เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 สิงหาคม 2016.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ขอให้โชคดีและปลอดภัย รักษาชีวิตไว้ให้ยืนยาว เพราะการเกิดมาเป็นมนุษย์แสนยาก ยิ่งการเกิดในกี่งพุทธกาลนี้ก็ยากยิ่งไม่แพ้ช่วงต้นพุทธกาลค่ะ เพราะโชคดีที่ได้พบแสงธรรมโลุตระส่องแสงลงมาอีกครั้ง พบกับสัจจะธรรม สัมผัสกับแสงธรรมโลกุตระ ถือว่าโชคดีค่ะที่ได้เกิดมาสร้างบารมีในยุคนี้
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ้า ม่ายช่าย จีฮับ

    ถ้า ศึกษา...ฝั่งโน้น เขามี สมาธิ เหมือนกัน
    จะเปนร่าง ควันสีดำ

    ส่วน สมาธิใดที่ได้ แสงขาว ทางเขาจะ
    เรียกว่า "จิน" ซึ่งหากคนในของเขา หาก
    ใครฝึก แสงสีขาว จะถูกจับ กุดหัว

    ซึ่ง ของ คิดสะตางค์ เขาก้มี เทมพล่า
    ซึ่ง ต้องดำ ส่วนใครสีขาว white knight เขาจับโยนหน้าผา ตายหมด เช่น mary นี่เขาก้ว่า
    วุดท้ายโดนจับโยนด้วย...แต่บางกระแส
    ก้บอกหนี มาถึง อินเดีย....ตามตำนาน จอกอัลลอยด์
     
  3. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201


    - คนที่แย่งชิงความเป็นมนุษย์ด้วยกัน คนนั้นต่างหากที่จอมปลอม แต่แม้แต่เขาคนนี้ก็มีชีวิตเหมือนกับเรา การกดขี่เขา พูดจาเหยียดหยามเขา คือการกระทำของคนจอมปลอม เขาเองก็เกิดมาจากดินเหมือนกับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ การแบ่งแยกคนสองคนเท่ากับกล่าวร้ายพระผู้สร้าง ถึงแม้เราจะโยนสิ่งสกปรกขึ้นฟ้า แต่ฟ้าก็ไม่ต่ำลงมา แต่สิ่งสกปรกนั้นจะย้อนกลับมาหาเราเอง ฟ้านั้นมิได้แบ่งแยก มันคุ้มหัวเราเหมือนเป็นบิดาของเราคนหนึ่ง แผ่นดินผลิตธัญญาหาร มันไม่แบ่งแยกเราเช่นกัน สายลมพัดความเย็นให้เราเท่ากัน ส่วนน้ำแก้กระหายให้กับเราทุกคน ก็แล้วในเมื่อธรรมชาติไม่แบ่งแยกใคร แล้วมนุษย์เราจะแบ่งแยกทำไม -พระพุทธเจ้าสอนพราหมณ์และผู้นับถือพราหมณ์


    เราจะไปที่อื่นก็ได้แต่สิ่งที่ทำให้เจ้ากระส่ำกระส่ายที่นี้ มันจะทำให้เจ้ากระส่ำกระส่ายที่อื่นด้วย พวกเขาหัวเราะ ล้อเลียนเรา เจ้าก็เลยโกรธงั้นสิ เจ้าคงจะดีใจหากเขาต้อนรับเจ้าด้วยดอกไม้ ถ้ามันเป็นเช่นนั้น นั่นแปลว่าเจ้ามอบความสงบในใจของเจ้าให้กับผู้อื่นด้วยแล้ว สิ่งภายนอกทำให้เจ้าสั่นคลอนได้ และก็ทำให้เจ้าพอใจได้ด้วย หากความทุกข์และความโกรธอยู่ในใจเรา เพราะสิ่งเร้าภายนอก นั้นเป็นเพราะเราไม่ได้รับสารท่านด้วยใจ หากเจ้ามีความรู้สึกว่าอยากล้างแค้น จงคิดว่าเจ้ากำลังออกห่างจากความจริงอันสูงสุด จงจำไว้อย่างหนึ่งว่า ไม่มีใครยอมรับสิ่งใหม่อย่างง่ายดายหรอก เจ้าพยายามทำลายความเชื่อที่มีมานาน พวกเขาจึงไม่รักเจ้า ในตอนแรกพวกเขาจะ ล้อเลียนเจ้า พวดเขาจะใช้ความรุนแรง และพวกเขาจะเลี่ยงเจ้า และพวกเขาจะยอมรับเจ้า เจ้าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะงั้นจงอย่าเสียความอดกลั้น และอดทน -พระพุทธเจ้าสอนสาวกเมื่อไม่ได้รับทาน

