ใครให้คำตอบผมได้บ้าง

ผมหาคำตอบนี้มา16ปีแล้วทั้งบวชเป็นพระอยู่กับครูบาอาจารย์ (ผมขอไม่เอ่ยชื่อครับเพราะท่านเป็นพระมหาเถระ)
อยู่กับร่างทรงผมก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไปหาหลวงปู่ก็บอกให้พิจารณาจิต ไปหาร่างทรงที่มีชื่อเสียงก็บอกเหมือนกันทุกคนว่าพูดไม่ได้มากนักแต่แนะนำให้ทำได้
ผมมีคำถามที่ขอผู้ที่พอรู้และเป็นอย่างผมช่วยไขให้ผมแม้จะน้อยนิดก็อาจจะเป็นประโยชน์
ที่ดีและมีคุณค่าสำหรับผม
1.เวลาปกติผมรู้อนาคตของคนเวลาที่อยู่ใกล้(เฉพาะคนที่ถึงฆาต)
2.เวลากินเหล้าผมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเริ่มมองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้
ยิ่งไม่มีสติยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่จะมีเหล่าเทพ เทวดา ฤๅษี ยักษ์ นาค มาลงประทับร่างทันที
4.เวลาปกติหูจะอือเป็นบางครั้งและจะปาดหัวเมื่อเดินผ่านสถานที่ศักสิิทธิ์หรือมีคนสวมวัตถุมงคลที่มีพลังมากๆ
5.เวลาฝันจะฝันเรื่องราวเดิมๆอยู่3-4วัน
6.จะมีคนมารับเคราะห์แทนผมทุกเรื่องที่ผมก่อขึ้นอย่างมึนงงเหมือนกัน

ครับยังมีอีกมากสำหรับผมแต่มากว่านี้จะเป็นอาจิณไตรย์ผู้ที่รู้ช่วยผมด้วยครับ

ปล.บางหัวข้อที่ไม่เหมาะสมผมได้ลบตามคำทักท้วงแล้วครับ

ขอบคุณครับสำหรับทุกคำตอบที่มีให้ ผมได้ไปนมัสการพระองค์หนึ่งหลังจากที่
ได้ตั้งกระทู้ ท่านสอนผมสั้นๆว่า "อย่ารู้จักภายนอก ให้ศึกษาภายใน จิตเราก็เหมือนบ้านให้รู้จักอยู่บ้านอย่าออกไปเทียวให้มากนัก"
ให้กลับมาบ้านคือการกลับมาดูจิตของตน"
้

 

ไม่มีความเห็น เพราะไม่มีความรู้เลย แต่คิดว่าดีนะ เยี่ยมยอดเลย มองเห็นในสิ่งที่คนมองไม่เห็น แปลกมากๆแต่ดีนะ รู้อนาคตของคนที่ถึงฆาต อย่างนี้ช่วยคนได้นะ ถ้ารู้ว่าใครจะตายก็บอกให้เขาทำบุญทำกุศลมากๆ เผื่อจะช่วยเขาได้ ดีจัง

 

ขอให้คุณเจริญสติให้ดี...
ตั้งมั่นอยู่ในวงบุญ...
สามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ในยอมที่มีภัย...
รู้ว่าตัวเองมีความสามารถ..ก็สักแต่ว่ารู้..อย่าไปหาเหตุแห่งที่มานั้น..
เพราะบางครั้งใจอาจจะตกต่ำ...มัวหมอง...ในที่สุด...หลงทาง
ขอความเจริญจงมีแก่ท่านตลอดไป...

