ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    สอบถามกันมามาก ก็พูดคุยกันคร่าวๆไว้ก่อนพระผงรุ่นฆ่าวิชานี่เหมาะกับคนที่มีศัตรูเยอะๆ ทั้งศัตรูที่มองเห็นและมองไม่เห็น
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก)

    "องค์ธาตุนี้เหมาะกับคนที่มีศัตรูเยอะๆ ทั้งศัตรูที่มองเห็นและมองไม่เห็น"

    องค์ธาตุหรือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์อันหล่อเลี้ยงโลกตัวนี้ พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "มหาธาตุฆ่าวิชา" ท่านว่าเนื้อเหล็กไหลชุดนี้ท่านได้มาจากพม่านับว่ามีปาฏิหาริย์มากทางด้านดับล้างศัตรูคู่อริ แม้เป็นยอดคนทรงอาคมมีวิชามีบารมีมากเพียงใดหากมาประทุษร้ายคิดไม่ชอบกับเราพระเวทย์นั้นก็เสื่อมถอยหมด ท่านจึงแปลกใจในอานุภาพองค์เหล็กอย่างมาก จนได้สอบถามสมเด็จองค์ปฐมบรมครู ซึ่งท่านก็ให้นามเรียกองค์เหล็กนี้ว่ามหาธาตุฆ่าวิชา ...ด้วยองค์ธาตุนี้มีคุณจำเพาะพิเศษเหมาะจะใช้ล้างอาถรรพ์ในร่างกายคนหรือสถานที่ต่างๆที่มีอาถรรพ์มาก # ร่วมไปถึงกายสังขารใดที่ปนเปื้อนด้วยอวิชชาการกระทำสั่งสมมานับแต่อดีตชาติมิอาจสำนึกรู้ได้ อาถรรพ์และอวิชชาที่ขัดขวางให้เจ็บไข้ได้ป่วย ขัดขวางการทำมาหากิน ขัดขวางความสำเร็จในทุกสถาน ทั้งคุณผี,คุณเจ้า,คุณเทวดา,คุณปีศาจทั้งหลายที่รังแกเราจะกระทำต่อตัวเราหรือสถานที่ของเราไม่ว่าจะที่ทำมาหากินที่ดินหรือบ้านเรือนก็ดี สิ่งเหล่านั้นจะจางลับดับหายไปและจะมากระทำต่อเราไม่ได้อีกเลย(เรียกว่าไปแล้วไปลับไม่กลับมาทักทายเราเรื่อยๆนั่นแหละ) ท่านว่านี่แหละชีวิตใครที่ว่าเดือดร้อนหรือคับขันให้เชิญองค์ธาตุฆ่าวิชาไปบูชา ศัตรูจะทำอันตรายอะไรเราไม่ได้เลยทั้งที่ตามองเห็นและมองไม่เห็น(พ่ออาจารย์ท่านว่ามันลึกล้ำมากกว่าคำว่าศัตรูเพราะแท้จริงองค์เหล็กยังกำราบอวิชชาคำสาปและอาถรรพ์แต่ปางบรรพ์ในเนื้อตัวของคนห้อยด้วย) แม้บุคคลใดที่เล่นคุณวิชาหรือมีของดีรักษาตัวก็จะมาแข่งวาสนาบารมีกับเรานั้นไม่ได้ ด้วยองค์ธาตุท่านกำจัดไม่มีเหลือ ทั้งนี้หากองค์ธาตุได้ปราบปราม,ข่มเหง,ผูกมัดหรือขับไล่แก้ไขแก่สิ่งใดในชีวิตเราแล้วท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นเวรกรรมต่อกัน เพราะองค์ธาตุฆ่าวิชานี้เป็นยอดกายสิทธิ์สายบารมี สด็จพระใหญ่ท่านบอกเราว่าเขาจะขับความพยาบาทให้จางหายไม่อาฆาตจองเวรต่อกันทั้งองค์ธาตุนี้จิตของเขายังแผ่กำลังกุศลตั้งจิตของเขาให้อภัยไม่ผูกติดพยาบาทสิ่งใดก็ตาม จึงเป็นของอาถรรพ์ที่ทรงกำลังทั้งยังอยู่เหนือกฏของเวรกรรมอย่างแท้จริง ท่านว่าใครที่กลัวๆว่าจะใช้ของแล้วจะติดเวรกรรมกับผู้อื่นต้องใช้องค์ธาตุที่ให้คุณเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญองค์ธาตุนี้มาฝังไว้ในพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์ทรงกิเลนฟ้าของท่าน โดยเจาะจงฝังองค์ธาตุไว้ใต้ที่ประทับพระศาสดา และตั้งสถิตย์อยู่บนหลังกิเลนฟ้าสวรรค์ ท่านว่า *** วิชาสร้างองค์พระเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้น คือการนำกำลังของเจตนาความตั้งใจมุ่งหมาย หรือจงใจจะกระทำให้เป็นไป เป็นเจตนาของสวรรค์ที่จงใจจะโปรดเราแม้ขัดกับพรหมลิขิตหรือกรรมบันดาลต่างๆ...ท่านว่าเรื่องมันใหญ่แต่เราพูดได้แค่คร่าวๆเท่านี้เสด็จพระใหญ่ท่านให้เลี่ยงไปพูดอย่างอื่นดีกว่าท่านว่าให้เขารู้แค่เท่านี้ นอกเหนือจากนี้ผู้ใดอาราธนาองค์พระก็เสมือนอยู่ในบัญชรแวดล้อมของเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอสีติมหาสาวกทั้งหลายตลอดเวลา ดุจมีดวงแก้วเจตน์จำนงค์สวรรค์จะใช้ทางอธิษฐานบอกกล่าวต่อเจตน์จำนงค์ของโลกและสวรรค์โดยตรงก็ได้หรือจะอาราธนาเปิดภูมิปัญญาและวิปัสนาของตนก็ได้ โดยผู้ที่อาราธนาองค์พระนั้นจะมีญาณทัศนะเฉพาะตนที่กระจ่างเเจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมดุจสัมผัสพิเศษได้ถูกขัดเกลา ทั้งจะชักนำตัวเองไปสู่หนทางของความสุขอันประเสริฐ ชีวิตจะไม่ตกต่ำหรือหยุดอยู่จุดเดิม แม้ภูติผีปีศาจก็ไม่กล้าเข้าใกล้ สิ่งที่ขัดขวางหรือคนที่เป็นภัยคอยทำอันตรายจะทำลายเราไม่ได้เลย ปัญหาและข้อขัดข้องในชีวิตทั้งหลายจะจืดจางหายไป..จะใช้เรียกโชคลาภใดๆก็ง่ายดุจใจปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารมงคลต่างๆ เช่น พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล้กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช.. ท่านว่ากว่าจะรวบรวมมวลสารจนครบตามตำราพ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องเจออาถรพพ์อะไรมามากมายเเละยากกว่านั้นก็คือการบดเป็นผง ของบางอย่างกว่าจะบดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกินเวลาหลายสิบปี เมื่อรวบรวมผงได้แล้วท่านจะนำมาปั้นเป็นแท่งชนวนลงวิชาหมื่นกาลผันชีวิต ท่านว่าวิชานี้สามารถใช้แปรเปลี่ยนเหตุของทุกข์ได้นับหมื่น ไม่ว่าจะเหตุของทุกข์ที่เชื่อมโยงกับกาลเวลาใดทั้งในอดีตและปัจจุบันย่อมแก้ไขได้ แปรเปลี่ยนได้ ผกผัน กลับตาลปัตได้เช่นนั้น เรียกว่าอะไรที่มันดีก็ดีดให้มันดีกว่าเดิม อะไรที่มันแย่มีต้นเหตุมาจากกรรมนำพาแต่ชาติก่อนๆหรือหาสาเหตุไม่ได้ก็ผันกลับให้มันดีขึ้นมาได้ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาเอาไว้กลับวาสนาชะตาคนที่ร้ายก็เปลี่ยนให้ดี

    พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นท่านทำวิชากิเลนฟ้าสวรรค์เป็นฐานแบกองค์ธาตุและองค์ธรรม(สมเด็จองค์ปฐม)เอาไว้ด้วย ท่านว่าทำเช่นนี้จึงครบทั้งธาตุและธรรมพระผงรุ่นนี้จึงเป็นสิ่งแทนครูแทนใจขององค์ต้นธาตุต้นธรรมเมื่ออาราธนาจึงได้ชื่อว่าครูอยู่ครบทั้งธาตุทั้งหลายยังมาชุมนุมเกื้อหนุนเราทั้งสิ้น นอกจากนี้วิชากิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านก็ยังให้คุณมากดั่งที่ทราบกันดี..ว่า
    หากกล่าวถึงกิเลนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสัตว์สวรรค์ที่มีตัวตนอยู่จริงเพราะท่านเคยเห็นมันมาก่อนและท่านก็รู้ว่าหากใครมีวาสนาดีพอจะได้เห็นกิเลนแล้ว ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    ด้วยเชื่อว่ากิเลนนั้นมีลักษณะของสัตว์มงคลห้าชนิดรวมกัน คือ หัวมังกร เขายูนิคอร์น ตัวเป็นกวาง มีเกล็ดเหมือนปลา มีหางเหมือนวัว และยังเกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และทอง ผสมกันจึงเป็นสัตว์สวรรค์ชนิดเดียวที่มีความสมดุลย์ของเบญจธาตุซ้ำยังมีอายุอยู่ได้ถึงหลายพันปีและถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี เมื่อจะปรากฏให้เห็นครั้งใดก็จะเกิดผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขเมื่อนั้น ดั่งในยุคของฝูซีเป็นผู้ปกครองโลกกิเลนได้ปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำฮวงโห หลังกิเลนมีลายอักขระจารึกซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นตัวอักษร กิเลนจึงถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของวาสนาและความมั่นคง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ เรียกได้ว่ากิเลนเมื่อปรากฏขึ้นที่ไหนหมายถึงสถานที่นั้นกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น หรือผู้ใดได้เห็นกิเลนบุคคลผู้นั้นก็จะมีแต่โชคดีไม่มีเรื่องร้าย ซ้ำพลังงานของกิเลนยังจะช่วยกรองและขจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆให้พ้นตัวไปแลจะนำเอาความโชคดี ข่าวดีมาให้ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ทั้งยังมีนิสัยเชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ แม้จะมีฤทธิ์มีอำนาจแต่ก็ไม่เคยทำร้ายคน ไม่ทำลายต้นไม้ใบหญ้าจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากิเลนนั้นเป็นสัตว์ห้าธาตุที่เหนือกว่าเทพพิทักษ์ประจำธาตุทั่วๆไปจึงมีขนห้าสีปรากฏอยู่กลางหลัง ซ้ำยังมีกำลังนำธาตุทั้งห้ามาเล่นฤทธิ์ได้เช่นพ่นน้ำ พ่นไฟ ทำเสียงคำรามเหมือนฟ้าดินแปรปรวน มีเขาเป็นอาวุธวิเศษ คนจีนโบราณเรียกกิเลนว่าเหรินโซ่ว ด้วยเพราะกิเลนมีนิสัยประหลาดไม่เคยทำร้ายใครถึงขนาดที่ว่าจะไม่เดินเหยียบย่ำลงไปในใบหญ้าที่ยังเขียวสด อีกทั้งไม่เหยียบย่ำแมลงเล็กๆที่มีชีวิตนี่จึงเป็นคุณลักษณะทางเมตตาที่กิเลนแสดงออกอย่างใหญ่หลวงต่อสรรพชีวิต ต่างจากสัตว์เทพชนิดอื่น ด้วยเป็นสัตว์มีเมตตาสูง มีใจอารี ไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์จึงใช้ฤทธิ์ของกิเลนที่มีครบทั้งห้าธาตุทั้งยังมีลักษณะเชื่องด้วยเมตตาแลเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างที่สุดมาสร้างเป็นฐานรององค์ธาตุองค์ธรรม
    นอกจากกิเลนเป็นสัตว์ที่มีเมตตามีคุณธรรมสูงอีกทั้งซื่อสัตย์ แม้ในเรื่องการสลายพลังงานพิฆาตเขาก็ยังทำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ทำเครื่องมงคลอันมีลักษณะเฉพาะเกี่ยวข้องกับพลังงานลบทั้งหลายก็ทำได้เพียงการขับดันดูดกลืนถ่ายเทให้เกิดสมดุลย์ทำได้เพียงกลับสถานการณ์เลวร้ายให้ค่อยๆดีขึ้น แต่กับกิเลนนั้นเค้ามีสายเลือดพิเศษและมีพลังเฉพาะตัวของเขาจะเรียกว่ามีคุณเฉพาะทางก็ได้นั่นคือการสลายพลังพิฆาต ไม่ใช่การดูดขับปรับสมดุลย์แต่เป็นการสลายทิ้งไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอพอจะนึกออกมั๊ย สลายก็คือหมดไป อยู่ดีๆมันก็หมดไปไอ้ตัวเคราะห์ร้ายทั้งหลายนั่นแหละ คือไม่ใช่มันไม่เกิดนะแต่มันหมดมันจึงเกิดไม่ได้ กิเลนจึงนับว่าแตกต่างกับสัตว์อื่นๆเช่นเสือสิงห์ มังกรแลสัตว์เทพทั้งหลายดังนี้ และผู้รู้มักจะใช้กิเลนเป็นเทพพิทักษ์คือใช้ไปในทางปกปักรักษามากกว่านำไปใช้ทำลายล้างผลาญใคร ด้วยเป็นสัตว์เทพที่ให้คุณอนันต์ชนิดที่แม้เทวดาหรือโพธิสัตว์ยังปรารถนาจะได้มาเลี้ยงไว้เพื่อดึงดูดสิริมงคล เพราะกิเลนนั้นนอกจากเขาจะสลายพลังพิฆาตแล้ว เมื่อเขาสลายพลังงานนั้นหมด พลังของเขาจะเริ่มดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาผู้ดูแลเป็นระบบของเขาด้วย
    ด้วยเป็นสัตว์เทวะที่คอยปราบปรามความชั่ว คอยปกป้องคนดี และมอบความโชคดีให้คนเหล่านั้น เช่นนั้นใครที่ได้บูชากิเลนจึงนับว่าเป็นโชคอย่างมหาศาล เพราะกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดโชคลาภและวาสนาที่จะดีดสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาลจนน่าประหลาดใจเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยปกตินิสัยสัตว์เทพตัวนี้จะรักสิ่งสวยงาม รักทรัพย์สมบัติและของมีค่าเช่นนั้นจึงถือว่าเขาแสวงหาทรัพย์ทั้งหลายเก่งกว่าผู้ใด เพราะในที่สิงสถิตย์ของเขาแม้จะเป็นที่นอน ที่นั่ง หรือที่ซึ่งเขาจะยืนเป็นประจำนั้นล้วนแต่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมณีจินดาอันสูงค่าทั้งหลายวางกองไว้ ด้วยนิสัยกิเลนนั้นจะเรียกว่ามักใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่ผิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำรูปกิเลนหนนี้ ด้วยนอกจากจะตั้งใจสลายพลังงานพิฆาตดึงดูดโชคดีแล้ว ยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงจนน่ากลัว และปรับวาสนาคนให้ผกผันมาใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองเช่นกิเลนฟ้าได้ ด้วยปกติกิเลนนั้นจะนั่งทับเงินทองของมีค่าต่างๆจึงถือเป็นเคล็ดที่จะใช้เพื่อดึงดูดโชคลาภและรายได้ให้ไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ ช่วยให้คนเลี้ยงประสบความสำเร็จทั้งมีวาสนาบารมีให้ชีวิตมีความมั่นคง

