ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    VX9M-5_WbUKLVjXjbK66j0mtG2ZH1u1gB_9PNOuRHzu&_nc_ohc=ji00tAyEjyAAX8-l3tk&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    2 ธันวาคม 2563 ที่บ่อปลาของเกษตรกร ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่นายชนธัญ นฤเศวตานนท์ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปี 2559 ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านประมงน้ำจืดการเลี้ยงปลาในเชิงพาณิชย์ตามนโยบายสามเหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ ที่มีการเลี้ยง อีแกกือเลาะห์ หรือ ปลาพลวงชมพู เป็นหนึ่งในตระกูลปลาพลวง รูปร่างคล้ายปลาตะเพียน เป็นปลาเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยในปี พ.ศ. 2556 ทางการได้ประกาศให้ปลาพลวงชมพูเป็นปลาประจำจังหวัดยะลา

    นายชนธัญ กล่าวว่า ปัจจุบันปลากือเลาะห์ ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียและไต้หวัน โดยขนาดตัวที่หนัก 1 กิโลกรัม จะขายได้กิโลกรัมละ 3,500 บาท ซึ่งหากนำไปขายที่ประเทศมาเลเซีย ราคาจะเพิ่มเป็นเท่าตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 7,000 บาท และหากส่งไปที่ประเทศไต้หวันราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาทเลยทีเดียว สาเหตุที่ปลาชนิดนี้มีราคาแพง เนื่องจากเป็นปลาที่มีรสชาติดี เนื้อนุ่มอร่อย เหมือนปลาสำลีและหารับประทานได้ยาก ซึ่งจุดเด่นของปลากือเลาะห์ที่บางคนอาจยังไม่ทราบ คือปลาชนิดนี้สามารถกินได้ทั้งเกล็ด โดยในเกล็ดปลายังมีคอลลาเจนสูง
    "หลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่เดินทางมาลิ้มชิมรสปลากือเลาะห์ที่อำเภอเบตงก็ขาดหายไป ทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลากือเลาะห์ขาดรายได้ และในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ก็มีนักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอำเภอเบตงมากขึ้นและเข้ามาสัมผัสรสชาติความอร่อยของปลากือเลาะห์หลากหลายเมนูทั้งทอด นึ่ง ต้ม เช่น ปลากือเลาะห์ทอดน้ำปลา ปลากือเลาะห์นึ่งซีอิ๊ว"

    นายชนธัญ กล่าวอีกว่า ส่วนปลากือเลาะห์ ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ถือว่าอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากเป็นปลาที่ไม่เหมือนปลาชนิดอื่น ๆ ไม่ค่อยกินอาหารจึงโตได้ช้า ซึ่งในบ่อของตนจะทำการเพาะเลี้ยงในระบบน้ำไหลเหมือนธรรมชาติเพื่อให้ไม่มีกลิ่นคาวและเลี้ยงรวมกับปลานิล เพื่อให้ชี้นำในการกินอาหาร แม้จะมีหน่วยงานราชการและเกษตรกรนำไปเพาะขยายพันธุ์ แต่การเลี้ยงยังไม่กว้างขวางมากนัก เนื่องจากเป็นปลาที่โตช้าให้ไข่น้อย ครั้งละแค่ 500-1,000 ฟองเท่านั้น แตกต่างจากปลาชนิดอื่นในวงศ์เดียวกัน ที่เมื่อวางไข่แล้วจะให้ปริมาณไข่เป็นแสนฟอง อีกทั้งยังมีการตกไข่หรือไข่สุกไม่พร้อมกันอีกต่างหาก แถมยังตกใจง่าย ต้องใช้เวลาเลี้ยงหลายปี โดยตัวใหญ่สุดน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ต้องเลี้ยงนาน 10 ปีขึ้นไป อาหารที่ให้จะเป็นไส้เดือน แมลง และอาหารชนิดเดียวกับที่ใช้เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงในระบบน้ำไหลผ่านจากภูเขา ที่มาจากต้นน้ำป่าฮาลาบาลา ซึ่งปัจจุบันการเลี้ยงปลาชนิดนี้ ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

    สำหรับปลาพลวงชมพู เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน รูปร่างคล้ายปลาเวียน แต่ลำตัวเพรียวและเป็นทรงกระบอกมากกว่า ส่วนหัวค่อนข้างมน ริมฝีปากหนาปากกว้างเล็กน้อย ใต้คางมีติ่งเนื้อสั้น มีหนวด 2 คู่เห็นชัดเจน ตาอยู่ค่อนไปทางด้านบนหัว เกล็ดมีขนาดใหญ่ ครีบหลังมีก้านแข็ง 1 อัน ครีบหางเว้าลึก ครีบก้นสั้น ลำตัวด้านบนมีสีคล้ำอมน้ำตาล ด้านข้างลำตัวสีเงินเหลือบชมพูหรือทอง ครีบสีคล้ำ ด้านท้องสีขาว มีขนาดความยาวประมาณ 25 ซม. ใหญ่สุดที่พบขนาด 35 ซม. อาศัยอยู่ในลำธารหรือแม่น้ำที่มีฝั่งเป็นป่าครึ้มรวมถึงบริเวณน้ำตก พบเฉพาะภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ตั้งแต่แม่น้ำตาปีไปจนถึงมาเลเซีย พบมากที่น้ำตกฮาลา-บาลาภายในอุทยานแห่งชาติฮาลา-บาลา จังหวัดยะลา เป็นปลาที่มีรสชาติดีขึ้นชื่อของจังหวัดยะลา นับเป็นปลาที่มีราคาแพงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.isranews.org/.../documentary/93868-fish.html
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงวิกฤตไปทั่วโลก ตอนนี้ก็มีสถานการณ์ไข้หวัดนกมาให้หลายประเทศต้องกังวลเพิ่มอีกแล้ว หลายประเทศมีรายงานการระบาดอย่างหนักของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N8 และ H5N5 ทำให้ต้องมีการทำลายสัตว์ปีกเพื่อหยุดการแพร่ระบาดดังกล่าว

    โดยทางการนอร์เวย์ ประกาศว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีมาตรการเคอร์ฟิวสำหรับสัตว์ปีกในบางพื้นที่ของประเทศ หลังมีการยืนยันว่าพบไข้หวัดในนกป่า โดยนอร์เวย์เป็นประเทศล่าสุดในกลุ่มประเทศยุโรปที่ดำเนินการหลังจากพบไวรัสซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่อาจส่งผลร้ายต่อภาคเกษตรกรรม

