เพลง พระวังคีสเถระและอัครสาวกอีกหลายท่าน

ในห้อง 'เพลงธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 มกราคม 2021.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    praWangkeesah.jpg
    เพลง พระวังคีสเถระ

    Mana Khamyang
    Oct 5, 2016
    130.พระวังคีสเถระ

    ประพันธ์ : ยุพารัตน์ นิ่มเจริญ/มานะ คำยัง
    เรียบเรียง : 22 มีนาคม 2554
    ท่านวังคีสะเมืองสาวัตถี มีความชำนาญฉวสีสมนต์ ดีดกะโหลกศีรษะรู้การตายเกิดของคน ปวงประชาชนมาใช้บริการ แล้วมาวันหนึ่งพบพระพุทธา ให้หาที่มากะโหลกห้าอัน กะโหลกอันหนึ่งไม่รู้ เพราะเป็นของพระอรหันต์ พระภัควันจึงแจ้งบอกไป ท่านวังคีสะจึงถามกับพระ ว่าท่านรู้ได้ด้วยมนต์อันใด องค์พระพุทธาจึงกล่าวขานไข หากอยากรู้ได้ให้บรรพชา ท่านวังคีสะบวชพระทันใด แล้วได้เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติพระกัมมัฏฐานไม่นานท่านอรหันตา เป็นเอตทัคคะผู้มีปฏิภาณ พระวังคีสะเป็นเอตทัคคะ มีปฏิภาณไหวพริบฉับไว องค์พระพุทธายกย่องท่านไว้ เป็นเลิศกว่าใครร้อยเรียงคาถา พระวังคีสะถึงพระรัตนตรัย ไปพระนิพพานท่านสุขอุรา ปฏิบัติตามพระพุทธาท่านเห็นพระธรรมา เป็นเอตทัคคะผู้มีปฏิภาณ
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    พระวังคีสเถระ
    ประวัติ / พระวังคีสเถระ
    พระวังคีสะ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญเติบโตแล้ว ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์ในลัทธิของพราหมณ์ จนจบไตรเพท และได้เรียนมนต์พิเศษอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ฉวสีสมนต์ เป็นมนต์สำหรับพิสูจน์กะโหลกศีรษะของซากศพ แม้ตายแล้วหลายปีสามารถรู้ได้ว่าไปเกิดเป็นอะไรที่ไหน
    วังคีสพราหมณ์ได้อาศัยมนต์นั้นเป็นเครื่องหาทรัพย์เลี้ยงชีวิต ในตอนแรกได้แสดงมนต์นั้นให้พวกชนชาวพระนครได้ดูกัน ต่อมาพวกพราหมณ์ทั้งหลายได้เห็นแล้วคิดกันว่า พวกเราอาศัยวังคีสพราหมณ์นี้เลี้ยงชีวิตได้ จึงได้พาเที่ยวไปสู่ชนบทน้อยใหญ่ประกาศแก่หมู่มนุษย์เหล่านั้นว่า วังคีสพราหมณ์นี้รู้มนต์วิเศษ คือ เมื่อร่ายมนต์แล้วใช้เล็บเคาะที่กะโหลกศีรษะแห่งสัตว์ที่ตายแล้วสามารถรู้ได้ว่า ผู้นี้ไปเกิดในนรก ผู้นี้ไปเกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ผู้นี้ไปเกิดในเปรตวิสัย ผู้นี้ไปเกิดในเทวโลก เมื่อพวกมนุษย์ได้ยินประกาศอย่างนั้น มีความประสงค์จะถามถึงพวกญาติของตน ๆ บ้าง จึงจ่ายทรัพย์ให้ตามกำลังของตนมากบ้าง น้อยบ้าง แล้วถามถึงที่เกิดของพวกญาติของตน ๆ
    พวกพราหมณ์เหล่านั้นพาวังคีสพราหมณ์เที่ยวไปในนิคมและชนบทอย่างนี้แล้วกลับมาถึงพระนครสาวัตถี พักอยู่ในที่ใกล้พระเชตวันมหาวิหาร เช้าวันหนึ่งพวกพราหมณ์เหล่านั้นเห็นมนุษย์เป็นอันมากถือดอกไม้ธูปเทียนไป เพื่อจะฟังเทศน์ในพระเชตวันมหาวิหาร จึงถาม ครั้นทราบความนั้นแล้วจึงพูดว่า พวกท่านจะไปที่นั่นทำไม เพราะคนที่จะดีวิเศษเช่นกับวังคีสพราหมณ์ของพวกเราหาไม่ได้อีกแล้ว เพราะเธอเรียนรู้มนต์มาก พวกมนุษย์ก็เถียงว่า วังคีสพราหมณ์จะรู้อะไร คนที่จะเหมือนกับพระบรมศาสดาของพวกเราก็หาไม่ได้เหมือนกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างก็เถียงกันแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จึงได้พร้อมกันไปสู่พระเชตวันมหาวิหาร
    พระบรมศาสดาทรงทราบว่า พวกวังคีสพราหมณ์มาสู่ที่ประทับพระองค์จึงรับสั่งให้นำกะโหลกศีรษะคนตายมา ๕ กะโหลก คือ กะโหลกของสัตว์ที่เกิดในนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน มนุษยโลก เทวโลก อย่างละกะโหลก และกะโหลกศีรษะของพระขีณาสพอีกหนึ่งกะโหลก ตั้งเรียงไว้โดยลำดับ
    เมื่อวังคีสพราหมณ์เข้ามาเฝ้าแล้ว พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่าเราได้ทราบว่า ท่านร่ายมนต์แล้วใช้เล็บเคาะกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่ตายแล้ว สามารถรู้ที่เกิดของเขาได้หรือ ?

    วังคีสพราหมณ์ กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์รู้

    พระองค์จึงตรัสถามกะโหลกศีรษะของสัตว์ที่เกิดในที่ทั้งสี่ วังคีสพราหมณ์ก็ตอบได้ถูกต้องทั้งหมด

    พระองค์จึงตรัสประทานสาธุการว่าดีละ ๆ ถูกต้องละ จากนั้นพระองค์จึงตรัสถามกะโหลกที่ห้าว่า ผู้นี้ไปเกิดที่ไหน ?

    วังคีสพราหมณ์ร่ายมนต์แล้วเคาะกะโหลกแต่ไม่สามารถรู้ที่เกิดได้ เพราะเป็นกะโหลกศีรษะของพระอรหันต์ จึงนิ่งเฉยอยู่

    พระบรมศาสดาตรัสถามว่า เธอไม่รู้หรือวังคีสะ ?