    *** กิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่เหมาะจะใช้กิเลนของฉันนั้นมีทั้งหมดสองประเภท นั่นคือคนที่โชคร้ายตั้งแต่เกิด กับคนที่เพียรกระทำตามความฝัน ทำอย่างดีที่สุดแล้ว และอยากจะประสบโชควาสนานี่จึงเอากิเลนฉันไปใช้ได้ ส่วนคนที่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรอย่าเอาไป ด้วยกิเลนถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ฉันทำกิเลนในครั้งนี้ใครที่มีกิเลนของฉันต่อไปเขาจะเกิดความรู้แจ้งบางอย่าง สิ่งใดที่เป็นปัญหาเขาจะแก้ไขได้ คนเหล่านี้ต่อไปจะพึ่งพาตนเองได้ เธอจงจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเถิดว่ากิเลนของฉันนั้นจะนำสิ่งมงคลดึงเข้ามาหาตัวเธอ ด้วยปกติชีวิตคนนั้นมักจะแหวกว่ายฟันฝ่าไปหาโชคลาภวาสนา พยายามทุกทางเพื่อจะไปหาความสำเร็จ แต่คุณวิเศษในตัวกิเลนนั้นเมื่อเค้าอยู่คู่กับเธอแล้วไอ้สิ่งที่พวกเธอทั้งหลายตามหานั่นแหละที่มันจะต้องเปลี่ยนมาตามหาเธอแทน พอจะเข้าใจหรือไม่ว่าไม่ใช่เราที่ต้องไปไขว่คว้าแต่เป็นตัววาสนาต่างหากที่มันจะพยายามไขว่คว้าเข้ามาให้ถึงตัวเรา เช่นนั้นฉันจึงถือว่ากิเลนของฉันได้นำความสุขแลความเป็นมงคลมาสู่มนุษย์แล้ว ถ้าเธอเป็นคนมีจิตใจดีกิเลนนั้นจะสงสารให้ความช่วยเหลือ สำหรับมิตรกิเลนเขาจะปฏิบัติตัวอย่างมิตรและให้ความเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์หมดหัวใจ แต่สำหรับศัตรูของเธอนั้นเขาจะตอบโต้เหมือนดั่งศัตรูของเขาเช่นกัน รับรองว่าใครที่กิเลนโต้ตอบเช่นศัตรูนั้นไม่มีดีให้เหลือแน่นอน
    ด้วยกิเลนนั้นเป็นต้นกำเนิดของแผนภูมิสวรรค์ทั้งแปดทิศ หรือที่คนพอจะนึกภาพออกคือยันต์แปดทิศนั่นเองด้วยที่หลังของกิเลนนั้นจะมียันต์แปดทิศประทับไว้เช่นนั้นจึงถือเสมอว่ากิเลนนั้นเป็นผู้มอบแผนภูมิสวรรค์ เป็นผู้มอบความรู้ มอบภาษา มอบตัวอักษรให้กับมนุษย์ ซึ่งต่อมาตัวอักษรนั้นก็พัฒนาขึ้นเป็นองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเขาเป็นสัตว์เทพที่ผูกพันธ์กับการใช้ชีวิตของมนุษย์โดยตรงมาตั้งแต่ต้นต่างจากสัตว์เทพตัวอื่นๆที่ไม่ไยดีมนุษย์ เพราะเขาสามารถบัญชาได้ทั้งห้าธาตุ และยังเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษย์โลก ให้เธอคิดกันให้ดีว่ามีวันไหนบ้างที่เธอไม่พูด ไม่ใช้ภาษา ไม่ได้ใช้ชีวิตโดยอาศัยองค์ความรู้อยู่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ นั่นย่อมไม่มีเช่นนั้นกิเลนจึงมีพลังทางด้านความคิดและสติปัญญาอันสูงส่ง แม้ผู้ใดได้ครอบครองชีวิตเขาก็อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยกิเลนกำเนิดจากธาตุทั้งห้าคือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้และทองรวมกัน ตัวเขาจึงเป็นความกลมกลืนของสรรพสิ่ง ทั้งยังทรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในทุกที่อันเขาสถิตย์อยู่ มีทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง มั่นคงและยั่งยืน เรียกว่าสถานะของกิเลนเทียบเท่ามังกรเลยทีเดียวด้วยเป็นสัตว์สวรรค์ที่ให้คุณเรื่องโชคลาภทรัพย์สินและยังถือเป็นสัตว์สวรรค์ชั้นสูงในห่วงโซ่อาหาร จึงเป็นธรรมดาที่ผู้มีบารมีกิเลนเกื้อหนุนจะเจริญในกิจการที่กระทำอยู่มากเพราะเขาเป็นตัวแทนแสดงถึงอำนาจและยศศักดิ์เรียกว่าใครที่ชีวิตยังไม่เจริญนี่จะไต่เต้าไปได้ไกลมาก ส่วนใครที่ขึ้นไปแล้วแต่ยังไม่สุดเขาก็จะดันให้ขึ้นไปได้อีก ซ้ำบารมีกิเลนเมื่อปรากฏที่ไหนสถานที่นั้นจะผูกสมัคร รักใคร่ กลมเกลียวกันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    ด้วยกิเลนนี้มีความเชื่อว่าแค่ได้เห็นก็เป็นบุญตา หากได้พบก็ถือเป็นวาสนาเปลี่ยนชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดสร้างกิเลนขึ้นมาเพื่อให้คนใช้พบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ท่านว่าขอแค่ได้เห็นได้มองทัศนาก็นับว่าชีวิตเปลี่ยนกลับวาสนา บางคนรู้จึงเอามาดูบ่อยๆ แน่นอนว่าการใช้เพียงแค่เราหยิบเขามาดูบ่อยๆแค่นั้นก็นับว่าเปิดประตูความโชคดีแล้ว แม้จะหมั่นพูดหมั่นคุยกับเขาได้อันนั้นก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากว่าวันใดเขาปรากฏตัวในนิมิตหรือในความฝันแน่นอนว่าวันนั้นจะได้ลาภใหญ่หรือมีวาสนาไม่คาดฝันมาถึงตัว


    ด้านหลังนั้นท่านได้ฝังปี่เซี๊ยะลูกขี่แม่เอาไว้ ท่านว่าเป็นกำลังของมารดาที่จะคอยปกปักคุ้มครองลูก เป็นห่วงลูก จับลูกอุ้มใส่หลังอย่างไม่ถือตัวทั้งยังยกลูกให้สูงเหนือกว่าตนเอง ตรงนี้ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดของการป้องกันและผลักดันตัวเรา ดั่งเรามีกำลังของแม่ยกเราไว้เสมอ ด้วยรักที่มารดามอบให้ย่อมอบอุ่นจริงใจและบริสุทธิ์ที่สุดฉันใดพลังนั้นก็สนองถึงตัวเราแบบไม่หวังผลใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ปี่เซี๊ยะนั้นปกติเขาจะคอยเรียกโชคลาภทำให้การทำมาหากินธุรกิจการค้าที่เราทำอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเขาเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษมีทั้งอำนาจจากมังกร มีพลังปราบปรามได้ทั่วไปดั่งสิงโต ทั้งเป็นราชาแห่งผืนฟ้าไปได้ในทุกที่ดั่งพญาอินทรีย์ เป็นตัวแทนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่มาพร้อมความยั่งยืนร่ำรวยและชื่อเสียง ทั้งยังมีตาทิพย์มองเห็นในที่มืดและมองเห็นสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้ายขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าตัวด้วย
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาส่วนมากก็ให้ผลแค่เสมอตัว แต่หากใช้ปี่เซี๊ยะคู่แม่ลูกนั้นจะโดดเด่นเป็นเลิศกว่าปกติอุปมาดั่งเอากำลังสุนัขมาเทียบกับช้างสารเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าไกลกันมาก ที่ให้ผลดังนี้ก็เพราะว่าความรักและความผูกพันธ์ของแม่ลูกนั้นมีกำลังมากกว่ารักใดๆในโลก เขาจะรักษาทรัพย์สินและโชคลาภของเราไว้ ขจัดความยุ่งยากในชีวิตเราออกไป ทั้งช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวยและใช้กำราบอัปมงคลความชั่วร้ายทั้งหลายได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ
    ปี่เซี๊ยะที่ท่านลงตั้งธาตุขึ้นรูปปลุกเสกลงอาการไว้และสร้างจากแผ่นยันต์เรียกทรัพย์เข้าด้วยวัชรธาตุนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์มาก(ท่านว่าแม้ยอดหยกหรือทองคำก็ไม่อาจเทียบได้ ด้วยปี่เซี๊ยะของเรานั้นตั้งต้นด้วยแรงครู แรงวิชาเรียกทรัพย์ตลอดจนกายสิทธิ์ธาตุอันคู่ควรจะเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณชั้นสูงมากกว่าธาตุใดๆจึงครบทั้งพลังและธาตุขันธ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะคนที่ "ต้องการให้เงินเข้ากับคนที่ชีวิตไม่อยากเป็นหนี้ได้ใช้" ด้วยคุณลักษณะที่เขาหนุนเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออกมีเป้าหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้ายเลวทรามทั้งยังบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ในชะตาชีวิต ด้วยเขาเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างและไม่มีรูทวารจึงเป็นที่มาของการดูดทรัพย์สินอย่างเดียวไม่ให้ทรัพย์นั้นพร่องไปไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสองแรงทั้งแม่และลูกยากที่จะมีอะไรมาสู้ฤทธิ์ได้ ท่านทำให้ตรงตามลักษณะคือยกหัวสูงข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างดูดทรัพย์ลิ้นคอยตวัดเงินทองเข้าท้อง อกตั้งตรงผึ่งผายน่าเกรงขาม ขาก้าวนำให้ชีวิตเราเดินหน้า เท้าตะปปเงิน หางกวักขึ้นเรียกโชคลาภ ด้วยไม่มีรูทวารจึงกินแล้วไม่ถ่ายออกเป็นเคล็ดให้ชีวิตเรามีแต่รับสถานเดียวและนอกจากนี้ตัวปี่เซี๊ยะเองยังสามารถสัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว,ชัดเจนและแม่นยำจึงหาวาสนามาให้เราได้ตลอดเสมอๆ
    ปี่เซียะแม่หนุนลูกนั้น
    ให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังเรียกว่าเราผู้เป็นนายตัวตนจะเป็นอย่างไรเขาก็สวามิภักดิ์รักเราหมดใจ ทั้งยังเสริมบารมีให้กับเจ้าของได้ทุกชะตาราศีท่านว่าใช้เขาแล้วปล่อยวางเปลื้องปลดเรื่องปีชงกลัวดวงชะตาดวงดาวขัดแย้งกันไปได้เลย

    ด้วยมีคุณของปี่เซี๊ยะแม่ลูกทั้งยังมีกิเลนฟ้าสวรรค์รวมอยู่ในองค์เดียวกันเช่นนี้จึงเหมาะสมที่จะแบกรับกำลังเจตน์จำนงค์สวรรค์ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงรุ่นนี้ฉันบอกเธอได้คร่าวๆว่ามีกำลังมากเหนือกรรมลิขิตและพรหมลิขิตใด เพราะเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นคือความต้องการของอาตมันมีมาก่อนจะเกิดสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาเสียอีก ทั้งยังให้คุณหนักแน่นรุนแรงกว่าแรงกรรมแรงเทพพรหมใดๆ
    ท่านลงตะกรุดโองการเจตน์จำนงค์สวรรค์ฝังไว้ ด้วยเมื่อกำลังฟ้ามีเจตน์จำนงค์ปกาศิตใดๆออกไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย หากเราอธิษฐานต่อองค์พระขอต่อเจตน์จำนงค์สวรรค์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นย่อมอยู่เหนือลิขิตทั้งหลายอย่างแท้จริง...ถือว่าเราได้ทำสิ่งที่เป็นตำนาน จากตำนาน สืบตำนาน... ให้ชีวิตเราเป็นดั่งตำนาน

    คาถาบูชา
    อุกาสะ วันทิตวา สิริสัมพุทธัง อันตรายัง ปะนะมามิหัง อิถัญจะปูชิตัง เหฏฐายะฉะทินนา จัตตาสัตถา สาคะระมุนี ยักขะลา เวสสุวันโน อาทิปัตติราชา มหาสัตถา สาคโร ประสิทธิเมสัทธา
    อาราธนาองค์พระ อังคะสัมพุทโธ โลกะหิโตจะเสฏโฐ ธัมมะยะโก เทวิเทโว โลโกหิ หาทายะ จิเจรุนิจิตตัง เจตตสิกกัง รูปังนิพพานัง นะมะพะทะ วาโยธาตุทิสังวา จะภะกะสะ วาโตเสโน อัสสะโส นิพพานังสูญญัง นะปะทุกะ จิปะตินะ หะกะ อิคะวิติ ปติ เอหะติอิกะวิปะติ