    ขณะที่เบลเยียมได้ยืนยันการระบาดของไข้หวัดนก H5N5 ในฟาร์มสัตว์ปีก ซึ่งการระบาดเกิดขึ้นในเมืองทางตะวันตกใกล้ชายแดนฝรั่งเศสที่ทำให้นกเสียชีวิตถึง 600 ตัว และจำเป็นต้องจำกัดนกในฝูงอีก 151,000 ตัว รวมถึงฝรั่งเศสก็มีการระบาดของไข้หวัดนกเช่นเดียวกัน

    นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่และไข่รายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้เสียไก่เกือบ 500,000 ตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส และมีแม่ไก่มากกว่า 900,000 ตัว ตายในฟาร์มประเทศโปแลนด์

    รัฐบาลสหราชอาณาจักร เผยว่า พบไข้หวัดนกที่ฟาร์มไก่งวงทางตอนเหนือของประเทศ โดยไก่งวง 10,500 ตัว จะถูกกำจัดจากฟาร์ม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก แม้สาธารณสุขของอังกฤษจะกล่าวว่า ความเสี่ยงของสุขภาพประชาชนจากไวรัสอยู่ในระดับต่ำมาก และการแพร่ระบาดของโรคไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารแต่อย่างใด

    ก่อนหน้านี้ สวีเดนยังได้กำจัดไก่งวง 3,200 ตัว หลังพบไข้หวัดนก ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าจะช่วยหยุดการส่งออกสัตว์ปีกของประเทศไปยังตลาดนอกสหภาพยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 3 เดือน ขณะที่เยอรมนีมีการพิจารณาคัดแยกไก่งวงถึง 70,000 ตัว หลังพบไวรัสในฟาร์ม

    เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่มีการระบาดของไข้หวัดนกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 4 ปี โดยกระทรวงเกษตร กล่าวว่า มีการตรวจพบเชื้อในฟาร์มสัตว์ปีก และไก่ 146,000 ตัว รวมถึงสัตว์ปีกในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบฟาร์มจะต้องถูกกำจัด ซึ่งหมายความว่าจะมีการกำจัดไก่มากกว่า 1.8 ล้านตัว

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.posttoday.com/world/639203
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    1 ธันวาคม 2563 จากกรณีที่มีหญิงไทยหลายรายที่ลักลอบข้ามแดนจากประเทศเมียนมาเข้ามาใน จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ซึ่งถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 จนทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกับประชาชนในพื้นที่และผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้ สธ.มีการตรวจซ้ำเพื่อขยายผลให้มากที่สุด ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนผู้ลักลอบเข้าเมือง สธ. พร้อมดำเนินคดี ด้วยกฎหมายทุกมาตรา อาทิ ลักลอบเข้าเมือง ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งโรงแรมที่ให้พัก ก็อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายด้วย

    อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คนที่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทยอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากเรามีการประกาศไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้วว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แต่ปรากฏว่ามี 2-3 ราย หรือมากกว่ายังเดินทางเข้า-ออกเป็นว่าเล่นผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย และตนได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการดำเนินคดีให้แรงที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ทำร้ายบ้านเมือง เราจึงไม่ควรสงสารหรือให้ความชื่นชมต่อคนที่ทำความเดือดร้อน ทั้งที่เรากำลังจะเปิดประเทศ แต่ต้องมาทบทวนวิธีการผ่อนคลายใหม่

    เมื่อถามว่าจะส่งรถชีวนิรภัยพระราชทานไปตรวจในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราส่งไปตลอด แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน จึงต้องทำให้เราเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นมาก ทั้งที่ในความจริง ถ้าใครก็ตามที่เดินทางกลับเข้าประเทศ ก็ควรกักตัว แต่เขากลับไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า กินหมูกระทะ ไปหลับนอน อะไรเยอะแยะไปหมด และเมื่อป่วยแล้ว ก็ไม่กล้าบอกความจริง ตนขอชื่นชมตำรวจและฝ่ายปกครอง ที่ไปตรวจสอบจากโทรศัพท์ถึงจะทราบว่าบุคคลดังกล่าว เดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ตอนอยากบอกว่าบุคคลดังกล่าวนั้นแย่

    ส่วนการดำเนินคดีนั้น จะใช้ทุกมาตรา อาทิ ลักลอบเข้าเมือง ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งโรงแรมที่ให้พัก อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายด้วย เพราะตามปกติ ถ้ามีคนแปลก ๆ เข้ามาพัก เขาต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการแจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี หรือหากมีช่องทางที่ให้กระทรวงสาธารสุขสามารถดำเนินคดีได้ เราจะดำเนินการเอง

    ขณะนี้ได้ขยายผลตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ผลตรวจออกมาเป็นลบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือบุคคลที่สัมผัสผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คนนี้ ให้มาหาเราเพื่อจะได้ตรวจหาเชื้อและสร้างความมั่นใจให้กับสังคม อย่าให้เราต้องไปตาม โดยขณะนี้เราทำงานตรวจเชิงรุกอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องสูญเสียทรัพยากรมากมายมหาศาล ที่ต้องไปทำให้สถานการณ์เรียบร้อย ทั้งที่เกิดจากการกระทำของคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คน

    เมื่อถามว่าถ้ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากกรณีของผู้ที่ลักลอบเข้ามาดังกล่าว จำเป็นต้องปิด จ.เชียงใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราควรไปตรวจสอบที่ช่องทางธรรมชาติ ตะเข็บชายแดนต่าง ๆ เพราะตามด่านนั้นไม่มีปัญหา และไม่มีทางหลุดรอดได้แน่นอน เหมือนกับที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่ไม่มีการหลุดออกไปเลย แต่กรณีที่ลักลอบเข้ามาผ่านป่า ผ่านห้วย ลำคลอง เข้ามาทำไม่ได้ และไม่ควรทำ เป็นเรื่องของจิตสำนึก

    ส่วนเรื่องของการสร้างความมั่นใจให้ประชาชน เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า เอาเป็นว่าขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไปตกใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ระบาดใหม่ ๆ วันนี้เราเข้าใจสถานการณ์ของโรคเป็นอย่างดี การตรวจสอบ ป้องกัน และควบคุมเราทำได้ดี และที่สำคัญเรามียา เวชภัณฑ์พร้อม และโดยปกติถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงโรคนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้ ดังนั้น อย่ากังวลจนเกินเหตุ โดยสรุปคือขณะนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาเราคาดการณ์กันไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ไม่เป็นไร เรื่องชีวิตและสุขภาพเราต้องดูแลกันทุกคน

