เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

พระซุ้มกอยุคต้น เนื้อดินพิมพ์กลางของหลวงพ่อกวย สร้างก่อนปี2500 สภาพยังสวย ผิวเก่าเดิมๆ เป็นของดีและน่าใช้มาก ใครดวงตก ทำอะไรก็พลาด ทำคุณคนไม่ขึ้น ลองใช้พระเนื้อดินดูบ้างสักองค์ เป็นพระเครื่องที่สำเร็จด้วยพลังอิทธิฤทธิ์

 

จองครับพี่หนุ่ม

 

ยืนยันการรับจอง พระซุ้มกอยุคต้น เนื้อผงพิมพ์ใหญ่ของหลวงพ่อกวยไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

พระซุ้มกอที่ทำจากผงล้วนในยุคต้นๆของหลวงพ่อกวยแบบนี้ ปัจจุบันหายากแล้ว ทำแบบพระสมัยโบราณด้วยการกดมือและตัดขอบทีละองค์ เก่าและสภาพสวย ผิวเดิม ใครชอบพระยุคแรกๆของท่านก็ลองพิจารณาดูครับ

j999 จองบูชาแล้ว

 

ทุกวันนี้คนที่นับถือศรัทธาในหลวงพ่อกวยมีมากขึ้นทุกวัน แต่คนส่วนหนึ่งมักเชื่อคำพูดของเซียนพระรุ่นใหม่ เชื่อตามเขาว่าอันนี้ถึงใช่..อันนั้นยังไม่ใช่ แต่ใครรู้บ้างไหมว่า ข้อเท็จจริงคืออะไรกันแน่ เซียนพระเหล่านั้นเอาข้อมูลมาจากไหน เซียนพระคนนั้นเคยได้กราบหลวงพ่อกวยสักครั้งบ้างไหม คนที่อวดอ้างว่ารู้หลายคนก็เพียงอ่านจากหนังสือที่คนรุ่นหลังทำออกมาโดยไม่รู้เนื้อแท้ข้อเท็จจริง คนที่คิดว่ารู้นั้น..เคยคุยกับลูกศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อมากี่คน ขอนับเฉพาะลูกศิษย์ที่เคยอยู่ใกล้ชิดมาก่อน ถ้าเป็นแค่คนรู้จักหลวงพ่อกวยก็ยังไม่นับเป็นศิษย์เก่า หนังสือที่ทำกันออกมานั้นก็ไปขอข้อมูลจากลูกศิษย์เก่าๆของท่านมาเรียบเรียงลงหนังสือแล้วคัดลอกสืบต่อกันมา บางครั้งได้ข้อเท็จจริงมาแต่ก็ไม่เอาลงเป็นข้อมูลก็ยังมี เพราะจะไปขัดกับกระแสที่เป็นผลประโยชน์มาก่อนหน้าแล้ว หลายคนเป็นเซียนพระรุ่นใหม่ได้..เพราะอ่านข้อมูลเฉพาะในหนังสือเท่านั้น แต่ไม่มีข้อมูลจากคนยุคก่อนมากพอ

ลองอ่านตัวอย่างบันทึกสั้นๆของลูกศิษย์ยุคเก่าตัวจริงที่ชื่อ กมล พลพิทักษ์กุล หรือเสี่ยตี๋ ที่ได้บันทึกข้อมูลไว้หลายเล่มสมุดไทย นับตั้งแต่ปี2516เป็นต้นมา หลังจากมุ่งหน้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย และแวะเวียนไปกราบทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์ไป 5 วันติดต่อกันเพราะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก หลวงพ่อกวยเป็นผู้เล่าให้จดบันทึกเสมือนว่าท่านจะรู้ล่วงหน้าถึงเรื่องราวในวันนี้ที่จะสับสน จะมีคนทำขาวให้เป็นดำ แก้ดำให้เป็นขาว เสี่ยตี๋จะกลับมาจดบันทึกไว้ทุกวันด้วยกลัวจะลืมข้อมูลที่ฟังจากปากหลวงพ่อมา เมื่อได้อ่านแล้วลองถามตัวเองว่า...รู้เรื่องจริงแบบนี้มาก่อนไหม...รู้เรื่องที่อยู่ในบันทึกนี้มากน้อยสักเท่าไร แล้วทราบนัยยะสำคัญไหม บันทึกเหล่านี้มีหลายเล่ม มีหลายหน้า และเขียนจดไว้ตั้งแต่ปี 2516 มาจนถึงปี 2521 ด้วยความละเอียดรอบคอบตามอุปนิสัยของของเสี่ยตี๋ ถึงเวลาที่จะมีคนเปิดโลกความจริงอีกหน้าหนึ่งของหลวงพ่อกวยเสียที เพราะในหนังสือเล่มใหม่นี้..จะเป็นการเผยเรื่องราวที่ปกปิดมานานกว่า45ปีให้คนภายนอกได้รู้เรื่องราวแต่ครั้งก่อน มีข้อเท็จจริงอีกมากที่ถูกแกล้งลืมเพียงเพราะคนทำหนังสือบางรายไม่มีผลประโยชน์ร่วมด้วย แต่หนังสือตามรอยหลวงพ่อกวยเล่มนี้..จะทำเพื่อเป็นอนุสรณ์จากศิษย์คนหนึ่ง..ที่ได้กราบหลวงพ่อกวยเป็นครูอาจารย์และเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจตลอดมาจนทุกวันนี้

 

ขอจองครับ

 

ยืนยันการรับจอง พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ เนื้อผงยุคต้นๆของหลวงพ่อกวยไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

ขอจองหนังสือไว้ก่อน 1 เล่มครับพี่หนุ่ม

 

ได้เลยครับ เป็นหนังสือที่คุณกมลตั้งใจทำเพื่อคงไว้ในความจริงเมื่อครั้งก่อน ไม่มีใครเก็บข้อมูล หรือมีบันทึกได้สมบูรณ์และมากเท่าเสี่ยตี๋อีกแล้วครับ

 

มีดหมอหลวงพ่อกวย ด้ามไม้แกะเป็นองค์ท้าวเวสสุวรรณ ฝักไม้ ความยาวรวมด้าม 9 นิ้วพอดี เป็นมีดหมอเล่มพิเศษอีกเล่มหนึ่ง ที่ท่านได้รับมอบจากอาจารย์ของท่านคือหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ครั้งเมื่อเรียนวิชาสำเร็จและกราบลากลับวัดบ้านแค ก่อนจะตกทอดมาถึงศิษย์ใกล้ชิดของท่าน มีความพิเศษในตัวตามรายละเอียดและหลักฐานที่พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองดังปรากฏบนฝักมีดทั้งสองข้าง (รอยจารเลือนรางมากจนต้องปรับแสงมากกว่าปกติเพื่อให้เห็นรอยจาร) มีดหมอแบบนี้มีไม่กี่เล่ม ล้วนมีเจ้าของครอบครองบูชาทั้งสิ้น เป็นของดีหายากและใช้ได้ผลดีมาก มีเพื่อนสมาชิก2ท่านได้นำมีดมาอธิษฐานขอโชคใหญ่ก็ได้สมใจทั้งรางวัลที่4 และรางวัลที่ 5 แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รางวัลใหญ่เช่นเขาทุกรายไป องค์ประกอบของผลบุญต้องมีหลายอย่าง แต่ถ้าเป็นของแท้ของดี...ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเห็นผลเช่นกัน

...มีดหมอถือเป็นยอดเครื่องราง เป็นของสูง มีความขลังเป็นอมตะและมีอิทธิฤทธิ์-พุทธานุภาพในตัวเองสูงมาก มีสรรพคุณหลากหลายและใช้ได้สารพัด จะทำให้ดีแบบสมบูรณ์แบบครบเครื่องได้ยากนัก ใครที่ชอบวัตถุมงคลก็จะต้องดิ้นรนขวนขวายหามาไว้ติดบ้าน-ติดตัวสักเล่ม พระเกจิที่สร้างมีดหมอได้ขลังและโด่งดังที่สุดคือหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ ซึ่งหลวงพ่อกวยเคยไปขอเรียนวิชามีดหมอและวิชาต่างๆกับหลวงพ่อเดิมในช่วงก่อนปี2480 เมื่อเรียนสำเร็จแล้วก็ทำได้ขลังไม่แพ้อาจารย์ หลวงพ่อกวยเริ่มทำมีดหมอมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ประมาณปี2484 โดยก่อนหน้าที่จะเริ่มทำมีดหมอเองนั้น ท่านก็นำมีดเล่มที่ได้รับจากหลวงพ่อเดิมมาแจกให้ศิษย์นำไปบูชา ผู้ที่ได้รับไปก็มักจะเป็นศิษย์หรือญาติของท่านเสียเป็นส่วนมาก