    ท่านว่าเมื่ออาราธนาและกำองค์พระไว้ในมือจะรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นขนลุกขนชันผมตั้งมีกระแสพลังขับผ่านเข้าออกอย่างบอกไม่ถูกสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คุณพระท่านเริ่มสงเคราะห์เรา เมื่อเราว่าคาถาอธิษฐานสิ่งใดแล้วมีอาการเช่นนี้แน่นอนว่าแม้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่หากอาราธนาองค์พระวันใดแล้วมีอาการพิกล รู้สึกว่าวันนี้เครียด โมโหร้าย หงุดหงิดง่าย ท่านว่าให้หยุดกิจที่จะทำเสีย อย่าทำ อย่าไปเลย ถึงทำไปก็ไม่มีโชคใดๆ

    ### พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้ว่าพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นของสูงมีค่าควรเมืองยิ่งกว่าสมบัติจักรพรรดิแม้ม้ารถคชพลหรือปราสาทแก้วใดๆ ด้วยเจตน์จำนงค์นั้นเขาจะเลือกผู้เหมาะสมและคู่ควรสำหรับตัวเขาเอง ใครที่มีชะตาต้องกันย่อมถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้แค่ห้าองค์เท่านั้น ท่านว่าทำยาก พอทำมารุ่นนี้แม้ตัวเราเองก็ไม่มีวาสนาได้ใช้เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านบัญชาไว้ให้เอาไปช่วยคนที่เดือดร้อนและเป็นคู่วาสนากันจริงๆดีกว่าด้วยตัวของท่านหวังเอาดีทางธรรมไม่ได้เดือดร้อนสิ่งใด ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนที่อยากได้วาสนาทางโลกเขาครอบครอง ...รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หน้าที่การงาน ความปรารถนาหลักในชีวิตไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสให้ครบสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก) บูชา 4,000 บาท


    79743533-2655383851196102-8940704845942226944-n.jpg 78655094-2259571667668589-4073387532312641536-n.jpg
    78663336-818315548589490-452504981073821696-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2019
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พระรุ่นนี้ท่านว่าให้สายบู๊เขาใช้ นอกจากเอาไปปราบคนอื่นเหนือสิ่งใดเลยคือเอาไว้รบกับชีวิตตัวเอง ถ้ายังไม่พอใจชีวิตที่เป็นอยู่หรือคิดว่าไปได้ดีกว่านี้ก็นำมาอาราธนา
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มีคนถามขนาดองค์พระ ผมก็ไม่รู้จะแจ้งยังไงเลยวัดข้อนิ้วดู ต้องบอกว่ารุ่นนี้ท่านทำมาไซด์เล็กจริงๆ วัดได้หนึ่งข้อนิ้วโป้งพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน องค์เล็กกว่าพระสมเด็จปกตินิดนึง เรียกได้ว่านับเป็นชุดที่ไซด์หน้าห้อยที่สุดในบรรดาเครื่องมงคลเลย
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ EI 4838 0246 2 TH

    พี่ศิระ EI 4838 0247 6 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มีคนสนใจเทพปี่เซี๊ยะกันมาก บางคนเล่าว่าครูไปหา..ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงครูสูงเพราะหล่อหลอมจากแผ่นยันต์ที่ตรงกับความสามารถของเขาจริง
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามปี่เซี๊ยะกันดีๆนะ โดยเฉพาะตะกรุดที่ท่านนำมาผูกให้ถือว่าใช้แทนของเก่าได้เลย
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก(ผูกตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี)

    " บางคนเล่าว่าครูไปหา ให้หามาไว้ใช้บ้างเดี๋ยวตามคนอื่นเขาไม่ทัน ....ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงครูสูงเพราะหล่อหลอมจากแผ่นยันต์ที่ตรงกับความสามารถของเขาจริงๆ "

    ปี่เซี๊ยะลูกขี่แม่ ท่านว่าเป็นกำลังของมารดาที่จะคอยปกปักคุ้มครองลูก เป็นห่วงลูก จับลูกอุ้มใส่หลังอย่างไม่ถือตัวทั้งยังยกลูกให้สูงเหนือกว่าตนเอง ตรงนี้ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดของการป้องกันและผลักดันตัวเรา ดั่งเรามีกำลังของแม่ยกเราไว้เสมอ ด้วยรักที่มารดามอบให้ย่อมอบอุ่นจริงใจและบริสุทธิ์ที่สุดฉันใดพลังนั้นก็สนองถึงตัวเราแบบไม่หวังผลใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ปี่เซี๊ยะนั้นปกติเขาจะคอยเรียกโชคลาภทำให้การทำมาหากินธุรกิจการค้าที่เราทำอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเขาเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษมีทั้งอำนาจจากมังกร มีพลังปราบปรามได้ทั่วไปดั่งสิงโต ทั้งเป็นราชาแห่งผืนฟ้าไปได้ในทุกที่ดั่งพญาอินทรีย์ เป็นตัวแทนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่มาพร้อมความยั่งยืนร่ำรวยและชื่อเสียง ทั้งยังมีตาทิพย์มองเห็นในที่มืดและมองเห็นสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้ายขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าตัวด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาส่วนมากก็ให้ผลแค่เสมอตัว แต่หากใช้ปี่เซี๊ยะคู่แม่ลูกนั้นจะโดดเด่นเป็นเลิศกว่าปกติอุปมาดั่งเอากำลังสุนัขมาเทียบกับช้างสารเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าไกลกันมาก ที่ให้ผลดังนี้ก็เพราะว่าความรักและความผูกพันธ์ของแม่ลูกนั้นมีกำลังมากกว่ารักใดๆในโลก เขาจะรักษาทรัพย์สินและโชคลาภของเราไว้ ขจัดความยุ่งยากในชีวิตเราออกไป ทั้งช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวยและใช้กำราบอัปมงคลความชั่วร้ายทั้งหลายได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ

    ปี่เซี๊ยะที่ท่านลงตั้งธาตุขึ้นรูปปลุกเสกลงอาการไว้และสร้างจากแผ่นยันต์เรียกทรัพย์เข้าด้วยวัชรธาตุนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์มาก(ท่านว่าแม้ยอดหยกหรือทองคำก็ไม่อาจเทียบได้ ด้วยปี่เซี๊ยะของเรานั้นตั้งต้นด้วยแรงครู แรงวิชาเรียกทรัพย์ตลอดจนกายสิทธิ์ธาตุอันคู่ควรจะเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณชั้นสูงมากกว่าธาตุใดๆจึงครบทั้งพลังและธาตุขันธ์)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะคนที่ "ต้องการให้เงินเข้ากับคนที่ชีวิตไม่อยากเป็นหนี้ได้ใช้" ด้วยคุณลักษณะที่เขาหนุนเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออกมีเป้าหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้ายเลวทรามทั้งยังบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ในชะตาชีวิต ด้วยเขาเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างและไม่มีรูทวารจึงเป็นที่มาของการดูดทรัพย์สินอย่างเดียวไม่ให้ทรัพย์นั้นพร่องไปไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสองแรงทั้งแม่และลูกยากที่จะมีอะไรมาสู้ฤทธิ์ได้ ท่านทำให้ตรงตามลักษณะคือยกหัวสูงข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างดูดทรัพย์ลิ้นคอยตวัดเงินทองเข้าท้อง อกตั้งตรงผึ่งผายน่าเกรงขาม ขาก้าวนำให้ชีวิตเราเดินหน้า เท้าตะปปเงิน หางกวักขึ้นเรียกโชคลาภ ด้วยไม่มีรูทวารจึงกินแล้วไม่ถ่ายออกเป็นเคล็ดให้ชีวิตเรามีแต่รับสถานเดียวและนอกจากนี้ตัวปี่เซี๊ยะเองยังสามารถสัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว,ชัดเจนและแม่นยำจึงหาวาสนามาให้เราได้ตลอดเสมอๆ

    ปี่เซียะแม่หนุนลูกนั้นให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังเรียกว่าเราผู้เป็นนายตัวตนจะเป็นอย่างไร,จะเป็นคนอย่างไร,มีนิสัยอย่างไรเขาก็สวามิภักดิ์รักเราหมดใจ ทั้งยังเสริมบารมีให้กับเจ้าของได้ทุกชะตาราศีท่านว่าใช้เขาแล้วปล่อยวางเปลื้องปลดเรื่องปีชงกลัวดวงชะตาดวงดาวขัดแย้งกันไปได้เลย

    ตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี

    ท่านว่าส่วนนี้คือวิชาขั้นสูงสุดในหมู่นิยตโพธิสัตว์ ท่านเดินบทมหาทานว่าด้วยปรมัตถบารมีอันยิ่งยวดขององค์พระเวสสันดร ซึ่งเป็นพระชาติสุท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระเวสสันดรนี้มีกำลังของการให้สูงมาก เพราะท่านถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราช แต่กลับบำเพ็ญปรมัตถบารมีตามประเพณีแห่งพระบรมโพธิสัตว์ ท่านพร้อมที่จะสละทรัพย์ภายนอกทั้งปวงให้แก่ผู้ต้องการและมาขอท่านเพื่อที่สุดแห่งมหาทานบารมี พ่ออาจารย์ท่านพูดให้คิดว่า วิชานี้เราเป็นผู้ขอ เอาไปใช้เถิด ไม่มีอะไรจะง่ายและสบายเท่านี้อีกแล้ว

    ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่เดิมจึงหยิบยกพรรณคุณวิเศษตรงนี้มาทำเป็นตะกรุด แต่ว่ามันเป็นตะกรุดเฉพาะทางสายบารมีพระมหาโพธิสัตว์เจ้าที่ไม่มีใครปรารถนาจะยกให้ใครทำให้ใครสอนใครให้สืบทอดเท่าไหร่ เพราะเป็นวิชาเฉพาะที่เวลาเราไปขออะไรใคร เค้าก็ต้องจำยอมโอนอ่อนยกให้ตามปากเราเช่นนั้น ดุจดั่งลูกขอพ่อก็ต้องตามใจพร้อมที่จะป้อนให้ เหมือนองค์พระเวสสันดรหน่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านปรารถนาจะเข้าไปถึงข่ายแห่งพระโพธิญาณจึงกระทำมหาทานปรมัตถบารมีอย่างสุดกำลัง ให้ทุกอย่าง ทรัพย์ภายนอก ทรัพย์แห่งโลกีย์วิสัยผู้ใดปรารถนาสิ่งใดพระองค์ยกให้ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น

    วิชานี้ท่านว่าแปลกนักขอให้สิ่งที่เราขอเขามี...เขาให้หมดเลย ไม่เช่นนั้นปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอากับกับตะกรุดกับคุณวิชาย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ เพราะตะกรุดนี้เป็นศูนย์รวมผลแห่งมหาทานปรมัตถบารมีเต็มขั้นของหน่อพระชินสีห์เจ้านั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านลงเหล็กจารเต็มสูตรผูกเป็นตะกรุดลูกอมเฉพาะกาล อธิษฐานบารมีด้วยความเที่ยงแท้ต่ออำนาจพระโพธิญาณในกาลเบื้องหน้า ว่าให้ลูกหลานญาติวงศ์ที่มีบุญญา มีวาสนากับเวทย์วิชานี้มารับไปครอบครอง

    ตะกรุดที่ลงวิชาว่าด้วยมหาทานปรมัตถบารมีของนิยตโพธิสัตว์ ท่านว่าพุทธคุณตรงตัว นั่นคือเวลาลูกขอพ่อต้องให้ พ่อในที่นี้คือพ่อพระพุทธเจ้า พ่อในพระชาติที่เป็นมหาเวสสันดรโพธิสัตว์ พ่อของลูกๆพุทธบุตรทุกคน อันทรงไว้ด้วยมหากรุณาญาณอย่างแท้จริง ปรารถนาจะขนถ่ายสรรพสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏสงสาร ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะมันเหนือสงสาร เมื่อลงเสร็จต้องบอกกล่าวชุมนุมเหล่ามหาโพธิสัตว์อันมีบารมีเต็มที่กับที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว แม้อยู่ในที่แห่งใดไม่ว่าจะพิภพดุสิต พิภพนาคบาดาล ตลอดจนพิภพต่างๆต้องชุมนุมมาบอกกล่าวเชิญท่านมาบรรจุบารมีทั้ง 30 ทัศน์ หนุนกันขึ้นมาเป็นชั้นๆ เป็นกลุ่มๆไปทั้งอนิยตโพธิสัตว์ แลนิยตโพธิสตว์ ท่านว่ามาทำให้กันเป็นกลุ่มเป็นลำดับกลุ่มไหนปัญญาธิก กลุ่มไหนสัทธาธิก กลุ่มไหนวิริยาธิก พระองค์ไหนหรือใครอยู่กลุ่มใดก็หนุนเนื่องสืบกันมาบรรจุพระบารมี ...เมื่อชุมนุมเหล่าพระมหาโพธิสัตว์แล้ว ก็ต้องเชิญสมเด็จองค์ปฐมมาบรรจุธาตุบรรจุธรรม และเชิญครูทั้งหลายมาสำเร็จตะกรุดด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดนี้มีจุดเด่นกว่าตะกรุดทางโชคลาภอื่นๆคือ " ทรัพย์มันจะเข้ามาหาเราเอง นี่ถ้ามันมีเท้ามันจะรีบวิ่งเข้ามาเลย "

    พ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดสำคัญนี้มาผูกไว้กับปี่เซี๊ยะ ท่านว่าจะเป็นกำลังของวงจรที่สอดรับกันเพราะเทพปี่เซี๊ยะเขาก็อ้าปากรับทรัพย์ตลอดทั้งกินอะไรแล้วย่อมไม่คอยออก เป็นสัตว์เทพที่มีสมบัติมากรอเราจับ รอเราลูบ รอเราขอ รอเราสัมผัสเขาใช้เขา ทีนี้เมื่อท่านนำตะกรุดขึ้นมาเรียกมนต์เรียกทรัพย์กำกับผูกเอาไว้ท่านจึงย้ำว่านี่นะเธอจำไว้ ตะกรุดนี่นี่เหมือนอาญาสิทธิ์อยู่อย่างนึง นั่นคือแกขอเขาต้องให้ พอผูกกำกับกันไว้นี่ขออะไรย่อมได้ทั้งหมดเลย เพราะเราเอากำลังเหล่ามหาโพธิสัตว์มาครอบเขาไว้อีกที มีอะไรเขาก็ให้เราหมด ไม่มีหวง ไม่มีของตน ของฉัน ขออะไรต้องได้ทั้งสิ้น นี่คือปี่เซี๊ยะตำรับที่ท่านทำเข้าตะกรุดดอกสำคัญนี้