 

เคยเป็นแค่อยู่ใกล้คนที่มีเครื่องรางของขลังแล้ว
จะอึดอัดค่ะ แต่ก็หันมาตั้งใจรักษาศีลห้า
สวดมนต์ นั่งสมาธิ ถ้าทีโอกาส

 

พิจารณาดูนะครับ

1.เวลาปกติผมรู้อนาคตของคนเวลาที่อยู่ใกล้(เฉพาะคนที่ถึงฆาต)
ตอบ การรับรู้สภาวของผู้อื่นเป็น ผลที่ได้รับจากของเดิม แต่ถ้ามีการฝึกจิต ก็เกิดจาก ญาณ

2.เวลาโมโหหรือมี่เรื่องผมจะไม่รู้สึกตัวและยิงฟันไม่เข้า(คนที่อยูในเหตุการณ์เล่าให้ฟัง)
ตอบ ไม่จริงหรอก ถ้าคุณไม่ได้รู้ด้วยตัวเอง
3.เวลากินเหล้าผมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเริ่มมองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้
ยิ่งไม่มีสติยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่จะมีเหล่าเทพ เทวดา ฤๅษี ยักษ์ นาค มาลงประทับร่างทันที
ตอบ เหล้า ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย งดดื่มเหล้านะครับ จะดีกับสุขภาพ

4.เวลาปกติหูจะอือเป็นบางครั้งและจะปาดหัวเมื่อเดินผ่านสถานที่ศักสิิทธิ์หรือมีคนสวมวัตถุมงคลที่มีพลังมากๆ
ตอบ เป็น อุปทานของเราเอง เมื่อเกิดเหตุแบบเดียวกัน หรือสถานที่คล้ายกัน จะเกิดความรู้สึกขึ้นมาเอง
ขอแนะนำ เมื่อเหตุการเกิดขึ้น ให้แค่รู้เฉยๆ อย่าคิดต่อ หรือปรุงแต่ง อย่าบังคับมัน เดี๋ยวความรู้สึกนั้นก็หายไปเอง

5.เวลาฝันจะฝันเรื่องราวเดิมๆอยู่3-4วัน
ตอบ ไม่ต้องไปพะวงถึงความฝันหรอกครับ แค่เป็นความคิดตอนหลับแค่นั้น เอง

6.จะมีคนมารับเคราะห์แทนผมทุกเรื่องที่ผมก่อขึ้นอย่างมึนงงเหมือนกัน
ตอบ ทุกคนมีกรรมของตัวเอง มีกรรมเป็นที่พึ่ง

---------
ขอแนะนำเพิ่มเติมนะครับ เมื่อสภาวธรรมอะไรเกิดขึ้นกับเรา
ให้เรา แค่รู้เป็นผู้ดูเฉยๆ แล้วให้พิจารณา ตาม ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ( เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป )
เมื่อมีโอกาสให้ปฏิบัติธรรม บ่อยๆนะครับ ยึดหลัก สติปัฏฐาน 4
พยายามทำความเพียร เพื่อเจริญปัญญา
---
เจริญในธรรมทุกท่าน

 

ไม่มีใครมารับกรรมแทนใครได้หรอกครับ เว้นแต่บุคคลใกล้ชิด เช่น บิดา มารดา การที่คุณเข้าใจว่ามีคนมารับกรรมแทนคุณ น่าจะเป็นกรรมของเขาเองมากกว่า มองทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

ใช้ให้เป็นจะรู้เอง อย่าไปคิดมาก สร้างอำนาจของตนเองให้สูงขึ้นจนสามารถควบคุมสิ่งนั้นได้ หรือไม่ก็ต้องยอมรับสิ่งนั้นเสีย อย่าไปคิดเอาเขาออก อยู่กับเขาเหมือนเพื่อน
เดี๋ยวดีเอง

 

ข้อ 1 คุณอาจจะมี จิตที่สัมผัสได้ เกิดจากความสามารถในอดีตชาติ แต่ไม่ใช่ว่าจะแม่นเสมอไป เพราะว่า เรามีกิเลส กิเลสก็หลอกได้ คือ คิดไปเองได้
2 คนโมโห มันก็ไม่รู้สึกตัวทั้งนั้นแหละ มันก็มีอารมณ์รุนแรง ทีนี้ เรื่องยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า อันนี้ แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ คุณโดนถากๆ แต่หากว่าโดนจริงๆ แล้วไม่เข้า แสดงว่า คุณ มีอำนาจจิตสูง เคยฝึกมาแต่อดีตชาติ แต่ผมขอให้คุณคิดว่า คุณไม่โดน หรือ โดนถากๆ คุณเลยไม่เป็นไร
3 เวลากินเหล้า คุณเห็นนั่นนี่ แสดงว่า คุณคุมจิตไม่ได้ คุณมีสัญญากรรมว่า เราจะต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้

