ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

เมื่อวันที่ ๙ ที่ผ่านมา ยังไปเห่าหอนแถวๆหน้า ๗๐ จน จขกท.เขาหมดอารมณ์ เลิกโพสต์ วันนี้ดันมาทำปากดี บอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องซะงั้น...ไม่ไหวจริงๆ..
สงสัยคงต้องหันมากัดไอ้คุณวรณ์นิ แทน จขกท.ซะละมั้ง..

 

ผมไม่ได้กวน ผมแค่ทำในสิ่งที่คุณ ทำไม่ได้ ต่างหาก

 

น่าจะเห็นใจกันบ้าง ชิพบางคนหลวม บางคนชืพช๊อต

 

เห็นมั้ย สุดท้าย พวกคุณ ก็เล่นท่าไม้ตาย รุมสะกรำ คนคนเดียว...เหมือนที่เคย

คนหมู่...ไง ที่แท้ก็พวกเดียวกัน หมู่เดียวกัน...

ถึงจะอ้างว่าตน เป็นแก๊งส์รักษาความถูกต้อง ก็เถอะ...ผมไม่ขัดหรอก ถ้าเป็นการกำจัด คนชั่วๆ ได้จริงๆ...แต่ผมมี ข้อควรทำ อย่างนึงก็คือ ต้องรักษาก่อน ถ้าแก้ไขให้เป็นคนดีไม่ได้ ถึงค่อยจัดการ....ไม่ไช่ เอะอะ อะไร ก็ จัดการๆ

 

ทุกชิป...ล้วนคือสมมุติ ทำลายได้...น่า
:boo:

มีฝีมือกันแค่นี้เอง หรอกหรือไง กลัวมันมากรึไง ต่างดาวน่ะ

 

ใครผู้รักษาความถูกต้อง
ต่างคนต่างแสดงออกตามมานะของตน
ที่บังเอิญตรงกันก็มีต่างกันก็มี
ไม่ใช่หมาหมู่อย่างที่อยากจะพูดแต่เบี่ยงไว้นิดหน่อย

 

เห็นมั้ยล่ะ สุดท้ายก็ยอมรับว่า ทำตาม มานะทิฐิ ของกลุ่มตน..เพื่ออะไร..ขอเดา เพื่อรักษาในสิ่งที่กลุ่มตนเอง เชื่อถือ หลงเชื่อถือ นั่นเอง...คิดว่า ทำดี ทำถูก...ไช่มั้ยล่ะ..เพื่อใครล่ะ เพื่อพระพุทธเจ้าเหรอ หรือเพื่อ พระธรรม....

หรือเพื่อ กลุ่มของตนเอง

 

แล้วคิดหรือว่า ดอกไม้น้ำแข็ง เขาก็ทำเพราะมานะทิฐิของตน เหมือนพวกคุณ

แล้วคิดเหรอ ว่า ผมก็ทำไปด้วยมานะทิฐิ เหมือนพวกคุณ...เคยบอกแล้วไงว่า อย่ามโน ไปเอง

 

ยุคพระศรี.....เขาเลือกกำจัด คนต่อต้าน งั้นหรือ....มันต้องให้กรรมของเขากำจัดเขาเอง ด้วยชอบธรรม ถึงจะถูก ไปตัดสินคนอื่น ไม่ได้..ทุกคนต้องตัดสินตนเอง

เลิกเถอะ...คนหมู่เนี่ย

 

ถ้าเข้าใจ ว่า ต่างคนต่างแสดงออก ก็อย่าละเมิด สิทธิของคนอื่นดิ

อย่างดอกไม้น้ำแข็ง เขาก็ไม่เคย บอกให้ใครมาเชื่อ..หรือกลัวแค่คำขู่ ที่เขาว่า ใครไม่เขื่อก็พินาศ...ที่จะขู่ได้ ก็มีแค่ ความจริงเท่านั้น ที่ใครไม่เชื่อ ไม่ยอมรับ จึงพินาศ

ก็มีเท่านี้....เอง ความจริง

 

ไม่ใช่เพื่อใคร โดยใคร
สิ่งที่แต่ละคนเชื่อถือ ก็ไม่ได้เลาร้ายหรือดีไปทั้งหมด
และแสดงออกมานั้นแล้วแต่มานะ ไม่ได้กล่าว
เลยไปถึงทิฏฐิ