    ทั้งท่านยังให้ข้อคิดว่าปี่เซี๊ยะนี้เหมาะแก่คนที่รากฐานจตุปัจจัยในชีวิตยังไม่พร้อม ชีวิตยังขาดอยู่ พร่องอยู่ ยังหายังขวนขวายมาได้ไม่เต็ม เช่นบางคนยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ยังไม่มีรถ ยังไม่มีทรัพย์ไว้ดูแลตนเองยามแก่เฒ่า ยังทำความปรารถนาตัวเองได้ไม่ดีพอ..... เช่นนี้แหละพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องยกขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าใครจะมายกเราก็ได้ เพราะหากให้ปี่เซี๊ยะของท่านยกและหนุนเหมือนแม่หนุนลูก กำลังนี้จะคอยหนุนเราแบบเอื้ออาทรตลอดไป เรียกว่าหนุนกันด้วยความผูกพันธ์ ต่างกับหนุนด้วยอาถรรพ์หรือแรงครูใดๆอย่างสิ้นเชิง เพราะการณ์ที่เขาสวามิภักดิ์รักเจ้าของและผูกพันธ์กับเราอย่างยิ่งยวดนั้นเป็นพลังที่ดีที่สุดและซื่อตรงเข้าถึงชะตาชีวิตเรามากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอย่าเก็บ ### ต้องใช้ต้องรักษากันให้ดี หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดเขาอย่าปล่อยให้เขาสกปรก ท่านว่ายิ่งถูยิ่งขึ้นเงา ชะตาเราจะมีแต่ดีกับดีแล้วก็ดี อย่าปล่อยให้เขาหมองหม่นเด็ดขาด

    ข้อควรจำ
    ท่านว่าปี่เซี๊ยะของท่านให้ใช้ได้เลยไม่ต้องถนอม แค่ดูแลเขาหน่อยอย่าให้สกปรก ถ้าจะเลี่ยมใช้ก็ให้เลี่ยมเปิดหน้าเปิดหลังให้เขาสัมผัสเนื้อตัวเราจะดีที่สุด เรียกว่าใช้แบบลุยๆ หากจะขออะไรเขาที่หนักมือหน่อย เกินวาสนาของเราไปหน่อย แบบที่รู้ว่าทั้งชีวิตขอไปก็ไม่ได้ ท่านว่าให้อ้างกำลังพระเจ้าสิบชาติอธิษฐานขึ้นมาก่อนเตชะสุเนมะภูจะนาวิเว หลังจากนั้นก็ท่องคำว่าทานะ ทานะ ทานะๆๆๆๆย้ำไปจนจิตทรงตัว จิตนิ่งไม่วอกแวกแล้วขอเอากับเทพปี่เซี๊ยะเขา

    *** เทพปี่เซี๊ยะนี้ท่านย้ำว่าจะให้ดีที่สุดต้องบูชาเป็นคู่ คาดเอวไว้ซ้ายขวาจะยิ่งมีกำลังมาก เหนือกว่าใช้ตัวเดียวโดดๆอย่างมหาศาล เวลาใช้อธิษฐานสิ่งใดก็ไหว้ก็ขอเขาพร้อมกัน ทั้งในกรณีคนที่ขาดมากๆต้องการการรักษาเยียวยาหนักกว่าคนอื่นๆ หรือคนที่มีความฝันห่างจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่มาก ท่านว่ารู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ให้ใช้เป็นคู่จะไวกว่า รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ## ท่านย้ำว่าผูกได้น้อยเพราะตะกรุดเป็นของเก่าทำไว้นานมากๆแล้วจึงมีจำนวนจำกัด

    ร่วมทำบุญบูชา ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก(ผูกตะกรุดแกขอฉันให้สูตรมหาทานปรมัตถบารมี) บูชา 900 บาท

    78356285-2555901191191786-1684102946444279808-n.jpg 78529134-516057992324641-1341865164726599680-n.jpg
    79098185-1052806575082197-7974335108398186496-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มีคนสอบถามว่าช่วงนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ทำงานแกะสลักบ้างรึเปล่า เกี่ยวกับการนำของอาถรรพ์(มีดีมีอิทธิคุณสูงในตัวเอง)มาแกะสลักนั้น งานประเภทนี้จะมีแต่ออกยากมาก เรียกว่าปีสองปีมีให้ดูกันรุ่นสองรุ่น ถ้าถามว่ามีมั๊ยก็มี แต่พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกปั่นธาตุทำวิชาของท่านมาหลายปี ทำอยู่ทุกวันชนิดนำไปเลี่ยมให้พร้อมใช้ทุกตัวแล้วก็ผูกรอบเอวท่านทุกตัวเสกทุกวัน แบบนี้แหละที่เรียกว่าของรักและทำหลบเอาไว้ จะเสกพิธีไหนวาระใดเสกอะไรก็อยู่ติดเอวท่านมัดลากสายสิญจน์ไว้ตลอด...ท่านว่าทั้งตอดทั้งกระโดดตีกันเกรียวกราวอยู่ประจำดังนั้นที่ถามกันมาว่ามีมั๊ยมันก็มีนั่นแหละ แต่ถ้าออกมาก็คาดว่าหลายคนคงจะไม่ทันเพราะของมีน้อยจริงๆพอจะนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ยักษ์ใหญ่ วัดยายร่ม

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะมาพูดคุยกันสบายๆยามเช้าตามที่ขึ้นหัวข้อเอาไว้เลย เพราะพอดีมีโอกาสเจอรุ่นน้องสมัยมัธยมซึ่งไม่ได้เจอกันนานมากๆไม่รู้ว่าจะสิบปีได้มั๊ย พอเจอแล้วได้นั่งคุยกัน เห็นมันเหน็บเห็นมันห้อยพระมา เราก็คอคนชอบพระเลยขอดูขอส่องกันไปเรื่อย

    ต้องบอกก่อนว่ารุ่นน้องผมคนนี้เพิ่งมีงานทำมาปีสองปีนี้เอง แต่ไม่ใช่ว่ามันหางานทำไม่ได้นะต้องเรียกว่าสมัครที่ไหนก็มีเปอร์เซ็นต์ได้มีสถานที่รับมันเยอะเลยทีเดียว หากแต่ว่ามันเลือกค่อนข้างมาก สวัสดิการเป็นยังไง หอพักเปลี่ยวมั๊ย กลับมืดๆเป็นอันตรายหรือเปล่า ค่าคอม.. ค่า..สารพัดค่าเรียกว่าอะไรเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายคำนวนไว้หมดเพราะน้องผมเป็นคนงกมากกกกอไก่ล้านตัว ก็พอดีว่าเป็นรุ่นน้องผู้หญิงแล้วหน้าตาก็ค่อนข้างดีก็เลยเซฟตัวเองเยอะด้วย
    พอยังไม่ได้ทำงานก็เรียนต่อไปเรื่อยจนจบโทลองไปสมัครของบริษัทน้ำมันที่บิ๊กสุดๆของประเทศนี้ ....ติดทันทีทำงานแปปเดียวมีเงินซื้อคอนโด มีเงินออกรถ มีเงินเก็บ มีสวัสดิการอะไรบ้างตอนนี้ทำไรอยู่ก็นั่งคุยๆกันไปนางเป็นวิศวกรรายได้ค่อนข้างมหาศาลกว่าพวกวิศวะในรุ่นเดียวกัน คุยจนเรื่องจะแต่งงานปีไหนจากเรื่องมันเลยไปเรื่องแฟนมัน...

    ...อันนี้ก็ออกนอกเรื่องยาวไปนิดนึง ตอนนี้วกกลับมาก่อน เด็กคนนี้มันเป็นรุ่นน้องผมที่สนิทกันมากชนิดที่ว่าเป็นแก๊งเดิมเลิกเรียนก็เดินเลาะคลองเลาะสะพานไปหาข้าวกินไปไหนมาไหนกันกับกลุ่มห้าหกคนนี้ทุกวัน ซึ่งผมกำไรที่สุดเพราะเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่มและกลุ่มผมก็ไม่มีรุ่นเดียวกันเลยมีแต่รุ่นน้องทั้งนั้นที่สำคัญทุกคนสวยมากด้วยถือเป็นกำไรชีวิตช่วงนึงเลย เรียกว่าเห็นกันมาแต่เล็กๆมันไม่เคยห้อยพระอะไรเลย แต่วันนี้ห้อยในคอสามองค์ แถมมีเหน็บอีก ก็ดูบุคลิกเปลี่ยนไปมันสะกิดตาเราว่าอะไรดลใจให้มึงแขวนพระได้ ซึ่งน้องเขาก็บอกเราว่ามันห้อยอาจารย์ของมันนั่นแหละ ไม่ได้โด่งดังอะไรหรอก เราขอมันดูมันก็บอกว่าดูไปเฮียก็ไม่รู้จัก

    พอรับมาดู นางห้อยชุดของหลวงพ่อมนัส จันทูปโม เจ้าอาวาสวัดยายร่ม เราเลยถามไปว่าท่านสายไหนหรอ นางตอบว่าสายหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง ทีนี้เราก็มีคำถามเพราะเรารู้ว่าน้องเราใจแข็ง การที่จะให้มันศรัทธาอะไรได้ เหตุผลว่าเป็นพระพื้นที่ เป็นพระใกล้บ้านเท่านี้ไม่พอแน่นอน เพราะมันจะไม่มองและไม่ห้อยด้วย

    มันก็เลยเล่าให้ผมฟังว่าหลวงพ่อมนัสวัดยายร่มนี่นะ มันห้อยพระปิดตาของท่านอยู่ที่ผมเห็นเป็นสีทองอร่ามนั่นแหละ ทีแรกคนที่บ้านเลี่ยมให้ใส่อยู่องค์เดียวนางก็ใส่มาเรื่อยๆเลยที่ใส่เพราะว่าสวยเป็นสีทองๆสวยดี แล้วก็สังเกตุตัวเองว่าไปสมัครงานไปพูดจากะใครที่ไหนเค้าก็รับมันหมด เราฟังๆอยู่ก็เบรคว่าที่เขารับเพราะมึงสวยไม่เกี่ยวกับพระ ทีนี้มันก็ไม่สนใจผมแล้วมันก็เล่าต่อของมันไปเป็นประสบการณ์ทางเมตตาหลายๆเรื่องที่เห็นได้จากพระปิดตาจนห้อยมาเรื่อยๆแล้วมีศรัทธาได้เข้าวัด ก็เลยรู้ว่าพระปิดตาที่ใส่อยู่ เป็นของดีที่หลวงพ่อท่านสร้างตามตำรับหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง เป็นพระปิดตาไม้แกะสลักลงรักปิดทองอย่างดีมีรอยจารมองเห็น ก้นอุดด้วยชันโรง(อันนี้ไม่แน่ใจว่าด้านในอุดอะไรมั๊ยเพราะมีชันปิดอยู่)

    นางก็พรีเซ้นของที่นางใส่พอศรัทธาก็เลยไปเช่าเพิ่ม เช่าเหรียญรุ่นแรกท่านมา มันหยิบมาให้ผมดู ในใจก็คิดเออพระองค์นี้ทำเหรียญสวยดี นางว่านี่แหละไคลแม๊กซ์เลย เพราะเหรียญนี้เลยรอดตายมาได้ตอนโดนรถชน พูดไม่พูดเปล่าถกกระโปรงขึ้นมาเกือบถึงสะโพกแหวกให้เราดูแผลว่ามันพูดจริงไม่ได้โกหก เรานี่โคตรอายเลยคือแค่พูดเราก็เชื่อนะไม่ต้องแหวกต้องถกก็ได้

    แล้วก็ไปสะดุดตากับเหรียญท้าวเวสซึ่งออกแบบได้สวยดีผมก็รับมาดู ไอ้เวลารับมาดูผมจะนั่งกำๆไว้ฟังมันเล่าไปด้วย คือเราจะจับพลังไปด้วยนั่นแหละ พอมาถึงท้าวเวสมันมีภาพหัวครุฑผ่านวาบเข้ามาในหัวเราเลยแบบครุฑมาก่อนเพื่อน เราก็งงๆนะว่าไม่ได้จับครุฑนี่ทำไมมีบารมีครุฑมาผ่านตัวเรา นางก็เล่าไปว่าเป็นรุ่นล่าสุดเสกเมื่อช่วงจันทร์เพ็ญนี้เองเป็นท้าวเวสรุ่นแรกของหลวงพ่อมนัส เราก็สงสัยเลยพลิกหน้าพลิกหลังดูก็ถึงบางอ้อว่าด้านหลังเป็นพระนารายณ์ทรงครุฑ คือมีทั้งท้าวเวสและองค์นารายณ์อยู่ด้วยกัน ก็ไม่น่าเชื่อว่าเหรียญออกมาไม่กี่วันแต่นางมีประสบการณ์เจอยักษ์ใหญ่ตาแดงมาแล้ว นางว่าตัวเองไม่ได้เห็นเองนะ แต่คนอื่นเห็น มีรุ่นพี่ที่ทำงานมาทักว่าตัวเองมีท้าวเวสสุวรรณมาดูแลอยู่ บางคนที่ไปกินดื่มกันที่คอนโดก็ว่าเห็นยักษ์ตาแดงเดินไปเดินมาอยู่ข้างๆตึกจ้องเข้ามาที่ห้องของนาง ซึ่งมีแต่คนเห็นแต่ตัวนางเองไม่เห็นอะไรเลยได้แต่ฝันว่ามีคนนำพระนารายณ์แกะสลักจากหินสีส้มๆมีเส้นแดงๆคล้ายเส้นเลือดกระจายไปทั่วมาให้ แต่ผมก็ยอมรับนะว่าเหรียญท้าวเวสหลังนารายณ์ทรงครุฑนี่แรงจริงๆ ใช้ได้เลย

