เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 1011 1920 8 TH ปลวกแดง

 

สวัสดีน้าวันและพี่น้องชาวนักขุดกรุฯทุกท่านครับ เรียนแจ้งน้าวันครับ ได้รับพระสมเด็จนางพญาพ่อท่านมุ่ย วัดดอนไร่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 มกราคม 2567 และได้นิมนต์ท่านไว้เป็นศิริมงคลแด่ครอบครัวเรียบร้อยแล้วครับ

 

สวัสดีครับคุณอา วันวิ และสมาชิกนักขุดกรุฯ ทุกท่าน
แจ้งได้รับ พระร่วงนั่งกรุวัดพญาดำเรียบร้อยครับผม

 

"พระพุทธโฆษาจารย์"
'กริ่งน้ำท่วม- 5 รอบ'!
วัดทองสุวรรณาราม
~~~~~~~~~~~~~

เอ่ยนาม "วัดทองสุวรรณาราม" นักสะสมวัตถุมงคลต้องหูผึ่งกับ "พระปิดตายันต์ยุ่ง" อันดับหนึ่งของแผ่นดิน หลวงพ่อทับ วัดทอง อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 9 ของวัดยิ่งใหญ่บางกอกน้อย

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นวัตถุมงคล "พระกริ่ง" ยุคหลัง 2500 สร้างในปี 2545 ต้องยกให้ "พระกริ่งน้ำท่วม 5 รอบ" ซึ่งเป็นที่ระลึกอย่างเฉียบขาด เด็ดขาด ตามตำรับวัดสุทัศน์ฯที่ท่านเป็นอดีตศิษย์เอก สมเด็จพระสังฆราชแพ

นั่นคือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ สุวัฑฺฒฺโน) พระสงฆ์ผู้เรียบง่าย ไร้ความด่างพร้อยสร้างความเจริญต่อวงการสงฆ์มากแบบ" ปิดทองหลังพระ" !

ท่านเป็นเจ้าอาวาส "วัดทอง" ตั้งแต่ ปี 2502 ดำรงตำแหน่งยาวนานถึงปี 2553 นานที่สุดถึง52 ปี

ทั้งเป็นยอดสงฆ์รัตตัญญูข้ามผ่าน "หนึ่วศตวรรษ" โดยมรณภาพ 26 มีนาคม 2553 เมื่ออายุ 102 ปี

ภาพและรายละเอียดจากวิกิพีเดีย
-------------------

เขียนถึงท่านจะไม่สนุก ถ้าหากลอกประวัติที่ใครก็รู้และหาอ่านง่ายๆ มาอ่านข้อเขียนที่ท่านบันทึกไว้เอง โดยการถ่ายทอดของ...

คุณราช รามัญ แห่ง "โพสท์ ทูเดย์" เมื่อ 27 สิงหาคม 2560

"โสดาบันที่หลวงพ่อสมเด็จเล่าให้ฟัง"
------------------------

หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เกิดเมื่อปี 2450 และมรณภาพ เมื่อปี 2553 นับเป็นพระมหาเถระอีกรูปหนึ่งที่อายุยืนถึง 103 ปี(ในวิกิพีเดีย102 คงเป็นการนับเดือนไม่เหมารวมแบบนับปี)

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า บวชพระตอนปี 2471 ก่อนหน้านั้นท่านเป็นสามเณร คอยรับใช้สมเด็จพระสังฆราช(แพ)วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม.

หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังถึงเรื่องของอริยบุคคลที่เป็นโยมใหัฟังเรื่องนี้ประทับใจผมมาก ผมจึงนำมาเล่าต่อ...

สมัยท่านอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ท่านเรียนรู้ทั้งธรรมะ และเรื่องของการสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ ตลอดทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธรรมของอริยบุคคลที่มีชีวิตอยู่