    มานะ คือ ความสำคัญตน สำคัญกว่าดีกว่าเขา เสมอเขา ต่ำกว่าเขา
 ขณะที่
เปรียบเทียบมีการสำคัญตนเช่นนี้
ขณะนั้น มีมานะเจตสิกทีเกิดกับโลภะมูลจิต
แค่นี้เอง

 

ถ้าไม่มีการเปรียบเกิดขึ้นเรื่องราว
ใครผิดใครถูกก็ไม่มีการยกเอามาโต้กัน
ต่างคนต่างอยู่โดยสันติ

 

เอาแล้วล่ะสิ รู้สึกเหมือนเป็นคนใจแคบยังไงไม่รู้ หรืออาจจะคิดไปเอง
หวังว่า คุณวรณ์นิ คงไม่ลากผมเข้าไปร่วมวงด้วยล่ะ ผมไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งนั้น จะมาดี มาร้าย ผมคุยได้หมด
แต่ถ้าออกแนวหลบหลู่ในสิ่งที่ผมเชื่อผมศรัทธา ผมก็ต้องออกมาปกป้องบ้าง นิดๆหน่อยๆ น่าจะพอทำได้นะครับ
-------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่อง เครื่องรางของขลัง อันนั้น มันห่างจากพุทธ ไปไกลโข
ผมไม่มีความจำเป็นต้องไปเกี่ยวข้องด้วย เหมือนอยู่กันคนละโลก
หยาบๆแบบนั้น ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำ ตัดสินง่าย รู้ไม่ยาก
-------------------------------------------------------------

 

ผมโพสต์เท่าที่จำเป็นจริงๆ ไม่ได้พร่ำเพรื่ออะไร
ทุกความเห็น ผมทำด้วยความมีสติ ไม่ได้เอามันส์
แต่ถ้าไปทำให้ ใครไม่พอใจ ก็ต้องขออภัยด้วย
ไม่ได้ต้องการเอาหน้า หรือสร้างภาพใดๆ
ไปละครับ ขอไปอยู่ ที่ชอบๆ ครับ อิอิ...

 

คือแบบนี้ แนวของผมคือ...ใครที่ บิดเบือนคำสอน โดยเอาความคิดของตนเข้าเจือปน แล้วเอามาโพสมาแสดง โดยเจตนาชี้นำให้คนอื่นเชื่อตาม(แพร่ความไม่จริง) ถ้ามีแบบนี้ เราก็ทำได้แค้บอกกับเขา เตือนเขาว่า ..เดินทางเข้าหานรกแล้วนะ

ทำไมเดี๋ยวนี้ ผมไม่ต้องไปกัดเขาหรือ ก่อกวนเขา..นั่นเพราะคนพวกนี้ นรกจะไปหาเขาเอง อย่างเดลิเวอร์รี่....และทุกวันนี้ ใครที่หลงผิด สอนผิด จะโดนกรรมลงโทษ ก่อนใครๆ

ดังนั้น เมื่อเตือนคือเตือนแล้ว ถ้าเขาไม่กลับเนื้อกลับตัว..ก็ปล่อยไปตามกฏแห่งกรรม แต่ถ้าสะกิดเขาแล้ว เขารับฟัง และเอาไปคิด เราต้องให้โอกาสแก่เขาต่อไป

การให้โอกาสแก่คนอื่น คือการให้โอกาสแก่ตนเอง(โดยที่เมื่อถึงคราเรา จะได้ไม่ถึงทางตันเหมือนที่เราเคยทำกับผู้อื่นเอาไว้นั่นเอง)

 

และอีกอย่างนึง พวกคุณ ทำเหมือนกับว่า..มาอ้างว่า เพราะเห็นผม ไปก่อกวนเขา แล้วพวกคุณเห็นว่า เขาไม่ดี ผมเลยเล่นงานเขา...ทำไม มโนไปแบบนั้นล่ะครับ

ผมไม่ได้ก่อกวน แต่ผมช่วยในแบบของผม..ต่างหาก...เนี่ยที่ผมบอกพวกคุณว่า อย่ามโนไปเอง ไม่เข้าใจก็อย่า มาคิดเอาเอง ว่าผม เล่นงานเขา

