เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา!

OKI ขอบคุณสำหรับข้อมูล

 

ภาษิตอิสานบอกว่า สมภารพ้อกันอ้างภูมิธรรม อ้างปัญญา หมาพ้อกันอ้างแข่ว อ้างขู่ หมายความถึงคนบางคนชอบอวดอ้างว่าตนมีความรู้ความเก่งมากกว่าคนอื่น จึงอวดโอ่เพื่อข่มคนอื่นให้ด้อยกว่าตน เฉกเช่าหมาส่งเสียงขู่ แยกเขี้ยวให้อีกตัวได้กลัว
ตามหลักจิตวิทยา อธิบายได้ว่าบุคคลดังกล่าวนั้นมีปมด้อย ไม่เป็นที่ถูกยอมรับจากสังคมรอบๆเขา ดังนั้น จึงเป็นธรรมชาติที่บุคคลนั้นใช้กลไกทางจิตอันซับซ้อนชดเชยความด้อยของตน

 

ลุงจร (คุนวรณ์นิ) แกป่วยเบาหวานค่ะ น่าจะเปนหนัก หายไปนานแล้วค่ะ นู๋ก้ไม่เหนนานละ ชอบสไตล์การพูดแก ฮาดี

 

เบาหวานค่ะคุนลุง แกก้บอกเองว่าแกเปน คนมาประกาศตามหาก้บอกว่าแกป่วยเบาหวานลงขาด้วยค่ะ ส่วนจะแรงแค่ไหนสุดจะเดา แต่วีรกรรมบาปแกก้เยอะ ก้หวังว่าคงจะหายเร็วๆและอย่าเปนมากค่ะ

 

สำเนียง ส่อ ภาษา กิริยา ส่อ สกุล คำพังเพยไทย คือ คนเรา จะเผยตัวตนเสมอ อย่าไปสืบค้นหาเลย ไม่มีใครปิดตัวตนความเป้นตัวตนได้ดอก อ่านๆไป ดูๆไป ท้ายที่สุดก็พิจารณากันเอาเอง
หลายๆคน หลายๆบุคคลที่วนเวียนอยู่ นานนับๆๆปีๆ นับๆๆไอดี สุดท้าย บุคลิกภาพ ลักษณะ มันก้แสดงตัวตนออกมาเอง อยู่ที่คน พิจารณา มากกว่า คิดเสียว่า เวป นี้ คือ นิทาน อีสป ที่ให้คสามบันเทิง และ คติสอนใจ

 

ลุงซีเรียสหรอ ซีเรียสคำไหน สำเนียงส่อภาษากริยาส่อสกุลหรอ 55 คำนี้ใช้วัดคนไม่ได้ ยิ่งบนเน็ตยิ่งไม่ได้ใหญ่ ขออนุญาตยก ตย ลป เจี๊ยในสังคมจิง ท่านพูดภาษาพ่อขุน แต่จิตใจท่านเหมือนภาษาพ่อขุนมั้ย (ขออนุญาต ลป นะคะ) คนแต่งตัวดีพูดจาดี แต่เปนมิจฉาชีพไปหลอกคนอื่น สวนทางไหม บนเน็ตไม่ต้องพุดถึง บางคนเสแสร้งพูดดีนานๆๆๆปี หว่านล้อมโน่นนี่ พอนัดเจอหลอกหมดเนื้อหมดตัว บางคนหยาบมีแต่ความจิงใจ เปนคนค่อนข้างดีแบบนึกไม่ถึง

ลุงกะนู๋ก้สภาพเดียวกัน เตือนดีๆ กลับโดนด่า เลยยาว

 

หวัดดี " งูน้อย " ฮิวววววววส์

จุ๊กกรู้ !!!

 

โมหะ

นี้มันน่ากลัวจริงๆๆๆ. ปฏิบัติ เพื่อไขว่ขว้าสุดยอดอภิญญา แต่ไม่พ้นกับดักมาร น่ากลัวจัง

หนูมล ถือศีลแปดไม่รอดค่ะ เพราะหนาววววววมาก นอนพื้น ได้ สามวัน วันที่สี่ เดี้ยงกลัวไปสวรรค์เร็วมั้ง
เลยเอาใหม่ขอ ศีลห้า รักษาสภาวะมนุษย์ กิน ขี้ ปี้นอน ก่อน

คือ เป็นคนซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเองอะค่ะ

จะกามก็บ้ากาม
จะธรรม ก็ฝักใฝ่ธรรม
จะดี ก็ดี
จะมาร ก็เป็นมารไปเลย

หนูมลแค่แสดงความเห็นว่า ถ้าเรามาเล่นเนต
แต่เราเป็นเพศสมณะ ยิ่งไม่สมควร ที่เล่นเวบเพื่อ
สนองตัญหา ในโมหะจริตของตนน่ะค่ะ

คนดีไม่ใช่แค่เครื่องแบบ
คนดีไม่ใช่แค่ข้อความ
คนดีไม่ใช่แค่ ก้อปปี้ แอนด์เพส

คนไม่ดีอาจตะมาในรูปแบบคนดีก็ได้ค่ะ

เขียนเล่นๆ เพราะบอกแล้วว่า เป็นคน ร้าย สาระ

ขอให้มึความสุขทุกท่านค่ะ ...