    ครั้นวังคีสพราหมณ์กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่รู้

    พระองค์จึงตรัสว่าแต่เรารู้

    เขาทูลถามต่อไปอีกว่าพระองค์รู้ด้วยอะไร ?

    พระพุทธองค์ประทานคำตอบว่า รู้ด้วยกำลังมนต์ของเรา


    เมื่อวังคีสพราหมณ์ได้ทราบเช่นนั้นจึงได้ทูลขอเรียนมนต์นั้น พระองค์จึงตรัสว่าคนที่ไม่บวชเราให้เรียนไม่ได้ วังคีสพราหมณ์จึงคิดว่า ถ้าเราเรียนมนต์นี้ได้แล้ว เราจักเป็นใหญ่ในชมพูทวีปทั้งสิ้น

    ครั้นแล้วจึงได้ส่งพวกพราหมณ์ที่เหลือเหล่านั้นไปพร้อมกับสั่งว่า พวกท่านจงกลับไปรอเราอยู่ที่นั่นแหละสักสองสามวัน เราจักบวชในสำนักของพระบรมศาสดา

    ครั้นวังคีสพราหมณ์ได้อุปสมบทแล้ว พระบรมศาสดาประทานกรรมฐานมีอาการ ๓๒ เป็นอารมณ์ ตรัสสั่งให้ท่องบ่นบริกรรมซึ่งมนต์นั้น ครั้นท่านสาธยายมนต์นั้นอยู่อย่างนี้ พวกพราหมณ์ก็คอยมาถามอยู่ว่าเรียนมนต์จบแล้วหรือยัง ? ก็ได้รับคำตอบว่า กำลังเรียนอยู่ ต่อมาไม่นานท่านพระวังคีสะก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
    ครั้นท่านได้บรรลุพระอรหัตตผล เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ณ ที่ใด ๆ ก็ตาม ย่อมกล่าวคาถาสรรเสริญพระพุทธคุณของพระองค์บทหนึ่ง ๆ ก่อนเสมอ ด้วยเหตุนี้เอง พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างมีปัญญาปฏิภาณฉลาดในการผูกเป็นบทบาทคาถา
    ครั้นท่านพระวังคีสะดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
    :- http://www.dhammathai.org/monk/monk46.php

     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    จากวังคีสะพราหมณ์เป็นวังคีสะเถระ เพราะได้ศึกษา “พุทธมนต์” (เอตทัคคมหาสาวกผู้เลิศกว่าพวกภิกษุผู้มีปฏิภาณ)


    เป็นเรื่องของพราหมณ์ผู้มีความรู้ในวิชา ฉวสีสมนต์ มนต์ในการเคาะกระโหลกแล้วจะรู้ที่ไปของบุคคลนั้น แต่เมื่อมาเคาะกะโหลกของพระอรหันต์กลับไม่สามารถรู้ที่ไปของท่านได้ จึงขอเรียนมนต์นั้นจากพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า มนต์นี้จะเรียนได้จะสอนได้แก่ผู้ที่มีเพศเสมอกัน นั่นคือต้องบวชเป็นภิกษุในธรรมวินัยนี้


    ด้วยความอยากได้วิชา จึงยอมบวช เมื่อบวชก็เกิดความกระสันอยากถึง ๔ ครั้ง ไม่ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ ไปตำหนิติเตียนในภิกษุอันมีศีลเป็นที่รัก เพราะมีความชำนาญในภาษาปัญญาไม่เท่าตน ดีที่มีเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์คือท่านพระอานนท์และท่านพระนิโครธกัปปะผู้อุปัชฌาย์คอยตักเตือนให้ข้อมูล พร้อมทั้งตัวท่านเองก็เตือนตนเองด้วย “พุทธมนต์” ที่เรียนรู้มา ทำให้เปลี่ยนทิฏฐิที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง สามารถบรรลุธรรมได้ ท่านเป็นเอตทัคคด้านผู้มีปฏิภาณ สามารถแต่งคาถาโดยไม่ต้องเตรียมมาก่อน ท่านแต่งคาถาสรรญเสริญพระพุทธเจ้าและมหาสาวกไว้หลายครั้ง


    เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้แต่งคาถาขึ้นว่า


    “ ในกาลก่อน เราเป็นผู้มัวเมาด้วย ความเป็นกวี ได้เที่ยวไปแล้ว สู่บ้าน จากบ้าน สู่เมืองจากเมือง ครั้นเราได้เห็น พระสัมพุทธเจ้า ศรัทธาจึงบังเกิดขึ้นแก่เรา พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้ทรงแสดง ธรรมคือขันธ์ อายตนะ ธาตุแก่เรา เราได้ฟังธรรมของพระองค์แล้ว ก็บรรพชา เป็นผู้หาเรือนมิได้ พระมุนีได้ตรัสรู้พระโพธิญาณ เพื่อประโยชน์แก่ประชุมชน เป็นอันมาก แก่ภิกษุ และภิกษุณีทั้งหลาย ผู้ได้ถึง ได้เห็นนิยามธรรม  การมาของเรา ในสำนักของพระพุทธเจ้าของเรา เป็นการมาดีจริงหนอ วิชชา ๓ อันเราได้บรรลุ แล้วโดยลำดับ พระศาสนาของพระพุทธองค์เราได้ทำแล้ว เราย่อมรู้ขันธสันดาน อันเราเคยอยู่ในกาลก่อน ทิพยจักษุญาณ เราทำให้หมดจดแล้ว เราเป็นผู้สำเร็จไตรวิชชา บรรลุอิทธิวิธี ฉลาดในเจโตปริยญาณ ดังนี้.”
    :- https://donhaisok.fm/1701a0620tu
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    26-401 คาถาของพระวังคีสเถระ

