ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ควบม้าท่ามกลางฝนกระหน่ำ จนแทบลืมตาไม่ขึ้น ไปจนหนาวสั่นทั้งกาย
    แต่ใจยังรุ่มร้อนด้วยยังไม่ได้ระบายด้วยเลือดของศตรู สิงห์ในตอนนั้น เป็นนักรบและนักฆ่าโดยชอบทั้งกายและใจ

    จนเห็นกำแพงเมือง ประตูเมือง อยู่รำไร เจ้าหอหน้ากลับชักม้าเลาะเลียบไปตามลำน้ำ
    เหมือนจะอ้อมไปอีกฟากของเมืองอยุธยา สิงห์มิได้แคลงใจต่อการกระทำของเจ้าหอหน้า
    มีแต่ความเชื่อมั่นในพระองค์ และจะขอติดตามรับใช้โดยไม่สนใจว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากตรากตรำเพียงใด
    ด้วยสำนึกแล้วว่า อโยธยาคือเจ้าหอหน้า เจ้าหอหน้าคืออโยธยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2016
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    มุ่งตรงลงสู่ทางใต้จากเกาะเมือง เสียงม้าหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยล้า

    ก็ไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่มีทำเลอยู่ริมน้ำ มีท่าน้ำเห็นทอดไป กลุ่มยอดหลังคาทรงแหลม
    เหมือนจะเป็นคุ้มของหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าหอหน้าควบม้าโดยมิพัก เมือมาไกล้ถึง
    เรือนไทยหมู่ขนาดใหญ่ริมน้ำ ขุนแก้วก็เป่าปากเป็นเสียงหวีดแหลมยาว ขณะนั้นเอง
    ท่ามกลางฝนตกหนัก และพายุพัดพา เสียงลมหวีดหวิว ยอดหมากที่ปลูกไว้หน้าบ้าน
    เอนไหวลู่ไปตามลม เจ้าหอหน้ามุ่งตรงไปที่เรือนข้างเรือนไทยหลังย่อม ที่ปลูกเคียงเรือนใหญ่ แต่มิได้เชื่อมกัน ลักษณะเป็นเรือนลูก

    ได้ยินเสียงคนตีระฆังเสียงกังวาน จากใต้ถุนเรือน แล้วแสงตะเกียงก็ถูกจุดขึ้น ลอดออกมาตามบานหน้าต่างที่ปิดกันฝน
    เรือนหมู่ที่มืดสนิท ก็ดูอบอุ่นขึ้นทันใด

    เจ้าหอหน้าไม่นำพากับความเปลี่ยนแปลง ทรงไม่ลงจากม้าแล้วเดินเข้าเรือนไปตามธรรมเนียม
    กลับควบม้าไปจนถึงเรือนลูกด้านขวา แล้วโดดลงจากหลังม้า ไม่นำพา
    ก้าวขึ้นบันไดทีเดียวสองสาวก้าว แลพระอารมณ์ยังคงคุกรุ่น ขึ้นไปผลักประตูหน้าเรือน
    เพื่อเข้าสู่โถงกว้าง กลางเรือน ที่มีตั่งวางอยู่ แม้ตอนนี้จะเปียกปอน แต่ก็แลดูว่าเรือนนี้คงได้รับการดูแลอย่างงดงาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2016
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทรงไม่นำพาในพระอารมณ์ ว่าใครจะเป็นเช่นไร อยู่ที่ใดกันบ้าง ทรงพระดำเนินลิ่วไป
    ที่กลางเรือนทะลุไปจนสุด เป็นห้องขนาดใหญ่ ทรงผลักประตูเข้าไปอย่างแรก
    สิงห์กำลังงุนงง กับพระอาการนัก และไม่รู้จะติดตามผู้ใด เพราะบัดนี้พระอนุชาซึ่งไม่ตรัสการใด
    พระดำเนินแยกไปทางขวาของเรือน เปิดบานประตูอย่างเงียบๆ แล้วปิดประตูตามอย่างเงียบๆ เช่นกัน
    สิงห์จึงเพิ่งสังเกตุว่ามิมีผู้ใดขึ้นเรือนตามตนมาเลย
    จึงหันหลังจะเดินลงเรือนไปหาที่พักเช่นกัน ด้วยตอนนี้ร่างกายแลเสื้อผ้าสัมภาระเปียกชุ่มแลรู้สึกถึงท้องที่ร้องประท้วงขึ้นมา

