เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ครูอาจารย์เทพพหรมและสิ่งศักดิ์กล่าวสอนในวันครูวันพระเสาร์ที่16 มค 2559 ดังนี้ว่า

    อันความกตัญญุกตเวที ของศิษย์ และความดีงามทั้งหลายที่ศิษย์ได้แสดงหรือตอบแทนคุณครูอาจารย์ ย่อมเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่ ที่เกิดภายในจิตใจ

    อันความดีที่เธอสร้างทั้งปวงแท้จริงมิใช่ของครูหรือของใครทั้งปวง แต่ความดีทั้งหลายย่อมเป็นของเธอผู้มีจิตใจดี ความดีอื่นใดไหนจะสู้ความดีภายในจิตใจของตน

    บุคคลผู้รักษาความดีดุจเกลือรักษาความเค็ม บุคคลผู้สร้างสั่งสมความดีให้เกิดขึ้นและมีขันติความเพียรรักษาความดีของตนของจิตใจได้แล้วมั่นคงสม่ำเสมอไม่ตกหล่นบกพร่อง บุคคลผู้นั้นย่อมเป็นผู้เจริญ และย่อมเป็นที่รักของครูอาจารย์เทพพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปวง ย่อมเป็นผู้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ คือย่อมเป็นผู้เจริญย่อมเป็นผู้ประเสริฐกว่าหมู่สัตว์ทั้งปวง

    สุดท้ายนี้ ขอเราทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาทในการทำความดีและควรระลึกเสมอถึงคุณงามความดีที่ครูอาจารย์เทพพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านประสิทธิ์ประสาทมอบให้แก่เราและเราควรตอบแทนคุณความดีตามกำลังสติปัญญาและความสามารถ เท่าที่เราจะทำได้ทั้งอามิสและปฏิบัติบูชา ด้วยกาย วาจา ใจ ผลแห่งความดีทั้งหลายนี้ ย่อมให้ผลคือความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตย่อมบังเกิดมีแก่ทุกท่านครับ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การให้ผลแห่งวิบากกรรม เป็นอจินไตย เพราะเหตุแห่งกรรมในอดีตที่ทำไว้มีมากมาย เพราะการเวียนว่ายตายเกิดมีมากมายนับไม่ถ้วน กรรมที่กระทำไว้ในอดีตที่มีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งดีไม่ดี กุศลและอกุศล ย่อมเวียนว่ายตามให้ผลไม่จบสิ้น

    การให้ผลแห่งวิบากกรรมจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าปุถุชน หรือ คนทั่วๆไปอย่างเราๆจะล่วงรู้ได้ มีเพียงพระญาณ ของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้นที่จะสามารถตรวจสอบและล่วงรู้ได้

    แต่การล่วงรู้ก็เป็นเพียงการเห็นจริง ที่บอกได้จริง แต่ทว่า กรรมเหล่านั้นได้กระทำไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาการให้ผล ย่อมต้องรับผลแห่งกรรมหรือวิบากรรม ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การแก้ไขในบางกรณีย่อมทำได้ แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับว่า วิบากกรรมเหล่านั้น เป็นบาปกรรมที่หนักมากน้อยแค่ไหน พระผู้ทรงญาณย่อมมีสติปัญญาจำแนกและให้ทางสว่างเพื่อการแก้ไข ให้หลุดพ้นจากวิบากกรรม หรือแก้ไขให้เบาลง รอดพ้นไปได้ด้วยดี

    แต่ก็มีกรรมหนักที่ยากหรือไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ย่อมแนะนำได้ คือการถือศีลบวชพระบวชพราหมปฏิบัติธรรมเจริญพรหมจรรย์ แต่ทว่ามันก็ยากที่จะหลีกหนีกรรมหนัก มันจะเกิดอุปสรรคต่างๆนานาให้ไม่สามารถทำความดีเพื่อแก้ไขกรรมได้ จนในที่สุดคือต้องรับผลแห่งกรรมหนักอย่างสาสมแก่กรรมที่ตนทำไว้ อย่างหลีกหนีไม่พ้น