    พระไตรปิฎก ดอทคอม
    Jul 3, 2015
    พระไตรปิฎก http://pratripitaka.com

    ๑. วังคีสเถรคาถา ภาษิตของพระวังคีสเถระ (พระวังคีสเถระบวชแล้วใหม่ ๆ ได้เห็นหญิงหลายคน ล้วนแต่งตัวงดงาม พา กันไปวิหาร ก็เกิดความกำหนัดยินดี เมื่อจะบรรเทาความกำหนัดยินดีนั้น ได้กล่าว ภาษิตเหล่านี้ว่า)
    {๔๐๑}
    [๑๒๑๘] ความตรึกกับความคะนองอย่างเลวทรามเหล่านี้ ย่อมเข้าครอบงำเราผู้ออกบวชเป็นบรรพชิต
    [๑๒๑๙] บุตรของคนสูงศักดิ์ได้ศึกษาวิชายิงธนูคราวละมากๆ มาอย่างเชี่ยวชาญ ยิงลูกธนูไปรอบ ๆ ตัวโดยไม่ผิดพลาด [๑๒๒๐] ถึงแม้หญิงจะมามากยิ่งไปกว่าหญิงเหล่านี้ ก็จะเบียดเบียนเราไม่ได้แน่นอน เพราะเราได้เป็นผู้ตั้งมั่นอยู่ในธรรมเสียแล้ว
    [๑๒๒๑] ด้วยว่า เราได้สดับทางเป็นที่ให้ถึงนิพพานนี้ เบื้องพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ดวงอาทิตย์ ใจของเรายินดีแล้วในทางนั้นแน่นอน [๑๒๒๒] มารผู้ชั่วช้า ถ้าท่านยังเข้ามาหาเราผู้อยู่ด้วยอาการอย่างนี้ เราก็จะทำทางที่เราทำไว้ให้ถึงที่สุด โดยท่านจะไม่พบเห็นได้ ฉะนั้น
    [๑๒๒๓] ผู้ใดละความยินดี ยินร้าย และความตรึกเกี่ยวกับบ้านเรือนได้ทั้งหมด หมดตัณหา ไม่มีกิเลส ไม่พึงก่อตัณหาดุจป่าในที่ไหน ๆ ผู้นั้นชื่อว่าเป็นภิกษุ [๑๒๒๔] รูปอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ ทั้งที่อาศัยแผ่นดิน อยู่ในอากาศ อันนับเนื่องในภพ ๓ ล้วนไม่เที่ยงคร่ำคร่าไปทั้งนั้น ท่านผู้รู้ทั้งหลายรู้แจ้งอย่างนี้แล้ว มีตนหลุดพ้นเที่ยวไป
    [๑๒๒๕] เหล่าปุถุชนที่มีจิตหมกมุ่นในอุปธิทั้งหลาย คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ ท่านจงเป็นผู้ไม่หวั่นไหวกำจัดความพอใจในเบญจกามคุณนี้เสีย เพราะผู้ใดไม่ติดในเบญจกามคุณนี้ บัณฑิตทั้งหลายเรียกผู้นั้นว่าเป็นมุนี
    [๑๒๒๖] ถ้ามิจฉาวิตกที่อิงอาศัยทิฏฐิ ๖๐ ประการ ซึ่งเป็นธรรมที่ไม่ตั้งมั่นในกาลไหน ๆ ผู้ใดไม่พึงเป็นไปในอำนาจกิเลสด้วยอำนาจมิจฉาวิตกเหล่านั้น ทั้งไม่ชอบกล่าวคำหยาบคาย ผู้นั้นชื่อว่าเป็นภิกษุ
    [๑๒๒๗] ภิกษุผู้เป็นบัณฑิต มีจิตมั่นคงมานาน ไม่ลวงโลก มีปัญญารักษาตนได้ หมดความทะเยอทะยาน เป็นมุนี ได้บรรลุสันตบท ย่อมหวังคอยเฉพาะเวลาที่จะปรินิพพาน
    [๑๒๒๘] ท่านผู้เป็นสาวกของพระโคดม ท่านจงละความเย่อหยิ่งเสีย และจงละทางแห่งความเย่อหยิ่งให้หมด เพราะผู้ที่หมกมุ่นอยู่ในทางแห่งความเย่อหยิ่ง จะต้องเดือดร้อนเป็นเวลานาน
    [๑๒๒๙] หมู่สัตว์ที่ยังลบหลู่คุณท่าน ถูกความเย่อหยิ่งกำจัดแล้ว ย่อมตกนรก เหล่าปุถุชนที่ถูกความเย่อหยิ่งกำจัดแล้ว เกิดในนรก ย่อมเศร้าโศกตลอดกาลนาน ...
    Read More http://pratripitaka.com/26-401/
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลงพุทธคยาबोधगया गीत බුද්ධගයා ගීතය 菩提伽耶歌 ブッダガヤの歌 BodhGaya Song Mahabothi Mahavihar ภาวนายาวๆ 25 จบ

    Life less than a hundred suffering no less than a thousand..
    Oct 6, 2020

    ถ้ามีโอกาสไปอินเดีย..ดินแดนพระพุทธเจ้า..ขอให้เลือกไป..ช่วงวันที่..มีงานสาธยายพระไตรปิฎก..ที่เจดีย์พุทธคยาครับ..จะคุ้มค่าเงินที่ต้องเสียไปมากที่สุด.เราจะได้เห็นศรัทธาของญาติโยมอุบาสกอุบาสิกาและพระสงฆ์องค์เจ้าที่มาร่วมสวดสาธยายพระไตรปิฎกโคนต้นศรีมหาโพธิ์..ปกติจะมีงานวันที่ 2 ถึง 12 ธันวาคมของทุกปีครับ..นี่เป็นภาพบรรยากาศภายในงาน..เล็กๆน้อยๆที่ผมถ่ายมาครับ https://youtu.be/PPcpWYf5Tlo

    ขอให้ มีความสุขกับการรับชมและรับฟัง.........น่ะครับ ทุกคนควรจะกินอิ่มอร่อยและนอนหลับอย่างสงบโดยไม่ต้องกลัวสิ่งใด.. ทุกคนน่าจะให้อภัยกันได้ ความรักและเมตตาดั่งมารดารักบุตรคือลมหายใจของจิตวิญญาณ นี่คือความรักอันบริสุทธิ์ที่ค้ำจุนจักรวาลนี้..ขอให้ท่านทั้งหลาย มีความสุขกับการรับชมและรับฟัง..และหลับ..ก็ให้สุขกาย..สบายใจ..สงบเย็น...มีปัญญา..สมาธิ........คิดสิ่งใด..ปรารถนาสิ่งใด..ก็ให้สมหวังดั่งใจปรารถนาน่ะครับ..
    ฟังธรรมเพิ่มเติม.. https://bit.ly/36eiy7U https://archive.org/details/@pahimmapan https://archive.org/details/@user_22557
    Apple podcast https://apple.co/3m38cOR
    Google podcast https://bit.ly/3m7fAZH
    Spotify podcast https://spoti.fi/38zcx71
    Anchor podcast https://anchor.fm/pahimmapan
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ตำนานแห่งเพลงสาธุการ (เพลงที่พระอิศวรแต่งถวายพระพุทธเจ้า) นำโดย ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ และศิลปินกรมศิลปากร

