ทุกสิ่งอยู่ที่จิต รู้เห็นด้วยจิต ยึดติดด้วยจิต หลุดพ้นด้วยจิต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นาฬิเกร์, 5 มีนาคม 2021.

  1. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    59efaeb393aa4.jpg
     
  2. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    59efaebfb55f7.jpg
     
  3. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    หน้าที่ทางโลกคือพ่อและเพื่อนร่วมโลก หน้าที่ทางธรรมคืออรหันต์และเพื่อนร่วมธรรม(ไม่ได้หมายถึงตัวบุคคล ผู้ใด แต่เป็นหน้าที่) เมื่อทุกสิ่งล้วนเป็นของโลก มีไว้สำหรับโลก โลกปั้นแต่งไว้ให้ก่อนแล้ว เรามาอาศัยอยู่ภายหลัง ทางโลกและทางธรรม เป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยใจ ทุกสิ่งอาศัย(กันและกัน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2021
  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    แบบน้ำตาไหล
    แบบซายซ่าน ชุ่มฉ่ำ
    แบบตัวโยกโคลงเคลง
    แบบเหมือนมีกายซ้อน ตัวใหญ่ขึ้นหรือสูงขึ้น
    อันนั้นผมพอรู้จักอยู่บ้าง

    แต่เรื่องที่เล่าไปนั้น เป็นคนละอย่างครับ
    แค่นั่งสมาธิเฉยๆนี้หละครับ เพียงแต่กายเบาใจเบาขึ้น
    เมื่อเราไปพบความเบาที่ยิ่งกว่า เราจะรู้ได้เองเลย
    ว่าแต่ก่อนนี้เราแบกของหนักมาขนาดไหน
    เบาสบายกว่าแบบต่างๆที่กล่าวมา

    แต่ช่วง 3 ปีมานี้จะเน้นไปที่สวดบทจักรพรรดิ
    ก็เบาขึ้นอยู่เหมือนกัน ไม่ค่อยหงุดหงิดหรือรำคาญ
    ไปกับอะไรบลาๆๆ
     
  5. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    หิวข้าว กับ ปวดขี้ กับ ชักว่าว
    ความเห็นท่านนิล ท่านว่าต่างกันใหมและต่างกันอย่างไร ?
     
  6. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    กายเบาใจเบาเพราะละกามนิวรณ์ได้ และรู้แล้วว่าสุขกามคุณ๕ กับ สุขสมาธิ ต่างกันเช่นไร
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    หิวข้าว กับ ปวดขี้ เป็นเรื่องของ ร่างกายมันบังคับ
    เราไม่ทำก็ไม่ได้ จำเป็นจะต้องทำทุกชีวิตเหมือนกันหมด
    แต่ การชักว่าวของผู้ชาย หรือ การช่วยตัวเองของผู้หญิง
    เราจะทำ หรือ ไม่ทำ ก็ได้ แต่ส่วนมากจะทนไม่ได้
    พระ ก็เลยจะต้องหนีเข้าญาน แล้วเพ่งอสุภะช่วย
    ส่วนชาวบ้านชั้นดี จะเสพกาม หรือ ไม่เสพกาม
    ก็ต้องดูเหตุการณ์จำเป็นเฉพาะหน้า ว่าจำเป็นไหม ทนได้ไหม
    ถ้าจำเป็นก็ทำไป ทำไปแล้วก็ทิ้งความคิดไปเลย
    ไม่ต้องกลับไปคิดแล้วคิดอีก
    การกิน ขี้ ปี้ นอน ทำแล้วก็ทำเลย
    ไม่ต้องไปคิดมากว่า มันผิดหรือถูก
     
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
  10. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    กามคุณกับกามารมณ์
    ท่านนิลว่าอารมณ์2อย่างนี้เวลาเกิดขึ้นเป็นตัวเดียวกัน
    หรืออารมณ์2อย่างนี้เกิดขึ้นมาทับซ้อนกัน

    หากเป็น 2 อันไหนเกิดก่อนอันไหนเกิดตามมาทีหลัง
     
  11. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324
    ใช่ ใช้ได้นะ พ่นอารมณ์ทางจิต
    ก็เหมือน การกระทำ ทางกาย
    แต่ อารมณ์เป่นของจิต พ่นทางจิต
    แบบเดียว กับการสำเร็จทางกาย
    แต่สำเร็จทางจิตแทน ปลดปล่อย จิต
    แบบปลดปล่อยกาย.
    คล้ายๆแบบนี้ปะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2021
  12. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324
    ห้องนี้ น่าจะดี
    ใครเคยเจอ เทพองค์ใด
    เล่าให้ฟังหน่อยสิ
    พบเจอใครบ้าง เป็นแบบไหนบ้างครับ
    ให้คนไม่รู้ได้เข้าใจบ้าง
     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    กามคุณ เป็นเรื่องของ นักบวช
    กามารมย์ เป็นเรื่องของ ชาวบ้านชั้นดี

