ มีอำนาจมาก มีพลังมาก ขอให้ "ภาวนา" อย่าได้ขี้เกียจภาวนา"

ภาวนาจนจิตสงบ จิตรวมลงเหมือนเส้นด้ายพุ่งเข้ารูเข็มให้ได้เสียก่อน แล้วจึงหมุนสู่ขั้นปัญญา สมาธิก็เหมือนการรวบรวมทรัพย์ เมื่อมีมากจนเพียงพอแล้ว ก็เอาทรัพย์ออกไปใช้ คือ เอาปัญญาออกไปฆ่ากิเลส เข้าใจมั้ย...

หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร

 

โอวาทธรรมหลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก

"บุญ วาสนา บารมี ต้องสร้าง บำเพ็ญเอานะ รอให้บุญวิ่งมาหาไม่มีนะ อย่าไปรอบุญวาสนา บุญเก่าหมด บุญใหม่ไม่มีก็แล้วเท่านั้น ไม่หาเมื่อไหร่จะมี ที่มีก็จากบุญกุศลนั่นแหละต้นตอ เราเกิดมาก็จากบุญกุศลเหมือนกัน ใครไปตกแต่งได้ มีแต่กรรมดี กรรมชั่ว เท่านั้นแหละตกแต่ง ทำไมเกิดมาเป็นบ้า ใบ้ หูหนวก ตาบอด เขาอยากได้หรือ ขึ้นชื่อว่าไม่ดีใครจะอยากได้ แต่ทำไมเขาจึงได้ เพราะเขาทำมาแล้ว คนที่ไม่เป็นแบบนั้นเพราะเขาทำกรรมดีมาแล้ว จึงมีบริบูรณ์ทุกอย่าง "

หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล

 

โอวาทธรรมหลวงปู่เชอร์รี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

"ธรรมะพระพุทธเจ้าข้อขันติ
คือความอดทน มีอยู่ ทำไมไม่เอามาใช้
คนอื่นไม่ดี เราจะไม่ดีตามเขาหรือ
ทำความดีของเราไปสิ
ทำให้มันล้นทับความไม่ดีไปเลย
ทำได้มั้ย..."

หลวงปู่เชอร์รี่ อภิเจโต
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
๒๖ กันยายน ๒๕๕๘

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

"บุคคลใดเป็นคนเลี้ยงง่าย มีกิจวัตรประจำวันที่เรียบง่าย ใจจะสบาย การปฏิบัติก็รวมใจเป็นหนึ่งได้ง่าย ความวุ่นวายก็น้อยลง ความกังวลยึดติดจะไม่มี"

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

ความคิดนั้น มันเกิดอยู่เสมอ เหมือนลมหายใจนั่นเอง ห้ามไม่ได้ การปฏิบัติก็ไม่ได้มุ่งให้ดับความคิด เอาแค่ว่า พอรู้อารมณ์แล้ว จิตมันคิดนึกปรุงแต่งก็ให้รู้ทัน อย่าให้ฝันทั้งที่ตื่น คือ หลงคิดไปโดยไม่รู้ตัว เท่านี้ก็พอ

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

 

โอวาทธรรมหลวงปู่เพียร วิริโย
วัดป่าหนองกอง อุดรธานี

"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ถูกของท่านที่สุด
ความเจ็บความป่วย ความแก่ความชรา
ความตายใครก็ช่วยใครไม่ได้ นอกจากตัวเอง
ความดี ความไม่ดี ตัวเองก็ทำเอง
ใครก็ทำให้กันไม่ได้ จึงให้พากันภาวนา

หลวงปู่เพียร วิริโย

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี

"ฟังอย่างปราชญ์"

นักปฏิบัติต้องยอมรับได้ทุกอย่าง ท่านจะเทศน์ผิดๆหรือเทศน์ถูกๆ ให้ฟัง ก็ฟัง ไม่ต้องแย้ง

การผิดหรือถูกนี้ไม่เป็นประมาณ บางทีจิตเราไม่ถึง เราคิดว่าผิดก็ได้ ท่านว่ามันผิด เราเข้าใจว่ามันถูกก็ได้

ฉะนั้น เราต้องยอมรับ ชอบใจหรือไม่ชอบใจ เชื่อหรือไม่เชื่อก็ฟังไป
นี่คือ ผู้เทศน์เกิดปัญญา เพราะในจิตของเรานั้น “อันนี้แหละถูกแล้ว” หรือ “อันนี้แหละผิดแล้ว”
มันเป็นสักแต่ว่าความรู้สึก จะถูกหรือผิดจริงๆ ก็ไม่รู้หรอก เพราะเรายังเป็นคนหลง

