"กระทู้จับฉ่าย".. สัพเพเหระ สิ่งละอันพันละน้อย เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

จาก facebook
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
6 ชม.

แต่ละวันทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ติดตามและพบเห็นข่าวที่ต้องสงสัยพร้อมๆ กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเราก็ไม่นิ่งนอนใจ มีการทำงานดังนี้ครับ...

1. ใช้ AI กวาดจับข้อมูลในสื่อออนไลน์ และรับแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ
2. รีบตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม ภายใน 24-48 ชม. มีการส่งข้อมูลไปยัง ปอท. ทุกวัน
3. ถ้าเป็นข่าวปลอม เมื่อส่งเรื่องต่อไปยังตำรวจ ปอท.’ (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี – บก.ปอท.) ซึ่งสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะจับกุมได้ก็ต่อเมื่อมีหมายศาลแล้ว

ในทางปฏิบัติ การจับกุมผู้กระทำความผิด จำเป็นต้องอาศัยทางตำรวจ ปอท. และระยะเวลาในการสืบสวน สอบสวน และตามจับ ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้พยายามสนับสนุนข้อมูลและร่องรอยต่างๆ ในระบบดิจิทัลอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทาง ปอท.จับกุมได้เร็วที่สุด ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณทุกท่านที่แจ้งข่าวผ่านช่องทางต่างๆ มาโดยตลอดครับ

> เฟซบุ๊ก www.fb.com/AntiFakeNewsCenter
> ไลน์ @antifakenewscenter
> เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
> ทวิตเตอร์ www.twitter.com/AFNCThailand

#ourBelief #บีพุทธิพงษ์


.

 

จาก facebook
China Xinhua News
23 ชม.

เคนยาเปิดขุมพลังงานแสงอาทิตย์ ฝีมือจีน ใหญ่สุดในแอฟริกา

ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่นี้ตอบสนองความต้องการพลังงานของประชาชน 7 หมื่นครัวเรือน(ราว 3.5 แสนคน) ในเคนยา หรือเทียบเท่าร้อยละ 50 ของประชากรใน การิสซา และจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจท้องถิ่น

อ่านต่อ : https://www.xinhuathai.com/…/เคนยาเปิดขุมพลังงานแสง_20191215


xinhuathai.com
เคนยาเปิดขุมพลังงานแสงอาทิตย์ ฝีมือจีน ใหญ่สุดในแอฟริกาXinhuaThai | XinhuaThai.

 

จาก facebook
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
3 ชม.

ข่าวปลอมการปรับขึ้นภาษีผ้าอนามัย 40% ที่โฆษกพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง อ้างว่าเป็นมติของคณะรัฐมนตรี จนมีการเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ตอนนี้ผมได้สั่งให้แจ้งความดำเนินคดี ฐานนำเข้าข่าวอันเป็นเท็จแล้ว

ผมได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตำรวจ เร่งตรวจสอบต้นทางของข่าว หากพบว่ามีเจตนาในการสร้างข่าวเท็จ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือบุคคลใด ก็จะต้องดำเนินคดีและขอศาลออกหมายจับตามกฎหมายทันที

#ourBelief #บีพุทธิพงษ์


.

 

จาก facebook
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
4 ชม.

จากการโพสต์ภาพอันมิบังควร และทำร้ายจิตใจคนไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ทางผมและทีมงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รีบดำเนินการเก็บหลักฐานทางสื่อออนไลน์ต่างๆ จนล่าสุดตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งถ้าแถลงข่าวได้เมื่อใด ผมจะรีบแจ้งทันทีครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครทนได้ ผมก็เช่นกัน ขอต่อสู้อย่างที่สุด เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของผองไทย

#ourBelief #บีพุทธิพงษ์


.

 

จาก facebook
China Xinhua News
10 ชม.

5 มณฑลจีนดันผลิตไฟฟ้าจาก ‘พลังงานสะอาด’ ทะลุ 1 แสนล้านกิโลวัตต์

อ่านต่อได้ที่นี่ : https://www.xinhuathai.com/…/5-มณฑลจีนดันผลิตไฟฟ้าจาก_20191…


.

 

จาก facebook
Thailand Vision
6 นาที

เดินถนนยังไงให้เศรษฐกิจดี รัฐบาลมีคำตอบ!!!
ล่าสุด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายประสาน หวังรัตนปราณี ออกมาเเถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับกิจกรรมถนนคนเดิน ว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้จัดพื้นที่ถนนคนเดิน หรือ วอล์คกิ้งสตรีท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขยายไปยังส่วนภูมิภาค

ภายใต้แนวคิด "เดิน กิน ชิม เที่ยว" โดยได้นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ถนนสีลม และเยาวราช ที่มีการปิดถนนบางส่วนเพื่อจัดงาน โดยเป็นการลดฝุ่นละอองPM2.5 ไปด้วยในตัว

ขณะเดียวกันก็เป็นการเสริมสร้างการตลาดของผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อยไปด้วยเช่นกัน โดยการนำร่องดังกล่าวประสบความสำเร็จเกินคาดคิด