    หากจะให้ พระ เณร สอนเรื่องกามารมณ์
    ท่านก็จะสอนไม่ได้ เพราะไม่ได้เสพกามโดยตรง
    ผู้สอนก็จะเก้อเขิน ผู้ฟังก็จะกระอักกระอ่วนใจ
    ดังนั้น จึงเลื่ยงไปใช้ คำบาลี ว่า กามคุณ มาสอนแทน
    เพื่อที่จะบ่งบอกว่า ก็คือ การเสพกามประเภทต่างๆ
    ตั้งแต่ การเสพกามารมย์ของชาวบ้านชั้นดี
    ไปจนถึง การเสพกามคุณแบบ พระ เณร
    ก็คือ การทำสมาธิ เข้าญาน เดินจงกรม เพ่งกสิน
    ทำอะไรก็ได้ ที่ทำแล้ว เกิดความสุข แล้วเสพความสุขนั้น
    แบบนี้จึงเรียกว่า การเสพกามขั้นสูง หรือ แบบฤาษี นั่นเอง

    แต่ถ้าหากต้องการ เสพกามแบบพุทธะ
    ก็จะต้องรู้ตัวเอง ว่า กำลังเสพกามอยู่
    แม้แต่ ชาวบ้านชั้นดี หากเสพกามารมณ์แล้ว
    ก็รู้ตัวเองไปด้วยว่า เรากำลังเสพกามอยู่นะ
    อีกไม่นาน ชาวบ้านชั้นดี ก็จะข้ามขั้นไปเป็น พระอริยะเจ้า ได้แน่นอน
     
  14. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    หลักการก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ
    ไม่ว่าจะเป็น กาย เวทนา จิต หรือ ธรรมารมย์
    เมื่อฝึกดูกาย ก็ให้พิจารณา กายดี - กายเน่า
    เมื่อฝึกดูเวทนา ก็ให้พิจารณา ทุกขเวทนา - สุขเวทนา
    เมื่อฝึกดูจิต ก็ให้พิจารณา จิตดี - จิตเลว
    เมื่อฝึกดูธรรมารมย์ ก็ให้พิจารณา อารมณ์อยาก - อารมณ์ไม่อยาก

    หากดูได้ทุกวัน วันละหกชั่วโมง เป็นเวลาเจ็ดวัน
    ก็หวังผลที่จะได้เป็น พระโสดาบัน ได้เลย
    แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือ
    จะต้องมีสติรู้ทันเวลาที่เราฝึกอะไรอยู่
    ที่เรียกว่า จิตปัจจุบัน หรือ สติปัจจุบัน นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2021
  15. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324
    นอนทำ สมาธิได้ไหมคับ
    จับลมหายใจ และไม่ต้องหายใจเอง
    ร่ายกายจะทำการหายใจเองนะ
     
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    สมาธิ มันก็ทำได้ทุกท่านั่นแหละ
    ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ทำได้หมดทุกท่าทาง
    หลักการก็แบบเดียวกับ ท่านั่งเข้าญาน

    แต่ถ้าเป็น สมาธิแบบพุทธะ
    จิตจะต้องเป็น ปัจจุบันขณะ ก็คือ
    ไม่ว่าเราจะอยู่ในท่าไหน เราก็รู้วตัวเองว่า อยู่ในท่านั้น
    เมื่อนั่ง ก็ให้รู้ว่า กำลังนั่งอยู่
    เมื่อยืน ก็ให้รู้ว่า กำลังยืนอยู่
    เมื่อเดิน ก็ให้รู้ว่า กำลังเดินอยู่
    เมื่อนอน ก็ให้รู้ว่า กำลังนอนอยู่
    เมื่อทำได้อย่างนี้แล้ว ก็ให้พิจารณาถึง
    การเกิดดับของญาน แต่ละชั้น อยู่เนืองๆ
    เมื่อมีญานชั้นใดชั้นหนึ่ง เกิดขึ้นมา
    ก็ให้พิจารณาว่า ญานนี้กำลังเกิด
    เมื่อมีญานชั้นหนึ่งชั้นใด ดับหายไป
    ก็ให้พิจารณาว่า ญานนี้กำลังดับ

    ด้วยการทำอย่างนี้อยู่เนืองๆ จึงจะเรียกว่า การเจริญสัมมามรรค
    หรือ การเจริญมรรคของพระอริยะเจ้า นั่นเอง
     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
  18. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324
    สุดท้ายเราควรอยู่ฌาณไหน
    ตลอดครับ ใช่ฌาณ3หรือป่าวครับ
    ที่ไม่มีไรเลย
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,612
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ถ้าเป็น แบบภาวนาพุทโธ ก็ให้อยู่ที่ ญานที่หนึ่ง
    ก็คือ ญานวิตก หรือ การกล่าวคำภาวนา นั่นเอง

    แต่ถ้าเป็น แบบเพ่งกสิน ก็ให้อยู่ประมาณ ญานที่สอง
    ก็คือ ญานวิจาร หรือ การทิ้งคำภาวนา นั่นเอง

    แตถ้าเป็น แบบเล่นฤทธิ์ ให้อยู่ประมาณ ญานที่สาม
    ก็คือ ญานปิติ หรือ ความแช่มชื่น นั่นเอง

    แต่ถ้าต้องการ เสพสุขในสมาธิ ก็ให้อยู่ประมาณ ญานที่สี่
    ก็คือ ญานสุข หรือ ญานสุขใจ นั่นเอง

    แต่ถ้าต้องการ เสพสุขให้ได้นานๆ ก็ต้องเข้า ญานที่ห้า
    ก็คือ เอกัคคะตาญาน หรือ เอกคตารมย์ นั่นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...