หลวงพ่อสมเด็จท่านเล่าว่า วัดสุทัศน์ฯสมัยก่อนตอนดึกๆไม่มีรถอะไรขับผ่าน เงียบสงัดเพราะคนกลัวเปรต คงเคยได้ยินคำว่า "แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์"

แต่ สักประมาณห้าโมงของทุกวันจะมีคนจีนที่บ้านบาตรคนหนึ่งมาหาสมเด็จพระสังฆราช(แพ)เกือบทุกวัน แล้วนั่งคุยสนทนาธรรมกันจนกระทั่งทุ่มครึ่ง บางทีสามทุ่มจึงกราบลากลับ

เป็นคนเดียวที่ไม่กลัวเปรต!

วันหนึ่งสมเด็จพระสังฆราช(แพ) บอกกับท่าน(พุฒ)ว่า โยมเต็กที่มาทุกวันนั่นคุณเณรเห็นไหม นั่นเป็นอริยบุคคลนะ คุยธรรมะกันนี่เข้าใจรู้เรื่องดี ในเรื่องของ"โสดาบัน" ผิวพรรณอิ่มผ่องใส กินอาหารวันละสองมื้อเหมือนพระ แต่กินมังสวิรัตินะ พรุ่งนี้ เขามาคุณเณรเข้ามาด้วยนะ จะได้ฟังเป็นความรู้

ครั้นเมื่อโยมเต็กมา สมเด็จพระสังฆราช(แพ)ให้คนไปตามมานั่งสนทนาธรรม ในการสนทนาธรรมนั้นท่าน(พุฒ)ได้แต่ฟัง สิ่งที่จำได้ คือ โยมเต็กนี่ไม่คุยอวดตัวตนว่าตัวเองสำเร็จมรรคผลอะไรเลย เรียบร้อย หน้าตาผ่องใส ตาเป็นประกาย

ธรรมมะข้อหนึ่งที่โยมเต็กเล่านั้นน่าสนใจมาก คือ เวลาที่คนเราจะข้ามคูข้ามหนองไปอีกฝั่งนั้น จุดที่ยากที่สุดคือ จุดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ คูนั่นแหละ จะไปไม่ไปดี? ในวันนั้นเหมือนกัน นั่งสมาธิแบบลืมตาพิจารณาธรรมะไปเรื่อยๆ พอสักครู่ก็พาจิตเข้าสมาธิ

จากนั้นไม่เท่าไหร่ตัดสินใจข้ามไปฝั่งโน้นดีกว่า แล้วก็ไป เมื่อจิตมันข้ามมาพ้น ภาวะความรู้อารมณ์โลกนี้ มันช่างต่างจากเดิมมาก มองอะไรก็มากด้วยความเมตตา มองไปทางไหนก็จะมองแบบในมุมที่มีความสุขมากกว่าคำว่าความทุกข์ มันเห็นแต่ไม่ได้คิดนะ มันรู้สึกเองโดยธรรมชาติ

หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ) ในวันที่เป็นสามเณรแล้วได้ยินได้ฟังดังนั้น อดใจไม่ไหวถึงกับต้องเอ่ยถามไปว่า

"โยมเต็ก มีความโลภ โกรธ หลงไหมเมื่อเป็นแบบนี้?"...โยมเต็กหัวเราะ แล้วบอกว่า มีอยู่นะสามเณร แต่การมีอยู่นั้น เวลามันเกิดก็ดับทันกับมัน เผลอคิดและรู้สึกไปสัก 5 นาที คิดได้มันก็กลับมาเป็นปกติอย่างเดิมทุกอย่างเลย แต่ถ้าเมื่อก่อน มีแล้วมันคิดไปตลอด คิดไปเรื่อยๆไม่หยุดเลย

"ถ้าโยมเต็กเป็นแบบนั้นจริงแล้ว ข้ามฝั่งแล้ว ถ้าเณรอธิษฐานขออะไร โยมเต็กจะรู้ไหม?"

โยมเต็กไม่ตอบ แต่ก็ได้ลองอธิษฐานเอาไว้ในใจสองเรื่อง แต่แล้วก็ต้องตลึงเมื่อโยมเต็ก ได้พูดขึ้นมาทันทีหลังอธิษฐานในใจเสร็จว่า

"สามเณรจะมีอายุยืนเป็นร้อยปีแน่นอน"!

"สามเณรจะได้เป็นสมเด็จด้วยนะ"!!!

สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ได้ยินอย่างนั้นถึงกับยิ้มชอบใจ แล้วพนมมืออนุโมทนาสาธุด้วย

แต่ที่เป็นเรื่องทำให้ท่านเชื่อยิ่งขึ้นว่า โยมเต็กคนนี้เป็นโสดาบัน คือสามารถรู้วันตายของตัวเองได้ แล้วก็รู้ด้วยว่าตายเพราะเหตุอันใด?

