"จิต"นี้ "ไม่เกิดไม่ตาย"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xtrem, 12 มีนาคม 2016.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    คุณจิตยิ้มน่ะ ติดสัญญาเยอะ ปฏิบัติเลยไม่ไปไหน
    ลากสัญญามาเคารพศรัทธาอยู่นั่นเอง ไม่เป็นตัว
    ของตัวเองสักทีครับ ลองออกจากความหมกมุ่น
    ความพอใจในสัญญาดูสักครั้ง วางพ่อแม่ครูบา
    อาจารย์ลง แล้วปฏิบัติบูชาแทน

    คำว่าปฏิบัติบูชาแทน หมายความว่า เวลาไหน
    ก็ตามที่ความฟุ้งซ่านไปตามสัญญาความจำได้
    หมายรู้มันเกิด ให้รู้ทันบ่อย ๆ ลองไม่คบมันสักระยะ
    ปล่อยมันไป สัญญามันกวนก็รู้มันไป รู้ผ่านๆ ไม่ต้อง
    ไปใส่ใจ แค่รู้ว่ามาอีกละๆ แล้วปล่อยผ่านๆ สู่ความ
    สงบไปเลย มันมากวนก็เห็นมันไป ผู้ใดเห็นธรรม
    อันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ง่อนแง่น
    คลอนแคลน เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้ ลองดู
    สักตั้งยังไม่ต้องคิดอะไรมาก โลภอยากได้ให้รู้ทันครับ
     
  2. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    ตอบ ลองมองมุมนี้ โจทย์นี้ดูจ้า... "จิตนี้มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ แต่ไม่มีดับไป(ตาย)" ลึกลงไปอีก สำหรับผู้ได้นิพพาน จิตท่านไม่ตาย เหมือนดั่งจิตที่มีทั่วไป แต่ท่านมีเซฟเฮ้าส์วิญญานท่าน (มีบ้านที่เป็นสุขอยู่) แปลว่า เมื่ิอผจนกับทุกข์ร้อนสารพันบรรดามีในแสนโกฏจักรวาลโลก ก็มีที่พึ่งให้จิตวิญญาณตนแล้ว คือไม่มีปัญหา ต่างจากจิตที่ยังไปไม่ถึงนิพานคือ มีปัญหากับทุกข์อยู่ร่ำไป ดังนี้แล....
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทว่า
    "เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ทำให้เกิดสังขา
    เพราะสังขารเป็นปัจจัยทำให้เกิดวิญญาณ(ปฏิสนธิวิญญาณ)
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยทำให้เกิดนามรูป(ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สัขาร วิญญาณ)
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัยทำให้เกิดอายตนะ ๖
    เพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัยทำให้เกิด ผัสสะ
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ทำให้เกิดเวทนา
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ทำให้เกิดตัณหา
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัยทำให้เกิดอุปาทาน
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยทำให้เกิดภพ
    เพราะภพเป็นปัจจัยทำให้เกิดชาติ
    เพราะชาติเป็นปัจจัยทำให้เกิด ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขโทมนัสสอุปายาส

    ในธรรมฝ่ายดับนั้น
    เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ
    เพราะสังขาร วิญญาณจึงดับ
    เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ
    เพราะนามรูปดับ อายตนะ ๖ จึงดับ
    เพราะอายตนะ ๖ ดับ ผัสสะจึงดับ
    เพราะผัสสะ ดับ เวทนาจึงดับ
    เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
    เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
    เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
    เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
    เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสสะอุปายาสจึงดับ"


    ดังนี้จะเห็นว่า พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย
    ล้วนเป็นผู้ดับอวิชชาได้หมดแล้ว เรื่องที่เมื่อดับขันธ์ไปแล้วจะยังมี จิตหรือวิญญาณเหลืออยู่ ณที่ใดที่หนึ่ง เป็นอันไม่มี ทั้งนี้เพราะอวิชชา
    ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดนั้น ดับไปแล้วนั่นเอง

    ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ที่เรียกว่าอมตะธรรม เพราะเป็นธรรมที่กำจัดต้นเหตุ
    ของการเกิดนั่นเอง เมื่อไม่มีเกิดจึงไม่มีตาย
    ไม่ใช่ธรรมที่ทำให้คนมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้า หรือตายไปแล้วยังมีวิญญาณอยู่เป็นนิรันดร์

    การพ้นทุกข์ในนิยามของพระพุทธศาสนาคือ การพ้นจากการเกิด
    พ้นจากการมี การเป็น
    ถ้าหากยังมียังเป็นอยู่ ไม่ใช่การพ้นทุกข์ในแบบพุทธศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2016
  4. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ถ้าเราสรุปแค่นี้ว่า ตามความเข้าใจของคนทั่วไป คือ การตายสนิท นั้น คือ นิพพาน จะเป็นอุทเฉททิฏฐิหรือไม่