จากข้อมูลของครูเฒ่า สุพรรณ บันทึกไว้ว่า “...ก่อน พ.ศ.2500 หลวงพ่อทำมีดร่วมกับหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ใบมีดหลวงพ่อตีถวายให้หลวงพ่ออิ่ม มีนาคเกี้ยวบ้าง ไม่มีบ้าง (อักขระ 2 ด้าน) ถ้าเป็นรูปฤาษี, ท้าวเวสสุวรรณ, พระพิฆเนศฯ หลังจากหลวงพ่ออิ่มมรณภาพ ด้ามที่แกะรูปเทพไม่มี ช่างแกะเป็นด้ามธรรมดา รับอิทธิพลมาจากหลวงพ่อเฒ่า ภายหลังตีกันเองในวัด (ต้นโพธิ์เก่า ปัจจุบันคือศาลา) ปี 2500 ก็ยังรับมีดที่ศิษย์ตีมาจำหน่าย (ราคา 180 บาทต่อ 1 เล่ม ยังไม่ได้บรรจุ) หลัง พ.ศ. 2500 มีมีดด้ามไม้ฝักไม้มาส่งอยู่บ้าง โดยช่างเตือน (คนจีน), พ่อแก่อุ้ย, ลุงคลี่ (เขยพ่อแก่อุ้ย) ลุงรินทร์ (ช่างตีเฉยๆ ค้าข้าว) พ.ศ. 2500 เริ่มมีมีดช่างพยุหามาส่งให้...มีดหมอของหลวงพ่อนั้น หลวงพ่อจะบรรจุด้ามเอง เช่นบรรจุผง, ทรายเสก, แร่อุกาบาต, เหรียญสตางค์เล็ก, ข้าวเปลือกพิรอด, เกศา, พระธาตุ, ก้นบุหรี่, ชานหมาก, อักขระมีจารฯ ท่านจะบรรจุของวิเศษเหล่านี้ สุดแท้แต่จะสะดวกหรือหาได้ คาถาบรรจุต้องกลั้นใจตอกให้ได้ 3 ที่มิดด้ามเลย

เมื่อบรรจุแล้ว ถ้าจะจารที่ฝัก นิยมจารคาถามงกุฏพระเจ้าและพระเจ้า 16 พระองค์- จารยันต์ครู ด้ามจารกันภัย 8 ทิศ (คาถานี้จารบางเล่ม ถ้ามีเวลา), อาจจารกันภัย 8 ทิศเพิ่มฯ ปลุกเสกด้วยอาวุธ 5 และอื่นๆ มีดนี้ห้ามนำไปฆ่าคน, ฆ่าสัตว์เด็ดขาด ถ้านำไปฆ่าคน, ฆ่าสัตว์ มีดจะไม่อยู่ปืน (ถ้าเจตนาไม่ดี) หลวงพ่อจะนำมีดมาเสกในโอ่งน้ำมนต์ มีดหมดปากกาเสกในบาตร ใส่น้ำมนต์ลงไป เสกจนมีดลอยขึ้นมา จึงใช้ได้..” (ขอขอบคุณครูเฒ่า สุพรรณ...ผู้เขียน)

j999 จองบูชาแล้ว

 

ขอจองหนังสือตามรอยหลวงพ่อกวยไว้ 1 เล่มครับพี่หนุ่ม

 

ขอจองครับ

 

จะเปิดรับจองปลายเดือนนี้ครับ วันนี้ได้ไปปรึกษากับคุณกมล เพื่อสรุปข้อกำหนดของหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งจะมีมากกว่า200หน้า แต่ราคาหลักร้อยเท่านั้น แต่ทำเท่าจำนวนสั่งจอง การทำหนังสือครั้งนี้ไม่หวังกำไร เพียงเป็นอนุสรณ์จากศิษย์ถึงอาจารย์และฝากเป็นตำนานอีกหน้าหนึ่งเท่านั้น

 

ยืนยันการรับจอง มีดหมอหลวงพ่อกวย ด้ามไม้แกะเป็นองค์ท้าวเวสสุวรรณ ฝักไม้ ความยาวรวมด้าม 9 นิ้วไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

“ ห้องเรียนนี้...ไม่มียางลบ "

ในห้องเรียนห้องหนึ่ง คุณครูได้กำหนดข้อตกลงกับเด็กๆ ทุกคนที่เข้ามาเรียนว่า “ห้องเรียนของเราจะไม่มียางลบ เราจะไม่ใช้ยางลบกัน” เด็กๆทุกคนถามคำถามกลับมาทันที “แล้วถ้าเราทำผิด เราจะใช้อะไรลบคะ”

คุณครูตอบว่า “เราไม่ต้องลบ หนูแค่ขีดกากบาท หรือทิ้งไว้และไปเขียนในส่วนอื่นของกระดาษแทน” เด็กๆ ยังไม่หมดคำถาม “ทำไมคุณครูถึงไม่อยากให้เราใช้ยางลบ ครูคนอื่นให้เราใช้ได้เลย ครูไม่อยากให้งานของเราสวยๆเหรอคะ”

