ข้าวมันไก่ไหหลำ "เชียงของ" ร้านแรกชายแดนไทย-ลาว"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ข้าวมันไก่ไหหลำ "เชียงของ" ร้านแรกชายแดนไทย-ลาว"
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


แนวตะเข็บชายแดนไทย-ลาว บริเวณ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ตรงข้ามกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นอกจากจะมีแม่น้ำโขงเป็นมนต์เสน่ห์แล้ว เมื่อผสานกับอาหารรสชาติอร่อยอย่าง "ข้าวมันไก่"
สูตรดั้งเดิมของชาวจีนไหหลำ ที่มาปักหลักในพื้นที่แห่งนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศหัวเมืองชายแดนได้อรรถรสสำหรับผู้มาเยี่ยนเยือนมากขึ้น
บนถนนสายกลาง ต.เวียง อ.เชียงของ เป็นที่ตั้งร้านข้าวมันไก่ สูตรไหหลำ ที่เปิดบริการมานานถึง 45 ปี ยุคก่อนคนละแวกนั้นจะรู้จักกันดีในนาม "ข้าวมันไก่โกเผ่ง" มี "เผ่ง เหลี่ยมพันธุ์" บุกเบิกเป็นเจ้าแรกของอำเภอนี้ ที่ไม่เพียงคนในพื้นที่จะเป็นขาประจำ คนต่างถิ่นที่ได้รับการบอกเล่าปากต่อปากต่างแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย
<CENTER></CENTER>


แต่กว่ากิจการของ "เผ่ง" จะเติบโตและมั่นคงจนถึงทุกวันนี้ได้ เขาต้องใช้ความขยันอดทน และมักพูดกับคนรอบข้างว่า "การเปิดร้านข้าวมันไก่ ขายก๋วยเตี๋ยว ต้นทุนไม่สูง หากมีใจรักแล้วทุกอย่างมันเดินหน้าด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ" จึงไม่แปลกใจว่า เงินลงทุนหลักร้อยบาทสามารถต่อยอดให้เขาและครอบครัวสร้างรายได้เป็นหลักหมื่นบาทต่อเดือน และกลายเป็นกิจการที่ตกทอดสู่รุ่นลูกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

ปัจจุบันด้วยวัย 75 ปีของ "เผ่ง" ได้วางมือด้วยการถ่ายโอนกิจการให้ลูกชายคนโต "สิงหา เหลี่ยมพันธุ์" บริหารจัดการ แต่ความเคยชินบวกกับร่างกายที่ยังแข็งแรง ทุกวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่เขายังเป็นกำลังหลักในการปรุงรสชาติด้วย ที่เน้นทุกอย่างต้องสด ไก่ต้องใช้ไก่ที่เชือดตอนเช้าตรู่ เครื่องเคียงทำน้ำจิ้มก็ต้องซื้อตอนเช้า เพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อม ทำให้กลายเป็นร้านข้าวมันไก่ที่มีเอกลักษณ์ ใครได้ชิมต่างติดอกติดใจ
"แรกเริ่มร้านขายข้าวมันไก่อย่างเดียว แต่ด้วยความที่ไม่หยุดนิ่งของพ่อ หลังปีที่ 10 ของการเปิดร้าน ได้คิดค้นสูตรผลิตบะหมี่โดยใช้ของสดทำ และทำเองตั้งแต่การนวด ปรุง กระทั่งออกมาเป็นบะหมี่พร้อมบริโภคโดยไม่พึ่งสารกันบูด ซึ่งตอนนั้นพ่อบอกว่าต้องมีทางเลือกให้แก่ลูกค้าบ้าง" สิงหาเล่า
ที่สำคัญสูตรการปรุงแต่งอาหารก็เป็นอีกเคล็ดลับในการมัดใจลูกค้า ดูจากแต่ละวันหลังปิดร้านตอนบ่าย 4 โมงเย็น จะต้องเตรียมทำบะหมี่ให้พอขายในแต่ละวันเท่านั้นไม่มีทำเผื่อ เพราะทุกอย่างใช้ของสด บะหมี่ของร้านจึงนุ่ม เช่นเดียวกับไก่จะเลือกอย่างพิถีพิถัน อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือการทำข้าวมันไก่ที่ต้องใช้มันล้วนๆ มาผัดคลุกกับกระเทียม และใช้น้ำต้มไก่มาหุงให้ขึ้นหม้อ

สิงหาบอกว่า จริงๆ แล้วผมไม่ได้ช่วยงานพ่อตั้งแต่แรก กระทั่งเรียนจบจากวิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาวิทยาเขตเกษตรลำปาง และทำงานด้านส่งเสริมเกษตรเพียง 2 ปี วันหนึ่งพ่อบอกว่าให้กลับมาช่วย เพราะแก่ตัวลงแล้ว ตอนนั้นคำตอบมันอยู่ในใจอยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าความใส่ใจตั้งแต่เด็ก ทำให้ขบวนการทุกอย่างมันอยู่ในหัวสมองทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับมาช่วยงาน
หลังเข้ามารับช่วงต่อ สิงหาบอกว่าทุกอย่างยึดหลักการตามพ่อ โดยเฉพาะการลงทุน แม้ว่าร้านข้าวมันไก่จะใช้เงินไม่สูง แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ดี ดูได้จากหากเป็นวันธรรมดาจะต้องใช้ไก่ 20-25 กิโลกรัม แต่หากเป็นวันหยุดจะต้องใช้ไก่วันละ 40 กิโลกรัม ทุกวันนี้อาศัยว่าเราเปิดร้านขายมานาน การบริหารจัดการต้นทุน และเวลาทำได้โดยไม่มีปัญหา แม้จะไม่ใช่กิจการใหญ่โต แต่ก็เป็นการทำมาหากินด้วยมือ และมันสมองในการรักษาลูกค้าทุกระดับที่เข้ามาชิมรสชาติ และเมื่อถนนอาร์ 3 เอ เชื่อมไทย-ลาว-จีนเปิดใช้งานแล้ว ในฐานะเป็นหน้าตาของหัวเมืองชายแดนยิ่งทำให้ร้านต้องรองรับลูกค้ามากหน้าหลายตามากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ละทิ้งไม่ได้ นั่นคือมาตรฐานของอาหาร และราคายุติธรรมนั่นเอง

แหล่งที่มา http://www.komchadluek.net/2008/04/30/x_agi_b001_200336.php?news_id=200336
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณค่ะ ไปเชียงของอย่าลืมทานปลาด้วยนะคะ เพราะปลาแม่น้ำโขงจะอร่อยทีเดียวค่ะ

 

ต้องให้คนแนะนำ ทานปลาพาไปครับ...จะได้รู้ว่าร้านไหนอร่อย ที่พักตรงไหนดี

 

เห็นแล้วหิวอีกแล้ว เดี๋ยวนี้ทานอะไรก็อร่อยไปหมดเห็น อะไรก็อยากทาน

คงต้องอ้วนเป็น

 

อ้วนก็หุ่นอาเสี่ยไงคะคุณอดุลย์ หุหุหุ