เรื่อง จิต เรื่องใจ ถ้าไม่เข้าใจ...เบื้องลึกเบื้องหลัง...มันทำกรรม มั่วๆไม่ได้นะครับ

อย่างท่านดอกไม้เย็น นี่ เขาไม่ไช่คนที่เขียนโพส เพราะความคิดของเขาเสียเมื่อไร เขาโพสตามจิตที่สื่อมา อีกทีนึง เหมือนสมัย สันโดษเคยเป็น มันแค่ หนุมารส่งสาร เท่านั้น

ดังนั้น จะเห็นว่า มันไม่ไช่ ความคิดของท่านดอกไม้เย็น แต่มันผ่านมาจากภูมิอื่น ต่างหาก

ถามว่า ภูมิที่ว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ นั่นเพราะ ภูมิอื่นอาจอยาก แก้ไขตนเอง อยากให้คนช่วย หรืออยากสร้างบุญกุศล หรืออยาก ส่งข้อความนี้ ถึง ใครบางคน บางกลุ่ม

ดังนั้น ผมขอร้องว่า อย่าได้ ขวางทางที่คนอื่น เขาพยายามส่งสาร มา
นั่นเพราะ กว่าจะเลือก ผ่านจิต คนที่ รับรู้ได้ มันไม่ง่ายเลย

ขอเตือนว่า อย่าปิดทางคนที่เขา เดือดร้อนเลย ..มันอาจเป็นกรรมที่จะเกิดกับตนเองได้ เมื่อเวลาที่ตนเองเดือดร้อนแล้ว บอกให้ใครรผุ้ไม่ได้...อิอิ

 

อีกอย่าง ทุกคนมีสิ่งที่สมควรรู้ และสิ่งที่ไม่สมควรรู้..อยากบอกคนอื่น ให้เขาเข้าใจ เหมือนที่ตนเองเคยโดนมา...มันจำเป็นต้อง บอกออกมา เพื่อจะได้ ไม่ค้างคาใจตนเองคนเดียว หรือจะได้ไม่ต้องแบก ความรู้นั้น เอาไว้คนเดียวเป็นภาระ บ่วง ผูกตนเอง ...การระบายออก เป็นวิธีนึง ที่ทำได้ ไม่เจาะจงที่ใคร ใครมาอ่าน มีบุญกรรมสัมพัน จึงจะ เอ๊ะ ขึ้นมาเอง

ดังนั้น ควร ดูอยู่ห่างๆ แล้วช่วยเมื่อควรช่วย...ครับ

 

ที่ผมกด ไม่เห็นด้วย เพราะ
คุณบ่นยาวไปน่ะครับ ไม่ยอมจบซักที

 

ผมไปจริงๆแล้วนะ
ขออภัย ท่านดอกไม้ ด้วยครับ

 

สมัยที่สันโดษมีอาการ แบบนี้ ก็พากันเข้าไปแซว ว่า ออกนอกลู่ทาง..แต่ความจริง มันเป็นจิตภูมิอื่น สื่อสารมา...แค่ว่า คนสื่อเขากล้า เปิดเผยตามจริงมั้ย อาจกลัวพวกที่ไม่เข้าใจ รุมด่า รุมประนาม กันอย่างสนุกสนาน สร้างกรรมกันโดยทั่วหน้า...

ยุคนี้ ยัคเทพเทวดา รักษาพระศาสนา..หัด ทำความเข้าใจเรื่อง เทพเทวดา กันมั่งสิ

ถ้าคิดว่าตนเองเก่ง ก็ ไปท้า รบกับเทพทั้งหลาย ที่ตั้งศาลกันทั่วบ้านทั่งเมือง ลองดูสิ

พระพรหมสี่หน้า พระนารายณ์ พระพิคเนตร พระอินทร์ ก็...กล้าทำมั้ย

คือ ถ้าช่วยพวกเขาไม่ได้ แก้ไขเขาไม่ได้ ไม่เข้าใจ ก็หัดปล่อยผ่านมั่งเถอะ
นี่เป็นกรรมโดยรวม ของเหล่าเทพ เขา