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.dailynews.co.th/politics/810124
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    1 ธ.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าการติดโควิค- 19 ที่จ.เชียงใหม่และเชียงรายว่า มีการรายงานตรวจพบผู้ติดโควิด-19 ในพื้นที่จ.เชียงรายเพิ่ม 1 ราย รวมตรวจพบในพื้นที่จ.เชียงใหม่ 1 ราย และจ. เชียงราย 3 ราย เป็น 4 ราย เป็นผู้ที่หลบหนีเข้ามาจากฝั่งเมียนมาทั้งหมด ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ถ้ามีการลักลอบเข้ามาแล้วไม่ผ่านระบบกักตัว อาจจะทำให้เกิดการแพร่เชื้อในประเทศได้ เพราะสถานการณ์ของโรคในประเทศต่างๆยังมีการระบาด จึงขอย้ำให้ประชาชนคนไทยที่จะกลับเข้าประเทศให้เข้าตามระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม 4 รายที่ตรวจพบติดเชื้อนี้ ระบบมีการตรวจจับได้อย่างรวดเร็วและควบคุมกลุ่มเสี่ยงสูงและเสียงต่ำได้อยู่ในระดับดีและผลที่ออกมาก็น่าจะให้ผลดีถือว่าเป็นระยะที่ยังควบคุมได้

    ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงโรคโควิด-19 ใน 2 จังหวัดนี้อย่างไร นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า มาตรการด้านสาธารณสุขทั้ง 2 พื้นที่ยังปฏิบัติการได้ดี มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อและติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมดตามแผนที่มีการเตรียมการไว้ อีกทั้ง ผลการตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสยังไม่พบใครที่ติดเชื้อต่อจากผู้ติดเชื้อที่ตรวจเจอก่อนหน้าซึ่งเป็นการ ในระยะต่อมา ฉะนั้นสถานการณ์ความเสี่ยงใน 2 จังหวัดอยู่ระดับควบคุมได้ น่าจะปลอดภัย และขอย้ำว่าจากไทม์ไลน์ที่รายงานไปนั้น มีเพียงบางพื้นที่ของจ.เชียงใหม่และเชียงรายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ เป็นบริเวณเล็กน้อย ไม่ได้ทั้งจังหวัด

    “ทั้ง 2 กรณี ระบบควบคุมโรคทำงานได้ดี สถานการณ์ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าระบบทำไม่ได้ เช่น ไม่รู้ไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ไม่สามารถติดตามคนที่เกี่ยวข้องหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ก็น่ากังวล แต่ทั้ง 4 รายที่ติดเชื้อ ระบบดำเนินการได้ดี ส่วนมาตรการทางสังคม สธ.แนะนำให้ว่าเพียงแต่ตื่นตัวในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่จำเป็นต้องปิดกิจการต่างๆ ยังดำเนินต่อไปได้ ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และคนที่จะไปท่องเที่ยวก็ไปได้ แต่ขอให้คงมาตรการป้องกันส่วนบุคคลไว้ในการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งหากเทียบกับสถานการณ์ช่วงที่ประเทศไทยมีการระบาดหนัก คนไทยร่วมมือกันปฏิบัติมาตรการป้องกันส่วนบุคคลก็สามารถจัดการได้ดี”นพ.เกียรติภูมิกล่าว

    นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า มีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ด้วยว่า มี 1 รายพบว่า ทารกที่คลอดจากมารดาที่ตั้งครรภ์ ติดโควิด-19และหายป่วยแล้ว ได้รับการถ่ายทอดภูมิคุ้มกันโควิด-19จากแม่ ซึ่งโดยปกติการติดเชื้อจะสามารถถ่าสยทอดภูมิคุ้มกันจากมารดาสู่ทารกได้ผ่านทางสายสะดือ ทำให้ทารกมีภูมิ อย่างเช่น โรคหัด ส่วนภูมิคุ้มกันที่ได้รับะจอยุ่นานแค่ไหนจะต้องมีการติดตามทารกต่อเนื่องต่อไป อย่างไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันโรคหัดจะอยู่ในลูก 1-2 ปี และไข้เลือดออกก็อยู่ 1 ปี เป็นต้น

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910503

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    26a0.png [BREAKING] 26a0.png #เศรษฐกิจโลกปีหน้าอาจแย่กว่าที่คาดไว้ ! OECD ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP โลกปีหน้าจากที่จะโตขึ้น +5% ลงมาเหลือเพียง +4.2% เพราะมองว่าหลายประเทศอาจยังต้องใช้มาตรการ Lock Down อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า #แม้วัคซีนจะเริ่มแจกจ่ายแล้วก็ตาม

    ถึงแม้ตอนนี้ตลาดหุ้นจะให้ความหวังกับวัคซีนเป็นอย่างมาก แต่ทางองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ออกมาเป็นอีกหนึ่งเสียงเช่นเดียวกับผู้นำธนาคารกลางหลายแห่งว่า #วัคซีนไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ทันที และยังอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวมากกว่าที่เราคาดไว้

    1f4ca.png รายงานการปรับ GDP ของ OECD เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนกันยายน

    ถึงแม้ทาง OECD จะปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ของ GDP โลกปีนี้จาก -4.5% ขึ้นมาเป็น -4.2% แต่เมื่อเทียบกับ % ที่หักลบออกไปจากปีหน้าแล้วถือว่า #ผลกระทบโดยรวมยังเป็นลบ

    และถ้า GDP โลกปีนี้หดตัว -4.2% และโตขึ้นเพียง +4.2% ในปีหน้า จะหมายความว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2021 #จะยังไม่สามารถฝื้นตัวกลับไปถึงระดับในปี 2019 ได้

    ทาง OECD กล่าวว่า "ในขณะนี้เศรษฐกิจโลกเรามีความหวังที่สดใสขึ้น และเราน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไปได้แล้ว แต่สถานการณ์ยังคงเปราะบางในหลายประเทศ และเราคงต้องเฝ้าระมัดระวังการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจโลกต่อไป"

    1f30d.png การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ

    1f1e8_1f1f3.png ทาง OCED มองว่าจีนจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจโลกและ GDP ของจีนจะผงาดกลับมาโตสูงถึง +8% ในปีหน้าเลยทีเดียว และ +4.9% ในปี 2022

    1f1fa_1f1f8.png ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐที่จะหดตัว -3.7% ในปีนี้ จะขยายตัว +3.2% ในปีหน้าและ +3.5% ในปี 2022

    1f1ea_1f1fa.png ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปที่โดนกระทบหนักในปีนี้จะหดตัวรวม -7.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัว +3.6% ในปีหน้าและ +3.3% ในปี 2022

    2705.png ติดตามข่าวสารในตลาดเงินและการลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิดไปกับทางเพจเราได้

    ท่านใดไม่อยากพลาดทุกอัพเดทที่รวดเร็ว แนะนำให้กดตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนของเพจให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    1f64f.png ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    26a0.png [BREAKING] 26a0.png S&P500 และ Nasdaq ดีดทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ! หลัง Jerome Powell และ Steve Mnuchin มีความเห็นตรงกันว่า สหรัฐต้องทำการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน เพราะการระบาดของไวรัสรุนแรงกว่าที่คาดไว้ !

    ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐจะลดลงมาต่ำกว่า 2 แสนรายต่อวันได้ แต่ก็ยังเฉลี่ยอยู่ในกรอบระดับสูงที่ 1.5 - 2 แสนรายต่อวัน อีกทั้งทาง CDC ยังได้ออกมาเตือนอีกว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในสหรัฐอาจมีสูงกว่าที่เห็นในรายงานถึง 8 เท่า ! ทำให้สถานการณ์ในสหรัฐยังน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

    แต่ดัชนีหุ้นสหรัฐทั้ง S&P500 และ Nasdaq ยังคงทยอยปรับตัวสูงขึ้นได้เรื่อยๆ เมื่อคืนนี้ทำ All Time High โดยการปิดที่ 3,662.45 จุด (+40.82 จุด หรือ +1.13%) และปิดที่ 12,355.11 จุด (+156.37 จุด หรือ +1.28%) ตามลำดับ

    1f4cc.png สาเหตุหลักๆที่ดันให้ตลาดหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ #นักลงทุนเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้

    Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวว่า "The risk of doing too much is less than that of not doing enough." หรือ

    "#ความเสี่ยงจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปนั้นยังน้อยกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยไป" และทางตัวเขาเองนั้นค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องตัวเลขไวรัสระบาดในประเทศ

    ทางด้าน Steve Mnuchin รัฐมนตรีคลังสหรัฐเห็นด้วยกับทางประธาน FED ที่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 4.55 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ตลาดเชื่อว่าทั้งคู่จะสามารถหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มเติมได้

    1f4cc.png ราคา #ทองคำดีดตัวขึ้นกว่า +2% เมื่อคืนนี้

    ราคาทองคำดีดตัวขึ้นถึงแม้ว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นจะทยอยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งขึ้นกว่า +38 เหรียญ และปิดตลาดที่ 1,818.9 เหรียญต่อออนซ์ น่าจะเป็นเพราะแรงเทขายที่หนักมากในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้เกิดแรงดีดขึ้นทางเทคนิค

    นักลงทุนควรจับตามองแนวต้านที่ 1,800 เหรียญ เพราะน่าจะกลับมาเป็นแนวต้านที่สำคัญในระยะสั้นได้

    1f4cc.png ราคาน้ำมันดิบยังทรงๆ #หลังโอเปกยังหาทางออกร่วมกันไม่ได้

    ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ปรับตัวลดลง -0.79 และ -0.46 เหรียญต่อบาร์เรลตามลำดับ หลังทางกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมและยังมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน

    ความขัดแย้งในครั้งนี้คงไม่ถึงขั้นทำให้เกิด #สงครามราคาน้ำมันอีกรอบ แต่หากทางกลุ่มยังไม่สามารถเห็นพ้องต้องกันได้ถึงการขยายเวลาลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าควรจะเป็นการตกลงที่ง่ายกว่าการตัดสินใจร่วมกันลดกำลังการผลิตครั้งประวัติศาสตร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเสียอีก ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นถึง #เสถียรภาพของกลุ่มที่ลดลง

    และตอนนี้ตลาดกำลังจับตามองเสถียรภาพระยะยาวของกลุ่มโอเปกนี้มากกว่าตัวเลขการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเสียอีก

    2705.png ติดตามข่าวสารในตลาดเงินและการลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิดไปกับทางเพจเราได้

    ท่านใดไม่อยากพลาดทุกอัพเดทที่รวดเร็ว แนะนำให้กดตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนของเพจให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    1f64f.png ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ไทยยังไง!!?? ผลสำรวจจาก MEET TAIWAN เกี่ยวกับความเห็นของนักเดินทางเพื่อธุรกิจจากบริษัทต่างๆ ของเอเชียเพื่อประเมินความสนใจสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในช่วงที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤต COVID-19 ระบาด ผลการตอบแบบสอบถามจำนวน 3,939 รายชี้ว่า หลัง COVID-19 คลี่คลาย พนักงานบริษัท 90% จาก 8 ประเทศในเอเชียต้องการให้บริษัทจัดทริปท่องเที่ยวสำหรับพนักงาน

    1f4cc.png กว่า 80% ของนักเดินทางท่องเที่ยวภาคธุรกิจในเอเชียยังให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันโรคของท้องถิ่น ตามด้วยความปลอดภัยสาธารณะ จากสถิติพบว่า 'ไต้หวัน' ได้รับเลือกเป็นจุดหมายอันดับ 1 สำหรับการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในบรรรดาบริษัทและประเทศต่างๆ ในเอเชีย เนื่องจากทรัพยากรท่องเที่ยวสมบูรณ์ ประสบความสำเร็จในการป้องกันโรค

    ** นักเดินทางท่องเที่ยวภาคธุรกิจถึง 99% แสดงความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแและการป้องกันโรคของไต้หวัน ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ในช่วงหลังวิกฤตโรคระบาด ในด้านการวางแผนท่องเที่ยว ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่า ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ด้านอาหาร วัฒนธรรมท้องถิ่น ตามด้วยการเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์.
    ------------------------------
    อ่านต่อ : https://brandinside.asia/taiwan-1-ranking-of-business.../...
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ยิ่งนานวันยิ่งร้าวฉาน!!! จีนเปิดศึกการค้ากับออสเตรเลียเพิ่มเติม ล่าสุดคือการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าไวน์สูงสุดถึง 212% โดยจีนมองว่า ไวน์จากออสเตรเลียเข้ามาทำให้ตลาดไวน์ของจีนได้รับผลกระทบ แต่ทางฝั่งของออสเตรเลียมองว่า พฤติกรรมของจีนถือว่าก้าวร้าว ทำให้การค้าโลกหมดความเชื่อมั่นจากพฤติกรรมนี้ และนั่นยังเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วย - ก่อนหน้านี้ไวน์ออสเตรเลียไม่โดนภาษีนำเข้าจากจีนเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีข้อตกลงการค้ากันอยู่

    1f4cc.png มูลค่าการส่งออกไวน์ของออสเตรเลียไปยังจีนคิดเป็นสัดส่วน 37% มูลค่ามากถึง 2,900 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือเกือบๆ 65,000 ล้านบาท

    ** รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมที่จะนำข้อพิพาทดังกล่าวนี้เข้าสู่กระบวนการในองค์การการค้าโลก หรือ WTO ในเร็วๆ นี้.
    ------------------------------
    อ่านต่อ : https://brandinside.asia/china-raise-australian-wine.../...
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว เว็บไซต์ Education First หรือ EF ได้จัดอันดับทักษะและความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษ 2020 พบว่า ประเทศไทยได้คะแนนอยู่ที่ 419 คะแนน รั้งอันดับที่ 89 จาก 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งตกลงมาจากอันดับที่ 74 ในปี 2019 ที่ผ่านมา และยังเป็นอันดับที่ 20 จาก 24 ประเทศในเอเชีย โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีทักษะภาษาอังกฤษระดับต่ำมากๆ หรือ Very low พร้อมทั้งยังอยู่ในโซนรั้งท้ายประเทศแถบอาเซียน (อันดับที่ 8 จาก 10 ประเทศ) อีกด้วย ยกเว้นประเทศบรูไน และ สปป.ลาว ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้ ซึ่งไทยมีคะแนนที่ใกล้เคียงกับประเทศเมียนมาร์ที่อยู่อันดับที่ 93

    1f4cc.png ประเทศเนเธอร์แลนด์ คว้าอันดับที่ 1 ได้รับคะแนนถึง 652 คะแนน ตามด้วยประเทศเดนมาร์ก 632 คะแนน และฟินแลนด์ 631 คะแนน.
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว คุมเข้ม!!! นายกรัฐมนตรี ช็อง เซ-คยุน ของเกาหลีใต้ แถลงหลังเสร็จสิ้นการหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ว่า รัฐบาลจะจำกัดการรวมกลุ่มและทำกิจกรรมต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงโซลและปริมณฑล โดยจะห้ามจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่อย่างเด็ดขาด รวมถึงสั่งปิดซาวน่า-ห้องอบไอน้ำสาธารณะ เพราะเสี่ยงจะทำให้เกิดการติดเชื้อในวงกว้าง ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศจะเริ่มเข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมตั้งแต่วันนี้ (1 ธันวาคม 2563) เป็นต้นไป

    1f4cc.png สำหรับ COVID-19 ระลอกสามในเกาหลีใต้ มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยยอดติดเชื้อในระยะหลังทุบสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือน.
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว สะพรึง!!! วานนี้ (30 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภูเขาไฟในจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออก ทางตอนใต้สุดของประเทศอินโดนีเซียเกิดปะทุรุนแรง พ่นเถ้าถ่านและควันขึ้นไปในอากาศสูงถึง 4 กิโลเมตร หน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟของอินโดนีเซีย รายงานว่า ประชาชนกว่า 2,700 คน ใน 26 หมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟ ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยภูเขาไฟลูกนี้อยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันออกประมาณ 2,600 กิโลเมตร

    1f4cc.png เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ศูนย์บรรเทาภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและภูเขาไฟของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า พื้นที่ใกล้ภูเขาไฟเต็มไปด้วยควันร้อน ธารลาวา และก๊าซพิษ โดยทางศูนย์ได้ยกระดับการเตือนภัยขึ้นไปสูงสุดอันดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าการปะทุของภูเขาจะรุนแรงมากขึ้น.
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ข้อมูลจาก รายงานเศรษฐกิจแรงงาน ประจำเดือน ก.ย. 2563 โดยกองเศรษฐกิจการแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ผู้ประกันตนว่างงาน 487,980 คน สูงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 183.03% เลิกจ้าง 242,114 คน สูงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 838.35% โดยทั้งการว่างงานและเลิกจ้างยังสูงสุดเป็นสถิติใหม่ต่อเนื่อง

    1f4cc.png การจ้างงานในตลาดแรงงาน เดือน ก.ย. 2563 มีแรงงานในระบบประกันสังคมหรือผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 11,093,914 คน มีอัตราการหดตัวร้อยละ -5.08 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 11,687,597 คน) และมีอัตราการหดตัวร้อยละ -0.21 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 11,117,083 คน) สถานการณ์การว่างงาน เดือน ก.ย. 2563 มีผู้ว่างงานจำนวน 487,980 คน มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 183.03 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 172,412 คน) และมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 12.18 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 435,010 คน) ทั้งนี้ อัตราการว่างงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเดือน ก.ย. 2563 พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 1.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1.9

    ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในระบบประกันสังคมระหว่างปี 2539-2563 พบว่า ก่อนหน้านี้สถิติผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในระบบประกันสังคมเคยสูงสุดที่เดือน มิ.ย. 2552 จำนวน 188,986 คน ต่อมาถูกทำลายสถิติเมื่อเดือน เม.ย. 2563 ที่ 215,652 คน และเดือน พ.ค. 2563 ที่จำนวน 332,060 คน เดือน มิ.ย. 2563 ที่จำนวน 395,693 คน ก.ค. 2563 ที่จำนวน 410,061 คน ส.ค. 2563 ที่จำนวน 435,010 คน ล่าสุดสถิติ 487,980 คน ณ เดือน ก.ย. 2563 นี้ก็ได้กลายเป็นสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในรอบปี 2563

    สถานการณ์การเลิกจ้าง เดือน ก.ย. 2563 มีผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุเลิกจ้างจากสำนักงานประกันสังคม มีจำนวน 242,114 คน มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 838.35 เมื่อเทียบกับ เดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (จำนวน 25,802 คน) และมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.89 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (จำนวน 220,324 คน)

