ร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐม รับ หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ไปบูชา

เปิดดูไฟล์ 6069417


กราบในองค์คุณหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร พระมหากัสสปะเถระเจ้า หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงตาดำ หลวงปู่ในดง (ท่านคือองค์เดียวกัน) คณะของหลวงปู่เทพโลกอุดรก็มีหลายองค์ครับ ผมได้กราบเรียนท่านอาจารย์ขอให้ กราบขออนุญาตหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร เพื่อจัดทำเหรียญหล่อเพื่อเป็นที่ระลึกในงานหล่อสมเด็จองค์ปฐม วาระที่ 2 ตอนแรกตั้งใจทำเองเนื้อเดียว ค่าใจจ่ายไม่สูงมาก แต่มาคิดอีกทีไหนๆก็ทำแล้ว เผื่อมีผู้ศัทธาอยากได้เนื้อพิเศษ เช่นเนื้อเงินที่มีต้นทุนสูง บางท่านมีกำลังทรัพย์พอที่จะบูชาได้ก็ไม่อยากให้พลาดโอกาสอันดี ให้ท่านพิจารณากันครับ รายได้จากการทำบุญเมื่อหักค่าสร้างแล้วสมทบทุนเป็นค่าหล่อพระทั้งหมด ซึ่งมีความจำเป็นต้องหาเงินจ่ายครั้งนี้อีกปรมาณ 5 แสน จึงแจ้งมายังสมาชิก และขอให้ช่วยกัน อย่างน้อยเป็นกรรมการท่านละชุดก็ยังดีนะครับ เห็นแล้วอย่าละเลยเสีย

 

ชนวนมาลสารที่จะพลี ผสมในเหนือชนวน เหรียญนี้ที่มีราคาแพงขึ้นเรื่อย

 

ชนวนกำไลเหล็กไหลเงินยวง วัดคลองท่อม กระบี่ มีอานุภาพสูงในตัวครับ

 

ขอร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมฯ ชุดกรรมการ 1 กองบุญครับ

 

ร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐม ชุดกรรมการ 2กองบุญครับ

 

ร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมฯอีก 2 กองบุญครับ (เดิมมี 1 กองบุญ) รวมเป็น 3 กองบุญ

 

จองได้จองไว้นะครับ ตั้งจิตสร้างเหรียญท่านและหล่อสมเด็จองค์ปฐม อนิสงค์สูงมาก หากไม่ทำอนันตกรรมแล้ว อบายภูมิไม่เป็นที่ไปได้เลย

 

ขอร่วม 1 กองบุญค่ะ

 

ยันต์พลังพุทธคุณสูง เป็นยันต์ครูใหญ่แห่งยันต์ทั้งปวง มีคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ที่สำคัญยังช่วยหนุนนำดวงชะตามิให้ตกต่ำ มีพลัง พลิกฟื้น คืนชะตาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ยกย่องให้เป็นยอดแห่งพระยันต์ คุ้มฟ้าคุ้มดิน พระยันต์ตรีนิสิงเห ประกอบขึ้นด้วย กลบทตัวเลข ที่นำมาประกอบเป็นยันต์ ตัวยันต์ประกอบด้วยตัวเลข ๓ ๗ ๕. ๔ ๖ ๕. ๑ ๙ ๕. ๒ ๘ ๕. เลขทั้งหมดเขียนอยู่ในตารางยันต์ โดยเลขทุกตัวมีความหมายแทนพระพุทธเจ้า พรหม เทวดา ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

 

ปิดจองชุดประธาน วันพุธ 23 พย นี้ครับ จะแจ้งยอดโรงงานแล้ว

 

ขอร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐม ชุดกรรมการ 2 กองบุญครับ

 

จองประธาน 2
กรรมการ 3

 

สนใจจอง
ประธานกรรมการ 1

 

จองประธาน 1 กรรมการ 3 ครับ

 