    เรื่องเล่าในการที่ไม่ต้องการจะใช้ความรุนแรงแต่จำเป็นต้องป้องกันตัว
    มีงูพิษตัวนึงในหมู่บ้านหนึ่ง และเจ้างูตัวนั้นกัดชาวบ้านหลายคนจนล้มตายไป ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว เด็กๆไม่กล้าออกไปเล่นนอกบ้านใกล้ต้นไม้ที่มีงูขดอยู่ แต่ต่อมานั้น มีภิกษุรูปนึงเดินผ่านมานั่งพักใต้ร่มเงาไม้ของต้นไม้ต้นนั้น งูจึงออกมาฉกเขา พอเห็นภิกษุไม่ทุรนทุรายอะไร งูจึงประหลาดใจ ภิษุกบอกงูว่า ตอยที่เจ้ากัดคน ตอนที่เจ้าทำร้ายคนเหล่านั้ น พวกเขาต้องเจ็บปวดมาก บางคนถึงกับต้องเสียชีวิต งูซึ่งบำเพ็ญตบะมาตลอด มันจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำร้ายใคร และไม่กัดใครอีก เมื่อเห็นงูเช่นนั้นชาวบ้านจึงค่อยๆลดความกลัว พวกเขาหยอกเย้ามัย เด็กๆเล่นกับมัน เหยียบหางมันบ้าง แต่ว่ามันไม่เคยทำร้ายใคร มันหิว อ่อนแอลง เพราะความเจ็บป่วย ตอนกลางคืนมันต้องกิน ก้อนกรวด ตอนกลางวันมันต้องโดนผู้คนทำร้าย งูตัวนั้นมีบาดแผลบาดเจ็บมากมาย เพราะชาวบ้านทำกับมันเหมือนมันเป็นเชือก วันหนึ่งภิกษุรูปเดิม ้ดินทางผ่านมาอีก พอเห็นสภาพของงูตัวนั้นแล้ว เขาก็เสียใจมาก ระหว่างที่รักษางูเขาก็ถามมันว่า ทำไมเจ้าถึงได้เป็นแบบนี้ งูตอบเขาว่า เพราะข้าได้ตระหนักรู้ และข้าหยุดฉกกัดผู้ คน ภิษุกหัวเราะและพูดว่า ข้าห้ามเจ้ากัดคนก็จริง แต่ทำไมเจ้าต้องเปลี่ยนธรรมชาติของตัวเองด้วย ทำไมเจ้าหยุดขู่ฟ่อๆ อะไรที่มากไปถึงไม่ใช่ความรุนแรง มันก็กลายเป็นความรุนแรงได้ คนเลวควรจะกลัวท่าน ควรถูกลงโทษจากความผิดที่ก่อ แต่จำไว้ว่า ศาลไม่ควรลงโทษ ด้วยความคิดเกลียดชังส่วนตัว และคนผิด ควรที่จะถูกลงโทษ เพราะความผิดที่เขาก่อไว้เท่านั้น เอาชนะความชั่วด้วยความดี หากความชั่วอยู่เหนือความดีเมื่อไหร่ มนุษยชาติจะต้องสิ้นสูญ หากท่านต้องทำสงครามเพื่อที่จะต้องกำจัดความชั่ว ถ้างั้นก็จงทำเถิด แต่อย่าทำสงครามเพียงเพราะตัวท่านเอง หากว่าท่านต้องทำ ให้ทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น -พระพุทธเจ้าสอนอาชาตศัตรู

    ถ้าข้าเดินบนหนทางแห่งกรรมดีได้ ทุกคนก็ควรจะเดินบนหนทางนั้นได้ด้วยเช่นกัน ในตอนท้ายคือช่วงที่ยากที่สุด ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความต้องการ ทุกอย่างปรากฎต่อหน้าข้าหลายรูปแบบ แต่ข้าไม่สั่นไหว ข้ายังคงนิ่ง ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะยอมตายหรือเข้าถึงความจริงอันสูงสุด ในท้ายที่สุดข้าก็ได้รับความจริงสูงสุด ธรรมชาติทั้งหมดถูกมัดด้วยด้ายที่มองไม่เห็นของกาลเวลาและมีมันผลกระทบ ถ้าท่านนั้นมีกรรมดีละก็ เวลาจะช่วยหนุนส่งท่านในชีวิตทุกๆชาติไป ไม่ว่าจะชาติไหน มันจะส่งให้ท่านถึงขั้นพุทธะ ในทางกลับกันหากท่านทำแต่กรรมชั่วมันก็จะผูกมัดท่านไปอีกหลายชาติหลายภพ มันจะลากท่านไปเรื่อยๆ หากท่านสงบนิ่งเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หากสงบนิ่งท่านจะพบจุดศูนย์กลางของตัวท่านเอง ไม่รู้สึกว่าทุกข์ หรือสุข มันจะทำลายบ่วงกรรมทั้งหมดที่ท่านมีมา และเชื่อมท่านสู่ความจริงอันสูงสุด -พระพุทธเจ้าสอนพระเจ้าพิมพิสาร

