ฝึกกรรมฐานเองที่บ้าน ถ้าอยากขึ้นครูจะต้องทำอย่างไร ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 25 เมษายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : ตอนนั้นหนูนั่งกรรมฐานเอง เสร็จแล้วไม่ได้อะไรนะ แต่ฝันไปว่า ถ้าจะนั่งกรรมฐานจะต้องมีอาจารย์ค่ะ อย่างนี้เราสมควรทำอย่างไรคะ ?
    ตอบ : ก็พระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ไงโยม ตั้งใจจุดธูปเทียนมีดอกไม้ มีของหอมอะไร บูชาพระรัตนตรัย อธิษฐานได้เลย แต่ถ้าหากว่าเพื่อความแน่นอน ต้องการจะมีครูบาอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตรของเรา ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาสอะไร อย่างนั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ถ้าหากว่าอยากจะทำ เริ่มต้นได้เลย ถือพระพุทธเจ้าเป็นครู ครูใหญ่ที่สุด ไม่มีใครใหญ่กว่านั้นอีกแล้ว

    ถาม : คืออ่านในหนังสือ เห็นหลวงพ่อบอกว่าให้ทำที่บ้านก็ได้ นั่ง ๆ ไป แล้วมีคืนหนึ่งก็ฝันว่า ถ้าจะนั่งต้องมีอาจารย์ไงคะ ต้องทำไง เลยไม่แน่ใจ
    ตอบ : ลองขึ้นครูดูมั่งก็ได้ ถ้าหากว่าขึ้นครูตามแบบของหลวงพ่อ ใช้ธูปสามดอก เทียนหนึ่งเล่ม ดอกไม้สามสี สีละดอก แล้วก็เงินบูชาครูหนึ่้งสลึง

    ถาม : แล้วจะต้องทำยังไงคะ เวลาบูชา ?
    ตอบ : บูชาหน้าหิ้งพระ ตั้งใจว่า กรรมฐานในสิ่งที่หลวงพ่อสอนไว้ โดยเฉพาะมโนมยิทธิทั้งหลายนี้ ลูกขออนุญาตฝึก ขอให้ได้โดยสะดวกและคล่องตัวด้วย ให้ได้ง่าย ๆ ด้วย ไม่งั้นบางคนปล้ำกันตายเลย

    ลงไปใต้งวดนี้ เจอโยมคนหนึ่งฝึกธรรมกายมาแบบทุ่มเทเลย แล้วไม่ได้ เป็นปี ๆ ก็ไม่ได้ บอกว่ากระทั่งดวงปฐมมรรคก็ประคองไม่อยู่ พอประคองไม่อยู่ วันนั้นคงประเภทเหนื่อยใจเต็มที่แล้ว ก็เลยบอกว่าได้ไม่ได้ช่างมัน วันนี้นอนแล้ว พอเอนตัวลงก็พอดีโพล๊ะเลย คือเขาทุ่มมากเกินไป มันเลยเป้าที่ต้องการ พอลดกำลังใจลงมา

    ดูแล้วโยมคนนี้ตัวอย่างเหมือนพระอานนท์ ตอนก่อนทำสังคายนาใช่มั้ย ? รุ่งเช้าเป็นวันสังคายนา กลางคืนท่านก็เิดินจงกรมกันยันสว่างเลย เสร็จแล้วก็เหนื่อยเต็มที่ ไม่เป็นพระอรหันต์สักที ก็เอ้า ! ช่างมัน เป็นไม่เป็นก็ช่าง นอนแล้ว พอเอนตัวลงไม่ทันจะถึงหมอน เลยบรรลุตรงนั้น กลายเป็นว่าท่านบรรลุในท่าที่แปลกกว่าใครเพื่อนเลย ยืน เดิน นั่ง นอน พร้อมกันเลย จะยืนก็ได้ เพราะว่าเท้าหนึ่งยังแตะพื้นอยู่ จะเรียกว่านั่้งก็ได้เพราะก้นก็แตะเตียงอยู่ จะเรียกว่านอนก็ได้เพราะว่าตัวเอนลงไปแล้ว (หัวเราะ) เป็นพระอรหันต์องค์เดียวที่บรรลุในอิริยาบทที่แปลกไปกว่าเขา ลักษณะเดียวกับโยมคนนั้นแหละ