คุณครูตอบว่า “สำหรับครู งานสวยไม่ได้ดูแค่ร่องรอยที่เราวาด แต่ดูที่ความตั้งใจของเด็กๆ และครูอยากให้เราได้เรียนรู้... รู้จักระวัง คิดก่อนทำ คิดก่อนเขียนหรือวาด ข้อผิดพลาดของเรา เพื่อครั้งหน้าจะได้ไม่ทำพลาดแบบเดิม และให้ยอมรับในสิ่งที่ตนเองทำ" เด็กๆพยักหน้าอย่างเข้าใจและยอมรับในแนวทางที่คุณครูบอก

คาบเรียนนี้เป็นคาบเรียนแรกที่ห้องเรียนนี้ไม่มียางลบ ระหว่างที่เด็กๆวาดภาพอยู่นั้น เด็กหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาทันทีว่า “ครูคะ..หนูอยากได้ยางลบ หนูวาดผิดค่ะ” คุณครู “ไม่เป็นไร หนูวาดตรงอื่น หรือหนูจะขีดกากบาททิ้งก็ได้นะ” เด็กหญิง “ไม่เอา ภาพหนูไม่สวยพอดี งั้นหนูขอกระดาษแผ่นใหม่เลยได้ไหมคะ” ภาพของเธอนั้นมีทั้ง “บ้าน” “ภูเขา” “ทะเล”

แต่จุดที่เธอทำพลาดนั้นเล็กมากๆ มีเพียงแค่เส้นยึกยือที่เธอตั้งใจนะวาดเป็นคลื่น แต่วาดโผล่พ้นเส้นที่แบ่งระหว่างทะเลกับท้องฟ้าเท่านั้น ความผิดพลาดของเธอเล็กมากๆ “ความสวยงาม” คือสิ่งที่เด็กๆทุกคนให้ความสำคัญ แต่จุดเล็กๆที่ผิดพลาด..สามารถทำให้ทั้งภาพหมดความสวยงามได้เชียวหรือ?

คุณครูบอกว่า “ครูขอโทษนะ แต่ห้องเรียนนี้ไม่มียางลบและครูคิดว่า หนูวาดมาตั้งเยอะแล้ว น่าเสียดายที่หนูจะทิ้งภาพนี้ไป หนูลองวาดเส้นนั้นให้เป็นอย่างอื่นดูไหม (แม้ว่าจุดผิดพลาดที่เธอทำจะเล็กมาก แต่คุณครูก็ไม่ได้ต้องการบอกว่า จุดนั้นมันเล็กน้อยนะ เพราะสำหรับเธอมันคงยิ่งใหญ่มาก) เด็กหญิงคิดอยู่ชั่วครู่..ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หนูจะวาดเป็นเรือต่อจากเส้นนี้ได้ไหม” คุณครู “เป็นความคิดที่ดีนะ ลองวาดดูนะ” และอีกไม่นาน..เด็กหญิงก็วาดเส้นต่อเติมเส้นที่ผิดพลาดให้กลายเป็นเรืออย่างที่เธอบอกคุณครูไว้

ก่อนหมดชั่วโมงเรียน...เด็กหญิงเดินมาหาคุณครูแล้วพูดว่า “ต่อไปนี้หนูจะไม่ใช้ยางลบแล้ว ทั้งที่บ้านและโรงเรียน”

คุณครู “อะไรทำให้หนูเปลี่ยนใจ?”
เด็กหญิง “วันนี้หนูลองวาดแก้เส้นที่หนูวาดผิดไป กลายเป็นสวยกว่าเดิมอีก”

คุณครู “นั่นสินะ หนูทำให้สิ่งที่หนูทำพลาด กลายเป็นส่วนที่เติมเต็มภาพได้สวยงามมากๆ เลย”
เด็กหญิง “เติมเต็ม?”

คุณครู “ทำให้สมบูรณ์มากขึ้น”
เด็กหญิง “ครูรู้ไหม..หนูวาดอะไร?”

คุณครูตอบอย่างเถรตรง “ภูเขา บ้าน เมฆ ทะเล มีปลา ปู สายรุ้ง เรือ มีคนบนเรือด้วย”
เด็กหญิง “มีอีกไหมคะ”
คุณครู “น้ำ? ท้องฟ้า?”