    - มนุษย์นั้นโหดร้ายเพราะความไม่รู้ ความเกลียดชัง ความริษยา ความยึดติด และความรัก ทั้งหมดเกิดจากความไม่รู้ แต่ความรัก ความเมตตา ความดี ความเข้าใจ และความอ่อนน้อม มีอยู่ในตัวของมนุษย์ ถ้ามีคนโหดร้ายอำมหิตอยู่บนโลกใบนี้ ก็ต้องมีคนดีเช่นกัน แค่เจ้าเปิดตามองเจ้าก็จะเห็นเอง -พระพุทธเจ้าสอนองคุลีมาล

    - การตอบกลับความเกลียดด้วยความเกลียดไม่มีวันประสบความสำเร็จ ความรักถึงชนะความเกลียดได้ และนั้นคือกฏขั้นสูงสุด มีสามสิ่งที่ซ้อนในความมืดไม่ได้ พระอาทิตย์ พระจันทร์ และความจริง -พระพุทธเจ้าบอกแก่อานนท์

    - ไม่มีไฟใดอันตรายเท่าความโกรธ ไม่มีสัตว์ใดอันตรายเท่าความเกลียดชัง ไม่มีตาข่ายใดใหญ่กว่าการผิดศีลธรรม ไม่มีอุปสรรคใดใหญ่กว่าความโลภ -คำสอนพระพุทธเจ้าจากมหานามะ

    - เราจะเป็นไปตามความคิดในใจเรา ถ้าคิดดีเราก็จะทำดี ถ้าคิดชั่วคนเราก็ทำชั่ว ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์คือใจตนเอง จิตใจที่ทำให้เราทำผิดได้ทุกที่ทุกเวลา -คำสอนพระพุทธเจ้าจากพระองคุลีย์มาล

    - พุทธะบอกให้ควบคุมกาย และลมหายใจ พยายามทำความเข้าใจอารมณ์อันมากมายที่พยายามทำร้ายใจของเรา เอาชนะความเศร้าและความโกรธ อยู่อย่างเข้มแข็งและมุ่งมั่น ผ่านช่วงที่ทุกข์และสุขของชีวิต พุทธะไม่ได้บอกให้หันหลังกับชีวิต เขาสอนให้เราอยู่อย่างมีสติ -อาชาตศัตรูอธิบายแก่พราหมณ์

    - ไม่ใช้ความรุนแรงคือการเปลี่ยนแปลง ความรุนแรงไม่อาจหยุดความรุนแรงได้ ความรุนแรงนั้นหยุดได้ด้วยความเมตตา นี้คือกฎของธรรมชาติที่เปลี่ยนไม่ได้ มนุษย์ทุกคนล้วนกลัวความตาย หากพวเราเห็นความรู้สึกนี้ในใจของทุกคน เราจะหยุดความรุนแรงได้โดยปริยายในที่สุด -พระพุทธเจ้า

    - ชีวิตมีเคล็ดลับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือขจัดความกลัวให้ได้ อย่าไปกังวลเรื่องอนาคต หรืออย่าโศกเศร้ากับเรื่องอดีต หรืออย่ายึดติดกับคนที่กลัวอดีตของเรา หากว่าเรานั้นยึดติดกับคน หรือสิ่งของแล้วล่ะก็ เราต้องเสียมันไปแน่นอน เมื่อไหร่ที่เราหยุดยื่นมือเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อนั้นเราจะเป็นอิสระจากทุกอย่าง -พระพุทธเจ้า

    - ความรู้ใดก็ตามไม่ว่าจะได้อ่านจากตำราหรือถูกผู้มีปัญญาพร่ำสอนก็ตาม หรือแม้แต่สิ่งที่เราพูดให้ฟังก็ตาม จงอย่าเชื่ออะไรโดยง่าย จนกว่าจะทดสอบด้วยควมรู้ของตัวเอง และปัญญาของตัวเองเสียก่อน -พระพุทธเจ้าสอนสาวกในนิมิตฌาน


    - มีกรรมดีอยู่สามประการ ทีทุกคนควรยึดถือปฏิบัติ คือ กรรมดีทางใจ กรรมดีทางวาจา และกรรมดีทางการประพฤติกาย สามข้อนี้คือมนตราที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกมนุษย์ไปตลอดกาล จงให้ความเมตตากับทุกคน ไม่ว่าจนหรือว่ารวย ทุกคนล้วนมีความเจ็บปวด เพียงแต่จะมากหรือน้อยต่างกัน -พระพุทธเจ้า

    - การโกรธก็เหมือนเราถือไฟอยู่ในกำมือของเรา เราอยากจะปามันใส่คนอื่น แต่ทำแบบนั้นเราก็จะเจ็บเองด้วย -พระพุทธเจ้าสอนเทวทัต