    Siammelodies
    Apr 5, 2021
    ตำนานแห่ง เพลงสาธุการ นำแสดง โดย ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ และ นักแสดงจากกรมศิลปากร
    เพลงสาธุการเป็นเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูงเพลงหนึ่ง ใช้สำหรับพิธีการมงคลต่างๆ เป็นเพลงแรกในการบรรเลงโหมโรง ซึ่งถือว่าเป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์นำความมงคลมาสู่ทั้งผู้ฟัง ผู้บรรเลง ผู้แสดง และสถานที่ เพลงสาธุการตามตำนานกล่าวว่า เป็นเพลงที่เทวดาแต่งให้ไว้แก่มวลมนุษย์ เพื่อเป็นการบูชาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาจารย์เสรี หวังในธรรม (ศิลปินแห่งชาติ) เป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องขึ้นตามเค้าเรื่องจากหนังสือดนตรีในพระธรรมวินัยของ นายธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวไว้เป็นเรื่องเล่าว่า

    เมื่อพระอิศวรทรงเสด็จออกเทวะสภา และไม่เห็นเหล่าเทวดานางฟ้ามาเข้าเฝ้าพระองค์ดั่งเช่นทุกครั้ง เมื่อพระองค์ทราบว่าเหล่าเทวดานางฟ้าต่างพากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้ายังมนุษยโลก เพื่อฟังธรรมเทศนา พระอิศวรทรงไม่พอพระทัย ทั้งยังสงสัยว่า พระพุทธเจ้าเป็นใครถึงมีอำนาจเหนือกว่าพระองค์ จึงเสด็จลงไปดู แล้ว เนรนิต ระบำ รำฟ้อน ดนตรี ให้มีเสียงกึกก้องรบกวนสมาธิของเหล่าผู้ฟังธรรมในที่นั้น แต่ก็ไม่เกิดผลแต่อย่างใด จึงทรงพิโรธหนัก ท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธเจ้า โดยพระองค์จะกำบังกายหายไปตามที่ต่างๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าบอกได้หมดไม่ว่าพระอิศวรจะซ่อนในสวรรค์ มนุษยโลก หรือยมโลก แต่พอมาถึงคราวพระพุทธเจ้าซ่อนกายหายไป แม้พระอิศวรจะทรงเพ่งฌานอย่างไรก็ไม่เห็นได้ จึงขอยอมแพ้ ที่แท้พระพุทธเจ้าเพียงซ่อนอยู่บนมุ่นมวยผมของพระอิศวร เพื่อจะลดทิฐิของพระอิศวร พระองค์จึงตรัสว่าถ้าจะให้พระองค์เสด็จลงมาขอให้พระอิศวรทรงเนรมิตดนตรีบรรเลงอัญเชิญ โดยทรงตรัสว่า “ดนตรีนั้นเป็นเครื่องทำให้โลกผาสุก” พระอิศวรจึงทรงยอมและให้บรรเลงเพลงสาธุการขึ้น
    บทเพลง สาธุการจึงใช้เป็นเพลงบรรเลงเป็นเพลงแรกในงานมงคลต่างๆเสมอมา ถือเป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์ เสมือนหนึ่งเป็นการอัญเชิญเหล่าทวยเทพและเทวดาเข้าสู่ปรัมพิธีอันศักสิทธิ์ เพื่ออำนวยพรให้กับผู้เข้าร่วมในพิธีต่างๆ
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระปิณโฑลภารทวาชเถระ

    Mana Khamyang
    Oct 30, 2020
    071.พระปิณโฑลภารทวาชเถระ

    ประพันธ์ : มานะ คำยัง /ชนธีร์ ลิมปศิลป์ /บุญธรรม แต่งพลกรัง /เกดา สิทธิ /สุพรรษา ผาปรางค์ /ศราวุธ ทองระอา เรียบเรียง : 14 ธันวาคม 2553 (เริ่มเวลา 22.30 น.) เสร็จ16 ธันวาคม 2553 (เวลา 01.05 น.)
    พระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นเอตทัคคะประกาศศักดาพระพุทธเจ้า ใครสงสัยธรรมอันใดแจ้งบอกเรา พระพุทธเจ้าท่านยกย่องเอาไว้ บันลือสีหนาทองอาจแท้ ท่านทำได้แม้ แม้ต่อหน้าพระจอมไตร อดีตชาติเคยได้ถวายดอกไม้ คุ้มกันปกป้องภัยพระปทุมมุตตระ *เป็นราชสีห์เฝ้าหน้าถ้ำเจ็ดค่ำเช้า พระพุทธเจ้าเข้านิโรธะตลอดเวลา ขู่คำรามกึกก้องไพรไปทั่วป่า เฝ้าพระพุทธาในอุราศรัทธามั่น
    **พระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นเอตทัคคะพระเถระบันลือลั่น จะอยู่ที่ใดประกาศธรรมด้วยใจมั่น ประกาศศักดาลั่นมั่นคงตรงพระนิพพาน (ซ้ำ *,**)
    ***หมายเหตุ*** ปิณโฑลภารทวาชะ อ่านว่า ปิน-โดน-พา-ระ-ทะ-วา-ชะ
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง โกสิยะเศรษฐี

    Mana Khamyang
    Jul 14, 2019
    99.โกสิยะเศรษฐี ประพันธ์ : มานะ คำยัง / สุพรรษา ผาปรางค์ เรียบเรียง : 2 กุมพาพันธ์ 2554

