ตอบปัญหาทางธรรม กฏแห่งกรรม-ภพภูมิ

จิตส่วนหนึ่งมีกรรมมีทุกข์ ส่วนหนึ่งก้มีสุข
ไม่ว่าเขาจะสุขหรือทุกข์ ให้เราแผ่บุญกุศล แผ่เมตตาให้เขา ครับ

การทรงสมาธิ ตั้งกำลังใจให้ถูกต้องเป็นกลาง มุ่งสู่ความสงบ ไม่ส่ายไปทางอื่น
ให้ประคองไว้แบบนี้ย่อมเกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น
จิตต้องอ่อนโยน อ่อนนุ่มไม่อ่อนแอตั้งมั่น
เมืีอนั้นำสมาธิจิตก็จะเดินก้าวหน้าพัฒนาก้าวหน้าอย่างถูกต้องครับ สาธุ

 

ขอรบกวนส่งคำถามไปทางข้อความส่วนตัวแล้วคับ

 

ตอบให้แล้วครับ

 

กรรมที่ให้ผลตามวาระนั้น เราไม่อาจทราบล่วงหน้าได้

กรรมที่ให้ผลทุกขณะจิต ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตทุก ขณะ
สุขทุกข์ จิตรับเอาเสวยเป็นอารมณ์
สุขทุกข้ จากกรรมวิบาก ล้วนเป้นเครื่องสะท้อน ดุจกระจกเงานสะท้อนกรรม สะท้อนจิตตน

ปัญญา เกิดได้ด้วยอาศัย จิตรุ้แจ้งสุขทุกข ในธรรมารมณ์ที่เกิดดับ แม้นยอมรับ
ปล่อยวาง ที่จิตได้ วิบากกรรมทั่งหลายย่อมขาดลงได้ที่ใจตน

 

- สวัสดีครับ คุณ TJS สบายดีไหมครับ? ผมไม่ได้เข้าเว็บพลังจิตนานพอสมควรเลย เพิ่งเห็นคุณ TJS กลับมาตอบแล้ว เรื่องการเป็นที่ผมอยากเป็นพระอริยะ ผมคงไม่มีวาสนาแล้วครับ ผมตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางพุทธภูมิตั้งแต่ปลายปีที่แล้วละครับ และอธิษฐานเป็นนิยตโพธิสัตว์แล้ว เวลาผมไปวัด หรือทำบุญ ผมก็อธิษฐานแบบนี้ตลอดแล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่าผมได้รับพยากรณ์หรือยัง แต่ถ้ายังผมก็จะทำต่อไปแหละครับ เดี๋ยวสักวันผมได้อภิญญา ก็คงรู้เอง ตอนแรกผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้เพราะผมศึกษาเรื่องอริยบุคคลก่อนจะมารู้จักกับคำว่า "พุทธภูมิ" สุดท้ายผมมีความรู้สึกลึกๆว่าอยากเดินบนเส้นทางนี้ต่อไปครับ

- ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

สาธุครับ
เรื่องความเป็นนิยตโพธิสัตว์ผมไม่สามารถตอบให้ได้ครับ
แต่ให้เราตรวจดูบารมีที่สั่งสมตามลำดับขั้นคือ
บารมีขั้นต้น อุปบารมี และปรมัตถ์บารมี

ถ้าเราเลยสามขั้นนี้แล้ว ก้จะมีโอกาสได้พยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งครับ
ขั้นปรมัตถ์แบ่งย่อยออกไปอีกเป้นสามลำดับ
เมื่อเราเจริญภาวนาให้มาก จิตย่อมเปิดภพภูมิรุ้วาสนาของตนได้ครับ

จิตของสายนี้มีเมตตา มีพรหมวิหารเป้นเสาหลัก
การสร้างบารมีอื่นก้ต้องสั่งสม บารมีสามสิบทัศน์ และยังตัองสั่งสมทศพลญานบารมีด้วย ดังนั้น ท่านที่สั่งสมมามากก้จะทราบได้ด้วยตนเอง ก้ขอให้มีความเพียรต่อไป
นอกจากนี้ยังตัองาั่งสมบารมีธรรมทึ่เป้นแบบพระอริยะด้วยเพื่อพัฒนาจิตแต่เป้นการทรงอารมณ์ให้ได้ตามลำดับครับ