ซึ่งที่ถนนสีลมมีนักท่องเที่ยวกว่า 7 หมื่นคน มีเงินสะพัดหมุนเวียนประมาณ7ล้านบาท ขณะที่ถนนเยาวราช มีการจัดงาน3 วัน มีนักท่องเที่ยวประมาณวันละ5ล้านคน รวม4วันมีรายได้ประมาณ 16 ล้านบาท

นายประสาน กล่าวว่า ทั้งนี้ นายกฯ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาอย่างถาวรเพื่อดำเนินการถนนคนเดินอย่างต่อเนื่องทั้งประเทศ โดยมีตนเป็นประธานคณะกรรมการดดำเนินการดังกล่าว

ซึ่งในวันที่22 ธันวาคมนี้ เวลา 18.00 น. จะมีการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดงาน มีรัฐมนตรี และผู้นำหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมงานที่ถนนสีลม

จากนั้นจะมีการจัดงานต่อเนื่องในทุกวันอาทิตย์ ตลอดทั้งปี 2563 โดยจะมีนำสินค้าโอทอปทั้ง 4 ภาค หมุนเวียนเข้ามาจำหน่ายในถนนสีลมด้วยเช่นกัน

นายประสาน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนการจัดงานที่ถนนสีลม จะแบ่งเป็นโซน ประกอบด้วย โซนวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่จะมีดนตรีเปิดหมวกของเยาวชน และนักศึกษาทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกิจกรรม

โซนอาหารการกินของดี ของเด่นในกทม. โซนคาราวานทรัคฟู๊ด ซึ่งเป็นการประกอบอาชีพส่วนตัวของคนรุ่นใหม่ โซนวัฒนธรรมที่จะมีการเปิดแสดงศิลปะวัฒนธรรมของทั้ง 4 ภาค

เพราะนอกจากจะเป็นการะตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เกิดความรักหวงแหน ซึ่งศิลปะ และวัฒนธรรมดีๆ ของประเทศเรา

ส่วนโซนเด็ก ก็จะเปิดโอกาส ให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาสนุกสนานบนถนนสีลม ที่ไม่สามารถทำได้ในวันธรรมดา โซนย้อนยุคที่จะมีสินค้าและอาหารโบราณสำหรับผู้สูงอายุมาพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น

------------------------------------
แหล่งข้อมูล
https://www.thaipost.net/main/detail/52767
-------------------------------------
กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
กับ Thailand Vision

....................................​

ถนนคนเดินทั่วไทย : ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป


ตลาดน้ำ : ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป

....................................
​

แท็ก : ไปที่กูเกิล > เป็นการเสิร์ชไปที่เมนู "ค้นรูป"
ท่านสามารถคลิกที่เมนูเพื่อดูรายละเอียดอื่นๆ .. ทั้งหมด, วิดีโอ หรือ แผนที่

ทั่วไป
ตลาดนัดทั่วไทย/ ตลาดสด/ ตลาดโต้รุ่ง/ ตลาดเช้า/ ตลาดประชารัฐ/ ตลาดชุมชน/
ตลาดผักผลไม้สด/ ตลาดผักผลไม้แปรรูป/ ตลาดเนื้อสัตว์/ ตลาดเนื้อสัตว์แปรรูป/ ตลาดอาหารทะเล/ ตลาดปลาน้ำจืด/ ตลาดปลาสวยงาม/

ตลาดดอกไม้ พวงมาลัย/ ตลาดต้นไม้ดอกไม้ประดับ/ ตลาดพระเครื่องวัตถุมงคล/ ตลาดพระ วัดราชนัดดา/ ตลาดเครื่องสังฆภัณฑ์/ ตลาดเฟอร์นิเจอร์/ ตลาดเฟอร์นิเจอร์ไม้/ ตลาดเฟอร์นิเจอร์เหล็ก/ ตลาดเฟอร์นิเจอร์วัสดุปิดผิว/ ตลาดเครื่องนอน/ ตลาดเครื่องสุขภัณฑ์/ ตลาดเครื่องเขียน/ ตลาดเครื่องพิมพ์/ ตลาดเครื่องเสียง/ ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า/

ตลาดขนมของฝาก/ ตลาดเครื่องปรุงอาหาร/ ตลาดเครื่องใช้ในครัว/ ตลาดถ้วยชาม/ ตลาดถ้วยชามเมลามีน/ ถ้วยชามเครื่องใช้ซุปเปอร์แวร์/ ตลาดเซรามิกส์/ ตลาดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย/ ตลาดเครื่องประดับ/ / / /

กทม
ตลาด อ.ต.ก/ ตลาดสี่มุมเมือง/ ตลาดปีระกา/ ตลาดปีนังคลองเตย/ ตลาดบ้านหม้อ/ ตลาดหลังกระทรวง/ ปากคลองตลาด/ โบ๊เบ๊/ สำเพ็ง/ พาหุรัด/ ตลาดผ้าประตูน้ำ/ คลองถม/ ตลาดวรจักร/ จตุจักร/ ตลาดจตุจักร2 มินบุรี/ ตลาดธนบุรี สนามหลวง2/