โยมเต็กบอกว่า เขาจะต้องตายในปี 2501 สาเหตุที่ตายเป็นเพราะว่ารถชนตาย เป็นเพราะกรรมเก่าที่เกิดมาแต่หนหลังที่เขาชอบเอานกมาขังเอาไว้ จนทำให้มันขาดอิสรภาพ แล้วก็บินไปไหนมาไหนไม่ได้

โยมเต็กโดนรถชนที่ป้อมมหากาฬโน่น (ตรงข้ามวัดราชนัดดา) เสียชีวิตทันที ทั้งที่ในยุคสมัยนั้นรถก็ไม่ได้มากมายอะไร

แล้วในที่สุดสิ่งที่โยมเต็กพูดก็เป็นความจริงอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อผ่านกาลเวลามา คือมีอายุยืนและได้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ) ท่านจึงเชื่อหมดหัวใจว่า...

โยมเต็กคนนั้นเป็นโสดาบันจริงๆ ตามคำของ สมเด็จพระสังฆราช(แพ)

ทิ้งท้ายด้วยพระวาจา สมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น) ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ของกรุงรัตนโกสินทร์ เคยกล่าวไว้ว่า...

"เมื่อใดมีการปฏิบัติธรรม โลกนี้ไม่ว่างจากอริยบุคคลจริงด้วย"!!!
----------------------

ได้รับทราบ เสี้ยวหนึ่งส่วนล้าน ของท่านสมเด็จพุฒกันแล้ว เพื่อจะได้เห็นชัดเจนว่า ท่านนั้น คือ ศิษย์ระดับ "เพชรเม็ดงาม" ของสมเด็จพระสังฆราช(แพ)ครบถ้วน

การสร้าง "พระกริ่งน้ำท่วม 5 รอบ" ให้วัดทองสุวรรณารามที่องค์ท่านเป็นเจ้าอาวาสในปี 2545 จึงถ่ายทอดตำราวิชาการชั้นสูงของตักศิลาวัดสุทัศน์มาไว้ในพระกริ่งรุ่นนี้ครบถ้วน

อีกไม่นานจะกลายเป็น "กริ่งในตำนาน" ของวัดทอง เฉกเช่น "พระปิดตา-หลวงพ่อทับ วัดทอง" ซึ่งกลายเป็นอมตะนิรันดร์กาลขึ้นหิ้งไร้เทียมทานไปเนิ่นนาน

นำ "พระกริ่งน้ำท่วม-5รอบ"ที่ไปบูชากับมือจากวัดเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ส่งต่อยังผู้รักและหลงไหลในศิลป์-ศาสตร์ของพระกริ่งตำรับวัดสุทัศน์ฯ

-- สร้างด้วยวิธีโบราณ..."เททีละองค์" เนื้อนวะแก่ทองคำที่ลูกศิษย์ลูกหาร่วมกันใส่ไม่อั้น เป็นยอดพระกริ่งหลังปี 2500 สไตล์วัดสุทัศน์ลงทุนสูงลิบลิ่ว ไม่สนเรื่องกำไร เพราะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒ ต้องการนำรายได้ไปมอบแด่กองทุนการศึกษาพระ-เณรที่องค์ท่านอุปถัมป์เป็นแบบอย่างทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จากนั้นบรรจุกริ่ง ตอกโค้ต ตอกตัวเลข

มอบร่วมบุญกล่องกำมะหยี่เดิมจากวัด ชม "ภาพเล่าเรื่อง" อีกชุดใหญ่ หลังจากสำราญกับ "เรื่องเล่า"สุดยอด ที่คัดสรรมาให้อ่านเต็มอิ่มแล้ว

=======2,500=======

กริ่งโบราณคลาสสิคที่สุด ผิวกับคราบเบ้าไม่ต้องปอก ปล่อยไว้เดิมๆ เห็นผิวทองคำสุกปลั่งทะลุออกมาจากคราบ

ด้านซ้ายมือเรา ผิวเริ่มกลับดำตามธรรมชาติของเนื้อนวะ โลหะผสมครบสูตรไม่เพี้ยนตำรา รวมทั้งฤกษ์ยาม เลขผานาที ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จรับมอบมาจากตำราสร้างพระกริ่งทุกสูตรของสมเด็จพระสังฆราช(แพ)ผู้เป็นองค์อาจารย์ตั้งแต่เป็นเณร