    แล้วคำสอนอื่นที่พระพุทธองค์กล่าวว่า


    [๑๕๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงชี้แจงให้ภิกษุทั้งหลายเห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วย ธรรมมีกถาอันปฏิสังยุตต์ด้วยนิพพาน ก็ภิกษุเหล่านั้นกระทำให้มั่น มนสิการแล้ว น้อมนึกธรรมีกถาด้วยจิตทั้งปวงแล้ว เงี่ยโสตลงฟังธรรม ลำดับนั้นแล พระผู้- *มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการ จุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

    (ขออภัย 84000 พระธรรมขันธ์ ตัดแปะมา )

    ขอท่านให้ความเห็นครับ
     
  5. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อุทเฉททิฏฐิ หมายถึงความเห็นว่าขาดสูญ ซึ่งเป็นความเห็นของคนทั่วไป
    ที่เชื่อว่าตายแล้วสูญ คือไม่เชื่อว่าชาติหน้ามีจริง เพราะความเชื่อว่าชาติหน้าไม่มีจริงจึงไม่มีการทำความเพียรเพื่อละกิเลส
    ดังนั้นท่านจึงจัดความเห็นชนิดนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ
    แต่พุทธศาสนาเราเชื่อว่า หากคนยังมีกิเลสอยู่ตราบใด ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ตราบนั้น
    นอกจากพระอรหันต์ผู้สิ้นกิเลสแล้วเท่านั้น จึงไม่เกิดอีก
    เพราะเป็นการดับไม่มีเชื้อ

    สำหรับข้อความที่ตัดแปะมา ก็ชัดเจอยู่แล้ว
    เพราะการดับไม่มีเชื้อ จึงหาอารมณ์มิได้(ไม่มีจิต)
    ไม่มีการไปไม่มีการมา(เพราะไม่มีตัวบุคคล)

    แต่ถ้าใครจะเชื่อว่า นิพพานแล้วยังมีจิตวิญญาณอยู่ชั่วนิรันดร์ ก็ไม่บังคับนะ
    แต่ให้รู้ว่า ความรู้สึกอยากมีภพชาติเป็นนิรันดร์นั้นมันเป็นเรื่องของอัตตา
    ความอยากมีตัวตน อยากแบกวิญญาณเข้านิพพาน เป็นอัตตา เป็นอุปาทานทั้งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2016
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่

    ดิน น้ำ ไฟ ลม ฯ ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น

    อายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการ จุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

    อายตนะนั้นนั่นแหละเรียกว่า "นิพพาน" ค่ะ
     
  7. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เอาแค่ ความรู้ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ

    ทีนี้ คนมาอ่านตรงนี้ ก็จะถามว่า อายตนะ คืออะไร

    อายตนะ สำหรับคนมีตัวตน คืออะไร และอานตนะที่บทนี้คืออะไร

    ตอบด้วยครับ
     
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คุณไปตัดพุทธดำรัสว่า"เราย่อมไม่กล่าวว่า" ออกไป ทำให้ข้อความที่ยกมานี้บิดเบือน ไม่ตรงกับพระไตรปิฎก
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อายตนะ ตามความหมายของศัพท์ ก็หมายถึง ทางเชื่อมต่อ

    แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสแล้วว่า หาที่ตั้งมิได้ ก็แสดงว่า มันไม่ใช่สถานที่
    หรือเขตแดน
     
  10. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    สาธุ ครับ
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    คุณ ยอสตรอย สู้ๆ

    กราบขออภัย ที่ต้องเชลียร์

    เพราะว่า คุณยอสตรอย เริ่มกล่าวแบบ ลอมชอม

    ตรงนี้ เวลาพูด ให้กำหนดรู้ไว้ด้วยว่า ลอมชอม กร่อนธรรมลงไป
    เพราะ เวทนาบางประการ บีบคั้น และ เวทนานี้ ก็เกิดดับ ร่อนอยู่ ไม่ติดจิต
    [ แต่แรกๆ มันจะ ติดจิต หรือ หากไม่ติด มันจะ ย้อนมา ส่งเสียงกระซิบ
    ภายหลัง เวลาที่ การภาวนาเข้าได้เข้าเข็ม ......ภาษาพระเรียกว่า เปิดประตู
    ให้ขยะมันเข้าบ้าน ....ซึ่งเหตุเนี่ยะ เกิดจาก การสนทนากับพวกมิจฉาทิฏฐิ ]
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    แล้วสิ่งใดค่ะที่บอกว่าเป็นเขตแดน
    ที่บอกว่าอายตนะนั้นมีอยู่ อายตนะนั้นมีอยู่จริงนะคะ
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่ได้ตัดค่ะ ชี้ประเด็นให้ชัดสำหรับความเข้าใจของตนเอง
    และพระพุทธเจ้าก็ยืนยัน เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรค่ะ
    เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเต็ม ๆ เราก็รู้แล้ว..จุดประสงค์ค่ะ
     