หลวงปู่ชา สุภัทโท
จากหนังสือพอดี หน้าที่ ๑

 

โอวาทธรรมหลวงตาศิริ อินทสิริ
วัดถ้ําผาแดง จ.ขอนแก่น

"ตอนนี้ก็แก่กว่าเมื่อเช้าแล้ว ความแก่ความตายมันไม่บอกใครดอก มันตามเราอยู่อย่างนั้น"

หลวงตาศิริ อินทสิริ

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ไม อินทสิริ
วัดป่าเขาภูหลวง จ.นครราชสีมา

"เรื่องเมตตาจิตตน"

จิตใจของเรา จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้ส่งออกไปเบียดเบียนผู้อื่นเลย

จิตใจของเรา จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้ส่งออกไปลักเล็กขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นเลย

จิตใจของเรา จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้ส่งออกไปเสียดสีกับร่างกายผู้อื่นเลย

จิตใจของเรา จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้ส่งออกไปทำในสิ่งที่ผิดศีลเลย

นี้แหละการมีเมตตาตน จะต้องมีเมตตาสงสารจิตใจตนเอง จะต้องรู้จักให้ศีลให้ธรรมแก่จิตใจตนเอง ศีลกับธรรมจะต้องอยู่เป็นคู่กันภายในจิตใจ จิตใจถึงจะสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้นได้ ...ผู้มีเมตตาจิตตน ด้วยสติบารมี ด้วยสมาธิบารมี "ย่อมอยู่ได้ดี"

หลวงปู่ไม อินทสิริ

 

โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่

"อันฟังธรรมจากที่อื่น จะต้องเป็นกาลเป็นเวลา
แต่ฟังธรรมอยู่ในจิตในใจ
ในกาย วาจา จิตของตนนั้น
ให้มีอยู่ทุกเวลา..
กายนั่งอยู่ที่ไหน ...
ใจก็เพียรเพ่งอยู่ในกายที่นั่งนั้น
เห็นว่านี่เป็นกองทุกข์อย่างนี้แหละ
เห็นเป็นความแก่ ความชรา มรณะ
อยู่ในตัวตลอดเวลา"

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

 

ดีใจที่เห็นคุณกลับมาโพสนะคะ โมทนา และขออนุญาตแบ่งปันไปเผยแผ่ต่อค่ะ

 

ด้วยความยินดีนะคะ
ขออนุโมทนาสาธุคะ

 

โอวาทธรรมหลวงปู่คำดี ปภาโส
วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย

การทำสมาธิภาวนานี้
ถ้าเป็นคนนิสัยดุร้าย ก็จะเป็นคนใจดี
ถ้าเป็นคนโกรธง่าย ก็จะค่อยๆ เบาบางลง
ถ้าเป็นคนปัญญาทึบ ก็จะเป็นคนฟังอะไรรู้เรื่อง เข้าใจในเหตุผล
ถ้าเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มพูนปัญญาให้มากขึ้นไปอีก
"ท่านจึงว่ามีอานิสงส์มาก"

หลวงปู่คำดี ปภาโส

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำพู

...ตามธรรมดาของพระผู้มีธรรมประจำใจอยู่แล้ว ท่านไม่เห็นอะไรยิ่งกว่าธรรม ตลอดอิริยาบถ ท่านคิดฝักใฝ่ใคร่ธรรมอยู่โดยสม่ำเสมอ ไม่สนใจ และเผลอไผลคิดไปโน้นไปนี้ ว่าคนนั้นจะมาหา คนนี้จะมาเยี่ยม จะมาหรือไม่ก็เป็นเรื่องเป็นอัธยาศัยของแต่ละคน ท่านไม่กังวลกับอะไรมากกว่าการแสวงหาธรรมด้วยการปฏิบัติ มีเดินจงกรมบ้าง นั่งสมาธิ ภาวนาบ้าง ยึนรำพึงในธรรมทั้งหลายบ้าง ให้สติอยู่กับตัว ไม่ปล่อยใจให้เลื่อนลอยไปตามอารมณ์ ท่านมีความสำรวมระวังอยู่ทุกอิริยาบถนอกจากหลับเท่านั้น นอกนั้นเป็นท่าแห่งความเพียรเพื่อละกิเลสแลกองทุกข์ทั้งมวลโดยตลอด ท่านจึงไม่ต้องการสิ่งรบกวน