    แล้วก็พอดีกับเวลาที่รุ่นน้องผมจะกลับบ้าน มันเลยชวนผมไปหาป๊าม๊ามันที่บ้านเอารถไปเก็บแล้วจะซิ่งมอไซพาผมไปวัด ซึ่งผมก็ไหลตามมันไปเรื่อยๆเพราะความอยากรู้อยากเห็น ก็เลยได้ไปวัดยายร่ม ได้เห็นว่าตอนนี้ท่านทำตะกรุดมงกุฎพุทธเจ้าตำรับหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง ยังมีพระปิดตาตำรับหลวงปู่เอี่ยมวัดหนังให้เช่าอยู่ผมก็เช่ามาองค์นึงสามร้อยห้าสิบ แล้วก็ต่อไปที่เป้าหมายหลักนั่นคือเหรียญท้าวเวสราคาสองร้อยบาทอันนี้ยังไงก็ต้องเอา(มาเห็นที่หลังตรงป้ายประกาศที่ติดไว้ว่าท่านสร้างท้าวเวสรุ่นแรกเพื่อหาทุนหล่อท้าวเวสองค์ใหญ่ที่วัด แล้วเหรียญท้าวเวสนี้ก็ปั๊มจากชนวนหลวงตาช้วนวัดหนัง) และก่อนจะกลับที่ลืมไม่ได้เลยก็เหรียญรุ่นแรกที่ราคายังถูกอยู่มากตามคติผมจะถูกหรือแพงเก็บเหรียญรุ่นแรกไว้นั่นดีที่สุด เหมือนหลวงพ่อท่านจะเป็นพระพื้นที่ซึ่งคนใกล้ๆไม่รู้ว่าวัตถุมงคลท่านมีกำลังดีแล้วก็พุทธคุณแรงมาก แต่คนจีนคนต่างประเทศกลับขึ้นและรู้จักมาบูชาวัตถุมงคลกันมาก เดินๆมองก็ยังเห็นภาพที่ท่านไปจีนไปนั่งปลุกเสกที่วัดเส้าหลินก็มี

    เป็นอันว่าได้ท้าวเวส หรือยักษ์ใหญ่..วัดยายร่มสมใจอยาก ซึ่งเป็นเหรียญที่เราสัมผัสได้ว่ามีเทวานุภาพแรงกล้ามาก และก็ได้ร่วมทำบุญสร้างท้าวเวสองค์ใหญ่ไปในตัวด้วย ดังนั้นหากใครอยู่ฝั่งธน คนพื้นที่ก็ลองแวะไปได้นะครับ พระพื้นที่ดีๆลึกๆก็มีบางทีเราก็ไม่ได้รู้จักเพราะท่านไม่ได้ดังไม่ได้ออกสื่อหนัก ไม่ได้มีนายทุนหนุนมาสร้างพระอะไรให้ การตลาดการประชาสัมพันธ์ก็ไม่มี แต่ว่ากราบได้ไหว้ได้ ลองไปหากันดูนะครับแรงครูสายหลวงปู่เอี่ยมนี่ไม่ธรรมดา เตรียมปัจจัยไปสักห้าร้อยห้าสิบเอาพระปิดตาองค์นึงเหรียญท้าวเวสเหรียญนึงก็คุ้มแล้ว

    พอดีได้ไปเที่ยวก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รายการนี้เป็นวิชาสายพราหมณ์ของท่าน นานๆจะมีออกมาเดี๋ยวไว้รอติดตามกัน
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ กับเครื่องรางที่สร้างเพื่อให้ผู้ที่เป็นดั่งบุตรบุญธรรมของมหาบุรุษเท่านั้นครอบครอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2019
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา รูปสลักพระผู้มาโปรดกาลิงคะพราหมณ์ปฐมกำเนิด (ไถ่ถอน,นิรโทษ,โรมรัน)

    " เครื่องรางที่สร้างเพื่อให้ผู้ที่เป็นดั่งบุตรบุญธรรมของมหาบุรุษเท่านั้นครอบครอง "
    ในอดีตนั้น หลายๆคนมักจะถามว่าพ่ออาจารย์ว่าท่านทำเสาไฟให้บูชาบ้างมั๊ย บางคนก็ว่าฝันเห็นเสาไฟน่ากลัวมีพราหมณ์หนุ่มเดินออกมาจากเสาไฟนั้น..หลายคนฝันสำแดงอาการและนิมิตแปลกประหลาดทั้งเรื่องเสาไฟและพราหมณ์หนุ่มจำแลงกายมาหา เพื่อมาโปรดชีวิตที่ทุกข์ยากของตน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็งำประกายเอาไว้ไม่ได้กล่าวความแก่ผู้ใดว่าสิ่งใดคือเสาไฟ สิ่งใดคือพระผู้มาโปรด ผู้ไถ่ถอนชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ด้วยเครื่องมงคลนั้นเป็นของล้ำค่ายิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าที่คนเขาจะเห็นเสาไฟอันเป็นดั่งหลุมดำที่ลุกโชนนั้นปรากฏขึ้นมาไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ก็ดี บางคนสามารถนิมิตล่วงหน้าได้ถึงพระผู้มาโปรดที่ออกมาจากเสาตนนั้นเพราะท่านคือตัวแทนแห่งคุณงามความดีและสิริมงคลเรียกว่าเป็นกำลังของศรีก็ได้ เป็นมหาบุรุษที่จะมาโปรดเพื่อนำมาซึ่งสวัสดิภาพแลสิริมงคลเพื่อความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งยวดยิ่งกว่าผู้ใดในยุคใดๆ พ่ออาจารย์ท่านเรียกนามของมหาบุรุษว่ากาลิงคะพราหมณ์ ท่านว่าครูผู้นี้มีอำนาจมากสามารถไปได้ทุกที่ซึ่งรัศมีของพระอาทิตย์ส่องถึง ผู้ใดที่ท่านโปรดก็ดุจมีชีวิตใหม่เข้าสู่รุ่งอรุณแห่งยุคทองที่ชะตาอันมืดดับจะกลับกลายเป็นสว่างจ้าด้วยรัศมีแห่งศรีไปทุกทิศทาง เป็นรัศมีขององค์คุณอันประกอบด้วยการตื่นรู้และเบิกบานของมหาบุรุษ...ทั้งยังเป็นกำลังของเหล่าพระเวทย์และมหาธาตุตลอดจนพลังงานทั้งหลายนช่วงหลายพันปีมานี้ท่านจะเลือกออกมาโปรดเฉพาะบุคคลที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งเท่านั้น

    ด้วยคติแห่งเสาไฟที่ลุกไหม้ดุจแวดล้อมในเพลิงบรรลัยกัลป์นี้ ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นสภาวะของการก่อเกิดเพื่อจะจุติและปฏิสนธิของสรรพสิ่ง จะเรียกว่าเป็นรากเหง้าดึกดำบรรพ์ของสรรพชีวิตก็ได้ ท่านให้ความรู้ว่าไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้นแม้แต่ท้องฟ้าหรือดวงดาราทั้งหลายที่ปรากฏออกมาเป็นปฐมก็ล้วนแต่ออกมาจากสิ่งนี้ ท่านจึงถือว่าเสาไฟนั้นเป็นพลังของการก่อเกิดการสร้างสรรค์จักรวาล มีกำลังผลักดันให้อำนาจที่ขึ้นลงของตัณหาทั้งสามคืออารมณ์รักใคร่,ความอยากมีอยากเป็น,ความไม่อยากมีไม่อยากเป็นทั้งหลายหมุนเวียนดำเนินกันไปตามลีลาของสังสารวัฏ จะเรียกว่าใครปรารถนาสิ่งใดหรือไม่ต้องการให้ชีวิตเป็นอย่างไรหากเข้าถึงเสาไฟนี้แล้วทุกสิ่งย่อมเป็นไปด้วยกำลังแห่งปฐมกำเนิดนั้นไม่ยากเลย พ่ออาจารย์ท่านเรียกเสาไฟว่าแท่งปฐมกำเนิด เช่นนั้นท่านจึงประดิษฐ์ทำเป็นรูปลึงค์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตัวกำเนิดที่ท่านตั้งใจแกะและมนต์พระเวทย์ปถมังกำเนิดเอาไว้เป็นตัวแทนของเสาไฟปฐมกำเนิดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ากำลังของปฐมกำเนิดนั้นจะช่วยให้คนบูชาสมหวังในทุกสิ่ง(เอาว่าไม่ผิดหวังในสิ่งที่หมายปอง) ท่านว่าพอทำมาเป็นรูปลึงค์นี้หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ปลัดขิก แต่โดยแท้จริงแล้วนั้นไม่ใช่เขาลึกล้ำและซับซ้อนกว่านั้นไปหลายขุม ท่านเพียงแค่ทำให้เป็นรูปของเสาไฟที่มีสัญลักษณ์ทางกายภาพขององค์กำเนิดเพื่อจะสื่อถึงเสาปฐมกำเนิดนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างกาลิงคะพราหมณ์ได้นั้นไม่ใช่ของง่าย เพราะเมื่อจับมีดแกะไม่ใช่ว่าจะแกะได้เลยหากแต่ต้องท่องบ่มพระเวทย์ไปด้วยตั้งแต่มนต์มหากำเนิด,มนต์แถนฟ้า,มนต์ไท้ธรณี,มนต์มณีจินดา,มนต์เรียกสมบัติ...ท่านว่าลงมีดไปก็กำกับไปตามตัวรู้ที่ครูท่านส่งมาในจิตเราว่าให้ท่องบทไหนกว่าจะได้องค์หนึ่งนั้นท่องเป็นร้อยบทบางอย่างก็เป็นเวทย์ดึกดำบรรพ์ปรากฏมาให้ท่องออกนามเฉพาะตอนแกะสลักเท่านั้นเป็นการควบคุมกำลังแห่งปฐมกำเนิดที่จะเคลื่อนกายลงมาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่..เป็นกำลังที่ไม่มีวันแห้งเหือดและใช้ไม่รู้หมด ดั่งว่าคนเอาไปใช้จะไม่รู้จักคำว่าลำบากเลยเพราะกำลังแห่งกาลิงคะพราหมณ์ที่สิงพิงอยู่ในเสาปฐมกำเนิดของท่านนั้นเป็นกำลังเต็มตัว พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักรูปมหาพราหมณ์ติดกับเสาปฐมกำเนิดเพื่อจะสื่อถึงองค์คุณที่มีกำลังแรงกล้าไม่มีวันดับ เรียกว่าเราเอาไปใช้สอยนี่ไม่ต้องกลัวเลยว่ากำลังท่านจะตก เพราะกำลังท่านจะซึมออกมาสู่ตัวเราเรื่อยๆให้เราใช้กำลังของท่านเปลี่ยนแปลงชีวิต ใช้เท่าไหร่ก็ไม่รู้หมดเปลี่ยนชีวิตที่ขาดกำลังและที่พึ่งให้สะดวกสบายไม่มีความลำบาก ดั่งมีครูมีที่พึ่งให้เราตักตวงสิ่งที่ปรารถนาได้ไม่มีวันหมดสิ้น จะปรารถนาสิ่งใดก็มีหมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆอยู่ตลอด ท่านว่าปฐมกำเนิดนี้ใช้ขอได้ทุกเรื่อง ขอได้ไม่เลือก แม้อยู่กับตัวเราก็จะได้พบสิ่งที่ปรารถนาโดยเร็ววัน จะสมหวังในชีวิตยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยผ่านมา

    พ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นมีอาการสามสิบสองพร้อมที่จะสดับรับรู้ความต้องการของลูกๆและพร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ ไม่เลือกว่าจะเป็นเรื่องหนักจิตน่าปวดหัวจะโรคภัยหรือเรื่องรักๆใคร่ๆไม่มีถือตัวตั้งแต่เรื่องสูงไปจนต่ำ ท่านว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้งานง่ายไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรยุ่งยาก จะใช้ทางสะกดจิตสะกดใจคนหรือแม้แต่จะล้างสมองคนให้เขาเมตตาเราภักดีต่อเราลึกเข้าไปในกมลสันดานก็ยังทำได้เพียงบอกพ่อพราหมณ์ท่านให้ช่วยเท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังคอยเตือนคอยบอกถึงอันตรายและภัยที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าแก่ลูกที่มีใจศรัทธา ทั้งจะปัดภัยให้พ้นตัวหรือจะให้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่อาจแก้ไขได้เพื่อให้เราเตรียมรับมือพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงจุดวิกฤตินั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าอยู่ที่เจตน์จำนงค์ของคนใช้เป็นหลักถ้าเราขยันทำมาหากินแต่เงินเก็บไม่ค่อยมีหาไม่พอใช้ท่านก็จะบอกโชคลาภแก่เราให้เราเจริญในทรัพย์สมบัติมหาศาลสารพัด เรียกว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่องตามเหตุที่พึงจะเป็นไปได้

    พระผู้ไถ่ถอน,นิรโทษความผิดบาป
    เพื่อจะสร้างองค์ปฐมกำเนิดกาลิงคะพราหมณ์(ผู้เป็นดั่งตัวแทนของปฐมกำเนิด) พ่ออาจารย์ท่านต้องอธิษฐานจิตแบบรวมขุมกำลังพระเวทย์ทั้งหมดเพื่อเป็นการครอบพระเวทย์อาถรรพ์ให้รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียวซึ่งอานุภาพของกำลังธรรมชาติทุกแขนงจะสำแดงผลอย่างเต็มที่ไม่มีที่จะข่มกันเอง..สุดท้ายรูปพ่อกาลิงคะนั้นจะบันดาลได้ทุกสิ่งแบบปราศจากเงื่อนไขในอันที่จิตมนุษย์ผู้ใช้นั้นปรารถนาในเหตุปัจจัยที่เป็นไปได้ โดยพ่ออาจารย์นั้นท่านอธิษฐานต่อครูพระเวทย์และพระธรรมดึงกำลังของความรักที่เทวะมีต่อมวลมนุษย์มาสถิตย์อยู่ในองค์กาลิงคะเพื่อให้ท่านมีแรงบันดาลใจที่จะเติมเต็มความคาดหวังของมนุษย์ เติมเต็มในสิ่งที่เราขาดให้เรามีความสุขสมหวังทำให้ชีวิตเรารุ่งเรืองสืบไปบนพื้นฐานของความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพ่อมีต่อลูกเป็นความรักความปรารถนาดีดั่งจะส่งผ่านเรื่องดีๆให้เราทางสายเลือดเช่นนั้น ท่านจะดลบันดาลให้เราเป็นที่เมตตาแก่บุคคลรอบตัวไม่ว่าจะคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงตลอดจนคนรู้จักและไม่รู้จักทุกหมู่เหล่าจะมีผู้คนหลั่งไหลไปมาหาสู่ตัวเราไม่ขาด จะคลายความโกรธความเกลียดที่ผู้อื่นมีต่อเราแปลงมาเป็นพลังงานให้เขาเข้ามาหาเราอยากพูดกับเรา *** พ่ออาจารย์ท่านว่าจะมีคนเข้าหาพร้อมให้เราสานต่อเรื่องราวความสัมพันธ์ต่างๆตามกิจในชีวิตเราที่ดำเนินอยู่อย่างพอเหมาะพอเจาะ จะทำอะไรแข่งกับใครในทางโลกก็มีโอกาสมากกว่าผู้อื่น แม้ผู้ใดยังขาดคู่ครองก็จะได้พบเจอคนที่มีศักดิ์มีวาสนาบารมีมากกว่าตัวเรา จะได้คู่ที่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุนเราไม่นำพาเราไปสู่ความตกต่ำ พ่อพราหมณ์เขาจะเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเรียกว่าขาดอะไรก็ได้อย่างนั้น ทั้งอาถรรพ์ในร่างกายที่ทำให้วาสนาไม่ดีตลอดจนเสนียดจัญไรและเคราะห์กรรมที่ออกฤทธิ์ออกเดชส่งผลให้ตัวเองกลัดกลุ้มอยู่ เมื่ออาราธนาพ่อกาลิงคะพราหมณ์ติดตัว ### รูปของท่านจะสะกดสิ่งเหล่านี้ไว้และรับเข้าตัวเองซ้ำยังส่งเข้าไปเผาในแท่งเสาปฐมกำเนิดหมุนวนถ่ายเทกลับกลายมาเป็นสิริ,เป็นศรี,เป็นมงคลกลับคืนให้สู่ตัวเรา จะมีปฏิบัติการณ์ซ้ำซากไปอยู่เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเราตลอดเพื่อลดพลังอาถรรพ์ทั้งหลายที่แต่ละวันเราอาจจะไปทำผิดคิดชั่วไปสร้างเรื่องอะไรเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งวิบากกรรมที่ตั้งด่านขวางหน้าเราอยู่ท่านก็จะบรรเทาให้เบาลงและหมดไป พออุปสรรคน้อยลงความสำเร็จก็ง่ายขึ้นสิ่งที่อยากเจอก็ได้เจอ อารมณ์เราจะเย็นขึ้นสงบขึ้นตามลำดับไม่มีชีวิตที่ร้อนรนกระวนกระวายหาสาเหตุไม่ได้ท่านจะผูกชะตาเราเข้ากับเรื่องใดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าขึ้นอยู่กับสิ่งที่จิตเรายึดติดและปรารถนาว่าตัวตนเราลึกๆแล้วอยากเป็นคนแบบไหน แต่เอาว่าพื้นฐานนั่นต้องเหมือนกันคือเป็นคนที่มีอันจะกินมีหลักชัยชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองต่างจากคนๆอื่นๆรอบตัวทั้หมด ผู้ที่มีกาลิงคะพราหมณ์นั้นจะแตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจนจนสามารถสังเกตุเปรียบเทียบชีวิตตัวเองได้จากคนรอบๆตัวเพราะเขาจะบันดาลความสุขที่หลากหลายได้มากมายนิรโทษนิรภัยได้ทั้งผอง ไถ่ถอนเราออกจากสิ่งที่เราไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่ปรารถนาพบเจอเหล่านั้น...

    ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ชีวิตผู้คนส่วนใหญ่จึงให้ค่าและหมดพลังงานไปกับการผลักดันตัวเองเข้าหาความสนุกสนานตัณหาและเงินตราทุกเพศทุกวัย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์กาลิงคะพราหมณ์นั้นท่านจะขัดเกลาจิตวิญญาณให้จิตสำนึกเราสูงขึ้นพร้อมกับผลักดันตัวตนของเราให้เจริญทางโลกพร้อมๆกัน ท่านครอบพระเวทย์แบบรวมขุมพลังไว้เพื่อให้คนใช้อธิษฐานได้สมดั่งใจในแต่ละฉากแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันด้วยเหตุปัจจัยของชีวิตแต่ละคน หากใครจะเอาไปเล่นหรือขอทางความรักแล้ว ท่านว่าแม้เป็นคู่กันมีบุญมีบุพกรรมร่วมกันมาแต่อดีตชาติเรียกว่าจะมีวาสนาให้ได้อยู่ด้วยกันสมดั่งใจ แต่หากหาคู่แท้ไม่เจอก็จะเชื่อบุพเพสันนิวาสให้ได้มีไมตรีสานต่อสานสัมพันธ์กัน ท่านว่าไม่แคล้วจะลงรอยขอให้ตัวเราเองทำตัวเองให้ดีก่อนไปขออะไรจากท่านก็พอ
    - อยากเบิกบุญมาใช้ เวลาที่เรารีบเร่งต้องการสิ่งที่ตนเองอยากได้มาในเร็ววันนั้น ท่านจะเรียกว่าอยากเร่งเวลาไม่ให้ชะลอช้านานจนเสียการณ์ที่คิดจะกระทำบางคนคิดอยากจะเบิกบุญมาใช้ ก็ให้เอากาลิงคะพราหมณ์นั้นมาแนบกับริมฝีปากเรา ให้เราพูดและออกเสียงสิ่งที่คิด สิ่งที่อยากทำเหมือนเป็นการพูดผ่านท่านก่อน เสียงและความต้องการนั้นจะผสานเข้ากับปฐมกำเนิดกลายเป็นเสียงแรกที่จะนำมาซึ่งฤกษ์งามยามดีเป็นเสียงสวรรค์ที่ใช้สั่งให้ชีวิตเราเดินไปทางไหน บางคนฉลาดเขาจะทำแบบนี้เมื่อทำบุญและอยากให้ผลบุญเห็นทันตาก็จะพูดผ่านพ่อกาลิงคะพราหมณ์เพื่อเรียกเทวดามาอนุโมทนาบุญให้เราทันที ท่านว่าสุดแต่จะเอาไปดัดแปลงใช้กันจะเบิกบุญเบิกดวงเบิกโชควาสนาเบิกทางชีวิตได้ทั้งสิ้น ด้วยพ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นใช้พลิกวาสนาลูกๆที่พานพบได้อย่างน่าอัศจรรย์

    พ่ออาจารย์ท่านแกะองค์กาลิงคะจากกิ่งไม้โพธิ์ที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกซึ่งยืนต้อนตายพรายอยู่บนจอมปลวก ทั้งในต้นโพธิ์นั้นยังมีกาฝากไม้รัก กาฝากขนุน กาฝากชุมแสง กาฝากพยุงอันเป็นไม้มงคลนามเสริมส่งกันในตัวเองขึ้นเป็นอาถรรพ์ตรงตามตำรา ท่านว่ากิ่งโพธิ์นี้จึงมีอาถรรพ์มากเป็นพิเศษในหลายๆด้านต่างจากกิ่งโพธิ์ทั่วไปไกลลิบ ท่านนำไม้มาเป่ามนต์ให้ซึมซับธาตุและวิชาทั้งหลายก่อนนานนับปี และนำไปเหลาทำไม้ค้ำสมเด็จองค์ปฐมองค์ครูที่ท่านกราบไหว้ทุกวันไว้ก่อน เพิ่มอาถรรพ์ทางด้านค้ำจุนหนุนดวงชะตามิให้ตกต่ำ เป็นกฤติยาคมแฝดให้ชีวิตผู้รับมีความก้าวหน้าในชีวิตการงานนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศและสง่าราศีสู่ผู้เป็นเจ้าของเวลาจกตกจะดับนี่ท่านว่าจะมีคนมาคอยดันคอยค้ำไว้ให้เสมอ เมื่อผ่านพิธีสำคัญๆที่ท่านอธิษฐานจิตมาพอสมควรท่านจึงนำมาแกะพร้อมกับมนต์พระเวทย์ตามรูปนิมิตที่ได้รับมา ก่อนจะอุดด้วยผงอาถรรพ์ทั้งหลายประเภทเขา,เขี้ยว,คต,นอ,งา,กะลา,แร่,เป๊ก,แหย่ง,แสง,แก้วและมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกหลายตัวที่หาไม่ได้อีกแล้ว พร้อมทั้งนำผงสำเร็จธาตุที่เสด็จมาได้เองในอากาศที่ท่านอัญเชิญไว้และรวบรวมมานานนับสิบๆปีมาปั้นอุดไว้ภายใน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสุดยอดวัตถุที่เป้นกายสิทธิ์มีคุณมีกำลังในตัวเองสูงมากทั้งสิ้น ก่อนจะอุดด้วยตะกรุดสำคัญ
    - ตะกรุดเปิดอวิชชาเวทย์สวรรค์ (ถึงชื่อจะน่ากลัวแต่คนที่เข้าใจโลกจะไม่กลัว) ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นวิชาว่าด้วยเวทย์สวรรค์ขั้นสูงซึ่งเป็นยอดวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยลงมากนักด้วยได้รับยากกว่าวิชาทั้งหลายทั้งยังสลับซับซ้อนและมีอิทธิฤทธิ์พิศดารเหนือกาลเวลา เรียกว่าเป็นวิชาที่ให้คุณรุนแรงกว่าปกติหลายเท่าตัว คำว่าเปิดอวิชชานั้นคือเปิดในสิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่ชีวิตเรายังไม่เคยพบเห็น,ไม่เคยมี,ไม่เคยคิดว่าจะได้รับ เพื่อนำมาซึ่งสิ่งที่ดีงามของปัจจัยทางโลกทั้งปวง ท่านว่า *** อวิชชานั้นก็คือสิ่งที่ปิดไว้ ดังนั้นการเปิดสิ่งที่ปิดก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เปิดเอาอวิชชาที่ครอบตัวเองอยู่ออกไปให้เราพบ ให้เราได้สิ่งที่ชีวิตไม่เคยมี ท่านกำกับตะกรุดเปิดอวิชชาเวทย์สวรรค์ด้วยนะจบเพื่อให้สิ่งที่เราอยากได้ ความฝันของเราต้องสำเร็จ ทุกกิจที่ทำต้องจบ ต้องสำเร็จกิจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป
    เมื่อฝังตะกรุดอุดผงสำคัญเป็นการเสริมพลังเพิ่มฤทธิ์เพิ่มความเก่งกาจผลักดันให้กับพ่อกาลิงคะแสดงอานุภาพเปิดทางรวย ปิดทางจน..ขออะไรแล้วต้องได้สามารถช่วยเหลือเราได้ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้


    ในยุคหลายพันปีที่มนุษย์ปรับตัวห่างออกไปไกลจากพื้นฐานคุณธรรมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลจะทำได้เพียงแค่หนุนดวงช่วยให้เราเป็นเจ้าคนนายคน...หรือจะอะไรก็ตามเท่านี้ยังไม่พอ เพราะอารมณ์เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายของเรานั้นยังไม่นิ่ง ดังนั้นพ่อกาลิงคะจึงต้องพร้อมเสมอที่จะเข้าโรมรันต่อสู้ชีวิตไปพร้อมๆกับเรา ท่านว่าจะมายืนนิ่งสนิททำตัวเป็นเทพเจ้ารับการบูชาแล้วยืนกะพริบตาเช่นนั้นไม่ได้ การจะช่วยคนยุคนี้ต่างจากคนสมัยก่อนมากเพียงแค่ให้พรและทำให้เค้าโชคดีนั้นมันยังไม่พอเพราะท่านทำได้มากกว่านั้นแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำอะไรได้ต้องลองใช้กันเอง...สิ่งที่พ่อกาลิงคะท่านถนัดอีกด้านหนึ่งก็คือการเล่นฤทธิ์ จะทำอะไรก็เอามาด้วยฤทธิ์นี่จึงทำให้ชีวิตคนนั้นง่ายและสะดวกขึ้น ทั้งนี้พ่อกาลิงคะท่านยังจะเพิ่มฤทธานุภาพในเครื่องมงคลและพระเครื่องทั้งหลายที่เราห้อยอยู่ในร่างกายเราด้วย

    ใฝ่สูง
    พ่ออาจารย์ท่านยกหุ่นพ่อกาลิงคะนั้นว่าเป็นเครื่องมงคลอาถรรพ์สำหรับคนใฝ่สูง คือคนที่ยังมีความหวัง มีความฝันสูงกว่าที่ชีวิตตัวเองเป็นอยู่ท่านจึงลงตะกรุดด้วยเวทย์สวรรค์วิชาสำคัญผูกคอพ่อกาลิงคะไว้เพื่อจะนำให้ท่านชักพาชีวิตเราสูงขึ้นตลอดเวลา ท่านเปรียบว่าต่อไปเธอจะกิน(มีชัย)ในที่สูง ความเป็นอยู่ชีวิตจะไม่นอนลงต่ำ จะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่สูงและสุขสบายตลอดไป เช่นนั้นพ่อกาลิงคะจึงเป็นเครื่องรางสำหรับคนใฝ่สูงและคิดสูงยังไม่พึงพอใจในตัวเองยังอยากไปให้ไกลกว่านี้รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพทำได้ดีมากกว่านี้ เช่นนี้พ่อกาลิงคะจึงเป็นเครื่องรางที่ "คนใฝ่ต่ำห้ามใช้ ให้เอาไปเล่นของสูง" ด้วยชีวิตนั้นก็เหมือนฉากละครที่แล่นฝ่าคลื่นลมอันทับโถมผ่านไป ทุกชีวิตต้องมีบทสรุป ทุกเรื่องราวต้องมีจุดจบในตัวมันเอง อยู่ที่เราพอใจกับจุดจบที่เรายืนอยู่ตรงนี้หรือยังและเราเลือกที่จะให้มันเป็นจุดจบแล้วจริงๆหรือเลือกที่จะออกเรือต่อ พ่อกาลิงคะพราหมณ์นั้นท่านว่ามีอาถรรพ์มากเพราะไม่ใช่เครื่องรางสำหรับคนธรรมดาหากแต่เป็นของใช้สำหรับคนใฝ่สูงให้ขึ้นไปอยู่ที่สูงจึงเป็นมากกว่าพยนต์..และเทพยดาทั้งหลาย หากแต่เป็นมิตรแท้ที่จะอยู่ค้ำจุนและช่วยเราไปจนตาย