    ชีวิตเราท่านทั้งหลาย หลายท่านอาจสุขสบายไม่มีปัญหาหรือทุกข์ใดๆ หรือหลายๆท่านอาจมีแต่ทุกข์คือทุกข์หรือกรรมไม่ดีมันเข้ามาในชีวิตท่านมากมายเหลือเกิน
    แม้นหากท่านทำความดีแล้วกลับได้รับผลที่ไม่ดีในเวลานี้ ในอายุไขที่ยังมีกำลังแข็งแรง ก็ยังถือว่าท่านโชคดีที่ยังมีกำลังต่อสู้ อย่าท้อถอยในการทำความดี เพราะความดีในปัจจุบันในวัยหนุ่มสาวหรือกลางคน จะช่วยอำนวยผลในปั้นปลายเมื่อท่านชราภาพ

    เมื่อใดที่ทุกท่านชราภาพ เมื่อนั้นวิบากกรรมไม่ดีทั้งหลายจะให้ผลหนักหน่วงแก่กายใจของท่าน นี่คือกฏธรรมชาติ การที่ท่านสั่งสมความดีในปัจจุบันตอนหนุ่มสาวหรือวัยกลางคน จะช่วยให้ท่านผ่านพ้นกรรมไม่ดีในวัยชราภาพไปได้อย่างสงบสุข

    หากท่านหลงมัวเมาไม่ประกอบกรรมดี เมื่อท่านแก่ชราท่านจะได้รับผลกรรมอย่างหนักหน่วงทั้งกรรมในอดีตและในกรรมในปัจจุบันตามให้ผล ท่านจะได้รับภัยนานาประการ ทั้งจากเจ้ากรรมนายเวร วิบากกรรมจากกรรมไม่ดีทั้งปวง กรรมจากสังขารร่างกายที่เสื่อมลงเกิดโรคภัยทางกายนานาประการ และกรรมที่เกิดกับจิตของท่านคือ จิตของท่านจะไม่มีอำนาจต้านทานเจ้ากรรมนายเวรและกรรมต่างๆทำให้จิตตกลงสู่ที่ต่ำ วิตกวิจาร มีจริตผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมสติปัญญาไว้ได้และในที่สุดเมื่อท่านตายไปกรรมทั้งปวงย่อมดึงดูดของจิตท่านสู่ทุกขคติมีอบายภูมิและนรกภูมิเป็นที่ไป

    ดังนั้นความไม่ประมาทในกรรม ในการกระทำ ในการดำเนินชีวิต ย่อมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่าคิดเพียงว่าค่อยไปปฏิบัติธรรมค่อยไปทำบุญหรือทำความดีตอนแก่เพราะยังไม่ถึงเวลา เพราะนั้นคือความคิดที่ผิด มันจะเป็นการล่าช้าสายเกินแก้ไข เพราะการทำความดีตอนแก่ หากไม่มีพื้นฐานที่ดีของกายใจที่ฝึกฝนมา ย่อมทำได้ไม่เต็มที่ ทำได้ไม่ดี จะมีอุปสรรคมาก มรรคผลย่อมได้รับน้อยหรือเกิดขึ้นน้อย และผลที่เกิดขึ้นก็จะยังไม่ให้ผลทันทีแต่จะไปให้ผลในภพหน้าหรือชาติถัดไป

    ดังนั้นชีวิตเราทุกท่านจึงควรไม่ประมาทในการทำความดี ปฏิบัติธรรมฝึกฝนกายใจของตนให้ดีงามอยู่เสมอเป็นปรกติครับ เพื่อประโยชน์สุขทั้งในปัจจุบัน และอนาคต มีที่สุดคือพระนิพพานคือหลุดพ้นทุกข์ได้ในที่สุดนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2016
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เช้าวันนี้ ผมได้นำปัจจัย ส่วนหนึ่งของกระผมและสบทบกับสหายธรรม ได้บูชาพระพุทธรูป หลวงพ่อโสธร ขนาด15-16นิ้ว พร้อมด้วยได้ถวายสังฆทาน ปัจจัย และปล่อยปลา12ตัว เพื่อแก้ไขดวงชะตาและเสริมดวงชะตาครับ

    ปีนี้เป็นปีที่ไม่ค่อยดีของผม จำเป็นจึงต้องไม่ประมาท ครับ ทางกาย วาจา จิต และจะหมั่นทำบุญทาน รักษาศีล และสวดมนต์ภาวนา ครับ