    ท่านโกสิยะเศรษฐี ท่านเป็นเศรษฐีมีทรัพย์มากมาย หิวขนมเบื้องจะตาย อยากกินจะตายเพราะมันนุ่มลิ้น แต่ความตระหนี่ถี่เหนียว เงินแค่นิดเดียวไม่ยอมให้บิ่น โอ้ย ยังไง ยังไง จะกินก็กลัว เสียทรัพย์สิน หิวจนร่างกายผ่ายผอม เมียนึกว่าตรอมเรื่องพระราชา หรือเรื่องลูกเมียภรรยา จงบอกออกมาเสียให้สิ้น ท่านพี่ อยากกินขนม ให้ทั้งนิคม เงินยังไม่บิ่น โอ้ย ทำไม ทำไม จะต้องไปเปลือง เสียทรัพย์สิน เตรียมแป้ง น้ำตาล พอนิดเดียว เธอเตรียมมา อย่าให้ใคร คนรู้ จะมาขอ กินขนม เรามากมาย อย่าได้คิด เข้ามาใกล้ เข้ามาชิด มากินได้ ดังนั้นไป ทอดกันบน ปราสาทเจ็ดชั้น ท่านเศรษฐี ทรัพย์มากมาย ไม่ให้ใคร มาขอไป แม้ภรรยาก็ไม่ให้ จะมีใครเปลี่ยนใจท่านหนอ เช้ามาองค์พระพุทธา เห็นว่าเศรษฐีนั้นมีบุญพอ ขอให้พระโมคคัลลา เหาะไปขอมา ขนมเบื้องหนอ จงเหาะไปโปรดเศรษฐี พระสงฆ์ที่มีจะนั่งคอยรอ โอ้ย ยังไงยังไง ก็ให้พามาเชตวันหนอ พระโมคคัลลา เหาะเหินมา บนนภา ที่หน้าต่าง เศรษฐี เห็นพระแล้ว ยังไม่แคล้ว จะหวงก้าง เดินจงกรม คู้บัลลังก์ วนเวียนไป ที่หน้าต่าง จนถึงทาง บังหวนควัน ท่านกลัวไฟไหม้ ให้ชิ้นหนึ่ง มันติดกัน แกะไม่ออก ขนมมากมาย พระแสดงธรรม ถึงการให้ คุณพระไตร อิ่มใจหนักหนา แสดงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆา รวมถึงจาคา จะได้นำพาโลกหน้า นำพาสวรรค์ เศรษฐีได้ฟังจึงได้เข้าใจ ถึงจุดมุ่งหมายของการให้ทาน มรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพาน นั้นอยู่ไม่ไกล พระโมคคัลลา พาไปส่ง เชตวัน ถวายทาน ขนมเบื้องเหล่านั้น ฟังธรรมจากพระพุทธา สามีภรรยาบรรลุโสดาบัน โกสิยะเศรษฐี ถึงแล้วพระธรรมี ต่อแต่นี้ มีพระนิพพาน ขนมเบื้องของท่าน ให้มหาชน สองท่านหลุดพ้น หนทางพระนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2021
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระปฏาจาราเถรี

    Mana Khamyang
    May 23, 2021
    065.พระปฏาจาราเถรี ประพันธ์ : มานะ คำยัง /ชนธีร์ ลิมปศิลป์ เรียบเรียง : 7 ธันวาคม 2553

    ปฏาจารา ธิดาเศรษฐี พ่อแม่หวังดี ให้อยู่บนที่ ปราสาทเจ็ดชั้น ได้ร่วมรักลอบ กับคนรับใช้หนีไปตามกัน หนีจากปราสาทเจ็ดชั้น ไปอยู่กินกันประสาชายทุ่ง อุ้มท้องลูกชาย หมายคืนกลับมา หนีสามีมา คลอดกลางมรรคา กลางป่านอกกรุง เมื่อลูกที่สองต้องหนีอีกครา กลางป่าชายทุ่ง ฝนเทไม่มีที่มุง ให้สามีมุ่ง หาที่หลบภัย ต่อมาไม่นาน งูพลันกัดสามีตาย ฝนตกหนักลงทันใด โอ้เจ้าลูกชายหนาวสั่นหวั่นไหว พาลูกข้ามน้ำ เจ้าเหยี่ยวระกำ คาบลูกชายไป อีกคนน้ำพัดไหลไป ไม่มีเหลือใคร เสียใจหนักหนา พ่อแม่ก็ตาย แถมด้วยพี่ชาย ไม่มีเหลือใคร หัวใจสลาย กลายเป็นคนบ้า ปล่อยให้หัวยุ่ง ไม่นุ่งอะไรไม่มีเสื้อผ้า เดินไปเหมือนไร้วิญญา มีคนขว้างปาข้าวของมากมาย พระเชตวัน วันนั้นเดินมุ่งตรงไป สมเด็จองค์พระจอมไตร ขอให้น้องนาง มีสติเถิดหนา เปลือยกายล่อนจ้อน คนเอื้ออาทร โยนให้ใส่ผ้า เมื่อนางได้ฟังธรรมา ขอพระพุทธา บรรพชาทันใด ปฏาจารา ทรงพระวินัย ได้เห็นน้ำไหล ไหลไปใกล้ไกลเปรียบได้ชีวัน ชีวิตเรานี้ ที่มียืนยาว และมีที่สั้น วิปัสสนาญาณนั้น บรรลุอรหันต์ ฉับพลันทันใด
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระปุณณมันตานีบุตรเถระ(เอตทัคคะด้านแสดงธรรม)

    Mana Khamyang
    Jun 2, 2021
    100.พระปุณณมันตานีบุตรเถระ ประพันธ์ : มานะ คำยัง เรียบเรียง : 7 กุมภาพันธ์ 2554

    ท่านพระปุณณมันตานีบุตร ท่านเป็นที่สุดผู้แสดงธรรมได้ดีกว่าใคร พระธรรมกถึกลึกซึ้งกินใจ องค์พระจอมไตรยกย่องท่านไว้ให้เราได้รู้ อธิษฐานไว้ตั้งแต่สมัย ย้อนอดีตไปพระปทุมมุตตรบรมครู บวชเป็นชฎิลอภิญญารู้ แล้วท่านเป็นครูสอนศิษย์หมื่นแปดได้อภิญญา แล้วในครั้งนั้นพระภัควัน เล็งเห็นด้วยญาณฤๅษีชฎิลจะอรหันตา พระธรรมกถึกหัวหน้าชฎิลจะปรารถนา พระพุทธาเหาะไปหา เข้านิโรธะโคตมะดูแลพุทธา ผ่านหลายพุทธกาลเนิ่นนานเต็มที พุทธกาลนี้นางมันตานีคือท่านมารดา กบิลพัสดุ์หลานพระอัญญา บวชเณรแล้วมาบวชพระกับองค์พระพุทธา ต่อมาไม่นาน มนสิการ วิปัสสนาญาณไม่นานเท่าไรอรหันตา กถาวัตถุสอนพระอานนท์ ได้โสดาเห็นธรรมา เอตทัคคะพระธรรมกถึก ลึกซึ้งในการแสดงธรรม ท่านพระปุณณมันตานีบุตร เป็นที่สุดในด้านการแสดงธรรม กถาวัตถุหมู่ศิษย์ได้ทำ มีความเลิศล้ำในการแสดงธรรมา ท่านพระปุณณมันตานีบุตร มีความเลิศล้ำในการแสดงพระธรรมา
    หมายเหตุ
    มนสิการ อ่านว่า มะ-นะ-สิ-กาน แปลว่า กำหนดไว้ในใจ
    กถาวัตถุ อ่านว่า กะ-ถา-วัด-ถุ
    ชฎิล อ่านว่า ชะ-ดิน หมายถึง นักบวชประเภทหนึ่ง ผู้ซึ่งเกล้าผมเป็นมวยสูง
    กถาวัตถุ 10 ได้แก่
    1.อัปปิจฉตา เรื่องความปรารถนาน้อย
    2.สันตุฏฐิตา เรื่องความสันโดษ
    3.ปวิเวกตา เรื่องความสงัด
    4.อสังสัคคตา เรื่องความไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ
    5.วิริยารัมภะ เรื่องความเพียร
    6.สีลตา เรื่องศีล
    7.สมาธิ เรื่องสมาธิ
    8.ปัญญา เรื่องปัญญา
    9.วิมุตติ เรื่องความหลุดพ้น

