การนับระยะเวลาบนสวรรค์

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 13 พฤษภาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : .......................................
    ตอบ : ไม่เหมือนกัน บางทีเขาใช้คำว่า อสงไขยกัป (หัวเราะ) ยิ่งหนักเข้าไปอีก หนึ่งกัปนี่ระยะเวลาตามอรรถกถาท่านเปรียบเอาไว้ ท่านบอกว่ามีภูเขาหินล้วนลูกหนึ่ง กว้างหนึ่งโยชน์ ยาวหนึ่งโยชน์ สูงหนึ่งโยชน์ หนึ่งโยชน์มัน ๔๐๐ เส้น ๔๐๐ เส้นก็ ๘,๐๐๐ วา เส้นหนึ่งเท่ากับ ๒๐ ว่า เท่ากับหนึ่งหมื่นหกพันเมตร เท่ากับสิบหกกิโลเมตร กว้าง ยาว สูง ด้านละ ๑๖ กิโลเมตร

    ร้อยปีมีเทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาเช็ดทีหนึ่ง หนึ่งร้อยปีมาเช็ดทีหนึ่ง... จนภูเขาลูกนั้นสึกเสมอพื้นดินเป็นเวลาหนึ่งกัป ไหวไหม ? เมื่อไหร่มันจะสึกสักคืบหนึ่งเราก็รอไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) ถูทุกวันมันยังไม่อยากจะสึกเลย หรือไม่ท่านก็เปรียบว่ามีถังเหล็กใบหนึ่ง กว้าง ยาว สูง ด้านละ หนึ่งโยชน์เหมือนกัน เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดใส่ไว้จนเต็ม ใครเคยเห็นเมล็ดพันธุ์ผักกาดบ้าง มันยังกับผงดำ ๆ น่ะ ร้อยปีหยิบออกเมล็ดหนึ่ง เมล็ดพันธุ์ผัดกาดหมดถังเมื่อไหร่ได้เวลาหนึ่งกัป นับยากจัง

    ถาม : อย่างเทวดา... สมมุติว่าเทวดาท่านอยู่หลายกัปแล้ว การที่ท่านจะลงมาเกิดอย่างนี้ หมดบุญมันก็นานมาก ?
    ตอบ : ที่อยู่กันหลายกัปจริง ๆ ต้องพรหมน่ะจ้ะ ถ้าเทวดาทั่ว ๆ ไป อายุท่านราว ๆ อย่างเช่น ๑๐๐ ปีทิพย์ ๒๐๐ ปีทิพย์ ๔๐๐ ปีทิพย์ อย่างนี้เป็นต้น ถ้าหากว่าท่านไม่ได้ทำบุญในลักษณะที่ว่าอยู่มานาน เช่นบุญบวชพระ อานิสงส์การบวชพระจะอยู่ได้ ๖๐ กัปนะ พอครบ ๑๐๐ ปีทิพย์ท่านก็จุติ คือเคลื่อนจากจุดนั้นแล้วก็เกิดใหม่ซ้ำที่เดิมเลยจนกว่าจะครบ ๖๐ กัป หมดบุญอันนั้นถึงจะต้องไปตามภพภูมิของบุญของบาปที่ตัวเองทำอยู่ ถ้าอย่างนั้นน่ะได้

    ถ้าจะนับอายุเทวดาจริง ๆ ที่ถึงขนาดกัปนี่ส่วนใหญ่จะเป็นอรูปพรหม โดยเฉพาะเนวะสัญญานาสัญญายตนพรหม คือชั้นที่ ๒๐ เขาเรียกชั้นที่ ๒๐ คืออรูปพรหมชั้นที่ ๔ อันนั้นอายุจะแปดหมื่นมหากัป... อยู่กันลืมไปเลย แบบเดียวกับท้าวผกาพรหมท่านสร้างบุญไว้มาก พอจุติแล้วท่านก็เกิดเป็นพรหมใหม่ จุติแล้วเกิดเป็นพรหมใหม่จนกระทั่งท่านเองสัญญาวิปลาส คือเข้าใจผิดคิดว่าพรหมน่ะสูงสุดไม่มีวันตาย

    ความจริงแล้วก็คือท่านหมดอายุของความเป็นพรหมในช่วงนั้นพอดีจุติใหม่ท่านก็เป็นพรหมใหม่ อานุภาพบุญมันยังเหลืออยู่มาก ก็ซ้ำที่เดิมไปเรื่อย ๆ จนพระพุทธเจ้าต้องขึ้นไปแก้ให้ถึงกลับมาเป็นสัมมาทิฐิ ไม่อย่างนั้นท่านก็ยังเชื่อว่าพรหมสูงสุด

    ถาม : แล้ว ๑๐๐ ปีทิพย์นี่เที่ยบกับปีมุนษย์ยังไงครับ ?
    ตอบ : แต่ละชั้นละเอียดประณีตต่างกัน อย่างจาตุมหาราชนี่วันหนึ่งของเขาเท่ากับ ๕๐ ปีมนุษย์ แล้วก็คูณไปเป็นเดือน เป็นปี ของชั้นดาวดึงส์วันหนึ่งเท่ากับ ๑๐๐ ปีมนุษย์ ก็ใช้เวลาวัน เดือน ปีคูณไปเหมือนกันนะ ของชั้นยามาก็ ๒๐๐ ปีมนุษย์ ชั้นดุสิต ๔๐๐ ปีมนุษย์ อย่างนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวไปเรื่อย ทำไมมันนานแท้ ...ความจริงแป๊บเดียว มันหนึ่ง ๑๐๐ ปีมนุษย์ใช่ไหม ?

    ส่วนนรกนี้สัญชีพนรกที่ถือว่าเป็นขุมที่ตื้นที่สุด ๑ วันนี่ ๙ ล้านปีมนุษย์ ที่ทนทุกข์ทรมานก็เลยทำให้รู้สึกว่าระยะเวลามันนาน ตอนเราทุกข์มาก ๆ เวลามันไม่ผ่านไปสักทีใช่ไหม ? แต่ขณะเดียวกัน ตอนที่เรามีความสุข .. แหม...แป๊บเดียวเอง มันก็ลักษณะเดียวกัน ที่ ๆ มีความสุขอายุก็เลยสั้นกว่า ทั้ง ๆ มีความทุกข์รู้สึกว่าอายุมันยาวเหลือเกิน




    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...