ทั้งยังเป็นองค์อุปัชฌาย์จารย์บวชให้ท่านอีกด้วย เป็นวาสนาทางธรรมที่หาได้ยากยิ่ง!

อุดกริ่งที่สะโพกด้านซ้ายมือเรา พระที่จะกลายเป็นตำนานหายากของวัดทอง เพราะท่านเจ้าประคุณสมเด็จนำแบบ "พระกริ่งน้ำท่วม" อันลือลั่นสนั่นปฐพีกริ่งวัดสุทัศน์มาสร้าง แล้วดัดแปลงเล็กน้อย ไม่ให้เป๊ะเป็นการวัดรอยเท้าครู แต่ตั้งพระนามให้เป็นพระเกียรติแด่องค์ครูว่า "กริ่งน้ำท่วม 5 รอบ"

มีเพียงรุ่นแรก รุ่นเดียวของวัดสุวรรณารามในยุคหลัง 2500 ส่วนก่อนปี 2500 เคยหาพระปิดตาวัดทอง หลวงพ่อทับ ยากอย่างไร เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะหาพระกริ่งรุ่นนี้ยากอย่างนั้น

ผิวด้านขวามือเรากำลังกลับดำไล่จากด้านล่างขึ้นบน!

ด้านข้างกำลัง
กลับดำ อีกฝั่ง
เห็นความงาม
อย่างโบราณ
ครบทุกมุม!

โค้ตกับนัมเบอร์ 2 ตัวตอก
ใต้ฐาน:ซ้ายตอก"น้ำท่วม"
ขวาเลขมหามงคลเฟ้นเอง
"๓๖๙"บวกได้18..1+8อีกที
ได้เลข 9 ครบสูตรนักสะสม
ของรักของหวงที่มีตัวเลข!

ถ่ายฝาในกับหน้ากล่อง

ส่งภาพที่ท่านสถิตในกล่องกำมะหยี่มา 26 ปี ย่างเข้าปีที่ 27 ส่งท้ายภาพชุด+เรื่องสุดดี อ่านเฉยๆก็เพลินความรู้เต็มพุง ธรรมะเต็มเปี่ยม ไม่ง่วงเหงาหาวนอนเหมือนฟังเทศน์ จะเคาะท่านไปบูชาเอาไว้ทำน้ำมนต์หรืออย่างใดอย่างหนึ่งตามศรัทธา ก็เชิญ!!!

 

ท่านเดินทางว่องไวไม่เคยผิดพลาดหากไม่ติดวันหยุด ขอบคุณน้องบัวฯที่แวะแจ้ง ฝากบารมี "หลวงพ่อมุ่ย-วัดดอนไร่" พระแท้ทองคำ คุ้มครองดูแลให้อยู่เย็นเป็นสุขทุกคน ทุกสถานครับ

 

อีกหนึ่งองค์พญา แต่เป็นพญาฝ่ายชาย พระร่วงนั่งกรุพญาดำก็ไม่พลาดผิดเรื่องเดินทาง ขอบคุณน้องโต้ดที่แจ้ง ขอบารมีท่านดูแลการทำงาน ปกครองลูกน้องได้ดีเยี่ยมตลอดเวลาจ้า

 

นิมนต์พระกริ่งน้ำท่วม 5 รอบครับพี่วัน

 

วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันอังคาร แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

พระกริ่งประวัติศาสตร์ของ "วัดทองสุวรรณาราม" ที่ไม่เพี้ยนสูตรต้นตำรับ เพราะผู้สร้างสืบทอดวิชาสายนี้จริงๆ แต่ท่านก็ไม่สร้างวัตถุมงคลมากนัก เนื่องจากภาระหน้าที่ในตำแหน่งแห่งหนมากโขอยู่ ทั้งยังมีมูลนิธิที่ก่อตั้งต้องดูแล การที่อริยสงฆ์ระดับเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้างพระทั้งทีจึงเป็นวาระเอกอุทะลุฟ้า สะเทือนดิน และเป็นรุ่นที่เสมือนฉลอง 8 รอบ อายุ 96 ปีของท่านประคุณสมเด็จฯด้วย

มนุษย์เราจะมีสักกี่คนบนโลกนี้ ที่มีโอกาสฉลองอายุครบ 8 รอบ ?

โมทนาน้องเต้ยครับ ขออนุญาตจัดส่งพรุ่งนี้ วันนี้ม้าด่วนติดภาระตั้งแต่เช้า

 

ผู้ทำบุญนั่งเรียงรายขอบฟุตบาธน่ารัก รวมทั้งตัวเล็กที่อยู่บนตักแม่ อนุโมทนาขอให้เป็นวันดีๆสำหรับครอบครัวและตัวเล็กสุขภาพแข็งแรง

 

เหรียญเงิน"พระศาสดา"
ฉลองพระ'กริ่งน้ำท่วม'
เลข"ตอง5"มหามงคล!!
~~~~~~~~~~~~~~~