ภาคกลาง ภาคใต้
ตลาดรังสิต/ ตลาดต้นไม้รังสิต/ ตลาดไท/ ตลาดประตูน้ำพระอินทร์/ ตลาดหัวรอ อยุธยา/ ตลาดปากน้ำ พระประแดง/ ตลาดปากน้ํา สมุทรปราการ/ ตลาดมหาชัย สมุทรสาคร/ ตลาดนครปฐม/ ตลาดราชบุรี/ ตลาดโอ่งราชบุรี/ ตลาดอู่ต่อรถบ้านโป่ง ราชบุรี/ ตลาดเพชรบุรี/ ตลาดหัวหิน/ ตลาดหาดใหญ่/ ตลาดภูเก็ต/

ภาคตะวันออก ภาคอีสาน
ตลาดบางแสน/ ตลาดหนองมน/ ตลาดบ้านเพ/ ตลาดโรงเกลือ/ ตลาดปอยเปต/ ตลาดย่าโม/ ตลาดด่านเกวียน โคราช/ ตลาดขอนแก่น/ ตลาดทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานี/ ตลาดนครพนม/ ตลาดอุดรธานี/ ตลาดท่าเสด็จหนองคาย/ ตลาดหลวงพระบาง/ ตลาดเวียงจันทน์

ภาคเหนือ
ตลาดปากน้ำโพ/ /ตลาดนครชุมกำแพงเพชร/ ตลาดกล้วยไข่ กําแพงเพชร/ ตลาดทุ่งเกวียนลำปาง/ ตลาดเซรามิคลำปาง/ ลำพูนจตุจักร/ ตลาดเจ้าแม่จามเทวี(หนองดอก)/ กาดหลวงเชียงใหม่/ ตลาดคำเที่ยง เชียงใหม่/ ตลาดร่มบ่อสร้าง/ ตลาดแม่สาย/ ตลาดท่าขี้เหล็ก/

.................................
​

ลิงค์เว็บไซท์เกี่ยวกับตลาดสด
> http://www.thaifreshmarket.net/
> http://www.ทําเลขายของ.com/archives/24757
> https://www.เช่าตลาด.com/ตลาดสด/

 

ขออนุญาตนำลง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวครับ ไม่มีเอี่ยวเรื่องโฆษณาแต่อย่างใด
------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก facebook
สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya กำลังรู้สึกเบิกบานที่ สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
เมื่อวานนี้ เวลา 10:25 น. · เมืองพัทยา

สสปน ดูงานสวนลอยฟ้า หนึ่งเดียวในโลกเเละหอประชุมนานาชาติสวนนงนุชขับเคลื่อนธุรกิจ

วันนี้ 19 ธ.ค.62 นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้ให้การต้อนรับคณะหลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้ไมช์ สำหรับผู้บริหารภาครัฐ รุ่น 1และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จำนวน 40 คน เยี่ยมชมสวนลอยฟ้า และ หอประชุม NiCE ณ.สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ด้วยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ได้เปิด "หลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้ไมช์ สำหรับผู้บริหารภาครัฐ รุ่น 1" เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ได้ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ เกี่ยวกับขั้นตอนการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติและความสำคัญของการดึงงานใหญ่ (Mega Event) มาจัดในประเทศไทย และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ ผู้ประกอบการไมซ์ อันจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการธุรกิจ เข้าอบรมจำนวน 40 คน

นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า หอประชุม NiCE ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมทางด้าน MICE Meeting Incentive Convention Exhibition หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ สำหรับ ไมซ์ (MICE ) เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะโครงการของ ECC ที่กำลังเกิดขึ้นของรัฐบาล ศูนย์ประชุมเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ โดยสวนนงนุชสามารถจะรองรับกิจกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลัง การประชุม สัมมนา ถือได้ว่าเรามีการบริการที่ครบวงจรของการท่องเที่ยวทั้งสองรูปแบบคือตอบโจทย์ทั้งการท่องเที่ยวทั่วไป

สำหรับปีนี้ สวนนงนุช ได้จัดทำสวนแห่งใหม่ในพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งเรียกว่า สวนลอยฟ้า ขึ้นมานั้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ที่ปรารถนาที่จะชมสวนรูปแบบใหม่ ก็คือการชมสวนแบบท๊อปวิว ซึ่งภายในสวนนี้ได้นำไม้ดอก ไม้ประดับหายาก ที่อนุรักษ์ภายในสวนพฤกษศาสตร์ นานกว่า 30 ปี มาบูรณาการ ตกแต่งร่วมกับไดโนเสาร์ สัตว์โลกล้านปีสายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมกับการท่องเที่ยว สำหรับประชาชน เยาวชนรุ่นใหม่ อันจะนำไปสู่การอนุรักษ์พันธุ์พืช สัตว์ ควบคู่ไปกับความสวยงาม แปลกใหม่ ที่หาชมได้ยาก

นอกจากนี้ ภายในสวนลอยฟ้า ยังมีการประดิษฐานพระคู่บ้านคู่เมือง จำนวน 9 องค์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวยังสามารถสักการะขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เกิดความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ตลอดจน ได้ทำสิ่งอำนวยความสะดวกไว้สำหรับ มนุษย์วีลแชร์ หรือผู้พิการทางร่างกาย ได้มีโอกาสเหมือนคนธรรมดา ก็คือ ได้ทำลิฟฟ์ไว้บริการพารถวีลแชร์ขึ้นไปสู่ชั้นบนได้ 3 ระดับ ที่มีความสูงเพียง 6 เมตร เท่านั้นเพื่อชมสวนแบบท๊อปวิว ได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ในบริเวณสวนนี้ได้สร้างห้องอาหารติดแอร์ไว้รองรับผู้มาใช้บริการได้มากถึง 2,000 คน

รวมภาพเป็นขนาด A3

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
5 ชม.