    จึงขอแจ้งบุญกุศลมาให้ทุกท่านทราบและร่วมอนุโมทนาร่วมกันครับ สาธุ
    [รูปพระหลวงพ่อโสธรพร้อมพวงมาลัย สังฆทานและปัจจัยตามไฟล์แนบครับ ส่วนรูปการปล่อยปลาลืมถ่ายครับ เป็นปลาดุกจากเขียงทั้งใหญ่เล็กปานกลางไม่จำเพาะ12ตัวครับ]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1302.jpg
      IMG_1302.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.9 KB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_1307.jpg
      IMG_1307.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.5 KB
      เปิดดู:
      43
  4. ครองตน

    ครองตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +186
    สาธุ ครับคุณก้อง และผมได้สอบถามดวงชะตาของผมไปทางเมล์ ขอความกรุณาคุณก้องช่วยตรวจสอบด้วยนะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูงครับ
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ในระหว่างนี้ผมมีอาการป่วย แต่ก็ยังฝืนกาย ใจ ทำงาน และติดต่อทุกๆท่านเหมือนปกติ แต่ขอระงับการตรวจสอบดวงชะตาและอื่นๆ เพราะต้องการเจริญสมาธิเพื่อประคองกายใจให้ดีดังเดิมก่อน

    เมื่อต้นเดือน มค ท่านท้าวอสุรินทร์ราหูพระโพธิสัตว์ ได้กล่าวในสมาธิว่า
    ปีนี้ดวงชัะตาไม่ดี ท่านท้าวอสุรินทร์ราหูพระโพธิสัตว์ ต้องทำหน้าที่เสวยอายุไขแลรักษาผม ท่านบอกว่าให้แก้ไขกรรมด้วยการ ถวายพระพุทธรูป สังฆทาน ปัจจัย และให้ทานชีวิตสัตว์ครับ นอกจากนี้ยังถือศีลและสวดมนต์ภาวนทุกวัน ก็จะแก้ไขกรรมได้ กรรมหนักจะเบาลงครับ

    ครูอาจารย์ของผมท่านขอให้ท่านท้าวอสุรินทร์ราหูช่วยเหลือ
    ท่านท้าวอสุรินทร์ราหูก็รับปาก แต่มีเงื่อนไขคือการต้องทำบุญแก้ไขตามที่ท่านบอกและให้ทำบุญทานสม่ำเสมอ รักษาศีล และสวดมนต์ภาวนา ทุกราตรี ครับ

    ครูอาจารยฺ์ท่านก็สอบถามผมว่าให้ทำตามที่ท่านจอมอสุรินทร์ราหูขอให้รับปากและทำตามที่ท่านบอกครับ ผมก็ตอบรับตามที่ท่าขอไว้ครับ

    มาสัปดาห์นี้ผมได้ทำบุญ ตามที่ท่านขอแล้ว การเจ็บป่วยของผมที่เป็นอยู่ คาดว่าในสัปดาห์หน้าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น หายเป็นปกติครับ

    ในคราวที่เราเจ็บป่วย มันทำให้เราเห็นสภาพความจริงเด่นชัดมาก ความทุกข์ของกายใจ ความไม่เที่ยงของกายใจ เมื่อเราปฏบัติธรรมมาดีแล้ว จิตที่แยกรูปและนามได้แล้ว ย่อมเห็นอนิจจังแจ่มชัด ความเสื่อมของขันธ์ ความไม่เที่ยงของใจ ย่อมทำให้เราเกิดปัญญาตามความจริง ย่อมทำให้เราเกิดความไม่ประมาท ในขันธ์ ในกายใจ ในสุขทุกข์ที่เกิดดับครับสาธุ
     