    ** สำหรับตัวเลขลูกจ้างในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสาเหตุเลิกจ้าง เดือน ก.ย. 2563 จำนวน 242,114 คนนี้ถือว่าเป็นตัวเลขสูงสุดที่สำนักงานประกันสังคมเคยเก็บสถิติมาด้วยเช่นกัน.
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ต้องขอบคุณ ‘มหาเศรษฐีชาวมาเก๊า’ ที่ซื้อ ‘หัวม้าสัมฤทธิ์’ ไว้ครอบครอง และมอบกลับคืนสู่อ้อมอกจีน
    .
    1/ สำนักบริหารมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดว่า ประติมากรรม ‘หัวม้าสัมฤทธิ์’ ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 160 ปีก่อน กลับคืนสู่พระราชวังฤดูร้อนเก่าของจีน (ในชื่อภาษาอังกฤษว่า Old Summer Palace ชาวจีนเรียกว่า หยวนหมิงหยวน) แล้ว
    .
    2/ หัวม้าสัมฤทธิ์ เป็นสมบัติเก่าแก่ของพระราชวังฤดูร้อนเก่า ถูกโจรกรรมไปจากอุทยานหลวงโดยกองกำลังพันธมิตรแองโกล-ฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1860 ในช่วงสงครามฝิ่น ครั้งที่ 2
    .
    3/ บัดนี้ หัวม้าสัมฤทธิ์ วัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ถูกส่งกลับคืนสู่พระราชวัง และนำไปตั้งไว้ยังจุดเดิมภายในพระราชวัง
    .
    4/ หัวม้าสัมฤทธิ์ เป็นหนึ่งใน 12 รูปหล่อหัวสัตว์ตามปีนักษัตร ติดตั้งไว้เป็นส่วนหนึ่งของนาฬิกาน้ำภายในพระราชวังหยวนหมิงหยวน
    .
    5/ ทั้ง 12 รูปหล่อหัวสัตว์ ถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ราวปี ค.ศ. 1736-1795 ออกแบบโดย จูเซปเป้ คาสติลิโยเน่ ศิลปินชาวอิตาลี แต่สร้างขึ้นด้วยฝีมือชาววัง จึงเป็นประติมากรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันออกและตะวันตกได้อย่างงดงามและลงตัว
    .
    6/ การที่สมบัติทางวัฒนธรรมกลับคืนสู่อ้อมอกจีนอีกครั้ง ต้องขอบคุณมหาเศรษฐีชาวมาเก๊า นายสแตนลี่ย์ โฮ ผู้ซื้อและครอบครองหัวม้าสัมฤทธิ์ ก่อนจะตัดสินใจมอบคืนให้สำนักบริหารมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน
    .
    ที่มา: www.xinhuanet.com/english/2020-12/01/c_139556267.htm
    .
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    26a0.png [BREAKING] 26a0.png ด่วน ! รัฐบาลอังกฤษอนุมัติวัคซีน Covid-19 ของ Pfizer / BioNTech แล้ว ! กลายเป็นประเทศตะวันตก #ประเทศแรกในโลกที่ได้ทำการอนุมัติวัคซีน และจะเริ่มการแจกจ่ายอย่างเร็วที่สุด !

    บ่ายวันนี้บ้านเรา ทางรัฐบาลอังกฤษได้ตอบรับคำแนะนำจากหน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของอังกฤษ Regulatory Agency (MHRA) ให้อนุมัติการใช้วัคซีน Covid-19 ของ Pfizer / BioNTech ได้อย่างเป็นทางการแล้ว

    ทางบริษัทจะเริ่มการแจกจ่ายโดยทันทีและเชื่อว่า #ภายในอาทิตย์หน้าจะสามารถมีวัคซีนพร้อมใช้กันทั่วสหราชอาณาจักร และทาง Pfizer / BioNTech มีเป้าหมายที่จะผลิตวัคซีนโควิดให้ได้ 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และผลิตอีก 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า

    2705.png ติดตามข่าวสารในตลาดเงินและการลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิดไปกับทางเพจเราได้

    ท่านใดไม่อยากพลาดทุกอัพเดทที่รวดเร็ว แนะนำให้กดตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนของเพจให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    1f64f.png ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    *** เคสใหม่มาถี่ จนประเมินให้ไม่ทันแล้ว ... อ่านข่าวแล้วขนลุก ลักลอบข้่ามประเทศดูเหมือนง่ายมาก ... แถมเหมือนบทลงโทษจะไม่หนักพอที่จะทำให้คนกลัวการลักลอบอีก
    การที่มีผู้ติดเชื้อแล้วไม่รู้ตัวลักลอบเข้าไทย แล้วเราจับไม่ได้สักวันละ 2-3 กลุ่ม กลุ่มละ 10-20 คน อาจจะทำให้มีการระบาดทั่วประเทศเวฟ 2 หรือ 3 4 ได้ไม่ยาก
    โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในพม่า มาเลเซียแบบยั้งไม่อยู่
    ถ้าปล่อยเข้ามาระบาดหนัก ปิดเมือง ล็อกดาวน์กันอีกรอบ ใครจะรับผิดชอบ !!??
    .................. .....
    จับอีก 8 คนไทย หนีโควิดจากพม่า แฉค่าจ้าง 6.5 พันพาข้ามแม่น้ำสาย
    30 พ.ย. 2563
    https://www.thairath.co.th/news/local/north/1986359...