    "สิงห์ หายหัวไปไหน" สิงห์สะดุ้งจากภวังค์ทันที พระสุรเสียงคล้ายตวาดลอยมาจากบานประตูที่เจ้าหอหน้าปิดไม่สนิท
    พร้อมกับบ่าวชายหญิงสองสามคนที่เดินขึ้นบนเรือน
    สิงห์รีบเดินจ้ำตามไปรับใช้ทันที

    ในใจอยากจะร้องโอดโอย ด้วยเกรงพระอารมณ์ ไหนจะห่วงพระอนุชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2016
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์เดินไปหยุดหน้าบานประตู แล้วก้มถวายบังคมทูลว่า
    "ทูลกระหม่อม ข้าฯ มิกล้าเข้าพะย่ะค่ะ เปียกปอนเช่นนี้ คงจักไม่งามนัก"

    เสียงทูลกระหม่อม ตวาดกลับมา
    "มึงว่ากูไร้อารยะ ไม่รู้ธรรมเนียม มึงไม่ได้เอาตาดูรึ ว่ากูก็เปียก
    มึงจักยวนกูอีกนานมั้ย หากมึงยังมากพิธี ถือบ่าวถือนาย กูจักออกไปโบยมึงเสีย"

    ครานี้สิงห์ไม่กล้าคิดมากพิธีอีก รีบผลุบเข้าห้องเจ้าหอหน้า

    เหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจ เสียงฝนค่อยๆซาลง โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอเชิญร่วมทำบุญกับชมรมโพธิธรรม ถวายตู้พระไตรปิฏก ให้กับวัด 3 วัด ค่ะ เงินส่วนที่ได้รับเกินจากยอดตู้พระไตรปิฏก 19,900 * 3 = 59,700 บาท สมทบยอดกองกฐินทั้ง 3 วัดค่ะ สาธุ
    1. วัดบางนมโค หลวงพ่อปาน จ.อยุธยา
    2. วัดท่าซุง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จ.อุทัยธานี
    3. วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) จ. สระบุรี

    บช นพ.ธรรณวัฐ วัฒนาเศรษฐ์ ( เจ้าสำนักโพธิธรรม) เช่นเดิม

    บุญนี้ปิดรวบรวมบุญถึงวันที่ 9 ต.ค. 2559 ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2016
  6. sustain36

    sustain36 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +145
    ร่วมทำบุญบูรณะอุโบสถ วัดหล่ายหิน อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นเงินจำนวน 600 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      117.8 KB
      เปิดดู:
      57
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ป้าจารุ วัดหล่ายหิน 300 บาทค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. preuk

    preuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +50
    ร่วมบูรณะอุโบสถด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้า ประทับยืนอยู่ริมหน้าต่าง ทรงเริ่มผลัดฉลองพระองค์ออก
    ซักครู่ จึงได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง สิงห์แง้มมองเห็นบ่าวหญิงวัยกลางคน
    นำผ้าโสร่งเนื้อเนียนมาให้ผลัด สิงห์พยักหน้าให้ บ่าวก็ส่งพานใส่ผ้าให้
    สิงห์ก็นำไปวางไว้ข้างเจ้าหอหน้า ทรงไม่กล่าวกระไร ก้มลงหยิบโสร่ง
    มาเปลี่ยน แล้วเดินนำออกนอกห้องไปที่ชานเรือนที่มีตุ่มน้ำฝนขนาดย่อม
    แล้วก็ทรงสรงน้ำ ระหว่างนั้นสิงห์ก็ละล้าละลัง รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา
    ราวกับจะจับไข้ รู้สึกอยากอาบน้ำขึ้นมาบ้าง เลยเตรียมจะลงเรือนไปอาบน้ำที่
    ลานใต้ถุนเรือน เจ้าหอหน้าเห็นอากัปกริยาของสิงห์ก็เข้าใจทันที ทรงทำสัญญานเรียกบ่าวหญิงที่แอบที่มุมเรือน
    แล้วก็มีบ่าวชายนำผ้าขาวม้ามาให้สิงห์ สิงห์รับไว้ เจ้าหอหน้าจึงตรัสต่อว่า

    "จงรีบอาบน้ำเสียบนเรือน เจ้าจักจับไข้ ไม่ต้องมากพิธี ที่แห่งนี้มิใช่วัง เราคือพี่ น้องร่วมเป็นร่วมตายเพียงเท่านั้น"