  6. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    อานิสงฆ์ใดๆที่ดิฉันได้กระทำขอดลบัญดาลให้คุณหายป่วยไวๆนะคะ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เมื่อคืนไข้ขึ้นมากปวดเมื่อยทรมาน หนาวๆร้อนๆต้องอดทน ในที่สุดเหงื่อก็ออกเยอะมากเปียกไปทั้งตัวครับ ตอนเช้านี้ดีขึ้นแล้วครับ ปกติผมจะไม่ค่อยป่วย ปีๆหนึ่งจะไม่ค่อยเป็นอะไร ยกเว้นในปีใดก็ตามที่มีชะตาไม่ดี เพราะมีกรรมเก่าที่เป็นกรรมหนักพอสมควรตามให้ผล อันเป็นกรรมจากการรบราฆ่าฟัน หรือฆ่าผู้อื่นฆ่าสัตว์ในอดีต กรรมส่วนนี้ให้ผลตามวาระ ผมก็จะล้มป่วย คือกรรมดีที่ผมทำอยู่ช่วยบรรเทาให้ไม่ต้อง เกิดอุบัติเหตุหรือต้องเลือดตกยางออก แต่ว่าจะต้องรับผลคือการเจ็บปวดทรมานร่างกายเป็นเวลา1-3วัน แล้วเมื่อใดที่เหงื่อที่ผุดออกมาเหมือนน้ำ เมื่อนั้นแสดงว่า อาการป่วยจะหายหรือดีขึ้น เช้านี้ผมมาทำงานได้ตามปกติแล้วครับ

    ขอบคุณทุกท่านมากครับที่ให้กำลังใจครับ และขออนุโมทนาทุกบุญกุศลที่แผ่มายังผมครับ สาธุครับ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การเจริญสมาธิ สำหรับบางท่าน จะพบปัญหาคือ สมาธิเกิดต่อเนื่อง จิตอิ่มในสมาธิ พอเราถอนจากสมาธิมาแล้ว สมาธิยังไม่คลายตัวออก แต่ยังคงตามให้ผลอยู่กับจิต

    จนทำให้เกิดอาการสมาธิค้าง หรือฝังอยู่แบบทรงฌาณ เวลาจะนอนก็นอนไม่หลับ อาการแบบนี้ผมเป็นบ่อย ขอให้รับรู้ว่าจิตมันตื่นด้วยกำลังสมาธิ

    การแก้ไขคือเราก็ต้องเดินสมาธิเวลาเราจะนอน คือใช้สมาธิแก้สมาธิที่ทรงตัวติดอยู่ แต่ให้เราทำสมาธิโดยดึงกำลังของสมาธิลึกลงไปสู่ฌาณแล้วปล่อยให้ตกลงภวังค์ เมื่อนั้น สมาธิทั้งปวงจะคลายตัวและดับลง การนอนหลับของเราก็จะเกิดขึ้นเป็นปรกติครับ

    สมาธิฌาณที่เกิดย่อมน้อมนำไปสู่ภวังค์ได้ง่าย คือการหลับหรือพักผ่อนทั้งกายใจ นั่นเองครับ ขอให้ลองทำแบบนี้ดูครับ จะแก้ไขได้ครับ อีกอย่าง สมาธิละเอียดในระดับฌาณ จะมีความละเอียดมาก กายใจก็จะได้รับการผ่อนคลายและพักตัวได้ดีเลยทีเดียว
    เมื่อเราดึงลงสู่ภวังค์ ย่อมเป็นการเคลื่อนเข้าสู่การหลับพักผ่อนเต็มที่ตามธรรมชาติของร่างกายครับ

    สรุปคือ ให้แก้ด้วยการทำสมาธิต่อ ด้วยสมาธิฌาณเข้าไปตัดการรับรู้ทุกอย่างในที่สุดก็จะเข้าภวังค์จิตหลับลงได้ครับ

    ขอแนะนำวิธีการเบื้องต้นมาเท่านี้ก่อนครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  9. ros

    ros เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +218
    ขอขอบพระคุณคุณTJS มากค่ะที่กรุณาตอบให้ทั้งๆที่หายจากอาการป่วย ดิฉันจะทำตามคำแนะนำค่ะ แค่ที่ต้องลบกระทู้ไปก็เพราะไม่อยากรบกวนอาการป่วยของคุณค่ะ สาธุๆอนุโมทนา
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    กราบหลวงพ่อจรัญ บรมครู ผู้หลุดพ้นห่างไกลกิเลสหมดสิ้นแล้วโดยสิ้นเชิง ครับ สาธุ
    ธรรมะสวัสดีครับ ณ โอกาสนี้ ขอกล่าวว่า

    เพราะชีวิตเรา ประกอบด้วย สุขทุกข์ สมหวังผิดหวัง ชีวิตประกอบด้วยโลกธรรม8 ทั้งบวกและลบ ย่อมเกิดปรากฏแก่ทุกท่าน และหากพิจารณาให้ดี
    สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดจนตาย ชีวิตย่อมประสพความทุกข์มากกว่าสุข เพราะในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ส่วนใหญ่ย่อมนำมาซึ่งทุกข์ทั้งสิ้น ความสุขมีเพียงเล็กน้อยพอประมาณ ประกอบกับสรรพสัตว์ ไม่เข้าใจคำว่าการดำเนินชีวิตให้มีความสุขอย่างแท้จริงว่าคืออะไร
    เพราะเราถูกฝึกให้คิดแบบวัตถุนิยมมานมนานจนลืมเรื่อง กายเรื่องใจของตนไป มัวแต่วิ่งหาสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเพื่อเป้าหมายคือความสุข แต่กลับหาได้ยากหรือหาไม่เจอเพราะมันเป็นเรื่องยากเพราะสิ่งต่างๆภายนอก มันไม่เที่ยงมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่หนุดนิ่ง

    อย่ามัวทำงานหรือทำหน้าที่ทางโลกของตนมากมายเสียจนลืม ทำหน้าที่ของตนเองเพื่อตนเองเพื่อกายใจของตนอย่างแท้จริง

    น่าเสียดายที่เราท่านส่วนหนึ่งเกิดมากับพุทธศาสนาแต่กลับไม่รู้ว่า แก่นแท้แห่งพุทธ คืออะไร
    น่าเสียดายที่เราก็เวียนว่ายตายเกิดมานับไม่ถ้วนแต่กลับมองไม่เห็นแก่นแท้แห่งการมีชีวิต การเกิดการตาย แก่นแท้แห่งการเวียนว่ายในวัฏฏะ
    น่าเสียดายที่เราคือความเป็นจิตดวงเดิมๆดวงนี้มายาวนานแสนนานแต่เรากลับไม่รู้จริงเกี่ยวกับจิตดวงนี้ของตัวเองเลย
    เพราะความรู้ในสิ่งต่างๆที่ผมกล่าวมามันสำคัญมากแต่เรากลับไม่เคยรู้มันอย่างแท้จริง เรามัวไปทำอะไรอยู่

    จงเริ่มต้นจากศูนย์ นับหนึ่งใหม่แล้วค้นหาแก่นแท้เหล่านี้ให้เจอ ด้วยธรรมวิธี ธรรมปฏิบัติ มีเพียงคำสอนของพุทธะ คือพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้นที่จะชี้ทางท่านได้ จงอาศัยพระธรรมเป็นเครื่องพาหนะดำเนินไป เมื่อใดที่ท่านเข้าใจรู้แจ้งแก่นแท้แห่งชีวิต เข้าถึงแล้วคือเป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบานโดยธรรม เมื่อนั้น ท่านจะอยู่บนโลกอย่างมีความสุข อันเป็นบรมสุขเหนือโลกพ้นโลก ได้ในที่สุดครับ

    อริยะสัจจะสี่ บอกความจรีงอะไรของชีวิต ในโลกใบนี้ โลกในอดีต และโลกในอนาคต
    อริยะมรรคมีองค์8 ให้ความจริงอะไรแก่ชีวิตท่าน ช่วยให้ท่านได้พ้นจากโลกทั้งสามได้จริงอย่างไร

    สรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป จะไม่มีสิ่งใดเป็นของเราเลยและจะติดตามเราไปได้เลย ยกเว้นผลแห่งกรรม บุญบาป สุขทุกข์ และไม่สุขไม่ทุกข์คือความว่าง
    เพราะจิตท่าน ย่อมเป็นของท่าน และแท้จริงแล้ว สิ่งที่เป็นของท่านมันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวท่านเท่านั้นตามที่ท่านเลือกหรืออยากให้มันเป็นไปครับ สาธุ
    พุทธะเกิดขึ้นได้ มิใช่เพราะความเข้าไปยึดมั่นในสิ่งต่างๆ
    พุทธะเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยความสละออกสลัดออกซึ่งสิ่งผูกทั้งหลายที่รัดใจให้หลุดออก
    พุทธะเกิดได้อาศัยความสงบสะอาดสว่าง เป็นแดนเกิด
    พุทธะตั้งอยู่ได้ เพราะอาศัยความความสว่างคือปัญญาเป็นแสงนำทางทั้งปัจจุบันคือโลกนี้และโลกหน้ามีที่ไปคือเหนือโลก
    พุทธะดำรงมั่นเป็นนิรันดร์ได้เพราะอาศัยความสว่างคือว่างพ้นแล้ว ห่างไกลแล้ว มีที่หมายคือนิพพานเป็นนิรันดร์เป็นที่สุด ครับสาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2016
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ มีสามลำดับขั้น

    เมื่อท่านปราถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ผู้อาสาขนนำพาสรรพสัตว์ พ้นทุกข์ข้ามวัฏฏะสงสาร เมื่อนั้น ท่านย่อมต้องสร้างบารมี การสร้างบารมีมีสามลำดับขั้นคือ
    1บารมีขั้นต้น
    2บารมีขั้นอุปบารมี
    3บารมีขั้นปรมัตถบารมี

    การสร้างบารมีตามลำดับย่อมมีความยากง่ายตามลำดับ ประกอบกับการที่จะต้องสั่งสมบารมีทั้งสิบข้อให้งอกงามเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
    ๑. ทาน
    ๒. ศีล
    ๓. เนกขัมมะ
    ๔. ปัญญา
    ๕. วิริยะ
    ๖. ขันติ
    ๗. สัจจะ
    ๘. อธิษฐาน
    ๙. เมตตา
    ๑๐. อุเบกขา


    ความยากง่ายในการสร้างบารมีมากน้อย ย่อมต้องอาศัยว่าอยู่ในขั้นใด และท่านปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าประเภทไหน ซึ่งมีสามจำพวกคือ
    1ปัญญาธิกะ
    2ศรัทธาธิกะ
    3วิริยาธิกะ

    ความยากง่ายยังอาศัยพื้นฐานของผลกรรมในอดีต หากท่านสั่งสมกรรมในอดีตไม่ดีไว้มาก การสร้างบารมีของท่านย่อมมีอุปสรรคมาก พื้นฐานไม่เอื้ออำนวยท่านต้องแก้ไขกรรมไม่ดีด้วยกรรมดี ต้องมีความพยายามอย่างยิ่ง เมื่อนั้นท่านจะก้าวเดินสู่บารมีขั้นต้นได้อย่างดีงามก้าวหน้า เมื่อความดีของท่านบารมีของท่านทรงตัว มีสติปัญญาในธรรมทรงตัว การสร้างบารมีในขั้นต่อไปย่อมมีแต่ความเจริญงอกงามและก้าวหน้า

    การสร้างบารมีในขั้นต้น อันเป็นรอยต่อไปสู่ขั้นอปุบารมี จึงเป็นช่วงรอยต่อที่สำคัญมากในการยกภูมิจิต สู่ภูมิธรรมขั้นโลกุตระ ที่ต้องฝึกฝนสติปัญญารอบรู้้เท่าพระอรหันต์ สามารถทรงอารมณ์พระอรหันต์ได้ โดยอาศัยเนกขัมหรือภาวนาบารมี วิปัสสนาบารมีปัญญาบารมีที่งอกงาม เมื่อท่านสอบผ่าน เมื่อนั้นท่านย่อมยกจิตขึ้นสู่้ขั้นอุปบารมี ได้ในที่สุด

    ท้ายสุดขอให้กำลังใจแก่ทุกท่านว่า การสร้างความดีการสร้างบารมี พระโพธิสัตว์ทั้งหลายว่าที่พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ล้วนผ่านความยากลำบากมากมายนับไม่ถ้วน ท่านทรงเป็นแบบอย่างในการทำความดีสร้างบารมี ขอจงอย่าท้อถอยยอมแพ้ครับ ขอให้มีกำลังใจแรงกล้าต่อสู้กับความชั่ว มุ่งมั่นในการทำความดีสร้างบารมีทุกรูปแบบไม่ย่อท้อครับ

    ผลที่จะได้รับในอนาคตย่อมงดงามเป็นที่สุดครับ สาธุ เหมือนการบานของดอกไม้เมื่อถึงเวลาย่อมผลิบานสวยงามไม่เป็นอื่นครับ สาธุ
     
  12. ณิช

    ณิช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,391
    ดีใจที่คุณก้องหายป่วยแล้วนะคะ ไม่ได้เข้ามาห้องนี้สักระยะใหญ่แล้วค่ะ มีคำถามรบกวนสอบถาม ขอความเมตตาคุณก้องชี้แนะดังนี้ค่ะ
    1, หลังตายไปแล้ว ถ้าเราสามารถปฏิบัติและไปอยู่บนพระนิพพานได้ไม่ต้องมาเกิดอีก เรายังสามารถดูแลช่วยเหลือ แนะนำ ลูกเรา พ่อแม่เรา ในส่วนที่ไม่เกินกฎแห่งกรรมของเขาเหล่านั้นได้ไหมคะ หรือว่าเราอยู่ชั้นสวรรค์ต่างๆ จะช่วยเค้าเหล่านั้นได้มากกว่าคะ
    2, คุณก้องปฏิบัติกรรมฐานแบบไหนคะ

    ขอความเมตตาคุณก้องชี้แนะค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    มีเพียงพระอรหันต์ที่ไปนิพพานแบบถาวร ไปแล้วก็ไปลับไม่กลับมา

    การกลับมาจึงเป็นไปไม่ได้ครับ แต่อรหันตจิตยังคงอยู่ในนิพพานอันสามารถรับรู้ทุกอย่างได้แต่ปล่อยวางหมดสิ้น การจะสงเคราะห์ใคร อรหันตจิตไม่ทำยกเว้นมีเหตุจำเป็นสำคัญจริงๆ คือทำได้แต่ต้องสำคัญและจำเป็น

    เพราะสรรพสัตว์ล้วนมีกรรมเป็นของตน

    ส่วนที่ท่านฝึกสมาธิมาดียังไม่ใช่พระอรหันตแต่เอาจิตไปนิพพานได้ ก็ไปได้แต่ก็อยู่ได้ไม่นานก็ต้องถอยลงมาเพราะยังไม่พ้นกรรม กรรมจะดึงลงมา จิตจะถอยลงมาเองตามอำนาจวาสนาบารมีของตนครับ ถอยลงมาเป็นอะไรอยู่ที่ไหนก็ตอบไม่ได้ แล้วแต่วาสนาบารมีที่ให้ผลในขณะนั้นครับ

    กรณีที่เราเป็นเทพหรือจิตล่องลอยไป เราก็มีกรรมเป็นตัวหนุนนำและบังคับเรา เราก็ไม่สามารถมาช่วยเหลือใครได้ แม้แต่ตัวเราเองเรายังหนี้กรรมของเราไม่พ้น ครับ ทุกคนมีภาระทั้งสิ้นไม่ว่าโลกนี้ โลกหน้าหรือโลกไหนๆ ยกเว้นนิพพาน

    แต่จิตทั้งหลายจะมีอิสระภาพจากบ่วงกรรมได้บ้างคือวันพระใหญ่เป็นต้นครับ ทั้งสามไตรภูมิเปิดครับ เพราะบารมีของพระพุทธเจ้านั่นเอง หลังจากสิ้นพุทธกาลไปแล้ว ก็จะปิดสนิทครับจิตทั้งหลายที่ยังไม่หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารก็จะต้องเวียนว่ายไปตามกรรมของตนครับ


    การปฏิบัตของผมคือ
    แบบพระโพธิสัตว์ คือ ต้องไม่ทำบาปเบียดเบียนสัตว์ หมั่นทำความดี มีศีลธรรม หมั่นสวดมนต์ภาวนาสร้างกำลังใจเข้มแข็งตัดละกิเลส เพื่อเอาชนะกิเลสมารของตน ทรงอารมณ์แบบพระอริยะ

    ในทุกวันต้องไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิจิต และรักษาศีลไม่ทำบาปครับ

    กรรมฐานคือฌาณสี่ครับ เป็นหัวใจครับ ภาวนาพุทโธ และภาวนา กฏไตรลักษณ์ คือ สัพเพสังขาราอนิจจา สัพเพธรรมอนัตตา ทุกขังอนิจจังอนัตตา อนิจจาวัฏฏะสังขารา อุปาทวะยะธรรมิโน อุปปัจชิตะวา นิรุตฌันติ เตสังโวปะโมสุโข

    ความตายเกิดขึ้นกับเราทุกคน กายใจคือขันธ์ที่เสื่อมลงและดับไปในที่สุด

    จำไว้จดจำไว้ ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ชีวิตชายหญิงทั้งหลายน่าเวทนาเป็นทุกข์ เพราะกิเลสมัวเมาลุ่มหลงชักพาให้หลงไหลมัวเมาเป็นทุกข์

    ไม่นานเราก็ต้องตาย เราจะเอาสิ่งใดไปไม่ได้เลย นอกจากความดีงาม คุณความดีบารมีที่เราสร้างมานั้นเอง จง อย่าโง่งมงายกับ กินกามเกียรติ ครับสาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2016
  14. ณิช

    ณิช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,391
    ขอบคุณคุณก้องที่ชี้แนะค่ะ
     
  15. Wiriyut

    Wiriyut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +1,123
    เรียน คุณก้อง ผมขอรบกวนสอบถามหน่อยนะครับ

    1. คุณพ่อแฟน เสียไปครบ 100 วัน ทางญาติได้ทำบุญไปให้หลายครั้ง ท่านได้รับไหมครับ และตอนนี้ ท่านอยู่ที่ใดครับ
    2. ช่วงนี้ เวลาผมทำสมาธิ จะรู้สึกว่ามีใครมาในช่วงทำสมาธิ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ใด หรือมีใครมาช่วยดูแลตอนปฏิบัติหรือไม่ ขอรบกวนช่วยดูให้หน่อยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ตอนนี้ผมเริ่มทะยอยตอบคำถามให้แล้วนะครับ

    ต้องขออภัยในความล่าช้าด้วยครับ และสำหรับบางท่าน อาจจะมีคำตอบเพิ่มกลับเข้าไปจากคำถามเดิม ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะการตอบคำถามในแต่ละครั้งจะเห็นรายละเอียดไม่หมด ซึ่งหากมีรายละเอียดที่เห็นเพิ่มเติมก็จะแนะนำเพิ่มกลับไปเพื่อความกระจ่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ

    ส่วนเมื่อได้รับคำตอบแล้ว ยังติดขัดสงสัยสิ่งใดก็ขอให้แจ้งกลับมาสอบถามได้ครับ ยินดีครับ

    สุดท้ายขอกล่าวว่า ความดีบุญกุศลเท่านั้น จะเป็นเครื่องนำพาเราพ้นทุกข์นำพาเราไปสู่สุขคติภพครับ จงมีศรัทธาปัญญาในการทำความดีทั้งปวงอย่างไม่ท้อถอยครับ สาธุ
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,500
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    แวะมาขอบคุณคุณน้องค่ะ อธิบายเรื่องกรรมชัดเจนดีแท้ สาธุธรรมค่ะ(เปลี่ยนLogoรูปหล่อซะแล้ว)
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==============

    ขอบคุณครับ พี่ต้อย

    ธรรม เกิดแต่กรรม

    โคตรภูญาณ เกิดได้สำเร็จได้ต้องอาศัยความรอบรู้ในกฏแห่งกรรม ในกฏแห่งอิทัปปัจยตาสมุปบาท

    ผมพูดเรื่องกรรม เพราะกรรมย่อมให้ผลตามกำลังอำนาจแห่งกรรม ตามวาระของมันเสมอ

    ตราบใดที่เรายังไม่หลุดพ้นจากกรรม เรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดตามอำนาจแห่งกรรม ขันธ์5ก็อาศัยกรรมเป็นแดนเกิด เราย่อมจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ กรรม เมื่อเราเข่้าใจมันถ่องแท้ เราย่อมชำระจิตได้ เมื่อเราชำระจิตให้หลุดพ้นจากกรรม เมื่อนั้นเราก็ย่อมพ้นทุกข์ได้ครับ สาธุครับ
     
  19. สังฆะ

    สังฆะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +35
    สวัสดีครับ อ่านมาหลายกระทู้แล้วครับ อยากถามคำถามให้ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
    1 ผมจะสามารถบรรลุธรรมในชาตินี้ใหมครับ
    2 ผมต้องกลับมาเกิดอีกรึเปล่าครับ
    3 ผมจะได้พบเจอสัตบุรุษชี้ทางในชาตินี้รึเปล่าครับ
    ขอบคุณครับถ้าท่านช่วยชี้แนะ
    ข้อมูลส่วนตัวผมเกิดวันเสาร์เดือนสิงหาปีเถาะครับ
     
  20. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    ดีใจที่พี่ก้องหายแล้วนะครับ ไว้ จะ PM ไป หานะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...