    แล้วตัวเองที่ปฏิบัติมาในระยะแรกที่ฝึกมาโดยไม่มีครูก็แบบเดียวกัน ภาวนามาใจก็คือว่าปรารถนาจะให้ได้ปฐมฌานอย่างน้อย เพราะว่าฟังคำเทศน์หลวงพ่อท่านบอกว่า กำลังอย่างน้อยถึงปฐมฌานถึงจะตัดกิเลสได้ โดยเฉพาะกิเลสระดับพระโสดาบัน พระสกิทาคามีกำลังของปฐมฌานก็พอแล้ว ก็พยายามจะให้มันได้ ทุ่มเทเวลาปีแล้วปีเล่า สามปีเต็ม ๆ ไม่ได้เลย พอวันที่มันจะได้ขึ้นมา ก็ลักษณะเดียวกับเขาก็คือว่า ทำมาตั้งเยอะตั้งแยะแล้วไม่ได้ซักที ก็เรื่องของมันเหอะ ได้ไม่ได้ก็ช่าง เรามีหน้าที่ทำของเราก็แล้วกัน ลงร่องโป๊ะเลย ถ้าเราลดกำลังลงไปแค่พอดี มันจะได้เดี๋ยวนั้นเลย

    แต่คราวนี้ไอ้พอดี กว่าจะเข้าถึงแต่ละคนมันลำบาก พอเข้าได้ซักทีแล้วต่อไป มันจะง่าย เพราะว่าเราจำอารมณ์ตรงนั้นง่าย

    ลักษณะของโยมคนนั้นแบบเดียวกันเลย โยมคนนั้นอยู่หาดใหญ่ฝึกธรรมกายทุ่มเทมากเลย เป็นลูกศิษย์ของนายอำเภอวิวัฒน์ เรืองมณี เคยได้ยินกันมั้ย ? ท่านนายอำเภออยู่ทางด้านโน้นนี่ท่านสอนสองอย่างเลย สอนทั้งธรรมกาย สอนทั้งมโนมยิทธิ เพราะว่าพอถึงตอนสุดท้ายแล้วเหมือนกัน พอเหมือนกันท่านสอนสองอย่าง โดนคนเขาว่าเพี้ยนบ้าง อะไรบ้าง แต่ท่านสอนลูกศิษย์ลูกหาไปซะเยอะแยะ

    ถาม : กลัวทำอะไรที่ผิดไปโดยที่เราไม่รู้ แล้วเป็นบาปนะคะ ก็ขอกราบขมาอภัย
    ตอบ : จ้ะ....เวลาจะทำอะไร ตั้งใจขอขมาต่อหน้าพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป พระทุกองค์ก็คือศากยบุตร ก็คือลูกของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นขอขมาตรงต่อท่าน ท่านไม่ถือโกรธเราอยู่แล้ยว แต่ถ้าจะเอาให้พ้นจริง ๆ ต้องขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

    เพราะฉะนั้นก่อนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนทำกรรมฐานทุกครั้งควรจะกราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน หลวงพ่อท่านสอนให้ปฏิบัติจนชิน จนกระทั่งทุกวันนี้ อาตมากราบพระเมื่อไหร่คนเขาจะเห็นว่ากราบหลายที คือครั้งแรกกราบก่อน หลังจากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย ก็กราบอีก สวดมนต์เสร็จก็ค่อยกราบ เพราะฉะนั้นอย่างน้อย ต้องเก้ากราบไปแล้วล่ะโยม โดยเฉพาะนักปฏิบัติ พอเริ่มเข้าเขตอุปจารสมาธิไปแล้ว มารเขารู้ว่าเราจะหนีห่างไปแล้ว เขาจะหาวิธีขวางเราไว้ทุกวิถีทาง วิธีขวางที่ง่ายที่สุด ก็คือทำให้เราเกิดการลังเลสงสัย หรือทำให้เรามีความคิด มีคำพูด มีการกระทำ ที่เป็นการปรามาสในพระรัตนตรัย พอเราเกิดความคิด มีคำพูด หรือมีการกระทำอย่างนั้น อย่าไปเสียอกเสียใจ อย่าไปหนีห่างจากความดีตรงจุดนั้น