    10.วิมุตติญาณทัสนะ เรื่องความรู้ความเห็นว่าหลุดพ้น
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง อัฏฐมีบูชา

    Mana Khamyang
    Jun 2, 2021
    035.อัฏฐมีบูชา ประพันธ์ : มานะ คำยัง เรียบเรียง : 25 ตุลาคม 2553
    ถึงวันอัฏฐมีบูชา โอ้องค์พระนราส์ภ หัวใจข้านี้แทบขาด

    พระท่านลาแล้ว พระแก้วต้องจำนิราศ
    ดังถูกสายฟ้าฟาด หัวใจข้าจะขาดแล้ว

    ฟ้าหมองหม่น คนพรหมเทพช้ำ
    ทั่วดินเหมือนดังมีน้ำ ตาไหลครั้นลาพระแก้ว
    โอ้พระพุทธา ธัมมาสังฆาผ่องแผ้ว
    มาถึงเวลาแล้ว พระแก้วท่านลานิพพาน

    สี่สิบห้าพรรษา ลาก่อน
    ลาแล้วพระชินวร ลาก่อนไปสุขสราญ
    พระเป็นผู้รู้ ผู้รู้ผู้ตื่นเบิกบาน
    ผู้มีพระภาคองค์นั้น จอมอรหันต์นำพระนิพพาน

    * ถึงวันอัฏฐมีเวียนมา โอ้องค์พระพุทธา หัวใจข้านี้ยึดมั่น
    พระท่านลาแล้ว แต่แก้วไม่มีไหวหวั่น
    ข้าขอยึดมั่น พระธรรมเอาไว้จนตาย (ซ้ำ *)
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระโกกิลาเถรี

    Mana Khamyang
    Dec 30, 2020
    140.พระโกกิลาเถรี
    ประพันธ์ : มานะ คำยัง
    เรียบเรียง : 27 มีนาคม 2554

    เรื่องของโกกิลากับความรักปักใจ
    เป็นเรื่องความเป็นไป นางเกิดความรักใคร่
    มีใจให้พระอานนท์
    ก็เป็นคนใช้เขานางเป็นสาวทาสี เกิดมีความรักมากล้น
    พระท่านเดินผ่าน ขอน้ำกินจึงได้ยล
    นางเห็นท่านพระอานนท์ ดวงใจเปี่ยมล้นด้วยรักปักใจ
    ตามไปที่เชตวัน องค์พระทรงธรรม์แสดงธรรมยังหลงใหล
    บวชภิกษุณีปฏิบัติดีเอาไว้ ก็เพียงเพื่อใกล้พระอานนท์จำทนทำไป ยามเดินจงกรมยังข่มจำเดินยังเพลินทำชิน
    เรื่องธรรมไม่มีติดฉินอาจิณทำกับเขาได้
    แต่ว่าความทุกข์มันจุกอยู่ข้างใน
    ถึงแม้ปฏิบัติไปยังมีรักใคร่ในใจอยู่ดี
    ลาจากพระเชตวัน เพราะยังโศกศัลย์
    แม้ธรรมข่มใจแล้วนี่
    กาสาวพัสตร์นั้นกั้นเขตแดนรักพี่
    จากเชตวัน โฆสิตาราม โกสัมพี
    องค์พระพุทธาทรงเสด็จมาอุราดีใจ
    ความรักเริ่มลุกเป็นไฟ ในใจของพระเถรี
    พระแสดงธรรมโปรดนางที่โกสัมพี
    เสียงธรรมพระชินสีห์ โอ้พระเถรีอรหันตา

     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระพากุลเถระ

    Mana Khamyang
    Jun 8, 2021
    82.พระพากุลเถระ

    ประพันธ์ : มานะ คำยัง / สุพรรษา ผาปรางค์ เรียบเรียง : 1 กุมภาพันธ์ 2554
    เพียงเกิดมาได้ห้าวัน พี่เลี้ยงพาอาบน้ำคงคา
    ปลาตัวใหญ่ได้ว่ายมา อ้าฮุบท่านเข้าไปในท้อง
    ปลาว่ายจากโกสัมพี พาราณสีได้แซ่ซ้อง ปลาใหญ่ถูกผ่าท้อง มีเด็กชาย
    ข่าวนี้ดีที่แพร่กระจาย พ่อแม่เดิมมาขอกลับไป
    พ่อแม่ใหม่ท่านไม่ยอมให้ ฟ้องไปพระเจ้าพาราณสี
    ให้ตัดสินยุติคดี แบ่งกันเลี้ยงฝ่ายละครึ่งปี ตามเวลา
    ท่านพากุละ ได้เมตตา จากสองตระกูล เนิ่นนานมา เป็นอย่างดี
    พระพุทธา มาสาวัตถี พอดีได้ฟังพระธรรมา
    เกิดมีความศรัทธา ขอบรรพชาในทันที ท่านถือเนสัชชิ อรัญญิ อยู่ป่าทั้งปี
    เจ็ดวันได้เห็นพระธรรมี หมดสงสัย
    * พระพุทธายกย่องท่านไว้ ท่านไม่มีโรคาพยาธิ์
    พระพากุละเถระ ท่านถึงพระนิพพาน สุขอุรา **
    อานิสงส์การถวายยา สร้างสุขาสร้างเวจกุฎี พระสังฆา สุขภาพของกายา ท่านพากุละเถระไร้โรคา
    ***หมายเหตุ***
    เนสัชชิ อ่านว่า เน-สัด-ชิ ย่อมาจากคำว่า เนสัชชิกังคะ คือ การถือธุดงค์ข้อ เดิน ยืน นั่ง ไม่มีการเอนกายลงนอน
    อรัญญิ อ่านว่า อะ-รัน-ยิ ย่อมาจากคำว่า อรัญญิกังคะ คือ การถือธุดงค์ข้อ อยู่ป่าเป็นวัตร จะออกจากป่ากรณีบิณฑบาต
    เว็จกุฎี อ่านว่า เว็ด-กุ-ดี แปลว่า ห้องสุขา หรือ ส้วม
    เรียบเรียงเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2554 เสร็จ 1 กุมภาพันธ์ 2554
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    #เผยแผ่เป็นธรรมทาน #ห้ามผลิตเพื่อการจำหน่าย
    เพลง:ชีวิตพระธุดงค์