    แล้วเจ้าหอหน้าก็ทรงดำเนิน เข้าห้องไป สิงห์รีบอาบน้ำฝนที่รู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจ
    แล้วก็เห็นบ่าวชาย นำผ้าขาวม้าแห้งมาวางไว้อีกผืนให้ผลัดหลังจากอาบเสร็จ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2016
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วสิงห์ก็เดินมาหยุดที่หน้าห้องของเจ้าหอหน้า ละล้าละลังว่าจะไปผลัดผ้าที่ใด
    บ่าวหญิงวัยกลางคนก็นำเสื้อผ้ามาให้ เป็นผ้าฝ้ายอย่างชุดชาวบ้าน แล้วก้มหน้าบอกว่า

    "เชิญท่านขุนผลัดผ้าในห้องเถิด แล้วรีบออกมา กินข้าวกินปลาเสีย จะได้พักผ่อน"

    สิงห์เอ่ยปากจะถามถึงเจ้าหอหน้า แต่นางก็คลานหนีไป สิงห์เหลือบไป เห็นบ่าวชายหญิง
    กำลังเช็ดถูเรือนให้แห้ง เก็บกวาด กันไม่ต่ำกว่าหกคน กลิ่นข้าวสุกลอยมา

    เมื่อเข้าไปในห้องเจ้าหอหน้าจึงได้สังเกตุ ห้องนั้นเรียบง่ายนัก มีเพียงตั่งวางฟูก
    และมีหีบใบเขื่องอยู่ปลายเตียง

    รอยน้ำที่เจ้าหอหน้าและสิงห์เหยีบย่ำไว้ ก็แห้งสนิท คงเป็นฝีมือของบ่าว
    สิงห์ให้สงสัยในใจ นี่เรือนหมู่นี้ของผู้ใดหนอ หรือเป็นเรือนพักของเจ้าหอหน้า
    ก็มิน่าใช่ แล้วใยครานี้ พระอนุชาถึงแยกห้องไปอีกห้อง ทุกคราทั้งสองพระองค์มิเคยห่างกันเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2016
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์เก็บความสงสัยไว้ในใจ เดินออกมาหยุดที่กลางเรือน ที่มีตั่งตั้งอยู่
    สองพระองค์ในฉลองพระองค์ชุดผ้าฝ้ายเรียบๆ ดูแปลกตานัก กำลังนั่งบนตั่ง
    มีบ่าวไพร่กำลังจัดสำรับในจานกระเบื้องเบญรงค์อย่างดี แต่ไม่เห็นมีเจ้าของเรือน
    มาต้อนรับ บ่าวไพร่ชายเมื่อสังเกตุ ก็ช่างแปลกตา ดูรูปร่าง หุ่นทรง กล้ามเป็นมัดๆ
    ราวกับนักรบชั้นดี ท่าทางก็ดูสำรวม สงบ

    บ่าวไพร่หญิงก็ดูเรียบร้อย ก้มหน้าก้มตา หายไปเงียบเชียบไร้ร่องรอย ราวกับชาววัง
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์กำลังจะก้มกราบ เพื่อจะกระเถิบตัวลงนั่งข้างพระอนุชา
    เจ้าหอหน้าก็พยักหน้าให้บ่าวหญิง วัยกลางคนอีกคน นางส่งเสียงเรียก
    "แม่อิน" แล้วก็มีหญิงแรกรุ่น วัยประมาณสิบสอง ประคองขันโตกใบเล็กเข้ามา
    แม่อินนี้ หน้าตาหมดจดนัก แม้จะห่มสไบอย่างสาวที่ตัดจุกแล้ว แต่ก็ดูบอบบาง

    สิงห์เผลอเขม้นมองหน้านาง อย่างชายมองหญิง แม่อินเป็นเด็กสาวมิเคยชาย ก็รู้สึก
    ประหม่านัก จนขันโตกที่มีข้าวแลกับในมือเริ่มสั่น สิงห์เอื้อมมือจะไปช่วยรับ แต่ยังมิทัน
    ได้สัมผัสมือนาง หูสิงห์ก็แทบดับ เพราะเสียงพระอนุชา
    "เฮ้ย"
    สิงห์ให้งงนัก แต่เป็นพระอนุชาที่เอื้อมมือมารับขันโตกนั้นแทน เพราะอยู่ด้านหน้าสิงห์
    พระพักตร์พระอนุชาดูบึ้งตึงนัก ยังตรัสต่อไปว่า