คุณโยมผู้นี้เป็นลูกศิษย์ใครหนอ ?
หลวงพ่อ :
" ที่อาตมาเรียกโยมเมื่อครู่นี้เพราะอยากถาม ตอนที่เห็นโยมเดินผ่านไปเห็นมีแสงสว่างจ้าครอบคลุมอยู่รอบตัวโยม แสงสว่างจ้ามากเช่นนี้อาตมายังไม่เคยเห็นมาก่อน แสดงว่าโยมต้องมีของดีอยู่กับตัว และอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ของที่วิเศษได้เช่นนี้ ท่านต้องเป็นผู้มีพลังจิตสูง มีอำนาจฌาณฤทธิ์รุนแรงมาก เป็นพลังที่เหนือกว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่อาตมาเคยสัมผัส ทั้งยังเห็นมีวิญญาณซึ่งเป็นบริวาร เป็นชายผมหยิกรูปร่างสูงใหญ่ ผิวกายดำทะมึนหน้าตาดุดัน อาตมานึกฉงนใจ เพราะไม่เคยสัมผัสพลังอาจารย์ใดอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน อดสงสัยไม่ได้ว่า ' คุณโยมผู้นี้เป็นศิษย์ใครหนอ ? ' จึงร้องเรียก ให้โยมหยุดรอ เพราะอยากถามด้วยความสงสัย"
ผมตอบ :
" ผมเป็นลูกศิษย์ ' หลวงปู่อิเกสาโร ' ท่านเป็นพระอริยสงฆ์จากโลกวิญญาณ ซึ่งมาผ่านร่างประทับทรงของท่านผู้หนึ่งที่ผมรู้จักครับ ส่วนท่านที่รูปร่างสูงใหญ่ที่หลวงพ่อเห็นนั้น ผมคิดว่าคงจะเป็น ' พี่เปรตกาดำ ' คือวิญญาณที่หลวงปู่ท่านสั่งให้มาคุ้มครองผมครับ "
หลวงพ่อลำไย นิ่งฟังคำตอบ แล้วพยักหน้าแสดงอาการตอบรับ ท่านยอมรับว่า เพิ่งเคยพบเจอครูบาอาจารย์ที่ถึงพร้อมด้วยความอัศจรรย์ และมีพลังจิตรุนแรงโลดโผนอย่างที่สุด !! เช่นนี้เป็นครั้งแรก เมื่อเพื่อนของผมได้ฟังก็เกิดความสนใจ หันมาสอบถามเรื่องของหลวงปู่จากผมว่า " หลวงปู่ที่ว่านี้ท่านอยู่วัดไหน ? " ผมยิ้มแล้วตอบแบบตัดบทว่า " ท่านเป็นพระธุดงค์ เป็นพระสงฆ์ที่ญาติผมพาไปพบ ตอนนี้ท่านมรณภาพไปแล้ว " แล้วผมก็หันไปสนทนากับหลวงพ่อลำไย นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบ ได้รู้ว่าศิษย์ของหลวงปู่ดู่ รูปนี้มีพลังจิตสูง นับแต่นั้นเป็นต้นมา หากวันใดมีเวลาว่าง ผมจะขับรถไปกราบ และนั่งสนทนา กับ หลวงพ่อลำไย เป็นประจำ
cr.หนังสือ หลวงปู่ เดินหน อิเกสาโร ผู้เปิดโลกหลังความตาย เล่ม๒ หน้า ๓๘๕ โดย ฅนขลัง คลังวิชา

 

หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร
ที่มาของภาพสังขารและรูปหล่อเหมือน §
หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ผู้อยู่เหนือกาลเวลา
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
มีผู้ส่งคำถามมาว่าไปเห็นตามเพจต่าง ๆ เขียนเรื่อง หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ไปต่าง ๆ นานา บางเพจเล่าเหมือนจะรู้บอกเรื่องภาพสังขารหลวงปู่ว่าไปถ่ายที่ถ้ำแก่งละว้า บอกเลยว่ามั่ว !! ครับ บอกเป็นเรื่องเป็นราวว่ามีทหารไปพบ ถามจริงเอาเหตุเอาผลนะ หากทหารไปพบร่างหลวงปู่ในถ้ำ แล้วใครถ่ายภาพสังขารท่านภาพนี้มา แล้วเขารู้จักชื่อท่านได้อย่างไร ? ใครเป็นผู้บอกชื่อท่าน ซึ่งปีพ.ศ. ๒๔๙๐กว่า ๆ นั้นกล้องถ่ายภาพยังเป็นของหายากราคาแพงมาก ไม่ใช่กล้องขนาดเล็กอย่างเช่นทุกวันนี้ ทหารแบกกล้องไปลาดตระเวนจนหลงป่าด้วยเหรอครับ ? แล้วใครถ่ายภาพนี้มา ? ที่บอกว่าร่างสังขารนี้อยู่ถ้ำแก่งละว้า แล้วปัจจุบันถ้ำนี้ยังอยู่ แต่สังขารท่านไม่มีในถ้ำนี้แล้ว ไม่ทราบว่าใครยกไปไหน ใครอุ้มร่างท่านหายไป
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ในอดีตตอนที่อาจารย์สมภพ วัดสาลีโข ตลอดจนคราวที่คณะของอาจารย์ทวี ทิวแก้ว อาศรมชีปะขาว ไปที่ถ้ำแก่งละว้าแห่งนี้ทำไมไม่มีใครพบร่างสังขารที่ว่า ? ผมตอบเลยว่าก็เพราะไม่เคยมีสังขารที่ว่าในถ้ำแก่งละว้าแห่งนี้ ส่วนที่อ้างชาวบ้านชื่อนั้นชื่อนี้ก็ว่ากันไป แล้วชาวบ้านที่อ้างสืบได้นี่ว่าเป็นฅนที่ไหนมีตัวตนจริงไหม ตายไปหรืออยู่และสืบได้นี่ไม่ยาก แต่บอกเลยถ้ำนี้ไม่เกี่ยวกับหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร เลยแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องหลวงปู่เชย อิเกสาโร ที่ว่าอยู่ในถ้ำแห่งนี้เช่นกันนั้น บอกเลยมั่วแบบไม่ลงทุน ไปเอาข้อมูลของชาวบ้านเขามาเติมเรื่องนิดหน่อยใสสีตีไข่ชงกินกันไป นิทานหลอกเด็กทั้งสิ้นฅนเมืองกาญ เขาอ่านแล้วขำหากใครเชื่อต้องกินปลาเยอะ ๆ เพิ่มรอยหยักสมองบ้าง
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ส่วนที่กล่าวว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพของพระมหากัสสปะนั้น เดิมทีเกิดจากมีผู้นำภาพนี้ไปถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านจึงถามเบื้องบนทราบว่าเป็นพระมหากัสสปะ และหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ อยุธยา ท่านก็ยืนยันว่าภาพนี้เป็นพระมหากัสสปะอาจารย์ที่สอนวิชาให้ท่านในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งผมไม่เถียงในมูลเหตุทั้งสองสำนักนี้ เพราะหลวงปู่ท่านเกี่ยวข้องโดยตรงกับพระเถระเจ้าที่กล่าวจริง เป็นเหตุที่ท่านตอบตามนั้นว่าไปก็ไม่ผิด แต่ผมยังไม่ขอตอบในเวลานี้ เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องลึกซึ้งต้องให้ผู้ฅนศึกษาไประยะหนึ่งก่อน ผมขอไปเขียนรายละเอียดในหนังสือประวัติท่านทีเดียว ว่าจริง ๆ แล้วท่านทั้งสองเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร
--
บอกตามตรงว่าสังขารพระมหากัสสปะจริง ๆ อยู่ที่ประเทศจีน อยู่ใต้เขาสามลูกที่โอบเข้ามารักษาร่างท่านไว้ มีเทวดาคอยดูแลรักษาร่างท่านไว้อยู่ ส่วนภาพที่เห็นนี้เป็นภาพหลวงปู่เดินหน เพราะมีการไปถ่ายมาจริงที่พม่าไม่ใช่ที่จีน ส่วนหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ ท่านอาจารย์สุวัฒน์เคยเดินทางไปพบท่าน และได้สนทนากันพอควร ผมยืนยันว่าหลวงพ่อเจริญรูปนี้ของจริงเก่งจริง และเกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์ในสายนี้จริงไม่ต้องสงสัย ในวาระหน้าผมจะนำเรื่องหลวงพ่อเจริญมาลงให้ทราบว่าท่านพบเจอครูบาอาจารย์ท่านอย่างไร บอกเลยว่าอัศจรรย์คล้ายหนังกำลังภายในเลยทีเดียว
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ผมเคยเขียนไปแล้วว่าภาพถ่ายที่เห็นนี้ เป็นการนำคณะไปถ่ายโดย อาจารย์สุวัฒน์ มีท่าน พล.ท.เจียม ญาโนทัย อดีตรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการเดินทางต่าง ๆ มี พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร นายตำรวจยอดมือปราบและท่าน พ.ต.อ. ชวน ธีระวัฒน์ ฯลฯ การเดินทางนี้ไปโดยเฮลิค๊อปเตอร์ แล้วลงนั่งช้างเดินทางต่อไปอีกราวเจ็ดวัน จึงเข้าไปถึงถ้ำที่เก็บร่างสังขารหลวงปู่เดินหน อยู่ที่ชายแดนประเทศพม่า
--
เมื่อเข้าถึงถ้ำแล้วอาจารย์สุวัฒน์ได้พูดคุยกับชาวบ้าน แล้วจึงทำการอัญเชิญหลวงปู่เดินหนมาประทับทรง เพราะชาวบ้านไม่ยอมให้คณะเดินทางเข้าไปที่ถ้ำ เมื่อหลวงปู่มาประทับทรงบอกให้เขาเข้าใจแล้ว ชาวบ้านจึงอนุญาตให้เพื่อผู้ที่จะทำการถ่ายภาพเข้าไปในถ้ำ การเดินทางไปครั้งนี้ได้ว่าจ้างช่างถ่ายภาพชาวญี่ปุ่น ให้มาถ่ายภาพหลวงปู่โดยขนอุปกรณ์มาถ่ายที่ถ้ำ เมื่อถ่ายแสงไม่พอจึงทำการยกร่างท่านเพื่อมาถ่ายภาพนอกถ้ำ
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ซึ่งในช่วงที่อุ้มยกร่างสังขารท่านออกมาจากถ้ำ เพราะสภาพของปากถ้ำที่แคบและพื้นที่เป็นปุ่มหินบางช่วง ทำให้ขณะที่ยกร่างท่านศิษย์ลื่นเสียงหลัก ร่างท่านในส่วนของศีรษะช่วงระหว่างคิ้ว เหนือตาขวาท่านไปกระทบกับแง่หิน หน้าผากท่านเลยยุบลงไปนิดหนึ่ง (สังเกตให้ดีในภาพถ่ายจะเห็น) ซึ่งหลวงปู่ท่านว่าเป็นเหตุสุดวิสัยท่านไม่ว่ากล่าวศิษย์อย่างไร เมื่อถ่ายนำร่างออกมาหน้าถ้ำแล้วขึงผ้าขาวไว้ด้านหลัง ทำการถ่ายภาพท่านเก็บไว้ เมื่อถ่ายภาพแล้วทางคณะจะนำสังขารท่านกลับออกมาด้วย
--
แต่ชาวบ้านในที่แห่งนั้นไม่ยอม ทั้งแสดงความอาลัยอาวรณ์ร้องไห้ขัดขวางต่าง ๆ แม้นหลวงปู่ในร่างประทับจะบกแก่เขา ๆ ก็ไม่ยอมทั้งกราบกรานขอท่าน แล้วตัดพ้อว่าพวกเขาดูแรกร่างท่านด้วยความเคารพสืบกันมา และจะบูชาไปตลอดด้วยความเคารพอย่างที่สุด เช่นนี้หลวงปู่ท่านก็จนใจและเมตตาสงสารพวกเขามาก เพราะหากนำสังขารท่านออกมาเขาก็หมดที่พึ่ง ถึงขนาดบางฅนจะยอมตายแลกชีวิตเพื่อปกป้องร่างท่าน (ผมกล้ากล่าวชื่อท่านผู้มีชื่อในข้างต้น ซึ่งล้วนเป็นผู้มีหน้ามีตาเป็นที่รู้จักในสังคม ลูกหลานท่านมีอยู่ หากเรื่องไม่จริงท่านไม่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่เดินหนจริง ผมพร้อมไปห้องกรงครับ เรื่องจริงไม่ต้องลับ ๆ ล่อ ๆ เป็นพวกแอบจิต)
