ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

จัดการกับพวกโกงเมืองให้ได้สักคนก่อน

 

ตามความรู้สึกของผมนะ(ไม่ต้องเชื่อตามหรอก).... เหตุที่ภัยพิบัติยังไม่เกิดก็เพราะมีพระอริยะเจ้าหรือไม่ก็ผู้มีบุญมากอย่างเช่น พระโพธิสัตว์ ใช้จิตและร่างกาย ของท่านเองคานกระแสพลังของภัยพิบัติเอาไว้อยู่ แต่ว่าถ้าเมื่อใดที่ร่างกายและจิตวิญญาณ ทนไม่ไหว นั่นคือ ทั้งขันธ์ ๕ ของท่านนั้นอ่อนแอลงและเสื่อมลงมากขึ้นๆ เมื่อนั้นแหละถึงจะเกิดภัยพิบัติได้

เป็นอจินไตยน่ะครับ (ไม่ต้องเชื่อตามผมนะครับ)

 

อันนี้ก็ได้ยินบ่อย เหมือน คำกล่าวฝรั่่ง
What Where When Who How ไม่แน่ใจ ถูกป่าวนะ จำแบบลืมๆ
คือตอนนี้ เรา ต้องถามตัวเองว่า ผู้มีบุญนี้ใคร มีบุญ แค่ ไหน อย่างไร ทำเมื่อไหร่ ยังไง
แล้วสิ่งต่อไปคือ
ผู้มีบุญ นั้น สรุปแล้ว ยังเหลือ เท่าไหร่ ที่ไหน ยังไง จะทำอีกเมื่อไหร่ โดยใคร
สรุปอีกที
จะมีผู้มีบุญมาทำแบบนี้ อีกที่ไหน อะไร ยังไง เมื่อไหร่
และจะเป้นแบบนี้ไป เท่าไหร่ ที่ไหน ยังไง
สรุปแล้วก้จะเป้นแบบนี้ไปเรื่อยๆใช่ไหม ยังไง อจิณไตย
อนุมาณได้ไหม ว่า ถ้าเราจะเลื่อนการประชุม แล้ว เลื่อน แล้ว เลื่อนอีก เราไม่ต้องประกาศ ว่าจะมีการประชุมแต่แรกจะดีไหม หรือ ประกาศยกเลิกไป จะได้ไปทำภารกิจหน้าที่กัน
ปล.. อันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ เก้งนะครับ พอดียกข้อความมาอ้างอิง ขี้เกียจไปหาข้อความเก่า

 

โปรดเตรียมพร้อม ดูแลรักษากาย-ใจให้ดี

​

wmt สมาชิก

ภัยพิบัติใหญ่ที่รอวันเวลามาถึง ไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่ที่จะแสดงให้มวลมนุษยชาติได้เห็น ได้ประสบชะตากรรม

โปรดเตรียมพร้อมดูแลรักษากาย ที่ป่วยก็ให้เร่งดูแลกายให้ฟื้นโดยเร็วที่สุด ฟันซี่ไหนปวด โยกคลอนให้รีบรักษา ตับไตรีบดูแล ระมัดระวัง สติยังไม่มีก็ทำให้มันเกิดขึ้นด้วยสติปัฏฐาน ๔

ยังมีเวลา แต่ไม่นานนัก ไม่ใช่หลายปีแน่นอน

ที่มา https://palungjit.org/threads/วสี-มหาสติ-อนาคตังสญาณ.532194/page-4

 

มนุษย์ต่างดาวกล่าวถึงภัยพิบัติ



การให้โอวาท จากผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต
บนเขากะลา นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2541
.....................................................................................................

“ข้าพเจ้าได้บอกไปในกาลก่อนแล้วว่า ภัยธรรมชาตินั้น มันจะมีขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทุกวินาที มันเกิดขึ้นอยู่ โลกของเจ้านะ กลม ๆ อย่างนี้นะ จุดตรงกลางเจ้ารู้มั้ย...จุดกลางมันเป็นความร้อน ความร้อนอย่างมาก เมื่อได้เวลาของกรรมดำของเจ้า มันจะปะทุจากข้างในออกมา จนถึงผิวเปลือกของเจ้า ข้างนอกของเจ้าเป็นน้ำ เป็นดิน เป็นธาตุเย็น แต่ข้างในล่ะ มันเป็นธาตุร้อน เพราะฉะนั้น ธาตุร้อนที่อยู่ในพื้นพิภพนั้น พอได้เวลาที่กรรมดำของพวกเจ้ามันรวมกันไปในส่วนมาก มันก็จะดึงดูดเอาธาตุร้อนนั้นมาปะทุ ในจุดที่มันเป็นกรรมหนัก อย่างที่พวกเจ้าพบกันว่า เป็นภูเขาไฟใต้น้ำนั่นแหละ มันคือการปะทุของแรงกรรม

เพราะฉะนั้น ทั่วโลก มันสามารถปะทุได้ทุกที่ ทั้งประเทศที่ไม่มีภูเขาไฟ หรือประเทศที่มีภูเขาไฟ ทั้งในใต้น้ำ ทั้งในใต้พื้นดิน มันจะมีรอยแตก รอยปะทุนั้นเป็นไปได้ทั้งหมด”

“น้ำที่มันจะกระฉอกไปทั่วทั้งโลกนั้น โดยทั่วถึงกัน พร้อมกัน ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น มันต้องมาจากแรงกรรมของพวกเจ้า ที่ดึงดูดวัตถุที่มาจากนอกโลก วัตถุนั้นมันมาตามกรรมดำของพวกเจ้านั่นแหละ ...มันไม่ใช่ดาวหางหรอกนะ มันเป็นสะเก็ดดาว เป็นอุกกาบาต มันมาตามแรงกรรม มันก็เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง

เหมือนต้นไม้ เหมือนก้อนหินในโลกของเจ้าน่ะแหละ แต่มันลอยอยู่นอกโลก รอเวลา ไอ้โลกอันไหนมันถึงเวลาข้าก็จะไป โลกอันนี้ถึงเวลาข้าก็มา ..ตูม..ตูม

เพราะฉะนั้น เจ้าได้ถามถึงเรื่องของน้ำ ธาตุน้ำจะกระฉอกกันทั่วทั้งโลกนั้น ถ้าทั่วทั้งโลกในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ข้าพเจ้าก็จะบอกสาเหตุ ว่ามาจากวัตถุที่มาจากนอกโลก นั่นคือธรรมชาติอันหนึ่ง เขามาตามแรงกรรมของเขา ไม่มีใครกลั่นแกล้งเจ้า แต่พวกเจ้าสั่งสมแรงกรรมกันเป็นส่วนมากถึง 70 % หรือมากกว่านั้น เขาจึงดึงดูดแรงกรรม แต่นั่นจะมาในระยะท้ายของภัยพิบัติ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขามานั้น มันจะกวาดล้าง กวาดล้างกันไปเกือบทุกชีวิต ยกเว้นในบางชีวิตที่มีการเตรียมการอยู่ในที่ที่ปลอดภัย.. มีการเตรียมการไว้ก่อน

แต่ชีวิตที่เหลือ.. บางชีวิต ก็จะเป็นบ้าเป็นบอกันไป เพราะทนไม่ได้ในการที่ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนร่วมประเทศ เพื่อนร่วมจังหวัด เพื่อนร่วมตำบล เพื่อนร่วมหมู่บ้านต้องตายไปต่อหน้าต่อตา สติก็จะวิปลาศ..”

“การที่เราทำไมถึงต้องเดินตามรอยพระบาทของพระพุทธองค์ ตรงนี้นะ เข้าใจให้ง่าย ๆ นะ

เดินตามรอยบาทนั้น ก็คือพระพุทธองค์ท่านมี 2 เท้าเหมือนเรา ท่านเดินก้าวเท้าขวา เท้าซ้าย รอยพระบาทนั้นจะเป็นแนวเดียวถูกมั้ย จงนึกถึง อย่าไปคิดอะไรที่มากมาย การที่ท่านเดินตรงไปทางไหน เดินเท้าซ้าย เท้าขวา รอยพระบาทจะเป็นแนวเดียวนะ ตรงนี้อุปมาอุปไมยให้เห็นชัดในกาลก่อน เมื่อท่านเดินไปในแนวทางไหน ขอให้เราสาวกทั้งหลายดูแนวทางของท่านแล้วก็เดิน ซึ่งใครเดินได้ใกล้ หมายถึงใกล้ชิด นั่นก็คือ ท่านเดินเท้าซ้าย เท้าขวาเนี่ย เราห่างท่านไม่เกิน 2 - 3 ก้าวนี้ จักไม่ค่อยพลาด แต่ถ้าท่านเดินไปแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร เรามาเดินนะ คลำทางนะ มันจะตรงมั้ย มันก็ต้องมีการเลี้ยวไปทาง คนโน้นตะล่อมเข้ามาตรง แล้วมันยาก

มันยากเพราะอะไร เพราะเราไม่เห็นของจริง ไปนู้นแล้ว ลิบแล้ว ตรงนี้มันจึงเป็นการยาก ยากที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพานเป็นกาลเวลาอันเนิ่นนาน ถ้าเทียบกับอายุของเจ้าไม่รู้หลายช่วงตัว

แต่การที่ท่านได้ทรงตรัสไว้ ในการที่จะให้คำสั่งสอนของท่านในการบัญญัติหรือบันทึกไว้นั้น เป็นศาสดาแทนองค์ท่านนะ ตรงนี้ ถ้าเรามีความจริง หรือเป็นคนจริง ในการที่จะปฏิบัติตามในวาระของการที่จะเดินตามรอยบาทของพระพุทธองค์นะ ถ้าเป็นคนจริง

ดังนั้น การที่ท่านบัญญัติไว้ว่า สิ่งทั้งหลายในพระไตรปิฎกนั้น ท่านให้เรานับถือเหมือนการที่ท่านเป็นพระศาสดา สั่งสอนเอาไว้ เพราะฉะนั้น ตรงนี้เราต้องมาดูว่าในพระไตรปิฎกนั้น ท่านสั่งสอนอะไรไว้บ้าง ประมวลเหตุ ประมวลผล ประมวลดูนะ

หลักใหญ่ใจความก็ไม่พ้นไปจากตัวของเรานี่เลย ไม่พ้นจากการพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของตัวเรานี่เลย ไม่พ้นจากธาตุ 4 ขันธ์ 5 พิจารณาความทุกข์

เพราะฉะนั้น ทุก ๆ คนในที่นี้ หากจิตยังไม่ถึงอรหันต์ จะยังเป็นผู้ที่ไม่สามารถพ้นไปจากความทุกข์ไปได้ทุกคน เพราะหากเราคิดว่า ตัวเรานี้สุขแล้ว ตรงนี้ขอให้ระลึกในวาระของท่านว่า มันไม่จริงหรอกนะ เพียงแต่ท่านอาจจะมีความทุกข์ที่มันผ่อนขึ้น ถ้าเทียบกับผู้ที่ทุกข์แสนสาหัสในโลกมนุษย์ของท่าน ท่านอาจจะผ่อนกว่าเขาหน่อย แต่มันยังไม่พ้นความทุกข์ มันท่วมหัวนะ

..แล้วก็ท่วม ถ้าพูดถึง ถ้าเรียกว่า พวกชั้นบรรยากาศของพวกเจ้านะ ความทุกข์มันครอบคลุมอยู่ในชั้นบรรยากาศนะ คลุมอยู่ เพราะฉะนั้น พวกเรายังจมอยู่ในกองทุกข์กันทุกคน

เพราะฉะนั้น ขอให้ตระหนักกันไว้ หากประมาทนิดเดียว ความทุกข์มันจะกดหัวเรา อยู่มันอย่างนี้แหละนะ วนกันอยู่นี่แหละ เพราะความทุกข์มันท่วมนะ เรียกว่าชั้นบรรยากาศของเจ้าก็ได้ เพราะพวกที่ยังอยู่ในโลกีย์วิสัย ลาภ ยศ สรรเสริญ วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ มันน่าเบื่อเหลือเกิน

แต่เพราะว่าไม่สามารถระลึกกันไปถึงชาติอดีตได้ ก็ยังคิดว่ายังสด ยังใหม่กันอยู่นี่แหละ หือ... เพิ่งเจอครั้งแรก กามฉันทะ หรืออะไรก็ตาม ยังคิดว่าครั้งแรก มันไม่ใช่

ในเมื่อญาณของผู้ระลึกรู้ได้แล้ว ท่านจะรู้ว่า โอ๊ย...วนเวียน วนเวียน เดี๋ยวก็ซ้ำกันอีก ซ้ำกันอีก วนเกิด เวียนตาย เดี๋ยวเป็นพี่ เป็นน้อง เดี๋ยวเป็นพ่อเป็นแม่ เดี๋ยวเป็นเพื่อน จากเพื่อนที่เคยโกรธเคืองกัน อาจจะไปเป็นพี่น้องที่คับข้องหมองใจกันก็ได้ หรือจะมาเป็นพ่อแม่ หรือพ่อลูกที่มีความขุ่นข้องหมองใจ ตรงนี้มันวนเวียน ปนเปกันเหลือเกิน..”

“เพราะฉะนั้น ญาติทั้งหลายนะ ก็ต้องเคยเกิดมาเป็นญาติกันสักชาติหนึ่งนั่นแหละ ในการพูดตรงนี้ พวกท่านจงมีจิตที่เมตตาซึ่งกันและกัน เวลานี้ไม่ใช่อื่นไกล เรานี้ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่น้องกันทั้งนั้น ในภพของร่างของมนุษย์ซึ่งพบเจอกันในตาเนื้อมนุษย์นี้ พี่น้องกันทั้งนั้น หรืออาจจะเป็นญาติกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นตรงนี้เรามิอาจรู้ได้..

แต่สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า การเวียนว่ายตายเกิดของเรานี้ นับภพนับชาติไม่ถ้วน มันสาหัสนะ นับภพนับชาติไม่ถ้วนเนี่ย แต่ตอนนี้คนที่เขาประมาทก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะอะไร.... เพราะเขาคิดว่าเขาเพิ่งเกิดมาได้ 30 ปี , 40 ปี หรือ 50 ปี เขาคิดว่าใหม่ แต่จริง ๆ แล้วไม่”

“อายุของข้าพเจ้าเป็นหมื่น ๆ ปีนั้น ยังไม่เท่าอายุของการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเจ้า เพราะฉะนั้น การจะนับอายุ หรือจะนับเรื่องอาวุโสในเรื่องของอายุมนุษย์นั้น มันนับไม่ได้ พระพุทธองค์ท่านจึงทรงนับอายุ หรือบารมีของทางธรรมะตรงนี้ อายุทางโลกีย์วิสัย มันนับไม่ได้ มันเวียนเกิดเวียนตายนะ เดี๋ยวเป็นเทวดา เดี๋ยวเป็นพรหม อุบัติลงมาเวียนว่ายตายเกิดมันไม่รู้จักเท่าไร ตรงนี้ เมื่อไม่มีการจำ หรือการระลึกชาติได้ ก็ยังคิดว่าสิ่งที่เราได้รับมานี้ใหม่อยู่เสมอนะ..”

ที่มา

 

อยากมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่จังหนอ จะได้เปลี่ยนโลกให้เป็นไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการได้

เช่นสามารถทำให้คนอื่นเห็นอนาคตของโลก ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์น่ะนะครับ

แต่ก็นั่นแหละ ฝันไปก็เท่านั้น

ได้แต่ภาวนา ว่าคนจะสนใจเรื่องการรักษาธรรมชาติ มากกว่าการใส่ในการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องโดยไม่สนใจผลกระทบต่อธรรมชาติในระยะยาว

คนเราถ้าไม่เห็นผล ของการกระทำของตน มันก็คงไม่ยอมรับ ว่าสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้ทำมันมีผลยังไงหรอก

อยากครองโลก เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

 

หวัดดีทุกท่าน
ถ้าท่านครองโลกสำเร็จ
เป็นเจ้าโลก ท่านจะทำอย่างไรในการเปลี่ยนโลกนะ?

 

ว่าไง ชายเล็ก!!!

ฝาก ละครเวที หลานป๋มด้วย...เอิ๊กๆๆ

 

เอาจริง ๆ ผมอยากสร้างวิถีชีวิตและวัฒนธรมใหม่น่ะครับ

แต่มันคงยิ่งใหญ่เกิน

สิ่งที่อยากแก้ปัญหามากที่สุดคือ การเลี้ยงคนให้โง่
เช่น การสอนให้ทำ ไม่ต้องเข้าใจ นี่อยากโละทิ้งมาก

คนเราควรอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจความเงื่อนไขในชีวิต ของคนอื่น ที่ทำให้เขามีความแตกต่างกับเรา เป็นต้นน่ะครับ

การบริโภคไม่เป็นธรรม เบียดเบียนธรรมชาติ ไม่คืนให้ธรรมชาติ
การทำให้ธรรมชาติเสียสมดุลย์

โอ๊ย เยอะ

 

มี ความดี เกิดขึ้นในโลก 1000% ไม่ต้อง
รอใครมา ทำเฮีย! จัดการ ทำเปนบัญชา

มี "ความดีนั้นอันละแล้ว" ไม่โลเล กังขา

สันติธรรม 1000%

 

เจอตัวแล้ว. พระยา.......

 

โปรดเตรียมพร้อม ดูแลรักษากาย-ใจให้ดี
​

รู้ค่าพลังงาน 8 มิ.ย. 60​

เตา 30 บาท ถูก ประหยัด ทนทาน ใคร ๆ ก็ทำได้ ....เตา 30 บาท เชื้อเพลิงชิ้นเล็กแค่ไหนก็ใช้ได้ แถมยังถูก ประหยัด ทนทาน ใคร ๆ ก็ทำได้ ....

 

ตะเกียงน้ำมันพืชใช้แล้ว วิธีทำง่ายๆ​

เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ค. 2017​

มาทำตะเกียงน้ำมันพืช ใช้เวลาแค้มป์ปิ้งง่ายๆ I lamp ทำได้ง่ายๆ หาที่กระป๋องน้ำอัดลมหรือกระป๋องเบียร์ก็ได้ มาใส่น้ำมันพืชที่ใช้แล้ว นำกระดาษชิชชูมามาม้วนเป็นกลมยาวใช้เป็นใส่ตะเกียง เท่านี้ก็สามารถทำตะเกียงแบบง่ายๆไว้ใช้ได้แล้ว

ไฟดับครั้งใหญ่ในกรุงการากัส ประชาชนแย่งกันขึ้นรถโดยสารหนาแน่น



เวเนซุเอลา 8 มี.ค. - ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา ประชาชนต้องแย่งกันขึ้นรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากไฟฟ้าดับ ทำให้รถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ

ที่กรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ ตามท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องยอมใช้เวลาหลายชั่วโมงเดินทางกลับบ้าน ขณะที่รถโดยสารสาธารณะที่เหลือให้บริการเพียงไม่กี่คัน แน่นขนัดไปด้วยผู้โดยสาร เนื่องจากไฟฟ้าดับทำให้รถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ ประชาชนเวเนซุเอลาต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับเป็นประจำ รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ปัญหาการขาดแคลนอาหารและยา ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า ส่งผลให้ชาวเวเนซุเอลากว่า 3 ล้านคน ตัดสินใจอพยพออกนอกประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีนีโกลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาอ้างว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งนอกจากที่กรุงการากัสแล้ว ผู้คนตามรัฐต่างๆ ของเวเนซุเอลาก็ต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับเช่นกัน .- สำนักข่าวไทย

 

เครื่องชาร์จแบตแบบประหยัดพลังงาน Motor-Generator รุ่นที่ 2 - Somsak Elect

เผยแพร่เมื่อ 27 พ.ค. 2014
เครื่องนี้ใช้หลักการของ Back EMF ในการชาร์จแบตเตอรี่ ​

 

โปรดเตรียมพร้อม ดูแลรักษากาย-ใจให้ดี​

​

เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2016
​

ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 8

จากตอนที่แล้วพระโพธิสัตว์ เมื่อทรงทราบว่า เรือจะต้องอับปางแน่นอน จึงได้รีบเสวยน้ำตาลกรวดคลุกกับเนยจนอิ่ม จากนั้นก็นำผ้าเนื้อเกลี้ยงสองผืนที่ชุบน้ำมันจนชุ่ม ทรงนุ่งให้กระชับ ประทับยืนเกาะเสากระโดง แล้วก็ทรงปีนขึ้นไปประทับยืนบนยอดเสากระโดงนั้น

ในเวลาเรือจมลง ก็ทรงกำหนดทิศที่ตั้งของเมืองมิถิลา แล้วก็กระโดดจากยอดเสากระโดงไปทางทิศนั้น ข้ามพ้นฝูงปลาร้ายไปตกอยู่ในที่ไกลจากเรือ......

​

 

ตอบคำถามเรื่อง วิธีใช้โปรตีนเกษตร
(ในตอนที่เกิดภัยพิบัติ อาหารโปรตีนจะขาดแคลนมาก)
​

เฉลิมชาติ ประไพ
เผยแพร่เมื่อ 2 ต.ค. 2018​