สร้างสมโภชน์พร้อม "พระกริ่งน้ำท่วม 5 รอบ" เหรียญพระศาสดา เนื้อเงิน ทองคำ ทองแดง แต่ 2 อย่างแรกไม่มีให้บูชา สร้างตามจำนวนผู้จองหรือกรรมการ เหลือเหรียญเนื้อทองแดงที่ให้ทำบุญ

"พระศาสดา" เป็นพระพุทธรูปประจำวัดทอง "สุวรรณาราม" ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอีกองค์ที่มีความสำคัญไม่น้อย "คู่เหมือน" กับพระศรีศากยมุณีวัดสุทัศน์ฯ ช่างฝีมือเดียวกัน โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ทรงวินิจฉัยสันนิษฐานไว้ เชื่อว่าอัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัยพร้อมกัน

หลวงพ่อศาสดาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เข้าวลี "ขอได้-ไหว้รับ" หลายเรื่อง และมีการ "แก้บน" ด้วยวิธี "วิ่งม้า" แต่วิ่งใช้ผ้าขาวม้าขี่เป็นม้าหลอก วิ่งวนแก้บน สนุกครึกครื้น ประเพณีท้องถิ่นสืบทอดมายาวนานตราบถึงวันนี้ไม่มีที่ใดเหมือนและไม่เหมือนใคร!

วัตถุมงคล "พระศาสดา" สร้างมาตั้งแต่ปี 2480-2499 ที่ได้รับความนิยมมาก เป็น "พระชัยวัฒน์หล่อโบราณ" ค่อนข้างหายากในปัจจุบัน ราคาห้าหลักมานานเน

เหรียญพระศาสดาเนื้อเงิน ปี 2545 นี้ ตอกโค้ต "เลข ๕" เมื่อรวมกับเลขประจำตัวองค์พระ ๕๕ จึงกลายเป็น "ตอง๕" โดยปริยาย มอบพระดี เลขเด็ด หนึ่งเดียวให้ร่วมบุญไม่ต้องไปควานหาที่ไหนให้เมื่อย ถึงหาก็ไม่พบเจอในตลาดประมูล เพราะสร้างแค่หลักร้อย...!

=======1,500=======

เหรียญเงินที่งดงามสุดๆ ผิวจริงเป็นกระจกอาบปรอทเงินสีครามระเรื่อบางส่วน ถ่ายภาพไม่เห็น เพราะสะท้อนมาก ซ้ายมือเราคือนัมเบอร์เหรียญ "๕๕" ขวามือคือโค้ตวัดที่ตอกบนเหรียญทุกเหรียญด้วยสัญลักษณ์ "เลข๕"(ห้ารอบ) ที่ออกแบบไม่ซ้ำกับนัมเบอร์ กลายเป็น "เลขตอง๕" โดยปริยาย!!!

ให้ไว้เป็นที่ระฤกเนื่องในงานสมโภชน์ "พระกริ่งน้ำท่วม 5 รอบ" วัดสุวรรณาราม(วัดทอง) 12 ตุลาคม 2545

รายละเอียดด้านหลัง ผิวกระจกถ่ายภาพยากมาก เหรียญจริงงามสุดจะบรรยาย!