เปิดถนนคนเดินทั่วประเทศแล้ววันนี้ 22 ธ.ค.62 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเปิดโครงการถนนคนเดินทั่วประเทศ “เดิน กิน ชิม เที่ยว @ silom Walking Street” ขณะที่ จังหวัดทั่วประเทศก็จัดให้มีถนนคนเดินสร้างรายได้ให้กับประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งชื่อถนนจะต่างกันไปตามแต่ละจังหวัด

ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย เป็นถนนแห่งความสุขให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย สร้างรายได้และมีกิจกรรมต่างๆโดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายมีทั้งสินค้าในพื้นที่ ผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์โครงการหลวง สินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป สินค้าวัฒนธรรม สินค้าพื้นเมือง ของขวัญของฝาก

จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมเดิน กิน ชิม เที่ยว ถนนคนเดิน ได้ทั้งในกรุงเทพฯและทุกจังหวัดทั่วประเทศ

#โฆษกบอกต่อ #อาจารย์แหม่ม

.................................
​

แท็ก : ไปที่กูเกิล > เป็นการเสิร์ชไปที่เมนู "ค้นรูป"
ท่านสามารถคลิกที่เมนูเพื่อดูรายละเอียดอื่นๆ .. ทั้งหมด, วิดีโอ หรือ แผนที่
.
ถนนคนเดินทั่วไทย > คลิกที่ชื่อ
.1. กรุงเทพมหานคร 2. กระบี่ ............ 3. กาญจนบุรี ..... 4. กาฬสินธุ์
.5. กำแพงเพชร ......6. ขอนแก่น ....... 7. จันทบุรี ......... 8. ฉะเชิงเทรา
.9. ชลบุรี ............. 10. ชัยนาท ....... 11. ชัยภูมิ .........12. ชุมพร
13. เชียงราย .........14. เชียงใหม่ .... 15. ตรัง .............16. ตราด
17. ตาก .............. 18. นครนายก .... 19. นครปฐม ..... 20. นครพนม

21. นครราชสีมา .. 22. นครศรีธรรมราช 23. นครสวรรค์. 24. นนทบุรี
25. นราธิวาส ....... 26. น่าน ............. 27. บึงกาฬ ........ 28. บุรีรัมย์
29. ปทุมธานี ....... 30. ประจวบคีรีขันธ์. 31. ปราจีนบุรี .. 32. ปัตตานี
33. พระนครศรีอยุธยา 34. พังงา ...... 35. พัทลุง ......... 36. พิจิตร
37. พิษณุโลก ...... 38. เพชรบุรี ....... 39. เพชรบูรณ์ .... 40. แพร่

41. พะเยา ........... 42. ภูเก็ต ........... 43. มหาสารคาม . 44. มุกดาหาร
45. แม่ฮ่องสอน .... 46. ยะลา ........... 47. ยโสธร ......... 48. ร้อยเอ็ด
49. ระนอง ............ 50. ระยอง ......... 51. ราชบุรี .......... 52. ลพบุรี
53. ลำปาง ........... 54. ลำพูน .......... 55. เลย .............. 56. ศรีสะเกษ
57. สกลนคร ........ 58. สงขลา......... 59. สตูล ........... 60. สมุทรปราการ

61. สมุทรสงคราม . 62. สมุทรสาคร . 63. สระแก้ว ...... 64. สระบุรี
65. สิงห์บุรี ........... 66. สุโขทัย ....... 67. สุพรรณบุรี ... 68. สุราษฎร์ธานี
69. สุรินทร์ ........... 70. หนองคาย ... 71. หนองบัวลำภู.72. อ่างทอง
73. อุดรธานี ......... 74. อุทัยธานี ..... 75. อุตรดิตถ์ ..... 76. อุบลราชธานี
77. อำนาจเจริญ

--------------------------------
​

หมายเหตุ : อาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับจำนวนจังหวัดว่า เป็น 77 หรือ 76 จังหวัดกันแน่ ติดตามข่าวก็ได้รายละเอียดว่า กรุงเทพฯไม่นับเป็นจังหวัด .. อ่านรายละเอียดตามลิงค์ครับ และล่าสุดมีข่าวปลอมว่าจะมีเพิ่มเป็น 83 จังหวัดนั้น ยังไม่เป็นความจริงครับ
>> ไปที่กูเกิล : จังหวัด/ จังหวัดของประเทศไทย
>> วิกิพิเดีย : จังหวัดของประเทศไทย

 

จาก facebook
ไทยโพสต์
6 ชม.