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
เมื่อเป็นเช่นนี้หลวงปู่ท่านยอมให้เขารักษาดูแลสังขารท่านต่อไป ซึ่งชาวบ้านเขาบูชาท่านโดยการถวายข้าวน้ำอยู่ทุกวัน และปีหนึ่งในวันสงกรานต์จะมีการเชิญหลวงปู่มาประทับทรงปีละ ๑ ครั้ง ในวันสงกรานต์นี้ ใครมีอะไรจะถามจะบอกหรือให้ท่านเสกอะไรเขาจะรวมกันมาทีเดียวในวันนี้ โดยร่างทรงชาวพม่าชื่อหม่องสุวิทย์ ทราบว่าในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ (โดยประมาณ) หม่องสุวิทย์ผู้นี้มีอายุราว ๘๐ ปีเศษ หากอยู่ถึงทุกวันนี้คงอายุนับ ๑๐๐ ปี ซึ่งเมื่อไม่อาจนำร่างออกมาได้ ภายหลังจึงมีการหล่อรูปหลวงปู่ขึ้นมาเพื่อให้ศิษย์เคารพบูชา ครั้งแรกหล่อรูปขึ้นมามีขนาดหน้าตัก ๑๖ นิ้ว ต่อมาจึงมีการหล่อรูปขึ้นมาเป็นขนาดเท่าจริงเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๐๔-๒๕๐๕ โดยหล่อขึ้นมา ๓ องค์ นำไปไว้ให้ศิษย์กราบไหว้บูชา
--
๑.วัดตาเจี่ย จังหวัดสมุทรปราการ
๒.วัดไก่เตี้ย จังหวัดปทุมธานี
๓.โรงงานผลิตน้ำปลาแห่งหนึ่ง
๔.ในการนี้มีรูปหล่อพิเศษอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นขนาด หน้าตัก ๑๒ นิ้ว (มีจำนวนน้อยมาก)
--
ช่างผู้ปั้นรูปหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ในวาระดังนี้ คือ คุณโชติ สโมสร ซึ่งท่านผู้นี้ยังเป็นผู้ปั้นรูปเหมือนของหลวงปู่คง วัดตาล (อาจารย์ขุนแผน) ให้สำนักอาจารย์ชุม ไชยคีรี และยังปั้นรูปเหมือนของบรมครูชีวกโกมารภัต ถวายหลวงพ่อบ่าวเอิง วัดญวนสะพานขาว ข้าพเจ้านึกติดเองด้วยความรู้สึกส่วนตัวว่า ท่านผู้นี้เป็นผู้ที่เบื้องบนกำหนดมาเป็นแน่
--
เพราะเป็นผู้ปั้นรูปครูบาอาจารย์สำคัญถึงสามท่าน ถึงจุดนี้หลายท่านอาจสงสัยว่าท่านผู้นี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ? เหตุใดจึงมาปั้นรูปหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ซึ่งกล่าวไปก็ยาวพอควร ผมขอรวบรวมไปเสนอในหนังสือประวัติหลวงปู่ในภายหน้า ขออธิบายสั้น ๆ ว่าหลวงพ่อบ๋าวเอิง วัดญวนสะพานขาว เป็นศิษย์ได้เรียนวิชาเรียกวิญญาณไปจากหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ข้าพเจ้าขอยืนยันในข้อมูลทั้งจากที่ผมสอบถามหลวงปู่เดินหน ท่านเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อบ๋าวเอิงเป็นศิษย์ที่ท่านชมมากว่า มีบารมีสูงเรียนวิชาได้รวดเร็วมีพรสวรรค์ในด้านจิตวิญญาณเป็นเอก หาผู้ใดเทียบเทียมได้ยากนักในแผ่นดิน ทั้งข้อมูลจากคำบอกเล่าของคุณประยูร วงศ์ผดุง ร่างทรงของท่านท้าวมหาพรหมศิษย์เอกหลวงพ่อบ๋าวเอิง ผู้เป็นร่างทรงหนึ่งเดียวของพระพรหมเอราวัณ ข้าพเจ้าพบท่านหลายครั้งที่ท่านมากราบหลวงปู่ ท่านบอกข้อมูลกับข้าพเจ้าเมื่อครั้งไปพบท่านที่บ้านพักย่านลาดพร้าว