    "แม่อิน ตัวเล็กเพียงนี้ จักยกให้หนักเกินตนทำไม ไปเสีย ไปจัดห้องหับให้พี่"
    แล้วก็ปรายตามองสิงห์อย่างเป็นนัย บางอย่าง

    สิงห์สบตาเจ้าหอหน้า ที่มีแววขัน ก้มลงมองอาหารในขันโตกของตน เห็นเป็นเพียงข้าวต้มและปลาทอด
    แล้วก็มียาต้มกลิ่นฉุนในด้วยดินเผาเล็กๆ บ่าวหญิงอีกคนยกขันเล็กๆ ลอยดอกมะลิมาให้เป็นน้ำตื่ม
    สิงห์เก็บความสงสัยในใจ รีบกลืนข้าวต้มร้อนๆลงคอ แต่ก็แอบคิดว่า ใยพระอนุชา ถึงริเอาหญิงรุ่นเยาว์เช่นนี้ เป็นนางใน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2016
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จนมื้ออาหารนั้นสิ้นสุดลง สิงห์ดื่มยากลิ่นฉุนเข้าไปให้ฉุนและร้อนในตนนัก
    แต่เจ้าหอหน้าและพระอนุชากลับไม่เสด็จเข้าห้องบรรทมของแต่ละพระองค์

    เจ้าหอหน้าทรงประทับนั่งบนตั่ง บ่าวไพร่เก็บถ้วยชามจนสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว
    ทรงโบกพระหัตถ์เป็นเชิงไล่ พวกบ่าวไพร่ก้มกราบแล้วก็ลงเรือนกันไปสิ้น

    ยาออกฤทธิ์ จนสิงห์ร้อนไปหมด เหงื่อไหลไปทั้งร่าง แอบเหลือบมองทั้งสองพระองค์
    ก็ยังนั่งกันเงียบๆ สิงห์จึงอดรนทนไม่ได้ ค่อยๆ สัปหงกหลับไป แทบพระบาทพระอนุชาที่นั่งบนตั่งฝั่งตน
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขณะนั่งสัปหงก ก็แอบคิดในใจว่า เจ้าพี่ทั้งสองไม่ทรงรู้จักเหน็ดเหนื่อยกันบ้างเลย
    หรือไร ได้ยินพระสุรเสียงของสองพระองค์ตรัสเบาๆ
    "สิงห์ เจ้ามาที่บ้านนี้ เจ้าจักมาทำเจ้าชู้ไก่แจ้มิได้อีก เรื่องความผิดเรื่องรักใคร่
    ของเจ้ายังมิทันพ้นผิด โทษยังมิได้ชำระ ความวัวไม่ทันหายความควายก็มาแทรก
    คงไม่งามนัก"

    สิงห์สะดุ้งขึ้นมาทันใด เลยกราบทูลไปตามที่คิด มิได้กลั่นกรอง
    หรือประดิษฐ์ถ้อยคำใดอีก

    "อันตัวข้าน้อยมิชอบสาวรุ่นเช่นแม่หนูอิน ยังเด็กนักเจ้าพี่ หากโตกว่านี้ซักสองสามปี
    คงงามนัก เหมือนช้างเผือกที่เกิดในป่าทีเดียว แต่กระไรเสียนางก็เป็นนางใน
    ของเจ้าพี่แล้ว ไอ้สิงห์ยิ่งมิกล้า กลัวอาญานัก ว่าแต่ที่นี่เรือนของผู้ใด ใยจึงใหญ่โต
    ราวกับคุ้ม แลบ่าวไพร่ก็กำยำดั่งนักรบ บ่าวหญิงก็สงบเสงี่ยมราวกับชาววัง"

    สองพระองค์สบตากัน ให้ชื่มชนปนหมั่นไส้ ไอ้ขุนสิงห์นัก เจ้าหอหน้าจึงตรัสว่า

    "นับว่าสายตายังดี ที่นี่เป็นเรือนพระราชทาน บ่าวไพร่ที่เรือนนี้ล้วนแต่ได้ฝึกฝน
    จากทหารและคุณท้าวในวังอโยธยา ส่วนเจ้าของเรือนเป็นใคร เจ้าคงต้องถามพระอนุชา"