    - ความงาม ความน่าเกลียด ใจของเราสร้างสองสิ่งนี้ขึ้นมาเอง สิ่งนี้เกิดจากธาตุ4 และขันธ์ ทั้ง5 เหมือนกับที่จักรวาลนี้ถูกสร้างขึ้น ถ้าเรามองด้วยสายตาของศิลปินแล้ว ทุกสิ่งอาจดูสวย หรือทุกสิ่งอาจดูน่าเกลียดก็ได้ ด้อนเมฆ สายลม หรือ แสงแดด ไม้งาม ในฤดูใบไม้ร่วง และป่าไผ่ที่น่าหลงใหล ทุกอย่างล้วนสวยงาม แต่ว่าไม่มีความงามใดที่ชนะใจคนได้ เหมือนความงามของสตรี หากชายใดหลงใหลในความงามนั้น เขาย่อมจะต้องออกนอกลู่นอกทาง หากเจ้าลงลึกในจิตสำนึกของตัวเองแล้ว สิ่งที่เจ้าได้เห็นจากภายนอกว่าสวยงามแล้ว มันจะไม่สามารถดึงดูดเจ้าได้อีก มันจะไม่สามารถ ทำอะไรเจ้าได้อีก -พระพุทธเจ้าสอนเสนาบดีกรุงพัสดุ์

    - เห็นความคงอยู่ในสิ่งที่พินาศได้ เห็นความสุขในความทุกข์ได้ เห็นมนุษย์ในอมนุษย์ได้ เห็นความงามในความเกลียดชังได้ ความไม่รู้ทำลายมนุษย์จนแตกละเอียดเป็นผุยผงได้ แต่เมื่อเราตระหนักได้ว่ามายาเหล่านั้นจอมปลอมมันก็จะหยุดความกังวลและความทุกข์ได้ จากนั้นความรัก และการยอมรับในตัวเองก็จะตื่นขึ้น มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากว่าเจ้าไม่ใช่พุทธะ เจ้าจะไม่พบความน่าสนใจของศาสนาพุทธ และหากเจ้าสนใจในศาสนาพุทธ เจ้าก็คือพุทธะเช่นกัน

    - ความไม่รู้ทำให้ยิ่งทุกข์ ยิ่งเข้าใจผิด ยิ่งกังวล ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความสับสน ความอิจฉา ความกลัว เป็นส่วนหนึ่งของความไม่รู้ มายาล่อหลอกในทิศตรงข้าม มันมีสองหน้า จงอยู่ตรงกลาง เหมือนกับเช่นดาวเหนือ อย่าให้รางกายอดอยาก หรืออย่าสนองกิเลสของมัน จงแน่วแน่อยู่ตรงกลาง เมื่อเราตระหนักของความชั่วร้ายจากมายา ความกังวลทั้งหมดก็จะหายไป เราจะสัมผัสความรักและการยอมรับ ความรู้สึกทั้งสองอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อมีความรู้สึกนี้เราจะไม่รู้สึกเกลียดใครอีกเลยแม้แต่คนที่โหดร้ายกับเรา เราก็จะไม่รู้สึกเกลียดเขา แต่ในทางตรงกันข้ามเราจะพยายามวิเคราะห์คนๆนั้นในแง่ของทางโลก ที่ยังมีสิ่งให้ยึดติด เมื่อประตูแห่งความรู้เปิดขึ้นความกรุณาเท่านั้นที่จะอยู่กับเรา ความคิดสร้างภาพลวงตาในสมาธิ ปัญญาแยกความจริงระหว่างเป้าหมายและสิ่งอื่นๆ มันอยู่ในตัวข้าและตัวท่าน มันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในชีวิต มนุษย์มีเรื่องราวต่างๆเพราะอารมณ์ ความโลภ การยึดติด และความปรารถนาจับเราไว้ วงจรของการเกิดการแก่ การเจ็บและการตาย ทำให้ความคิดฝังอยู่ใน ใจของเรา ฝังแน่นไม่ไปไหน จงสลัดภาพลวงตาทิ้งไปซะ เมื่อเราออกจากภาพลวงตาได้ ชีวิตของเราจะเป็นอิสระ และไม่ถูกคุมขังด้วยการมีศีล สมาธิ และปัญญา
    อริยสัจ4 คือความจริง
    1.เมื่อมีการเกิด ความทุกข์จะเป็นเงาติดตามตัวของมนุษย์
    2.เหตุผลของความทุกข์ คือ การยึดติดกับบ บางสิ่งไม่ปล่อยวาง บางสิ่งซึ่งจะเลือนหายไปและหนทางคืออะไร
    3.ที่สำคัญเราต้องเข้าถึงการหลุดพ้น ตั้งตนอยู่ยนทางสายกลาง สิ่งใดที่มันเข้ามาหาเรา ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือร้าย จงวางตนอยู่ระหว่างเรื่องทั้งสอง
    4.ความทุกข์ทั้งหมดจะดับได้บนหนทางนี้ และท่านจะเห็นความจริงอันสูงสุด คือ มรรคมีองค์ 8 ผ่านหนทางนี้ คือ ปัญญาเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ ประพฤติชอบ ประกอบสำมาอาชีพชอบ มานะชอบ มีสติชอบ มีสมาธิชอบ -พระพุทธเจ้าสอนพระสงฆ์ 7องค์
    - เหมือนแมงมุมที่ปล่อยใยบางๆ เพื่อทักทอเป็นใยแมงมุมที่สวยงาม เหมือนกับธรรมชาติ ที่สร้างโลกอันงดงามนี้ด้วยการราดรดสติปัญญา -พระพุทธเจ้า

    อารมณ์มี 3 รูปแบบ สุข ทุกข์ และ วางเฉย ทั้งสามอย่างรวมกันอยู่ในกายของเรา และในจิตของเรา อารมณ์ก็เป็นเหมือนดั่งคลื่น ไม่นานก็จางหายไป เราต้องเห็นความลึกของอารมณ์เหล่านี้เสียก่อน ต้องเข้าใจมัน รู้จักมัน ต้องรู้ว่ามันเกิดจากที่ไหน ไม่ว่าท่านจะสุขหรือว่าท่านจะเศร้า จงดูจากที่มาของมัน เมื่อค้นพบที่มาของมันแล้ว แท้จริงแล้วมันว่างเปล่าเหมือนกับท้องฟ้า มันว่างเปล่าแต่ได้ห่อหุ้มทุกอย่างเอาไว้ข้างใน เหมือนกับผ้าชิ้นหนึ่ง ท่านต้องฝึกฝน เมื่อท่านฝึกฝนแล้ว ท่านจะค่อยๆพบว่า คลื่นนั้นมันจะหยุดซัดสูงขึ้น ความสงบอันนิรันดร์ในตัวเรา ก็คือความจีรัง ท่านจะลงลึกลงไปและพบว่า ท่านเดินทางผิด สิ่งที่เน่าเปื่อยท่านจะคิดว่ามันทำลายไม่ได้ ความเขลาคือรากเหง้าของความชั่วร้าย ตอนนี้ข้าแค่พูดถึงการทำสมาธิ สมาธิทำให้ความเขลาหมดไป ความเขลาไม่ได้หมดไปโดยความเลื่อมใส โดยการอดอาหาร โดยของถวาย หรืออย่างอื่น ท่านหลับมานานแล้ว จงตื่น จงระลึกถึงตัวเอง -พระพุทธเจ้าตอบคำถามเจ้าของสำนักอันเป็นอาจารย์ของสารีบุตรและโมคคัลลานะ

    - ลิ้นคนเราก็เหมือนคมดาบมันฆ่าคนได้โดยไม่ทิ้งบาดแผลเอาไว้ พวกท่านใจเย็นลงก่อนเถอะ พฤติกรรมของพวกท่านรบกวนความสงบของที่นี้ ขอให้ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ต่อได้ ถ้าท่านเข้าใจเส้นทางการฝึกตน และยอมรับมันทั้งหัวใจ ท่านก็จะสามารถเอาชนะอัตตา ความอิจฉา ความโกรธ ความเกลียด และคำดูหมิ่นได้ -พระพุทธเจ้าสอนเหล่าสาวกที่เกิดการขัดแย้งกันขึ้น

    - ถ้าข้าเดินบนหนทางแห่งกรรมดีได้ ทุกคนก็ควรจะเดินบนหนทางนั้นได้ด้วยเช่นกัน ในตอนท้ายคือช่วงที่ยากที่สุด ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความต้องการ ทุกอย่างปรากฎต่อหน้าข้าหลายรูปแบบ แต่ข้าไม่สั่นไหว ข้ายังคงนิ่ง ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะยอมตายหรือเข้าถึงความจริงอันสูงสุด ในท้ายที่สุดข้าก็ได้รับความจริงสูงสุด ธรรมชาติทั้งหมดถูกมัดด้วยด้ายที่มองไม่เห็นของกาลเวลาและมีมันผลกระทบ ถ้าท่านนั้นมีกรรมดีละก็ เวลาจะช่วยหนุนส่งท่านในชีวิตทุกๆชาติไป ไม่ว่าจะชาติไหน มันจะส่งให้ท่านถึงขั้นพุทธะ ในทางกลับกันหากท่านทำแต่กรรมชั่วมันก็จะผูกมัดท่านไปอีกหลายชาติหลายภพ มันจะลากท่านไปเรื่อยๆ หากท่านสงบนิ่งเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หากสงบนิ่งท่านจะพบจุดศูนย์กลางของตัวท่านเอง ไม่รู้สึกว่าทุกข์ หรือสุข มันจะทำลายบ่วงกรรมทั้งหมดที่ท่านมีมา และเชื่อมท่านสู่ความจริงอันสูงสุด -พระพุทธเจ้าสอนพระเจ้าพิมพิสาร

    -
    ถ้าเจ้าให้ของขวัญแก่เพื่อนบ้าน แต่เพื่อนบ้านไม่รับ แล้วใครจะได้ของขวัญชิ้นนั้นเหล่า มันก็เหมือนสิ่งที่เจ้าบอกข้า ข้ามิได้รับของขวัญนั้น เพราะงั้นมันจึงกลับไปหาเจ้า การด่าทอเป็นสิ่งไม่ดี มันไม่มีการโต้ตอบ มีแต่เสียงสะท้อน มันจะดังก้องอยู่ในใจของเจ้าเท่านั้น เปรียบเสมือนเงาที่ไม่ทิ้งไปจากตัวคน สิ่งไม่ดีก็ไม่ทิ้งไปจากตัวคนเช่นกัน มันจะย้อนกลับมาทำให้เจ้านั้นเป็นทุกข์ ข้าแค่บอกให้ตื่น และลองมองดูตัวเอง ความคิดไม่ดี การกระทำไม่ดี มันจะค่อยๆเสื่อมลงไป -พระพุทธเจ้าสอนชาวบ้านที่ด่าทอพระพุทธเจ้า

    "แมลงมุมไม่กี่ตัวกำลังสุมหัวพากันสางใยพันตนเอง สงสัยอยากจะพากันลอกคราบ"

    เข้าใจว่าตนเองเป็นผีเสื้อปีกสวยๆหรือ ?


    50881530_191777788446757_2760767250876071936_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2019
  4. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    สนามมวย.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ผมยินดีที่จะแลกทุกอย่างแม้ชีวิตเพื่อความจริงจะได้ปรากฎ

     
  6. pleแบม

    pleแบม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    602
    ค่าพลัง:
    +1,427
    ขอเป็นกำลังใจ ให้ท่านช่วยปราบพวกโจรใต้ ให้สำเร็จด้วยเถอะ
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015

    ท่านจ่ายักย์ ท่านจะทำอะไร
    ก็ให้นึกถึง มหาเมตตาใหญ่ เอาไว้ในใจเสมอๆ
    งานพุทธภูมิ ก็อย่าให้เสีย
    ฝึก แผ่เมตตาให้คนอื่นมากๆ
    เหตุร้ายๆ ก็จะคลี่คลายลงได้เอง
    สิ่งใดปล่อยวางได้ ก็ ปล่อยวาง เถิด
    ฝึก ดูใจ ตนเองบ้าง ดูจิต ของตนบ้าง
    เส้นทางถึงที่สุดแห่งทุกข์ คงจะเปิดออกได้
     
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    BO-eVlICUAAYTEG.png
     
  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    FB_IMG_1548047186797.jpg
     
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    อวชฺเช วชฺชมติโน วชฺเช จ อวชฺชทสฺสิโน
    มิจฺฉาทิฏฺฐิสมาทานา สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.
    วชฺชญฺจ วชฺชโต ญตฺวา อวชฺชญฺจ อวชฺชโต
    สมฺมาทิฏฺฐิสมาทานา สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ.
    สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีความรู้ว่ามีโทษในธรรมที่
    หาโทษมิได้ มีปกติเห็นว่าหาโทษมิได้ในธรรมที่มี
    โทษ เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งมิจฉาทิฏฐิ ย่อมไปสู่ทุคติ.
    สัตว์ทั้งหลาย รู้ธรรมที่มีโทษ โดยความเป็น
    ธรรมมีโทษ รู้ธรรมที่หาโทษมิได้ โดยความเป็น
    ธรรมหาโทษมิได้ เป็นผู้ถือด้วยดีซึ่งสัมมาทิฏฐิ
    ย่อมไป สู่สุคติ.
    FB_IMG_1548047186797.jpg
     
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ข้อความต่อไปนี้ จะถูกส่งเข้าไลน์กองทัพ

    images (7).jpeg

    ขอให้ท่านทั้งหลายฯลฯ อนุโมทนาบุญกุศล ให้แก่เหล่าสรรพสัตว์และเหล่ารุกขเทวดา สัมภเวสีวาผู้มีบุญฯน้อยที่อาศัยอยู่ในป่าเขา 3จชต.ภาคใต้ด้วย เมื่อเทวดา สัมภเวสีเหล่านั้นได้รับอานิสงส์ในการอนุโมทนาบุญฯ เขาจะคอยช่วยเหลืออนุเคราะห์ชี้ทางระวังภัยระงับภัยให้แก่เหล่าพี่น้องประชาชนและจนท.ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ ยิ่งเขามีส่วนบุญมากขึ้นเท่าไหร่ จะมีอัตภาพที่ดีขึ้น เขาจะคอยช่วยเราปราบคนชั่วอภิบาลคนดีครับ (พระอินทร์ก็ขอด้วยเหตุแบบนี้แล)
    cover-50.png
     
  12. pleแบม

    pleแบม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    602
    ค่าพลัง:
    +1,427
    ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์และเทพเทวดาได้โปรดปกป้องคุ้มครองเจ้าหน้าที่
    ทุกท่านที่ดูแลทางใต้ของไทย และช่วยให้ชาวไทยที่รักความสงบมีความสุขด้วยเทอญ
    ขอบคุณทุกท่านที่ทำหน้าที่ดูแลทางใต้อย่างดี
     
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จะเอาชนะบุคคลจำพวกนี้ ต้องอาศัยทานบารมี เดี๋ยวพระผู้คุมธาตุ๔ และเหล่าเทพเทวดาอารักษ์ผู้ปกปักขุนเขาและต้นไม้แม่น้ำชายป่า จัดให้ครับ

     
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
     
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ติดบ่วง ไฟคืออาหุไนยบุคคล (บุพพการี)

    ไม่อย่างนั้น ไปแล้ว!



    บิ๊กแดง ผุดวิธีแก้ปัญหา พระ3จังหวัดชายแดนใต้ ขาดแคลน ให้ทหารมาบวช!

    บิ๊กแดง ให้ทหารมาบวช – เมื่อวันที่ 23 ม.ค.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เดินทางมายังวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อเคารพศพพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส



    พระทั้ง 2 รูปมรณภาพจากเหตุคนร้ายบุกยิงเมื่อช่วงดึกวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะ จ.นราธิวาส รวมถึงผู้นำศาสนา หัวหน้ากองกำลัง 3 ฝ่าย ให้การต้อนรับ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ผบ.ทบ.จะเคารพศพพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป และพูดคุยพบปะกับพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม ที่เดินทางมาร่วมงาน โดยผบ.ทบ. กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของตัวบุคคล ที่พยายามนำศาสนามาก่อให้เกิดความแตกแยก ซึ่งทุกคนที่เดินทางมาร่วมงานทราบกันดี ฉะนั้นจึงไม่ต้องการให้ตกหลุมพรางของคนร้าย ตนมาพบเห็นชาวพุทธและมุสลิมเดินทางมาร่วมงานไว้อาลัยพระสงฆ์ในครั้งนี้ รู้สึกดีใจถึงความรักใคร่ความสามัคคี แต่เหตุการณ์ร้ายต่างๆ จะมีกระบวนการบูรณาการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ และขอเป็นแรงใจให้พี่น้องประชาชน

    ต่อมา ผบ.ทบ.มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับเครือญาติของ พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์อรรถพร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกับชาวบ้าน ชรบ. และผู้นำศาสนา พร้อมกับพูดคุยกับนายแวอาแซ แวมามุ ประธานชมรมอิหม่าม อ.สุไหงปาดี และกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส

    บิ๊กแดง-ทหารมาบวช-696x408.jpg
     
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ความเห็นแบบโลกียะ

    ธรรมสากัจฉา

    น. การสนทนาธรรม. (ป. ธมฺมสากจฺฉา).

    ....ธรรมสากัจฉา แปลว่า การสนทนาธรรม การพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ



    .....ธรรมสากัจฉา หมายถึงการสนทนา การเสวนา การปรึกษาหารือ การแลกเปลี่ยน ความรู้ซึ่งกันและกันในเรื่องธรรม เรื่องความดีงาม เรื่องการดำเนินชีวิต เรื่องการศึกษาความรู้ เป็นต้น



    .....ธรรมสากัจฉา เป็นวิธีการสอนอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติ เช่นทรงสนทนากับพระสงฆ์ในบางโอกาส ทรงสนทนากับผู้เข้าเฝ้าเสด็จไปทรงสนทนากับนักบวชต่างลัทธิ เป็นต้น



    .....ธรรมสากัจฉา เป็นการรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน เปิดโอกาสให้คู่สนทนาแสดงทัศนะของตนได้เต็มที่ ทำให้เกิดสติปัญญา ความเป็นกันเอง และความสนิทสนมคุ้นเคย


    ความเห็นแบบโลกุตระ


    ๕. สากัจฉสูตร
    [ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็น
    ผู้ควรสนทนาของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภสีลสัมปทาได้ ๑
    ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภสมาธิสัมปทาได้ ๑

    ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภปัญญาสัมปทาได้ ๑
    ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง และเป็นผู้

    พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภวิมุตติสัมปทาได้ ๑
    ย่อมเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติ
    ญาณทัสสนะด้วยตนเอง และเป็นผู้พยากรณ์ปัญหาที่มาในกถาปรารภวิมุตติญาณทัสสนสัมปทาได้ ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้
    แล ย่อมเป็นผู้ควรสนทนาของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ฯ
    จบสูตรที่ ๕


    thai-thai-153279.jpg


    ทีนี้ถ้าไม่มีคุณสมบัติ ๕ อย่างอันเป็นที่รองรับ สากัจฉสูตร หรือธรรมสากัจฉา จะเกิดหรือไม่เกิด ก็คงรู้กันแล้ว

    โดยไม่ต้องกล่าวถึง คุณสมบัติที่สูงกว่านี้ คือ
    พระอเสขะ และ พระปฎิสัมภิทา เลย


    ไหนล่ะ!
    วิมุตติของคุณ อยู่ที่ใด?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2019
  17. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    รอดู ปโลภสูตร กันให้ดีๆ

    http://www.84000.org/tipitaka/book/v.php?B=20&A=4194&Z=4226


    19int-syria-1-superJumbo.jpg

    ปกซีเรีย-01-01-750x400.jpg
    1432529679-Image-o.jpg
    cropped-capture.png
    034c3520-1ef3-49de-a575-240c1d142b72.jpg

    หากไม่ถึงที่สุดด้วยกาล บอกไปก็เท่านั้น!

    (ด้วยมหานิมิตแห่งเรา ในกาลนั้น ได้ปรากฎต้นไม้พฤกษชาติที่มีขนาดใหญ่โต หนึ่งต้น ขนาดมหึมาที่สุด สูงกว่าเหล่าบรรพตทั้งหลายในโลกธาตุนี้ นั่นคือเท่าที่จะประมาณได้ เราปรากฎในรูปของบรรพชิต นั่งขัดสมาธิอยู่ที่ ปลายลำต้นไม้นั้น ที่แยกแตกออกเป็นเสนาสนะแห่งเราโดยเฉพาะ ท้องฟ้านภาอากาศมีสีแดงเทาดำชวนให้เศร้าหมอง เราเหลือบมองดูผืนพสุธาที่ครุ่กกรุ่นด้วย ถ่านเพลิงมหาไฟประลัยกันต์เหล่านั้น ด้วยความปลงตกสังเวชใจ เราครุ่นคิดพิจารณาอยู่หนอว่า อะไรเป็นเหตุให้เกิดสภาวะขึ้นกับโลกธาตุนี้ เราไม่อาจจักเห็น น้ำ หรือ สิ่งมีชีวิตอื่นใดเลย นอกจากเราเองและพฤกษชาตินั้น)
    มหานิมิต.jpg



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2019
  18. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
     
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    50570637_2666045460102300_8660407837026942976_n.jpg
     
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ไม่ต้องสู้กับใคร?อีกแล้ว ตอนนี้ต้องสู้กับตนเอง ทำลายตนเอง และพึ่งตนเอง เพราะสิ่งที่ไหลเวียนผ่านเข้ามา ยิ่งละเอียดอ่อนทะลุทะ
    ลวงมากเพียงเท่าไหร่ จิตย่อมติดตะแกรง ยิ่งสละมากเพียงเท่าไหร่ จิตย่อมได้มากขึ้นเพียงเท่านั้น

    แม้แต่วันนี้แค่เพียงความเคียดแค้นอันชั่ววูบที่ผ่านมา ก็สามารถทำลายมโนธรรมที่มี เพียงแค่อาศัยสัจจะและตัวแปรอารมณ์มาร๕ การทำลายล้างครั้งรุนแรงที่สุด โหดเหี้ยมและอำมหิตที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะความหลง ก็ยังยังเกิดขึ้นมาได้ ก็เพราะความไม่ยึดติดกับอะไรๆ ในชีวิต

    องคุลีมาล รอบ2500 อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ไม่รู้ แต่รำคาญอยากจบ แบบมิต้าทำใหญ่ๆ

    แต่จะโหดกว่าท่าน องคุมาลไปสักหน่อยนะ

    เห็นไหมว่าจิตชั่ว ทำชั่ว คิดชั่ว แม้ผู้รู้เห็นในธรรมตามธรรม แต่ยังไม่สิ้นอาสวะกิเลส อนุสัยกรรมเก่ายังส่งผลได้ แต่ก็คลายทำลายการพร่องในศีลไปหลายข้อ ในเดือนนี้จากนั้นมาสุราของมึนเมาเรามิอาจแตะได้อีก อิสตรีเรามิอาจหลงไปทำอะไรๆซึ่งลีลารักเพื่อเอาอกเอาใจอีกกับขันธุ์๕เน่าๆเสมือนเรานั้น แม้แต่เรื่องกามตัณหา เรายังถูกประนามจากผู้กลุ่มผู้ติดตาม ที่มิใช่มนุษย์ ว่าไม่ใช่ฐานะและขันธุ์๕ ก็ยังบังคับเรา หากเรากระทำนอกลู่นอกทาง ก็หาเรื่องทำลายธาตุขันธุ์ภายในทันที

    เหลือแต่กรรม ที่บีบคั้นแล้ว เวลาที่เหลืออยู่นี้

    แม้แต่นางอัปสรในตำหนักนับร้อยพันยังปรากฎให้เรารู้สึกว่า สตรีมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่เราพึงพอใจอีกแล้ว นักธรรมและนักฆ่า จึงปรากฎ นักรักจึงถูกทำลายไป การเจริญเติบโตและการล่มสลายทางจิตใจ ความยึดมั่นถือมั่น เกิดๆดับๆอย่างรวดเร็ว

    หนทางที่เหลือ เราจะต้องเดินต่อไปตามกรรม บทที่ได้รับมาก็หลายเรื่องเหลือเกิน จะแสดงบทใดดีก็แล้วแต่ บารมีที่สั่งสมมาเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ล่ะกัน

    แล้วท่านทั้งหลายฯ จะแสดงบทใดดี ก็คงลำบากใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันมิใช่หรือ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2019

แชร์หน้านี้

Loading...