มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

การที่คุณพูดมาทั้งหมดมันคือ "การปรุงแต่ง" เพราะมันไม่มีวิธีทำใดๆเลย เหมือนกับคนที่คิดว่าฉันสุขแล้วฉันไม่ทุกข์เสียแล้ว แต่พอเจอเรื่องทำร้ายใจผลปรากฏคือ ทุกข์ และ "การคิดว่าจะออกจากทุกข์ มันก็ไม่ได้ออกจากทุกข์ได้จริงๆเพราะตอนนั้นกำลัง เพ่ง/ดู ไปที่ความคิด(วจีจิตตสังขาร)" ซึ่งการหลุดพ้นทั้งหมดอยู่ที่วิธีทำ ไม่ว่าจะอ้างพระสูตร หรือไม่อ้าง หรืออะไรก็ตาม หากไม่มีวิธีทำ "มันไร้ประโยชน์" และไม่ได้อะไรเลย "นอกจากความชอบส่วนบุคคล" ครับ

edit : ใช่การเผยแพร่ธรรม มันทำได้ง่ายๆ หากผู้เผยแพร่ สามารถ "ทำได้" และ "พูดแสดงวิธีทำได้" และท่าน "ปัญญาธิกะ" นั้นก็ยังไม่พ้น ในชาติปัจจุบ้น "จึงรู้ธรรมได้แค่ระดับธรรมดาเพราะยังไม่ใช่อรหันต์" และใช่ หนทางการบรรลุและสอนธรรมของตัวเอง แต่สิ่งนั้นต้องประกอบด้วย "สติ"(รู้สภาวะนอกกาย/ในกาย/ความรู้สึกตัว/อัตตาจิต) และ สมาธิ(อัตตาจิตเพ่งไปที่ไหน(จิตส่งไปไหน)และตั้งมั่นอยู่กับอะไรและอยู่ในธรรมารมณ์(เนื้อสภาวะนั้นๆ)อะไร) ซึ่งเมื่อมีครบก็ย่อมวิปัสสนาได้จริงๆ โดยหากจะพิจารณเวทนา ตามสติปัฏฐาน 4 (กาย เวทนา จิต ธรรม) ก็ดูไปที่ความรู้สึกตัว และลองเปลี่ยนธรรมารมณ์ เร่งธรรมารมณ์ดู จนเข้าถึงฌานได้(จิตไม่ส่งออกนอก,ตั้งมั่นอยู่ภายใน,อารมณ์เด่นอารมณ์เดียว) และการหาตัวกูของกู ซึ่งมีอีกเยอะ แต่เป็นสัจธรรมทั้งหมด "ไม่ต้องผสมเข้ากับไตรลักษณ์" เพราะมันตรงอยู่แล้ว เพราะสภาวะธรรมในโลกียะ/อัตตาจิต(การเพ่ง)ทั้งหมดนั้น มันไม่เที่ยง และมันทุกข์อยู่แล้ว และเราจะรู้ว่ามันไม่ใช่ตัวตนเพราะมันเสื่อมคลายไป "แต่มันยังไม่พ้นจากตน เพราะตน(กายเวทนา)มันยังมีอยู่ ดังนั้นจะพูดอะไรกันร้อยแปดพันเก้า มันก็ไม่พ้นถ้าไม่ทำนะครับ และที่สำคัญ "มานะ" ที่คุณยกมาผมว่าคุณก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไรด้วยซ้ำ "มันคือความเป็นตน" ซึ่งคุณรู้เหรอว่าความเป็นตน ณ ปัจจุบันนี้อยู่ไหน และความเป็นตนคืออะไร?

 

ประสพการณ์ ความหลง ก็โพสต์ไว้
เตือนสติคนอื่นได้ เพราะ ถึงแม้ว่า
ท่านจะเป็น พระยาธรรม จริงๆ
แต่ท่านไม่ทำงานของ พระยาธรรม เลย
เดี๊ยวเค้าก็จะจัดหา คนอื่น มาแทนท่าน
ตรงกันข้าม หากท่านไม่เป็น พระยาธรรม
แต่ยอมตากตรำ ทำงานยากให้ พระศาสนา
ถึงเป็น คนนอก อยู่ ก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็น พระยาธรรม ได้เหมือนกัน

 

เอาจริงเรื่องคำทำนายพระยาธรรมมันไม่ต่างจากปัญหาโลกแตกสักเท่าไรน่ะครับ

พวกผมรู้ข้อนี้เลยไม่ค่อยจริงจังกับหัวข้อกัน

ผมตั้งกระทู้นี้เพราะต้องการกาคำตอบให้กับความสงสัยตัวเองล้วน ๆ เรื่องจากมีคำทำนายบางคำทำนายมันสอดคล้องกับผม ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ผมฝันแปลก

ที่พอเล่าได้ก็คือได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชวงศ์ของในลวงรัชกาลที่ 9 ในความฝัน จำเนื้อหาการสนทนาไม่ได้ แต่จำได้ว่าผมเคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้า สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เจ้าฟ้าหญิงจุฬาพร เจ้าฟ้าชาย เท่านี้แหละครับ

***ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรสักเท่าไรและมองเรื่องของพระราชวงศ์ว่าไกลตัวมาก ๆ และไม่เคยใฝ่ฝันว่าจะได้ใกล้ชิดเลย แต่กลับฝันว่าได้เข้าเฝ้าพระราชวงศ์ แถมความใกล้ชิดที่บรรดาพระองค์ท่านมอบให้มันทำให้ผมรู้สึกว่าใกล้ชิดมากเกินกว่าที่ผมควรจะได้รับ*** อย่างไรก็ตาม มันเป็นแค่ฝัน

ส่วนเรื่องที่เล่าไม่ได้มีอีกนิดหน่อยที่ออกจะเป็นการเพ้อเจอที่มันยิ่งทำให้ความสงสัยผมยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น การตั้งกระทู้นี้จึงเป็นเป็นไปเพื่อการระบายความเครียดของผมเท่านั้นเอง

ผมรู้อยู่แล้วว่ามันหาคำตอบไม่ได้หรอก

 

มันไม่ได้สำเร็จทันทีหรอกครับ
แต่มันช่วยในการ ลด อัสมิมานะ ทีละเล็กทีละน้อย
ส่วนวิธีการที่ดีกว่า ท่านก็แจกแจงแถลงไขได้เลยครับ
อันนี้คือ การยกตัวอย่างตาม หลักวิถี เท่านั้น

 

ถ้าผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร ผมก็สอนคนอื่นไม่ได้ครับ มี 2 ไม่ควรสอน 10 ไม่งั้นมันจะ วอดวายกันหมด ตอนนี้ผมยังโง่อยู่ ไม่กล้าสอนใคร แต่ถ้าให้อธิบายหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับเรื่องธรรมดาทั่วไปผมน่าจะพอทำได้บ้าง

อีกอย่าง ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นพระยาธรรมครับ
ผมคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นคือพระจักรพรรดิ์ ซึ่งเน้นการปกครองมากกว่า เพราะคำทำนายมันตรงกับที่ลุงเกษมอ้างไว้ในกระทู้ พระเจ้าจักรพรรดิราช

 

คุณไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ
โพสต์ประสพการณ์ไว้
เดี๊ยวจะมีคำตอบ ส่งมาเองเรื่อยๆครับ
เราก็แค่เอาคำแนะนำเหล่านั้น ไปศึกษาเอง
หาคำตอบที่ถูกต้องเอาเอง
คำตอบที่ส่งมา ไม่มีถูกทั้งหมด และ ผิดทั้งหมด
เราต้องเอง ตามประสพการณ์ และ ความชอบส่วนตัวครับ

 

ถูกต้องแล้วครับ คุณต้องคิด วิเคราะห์ แยกแยะเอง
ตามหลักของชาวบ้านกาลามา หรือ กาลามะสูตร

 

สำเร็จอะไร ? ในเมื่อมันเป็นแค่ "แนวคิด" ที่คุณยกมาทั้งหมด ซึ่งผมก็บอกอยู่ว่า คุณพูดมาลอยๆโดยไม่มีวิธีทำ ฟังจากพระไตรอะมันง่าย แต่คุณลองไปหาวิธีทำมาเองสิ แล้วจะรู้เองว่ามันไม่ง่ายนะ แล้วคุณก็มาชี้แจงแบบนั้นแบบนี้มันคือ "การพูดไปเรื่อยเปื่อย" นะครับ ยกตัวอย่างนะหาก ลป.มั่น ท่านไม่เพียรมาขนาดนี้ และใครจะไปนิพพานได้ในเมื่อตำรา "ไม่ได้บอกวิธีทำ" ในการเข้าสู่นิพพาน แต่ชี้แจง(อธิบาย)สภาวะธรรมในตอนนั้นแทนใช่ไหม ? ดังนั้นการ "ยก" ทั้งหมดของคุณ "ไม่ได้อะไรเลยครับ"

 

ฟ้าวันนี้ ลมแรงดีเหลือประมาณ...

 

บ้านผมเมื่อคืนมีฝนริน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อากาศเย็นขึ้นเลย

 

5555 ครื้นเครงนะขอรับ

 

ที่ผ่าน ๆ มา ผมฝันว่ามีความเกี่ยวข้องกับพวกเพศที่สามบ่อย ๆ เป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก บางทีฝันว่ากระเทยมาชอบ

ล่าสุดเมื่อคืนมาอีกละ ฝันว่ามีเกย์ควีนมาชอบคนนึง ตัวผอม ๆ ไปไหนมาไหนก้วยกัน เขาชอบผม แต่ผมไม่สนใจ

ในฝันผมไปชอบเด็กสาวคนนึง จำหน้าไม่ได้ เธอเป็็นเด็กตัวเล็ก ชอบใส่ เสื้อสีแดง กางเกงสีเหลือง ดูเป็นคนสอนง่าย ครอบครัวเธอดูอบอุ่น
เธอเหมือนเด็กสาวที่ร่าเริงสมวัยทั่วไป ดูเหมือนเธอจะชอบผมเหมือนกัน เธออยู่กับพ่อแม่ตายาย ในบ้านไม้หลังเก่า ๆ มีแคร่ไม้ใผ่ใต้ถุนบ้าน ผมเข้ากับครอบครัวนั้นได้ดี แต่ไม่ทราบว่าเป็นผมลูกเขยบ้านนั้นหรือยัง

อยู่แบบจน ๆ ในบ้านไม้หลังโทรม ๆ
บางทีก็เป็นสิ่งที่ผมถวิลหา

เกย์คนนั้น มีไมตรีให้กับผมและแวะเวียนมาหาเป็นระยะ ๆ

สงสัยชาติก่อน ๆ คงทำผิดข้อกาเมมามากแหงม ๆ
เลยส่งผลให้ฝันถึงกระเทยบ่อย ๆ

แต่เอาจริง ๆ นิสัยผมก็คล้าย ๆ ผู้หญิงนะ แต่ไม่ใช่กระเทยแน่ ๆ
แต่ก็คงต้องระวังตัวเอง ลดละเลิกกรรมบางอย่างแล้วมั้ง กันไว้ กลัวว่าจะได้ไปเกิดเป็นกะเทยจริง ๆในชาติต่อ ๆ ไป

 

ของผมสิ ไม่ฝัน ... เจอ กงกง ฮ่าๆๆๆ

 

จะท่องยุทธภพสมัยนี้ เห็นจอมยุทธหญิงบางครั้งต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีกครับ
เพราะพวกนางฝึกคัมภีร์ทานตะวันกันตั้งแต่ยังเยาว์ บางคนสวยกว่าผู้หญิงแท้ ๆ อีก

เจอสตรีพรรคสุริยันจันทรา คงต้องถอยห่างไว้ก่อน

= =

ว่าไปแล้ว เมื่อคืนฝันว่ามีเมียสินะ
เมิ่งกูอยู่ไหน!!

 

ความรักทำให้จิตใจอ่อนโยนครับ

 

จริงๆ ความรัก ไม่ใช่ มาร
แต่ มาร คือ กิเลส

ความรัก สร้างสรรค์ และทำลายทุกสิ่งครับ

 

บางทีผมก็คิดหมือนกันว่าควรจะอยู่ยังไงกะเพศที่สาม
เพราะผมเข้าใจเขาดี เขาเป็นอย่างนั้น เขาก็มีความทุกข์ใจที่เป็นอย่างนั้น เพื่อนรุ่นน้องของผม คบผช ก็ดูแลเขาดีมาก เรียกได้ว่ายอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้ผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยเลย

นิสัยดีมาก

แต่ยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเกิดตัวเองไปชอบเพศที่สามขึ้นมา มันจะเป็นยังไง
ก็ขอให้ผมไม่ตกลงไปในบ่วงนั้นแหละนะ เอ...หรือต้องลองตกเพื่อการเรียนรู้
เอาไว้ระลึกชาติได้ก่อนละกันว่าเคยชอบเพศที่สามมาจริงมั้ย
จากนี้ต่อไป ขออย่าเพิ่งไปตกบ่วงตรงนั้นก็พอ ขอเกิดเป็นหญิงแท้เมื่อเกิดเป็นหญิง ชายแท้เมื่อเกิดเป็นชาย

ก็ต้องระวังล่ะนะ จิตไม่มีเพศ มันเลยมีโอกาสจะรักใครก็ได้

 

ผมโตมาพร้อมกับความรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีความรัก
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมผมจึงไม่ค่อยมี ขอไม่พูดก็แล้วกันครับ แต่มันก็อาจเป็นเพราะกรรมเก่า สันดานเดิมจากชาติก่อน ๆ ของผมด้วยส่วนหนึ่งด้วยมั้ง

ผมอยากมีความรักนะ เพียงแค่ไม่มีความพร้อมเท่านั้นเอง

 

ผมมีประเภทนี้มาสารภาพรักเยอะครับ ทั้งดูออกกับไม่ออก ทั้งแต่งหญิง หรือแมนๆแบบเราๆท่านๆ
และผู้หญิงจริงๆก็มีมาหลายวัยครับ หลายบุคลิกภาพ
แต่ด้วยบาปเวรของกระผมกับ เฉยๆกับพวกเขา
จนเหมือน คนใจดำ คือสงสารแต่เฉย
ทีแรกผมนึกว่า ผมไร้เมตตานะ แต่ก็ไม่ใช่
ถ้าไอ้สนุกสนานก็ไปเรื่อย แต่ผมก็ไม่ติดใจ ไม่เสียใจ
ไม่อิน ก็เพียงเท่านั้น

อย่างที่เคยเล่าน่ะครับ หมั้นพิธีการ 4 งานแต่ง 3
ผมล้มเอง หนี ปฏิเสธ และความไม่เอาไหนก็ให้ยืดเยื้อ จนพังเอง แน่นอนคุณเธอทั้งหลายอาฆาตพยาบาท โชคดี ที่พวกเธอ แต่งงานกันไปหมดหลังจากที่ผมหนีเอาตัวรอดแบบนั้น..เรื่องรักๆสาวตาม
กะเทยตาม เกย์ตาม
ยังมีที่เข้ามาไม่เว้นตั้งแต่กระผมเริ่มแรกแตกพาน
ผมว่าเป็นวิบากกรรมมากกว่าความภูมิใจน่ะครับ
ระวังแล้วก็มีเข้ามา เหมือนเป็นข้อประหลาด
ที่พอจะร่วมหลับนอนด้วยก็เห็นเป็นน้ำเลือดน้ำหนอง
เหมือนเราจะร่วมหลับนอนกับเปรตบ้าง ซากศพ อสูรกายหัวม้า หัวควาย หัวสุนัข ประมาณนั้น ตาถลน เละเทะ ซึ่งก็เคยเล่าๆเป็น ปสก สยองมากกว่า ปสก น่าอภิรมย์ ที่เล่า ไม่ใช่ว่าไม่เคยซื้อบริการสุดยอดนางโลมมาเป็นฮาเร็มนะครับ ทำมาแล้ว เข็ด ยังไม่ทันจะ
อะไร อาการออกอย่างหนัก เห็นเป็นอย่างนั้น สยดสยองอย่างนั้น สังเวชอย่างนั้น เวลานางนั้นเข้ามาพยายามยั่วยวนเราเห็นเป็น สัมภเวสีขอบุญ
สุดท้าย หนีออกมา อาการร่างกายถึงกับเข้า รพ
เหมือนอาหารเป็นพิษ รุนแรงครับ ทั้งที่ความเป็นชายก็ปกติ แต่จิตเราสิ อาจจะแรงสัจจะ อธิษฐาน รุนแรงมากล่ะมั้งครับ ตอนนี้แต่งงานกับคนที่ใช่ ก็ใช้ชีวิตปกติ ก็เป็นเรื่อง อจินไตย แปลกดีครับ

ธรรมดาคนที่เขาเป็นนี้ ชายและหญิงแท้ก็เกลียดแรง แค้นแรงเป็นทุนเดิม ถ้ารีมิก ผมว่าคงดับเบิ้ลมั้งครับ
ก็โชคดีที่ผมไม่ได้เอนเอียงแต่อย่างใด

จนวันที่ผมมีความรักของตนเอง
และที่ฝันว่าได้ยินได้เห็นผู้หญิงร้องไห้
จากเคยมองใครแค่ความเหมาะสม รูปกายภายนอก
มาเป็นมองที่ดวงจิต
จากที่เอาแค่ระบายความใคร่ในห้วงคิดที่เป็นแค่ขอให้เป็นเพศหญิงก็ระบายไป เป็นว่า จะไม่เกิด ไม่รู้สึก
ต่อหญิงที่ผูกพันและรักเขาจริงๆ

จริงอยู่ผมแสวงหา และไม่แสวงหา นางๆก็เข้าหาเป็นปกติ ทอดไมตรีให้อยู่ที่ว่าสานต่อหรือไม่ ผมไม่ได้ดูถูกผู้หญิง คงเป็นเพราะผมเหมือนให้ความหวัง และตรงใจเขามากกว่าครับ และคงเคยมีบุพกรรมร่วมกันในวัฏรสงสารนี้ ....

ถ้าบอกในความจริง ผมว่าก็คงมีหลายคน จะมีเมียเป็นแสนล้านคนในอดีตชาติก็คงไม่แปลก เทียวเกิดเทียวตาย แต่เมื่อลองๆแล้ว ไม่ใช่ และคิดแบบอุปโลกน์ว่า มีเมียเยอะบารมีเยอะ จนเมื่อถึงจุดนั้น
อ้างนั้นนี้ ตามสิทธิวิถีบุรุษเพศ คือยังไม่บรรพชิต ขอพิชิตสาวพรหมจรรย์ จึงรู้ว่าคิดผิดมหันต์

ในเมื่อมีสิทธิเลือก เพียงหนึ่ง ทำไมถึงไม่เลือก
หลายท่านจึงบอกสายพระโพธิสัตว์ต้องมีภรรยาเยอะ
วันนึง ท่านจะทราบว่า ท่านคิดผิดครับ
อ่านพระชาดกใหม่ครับ ..มีแต่ละนาง คนละดวงจิตแต่ละชาติ มีพร้อมๆกัน กระผมว่าความคิดใคร ความคิดมันนะครับ แต่ผมทราบความจริงแล้วครับเดี๋ยวจะว่าอ้าง พระเจ้าจักรพรรดิ ต้องมีเมียเยอะ.....
บารมีไม่ได้วัดที่เมียเยอะครับ เมียเยอะไม่ได้แปลว่า
บารมีสามีจะเยอะตามเมีย เผลอๆลงข้างล่างผูกกรรมเวร บ่วงธิดามาร นางแก้วหลุด ก่อกรรมเวรกับผู้หญิงต่อๆไป ไม่จบสิ้น

ส่วนคนที่ไม่แสวงหา จะไปนิพพาน ถือเนกขัมมะผมขออนุโมทนาด้วย แต่ถ้าความต้องการยังมี ไฟราคะยังมี
อย่าปากแข็งและดันทุรัง มันจะเป็นเครื่องหากินให้ มาร มันเอามาเป็นจุดเสื่อมได้นะครับ คนที่ก้าวผ่านก็โชคดี ยังครึ่งๆกลางๆ ก็หาให้เป็นตัวเป็นตน ดูแลรักษากัน ถนอมจิตใจกันดีกว่าครับ เลือกให้ตรงความต้องการอ้างนั้นนี้ หลอกคนอื่นหลอกได้ หลอกความรู้สึกตนเองไม่ได้หรอกครับ เรียนรู้ทุกข์ แล้วเราก็อยู่กับทุกข์ให้เป็น มีสุขก็สุขให้เป็น ชีวิตครับ ไม่ใช่พลาสติก มีความรู้สึก เลือดเนื้อ จิตวิญญาณ

ก็ขอให้มีความสุขบนเส้นทางที่เลือกนะครับ

 

เห็นด้วยเลยครับท่านเทวิน สัจธรรมจริงๆ เมียเยอะไม่ได้แปลว่า บารมีเยอะ