 

มีเสียงหนับหนุน เปลี่ยนชื่อกะตู๊เป็น เตรียมตัวให้พร้อม....กำลังมัน.

 

เอิ่ม

แล้ว อันที่จริง กระทู้ นางแก้ว หรือ บุพเพสันนิวาสอะไรนี้ ไม่ใช่ กระทู้หาสามีเน้อ ไม่ใช่กระทู้เพิ่มกำหนัดเน้อ ตายๆๆๆๆๆ

อย่างน้อย ก็มะช่าย ตั้งกระทู้รอ (ผู้) ไปตอบเรียกคะแนนหรอกน่า 5555. (แม้จะมี ผู้ และมี แฟนคลับแฟนเก่า มาตามให้กวนประสาทข้าพเจ้า ก็ยังต้องดูยาวๆว่า
ระหว่างเพชร กับกรวด (ผู้) นั้นชอบสิ่งใด)

มีบางท่านปากไม่ตรงกะไต เอ่ยใจ
เอ้า ถ้า ใจตรง ปากตรง กระทำตรง
ก๋ไม่ต้องกลัวอันใด

จิตรจักรวาลนี้ อบรม ในตปท หลายเงิน
เขาเอาศาสนาไป รีมิก มั่วมากค่ะ !!!!

บารมี 10 ทัศน์ ไม่ทำ ไม่ได้ค่ะ ต้องมีประกอบกันทุกข้อนะจ้ะ เดินไปด้วยกัน มรรคมีองค์ ๘

ความเห็นอาจจะ ไม่ตรงใจ

แค่ นากามณี ปรากฏตัว ยั่วให้ สนิม มันกร่อนเท่านั้น
ก็ ชั้น รู้สิยะ ว่าใคร ล่า ชั้นอยู่ 55555

 

ตนเองได้มาพิจารณาดูแล้วค่ะ สิ่งที่ท่านกล่าวมา ว่ากล่าวเกินจริงไปจึงลบคำว่า "อำมหิต" จึงนำข้อความนั้นออกไปแล้วค่ะ

 

ขออภัยค่ะ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมคงต้องคงไว้

 

โชคดีค่ะลุง เดินทางปลอดภัย 55
แนะนำว่าอย่าลบ นู๋อยากให้ลุงเปนพระเอกที่มีส่วนเพิ่มยอดขายให้ กท. ขนาดคนหลายห้องยังมาดู

 

มนุษย์ยังไม่รู้ว่า ทุกคนมีคำต้องมีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้นที่จะสั่นสะเทือนตนเองตอบสนองการแสดงออกหรือการกระทำด้านลบใด ๆ ของผู้อื่นได้ นั่นคือคลื่นสั่นสะเทือนด้าน "ความรัก" เพื่อพิทักษ์รักษาความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างตนเองกับผู้อื่นนั้นเอาไว้

มนุษย์ไม่ล่วงรู้ความจริงข้อนี้เข้า มนุษย์จะสอบตกบทเรียน นั่นคือ มนุษย์จะกระทำการใด ๆ เพื่อต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน หรือหลบเลี่ยง ตัวตนของผู้สร้างเงื่อนไขด้านลบให้ตนเสมอ ชนิดแรงมาก็แรงไป แต่ถ้าดีมาก็ดีไป

อันที่จริงแล้ว เราควรขอบคุณผู้อื่นที่ช่วยสร้างเงื่อนไขด้านลบให้เราอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชเพื่อช่วยเหลือเราให้เข้าถึงแรงสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกด้านบวกสูงสุดให้จงได้ หากไม่มีเขาเราก็คงไม่อาจสั่นสะเทือนอารมณ์รู้สึกด้านบวก เพื่อสั่นสะเทือนจิตสำนึกตนเองด้านบวกในอันที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ได้