"อินเดีย" ดูงานบัตรทอง ชื่นชมไทยทำได้ทั้งประเทศ ส่วนแดนภารตะจัดทำได้บางพื้นที่เท่านั้น

23 ธ.ค.62 - ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ - เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ภก.คณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนระบบบริการปฐมภูมิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้การต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลแก่คณะผู้บริหารสาธารณสุข และ นักสาธารณสุขอาวุโสจาก รัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย จำนวน 22 คน คณะศึกษาดูงานภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำการบริหารสาธารณสุข (Executive Leadership Program in Public Health) ซึ่งได้เข้าศึกษาดูงานการดำเนินงาน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” บริหารจัดการโดย สปสช. ... อ่านต่อ


thaipost.net
.

 

เพื่อประโยชน์ของผู้คน โดยเฉพาะสมาชิกเว็บพลังจิต น่าจะมีการอัดรูปพระ .. ถ้าทางเว็บฯไม่ว่า เมื่อพบสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็จะได้นำมาลง ผมไม่มีเอี่ยวโฆษณาครับ

----------------------------​

จาก facebook
Master Photo Network
33 นาที

ลุ้นรับฟรี บัตร STARBUCKS มูลค่า 500 บาท จำนวน 5 รางวัล!!!!
.
#กติกา
1. Like & Share โพสต์นี้แบบเป็นสาธารณะ และคอมเม้นต์ใต้โพสต์ว่า "โปรแรง มาสเตอร์อัดรูปราคาพิเศษสุดๆ"
2. หมดเขตร่วมสนุก เวลา 24.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค. 63... ดูเพิ่มเติม



ลิงค์ > https://www.google.com/search?q=Mas...XZWisKHS3eAVgQ_AUoAnoECAkQBA&biw=1366&bih=604

 

จาก facebook

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
7 ชม.
ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในวัน “100 ปี ชาตกาล กําพล วัชรพล”และเป็นวันเดียวกับที่ "มูลนิธิไทยรัฐ" ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2522

#โฆษกบอกต่อ #อาจารย์แหม่ม

​

 

จาก facebook
ปราชญ์ สามสี
4 ชม.
ปราชญ์ สามสี 29/12/2562

กราบสวัสดี ท่านผู้อ่านอีกครั้งส่งท้ายปี หลังจากที่ไม่ได้เขียนอะไรมาเป็นเวลานาน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องออกมาเขียนคราวนี้เนื่องจาก เห็นกระแส ข่าวทางการเมืองของกลุ่มการเมืองบางพรรคบางพวกที่พยายามเสียเหลือเกินที่จะ “สร้างกระแส” โจมตีฝ่ายรัฐบาล แต่มันเป็นแค่เกมการเมืองจริงๆหรือ? หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น? วันนี้มีหลายประเด็นเรา มาเข้าประเด็นแรกกันเลยก็แล้วกันนะครับ

ประเด็นแรก เกี่ยวกับ กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ที่ จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2563 ที่สวนรถไฟ (ย้ายมาจาก ท่าพระจันทร์) มันมี “นัยยะ” ที่ พยายาม โยงกลับไปถึง เหตุการณ์หลังปฎิวัติ ปี พ.ศ.2475 โดยในกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” นั้นเอง กลับมี ความพยายามแจกเหรียญเชิดชูฝ่าย”ปราบกบฎ” ที่โยงไปถึงการ โค่นล้มกลุ่ม “ต่อต้านคณะราษฎร” (Resistance) ที่รวมตัวจากกลุ่มที่ต้องการคืนพระราชอำนาจให้พระมหากษัตริย์ และนายทหารที่ไม่พอใจกับการกดขี่ข่มเหงของ “คณะราษฎร” ในปี พ.ศ. 2476… โดยกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ดันตรงกับ 12 มกราคม 2476 คล้ายวันที่ รัชกาลที่ 7 ทรงลี้ภัยไปยังลอนดอนเพื่อหลบหนีการถูกกดขี่ของคณะราษฎร ก่อนที่จะขอสละราชสมบัติในเวลาต่อมา ก็เลยสงสัยว่า ตกลงแล้ว ที่จะวิ่งกันนี่ “วิ่งไล่ใคร”กันแน่?

ถ้ามองให้ดีให้ชัดก็เชื่อได้ว่า การวิ่งไล่ลุงแบบนี้ย่อมมีนัยยะ อย่างแน่นอนในการ พยายามเล็งเห็นผลบางสิ่งที่ไม่ใช่แค่ “ลุง” ซึ่งเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ ที่จงใจตราลงไปในประวัติศาสตร์ โดยอาศัยคนที่ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออ่อนประวัติศาสตร์ ในการ โจมตี บ้านเกิดเมืองนอนตนเอง... หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ ก็คือ การแจกเหรียญปราบกบฎภายในกิจกรรม วิ่งไล่ลุงนั้นแหล่ะครับ

จริงๆ งานนี้ ย้ายมาจัดที่สวนรถไฟแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่า มีหลายกลุ่มที่พยายามดาวกระจายแย่งกันจัด เหมือนกับที่พวกเขาพยายามจัดงานวิ่งไล่ลุง ในจังหวัดต่างๆ 4-5 จังหวัด ( ถ้ารู้แล้วว่า นัยยะจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ว่าจังหวัดนั้นๆ นึกยังไงที่ปล่อยให้ เกิดการจัด วิ่งไล่ลุง ได้)