เอาแค่สามข้อก่อน สรุป ทั้งหมด ให้ผมวิเคราะห์นะครับ

คุณ ผูกเรื่อง คุณ อุปาทาน ไปทั้งหมด ด้วยกรรม ด้วย ตัณหา ด้วย อัตตา
อย่ามีตัณหาให้มันมาก คิดอะไรให้มันง่ายๆ ดีกว่า
ถ้าแน่จริงนะ ผมขอชกหน้าคุณทีเดียวแหละ เอาจังๆ ตอนคุณกินเหล้า หรือ โมโหก็ได้ ดูซิจะหลับไหม ปากจะเลือดออกไหม
พวก หน้าโหด ใจตุ๊ด โมโหเป็นอย่างเดียว ไม่รู้จักควบคุมตนเอง

 

พวก หน้าโหด ใจตุ๊ด โมโหเป็นอย่างเดียว ไม่รู้จักควบคุมตนเอง

55555 ตาหลก

 

มรรคมีองค์ ๘
ย่อลงมาเหลือ ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ซึ่งก็ต้องมีทำทาน หรือสร้างบุญบารมี.....ด้วย

ศีลก็ต้องถือหรือรักษาให้ครบทั้ง ๕ ข้อ (ก็ต้องพยายามรักษาไว้ให้ได้)
ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวนำไว้ก่อนว่า ถ้ารักษาศีล ๕ ได้ครบ เวลา
ตายไป....ถ้ากลับมาเกิดอีกครั้งอย่างมากก็มาเกิดเป็นคน ไปสูงกว่านี้ยังไม่ได้ !
ซึ่งภูมิของเทวดาก็ต้อง มีหิริ โอตัปปะ...ความเกรงกลัวละอายต่อบาป
ถึงมีสิทธิมาจุติ...หรือพำนักได้ แต่ถ้าศีล ๕ ไม่ครบก็จะไปจุติยังภพภูมิที่ต่ำกว่านี้ !

การที่จะเป็นไปหรืออย่างไรนั้น...กายภายใน (กายละเอียด.....จิตแลใจ)
ที่ซ้อนอยู่ในกายภายนอก (กายหยาบ...กายเราปัจจุบัน)
ก็จะบ่งบอกออกมาหรือจะพูด เข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ.....
ตัวเป็นคนแต่จิตแลใจ..เป็นพรหม,เทวดา,เปรต,อสุรกาย,สัตว์เดรัจฉานเช่นหมู หมา แมว
อย่างนี้เป็นต้น ก็จะบ่งบอกออกมาตั้งแต่ยังไม่ตาย ซึ่งก็ต้องพิจารณาตามดู
ตามรู้ รักษาจิตแลใจให้ดี ให้อยู่ในเรื่องของการกระทำความดี พึงละเว้นการทำชั่ว
ในสิ่งทั้งปวง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงตรัสไว้แล้วว่า "ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก"
ซึ่งใครจะไปนิพพานหรือพ้นลุล่วงไปจากทุกข์ ก็ต้อง ประพฤติ ปฏิบัติ ตามพระธรรม
คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ " ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต "

ทั้ง 6 ข้อที่ถามนั้น โดยเฉพาะข้อ ๓ ....ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นที่มาแห่งความพ้นทุกข์
หรือทางมาแห่งความสงบสุขเลย (บางอย่างมีวิบากกรรมติดตัวด้วยซ้ำไป)
หรือพอจะเข้าเคล้าต่อหนทางไปสู่อายตนะ พระนิพพาน.... โดยเฉพาะที่ว่า
ไปหาร่างทรงด้วยนั้น.....คงจะเป็นการใช้กรรม...หรือหาเหตุแห่งทุกข์เพิ่มมากกว่า
ข้าพเจ้าว่า.....ท่านดำเนินหนทางแห่งการปฏิบัติธรรมไม่ค่อยจะตรงแนวนัก