--
ท่านยืนยันหนักแน่นว่าหลวงพ่อบ๋าวเอิง และหลวงสุวิชาญแพทย์ กับอาจารย์อินทร์ (นายตำรวจน้ำ) ทั้งสามท่านที่กล่าวนี้ล้วนเป็นศิษย์และเคารพหลวงปู่เดินหนทั้งสิ้น ปัจจุบันคุณประยูรถึงแก่กรรมไปแล้วปี พ.ศ. ๒๕๔๐กว่า ๆ อายุท่านร่วม ๑๐๐ ปี
--
ในอดีตในการปั้นรูปบรมครูชีวกโกมารภัตนั้น หลวงพ่อบ๋าวเอิงได้ให้ คุณโชติ สโมสร ปั้นรูปบรมครูชีวกโกมารภัต โดยทำให้ภาพท่านชีวกมาปรากฏบนเล็บหัวแม่มือ แล้วจึงปั้นรูปตามเค้าหน้าที่เห็นจากเล็บนั้น แล้วจึงค่อย ๆ ปรับแต่งไปจนได้ตามที่หมอชีวกที่มาประทับทรงในร่าง ร.ต.อ.ทวี จำรูญจันทร์ บอกให้ปรับโครงหน้าและท่านั่งจนเป็นที่พอใจ นับเป็นรูปจำลองหรือเป็นการสร้างรูปภาพของบรมครูชีวกโกมารภัตเป็นครั้งแรกของโลกก็ว่าได้
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
เมื่อหลวงพ่อบ๋าวเอิงทราบเรื่องว่าหลวงปู่จะให้ปั้นรูปจำลององค์ท่าน จึงอาสาติดต่อให้คุณโชติ สโมสร มาปั้นรูปหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร เรื่องราวความเชื่อมโยงยังมีอีกหลายด้านหลายเรื่อง อย่างเรื่องปู่คง วัดตาล อาจารย์ขุนแผนท่านก็เชื่อมโยงกับหลวงปู่เดินหน โดยตรงเช่นกัน จึงทำให้หลวงพ่อบ๋าวเอิง กับอาจารย์ชุม ไชยคีรี มาร่วมปลุกเสกและสร้างวัตถุมงคล อันถือเป็นการสร้างบารมีร่วมกันทั้งในด้านครูและศิษย์ แต่ยังไม่นำมากล่าวในที่นี้เพราะจะยืดยาวมากเกินไป ขอกล่าวสั้น ๆ เพียงว่าเกี่ยวเนื่องกันจึงมีการมาพบกัน สร้างและปลุกเสกของร่วมกันด้วยบัญชาสวรรค์และครูบาอาจารย์
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
นอกจากปั้นรูปหล่อดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น ต่อมาหลวงปู่รับสั่งให้ปั้นรูปหล่อขนาดเท่าจริง เพื่อนำมาไว้ให้ศิษย์ได้กราบไหว้บูชาที่สำนักย่านประชาชื่น โดยรูปหล่อนี้ทำพิธีหล่อกันภายในอาศรมเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕ สร้างพร้อมรูปหล่อขนาดเล็ก (แขวนคอ) ส่วนรูปหล่อบูชาหน้าตัก ๕ นิ้วนั้นสร้างราวปี พ.ศ. ๒๕๒๐เศษ ไม่ทราบจำนวนการสร้างแน่นอน โดยให้มีการจองและจับสลากเอาจากเลขที่ฐาน โดยไม่ให้เลือกเลขใครจับเลยอะไรได้ก็ทำการบันทึกไว้
--
เมื่อหลวงปู่ปลุกเสกจนพอใจแล้วจะเรียกเจ้าของที่จองไว้มารับไปบูชา รูปหล่อบูชาขนาดบูชา ๕ นิ้วนี้ โดยมากตกอยู่กับศิษย์ใกล้ชิดกับผู้จองเท่านั้น ที่ฐานจะมีจารึกชื่อหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร และเลขประจำองค์ชัดเจนไล่เรียงลำดับไป ซึ่งเรื่องราวของหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร เกิดมาก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ มีมายาวนานจวบจนทุกวันนี้ก็ราว ๖๐ กว่าปี เชื่อว่าเวลานั้นนักบวชเจ้าลัทธิที่ออกมาบอกว่ารู้จักแอบอ้างบิดเบือนว่า หลวงปู่เชย อิเกสาโร เป็นพระในภาพสังขารนี้นั้น ยังไม่รู้ไปวิ่งเล่นอยู่ตรงไหนในตอนนั้น กล้าแอบอ้างครูบาอาจารย์นึกว่าท่านเป็นเพื่อเล่น