  14. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241

    น้องๆ หนูๆ สังเกตุ นะฮับ

    คุณ ยอสตรอบ อัญเชิญ พุทธวัจนะ มาเหมือนกับ คุงจิกยิ้ม

    แต่สองคนนี้ต่างกัน

    คุณ ยอสตรอย ยกมา เพื่อ ท้าให้พิสูจน์

    ส่วน คุณ จิกยิ้ม ยกมาเพื่อ เป็นบัญญัติเท่านี้ใช่ อย่างอื่นเปล่า

    คนหนึ่ง กระทำไป อย่างน้อยได้ สวรรคิ์ ไม่มีทางตกอบาย

    อีกคนหนึ่ง ตกนรกแสนกัปแสนกัลปปปปป์

    ดูที่ เวทนาบางประการร้อยรัด หรือ อิสระ ....
    กำหนดรู้ ความอิสระนั้น เกิดดับ อีกที

    ฟังเขาสนทนาธรรมกัน เห็นธรรมภายนอก เป็นธรรมภายใน
    เห็นธรรมภายในเป็นธรรมภายนอก เห็นธรรมภายนอกภายใน
    เป็นธรรมภายใน ก็ได้กำลัง เห็นเขาสนทนาธรรมกัน เราบรรลุ
    ไปก่อน ก็มี
     
  15. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เพราะคำปฏิเสธที่ถูกตัดออกไปนั้น ทำให้ความหมายของพุทธวจนะทั้งหมด
    เปลี่ยนไปตรงกันข้ามนั่นเอง
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    พระพุทธองค์ตรัสว่า ผู้ปราถนานิพพานต้องศึกษาให้แจ้ง
    บุคคลไม่รู้ไม่เห็นนิพพานและจะถึงนิพพาน จักมีมาแต่ที่ไหน
    ผู้ปราถนานิพพานก็ต้องศึกษาให้รู้จักนิพพานไว้ก่อนจึงจะได้
    มาตั้งหน้าปราถนาเอาโอยความไม่รู้นั้น จะมีทางได้แต่ที่ไหน
    อันทางไปสู่พระนิพพานก็ไม่เข้าใจ เมื่อไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เข้าใจแล้ว
    จักไปสู่นิพพานยากลำบากยิ่งนัก เปรียบเหมือนคน 2 คน
    ผู้หนึ่งตาบอด ผู้หนึ่งตาดี จะว่ายน้ำข้ามมหานทีอันกว้างใหญ่
    ในคนสองคนนั้นผู้ใดจักไปถึงฝั่นโน้นก่อน

    ส่วนผู้ตาบอดนั้นจะว่ายข้ามไปฝั่นโน้นยากแสนลำบาก
    บางทีจะตายในท่ามกลางเสียแม่น้ำ เพราะไม่เห็นฝั่งนิพพานอยู่ที่ไหน
    คนไม่รู้แจ้งว่านิพพานอยู่ที่ไหนเป็นอย่างไร ทางจะไปก็ไม่เข้าใจ
    แต่อยากได้อยากไปถึง ผู้นั้นก็ต้องเป็นของยากลำบากยากแค้นเป็นธรรมดา
    เมื่อรู้แล้วอย่างนั้น ก็ต้องพยายามพากเพียรพยายามเต็มที่
    จึงเหมือนคนตาดีว่ายข้ามน้ำ ก็ต้องพยายามจนสุดกำลัง
    จึงจะพ้นได้ มีอุปไมยเหมือนกัน ฉะนั้น
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ถ้าท่านจะบัญญัติให้มันเป็นเช่นนั้น มันก็เป็นเช่นนั้นนะเอง
    แล้วแต่ท่านจะเข้าใจ แต่ข้าพเจ้าบริสุทธิ์ใจ..แค่นี้ค่ะ
    พอทีค่ะ..แล้วแต่บุญวาสนา ข้าพเจ้าก็ทำหน้าที่แค่นี้
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    นิพพานนั้นมีจริงอยู่แล้วครับ พระพุทธศาสนาก็รับรองเรื่องนิพพานมีอยู่จริง
     
  19. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    น้องๆ หนูๆ สติปัญญาพอประมาณ สังเกตุ นะ

    เวทนาแบบนี้ ส่งตรงไป โลกันตนรก นรกที่หนาวๆ ตัดพ้อ อย่างเดียวดาย

    สังเกตุที่เวทนานะ อย่าไป ยุ่งเรื่อง บัญญติที่เป็นสัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขา

    วางจิตให้ห่างๆ อย่ากลัวการเห็น อย่ากลัวขนหัวตั้งที่ปรากฏ

    เราไม่ได้ไปทำเขา เขาปรารภของเขาเอง เราไม่เกี่ยว

    และ อย่ามองว่า เพราะ สัทธรรมที่เขาหยิบจับ ทำร้ายเขา

    ไม่ใช่นะไม่ใช่ มองดีๆ มันมี " กิเลส " มีนายคือ ตัณหา อยู่ข้างหลัง ต่างหาก
     
  20. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
     

แชร์หน้านี้

Loading...