หลวงปู่ขาว อนาลโย

 

โอวาทธรรมหลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี

ต้องใช้ปัญญาที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า
"ร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวเราของเรา"..ร่างกายนี้ไม่เที่ยง

ต่อให้เราดูแลมันดีขนาดไหนก็ตาม
ไม่ช้าหรือเร็วมันก็ต้องตายจากเราไป
อย่างแน่นอน

จะอยู่ที่ไหน ปลอดภัยขนาดไหน
มันก็ต้อง "ตายได้"
เมื่อถึงเวลาที่มัน..จะต้องตาย

ถ้าพิจารณาด้วยปัญญา
แล้วเห็นว่า "ร่างกายนี้ไม่เที่ยง"

หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต

 

พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

" อะไรที่เป็นบุญเป็นความดี แม้เพียงเล็กน้อยนิดเดียว
ก็พึงทำเมื่อโอกาสมาถึง เมื่อโอกาสเปิดให้ทำได้
อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป โดยอย่าคิดว่าเรื่องบุญเล็กน้อย
ไม่จำเป็นต้องสนใจไยดีทำ น้ำหยดเดียวย่อมทำให้น้ำเต็มโอ่งเต็มไหได้
ให้ชีวิตยุงตัวเดียว มดตัวเดียว บุญน้อยเมื่อเป็นตัวเดียวตัวเริ่มแรก
แต่ให้ต่อไป ให้ตลอดไป บุญย่อมมากขึ้น มากขึ้น
ที่เรียกว่าสั่งสมบุญนั่นเอง "

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

โอวาทธรรมหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ
วัดใหม่บ้านตาล จ. สกลนคร

"ขอให้ตั้งใจทำแต่ความดี เก็บความดีใส่จิตใส่ใจเอาไว้ ทานัง เทติ เก็บทานเข้าไว้ในใจ สีลัง เทติ เก็บศีลเข้าไว้ที่ใจ ภาวนานัง ตั้งใจภาวนา ดูตัวเอง ให้มันรู้ตัวเอง เห็นตัวเองว่า ตัวเองนี้มีดีมากน้อยแค่ไหน มีบาปอย่างไร ควรจะทิ้งควรจะละ ควรจะเลิก

ควรจะทำแต่ความดีเอาไว้

อย่าไปประมาท ถ้าประมาทแล้วว่า โอ้! เรายังแข็งแรงอยู่ ยังหนุ่มอยู่ ยังไม่มีโรคภัยเบียดเบียน คอยอีกปีหน้าก่อน เดือนหน้าก่อน จึงจะทำความดี อันนี้มันไม่แน่ เวลากรรมมาถึง ขี่รถไปดีๆ รถเขาก็มาชน ตายไปก็มี มีเงินร้อยล้านพันล้านหมื่นล้านแสนล้านก็ไม่ได้ใช้เลย"

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ

 

โอวาทธรรมหลวงปู่ศรี มหาวีโร
วัดป่ากุง อ.ศรีสมเด็จ จ. ร้อยเอ็ด

“บุญกุศล ให้ผลระยะยาว”

ไปเกิดภพไหนชาติไหน แม้ไปเกิดเป็นสัตว์สาวาสิ่ง ซึ่งเราไม่ได้เกิดเป็นคนก็ตาม ความสุข ความสบาย หรือความดีของใจ จะต้องมีประจำ ติดเป็นวาสนาบารมี ติดต่อเนื่องกันไปหลายภพหลายชาติ อันนี้ท่านว่าเป็นบุญกุศล ที่ให้ผลระยะยาว

หลวงปู่ศรี มหาวีโร

 

พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

" อะไรที่เป็นบุญเป็นความดี แม้เพียงเล็กน้อยนิดเดียว
ก็พึงทำเมื่อโอกาสมาถึง เมื่อโอกาสเปิดให้ทำได้
อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป โดยอย่าคิดว่าเรื่องบุญเล็กน้อย
ไม่จำเป็นต้องสนใจไยดีทำ น้ำหยดเดียวย่อมทำให้น้ำเต็มโอ่งเต็มไหได้
ให้ชีวิตยุงตัวเดียว มดตัวเดียว บุญน้อยเมื่อเป็นตัวเดียวตัวเริ่มแรก
แต่ให้ต่อไป ให้ตลอดไป บุญย่อมมากขึ้น มากขึ้น
ที่เรียกว่าสั่งสมบุญนั่นเอง "

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก