วิธีคุยกับใครแล้วไม่ไปหลงรัก

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย soodgame, 27 มีนาคม 2019.

แท็ก: แก้ไข
  1. soodgame

    soodgame สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +6
    53761832_2280376738852345_3251084295095189504_o%2B%25281%2529.jpg
    ถ้า เจอ ผช ที่ค่อยเปนค่อยไป ได้รู้นิสัยใจคอและประวัติเราพอสมควรแก่เวลา เขาจะเอ่ยปากเอง หรือส่งสัญญาณเปนนัยๆให้เรารู้ ว่าพร้อมรบพร้อมคบ แต่ถ้าจู่โจมในเวลาอันสั้นแล้ว ผช เล่นด้วย เสร็จแน่ หลอกฟัน หวังแค่ตัว จบเลยนะ อย่าเชียว

    ขอวิธีคุยกับใครแล้วไม่ไปหลงรักหน่อย
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    หลงนี้โดยส่วนตัวมองว่า ปล่อยให้หลงได้

    หากไม่ยอมให้มีความหลงเกิดขึ้นได้นั้น จะกลายไปเป็นการ ดักจับ หรือ ระงับ เอาไว้
    แต่ลักษณะของการดับจับ หรือ ระงับ เอาไว้นั้น จะสามารถทำได้เพียงชั่วคราวแต่เพียงแค่นั้น

    เปรียบเสมือน เรา เพ่ง/จดจ้อง วัตถุชิ้นเดียว แล้วไม่สนใจรอบข้างเลย
    แต่เมื่อเราเลิกจากการ เพ่ง/จดจ้อง ในสิ่งๆนั้นแล้ว มันก็จะกลับมาเกิดความหลงได้เหมือนเดิม

    ก่อนจะมี ราคะ กับ โทสะ เกิดขึ้นมาได้นั้น มันต้องมีตัวหลง เป็นตัวเริ่มก่อนเสมอ
    หลงไปเป็นราคะ หลงไปเป็นโทสะ

    เราเพียงแต่มี สติ+สัมปชัญญะ อยู่กับร่างกาย เมื่อสติ+สัปชัญญะ มีกำลังมากขึ้น
    ปฏิภาณไหวพริบ เราก็จะดีขึ้น ก็จะเกิดการ รู้เท่าทันกิริยา ตัวหลง ได้มากขึ้น
    ว่ากิริยา หลง ที่ไปเป็น ราคะ โทสะ ต่างๆเหล่านี้นั้น มันมีกิริยากระบวนการทำงานอย่างไร

    เดินไปอยู่ในบริเวณสถานที่ๆมีความร้อนก็ให้รับรู้ว่าร้อน สถานที่เย็นก็ให้รับรู้ว่าเย็น
    หากร้อนก็จะไม่ให้เกิด / เย็นก็จะไม่ให้เกิด
    อันนี้มันเส้นประสาทตายด้าน หรือ ไม่ก็พิการทางการรับรู้

    จิต/ธาตุรู้ +
    สัมปชัญญ/ความรู้สึกตัว = ไม่ใช่นิวรณ์ 5
    วิญญาณ/รับรู้ = มีนิวรณ์ 5

    33.jpg

    วิญญาณ/รับรู้ นี้อาศัยการไปสัมผัสจากรอบข้างมาเป็นเชื้ออาหาร เมื่อมีการรับอาหารมามาก
    ก็ที่เราเรียกว่า หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มจะหย่อน ถูกลุมเล้าด้วยความง่วงเหงาหาวนอน

    หากสติ + สัมปชัญญะ ยังมีกำลังไม่มาก ก็จะถูกนิวรณ์ 5 ปกคลุมแล้วก็หลับไหลไปโดยปริยาย

    นิวรณ์ 5 จึงถูกเรียกได้ว่าเป็น เครื่องกันความดี เครื่องกั้นความเพียร

    หากจะเป็นคู้แท้ ก็เห็นกันด้วยปัญญา มีปัญญาเห็นตามกันที่จะพอไปกันได้
    ไม่จำเป็นต้องเท่ากันหรือเสมอกันแบบเป๊ะๆ แต่แค่พอเวลาคุยกันแล้วมันรู้เรื่อง
    หรือไม่ก็ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรมาก เพราะโดยธรรมชาติก็เห็นอะไรที่ไกล้เคียงกันอยู่แล้ว
    อาจจะต่างกันด้วยระยะทาง หรือ ช่วงเวลา แต่มีความไกล้กันทาง การเห็น

    หากจะเป็นคู้ไม่แท้ ชั่วครู่ชั่วคราว ก็เห็นกันได้ด้วย รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส



     
  3. patus12

    patus12 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    ก็คุยแบบมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลาสิครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...