รุ่นนี้สร้างใกล้เคียงกับ หลวงพ่อเงิน บางคลาน 2545 ซึ่งทำพิธีครั้งสุดท้ายก่อนออกให้บูชา 3-5 ตุลาคม 2545 เป็นวัตถุมงคลปี45 ที่น่าเก็บ น่าสะสมบูชา มีอนาคตสุดยอดทั้งคู่!

ขอบเงินปี45

วงที่นัมเบอร์๕๕ซ้ายมือเรา
ด้านขวามือเป็นโค้ต'5รอบ'
ขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท

ถุงเดิมจากวัด
เขียน เลข๕๕
ยังรักษาอยู่ได้!

 

สวัสดียามบ่ายครับพี่วัน และสมาชิกทุกท่าน ขอให้มีความสุขนะครับ จุ๊ จุ๊ จุ๊

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณอา หนูหายไปประมาณ 5-6 เดือน
อันเนื่องมาจากการออกจากงานประจำ (บริษัทฯมีปรับลดพนักงาน แบบจ่ายเงินให้ออกโดยสมัครใจ)
ตอนนี้หนูก็เลยได้ออกมาเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ
คืนคอมโน้ทบุ๊คกับบริษัทฯไป รหัสผ่านต่างๆก็จำไม่ได้
เข้าผ่านมือถือก็ไม่สะดวก ไม่ได้อารมณ์ในการอ่านและการพิมพ์
ก็เลยห่างหายไป ตอนนี้มีไอแพดแล้วก็ได้พยายามรื้อฟื้นรหัส
เพื่อเข้ามากราบสวัสดีปีใหม่ทุกท่าน

ขอให้คุณอา มีสุขภาพแข็งแรง
บุญรักษา เทวดาคุ้มครองค่ะ

 

ได้ความรู้จากดวงตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตามประสาผู้ศึกษาโหราศาสตร์ ดาวต่างๆ ทำมุมเป็นมงคลจริงๆด้วยค่ะ

 

จิ้งจกมหาเสน่ห์มหาลาภ กระโจนเร็วไวเพราะสี่ขา ถึงที่หมายมิช้าที น้องเรย์ถ่ายภาพงามๆฝากส่งท้าย เผื่อว่าคิดถึงก็ชมภาพไปก่อน-ฮ่า

โมทนาอีกครั้ง น้องจกตัวนี้แกะได้สวยงามเป็นธรรมชาติมากทีเดียว อธิษฐานใช้ตามใจปรารถนา แต่อย่าลืม "หลวงปู่หน่าย" ทุกครั้ง ขลังทุกครา!

 

แปลกดี 3-4 วันก่อน จิตแว่บๆถึงน้องจิ้งว่าห่างหายไปหลายเดือน ปีใหม่ก็ไม่แวะเซย์ ฮัลโหล สงสัยคงมีปัญหาที่ทำงาน เพราะเดี๋ยวนี้บริษัทคู่แข่งเบบเดียวกันล้นจอ แถมยังมีพวกสมัครเล่นกึ่งอาชีพ "ไลฟ์สด" ขายสารพัดสารพันสินค้าทางเฟสเป็นล่ำเป็นสัน ถ้าดูกันจริงวันละสัก 10 รายก็พอ เดือนนึงไม่รู้ดูครบถ้วนหรือเปล่า?

สินค้าทางโลกออนไลน์ไปได้สวยจริง แต่ก็อยู่กลางฝูงฉลามร้ายทั้งสิ้น ใครดีใครอยู่ ยิ่งกว่าตลาดนัดแบกะดิน เพราะต้นทุนค่อนข้างสูงในการดำเนินการ

บริษัทใหญ่ต้องปรับตัวเองเล็กลง พนักงานถูกจ้างออกเป็นเรื่องปกติ น้องจิ้งหนีไม่พ้นแหตาข่ายนี้ แต่ก็ตั้งหลักได้บ้างแล้วกับอาชีพอิสระ ขอแสดงความยินดีและเอาใจช่วยให้รุ่ง ไม่ว่าจะทำอะไร พลังกตัญญูต่อบุพการีเป็นแรงหนุนด้านบวกลึกลับอย่างไม่คาดคิดอยู่เสมอ

สวัสดีปีใหม่ บุญจงรักษา เทวา(ข้างหลัง)เป็นแบ็คอัพคุ้มครองก้าวหน้าในอาชีพใหม่ และปลอดภัย ขอบคุณหลายๆที่อุตส่าห์แวะทักทาย

 

อาชีพอิสระถ้าตั้งตัวเป็น "โหรา" ตามวิชาที่ร่ำเรียนอย่างถูกวิธีก็ไม่เลว ศาสตร์นี้หากินได้ตลอด ขอให้ดูลูกค้าแม่นๆสัก 5 ราย 10 ราย แบบไม่มั่ว ...