 

มีประสบการณ์ ดีๆจากท่าน TJS มาแชร์ให้ครับ ผมเคยถามถึงวิธีการขออโหิกรรม/ทำบุญ แบบ ไม่พบตัวคู่กรณี จากท่าน TJS ซึ่งท่าน TJS ก็แนะนำให้ผมลองอุทิศบุญให้ เทวดา ประจำตัว และเจ้ากรรม นายเวรของคนๆนั้นดู ปรากฏว่า ผมได้เจอคนๆนั้นแล้วครับ หลังจากที่ตามหามาเกือบ 15 ปี ตลกกว่านั้นคือ คนๆ อยู่ห่างจากผมแค่ 1 ป้ายรถเมล์ เองครับ

 

เรียน ท่าน อาจารย์ค่ะ

หนูขออนุญาติปรึกษาค่ะ เกี่ยวกับงาน logigtics ค่ะ
หนูถามไปใน Inbox ของ อาจารย์น่ะค่ะ

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

 

นั้นคือเมื่อถึงเวลากรรมจะชักนำไปเองครับเป็นไปตามวาสนาที่มีร่วมกันครับ

 

ตอบให้แล้วครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณ TJS

หนูขออนุญาตปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการแก้กรรมค่ะ (พอดีช่วงนี้เจอเรื่องรุมเร้ามากค่ะ จนไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้อย่างไร)
หนูได้ส่งข้อมูลไปทาง inbox แล้วนะคะ

รบกวนด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

ถึง คุณ TJS ค่ะ

ขอสอบถามเพิ่มเติมนะคะ อยากทราบเรื่องเนื้อคู่ค่ะว่าลักษณะยังไง
หนูเกิด 26 มิถุนายน 2540 ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

ครับจะตรวจให้ครับ

 

เรียน ท่านอาจารย์ค่ะ

หนูอยากทราบว่า ชาตินี้หนูจะได้ใช้ชีวิตคู่กับคนที่หนูเล็งไว้ไหมคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

 

มีคำถามขอรบกวนท่าน TJS ใน inbox สักหน่อยครับ ขอบคุณครับ

 

ตอบให้แล้วครับ

 

ถามคุณ TJS ทาง inbox แล้วค่ะ รบกวนด้วยนะคะ

 

เมื่อไหร่จะมีคู่สักทีนะครับหรือคู่ยังไม่มาเกิดหรือไม่มีกรรมกะใครหรือต้องชดใช้กรรมครับ

 

ขออนุญาตสอบถามท่าน TJS ครับ ว่า การทำบุญอุทิศให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยบอกกล่าวฝากบุญนี้ ไว้ที่สำนักพญายมราช เมื่อเขาสิ้นชีพไปมีโอกาสที่เขาจะอนุโมทนาได้มั๊ยครับ

 

ปุถุชนย่อมมีความปราถนาความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด

ส่วนพระอริยะมีความต้องการเพียงสิ่งเดียวคือความสงบสุขที่ขาวสะอาดหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

ดังนั้น พระอริยะจึงก้าวเดินด้วยมรรคแปด อย่างไม่ลังเลสงสัย เมื่อใดที่ท่านเจริญก้าวหน้าในมรรคแปดกระทำกิจในอริยะมรรคได้บรรลุสมบูรณ์แล้วเมืีอนั้นความปราถนาที่ได้ตั้งไว้ก็บรรลุสมปราถนา กิจทั้งหลายจึงจบสิ้น จึงเป็นผุ้หลุดพ้นจากทุกข์ เป็นผู้อยู่เหนือโลก พ้นจากโลกีวิสัย มีจิตดำรงอยู่ด้วยธรรมอันเป็นโลกุตระเป้นปกตินิรันดร์ .