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแนะนำ....ให้รักษาศีลอย่างน้อยก็ศีล ๕ อย่าให้ขาดตก
บกพร่อง อีกทั้งพยายามพึงคบหาแต่กัลยาณมิตรที่ดีๆ คบแต่บัณฑิต/นักปราชญ์
ละเว้นจากการคบคนพาล......ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวง ทั้งการเที่ยวกลางคืน ฯ
อย่างนี้เป็นต้น ที่ว่าอะไรเกี่ยวกับทิพย์ๆ นั้น..น่าจะเป็นอสุรกาย,เปรต เป็นผี หรือเจ้ากรรม
นายเวร มาแอบมาแฝง ให้หลงออกนอกลู่นอกทางเสียมากกว่า...ก็ควรหมั่น
ทำบุญสุนทร์ทาน ทั้งการปฏิบัติเจริญสมาธิพระกรรมฐานให้มากๆ เข้าไว้....
และอุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรนั้น บ่อยๆ ก็จะเป็นการดี

ตัวของท่านเอง.....บางสิ่งบางอย่างท่านก็พอจะรู้ดีอยู่แล้ว !
ก็ต้องปล่อยวาง การยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง (ระวังมารจะแทรกเอาได้)
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน หรือเที่ยงแท้ จีรัง ยั้งยืน ยึดมากก็ทุกข์มาก....
การเชื่อมั่นถือมั่น โดยไม่ไตร่ตรองให้รอบครอบหรือพิจารณาให้ถ้วนถี่
(หรือเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไป...อัตตาตัวตนก็จะบังเกิดขึ้นแก่เรา
ได้โดยง่าย บางทีไม่รู้สึกตัวเหมือนกัน ! ) ก็จะเป็นที่มาหรือเหตุแห่งทุกข์นั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างก็อยู่ที่เริ่ม...อดีตหรือสิ่งที่ไม่ดีหรือไม่ตรงตามแนวคำสั่งสอนขององค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ให้ลืมมันเสีย หันมาปฏิบัติธรรมยึดถือพระไตรสรณคมณ์
เป็นที่ตั้ง เป็นที่พึ่งอันสูงสุด....นอกจากนี้แล้วหาใช่ที่พึงอันแท้จริงไม่

ถ้าล่วงเกินหรือประมาทพลาดพลั้งไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

 

จิตมันไวกว่าชาวบ้านทั่วไป พูดง่ายๆว่าของเก่าเคยเล่นพวกนี้มา อย่าไปห้ามมันเพราะมันเป็นอนัตตาบังคับไมได้ แต่อาศัยให้รู้ลงที่ปัจจุบัน

ในชีวิตประจำวันให้หัดดูจิตใจว่าหลังจากที่เราไปรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว จิตใจเป็นอย่างไร เช่นจิตมันชอบ ไม่ชอบ ดิ้นรน กระสับกระส่าย เย็นสบาย ไม่อยากรู้ หรืออยากรู้เพิ่มกว่านี้ ฯลฯ

เพราะปกติเมื่อเราไปรู้ ไปเห็นเรื่องเหล่านี้แล้ว เราจะไปปรุงแต่งส่วนที่เหลือเพิ่มขึ้นมาเองโดยที่เราไม่รุ้ตัวจะเรียกกว่าการสร้างอัตตาก็ได้ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง การรู้สิ่งเหล่านี่ว่ามันกำลังเกิดขึ้น หรือว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เป็นการทำไม่ให้อัตตามันขยายใหญ่ไปมากกว่านี้

ลองหัดดูแบบนี้ก็ได้หรือถ้ามีเวลาให้ลอง download ไฟล์เสียงหรือหนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์ตามลิงค์ด้านล่างไปลองฟังครับ ลูกศิษย์หลวงพ่อพวกจิตไวๆนี่เยอะเหมือนกัน

 