    ซึ่งพ่อกาลิงคะนั้นท่านว่าตัวท่านเป็นเพียงผู้ทำแต่ห้ามใช้ ท่านเป็นเพียงผู้ที่จะส่งผ่านประสิทธิองค์ครูสู่เจ้าของเท่านั้น ซึ่งท่านปลุกเสกปั่นธาตุทำวิชาของท่านมาหลายปี ทำอยู่ทุกวันชนิดนำไปเลี่ยมให้พร้อมใช้ทุกตัวแล้วก็ผูกรอบเอวท่านทุกตัวเสกทุกวัน แบบนี้แหละที่เรียกว่าของรักและทำหลบเอาไว้ จะเสกพิธีไหนวาระใดเสกอะไรก็อยู่ติดเอวท่านมัดลากสายสิญจน์ไว้ตลอด...ท่านว่าทั้งตอดทั้งกระโดดตีกันเกรียวกราวอยู่ประจำ หากแต่องค์กาลิงคะนั้นต่างจากเครื่องรางทั่วไปเพราะท่านจะเลือกเจ้าของที่แท้จริงเสมอ ผู้ที่รับท่านไปจะถือเสมือนว่าเป็นดั่งบุตรบุญธรรมของมหาบุรุษองค์นี้เท่านั้นจึงจะครอบครองได้ ท่านจะปฏิบัติกับเราด้วยสายใยของพ่อที่พึงมีพึงรับผิดชอบชีวิตลูกเช่นนี้

    **** พ่ออาจารย์ท่านทำพ่อกาลิงคะไว้ห้าองค์เท่านั้น ท่านว่าวาสนาในปัจจุบันของสัตว์โลกนั้นท่านรับบุตรบุญธรรมและลูกหญิงลูกชายได้เพียงห้าคนตามจำนวนตัวเลขของภัทรกัป พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ที่ใช้องค์กาลิงคะนั้นจะพกองค์พระที่ส่วนใดของร่างกายก็ได้ทั้งห้อยคอหรือผูกเอวและแม้แต่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เพราะองค์ท่านสถิตย์อยู่ทุกที่ในธรรมชาติไม่เลือกสถานที่ว่าเราจะห้อยตรงไหนความเป็นจริงท่านก็ยังอยู่เช่นนั้นของท่านเหมือนเดิมและท่านประสงค์จะให้ตัวเองเป็นของกลางๆคือไม่สูงและไม่ต่ำเพื่อที่จะได้แก้ไขเรื่องราวโดยรวมของลูกๆได้ทุกเรื่อง องค์กาลิงคะทุกองค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านเลี่ยมห้อยเอวทำวิชาไว้ให้แต่เดิมทุกองค์ สำหรับพ่อกาลิงคะนั้นท่านว่าไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่นอะไรเลยมีแต่ใช้กับใช้เท่านั้น คาถาไม่ต้องท่านกำกับมาเลยว่าคุยกับท่านต้องผ่านแค่ภาษาใจ ใจที่บริสุทธิ์และศรัทธาอย่างจริงใจนั่นแหละจึงจะคุยกับท่านได้ตลอดเวลา รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดและความปรารถนาที่สุดในใจฝากเอาไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนเสื้อผ้ากันหนาวและทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา รูปสลักพระผู้มาโปรดองค์ปฐมกำเนิดกาลิงคะพราหมณ์(ไถ่ถอน,นิรโทษ,โรมรัน) บูชา 4,000 บาท

    78700224-448537019410883-7986213076678475776-n.jpg 78890556-3343783279026850-7459009904133537792-n.jpg 79374339-821563888285828-281470728988000256-n.jpg 78823889-435202443843645-1670687384166989824-n.jpg
    80347744-670302503502899-4423245359107538944-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รุ่นนี้ท่านเลี่ยมให้ทุกองค์นะครับไม่ต้องส่งค่าเลี่ยมมาเพิ่ม เพราะท่านเลี่ยมไว้คาดเอวตอนท่านเสกมาตลอด
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EI 3836 9617 9 TH

    พี่แมน EI 3836 9618 2 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะนำมาพูดคุยเรื่องกำลังของจิต เพราะหลายท่านสอบถามกันมาว่าหากจิตของตัวเองไม่ดีไม่มีพลังเนี่ยทำอะไรไปมันก็พังก็ไม่ดีทั้งนั้นจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร เราก็แนะนำได้เพียงให้สวดมนต์และเจริญภาวนาในขั้นต้น...ทำสะสมไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พรุ่งนี้จะลงเครื่องรางที่ได้ชื่อว่าควรมีไว้เพื่อประโยชน์ของตนเองอย่างมากที่สุด แอบแย้มๆว่ารายการนี้ทำยากแค่ผงสองตัวที่อุดรวมกันก็น่าสนใจมากแล้ว และรายการนี้ท่านก็ให้ออกในราคาไม่สูงด้วย ใครที่มีปัญหาในเรื่องกำลังของจิตและรู้ตัวว่าจิตตัวเองไม่มีกำลังเหมือนคนอื่น เดี๋ยวติดตามรายการนี้กันอีกที
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก)

    " หากจิตของตัวเองไม่ดีไม่มีพลังทำอะไรไปมันก็พังก็ไม่ดีทั้งนั้น...จึงเป็นตะกรุดที่มีไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด "
    ตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านอาราธนาคู่กายเสมอ
    ด้วยครูท้าวสหัมบดีพรหมท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ลงวิชาในสายของท่าน โดยใช้ชนวนอาถรรพ์คราวสร้างพระเจ้าสัวมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุด ด้วยชนวนนั้นมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เปลี่ยนคนสร้างคนได้ ท่านใช้ตะกั่วเก้าโกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้ เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้ว กว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านว่าได้แก่

    - เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
    - เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
    - เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
    - เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
    - เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
    - เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและมีความคิดฉลาดหลักแหลม
    - เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
    - เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
    - เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง
    ชนวนชุดนี้เกิดจากบารมีอันสั่งสมไว้นับชาติไม่ถ้วนของเหล่าเจ้าสัว โดยท่านนำตะกั่วโกฏิเหล่านั้นมาหลอมรีดไล่เอาตะกันออกจนบริสุทธิ์ ก่อนจะนำมาลงถมด้วยยันต์สำคัญต่างๆดังนี้
    ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ดวงปรินิพพาน ยันต์พระพุทธเจ้าถอดรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแปลงรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแบ่งภาค ยันต์พระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี ยันต์พระพุทธคุณ108 ยันต์มหาจักรพรรดิ ยันต์รัตนมาลา ยันต์มหาปราบ ยันต์มหาระงับ ยันต์คู่ชีวิต ยันต์ตารางเพชร ยันต์เฉลียวเพชร ยันต์เกราะเพชร...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านปกติจะหวงชนวนชุดนี้มากมีไม่กี่ครั้งที่ท่านจะนำชนวนอาถรรพ์เช่นนี้มาสร้างเครื่องมงคล ซึ่งหนนี้ท่านก็ได้นำมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดสำคัญด้วยเหตุว่าต้องการทำของที่
    "เปลี่ยนคนสร้างคนได้"

    เครื่องรางที่มีไว้เพิ่มพลังจิตตานุภาพในตัวเอง

    ตะกรุดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ใช้ควบคุมพลังงาน เป็นตัวสั่งการพลังงานในรูปแบบต่างๆให้แปรเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะการเกิดขึ้น,ตั้งอยู่และดับไป เช่นนั้นตะกรุดวิชาขององค์พรหมสูงสุดจึงมีพลังถ่ายทอดและควบคุมซึ่งกันและกันแบบเป็นลูกโซ่ พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งในห้วงมหรรณพนี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังงานและเชื่อมผ่านส่งต่อแบบมีผลกระทบซึ่งกันและกัน ### ถ้าเราควบคุมสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ชีวิตเราก็จะล้มทั้งกระดาน ล้มต่อไปเป็นทอดๆแบบตัวต่อโดมิโน เช่นนั้นทุกกระบวนการตั้งแต่การเกิดขึ้นของชีวิตไปจนถึงการคงอยู่และดับสลายจึงถูกกำหนดขึ้นด้วยธรรมชาติตามรูปแบบวงจรของแต่ละคน เพราะชีวิตของแต่ละคนนั้นย่อมมีระบบและโลกของตนเองต่างกันไปในขณะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับพลังงาน,ธาตุทั้งสี่ไปจนถึงพลังแห่งดวงดาวและกระแสวัฏจักรได้ ท่านว่าสังเกตุง่ายๆเลยเพราะสิ่งเหล่านี้มีผลกับชีวิตเราโดยตรงเช่นนั้นเราจึงเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันเปลี่ยนสภาพดำเนินไปสู่จุดแตกดับตลอดเวลา ...เพราะธรรมชาตินั้นให้ผลโดยตรงกับชีวิตของเรา เช่นนั้นเราจึงอาศัยกำลังธรรมชาติมาเปลี่ยนวงจรในตัวเองได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปได้นี้ท่านว่าก็คือพลังจิตตานุภาพ

    ด้วยสรรพสิ่งล้วนถูกสั่งการโดยพลังงานและส่งผลกระทบต่อมหาธาตุและการเปลี่ยนแปลงในวงจรชีวิตอย่างเป็นระบบ เช่นนั้นผู้มีกำลังทางจิตเข้มแข็งจึงได้เปรียบกว่าคนอื่นเวลาทำสิ่งเดียวกันอยู่เสมอ นั่นก็เพราะพวกเขาเหล่านี้จะควบคุมพลังงานที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในชีวิตตัวเองได้ แต่การฝึกเพื่อให้จิตเกิดพลังนั้นในหลายๆปัจจัยบางคนก็ไม่สามารถสัมผัสได้เลย ครูบรมพรหมท่านจึงโองการให้พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดชุดพิเศษที่เพียงนำติดตัวไว้ ด้วยเวทย์สวรรค์สูตรเฉพาะด้านในนั้นเขาก็จะขัดเกลาทั้งยังป้องกันเราจากสิ่งรบกวนต่างๆทางจิตไม่ให้มีสิ่งใดมาตกกระทบจนชีวิตต้องหันเหแย่ลงไป ท่านว่าใจเราจะสบายขึ้นไม่หนักหน่วงกับภาระในชีวิต ### ยิ่งหากเรานึกถึงแต่สิ่งดีๆด้วยแล้วจิตเราก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้น ท่านว่าคิดเรื่องดีๆต่อตนเองและผู้อื่นซักร้อยเรื่องในขณะที่พกตะกรุดนี้ พลังความคิดก็จะเปลี่ยนเป็นกำลังบริสุทธิ์ยกระดับพลังจิตตัวเอง ในขณะเดียวกันคนที่ไม่มีตะกรุดต่อให้คิดสิ่งดีๆซักร้อยอย่างพันอย่างมันก็เป็นได้แค่ความคิดไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้ตะกรุดเพิ่มกำลังจิตตานุภาพจึงเป็นเสมือนตัวแทนที่ใช้เชื่อมและยกระดับพลังจิตของเราเองหากอาราธนาติดตัวแล้วท่านว่าจะช่วยให้เราเองมีสมาธิมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตามคุณวิชาและแรงครูขององค์สหัมบดีพรหม ซึ่งท่านประสงค์จะให้ใช้ตะกรุดนี้เป็นกุญแจยกระดับจิตยกระดับชีวิตพัฒนากระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากพลังงานธรรมชาติ จะควบคุม,ยกระดับ,ทำลายหรือเปลี่ยนสิ่งต่างๆท่านว่าคนที่จิตมีกำลังมากพอล้วนกำหนดชะตาชีวิตในแบบที่อยากเป็นได้ทั้งสิ้น หากแต่เรานั้นขาดสิ่งที่จะควบคุมเขาให้เป็นไปตามกลไกความคิดของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนตัวต่อที่ต้องคอยต่อออกไปเรื่อยๆ กลไกในการควบคุมกำลังนี้ก็เหมือนกันมันต้องใช้ให้ต่อเนื่องและส่งผลเชื่อมต่อกันเป็นลูกโซ่จึงจะมีผลชัดเจน เช่นนั้นครูท่านจึงให้วิชามาสองแบบเพื่อใช้ให้คนที่ไม่มีโอกาสหรือไม่มีของเก่าทำมาและเหล่าคนที่สัญญาความจำได้หมายรู้ยังไม่เปิด ได้ใช้งานเพื่อเพิ่มกำลังจิตกำลังความคิดตัวเอง

    เมื่อชีวิตเราเข้าถึงจุดกำเนิดก่อเกิดพลังงานที่จิตเราเองควบคุมได้ เราก็จะเข้าใจว่าโลกนี้มีเรื่องต่างๆนับไม่ถ้วนที่เราสามารถทำได้ สิ่งที่เราไม่เคยทำไม่เคยคิดไม่มีหนทางและยังมองไม่เห็นด้วยมีข้อจำกัดทางสติปัญญา สิ่งที่ไม่เคยไม่อาจคิดหรือเข้าใจได้ ตรงนี้กำลังทางจิตเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันก็จะชี้นำเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆเสมอ ยิ่งจิตมีกำลังมากระดับสติปัญญาก็ยิ่งสูงสามารถเข้าใจเรื่องที่ลึกและละเอียดได้มากเป็นเงาตามตัว ด้วยธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่มากเราจึงต้องพัฒนากำลังจิตตานุภาพและสติปัญญาของตนเองให้เพิ่มขึ้นและมากขึ้น(ท่านว่าหากไม่ขัดเกลาเกิดกี่ชาติก็เป็นอยู่เช่นนี้ไม่ได้ยกระดับพัฒนาตัวตนไปตามภพภูมิต่างๆที่สูงขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น เรียกว่าเสียเวลาเกิด) พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเราใช้และเล่นเป็นเราจะไม่หยุดอยู่เพียงข้อจำกัดว่าโลกมีเท่านี้แค่นี้ ด้วยเราจะรู้เองว่ามีมิติอื่นๆซ้อนทับโลกและที่อยู่อาศัยของเราอีกมากซึ่งทุกมิตินั้นก็มีพลังงานดำเนินวนไปตามวัฎจักรของเขาแบบเราเช่นกัน เช่นนั้นเมื่อจิตเรามีพลังปัญญาเราได้รับการขัดเกลาและพัฒนาแล้วเราก็จะเข้าใจธรรมมชาติทั้งยังใช้กำลังนั้นขับเคลื่อนการดำรงค์อยู่ของตนเองได้