ข้าพเจ้าก็เชื่อนะว่า จะต้องมีพวกแกนนำบางคน ช่วงชิงการนำไปวิ่งในเขต มธ. , เขตประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มคณะราษฎร หรือในเขตที่มีการห้ามมิให้เข้า เช่น พื้นที่พระราชฐานและรอบเกาะรัตนโกสินทร์เป็นแน่ เพื่อสร้างกระแส เหมือนกลุ่มล้มล้างสถาบันฯที่พยายามไปวิ่งที สหรัฐอเมริกานั่นแหล่ะครับ

เมื่อรู้แล้วว่าพวกเขาจงใจทำอะไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย เราชาวไทยควรทำหน้าที่พลเมืองดี เลิกสนับสนุนกิจกรรมที่ สร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย ครับ...
-------------------------

ประเด็นที่สอง เกี่ยวกับ เรื่อง การที่พรรคการเมืองหนึ่งพยายาม ชูความเป็น “ม้ง” หรือ “ชนกลุ่มน้อย” ให้ปลดแอกจาก “ไทย” โดยไปชักนำให้พวกเขาภูมิใจในความเป็นชนเผ่าท้องถิ่น แต่ก็แฝงไปด้วยการต่อต้านความเป็นไทยไปในตัว โดยสร้างค่านิยมว่า ชาวเขาถูกคนไทยกดขี่อย่างไม่เลียวแล

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะการพยายามสร้างความเข้าใจผิดๆเช่นนี้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ พรรคการเมืองเหล่านี้ เคยกระทำ ซึ่งเรื่องชาติพันธุ์เป็นเรื่อง ละเอียดอ่อนมากๆครับ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็คงไม่ยกมาพูดถึงครั้งนี้แน่ๆ เพราะ ข้าพเจ้าก็เชื่อว่าพวกเขามีแนวทาง ละม้ายคล้ายกลุ่มนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะวิธีการประท้วง ที่มักเอาความเป็นชนกลุ่มน้อยหรือ กลุ่มชาติพันธุ์แฝงมาเป็นเงื่อนใขในการเรียกร้องสิทธิเพื่อหวังผลในการล้มล้างกฎหมายเดิมที่เรียกว่ารัฐธรรมนูญนั้นเอง

ข้าพเจ้ายกตัวอย่างความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมชาวฮ่องกง และ จีนแผ่นดินใหญ่ เพราะจะเห็นภาพชัดเจนถึงแนวทางที่พวกเขากระทำ กล่าวคือ ผู้ชุมนุมชาวฮ่องกง โดยเฉพาะกลุ่มที่ออกมาต่อต้านกฎหมายของจีนแผ่นดินใหญ่นั้น มีความพยายาม ยกเอาเรื่อง กลุ่ม อุยกู(ชาวจีนมุสลิม) ในมลฑณ ซินเจียง ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เอามาเป็นเงื่อนใข ในการโจมตี กฎหมายจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อ “ขอแบ่งแยกดินแดน” เกาะฮ่องกง ให้ออกจากแผ่นดินใหญ่นั้นเอง

โดยในเชิงรายละเอียดนั้น นักเคลื่อนไหว ฮ่องกง มีความพยายามพาดพิงว่า ชาว อุยกู(ชาวจีนมุสลิม) มิใช่ “ชาวจีน” อีกทั้งมีวัฒนธรรมแตกต่างจากชาวจีน และไม่ควรถูกจีนแผ่นดินใหญ่รังแกด้วยการกลืนเป็น “ชาวจีน” ทัง้ที่ในความเป็นจริงแล้ว ชาวอุยกู หรือ ชาวซินเจียง นั้นเป็นส่วนหนึ่งของจีนตั้งแต่สองพันปีก่อน และนับถือมุสลิมจากอิทธิพลทางศาสนาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อัฟกานิสถาน และปากีสถาน

ซึ่งหากมองเชิงวิธีการแล้ว การพยายามเอาความเปราะบางทางชาติพันธุ์ ภาษาและศาสนา มาเป็นเงื่อนใข โดยหวังผลเพื่อสร้างความขัดแย้ง เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ ลดเสถียรภาพของประเทศ และมีแนวโน้มลุกลามไปถึงการแบ่งแยกดินแดน

สอดคล้องกับการทำสงครามสมัยข่าวสมัยใหม่ ที่เน้นปลุกระดมให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวายแบ่งฝักฝ่ายนั้นเอง


ย้อนกลับมาที่ เรื่องนักการเมือง อย่าง คุณ ”ส้มทอน” ที่พยายาม เสียเหลือเกินออกเดินสายไปสามจังหวัดชายแดนใต้เน้นการ ปลดแอก ปัตตานี ยะลา ออกจากประเทศไทย โดยอ้างถึงความต่างชาติพันธุ์และศาสนา และความขัดแย้งกับทหารไทย…ยังไม่พอ ยังพยายาม เดินสาย กับชาวม้ง ชาวชายขอบให้แข็งเมือง โดยอ้างว่า ประเทศไทยกดขี่ข่มเหง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ไม่จริงเลยซักนิดครับ

ประเทศไทย รักชาวม้งและไม่เคยกดขี่หรือบังคับให้พวกเขาเป็นคนไทย แต่อย่างใด แต่ในอดีตชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านและทำสงครามกัน จนไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องอาศัยหลบอยู่ตามป่าเขา พวกเขาอยู่ได้โดยการปลูกฝิ่น เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ชีวิตความเป็นอยู่เวลานั้นแร้นแค้นมาก ไม่สุขสบายเพราะ สาธารณสุขไม่เพียงพอ และยังขาดการศึกษา ชาวเขาหลายเผ่าหนีออกจากป่าเพื่อมาหางานในประเทศไทย แต่ลำบากเพราะกฏหมายในสมัยก่อนไม่รองรับ

แต่เพราะ ในหลวง ร.9 ที่ทรงเมตตา ทรงรับไว้เป็นคนไทยและดูแลเป็นอย่างดี และพระองค์ทรงเดินทางไปพบผู้นำชนกลุ่มน้อยด้วยพระองค์เองเพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่ของพวกเขา หลักฐานก็คือ เหรียญ ร.9 ที่มอบให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆเป็นหลักฐานว่าเป็นคนไทยนั้นแหล่ะครับ ทุกวันนี้ ชีวิต ชาวม้งดีขึ้น มีบัตรประชาชน และได้รับการศึกษาที่ดีจากประเทศไทย ได้รับการรักษาพยาบาล และทำงานได้เหมือนคนไทยทุกประการณ์

ดังนั้น วาทะกรรม ที่มีคนพยายามกล่าวหาว่า ประเทศไทยกดขี่ชาวเขา-ชนกลุ่มน้อย ด้วยการกลืนชาตินั้นมิใช่ความจริงใดๆเลยครับ เพราะเวลานี้ไม่ว่าท่านจะเป็นใครหากเกิดบนแผ่นดินไทย ก็ย่อมเป็นไทยด้วยกันทั้งสิ้น

จากสองประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ ก็พอจะชี้ให้เห็นแล้วว่า ไฟสงครามและความขัดแย้ง กำลังลุกลาม เราชาวไทยต้องรีบตระหนักถึงภัยครั้งใหม่ที่เกิดขึ้น วึ่งไม่ใช่แค่ การเมืองที่ตกเป็นเป้าหมาย ...แต่มีนัยยะบางอย่างบ่งบอกชัดเจนว่า ความขัดแย้ง พุ่งเป้าไปสู่การทำลาย ชาติไทย.

รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย
จะเกิดภาคไหน ก็ไทยด้วยกัน
เชื้อสายประเพณี ไม่มีกีดกั้น
เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย

--------------------------​

แท็ก : พระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 กับชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย/ กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย/ สมเด็จย่ากับชาวเขา/ สมเด็จย่ากับชาวเขา"ค้นรูป"

กลุ่มชาติพันธุ์ 41 ชนเผ่ากว่า 4 พันคนประกอบพิธีถวายความอาลัยส่งดวงพระวิญญาณร.9 สู่สรวงสวรรค์
ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป

................................................... ทั้งหมด ... วิดีโอ

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
27 ธันวาคม เวลา 08:19 น.

กระทรวงการคลังมอบของขวัญปีใหม่ 2563 ให้กับประชาชน โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนทั่วไป ผู้เสียภาษี เกษตรกรรายย่อย ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์

#โฆษกบอกต่อ #อาจารย์แหม่ม

(คลิกที่ภาพเพื่อแสดงภาพเต็มขนาด)​

หมายเหตุ ขออนุญาตรวมภาพเป็น A3

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
2 ชม.

รัฐบาลย้ำดูแลทุกคนทุกชาติพันธุ์ในแผ่นดินไทย โดยยึดหลักกฎหมายและมนุษยธรรม

ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เป็นเวลาที่ทุกคนจะได้มีความสุข ได้อยู่ร่วมกับครอบครัว ขออย่าได้จุดประเด็นความขัดแย้งให้เกิดความขัดข้องหมองใจ และในช่วงเทศกาลนี้ รัฐบาลพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนให้เดินทางกลับบ้านเยี่ยมครอบครัวโดยสวัสดิภาพ และสั่งการให้ทุกหน่วยพร้อมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

ย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งนะคะว่า รัฐบาลดูแลคนไทยและทุกชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทย โดยไม่ได้ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขอร้องว่าอย่านำประเด็นชาติพันธุ์มาสร้างความสั่นคลอนต่อความรักสามัคคีของคนในชาติ เชื่อมั่นว่าทุกคนบนแผ่นดินไทยต่างมีความรักประเทศไทย และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยรัฐบาลยืนยันดูแลทุกกลุ่มทุกชาติพันธุ์ตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม

ชาติพันธุ์ม้งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นชนกลุ่มน้อยเช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง เช่น ชาวเขาเผ่าต่างๆ ไทยใหญ่ จีนฮ่อ ไทยลื้อ และกลุ่มอื่นๆ ที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องสถานะและสิทธิ โดยมีมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องหลายมติ ได้แก่