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ผมเองอยู่และรู้ในสายพระเหนือโลกนี้ ผมไม่สนใครจะอายุเท่าไร ? เพราะอายุไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันความรู้ ฅนเราจะฉลาดรอบรู้ใช่มาจากอายุสมองหรือสังขาร หากมาจากประสบการณ์การศึกษาและเรียนรู้จากครูบาอาจารย์ที่เป็นของจริง ผมเรียนรู้จากหลวงปู่เดินหนมาโดยตรงทุกเรื่อง ศิษย์หลวงปู่รู้จักผมดีทุกฅน และผมพร้อมเสมอหากใครอ้างเรื่องราวส่งเดช ที่ไปขู่และดูถูกผมในเพจต่าง ๆ นั้นผมไม่ให้ราคาเลย หากใครอยากรู้หน้าผมก็ลงทุนหน่อยกล้าเสียเงินซักนิด ไปซื้อหนังสือที่ผมเขียนทั้งหลวงพ่อชาญณรงค์ และหนังสือหลวงพ่อกวย ในนั้นมีภาพพร้อมชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ชัดเจน ไปเอาที่อยู่เบอร์โทรในหนังสือแล้วมาหาผมได้เลยครับ ที่อยู่จริงไม่เคยหนีหรือแอบแฝงหลบหลังใคร ใช้ชื่อจริงนี้นามสกุลนี้มาแต่เกิดไม่เคยเปลี่ยน ขอให้รู้ไว้ว่าผมไม่เคยกลัวฅนชั่ว ๆ ผมกลัวเกรงใจฅนดีเท่านั้น ....
--
ปล.ศิษย์หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ยังมีอีกหลายท่านล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม ข้าพเจ้าจะรวบรวมมานำเสนอต่อ ๆ ไป เชื่อว่าหากทราบแล้วคงพอยืนยันให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้นไปว่า หากท่านไม่มีจริงหรือไม่มีความอัศจรรย์จริงแท้ แล้วใครจะมานับถือมากมายรวมทั้งผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ คงไม่นับถือเป็นแน่แท้
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
**หลวงปู่เชย อิเกสาโร ไม่มีจริง !!
มีเพียงนามที่รู้มาช้านาน หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร
หลวงปู่เชย อิเกสาโร เป็นเพียงนิทานที่แต่งขึ้นกันเอง
หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร ของจริง เรื่องจริง
มีข้อมูลสถานที่และพยานบุคคลชัดเจน
ข้าพเจ้าขอต่อต้านพวกลวงโลกหากิน
ขอท้าพวกลวงโลก ให้พิสูจน์กัน ข้าพเจ้าพร้อมเสมอ**
............
**ไม่ใช่พวกใส่ชุดขาวหลับตาเพื่อสร้างภาพ
เป็นเพียงแค่ฅนบาปที่ผ่านมา ... ฅนขลัง คลังวิชา..**
❀❀❀❀❀❀❀❀
สนใจบทความติดตามได้
โดยกด ==>>✪Likeเพจ✪<< ==
ทุก ✪Like/Share✪ คือกำลังใจ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจ •:*
❀❀❀❀❀❀❀❀
..........
เขียน / เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา

 

กำหนดการหล่อเหรียญหลวงปู่ วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ครับ

 

ท่านจขกท. ตั้งใจจะบอกว่าเป็นพุธที่ 23 พ.ย. 65 ใช่หรือเปล่าครับ? (เพราะจะหล่อเหรียญ 6 ธ.ค. นี้แล้ว และ23 ธ.ค.65 ตรงกับวันศุกร์) ขออภัยที่ถามครับ