พักเดียวเท่านั้น โบราณท่านว่า "ปากคนยาวกว่าปากกา"...ปากต่อปาก ลากมีชื่อเสียงบันเทิงตั้งตัวได้ง่ายๆ

หากเป็นจริงก็ไม่ต้องเขิน เปิดตัวแรงไปเลย อย่างน้อยในกระทู้นี้มี "ท่านอัครฯ" เป็นรุ่นพี่ ติดขัดอันใด ก็ตะแล็ปแก็ปถามไถ่กันได้ ลุยโลดน้องจิ้ง(ไม่มี'จก')

 

อาชีพที่ตอนนี้ทำอยู่มี 2 อย่างค่ะ

คือตอนปลายเดือน 7 ที่รู้ตัวแล้วว่าเขาจะลดพนง.ลงครึ่งนึง

ก็ได้เตรียมตัวสอบตัวแทน(ประกันชีวิต) AIA รอเวลาไว้

คิดเอาไว้ว่าทั้งขายประกันชีวิต และ หมอดู(โหราศาสตร์ไทย)

ก็เป็นสัมมาอาชีพที่ช่วยคน หากว่าพออยู่ได้ ก็จะได้ไม่ต้องตะลอนๆ

หางานประจำในวัย 40 กลางๆอีก


ผลประกอบการเดือน 8-9-10-11-12

เดือน 5-6-7 (ระหว่างเรียนโหราศาสตร์) 13 คน

เดือน 8 ประกัน 1 คน

เดือน 9 ประกัน 2 คน / ดูดวง 15 คน

เดือน 10 ประกัน 3 คน / ดูดวง 12 คน

เดือน 11 ประกัน 3 ราย / ดูดวง 19 คน

เดือน 12 ประกัน 3 ราย / ดูดวง 14 คน


กลายเป็นว่า คิดว่าการขายประกันเป็นอาชีพหลัก แล้วดูดวงเป็นอาชีพเสริม

กลับสลับกันซะงั้น

รายได้ไม่ได้เยอะหรอกค่ะ ดูดวงคนละ 500 บาท (ทำเป็นเล่มให้อ่านพื้นดวงแบบละเอียด PDF 15-16หน้า)

เงินค่าดูดวงก็แบ่งทำบุญชัดเจนลงโพส 30%

เท่ากับ ค่าดูดวง 7,500 ทำบุญไป 2,250 (แต่เอาจริงๆพอไปทำบุญก็หยอดเพิ่มเรื่อยๆ

มากกว่า 30%ที่ตั้งไว้ซะอีก)


สิริรวมแล้วทั้งสองอาชีพรวมกันก็ยังไม่ได้เท่าเงินเดือนก่อนลาออกมาอยู่ดี

แต่ก็ไม่เหงาและรู้สึกชีวิตมีคุณค่าค่ะ ดูดวงไปแล้วครึ่งปีก็ 70 กว่าคน

ได้คุยกับคนเยอะขนาดนี้ คุยในเรื่องกรรมเป็นสิ่งกำหนดแผนผังดวง

อันเป็นเครื่องแสดงผลกรรมเก่า(พื้นดวง) และคุยเรื่องการสร้างกรรมใหม่

ปัจจุบันกรรม ทาน_ศีล_ภาวนายังไง เพื่อให้ใช้ชีวิตได้ไม่ทุกข์เกินไป

ดูดวงไปก็ได้เรียนรู้แล้วก็ค่อยๆปลงไปด้วยค่ะคุณอา

ปล.คุณอาบอกให้เปิดตัวแรงไปเลย หนูขออนุญาตินำ feedback คนที่ดูดวงมาอวดค่ะ

 

วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล