วิธีได้เจโตปริยญาน และบุฟนิวาสานุสติระลึก100อดีตชาติ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Tamjugg, 5 พฤศจิกายน 2014.

แท็ก: แก้ไข
  1. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เสฏฺฐนฺทโท เสฏฺฐมุเปติ ฐานํ
    ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2016
  2. tongrolass

    tongrolass เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +103
    อยากให้คุณ Tamjugg ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติสมาธิส่วนตัวจังเลยครับ เฮ้อ อยากไปเรียนสมาธิกับเขาและมีครูาอาจารย์คอยชี้แนะบ้างจัง
     
  3. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    นับถือ..คืออาการของจิตที่เสวยอารมณ์..แมนบ่
    แซบอยู่แมนบ่...
    แซบกะกินหลายๆ
    ให้อิ่มเป็นเด้อ
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    มันมีนะคนไม่มีไม่ต้องฝึก
    มันก็มาเอง....
    ว่าแต่....
    ระลึกชาติได้รึเปล่าละ....
    จะได้.....รู้
    โดยไม่ต้องถาม....ตามไปรู้วิธีฝึกของเขาด้วย
    ว่าแต่
    จะตามไปดูกี่ชาติกันละ...หลายชาตินะ
     
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    พระวินัยปิฎก
    เล่ม ๑
    มหาวิภังค์ ปฐมภาค
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.
    เวรัญชกัณฑ์
    เรื่องเวรัญชพราหมณ์
    ........


    ทรงแสดงฌาน ๔ และวิชชา ๓

    เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควร
    แก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้แล้ว ได้น้อมจิตไปเพื่อ

    บุพเพนิวาสานุสสติญาณ
    เรานั้นย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกชาติได้หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง
    สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง
    ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง ตลอดสังวัฏฏกัลป์เป็นอันมากบ้าง ตลอดวิวัฏฏกัลป์
    เป็นอันมากบ้าง ตลอดสังวัฏฏวิวัฏฏกัลป์เป็นอันมากบ้าง ว่าในภพโน้นเราได้มีชื่ออย่างนั้น มีโคตร
    อย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียง
    เท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพโน้นนั้น เราก็ได้มีชื่ออย่างนั้น
    มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนด
    อายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพโน้นนั้นแล้ว ได้มาเกิดในภพนี้ เราย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็น
    อันมาก พร้อมทั้งอุเทส พร้อมทั้งอาการ ด้วยประการฉะนี้ พราหมณ์ วิชชาที่หนึ่งนี่แล เรา
    ได้บรรลุแล้วในปฐมยามแห่งราตรี อวิชชา เรากำจัดได้แล้ว วิชชาเกิดแก่เราแล้ว ความมืด
    เรากำจัดได้แล้ว แสงสว่างเกิดแก่เราแล้ว เหมือนที่เกิดแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท มีความเพียร
    เผากิเลส ส่งจิตไปแล้วอยู่ฉะนั้น ความชำแรกออกครั้งที่หนึ่งของเรานี้แล ได้เป็นเหมือนการ
    ทำลายออกจากกระเปาะฟองแห่งลูกไก่ฉะนั้น.

    จุตูปปาตญาณ
    เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควร
    แก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้แล้ว ได้น้อมจิตไปเพื่อญาณเครื่องรู้จุติและอุปบัติ
    ของสัตว์ทั้งหลาย เรานั้นย่อมเล็งเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี
    มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์
    ผู้เข้าถึงตามกรรมว่า หมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
    ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ หมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่
    เหล่านั้น เบื้องหน้าแต่แตกกายตายไป เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก หรือว่าหมู่สัตว์ผู้เกิด
    เป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า เป็น
    สัมมาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิ หมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านั้น เบื้องหน้าแต่แตก
    กายตายไป เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เราย่อมเล็งเห็นหมู่สัตว์ผู้กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต
    มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อม
    รู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมด้วยประการดังนี้ พราหมณ์ วิชชาที่สองนี้แล เราได้บรรลุแล้ว
    ในมัชฌิมยามแห่งราตรี อวิชชา เรากำจัดได้แล้ว วิชชาเกิดแก่เราแล้ว ความมืดเรากำจัดได้แล้ว
    แสงสว่างเกิดแก่เราแล้ว เหมือนที่เกิดแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส ส่งจิตไป
    แล้วอยู่ฉะนั้น ความชำแรกออกครั้งที่สองของเรานี้แล ได้เป็นเหมือนการทำลายออกจากกระเปาะ
    ฟองแห่งลูกไก่ ฉะนั้น.

    อาสวักขยญาณ
    เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควร
    แก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้แล้ว ได้น้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ เรานั้นได้รู้ชัด
    ตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดทุกข์ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ความ
    ดับทุกข์ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า เหล่านี้
    อาสวะ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้เหตุให้เกิดอาสวะ ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ความดับอาสวะ ได้รู้
    ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับอาสวะ เมื่อเรานั้นรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตได้
    หลุดพ้นแล้วแม้จากกามาสวะ ได้หลุดพ้นแล้วแม้จากภวาสวะ ได้หลุดพ้นแล้วแม้จากอวิชชาสวะ
    เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ได้มีญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ได้รู้ด้วยปัญญาอันยิ่งว่า ชาติสิ้นแล้ว
    พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี พราหมณ์
    วิชชาที่สามนี้แล เราได้บรรลุแล้วในปัจฉิมยามแห่งราตรี อวิชชา เรากำจัดได้แล้ว วิชชาเกิด
    แก่เราแล้ว ความมืดเรากำจัดได้แล้ว แสงสว่างเกิดแก่เราแล้ว เหมือนที่เกิดแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท
    มีความเพียรเผากิเลสส่งจิตไปแล้วอยู่ ฉะนั้น ความชำแรกออกครั้งที่สามของเรานี้แล ได้เป็น
    เหมือนการทำลายออกจากกระเปาะฟองแห่งลูกไก่ ฉะนั้น.
    เวรัญชพราหมณ์แสดงตนเป็นอุบาสก

    [๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว เวรัญชพราหมณ์ได้ทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาค
    ว่า ท่านพระโคดมเป็นผู้เจริญที่สุด ท่านพระโคดมเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ข้าแต่ท่านพระโคดม
    ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดย
    อเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง
    หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปดังนี้ ข้าพเจ้านี้ขอถึงท่านพระโคดม
    พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงจำข้าพเจ้าว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ
    ตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอพระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จงทรงรับอาราธนาอยู่
    จำพรรษา ที่เมืองเวรัญชาของข้าพเจ้าเถิด.
    พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาด้วยพระอาการดุษณี ครั้นเวรัญชพราหมณ์ทราบการรับ
    อาราธนาของพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้ลุกจากที่นั่งถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณ
    หลีกไป.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2016
  6. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    5555+
    หัวเราะให้ดังก้องฟ้า...
    สิ่งที่ท่านมี.....
    ไม่ใช่คนอื่นไม่มี....
    สิ่งที่ท่านเป็นไม่ใช่คนอื่นเป็นไม่ได้....
    หลงคือจิตที่เป็นมิจฉา
    สิ่งที่เรามีไม่ใช่ท่านมีไม่ได้
    555+
    ระลึกอดีตได้แล้วใง.....
    อนาคตได้แล้วใง....
    หมายปองแค่ความดับไม่มีเชื้อที่สำคัญ...
    หากพลาดแล้ว.....
    บุญที่อยู่ใกล้พระอรหันต์ในการฟังธรรมนั้นยิ่งใหญ่
    กว่าอยู่ใกลหลายโยชน์หลายวานัก
    555+
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2016
  7. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    การสรุปอะไรง่ายๆแค่..ขี้เล็บ
    แต่โทษใหญ่ที่ไม่รู้
    นั่นยากแท้
    ต่อให้บินได้..หายตัวได้...บังคับสิ่งต่างๆได้
    ระลึกได้ตั้งแต่ต้นชาติได้
    แล้วใง
    หากไม่พบ...
    ความดับไม่มีเชื้อ....
    5555+
    มโนมยิทธิ......หัวใจเพชรนะท่าน...
    55555+
     
  8. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ด้วยความเครพ
    ธรรมไม่มีแบ่งแยก
    จิต....
    จิตที่แท้จริงไม่สามารถปกปิดได้ว่าสร้างกรรมอะไร

    พระพุทธศาสนาเรามีหลายสาย...ตามกรรมที่ตกแต่งกันมาแต่ละคนสะสมอะไรมา
    สาย...พุทโธ
    สาย..สัมมาอรหัง
    สาย...นะมะพะทะ
    ก็พิสูจย์กันมาแล้วว่ามีพระอรหันต์เกิดขึ้นจริง
    ฉนั้น...จะไปว่าสายนั้นสายนี้
    สายฉันดีที่สุด
    มันเป็น..มิจฉาทิฐฐิตัวเป้งงงงงง
    แมนบ่
     
  9. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ไอ้ประเภทส่องล๊อตเตอร์รี่นะ
    เคยโดนเบิดกะโหลกมั๊ย
    แบบอีกชั้นหนึ่งท่านคุมอยู่...
    ครูบาร์อาจาร์ยไม่เคยสอน
    มีแต่เจ้าที่เจ้าทางสงเคราะ
    ไม่ให้ซื้อเยอะ....
    ก็..ตามนั้นคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2016
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ล๊อตเตอร์ใบ..ดีใจ2ตัวดีใจ3ตัว
    555+
     
  11. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ผมงงเห็นภาพใช่ไหมครับ ตลอดทั้งวันหรือแค่ภาพ
    ได้ญาณ5678เท่ากับละกิเลส เท่ากับเป็นอรหันต์แต่ดันมาด่า(ฮา)
     
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    บุคคล ไม่ชื่อว่าเป็นเถระ เพราะมีผมหงอกบนศีรษะ ผู้มีวัยแก่รอบแล้วนั้น เราเรียกว่า แก่เปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2017
  13. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    เอ่อ
    ท่านบอกว่านั่ง7วันได้ฌาน8ญาน8
    รู้ไหมว่าพระโมคลานะนั่งเท่าไหร่เป็นอรหันต์ 7วันนะครับท่านเก่งเท่าท่านโมคลานะหรือครับ
    (ฮา)
     
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน

    อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

    1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
    2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
    3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
    4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
    5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
    6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2017
  15. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    อ้อ....เจออย่างนั้นมาเหรอ
    555+
    หลบ...แต๋ว
    แต๋วจ๋า....
    5555+
    พีเลยมโนไม่แตกฉานอยู่นี่ใงเล่า
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ไปศึกษาประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน...นะ
    น้องนะ....
    ที่วัดท่าซุงก็ไปพิจารณานะ
    ในศาลา100เมตรนี่ไปนั่งนานๆก็ดีนะ...
    เผื่อจะแจ้ง
    พระไตรปิฎกก็มีบอกไว้ไปหาเอง
    ก็คนมันวาสนาต่างกัน...
    ฉันก็มานั่งด่าคนอื่นอย่าคุณได้....
    จะทำทำไมเพื่อให้บุญฉันเสื่อม..ให้มานะฉันเกิด
    ให้รู้ว่าฉันแน่กว่าคนอื่นเหรอ...ก็เปล่า
    ฉันมีแต่จะโมทนาให้...
    จะได้ไม่เสียชาติไปรำลึกกันอีกให้มานะเกิดอีก
    อย่างงี้ใงเล่า......

    ไปเปิดหู...เปิดตา..บ้างนะ....
    จะได้มองโลกในมุมกว้างงงงงง
     
  17. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ฮา
    สอนอภิญญา6ก็อรหันต์สิครับ(จับผิด)
    ต้องอภิญญา5สิครับ
     
  18. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ตั้งทำไม...555+
    หนูไม่ใช่พี่นี่
    5555+
    ทำบุญอะไรมาก็ทำไปดิ
    ทำไมต้องโน้น..ต้องนี้...ต้องนั้น
    ไม้บันทัดไม่ใช่ความหมายเดียวของคำว่าตรงนะพี่
    555+
     
  19. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    แล้วหนูจะบอกนะ
    นะมะพะทะ...บำเพ็ญมาพร้อมกับพุทโธ....ก็มี๊
     
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ดูกรอานนท์ เมื่ออยากรู้จักนรกและสวรรค์และพระนิพพาน
    ก็ให้รู้เสียในเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่
    เมื่ออยากพ้นทุกข์ในนรก ก็รีบออก ให้พ้นเสียแต่เมื่อยังไม่ตาย
    เมื่ออยากได้สุขในมนุษย์หรือ ในสวรรค์หรือในนิพพาน
    ก็ให้รีบขวนขวายหาสุขเหล่านั้น ไว้แต่เมื่อยังไม่ตาย
    จะถือว่าตายแล้วจึงพ้นทุกข์ในนรก ตายแล้วจึงจะไปสวรรค์ไปพระนิพพาน
    ดังนี้ เป็นอันใช้ไม่ได้ เสียประโยชน์เปล่า...
     

แชร์หน้านี้

Loading...