    หางเสียงของเจ้าหอหน้าฟังแปลกหูนัก แลเป็นปริศนาในใจสิงห์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2016
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พระอนุชา ผู้มีใบหน้างดงามนัก ปรายตามองสิงห์ ใบหน้าดูเรียบเฉยติดจะบึ้ง

    " แม่หนูอิน ยังไม่ได้เป็นนางในของผู้ใดทั้งสิ้น เจ้าอย่าพูดไม่งาม
    เรือนนี้พี่พระราชทานให้กับผู้มีพระคุณ ที่ช่วยชีวิตพี่ไว้ เมื่อพี่แล่นเรือชมเมือง
    มาถึงแขวงบ้านนี้ เกิดฝนลมหอบใหญ่ คลื่นลมแรง จนต้นมะพร้าวล้ม
    มาข้างเรือพระที่ ครานั้นเจ้าพี่ไม่ได้เสด็จ พี่และทหารองครักษ์ สละเรือ
    ว่ายน้ำเอาตัวรอด ท่ามกลางสายน้ำเชี่ยวกราก มีเด็กหญิงหัวจุกคนหนึ่งตะโกนเรียกแล้ว
    วิ่งไม่คิดชีวิตไปตามชายฝั่งไกลๆ ตามพวกพี่ไปตามโค้งน้ำ จนพวกเราหาที่ขึ้นฝั่งได้
    แต่ก็ไม่มีเรียวแรงจะไปไหนได้อีก ได้แต่นอนตากฝนหนาวสั่น ขาพี่ก็โดนกิ่งไม้ทิ่มแทง
    ก็ได้แม่หนูอิน วิ่งตากฟ้าฝน ไปตามชายชาวบ้านแถบนี้ มาลากพี่และผู้ติดตาม ไปรักษา"
     
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์นั่งฟังเจ้าพี่องค์เล็กพูด แล้วอดยิ้มมิได้ แต่กลับได้เห็นพระอนุชาหน้าบึ้งกว่าเดิม

    " จากนั้นพี่ก็พักอยู่ที่แขวงนี้ เสียหลายวัน รักษาแผล มิได้แพร่งพรายว่าเป็นผู้ใด
    ด้วยตอนนั้น พี่มาสืบข่าว แต่ชาวบ้านทั้งหลาย ก็สงสัย บางคนก็มิกล้าช่วย มิกล้า
    รับพวกเราไปรักษาตัวที่เรือน พวกเราจึงขออาศัยเรือนของแม่หนูอิน ซึ่งอยู่กับตาแก่ๆ
    เพียงสองคน ได้ความว่า พ่อแม่ของแม่หนูอิน ก็เรือล่มตายไปจนสิ้น ระหว่างนั้น
    แม่หนูอิน ก็คอยต้มยา หุงหาข้าวให้พวกพี่ได้กิน โดยไม่สนใจว่าจะมีเภทภัยหรือไม่
    พี่นั้นนึกนิยมน้ำใจของตาหลานคู่นี้นัก และคิดว่าจะประทานรางวัลตอบแทนอย่างงาม"

    "จนล่วงมาหลายวัน พวกทหารองครักษ์ก็ติดตามมาจนพบ พี่จึงได้กลับเข้าวังอโยธยา
    เพื่อทำภารกิจให้ลุล่วง และได้ให้สัญญาว่าจะตอบแทนเป็นเงินทองให้กับตาของหนูอิน
    แต่ตาเฒ่ากลับไม่รับน้ำใจใดๆ เป็นคนซื่อตรงนัก"

    "ตัวพี่วุ่นวายอยู่ในวังเสียหลายเพลา ล่วงไปนานจึงได้ล่องเรือไปตามหาแม่หนูน้อยกับ
    ตาเฒ่า แต่ก็ไม่พบใครที่เรือนหลังเล็กนั้น จนตามไปสืบข่าวได้ความว่า ตาเฒ่านั้นตาย
    เสียแล้ว ส่วนแม่หนูอินก็ไปรับจ้างเป็นบ่าวในเรือนแลกข้าว กว่าจะสืบจะตามพบก็เสียเวลา
    ไปพบแม่หนูอินผอมแห้งแรงน้อย นอนคลุกดินคลุกทรายใต้ถุนบ้าน ดูสกปรกมอมแมมนัก"
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์อดสงสัยไม่ได้ จึงเอ่ยถาม อาการไข้หายเป็นปลิดทิ้ง