    ด้วยพลังจิตของเรานั้นเชื่อมโยงกับกำลังธรรมชาติ เช่นนี้ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์จึงเปรียบเสมือนเครื่องควบคุมและขับผ่านกระแสพลัง นอกจากเราจะรับรู้ได้ถึงมิติและกลุ่มก้อนพลังงานทั้งหลายเรายังอาจจะยืดอายุตนเองให้ยาวนานขึ้นด้วยตัวเรามีพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้น(ไม่เกินกรรม) พอเราสั่งสมสิ่งที่เป็นกำลังของจิตเราได้เราก็จะรู้เห็นสิ่งที่พลังงานธรรมชาติบังตาเราไว้ได้มากขึ้น ทั้งหากเรามีกำลังทางจิตแกร่งกล้าเราก็สามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงมันได้ ด้วยธรรมชาตินั้นมีต้นตอเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า ทุกสิ่งย่อมดำเนินไปเข้าหาจุดเสื่อมสลาย หากแต่สิ่งที่อยู่เหนือกำลังนั้นขึ้นไปกลับไม่ใช่สิ่งที่ไร้ตัวตนหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เราเองก็ต้องไปให้ถึงจุดนั้นเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาทางจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อจิตมีกำลังแล้วจะฝึกใช้พลังเล่นฤทธิ์ทำให้จิตตนมีฤทธิ์ นึกคิดสิ่งใดเป็นไปตามความต้องการจะฝึกมโนมยิทธิหรือทำให้แตกฉานในอิทธิวิธีก็ได้ เรียกว่าเมื่อจิตตานุภาพมีกำลังกล้าเรื่องทิพยอำนาจ,ทิพยโตหรือจักษุก็ดีย่อมจะพัฒนาไปตามจิตที่ละเอียดมากขึ้น กระบวนการตื่นรู้ ความจำ ความคิด ความรู้สึกล้วนพัฒนาทั้งหมดเพราะจิตเป็นพลังงาน ป็นพลังที่ควบคุมสมองโดยตรงเช่นนั้นจิตจึงทำได้หลายอย่างทั้งการปกปักคุ้มครองและทำสิ่งที่ต้องการรวมไปถึงสะกดข่มศัตรูทำให้ผู้อื่นเกิดความเกรงใจเลื่อมใสหรือจะใช้ทางบำบัดรักษาอาการต่างๆก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตที่มีพลังนั้นทำได้ทุกอย่าง

    เช่นนั้นท่านจึงต้องการให้จิตของพวกเรานั้นมีพลังโดยตัวมันเองเพื่อที่จะได้พึ่งตัวเองและพัฒนาตัวเองได้มากที่สุดท่านจึงลงตะกรุดแฝดด้วยวิชาครูบรมพรหมทั้งสองสูตรและม้วนเข้าหากันอุดผงลับเฉพาะไว้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยันต์แบบไหนอุดผงอะไรครูท่านให้ปิดปากให้สนิท ท่านว่าวิชาสำคัญนี้ต้องตายไปกับตัวเท่านั้น เช่นนั้นจึงบอกกันได้แค่เรื่องการอาราธนาไปใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีพัฒนาการไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริง เมื่อตัวปัญญาเกิดญาณทัศนะก็จะเปิดขึ้น เราจะมีความเข้าใจถึงความเป็นธรรมชาติและเข้าใจรอบรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งที่วันนี้เรามองว่าเป็นเรื่องเหนือโลก....ท่านว่าคนใช้เป็นเขาจะพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่เหนือโลกนั้นขอเพียงแค่พกไว้ยกระดับกำลังจิตตัวเองทุกเช้าค่ำเอาติดตัวไว้เช่นนี้ ข้อดีอุปมาเปรียบเทียบกับสิ่งใดไม่ได้เลยเราบอกได้แค่ว่าจิตที่มีพลังพร้อมจะพัฒนาในทุกด้านนั้นมันเหนือโลกและพร้อมที่จะพ้นโลกพูดได้เท่านั้น ผู้ที่อาราธนาจะไม่สามารถนำพลังจิตไปใช้ในทางที่ผิดได้นอกจากการพัฒนาส่งเสริมจิตวิญญาณและเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตตนเองดีขึ้น *** พ่ออาจารย์ท่านย้ำข้อนี้มากที่สุดเพราะกำลังทางจิตนั้นหากนำไปใช้ผิดที่ผิดทางย่อมก่อเกิดเภทภัยแก่ตนทั้งยังสร้างเวรกรรมไม่รู้จบสิ้น เช่นนั้นท่านจึงไม่ปรารนาจะเห็นใครตายไม่ดี ท่านว่าของบางอย่างก็ต้องจำกัดไว้เพื่อการพัฒนาเท่านั้น พัฒนาและควบคุมพลังงานไปดังใจคิดและแสดงฤทธิตามอิทธิวิธีควบคู่กับการถือศีลถือธรรมไม่ออกนอกกรอบเพื่อจุดหมายเดียวกันคือพระนิพพาน ท่านว่าผู้ที่มีกำลังทางจิตมากมีปัญญามากจะฉลาดรอบรู้ในความทุกข์คือรู้เท่าทันทุกข์ไม่เอาตัวเองเข้าหาความทุกข์และเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ทั้งยังเข้าถึงความเป็นทิพย์สามารถรู้อดีตและเห็นอนาคตบางช่วงบางตอนพร้อมทั้งเหตุผลที่ทำไมจึงเป็นแบบนั้นเพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนั้นท่านว่าจิตจะหยั่งรู้และเข้าใจได้ แม้แต่จะอ่านใจคนบางครั้งมองๆคนอื่นก็รู้สิ่งที่คนอื่นกำลังคิดเช่นนี้ ท่านว่าพูดถึงตรงนี้พอเพราะคนที่กระทำให้แจ้งในอิทธิวิธีอย่างแท้จริงแล้วเขาจะมีพลังเปลี่ยนธรรมชาติและเหาะเหิรเดินน้ำหายตัวหรือพูดคุยกันในระยะไกลเหล่านี้ย่อมทำได้แต่มันก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆหรือเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนี้ได้ทันทีต้องอาศัยเวลาการหมั่นขัดเกลาอย่างยิ่งยวด แต่เราก็ต้องว่าตามกันเป็นขั้นๆค่อยๆพัฒนาไปซึ่งตะกรุดตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นโอกาส...เป็นโอกาสที่ครูบรมพรหมท่านให้เวทย์สวรรค์ตัวนี้มาเพื่อพัฒนากำลังจิตตานุภาพโดยเฉพาะ แต่ก็ต้องรู้ว่าถนนนั้นมีหลายสายใครจะใช้ไปทางไหนเพื่ออะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน จุดหมายใครจะอยู่แค่ไหนก็เป็นความต้องการของเขา ขอแค่เพียงให้จิตมีกำลังสามารถควบคุมความคิดให้สงบได้ มีสติรู้เท่าทันความคิดตัวเอง มีสมองปลอดโปร่งไร้สิ่งเหนี่ยวนำฉุดรั้งอารมณ์ทั้งหลาย ทำให้เราตื่นให้ชีวิตสว่างไม่ฟุ้งซ่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเพียงเท่านี้ก็ดีกว่ามนุษย์ที่เดินสวนกันไปๆมาๆไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

    ด้วยสรรพสิ่งนั้นมีสองด้านเสมอเสมือนฉากขาวกับดำ(สื่อถึงพลังกายสิทธิ์ของผงที่อุดในตะกรุด) ท่านว่าหากด้านใดมากไปก็เพิ่มด้านตรงข้ามเข้าไปเสริมหากน้อยไปก็เสริมถ่วงดุลย์กันให้พอดีเช่นนี้จึงเรียกว่ากลับดำเป็นขาวเข้าสู่จุดสมดุลเพื่อให้จิตวิญญาณของเราปกติมากที่สุดไม่ร้อนรนด้วยสิ่งผูกรัดต่างๆที่สะสมมาเวลาเราใช้ชีวิต จิตที่ปกติสงบสุขไม่ฟุ้งซ่านเช่นนี้จึงจะสร้างพลังและก่อให้เกิดฤทธิทางใจต่างๆได้มากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เราบอกได้แค่เพียงไม่ใช่ลงเหล็กจารก็เสร็จเพราะท่านว่าเราทำเองไม่ได้ ต้องเชิญครูแฝงร่างให้องค์พรหมท่านจารของท่านเองแม้ผงที่อุดก็เป็นกฤติยาคมแฝดที่จะแก้อาถรรพ์คนที่ฝึกจิตไม่สงบ จิตไม่มีกำลัง ใช้พลังทางจิตเหล่านี้ไม่ได้ เพื่อจุดประสงค์จะให้ผู้อาราธนามีพลังจิตที่แข็งกล้าให้พัฒนาตนเองไปสู่จุดที่มีสมาธิโดยไม่ต้องหลับตา ท่านว่าเมื่อไปเรียนกสิณการเพ่งธาตุต่างๆก็จะทำได้ไวขึ้น ทั้งเกิดความรู้แจ้งในสรรพสิ่งควบคุมความคิดตนเองได้อันนำไปสู่การฝึกตน..ทั้งรู้ใจคนรู้ความคิดรู้เท่าทันตัวเอง(สำคัญที่สุด) รู้ความคิดสัตว์เวลาได้ยินหมาเห่าก็รู้ว่ามันอยากบอกอะไรเช่นนี้ท่านว่าเมื่อจิตมีพลังและเข้าสู่กระบวนการพัฒนามันก็จะค่อยๆพัฒนาไปทั้งชีวิต แม้ตายตกไปสิ่งที่ติดตัวนี้ก็จะอุบัติพร้อมกับเราในชาติใหม่ไม่ได้หายไปไหนเป็นพื้นฐานของเรา

    ตะกรุดแฝดคู่นี้พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเสมือนแสงสว่างในแสงสว่างท่านเรียกว่าแสงเหนือ ที่จะช่วยให้คนรู้จักควบคุมพลังทางจิตและนำออกมาใช้ได้ ทั้งยังเข้าใจธรรมชาติสามารถทำตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติจนพัฒนาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงดั่งใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าแรกก็จะค่อยๆค่อยๆ ค่อยค่อยเปลี่ยนไปตามพัฒนาการของตัวเรา เอาว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีที่สุดแน่นอน ทั้งความคิดยังจะเห็นจริงตามความเป็นไปของธรรมชาติไม่ว่าจะธาตุในวัตถุต่างๆทั้งรูปนามพลังงานการเปลี่ยนแปลงไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ เราจะเห็นตัวเราหมุนตามโลกไปพร้อมๆกับการฝึกตนตลอดเวลา เมื่อถึงจุดที่สมควรแก่ช่วงเวลาในชีวิตก็จะละซึ่งสังโยชน์ล่วงถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล้ากล่าวได้ชัดเจนว่าตะกรุดนี้เป็นเครื่องรางที่เหมาะจะพกเอาไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด เพราะเกิดมาชาติมนุษย์นั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝึกจิตพัฒนาตนเองอีกแล้ว

    ท่านว่าหนนี้ครูพรหมท่านขอไว้ไม่ให้ลงรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับวิชาเลยจริงจึงทำได้แต่บอกเล่าข้อดีและสิ่งที่จะเป็นเมื่ออาราธนาติดกายเสมอเท่านั้น ท่านว่าต้องพกและควรพกซึ่งท่านเองก็พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ท่านกล่าวย้ำแค่ว่า "จะกลับดำเป็นขาวกลับผิดเป็นถูก กลับชีวิตให้อยู่ในความสุขควรคู่กับสิ่งที่คู่ควรยิ่งๆขึ้นไป ยิ่งจิตมีกำลังมากขึ้นเท่าไหร่สิ่งที่คู่ควรนั้นก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว" วิธีใช้ ท่านว่าจะพกติดกระเป๋ากางเกงก็ได้ไม่ได้ห้าม หากแต่ต้องนำติดตัวเสมอไม่ควรถอดแม้เวลาไหน ยิ่งติดตัวได้บ่อยหรือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้นเพราะจิตจะพัฒนาไปไม่มีขาดช่วง คนที่พัฒนาได้ตลอดแม้แต่เวลานอนหลับนั่นคือการทำงานไม่หยุดพัก การขัดเกลาสม่ำเสมอ เช่นนั้นผลที่ได้ย่อมมากกว่าคนอื่น คาถาท่านว่าไม่ต้องใช้หากอยากท่องก็ท่องเพียง อรหัง รู้ ตื่น เบิกบาน ย้ำๆซ้ำๆวนไปมาเพียงเท่านี้

    *** ตะกรุดแฝดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ไม่กี่ดอก ท่านว่าทำได้น้อยเพราะผงทำยากและชนวนทำแผ่นตะกรุดก็หมด ท่านว่าไม่ต้องไปรีบขายใครเขา เพราะคนที่เห็นค่าตัวเองจริงๆเขาจะมาเอาไปใช้กันในหมู่ญาติวงศ์ของเขา ส่วนคนที่ไม่ให้ค่าไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้เขาจะไม่มองตะกรุดเช่นนี้เลย รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ก่อนส่งพ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวครูพรหมประสิทธิให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก) บูชา 2,500 บาท

    79436627-2188974848063353-636229384050573312-n.jpg 80116884-512888605968864-5589418091952996352-n.jpg 79253920-816774902078560-8133737330621022208-n.jpg
    78711916-1156751577856838-1260773519298396160-n.jpg










     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    รายการนี้ถ้าถามอะไรกันลึกๆก็ตอบได้ตามที่ท่านบอกคือ ท่านว่า ไม่ต้องไปรีบขายใครเขา เพราะคนที่เห็นค่าตัวเองจริงๆเขาจะมาเอาไปใช้กันในหมู่ญาติวงศ์ของเขา ส่วนคนที่ไม่ให้ค่าไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้เขาจะไม่มองตะกรุดเช่นนี้เลย
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธาพันธ์ EI 4838 2207 3 TH

    พี่พรเทพ EI 4838 2208 7 TH

    พี่ศิระ EI 4838 2209 5 TH

    พี่ณธพรหม EI 4838 2210 0 TH

    พี่พรหมพล EI 4838 2211 3 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...