    ให้คิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ว่าในขณะนี้ด้วยการชักนำของกิเลส ตัณหา ของอุปาทาน ของอกุศลกรรม พาเราไป พาให้เราทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ถึงไม่ใช่เจตนาโดยตรงของเราก็เถิด แต่เราก็เต็มใจกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ตั้งใจกราบขอขมาไป พวกนี้เขากลัวคนหน้าด้าน ถ้าเราหน้าด้านตื๊อสู้อยู่ เขาก็ถอย รู้ทันเขาก็ถอย เพราะฉะนั้น ทุกคนที่ปฏิบัติอยู่ต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น แล้วมารมีตัวตนจริง ๆ เขามาแต่ละทีน่ากลัวมาก

    อาตมาเจอเข้ามาแล้ว ครั้งแรกที่เป็นเด็ก ๆ ท่องอะไรนะ พญามารยกพลมาผจญพระพุทธเจ้า เหมือนยังกับคลื่่นในมหาสมุทร เจอเข้าจริง ๆ ลักษณะนั้นเลย เขามาอย่างชนิดที่ว่า เหมือนกับว่าเราไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย แต่ว่าเราถอยไม่ได้ ต้องสู้ เจอเข้าจริง ๆ แต่ไม่ต้องกลัว ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการะคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าเหากว่าเราผ่านไป ตรงจุดนั้น เราจะไม่แพ้อีก

    ครูที่ขยันออกข้อสอบขนาดนั้น น่าจะยกขึ้นหิ้งเสียด้วยซ้ำไป คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของเขา เขามีหน้าที่ขวางให้เขาขวางไป เราทำหน้าที่ของเรา ราจะหนีให้พ้น เราก็หนีของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน แผ่เมตตาอโหสิกรรมให้เขา เขาทำต่อไป ก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาต่อไป เราไม่มีทางสู้เขา ไม่ว่าวิธีไหนก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าเลิกสู้ไม่ต่อยกับมันซะอย่างมันจะมาต่อยเราฝ่ายเดียวก็ให้มันรู้ไป เกือบตายนะ โดนมาทุกวิถีทางเลย

    ไอ้งานนั้น ประมาณสิบกว่าวันไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ตามที่อ่านในตำราที่บอกว่า เวลาเขามามีลักษณะตัวดำเป็นนิล มาลักษณะนั้นจริง ๆ โอ้โห ! แล้วเวลาเขามานี่ พลังที่รุมล้อมรอบข้างนี่ เหมือนยังกับไก่ไปเจองูน่ะ เราเองลุ้นไม่ขึ้นเลย มีอย่างเดียวจะยอมหมอบราบคาบแก้วแพ้ซะท่าเดียว

    ยกเว้นกำลังใจสุดท้ายที่คอยเตือนสติว่า ถ้าแพ้เราจะเป็นทาสเขาตลอดไป มันต้องสู้อย่างเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละ สู้ไปสู้มา สู้เท่าไหร่ ก็สู้เขาไม่ได้นะ จะใช้ความสามารถพิเศษรบกับเขา เราแพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย เพราะว่าสู้ก็คือเกิดโทสะ ก็เสร็จเขา ใช้กำลังใจแผ่เมตตาอย่างเดียวก็สู้เขาไม่ได้เพราะว่ากำลังเขาสูงมาก ขนาดพระพุทธเจ้ายังเอาเขาไม่ได้ ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่เก่งนะ (หัวเราะ) เก่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าให้เท่าไหร่เขาไม่่รับ มีปัญญาให้ไปซิ เราก็แย่อยู่ฝ่ายเดียว ตื๊อกันเข้าไปซิ ฟาดกันอยู่นานเนกาเล คิดว่างานนี้แค่ตาย ปรากฏว่าตื๊อไปตื๊อมา มันอาจพ้นวาระกรรมของเราพอดีก็ได้ ก็ถอยให้ แต่กว่าจะถอย เล่นเอาเราซะงอมพระราม




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมิถุนายน ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...