ขอบคุณครับสำหรับทุกคำตอบที่มีให้ ผมได้ไปนมัสการพระองค์หนึ่งหลังจากที่
ได้ตั้งกระทู้ ท่านสอนผมสั้นๆว่า "อย่ารู้จักภายนอก ให้ศึกษาภายใน จิตเราก็เหมือนบ้านให้รู้จักอยู่บ้านอย่าออกไปเทียวให้มากนัก
ให้กลับมาบ้านคือการกลับมาดูจิตของตน"

 

ตามความของผม+กับคำสอนของคุรุบางท่านที่เคยได้ยินมานะครับ
2.เวลาโมโหหรือมี่เรื่องผมจะไม่รู้สึกตัวและยิงฟันไม่เข้า(คนที่อยูในเหตุการณ์เล่าให้ฟัง) คุณเชื่อในความศักสิทธ์ของตัวเองหรืออะไรสักอย่างทำให้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นมาประกอบกับการฝึกจิตด้วย และที่คุณไม่รู้สึกตัวเพราะว่าคุณเลือกให้ตัวตนของคุณที่เป็นอารมณ์อาจจะเป็นอดีตหรืออนาคตหรือในชาติก่อนๆเข้ามาทำหน้าที่ในการมีเรื่องกับคนอื่น
5.เวลาฝันจะฝันเรื่องราวเดิมๆอยู่3-4วัน ความฝันคือโลกแห่งความเป็นจริงในอีกภพนึง คุณจิตได้รับการฝึกจิตมาพอสมควรทำให้มองเห็นอนาคตอันชัดเจนได้อย่างแม่นยำทำให้ ฝันติดต่อกัน 3-4 วัน ความฝันที่ติดต่อกัน 3-4 วันของคุณนั้นมักจะเกิดขึ้นเสมอๆหรือมีทางเป็นไปได้สูงที่ความฝันนั้นจะเกิดขึ้น

 

1.เวลาปกติผมรู้อนาคตของคนเวลาที่อยู่ใกล้(เฉพาะคนที่ถึงฆาต)
2.เวลากินเหล้าผมจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเริ่มมองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้
ยิ่งไม่มีสติยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่จะมีเหล่าเทพ เทวดา ฤๅษี ยักษ์ นาค มาลงประทับร่างทันที
4.เวลาปกติหูจะอือเป็นบางครั้งและจะปาดหัวเมื่อเดินผ่านสถานที่ศักสิิทธิ์หรือมีคนสวมวัตถุมงคลที่มีพลังมากๆ
5.เวลาฝันจะฝันเรื่องราวเดิมๆอยู่3-4วัน
6.จะมีคนมารับเคราะห์แทนผมทุกเรื่องที่ผมก่อขึ้นอย่างมึนงงเหมือนกัน

ครับยังมีอีกมากสำหรับผมแต่มากว่านี้จะเป็นอาจิณไตรย์ผู้ที่รู้ช่วยผมด้วยครับ

** เป็นเรื่องที่ผมตอบไม่ได้ครับ เหอๆ

คงเป็นบุพกรรมของเราเอง ส่วนเรื่องรับกรรมแทนนั้น ไม่ได้ตลอดไปหรอกครับ กรรมตัวนี้เป็นกรรมสะสมตัวใครตัวมัน ต้องย้อนไปดูจริงๆจากจิตตัวเองแล้วจะเริ่มเห็นเอง

 

คุณมีดวงจิตแฝงอยู่ มันจะสามารถควบคุมคุณได้ในช่วงที่คุณควบคุมตัวเองไม่ได้ มันจะบอกสิ่งที่มันเห็นให้คุณรู้ มันจะตามคุณไปในทุกที่ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะทำความเข้าใจกับมันได้ ตกลงกับมันได้ ไม่ยาก เพียงคุณรักษาศิล 8 ให้ได้นานวันต่อเนื่อง ทำสมาธิกรรมมัตฐาน(เป็นการแยกตัวของจิตนั้นออกมาให้ได้) แล้วพูดคุยกันให้เข้าใจซะว่าจะเอาอย่างไร สุดท้ายให้คุณทำบุญทำทาน ไม่ไช่ถวายเข้าพระเท่านั้น บริจากก็ได้ ให้ธรรมทานก็ได้ คุณจะได้คำตอบที่คุณหามานาน สาธุ