    Wat Pa Baan Taad วัดป่าบ้านตาด
    เพลง : ชีวิตพระธุดงค์ ศิลปิน : เพลิน พรหมเดน
    คำร้อง : พระอาจารย์ชิต ฐิตจิตฺโต(วัดป่าดงคล้อ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์)
    ทำนอง : กิติศักดิ์ สายน้ำทิพย์

    #เผยแผ่เป็นธรรมทาน #ห้ามผลิตเพื่อการจำหน่าย
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง ราตรีแห่งมรรคผล

    Wat Pa Baan Taad วัดป่าบ้านตาด
    เพลงราตรีแห่งมรรคผล ขับร้องโดย รุ่ง สุริยา ชุด ฝากไว้เป็นคติแก่โลก บูชาพระคุณ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    #เผยแผ่เป็นธรรมทาน #ห้ามผลิตเพื่อการจำหน่าย
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระสาคตเถระ (เอตทัคคะผู้ชำนาญเตโชสมาบัติ)

    Mana Khamyang
    Jun 17, 2021
    89.พระสาคตเถระ
    ประพันธ์ : มานะ คำยัง / สุพรรษา ผาปรางค์ เรียบเรียง : 4 กุมภาพันธ์ 2554

    โอ เตโช เตโช โอ โอ้ เตโช พระสาคตะ เมืองสาวัตถี เมื่อได้มี ฟังพุทธธรรม ความศรัทธา ให้ได้ก้าวนำ บำเพ็ญ สมณธรรม ออกบรรพชา เตโชกสิณทำอภิญญา แสดงฤทธา ด้วยเปลวอัคคี โอ่ โอ โอ้ โอ้ โอ โอ่ โอ โอ่ โอ โอ้ โอ
    โกสัมพี มีความเดือดร้อน พญานาคหงอน ทำฝนไม่ดี ไร่นาผู้คน ยากจนเต็มที ยากที่ จะหาใครมาแก้ไข * ท่านพระสาคตเถระ อภิญญา เตโชกสิณเป็นไฟ ชาวบ้าน เบิกบานแจ่มใส นาคาพ่นไฟ พ่ายพระเถระ น้ำฟ้ากลับคืน
    ชาวบ้านหวังดี มีความศรัทธา ถวายสุราจนท่านเมามาย ออกบิณฑบาต กลับมาไม่ไหว ล้มลงทันใดที่ประตูนคร องค์พระพุทธา ผ่านมาได้เห็น ให้พระ ช่วยเข็น หามท่านกลับไป * พระพุทธา บัญญัติสิกขา ว่าต่อนี้ไปห้าม ดื่มสุราเมรัย พระสาคตะท่านจึงละอายใจ ปลีกตัวออกไป บำเพ็ญสมณธรรมตามลำพัง ท่านพระสาคตเถระ อรหันตา หลังจากบำเพ็ญจริงจัง เอตทัคคะ ชำนาญเตโชกสิณัง พวกเราขอตั้ง พนมนอบน้อม พระอรหันตา เตโช โอ้ โอ เตโช พวกเราขอตั้ง พนมนอบน้อม กราบพระสาคตะ


     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระนันทเถระ ( เอตทัคคะสำรวมอินทรีย์ )

    Mana Khamyang
    Jul 10, 2021

    072.พระนันทเถระ ประพันธ์ : มานะ คำยัง เรียบเรียง : 18 ธันวาคม 2553 (เวลา 15.30 น.)
    เมื่อสมเด็จพระชินสีห์ เสด็จที่กบิลพัสดุ์ ได้โปรดพระประยูรญาติ บิณฑบาตชาวเมืองสุขี

    พุทธบิดาได้เห็นธรรมา เป็นโสดาอนาคามี เสด็จงานวิวาห์วันที่สี่ เป็นงานที่ท่านนันทะแต่งงาน
    เออ เฮ้อ เออ เฮอ เอย เมื่อเสร็จงานท่านให้อุ้มบาตร ไม่วางบาตรเพราะเกรงท่านพี่
    อุ้มตามไปพระไม่รับบาตร อาจจะรับเมื่อถึงพื้นปฐพี สักทีรับบาตรสักที
    อุ้มตามพระถึงประตูวัง ไม่มีหวังท่านจะรับสักที
    ได้ยินเสียงน้องกัลยาณี รีบกลับมาหาน้องนะพี่ กลับมาหาน้องนะพี่
    ตามท่านไปนิโคธาราม ท่านถามว่าบวชพระซะที คิดถึงนางยังไม่อยากบวช หัวใจปวดแต่เพราะเกรงท่านพี่ บวชพระเพราะเกรงท่านพี่
    บวชพระแล้วก็ยังไม่แคล้ว คิดถึงน้องแก้วอยากสึกสักที พระท่านพาไปดูนางฟ้า หน้าสวยสวยก็เห็นเข้าที ชัยชาย ชัยชาย ชัยยา ชัยชาย ชัยยา พี่ชายเอย เอ่อ เฮ๊อ เออ เอ่อ เฮ๊อ เออ เอ่อ เฮ๊อ เอย
    พระท่านว่าอยากได้นางฟ้า ปฏิปทาตามพระธรรมี เพื่อนพระล้อบวชเพราะนางฟ้า จึงหันมาปฏิบัติดี ปฏิบัติจนบรรลุสักที พระนันทะเอตทัคคะ พระท่านยกย่องสำรวมอินทรีย์
    ตาหูจมูกลิ้นกายใจท่านนั้น ท่านไม่ยินร้ายท่านไม่ยินดี ชัยชาย ชัยชาย ชัยยา ชัยชาย ชัยยา พี่ชายเอย เห็นธรรมีแล้วละพี่น้อง ตามครรลองตามพระพุทธา ท่านถึงแล้วตามพระธรรมา ท่านพระนันทะถึงพระนิพพาน
    เออ เฮ้อ เออ เฮอ เอย
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระภัททิยเถระ ( เอตทัคคะเกิดตระกูลสูง )

    AKedOLQ4aXPx0Sze1SjmC4uWSSghjUDz-W9zThbaQuOc=s48-c-k-c0x00ffffff-no-rj.jpg
    Mana Khamyang