เด็กหญิง “ความสุขค่ะ หนูวาดทุกอย่างยิ้ม”
ครูฟังคำตอบแล้วถึงกับยิ้มตาม วันนี้เด็กหญิงได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญในชีวิต

“ชีวิตจริง..เราไม่มียางลบ ถ้าเราทำผิดพลาด ทางออกมีแค่....เราจะเผชิญปัญหา และพยายามแก้มันอย่างเต็มที่ เมื่อเราทำเต็มที่แล้ว เราควรยอมรับ แล้วก้าวข้ามผ่านมันไป สุดท้าย...สิ่งที่เราควรมีในชีวิต คือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข..บนความไม่สมบูรณ์แบบนั่นเอง"

แค่เพียงห้องเรียนไม่มียางลบ หรืออุปกรณ์ลบคำผิด เด็กๆก็ได้เรียนรู้หลายอย่าง

(1) "คิดก่อนลงมือทำ"
ถ้าเรามียางลบ เราจะเขียนและวาดอย่างไม่ระมัดระวัง ถ้าเราไม่มีมัน..เราจะตั้งใจ..คิดก่อนทำ และพยายามระวังในการเขียนและวาดในแต่ละครั้งมากขึ้น

(2) “แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า” และ “ฝึกความยืดหยุ่น"
ถ้าเรามียางลบ เราจะไม่มีโอกาสฝึกแก้ปัญหา เพราะเราจะลบมันทิ้ง แทนที่จะคิดว่าเราจะวาดหรือเขียนปรับแก้เป็นอย่างไรแทน

(3) “เรียนรู้ข้อผิดพลาด และไม่ทำมันผิดซ้ำ"
ถ้าเรามียางลบ เราจะลบข้อผิดพลาดของเราไป แล้วเราไม่ได้กลับมาทบทวนข้อผิดพลาดของเราในอนาคต เช่นถ้าเราเขียนผิด แล้วเราลบมัน เมื่อมองกลับมา เราจะไม่รู้ว่าเรามักผิดพลาดที่คำไหน หรือวาดตรงไหน แต่ถ้าเราทิ้งร่องรอยเอาไว้ เราจะได้กลับมาทบทวนมันในอนาคต

(4) “ยอมรับในข้อผิดพลาด และก้าวต่อไป"
เพื่อให้เรายอมรับข้อผิดพลาดของตนเอง จุดเล็กที่ทำผิดพลาดบนกระดาษ เราต้องเรียนรู้ข้อผิดพลาด แล้วมองภาพรวม..มากกว่าจะจับจ้องแค่ข้อผิดพลาดนั้น

(5) “ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็นและปัจจุบันที่เราอยู่"
ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ อ่านแล้วก็เก็บไปเรียนรู้และคิดให้ได้เช่นกัน....ขอให้โชคดีทุกคน

Cr line gr. โรงเรียนร่วมพัฒนา

 

ลองชมพระแหวกม่านพิมพ์ต้อ ที่เสี่ยตี๋เคยได้รับมาครับ ถ่ายเองจากมือถือในบ้านเสี่ยตี๋ ความคมชัดมีไม่มากนัก แต่ดูแล้วได้แง่มุมในการเลือกหาพระมาใช้บูชาแน่นอน

 

ลองชมพระสมเด็จหลังรูปพิมพ์ใหญ่ของหลวงพ่อกวย แบบที่เสี่ยตี๋เคยได้มาในยุคก่อน เนื้อหาจะมีหลายสี แต่พิมพ์แบบไหน ตำหนิเป็นอย่างไรก็ลองพิจารณาดูครับ

 

ลงโชว์..พระปรกโพธิ์เนื้องาแกะที่เก่าและเนื้อฉ่ำ หลวงพ่อกวยแกะเองในช่วงก่อนปี2505 รอยจารกำกับก็เป็นของท่านในยุคสมัยแรกๆ ที่จะแตกต่างกับรอยจารแบบมาตรฐานช่วงปี15-18 ที่เรามักคุ้นเคยกัน พระปรกโพธิ์องค์นี้ท่านมอบให้เสี่ยตี๋เมื่อปี16 หลังจากยกพานไหว้ครูแล้ว ลายมือแบบนี้อยู่ด้านหลังเหรียญรุ่นแรกเนื้อลองพิมพ์เช่นกัน ดูเป็นแนวทางได้อย่างดี ถ่ายจากมือถือจึงไม่คมชัดมากพอ

 

พระแหวกม่านอกใหญ่ของหลวงพ่อกวย องค์นี้เป็นพระของเสี่ยตี๋ครับ เป็นเนื้อดิน พิจารณาดูดีๆจะได้มุมมองด้วยตนเอง

 

ได้ครับพี่หนุ่ม รอติดตามครับผม