ถ้ามนุษย์โลกไม่มองเห็นความจริงที่จริงแท้ดังกล่าวนี้ การต่อสู้ ตอบโต้ และต่อต้านผู้อื่นอันเป็นพฤติกรรมของการเป็นศรัตรูกันก็จะบังเกิดขึ้น แทนคำขอบคุณในการช่วยเหลือจากการที่เขาได้หยิบยื่นเงื่อนไขด้านลบมาให้เพื่อเป็นบทสอบจิตสำนีกด้านบวกของเรานั่นเอง หมายความว่า ถ้าเขาหยิบยื่นเงื่อนไขด้านลบมาให้ ด้วยการแสดงออกหรือกระทำด้านลบใด ๆ ต่อตัวเราแล้ว เราสามารถที่จะสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกของเราเป็นความอดทน อดกลั้น และให้อภัยเขาได้มากน้อยเพียงใด หรือไม่! อย่างไร?เป็นต้น

นี่คือบทละครในพันธัสัญญา ซึ่งเป็น "หน้าที่" ที่มนุษย์แต่ละคนจะต้องรับผิดชอบด้วยการแสดงมันให้สมบทบาทที่สุด ทั้งฝ่ายผู้สร้างเงื่อนไขด้านลบ คือ ตัวเขาและผู้รับเงื่อนไขที่จะต้องสั่นสะเทือนจิตสำนึกเป็นด้านบวกอย่างเดียว คือ ตัวเรา

ดังนั้น จงอย่ามองผู้อื่นที่หยิบยื่นเงื่อนไขด้านลบให้เราด้วยการกระทำผิดคิดชั่วต่อตัวเราว่าพวกเขา คือ ผู้ร้าย แต่จงคิดให้ได้ว่า

๑.ที่เขากำลังแสดงบทละครร้ายต่อเราในชีวิตจริงอยู่นั้น เพราะเขากำลังช่วยเหลือเราโดยยอมที่จะเอาตัวเขาเองเป็นเงื่อนไขด้านลบ เพื่อให้เราใช้เงื่อนไขด้านลบนั้นสร้างแรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกด้านบวกขึ้นมาได้ต่างหาก

๒.ที่เขากำลังแสดงออกหรือกระทำไม่ถูกต้องต่อตัวเราอยู่นั้น เพราะเขากำลังช่วยเหลือเราให้เกิดการเรียนรู้ "บทเรียนโลก" ด้านลบ โดยมีเขาเป็นตัวอย่างหรือเป็น "ครู" ของเรานั่นเอง

๓.ที่เขากำลังแสดงออกหรือกระทำไม่ถูกต้องต่อตัวเราอยู่นั้น อาจเป็นเพราะตับวเขาเองก็กำลัง "สอบตก" ในบททดสอบบางบท โดยอาจมีตัวเราเป็นเงื่อนไขด้านลบอย่างใดอย่างหนึ่งของเขาอยู่ก็ได้

๔.จงอย่าพิจารณาที่ตัวตนของเขากับพฤติกรรมการกระทำด้านลบของเขาเท่านั้น เพราะนั่นเท่ากับว่าเรากำลังมองโลกแค่เพียงด้านเดียวหรือมิติเดียว คือ มิติมายาทางกายภาพของโลกเท่านั้น แต่เนื่องจากว่ามนุษย์เป็นคนสองมิติ เราจึงต้องมองผู้อื่นในมิติแก่นแท้ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกับมิติโลกทางกายภาพควบคู่กันไปด้วย เพราะการทำผิดคิดผิดที่เขากระทำต่อเรานั้นอาจเป็นไปได้ว่า เขากำลังทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณของเขา เพื่อเป็นเงื่อนไขบททดสอบจิตสำนึกให้กับเราอยู่ก็ได้ หากเป็นเช่นนี้จริงเขาย่อมเป็นผู้ดีมิใช่ผู้ร้ายและเขาย่อมเป็นผู้มีพระคุณที่เป็นส่งบททดสอบให้

ถ้ามนุษย์มีสำนึกในสี่ประการนี้ได้ การต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน หรือหลีกเลี่ยงย่อมไม่มี

ถ้ามนุษย์มีสำนึกในสี่ประการนี้ได้ การไม่ถือโทษโกรธแค้นหรือขุ่นเคืองใจกันย่อมไม่มี

ถ้ามนุษย์มีสำนึกในสี่ประการนี้ได้ มนุษย์จะรักและเมตตากันง่ายขึ้น และจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างเหนียวแน่นมั่นคงยิ่งขึ้น

ถ้ามนุษย์มีสำนึกในสี่ประการนี้ได้ โลกทั้งใบจะเปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตา

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นการมองผู้อื่นเพียงด้านเดียว ซึ่งมนุษย์ควรปรับเปลี่ยนความคิดแก้ไขจิตสำนึกของตนเองเสียใหม่ ที่มนุษย์มักเป็นคนสอบตกผ่านบทเรียนแห่งกรรมไม่ได้ เพราะเรื่องดังที่ได้กล่าวถึงนี้เอง

 

ลาที มิใช่ลาก่อน
ใครจะหานิยายเรื่อง..."สาวแดะ เวอจิน-อินโนเซ้นท์ เล่นเมืองยักษ์" มาเขียนบ้างน้า ...รออ่าน
อยากรู้ว่า เสร็จยักษ์รึเปล่านะ...รออ่านนิยาย หนุกๆดีก่า

สำหรับปวีรัศฯนั้น ก็นึกแต่แรกแล้วว่า อาจเป็นนักเล่นม้านะ
---------------------------------------------------------------------

งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข... คนเราถ้าไม่มีผลตอบแทนจะทำให้เหนื่อยเหรอ
และสำหรับในนี้..คนเรา รู้หน้าไม่รู้ใจ และถ้าไม่รู้หน้าด้วยเพราะเห็นกันแค่ตัวหนังสือ ก็เท่ากับไม่รู้ใจยกกำลังสอง ฉะนั้น ใครเป็นตัวชูโรง ใครเป็นพิธีกรเดินเรื่อง ใครเป็นฝ่ายสนับสนุน ใครเป็นฝ่ายโต้แย้ง (แบบแย้งในทีเพื่อให้ดูสมจริง) คงต้องดูต่อไปอีกพักนึง งานระดับลัทธินี่ ไม่มีทางที่จะมาคนเดียวหรอก

 

ผมได้เข้ามาอ่าน ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าครับ เหมือนท่านนารายณ์อาจจะเข้าใจคุณปวีรัศม์ชาว่าเป็นทีมลัทธิบางอย่างมาช่วยกัน

ผมรู้จักคุณปวีรัศม์ชามานานแล้วครับ ขอยืนยันว่าไม่ใช่คนของลัทธิใดๆครับ เป็นพุทธแท้แน่นอน

ส่วนตัวผมก็มีแค่กระทู้ข้างล่างนี้ครับที่เคยตั้งไว้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา คงจะพอยืนยันตัวตนได้บ้าง

https://palungjit.org/threads/ข้อมูลอีกด้านของข่าวพระพุทธรูปอายุ2-600ปีี.279213/

https://palungjit.org/threads/ความลับหนังสือของคุณเอกอิสโร.275748/

 

วั้ย ตกจายยย เตงปวีอาจเปนจิตยิ้ม แล้วมาเนียนเขียนด่ากะตัวเองไปมา ก้ได้นะ ลองคิดดูดิ หักมุมซ้ำซ้อน ดราม่าสุดๆ 55

 

คำสารภาพหรืออย่างไร ก็น่าสงสัยอยู่นะ และก็น่าเสียดายบางเรื่อง คนที่ทำงานลักษณะนี้ จริงอยู่งานคืองาน แต่ก็ต้องแลกด้วยการโป้ปดมดเท็จ แล้วจะเป็นคนในสังคมธรรมได้อย่างไรเนี่ย
และความจริงอีกเรื่องคือ จริงๆแล้วไม่ต้องดราม่าก็ได้ มันอยู่ที่คน

บางเรื่องก็อาจไม่ถึงเวลา แต่ถ้าถึงเวลาก็ระวัง อาจมีแรงกรรมฟอลโล่ทรูกับชีวิตของเรา

เขียนแบบนิทานๆ อย่าเชื่อนะ โชคดี

ปล ถ้าคำสารภาพเป็นจริง...สิ่งที่น่าตกใจคือ ถ้าคนในสังคมธรรมะเป็นอย่างนี้ และฝังตัวอยู่ในองค์กรธรรมะเช่นนี้ แล้วจะทำไง คงอึ้งกิมกี่กันเชียวแหละ

 

55 ขนาดนั้นเลยนะ มโนไปโน่นลุง ขอเหตุผลที่ลุงเข้ามาด่าจิตยิ้มในโพสนี้โหน่ย ตามใครมาเจ้าคะ



ส่วนโพสนั้นนู๋ตอบคุน gnungnun ไม่ได้ตอบลุง เราเปนเพื่อนกันตั้งกะยุคไดโนเสาร์ยังไม่คลอด เราใช้ศัพท์เพื่อนกันที่เข้าใจความหมายที่แท้ทรูกันแบบออโต้


....



ขอบคุน คุน gnungun สำหรับพาสเนอร์อินคาม นะคะ ไม่นึกว่าจะมา เซอร์ไพรส์มั่กๆ ปลื้มจุง 55

 

+++ ไปเอามาจากไหนอีกเนี่ยะ

+++ สอบตกอีก ต้องไป "สอบซ่อม" ใหม่นะ

+++ พลังงานเป็น "นามธรรม" ยกเว้นจะเอามา บันจุ ลงในภาชนะ แล้วจึงเรียกตัว ภาชนะ นั้นว่าเป็น "รูปธรรม"

+++ ตรงนี้ "มั่วเกินเหตุ" ไม่อนุญาตให้สอบซ่อมใหม่ ถือว่า "ชำรุดจนซ่อม ไม่ได้"

+++ ไม่มีอะไรอยู่ "นอกเนื้ออวกาศ" ยกเว้นตั้งแต่ ไกวัลธรรม ขึ้นไป เท่านั้น

+++ อนุภาคคลื่นพลังงาน ที่เคลื่อนที่เร็วกว่าแสง นั้น "เคลื่อนตัวไปใน เนื้ออวกาศ"

+++ ตรงนี้ ถ้าไม่ใช่ CPU หมดสภาพ ก็ต้อง โดนไวรัส เข้ามากินข้อมูลไปแล้ว แน่นอน เละเทะเกินกว่าจะซ่อมได้อีกแล้วนะ

+++ ศูนย์กลางนิวเคลียส มีสนามพลังรอบนอก "ใส ๆ" ตรงนี้ คือ "ไข่คางคก" ที่เป็น "จิตแรกเกิด" มีลักษณะเหมือน ไข่คางคก หรือ เม็ดแมงลักแช่น้ำ

+++ หากเอา กรอบออก หรือ สนามพลัง (คล้ายไข่ขาวดิบ) ออกไป สภาพของความเป็น จิต จะสาปสูญ เหลือแต่ สภาพ วัตถุ ที่ตรง นิวเคลียส นั่นแหละ

+++ ตรงนี้ คือ แหล่งกำเนิด "จิต กับ วัตถุ" หาก โครงสนามพลังแตกดับไป ก็จะเป็น จิตแตกดับ ณ ขณะนั้น ๆ ตรงนิวเคลียส ก็จะกลายเป็น "ละอองธาตุ"

+++ ละอองธาตุ ตรงนี้ คือ สิ่งที่เรียกว่า "อณู" วิ่งเพ่นพ่านไปใน "เนื้ออวกาศ" แบบ ตามยถากรรม ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป จะ รู้/เห็น ได้ใน นิโรธสมาบัติ เท่านั้น

+++ ในนิโรธ จะเห็น ละอองอณู นี้ได้ เมื่อมัน เคลื่อนตัวผ่าน มันจะทิ้ง ระลอกคลื่นไปด้วย เหมือน เรือแหวกน้ำ เมื่อคลื่นน้ำ ชำแรกกระทบ ในบริเวณที่เป็น นิโรธ

+++ จะเกิดอาการ "กระเพื่อมตัว ตกกระทบ" แล้วสนามพลังวังวนแห่ง อารัมนปัจจัยโย จะดึงดูดให้ไป จับเกาะกับ ละอองอณูนี้ จึงเกิด อธิปัตติปัจจัยโย

+++ ตรงนี้ "อัตตา" จึงก่อเกิด ดังนั้น จึงสามารถ "ออกจากนิโรธสมาบัติ" ได้ ไม่งั้น ไม่มีทางที่จะ ถอนจิตกลับสู่ปัจจุบันขณะ ได้เลย

+++ ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็น "แก่นแท้ อัตตา" ต่างหาก

+++ ประโยคนี้ ต้อง format ล้างเครื่องใหม่แล้วนะ เละเทะจริง ๆ

+++ สมมุติ "ผิด" บัญญัติ "เพี้ยน" เพราะ "จักรวาล ไม่มีความเป็น จิต"

+++ นี่แหละหนา "ธรรมะ ที่เอามาจาก ไอ้เตี้ย" มันช่าง "วิปลาส" ไปหมด

+++ อย่าเดินตามรอยมันจะดีที่สุด และ อย่าเดินตามรอยคนที่ สื่อ เอามาจากมันด้วย

+++ จิตที่เดินตามรอย "จิตจักรวาล ฉบับของ ไอ้เตี้ย" นี้ จะมีบั้นปลายที่ "น่าอนาถ" ไปนับ หมื่น-แสน อสงไขย ทีเดียว

+++ อ่านทวนซ้ำอีกสัก 1-2 รอบ แล้วจะเจอความ เละเทะ ของ "ไอ้เตี้ย" ได้เอง คงเตือนได้แค่นี้ นะครับ