    .................
    จากข่าวนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย เช่น
    1. ลักลอบข้ามพรมแดนไปกลับ ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ ? ... กลุ่มที่ลักลอบกลับเข้าไทยนั้น ตอนขาออก ออกไปอย่างไร ... หน่วยงานรัฐไม่แจ้งให้คนไทยทราบบ้างเลย ?
    2. จุดเดียวกับที่ วัยรุ่น 17 ปีเคยลักลอบข้าม ก็ยังมีคนลักลอบข้ามมาได้อีก ... แปลกดี
    3. มีคนใน มีเอี่ยวกับขบวนการลักลอบแค่ไหน ?
    4. สังเกตุดูว่า ผู้ลักลอบไม่ใช่คนในจังหวัดตาก เชียงราย เชียงใหม่ แต่มีหลายจังหวัด หลายภาค ถ้าติดเชื้อแล้วกลับบ้านหมด ก็แพร่เชื้อได้ทั่วประเทศได้
    5. ยิ่งพม่ายิ่งระบาดหนัก ยิ่งล็อกดาวน์ คนยิ่งตกงาน คนยิ่งผวาหนัก ยิ่งหนีเข้าไทยมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ ?
    6. ถ้าคนไทยในพื้นที่ไม่ค่อยใส่มาส์ก ผู้ลักลอบที่ยิ่งทะลักเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ นั้น พอเข้ามาแล้ว ก็มักไม่ใส่มาส์ก เพื่อมิให้เป็นที่ผิดสังเกตุ หรือไม่ ?
    ในช่าว พอเข้าไทยได้ ก็ไม่ใส่มาส์กกัน ขึ้นรถโดยสารกันสบายๆ โดยไม่ใส่มาส์ก
    ใช่เพราะการ์ดตกกันค่อนประเทศทั้งประชาชน หน่วยงานเอกชน หน่วยงานรัฐ เพราะ 0 ต่อเนื่องยาวนานเกินไป หรือไม่ ?!?
    ---> เราควรมีกฎหมายบังคับใส่มาส์กแบบจริงจังในบางพื้นที่เสี่ยงบ้างหรือยัง หรือรอระบาดหนักก่อน !?!
    ---> เราควรกฎหมายบังคับใส่มาส์กในรถโดยสารสาธารณะบ้างแล้วหรือยัง หรือ รอระบาดหนักก่อน ?!?
    ...................
    คำถามที่ควรมีคำตอบ มีอีกมหาศาล เช่น
    ....................
    1. ขบวนการลักลอบนำเข้า มีกี่ขบวนการ ?
    2. จับได้บ้างหรือไม่ กี่ขบวนการแล้ว ?
    3. แต่ละขบวนการ ลักลอบเข้ามากี่คน ใครบ้าง ไปที่จังหวัดไหนบ้าง ?
    4. ทำมานานแค่ไหนแล้ว ?
    5. คนในหน่วยงานรัฐ และคนในพื้นที่มีเอี่ยวบ้างหรือไม่ ?
    6. ควรเพิ่มโทษให้เป็นคดีความมั่นคง หรือเพิ่มโทษให้มากขึ้นหรือไม่ ?
    7. ถ้ามีการระบาด ผู้ลักลอบเข้า กับขบวนการลักลอบจะมีส่วนช่วยรับผิดชอบได้หรือไม่ ?!
    8. เรามีกำลังเฝ้าชายแดนไม่ละเอียดพอหรือไม่ ??
    ถ้ายอมรับความจริง ก็ควรมีอาสาสมัครในพื้นที่ชายแดนจัดทีมผสมผสานเป็นเวรยาม เฝ้าระวังแต่ละจุดเป็นผลัดๆ กันให้มากขึ้นอีกมากๆ --- เป็นการจ้างงานคนในพื้นที่ให้มีงานทำ ดีกว่า "แจกเงินฟรี" --- เป็นการปกป้องตนเองของคนในพื้นที่ด้วย --- อาจทำ App "ปกป้องประเทศไทย" เพื่อรายงานจุดเสี่ยงที่ชายแดนทั่วประเทศ
    9. เรายังไม่มีความร่วมมือในระดับชุมชนที่ดีพอ ไม่มีแรงจูงใจในการช่วยเหลือรัฐบาลในการเฝ้าระวัง ป้องกันผู้ลักลอบข้ามพรมแดนหรือไม่ ?
    ถ้าใช่ เราควรมีเงินรางวัลนำจับให้ผู้ที่สามารถชี้เบาะแส หรือนำจับผู้ลักลอบเข้าไทยเพื่อให้ได้ผลจริงจังมากขึ้น และเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ที่เข้ามาช่วย
    10. เรามีคนในพื้นที่ คนในหน่วยงานรัฐมีเอี่ยวบ้างหรือไม่ ?
    ในกรณีมีคนพื้นที่ ข้าราชการ นักการเมือง มาเฟียท้องถิ่นมีเอี่ยว ก็ให้ทีมผสมตำรวจ ทหาร ข้าราชการส่วนกลางขึ้นตรงต่อนายกเข้าไปเคลียร์
    ไม่งั้นคงมีลักลอบเข้ามาอีกเรื่อยๆ แน่ ถ้าพม่าระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ

    upload_2020-12-2_15-45-59.png

    YPzjyny2BFIXDpI7Qjz6LM2Kz3PTwZoJQod0u50pb91&_nc_ohc=Ou4DB6suprUAX89UZLA&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    4WfBC5XPymj2yl_mg2eaJvgSYKth6xMlkGyHkhltlsH&_nc_ohc=Fp3gSTqaXnYAX8rA_Qe&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    JYfr17LI2Zy9LzzvZoeINUsCwqevsggsCslJjxUj5ug&_nc_ohc=F4WNFd9YWXEAX8KX_kL&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    RX6pR8PL6BZ2dUvLOUAn99iNK1PCqqKSEwOGF6dgeTC&_nc_ohc=Y6zL7eEGvyEAX-BnwgK&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    We7OyuLHhlu2dabEXgYhE8BKLEOn6jEtO7JAR5S1R4s&_nc_ohc=NRLteXOwTsEAX-ZkVZ1&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    poOhVup62yflKMjJ3luAD6f2Yot-lEaqPtTFzJaA8wA&_nc_ohc=5-UQMMi3f8MAX97TOX9&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    1DDKR1zgDETESsnv4hUEYIQTTRFjVAaPLFnbysdKcf1&_nc_ohc=kGSgQa6mOKgAX_j5oYL&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    iQM68UsYzPQ4HUs-IDMcj828jpv1XA_PyaF6VWg9Gbs&_nc_ohc=GML9K1pnCawAX9ZG8_R&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    TelG50TikC2_Zz7W9lYgqQmTlhmc5CvwnzhOgcbGzRZ&_nc_ohc=0jSYGFxUEnoAX87Iehg&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    IqIx03JRJnugAzvUY1Iz_tg-7XVPxWBqABJ8kwfqafu&_nc_ohc=Mmckf0fgf8UAX8aVZKd&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ความก้าวหน้าผลการสอบสวนผู้ป่วยโรค COVID-19 จาก ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563