    "เช่นนั้น ใยมิรับตัวเข้าวังไปเสีย หรือจะพระราชทานให้เหล่าท่านขุนทั้งหลาย"

    ครานี้ เป็นเจ้าหอหน้าที่ตอบแทน

    "เอ๊ะ อ้ายนี้ ยังไงกัน ฟังความแล้วไม่แจ้งใจหรือ เพลานี้ยังไม่ได้ถวายตัวเป็นนางใน
    แต่ก็มิได้หมายว่า จักมิได้ถวายตัว"

    พระพักตร์พระอนุชายิ่งเรียบเฉยเข้าไปอีก แล้วตรัสตอบสิงห์ว่า

    "คนซื่ออย่างแม่หนูอิน คงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของหญิงมากมารยาในวังหลวง
    พี่จึงได้มาปลูกเรือนเหล่านี้ แล้วส่งคนในวังหลวงจัดหาบ่าวไพร่ มาดูแลคุ้มครอง
    แม่หนูอิน ตอนที่พี่พบแม่หนูอินนอนป่วยที่ใต้ถุนเรือน แม่หนูอินเห็นหน้าพี่แล้ว
    ก็ร้องเรียกว่า พ่อเทวดากลับมาตามสัญญาแล้ว พี่ให้สะท้อนใจนัก จึงจะนำตัวนาง
    ไปรักษาที่วังหลวง กลายเป็นว่าหนูอินมิยอมไป แม่หนูจะทำงานจนตายเพื่อรักษา
    ที่ดินแลบ้านหลังน้อยอันเป็นของตาที่เสียไป ข้าจึงจัดการดังที่เจ้าเห็น

    ส่วนเรื่องที่จักให้ข้าประทานแม่หนูอินให้ขุน จักได้เป็นเมียขุนนางนั้น ก็ยังมิพบใคร
    สมใจข้าซักคน แลสิ่งที่ข้าประทานให้แม่หนูอิน มากมายกว่าได้เป็นเมียพระยาเสียอีก"
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์แอบแลไปทางเจ้าพี่องค์ใหญ่ ทรงรู้ใจสิงห์ ได้ประทานเล่าเรื่องราวต่อ

    "เจ้าน่าจะได้เห็นแม่หนูอินของพระอนุชา เมื่อยังมิได้ตัดจุก เป็นเด็กกระดำกระด่าง
    ตัวผอมเก้งก้าง กิริยา ก็กระโดกกระเดกดังม้าดีดกระโหลก สามวันดีสี่วันไข้
    อันของบำรุงอันมีค่า ที่พี่ได้มาจากบรรณาการ มาอยู่ที่เรือนนี้เสียสิ้น
    เจ้ามิเห็นหรือว่า แม่หนูอิน ดูมีน้ำมีนวล ละออตา ดั่งเช่นทุกวันนี้ เพราะการนี้แล

    อันพระอนุชาก็ไม่เคยขอสิ่งใดจากพี่ เมื่อเอ่ยปากขอเรือนหมู่ เพื่อดูแลเด็กหัวจุกเพียง
    คน พี่ก็ว่ามากมายนัก แต่ก็มิอยากขัด แต่ผลก็เป็นอันชื่นใจอยู่ พี่มิใช่คนใจเย็นจะปลูก
    ไม้เพื่อชื่นชมดอก พี่นั้นมีดอกไม้ทั้งอุทยาน แต่มาเห็นการที่พระอนุชาได้ทำครานี้
    ก็ให้เห็นว่า การลงมือปลูกแลบำรุงต้นไม้แคระเกร็น ให้ออกดอกงดงาม แม้ตอนนี้เป็น
    เพียงดอกตูม ก็น่าอิ่มใจอยู่ แลพวกแมลงภู่เช่นเจ้า คงมิได้เชยชมดอก ไอ้สิงห์เอ๋ย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2016
  19. เหมยอี้เฟย

    เหมยอี้เฟย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    สวัสดีค่าพี่จารุ น้องเม่เองนะค้ามาตามอ่านเรื่องของสิงห์สนุกมากค่ะ
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทำบุญกฐินและถวายตู้พร้อมพระไตรปิฎก 3 วัดค่ะ
    รายได้ส่วนหนึ่งจากการดูดวง สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...