    Jul 10, 2021

    104.พระภัททิยเถระ ประพันธ์ : สุพรรษา ผาปรางค์ / มานะ คำยัง / ชนธีร์ ลิมปศิลป์ เรียบเรียง : 12 กุมภาพันธ์ 2554
    พระภัททิยะท่านไม่อาจทนฝืน ต้องทรงกล้ำกลืนไม่อาจฝืนใจสหาย

    ออกบรรพชาตามพระอนุรุทธะไป เพื่อนมาร้องขอเพราะตัวเราเป็นเงื่อนไข ตัดอกตัดใจทิ้งราชสมบัติบรรพชา
    พระภัททิยะพร้อมหกท่านตั้งใจ ออกเสด็จไปเพื่อไปเฝ้าพระพุทธา จึงกราบทูลขอพระพุทธองค์บรรพชา อนุปิยะอัมพวันดังปรารถนา ภายในพรรษาได้อรหันตาสมดังใจ
    โอ้สุขจริงหนออยู่โคนต้นไม้ สุขหนอสุขใจไม่ว่าจะเป็นที่ใด ก่อนเป็นราชานั้นมีแต่ความวุ่นวาย
    สุขหนอสุขใจ ภิกษุทั้งหลายได้ยิน ต่างเอาความนี้ไปฟ้ององค์พระพุทธา ว่าพระเถระยังติดใจในทรัพย์สิน
    ยังกล่าวสุขหนอให้พวกเราได้ยิน เรียกพระเถระเพื่อจะมาตัดสิน ที่คนได้ยินกล่าวสุขหนอเพราะอะไร
    ที่กล่าวสุขหนอเพราะว่าสุขแล้ว เห็นธรรมเพริศแพร้วถึงมรรคผลพระนิพพาน
    ก่อนเป็นราชาไม่เคยมีความเบิกบาน สะดุ้งตื่นกันทั้งกลางวันทั้งราตรี
    พระภัททิยะเป็นเอตทัคคะ เกิดตระกูลสูงพระพุทธาท่านสดุดี
    พระท่านถึงแล้วพระนิพพานมีสุขี เกิดมาหลายชาติท่านอยู่ในตระกูลดี
    ขออัญชลีพระภัททิยะอรหันตา ขออัญชลีพระภัททิยะอรหันตา
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระนางสามาวดี ( เอตทัคคะผู้อยู่ด้วยเมตตา )

    Mana Khamyang
    Aug 2, 2021
    063.พระนางสามาวดี ประพันธ์ : มานะ คำยัง เรียบเรียง : 6 ธันวาคม 2553

    โอ โอ้ย โอ้ยละน้อ ออ ละ พระนางเอ๋ย สามาจากบ้านเกิด ถิ่นกำเนิดจากบ้านมา เอ้อ เอย พระนางสามา มาขอข้าว แม่พ่อเจ้าตายหนีจาก โอ้พลัดพราก โอ้พลัดพราก โอ โฮะโอ โฮะโอ โอ โอ้ สามา พระนางสามาวดี เป็นลูกเศรษฐีภัททวดีย์นคร โรคภัยไม่เหมือนแต่ก่อน จำต้องจากจรมาโกสัมพี ท่านโฆษกเศรษฐี เลี้ยงสามาวดี สุขีเรื่อยมา พระเจ้าอุเทนหมายปอง ตกหลุมรักน้องสามา ได้ขอเอาน้องแก้วตา ไปเป็นชายาพระมเหสี * เจาะ รูไว้ เอาไว้เบิ่งดี พระชินสีห์ มาทางนี้บูชา พระชินสีห์ มาทางนี้บูชา ฟังพระธรรมา ขุชชุตตราแล้วดี เห็นธรรมีกันห้าร้อย ทั้งห้าร้อย บรรลุธรรมทันใด ทั้งห้าร้อย บรรลุธรรมทันใด ต่อมาโดนเผาไฟ ตายกันทั้งห้าร้อยนั้น ตายกันทั้งห้าร้อยนั้น ท่าน สามาเป็นพระโสดาบัน แต่ก็ต้องโทษทัณฑ์อดีตชาติตามมา พระเพิ่นว่า เคยเผาป่าฮ่วมกัน พระเพิ่นว่า เคยเผาป่าฮ่วมกัน เล่นน้ำมา พากันหนาวสั่น เลยพากันเผาป่านั้น พระเพิ่นอยู่ในป่านั่น พระปัจเจกในป่านั่น พระนางสามา ยกย่องจากพระพุทธา พระนางสามา ท่านเป็นผู้มีเมตตา สามาท่านถึงมรรคผล ท่านถึงหลุดพ้น บ่วงทุกข์บ่วงภัย ท่านถึงหลุดพ้น บ่วงทุกข์บ่วงภัย
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,306
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เพลง พระมหาโกฏฐิตเถระ ( เอตทัคคะปฏิสัมภิทา ๔ )

    Mana Khamyang
    Sep 17, 2021
    134.พระมหาโกฏฐิตเถระ

    ประพันธ์ :มานะ คำยัง
    เรียบเรียง : 6 เมษายน 2554
    พระมหาโกฏฐิตเถระเอตทัคคะปฏิสัมภิทาสี่ ปรารถนาไว้สมัยพระชินสีห์

    พระปทุมมุตตระ ตั้งใจไว้เป็นอย่างนี้
    ถวายทานอย่างดีพระชินสีห์องค์นั้น
    พุทธกาลนี้เป็นพราหมณ์เมืองสาวัตถี
    ฟังพระธรรมีจากพระพิชิตมาร
    มีความศรัทธาผู้มีพระภาคองค์นั้น
    โกนหัวเสร็จแล้วท่านได้บรรลุอรหันต์ ปฏิสัมภิทานั้นมาพร้อมกันฉับพลันทันที
    * พระมหาโกฏฐิตะ เอตทัคคะปฏิสัมภิทาสี่
    แจ้งอรรถธรรม ธัมมนิรุตติ ปฏิภาณมีเก่งล้ำไหวพริบฉับไว
    พระมหาโกฏฐิตเถระ ปฏิสัมภิทาพระเถระเลิศกว่าใคร
    องค์พระพุทธาท่านได้ยกย่องเอาไว้
    อดีตกาลเคยปรารถนาไว้ บัดนี้ท่านได้สมใจดั่งในปณิธาน
    (ซ้ำ *) พระมหาโกฏฐิตเถระ ปฏิสัมภิทาพระเถระเลิศกว่าใคร องค์พระพุทธาท่านได้ยกย่องเอาไว้ อดีตกาลเคยปรารถนาไว้ บัดนี้ท่านไปสุขใจที่ในนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...