    upload_2020-12-2_15-51-5.png


    DU6GEQhNSx1ByZRvA33K5MZGijE7-0tDsUHCF7-weue&_nc_ohc=IWpgL7KICi0AX_4EfqN&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    lM6v52DdeuuK8aBjxcTjebbm-qdQVRe14Toca6JNlSD&_nc_ohc=c3Ven3W6bEoAX-UqrKz&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    qmQR4Lg84TRNfJo2oAkw7VxJU11-13GZyOTVSzCmjW0&_nc_ohc=3HjEnb2_TLQAX-ALivf&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    tOR2O7SBm_jOXwVDGDt1-3zgFEKOh160yikJeiP1iWY&_nc_ohc=DbFOfHUL0VkAX8opwX3&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    A4-gHPqor_4AyuxHpMZw-0E7NpsgrjkmvraLIK7iEYr&_nc_ohc=O0VPpCbUxCcAX8s65cw&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    4x9q1rvGXy2hq_wOL5wdUDIaMo2T-wAq-YkLOJvJyGe&_nc_ohc=TsLsoLCuVjUAX-BuFKd&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    -OAkSRr1JzzdNyxvAfGj7G2tRMmv_iMZnauL6qznX6K&_nc_ohc=Ml_dNEmN6ocAX_7ws_b&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    0ElWK7LOA9KyyNujgbqY_6-S7f5biaX_lSQQUpMa7Y2&_nc_ohc=KSp58SNyxSoAX-YplSY&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    e_nN4wE32iTLVzLfkbaAJLtmxJ0BPTqUSUjR9Z_febA&_nc_ohc=KarLZ5fI-hkAX-oZ2ai&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    ffG1nQSTNRudqlZsUhFoIM2GI9lRua-tQQc8th_d_Rw&_nc_ohc=CqSk3fWyqhIAX_-mwaj&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    -oyJLEKMqoWpmoM4H9JE-a0RRmaWovz9mj1VbRKyu9u&_nc_ohc=cvQP5Lcks1cAX-GTlna&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    kWj0Ye88-DSptH9dv1SJn0rJzhduIX0RTNxF2olesyZ&_nc_ohc=tVwPuTM1D6wAX_3kXo_&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    8qhRVGtTA42T09XAUmE6Pm6df73Z5kKNuGja_Hj_LlJ&_nc_ohc=gEpt82SfFD8AX8f-soE&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    k-qQg-xyvgA8I74Ny9Txz_fjZDEGCSfWXUsvE9Tsc-F&_nc_ohc=j5IzLY0qfZAAX_APviF&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    ZtMCmOs9hDx-G85b_udi2WF4R0G2-QkO90iKEJuCljP&_nc_ohc=fhNuZxbISUcAX94Fhdh&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    วันนี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่า โควิด-19 เชื้อไวรัสจะชอบอากาศเย็น และอยู่ได้นานมากกว่าอากาศที่ร้อน สถานที่ปิด เช่น สถานบันเทิงต่าง ๆ จะเป็นแหล่งแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสถานที่อยู่โล่งแจ้ง การติดต่อของโควิด-19 จะพบได้ง่ายในบุคคลในบ้านเดียวกันมากกว่าการติดในที่ทำงานถึงเกือบ 10 เท่า
    .
    ผู้ที่มีอาการ จะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้มากกว่าผู้ไม่มีอาการ 3-4 เท่า การแพร่กระจายโรค จะเริ่มจากในเมืองก่อน แล้วกระจายสู่ชนบท ในกรณีที่พบผู้ป่วยปอดบวมมาโรงพยาบาลแล้วตรวจพบเป็นโควิด-19 แสดงว่ามีการติดเชื้อ หรือแพร่กระจายโรคอีกเป็นจำนวนมากที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ
    .
    การเฝ้าระวังในกลุ่มที่มีโรคทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน เช่น เป็นไข้ หวัด เจ็บคอ ไอ มีการแยกโรค และตรวจกรองแต่เริ่มแรก จะลดโอกาสแพร่กระจายโรคในโรงพยาบาล โรงพยาบาลอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เกิด superspread ได้
    .
    การช่วยกันดูแล เฝ้าสังเกต รวมทั้งคนแปลกหน้า แรงงานต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค เป็นหน้าที่ของทุกคน
    .
    เราจะต้องยื้อเวลาให้นานที่สุด จนกว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มาสร้างภูมิต้านทาน ให้ แผนการติดเชื้อ และมีอาการของโรค เพื่อลดการระบาดของโรค และจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 1 ปี ขอให้ทุกคนช่วยกันประคับประคอง จะได้ไม่เกิดความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ
    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://tna.mcot.net/social-593736

    https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/4918726431503268
    -------------------------------
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมื่อวานนี้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 13 และมอบหมายส่วนราชการเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสาระสำคัญของการประชุมมีดังนี้
    ...

    1. ประเทศญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มจำนวนเงินช่วยเหลือจากเดิม 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) สำหรับการขยายความร่วมมือด้านวิชาการแก่บุคลากรทางการแพทย์ และการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาล และสถาบันทางการแพทย์อื่น ๆ ในประเทศลุ่มน้ำโขง
    .
    2. อาเซียนได้มีข้อริเริ่มการจัดตั้งกองทุนเพื่อรับมือกับโควิด-19 และสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอื่น ๆ ในอนาคต และการจัดตั้งคลังสำรองระดับภูมิภาค สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมาตรการดำเนินการที่มีมาตรฐานในสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
    .
    3. ประเทศไทยมีข้อเสนอเรื่อง “Project on sharing experiences and knowledge transfer through cross-border medical networking system” เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ และการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรับมือกับโรคระบาด
    .
    4. การยืนยันความมุ่งมั่นในการบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และสังคมต่อกลุ่มผู้เปราะบาง การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาคเอกชน และภาคนวัตกรรมในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตร และอาหาร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพตามหลักการ G20 ว่าด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ
    .
    5. ญี่ปุ่นได้มีข้อริเริ่ม KUSANONE Mekong SDG Initiative โดยจะสมทบเงิน 1,000 ล้านเยน (ประมาณ 300 ล้านบาท) สำหรับปี ค.ศ. 2020 เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคม ของชนบท และหมู่บ้านทั่วภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
    ...

    รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นนี้ เป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (ไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) กับหุ้นส่วน เพื่อการพัฒนานอกภูมิภาค คือ ญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน การลดความเหลื่อมล้ำ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทางสังคม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน
    .
    ทั้งนี้การดำเนินการตามมติฯ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 และสนับสนุนการทำงานร่วมกันเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://tna.mcot.net/politics-593497
    -------------------------------

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สื่อต่างประเทศรายงานว่า คริสตอฟ กาสตาแนร์ (Christophe Castaner) หัวหน้ากลุ่ม ส.ส.สายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ในรัฐสภา ยืนยันในวันจันทร์ที่ 30 พ.ย. 2563 ว่า มาตรการที่ 24 ของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ จะถูกร่างใหม่ทั้งหมด หลังจากประชาชนประท้วงต่อต้านอย่างหนัก
    .
    โดยกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งผู้สนับสนุนระบุว่า กฎหมายนี้จะปกป้องตำรวจจากการถูกคุกคาม และการตกเป็นเป้าโจมตีบนสื่อสังคมออนไลน์
    .
    อย่างไรก็ตาม มาตรา 24 ของกฎหมายฉบับนี้ ระบุว่า การเผยแพร่ภาพตำรวจขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมีเป้าหมายเพื่อ สร้างความเสียหายต่อร่างกายหรือจิตใจของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นความผิดอาญา ทำให้เกิดความกังวลว่า นี่อาจเป็นการปิดช่องทางเปิดโปงการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ชาวฝรั่งเศสจำนวนมาก และทำให้ประชาชนออกมารวมตัวประท้วงในกรุงปารีส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านมาตรา 24
    .
    กฎหมายฉบับนี้ยังออกมาในช่วงที่กระแสความไม่พอใจตำรวจในฝรั่งเศสกำลังเพิ่มสูงด้วย เพราะตำรวจ 4 นาย กำลังถูกสืบสวนในข้อหาทำร้ายร่างกายนายมิเชล เซคเลอร์ โปรดิวเซอร์เพลงผิวดำ ที่สตูดิโอของเขาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ในสัปดาห์ก่อน

    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://www.washingtonpost.com/.../aa122504-32e6-11eb...

    https://www.ctvnews.ca/.../french-lawmakers-to-rewrite...

    https://www.bbc.com/news/world-europe-55135995
    -------------------------------
     

แชร์หน้านี้

Loading...