มติ ครม. วันที่ 7 ธค.2553 กำหนดให้ชนกลุ่มน้อยที่ราชการได้จัดทำทะเบียนประวัติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย ให้สถานะเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ให้ขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่) และถ้าจะขอมีสัญชาติไทย ให้ขอแปลงสัญชาติ

มติ ครม. วันที่ 7 ธค 2559 กำหนดให้บุตรของชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทยสามารถขอมีสัญชาติไทยได้ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ โดย รมว.มท.มอบอำนาจให้นายอำเภอเป็นผู้อนุมัติ กรณีผู้ขอสัญชาติอายุไม่เกิน 18 ปี และให้ ผวจ.เป็นผู้อนุมัติกรณีผู้ขอสัญชาติอายุเกิน 18 ปี

มติ ครม. วันที่ 5 กค 2548 กำหนดให้เด็กทุกคนทั้งไทยและต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารทะเบียน สามารถเข้าเรียนหนังสือในระดับการศึกษาภาคบังคับได้ทุกรายโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี

มติ ครม. วันที่ 23 มีค 2553 และ 20 เมย 2558 อนุมัติให้สิทธิการรักษาพยาบาลแก่ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ที่รัฐสำรวจจัดทำทะเบียนไว้ทุกคนโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับอนุมัติสัญชาติไทยแล้ว จำนวนประมาณ 2.58 แสนคน

 

จาก facebook
ไทยคู่ฟ้า
2 ชม.
#ไทยคู่ฟ้า เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ พร้อมจ่าย 10 ม.ค.นี้ !

กรมบัญชีกลางเตรียมจ่ายตรงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรงให้กับผู้มีสิทธิของ อปท.ทั่วประเทศ จำนวน 7,774 แห่ง แบ่งเป็น

ผู้สูงอายุจำนวน 8.51 ล้านคน
ผู้พิการจำนวน 1.84 ล้านคน ​

พร้อมจัดทำปฏิทินสำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเพื่อให้ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบได้


.

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
3 ชม.

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการจัดกิจกรรมสำหรับบุตรเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในทำเนียบรัฐบาลเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ณ บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

-------------------------​

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
8 ชม.

วันเด็กปีนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ และเด็กจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความซื่อสัตย์ หรือเด็กกตัญญู และเด็กพิเศษหรือด้อยโอกาส จำนวน 20 คน พร้อมเปิดโอกาสให้นั่งเก้าอี้ทำงานนายกรัฐมนตรี และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน
.
นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยสอบถามเด็ก ๆ อย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวชื่นชมที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ ขอให้เรียนรู้ พัฒนาตัวเองต่อไป อย่าหยุดพัฒนา ในส่วนของเด็กที่มีความซื่อสัตย์ หรือเด็กกตัญญูขอให้รักษาความดีนี้ให้คงไว้ เพราะความดีจะทำให้ประสบความสำเร็จในทุกอย่าง มีแต่ความเจริญ และขอให้ชวน ๆ เพื่อนมาช่วยกันทำความดี พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวให้กำลังใจเด็กพิเศษหรือด้อยโอกาสว่า อย่าท้อแท้ มีกำลังใจในการดำรงชีวิต และให้ยืนหยัดอยู่ในสังคมด้วยความภาคภูมิใจ ดูแลตัวเองให้เข้มแข็งมีกำลังใจในทุก ๆ ด้าน

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
6 ชม.

ที่สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีกิจกรรมวันเด็กด้วยเช่นกันค่ะ นั่งเก้าอี้นายกฯกันมาแล้ว ลองมาทำหน้าที่เป็นโฆษกฯ กันบ้างค่ะ

(คลิกที่ภาพเพื่อแสดงภาพเต็มขนาด)​

-------------------------​

(หมายเหตุ ขออนุญาตรวมรูปเพื่อมุมมองที่เหมาะกับหน้าเว็บ)

 

จาก facebook
China Xinhua News
13 นาที
จีนเปิดใช้ "ดวงตาจักรวาล" อย่างเป็นทางการ หลังพิสูจน์สมรรถนะล้นเหลือนาน 3 ปี

อ่านต่อและชมภาพกล้องโทรทรรศน์ยักษ์ได้ที่
www.xinhuathai.com/tech/จีนเปิดใช้-ดวงตาจักรวา_20200111


xinhuathai.com

จีนเปิดใช้ "ดวงตาจักรวาล" อย่างเป็นทางการ หลังพิสูจน์สมรรถนะล้นเหลือนาน 3 ปี XinhuaThai | XinhuaThai

ชมคลิปวิดีโอแสดงการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ฟาสต์ชมคลิปการควบคุมและการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ฟาสต์ชมคลิป... (อ่านต่อ)

​

 

จาก facebook
China Xinhua News
2 ชม.
การแข่งขันพายเรือมังกรบน ‘น้ำแข็ง’ ในจีน

ชมภาพการแข่งขันพายเรือมังกรนานาชาติเสิ่นหยาง ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นบนลานน้ำแข็งกว้างยามหนาวของอุทยานโอลิมปิกเขตหุนหนาน นครเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
(บันทึกภาพวันที่ 11 ม.ค. 2020) ... ดูเพิ่มเติม

​