ถึงผู้ที่จะเรียนไสยศาสตร์

1. ควรรักษาศีลให้ครบ เป็นปกติ
2. ควรสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เป็นประจำ
3. ต้องสวดมนต์บทกันภัย ตามหลักพระพุทธศาสนา เช่น ยอดพระกันไตรปิฎกมงคลจักรวาล ชินบัญชร พระปริตร ฯ เป็นประจำ
4. ควรปฎิบัติตัวอยู่ในหลักธรรมอันดี หลักสำคัญคือ พรหมวิหาร 4, มงคลสูตร 32
5. สมาธิต้องดี ต้องได้อุปาจารสมาธิเป็นอย่างต่ำ ญาณ 4 นี่วิเศษเลย
6. เพื่อกันภัย ควรมีน้ำพระพุทธมนต์ 7 วัด 9 วัด ติดไว้ประจำไม่ขาด และต้องมีปริมาณมากเพียงพอ
7. เรียนผูก อย่าลืม เรียนแก้ ไว้ด้วย
8. ต้องถือข้อห้ามในบางวิชา ให้แม่นมั่น มิฉะนั้นจะเสียใจ สักยันต์เต็มหลัง อาจกลายเป็นลวดลาย ไว้ข่มขวัญเฉยๆ แค่ความอยู่คงอาจหายไป
9. ต้องเข้าพิธีครอบครู เป็นประจำ (ปกติปีละครั้ง เป็นอย่างน้อย)
10. อย่าได้พร่ำบ่น สวดบทมนต์เป็นประจำเป็นอันขาด เพราะของจะแรง และร้อนมากเกินไป ควรว่าเฉพาะกาลเช่น วันพระ 2 ครั้ง/เดือน อย่างมาก 4 ครั้งต่อเดือน แต่บทพระพุทธมนต์ บทสรรเสริญของพุทธศาสน์ สวดได้ทุกวันยิ่งดี

*สำเร็จวิชาแล้วต้องสงเคราะห์คนอื่น แต่วิชาปล่อยของอัปมงคลทั้งหลาย เรียนแล้วอย่าไปสงเคราะห์ใครเข้าล่ะ

ขอให้ทุกท่านอย่าประมาท พึงสังวรว่าให้อะไรไป จะได้รับสิ่งนั้น เป็นกฎธรรมดา ถ้าคิดจะส่งของไปทำร้ายใคร ของนั้นจะกลับเข้าตัว ไม่ช้าก็เร็ว เป็นไปตามกฎแห่งกรรม ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผมอยากทราบว่าผมสักน้ำมันไม่มีลวดลายต้องไปเข้าพิธีครอบครูหรือเปล่าครับถ้าไปเวลาถอดเสื้อครอบครูเขาจะรู้ไหมครับว่าเราสักอะไร(ช่วยตอบเป็นการเป็นงานหน่อยนะคับ)

 

แล้วแต่ตัวอาจารย์ผู้ครอบวิชาให้ครับ ว่ามีญาณเก่งพอแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ครับเพราะคนที่รู้ได้ต้องเป็นผู้ที่ได้ตาทิพย์หรือได้ญาณชั้นสูง หรือจนกว่าของที่คุณเคยสักมาจะขึ้นสำแดงฤทธิ์ออกมาเอง...............

 

เห็นด้วยกับผู้ที่ตั้งกระทู้นี้ ขอให้ท่านจงประสบความสำเร็จ และเจริญก้าวหน้าด้วยเทอญ

 

พระมหากัสสปะ ยังเคยโดนพระอินทร์หลอกเลยครับว่าเป็น ตาแก่ชาวนา

อาจารย์ท่านไม่รู้หรอกครับ ถ้าท่านไม่ต้องการรู้ แต่ถ้าท่านเก่งสามารถเปิดจิตดูใจคนไว้ทุกขณะ เชื่อว่ารู้แน่ เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผมไม่ทันท่านหรอกนะครับ แต่ผมเชื่อว่า คนที่เข้าไปหาท่านๆ ดูใจหมดเลย คนนี้เป็นยังไงๆ ...

อีกอย่างถ้าตัวคุณขาว พร้อย ไปเข้าพิธีครอบครูนะ ผมยังรู้เลยว่าคุณสักน้ำมันมา
อย่าไปผิดลูกเมียเข้าล่ะครับ เตียงนี่จะแฉะ เหอะๆๆๆๆๆๆ แฉะน้ำ....... มันที่คุณไปสักมานั้นแหละ ถอนหมดครับ เสื่อม เค้าห้ามอะไรก็ต้องเชื่อ ถ้าไม่เชื่อถือว่า ศิษฐ์ไม่เคารพครู ของจะเสื่อมแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วครับ

สวัสดี

 

ถ้าเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว หรือไม่มั่นใจในข้อห้ามที่ไม่รู้ว่าเผลอลืม กระทำไปแล้ว
เราจะแก้ไขได้หรือไม่ และจะรู้ได้อย่างไรว่า ยังคงอยู่
วานผู้รู้ช่วยไขให้ด้วย
ห่วงของตัวเองเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ ตรวจให้ด้วยจะขอบคุณมาก

 

เสริมอีกนิดครับ ในศาสตร์ที่รุนแรงจริง จำต้องเรียนคู่ด้วยคือมีเพื่อนเรียนด้วยเพื่อแก้ไขเมื่อมีของเข้าตัว คนใดคนหนึ่งที่ปกติต้องช่วยรีบแก้ให้ แต่ส่วนตัวถ้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนจริงๆก็ไม่แนะนำครับ ให้เรียนกรรมฐาน 40 จะดีกว่า

 

ท่านครับแล้วคนที่จะเรียนจะไปหาเรียนได้จากไหนหรอครับ
ท่าน Magic ไม่ตอบผมเลย แล้วทำไงจะได้เรียนหรอครับ
อยากเรียนจริงๆอะครับ ช่วยตอบหน่อยนะครับ

 

อธิฐาน คือ
ตั้งจิตไว้ให้มั่น ว่าเราจะไปยังจุดใด น้อมจิตดึงตัวเราไปถึงจุดนั้น แรงอธิฐานเราจะแรง อธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะช่วยสงเคราะห์ ส่งข่าวให้อีกที เพราะกระแสของจิตที่ตรงกัน จะชักนำมาพบกันแน่นอนครับ ตามหารอบๆ ตัวก่อนนะ

แนะนำหนังสือ อาจารย์เทพสาริกบุตร ท่านเป็นครูโหราศาสตร์แลไสยศาสตร์ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง หนังสือเคยเจอที่ซีเอ็ด ลองไปถามหรือสั่งซื้อดูนะครับ (จำชื่อตำราไม่ได้)
อาจารย์ไสยศาสตร์ที่ผมรู้จักก็พอมี อยู่สุโขทัย ... มีวาสนาอาจพบกัน

เห็นด้วยกับคุณ Attawat_Rx<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_119963", true); </SCRIPT> นะครับ เมื่อถึงขั้นลงมือเรียนจริงๆ เรียนไปพร้อมกันจะได้หลายอย่างทั้งช่วยกันแก้อารมณ์ แก้เวลาทำผิด ฯลฯ

 

ตอบคุณ sanya
กลับไปหาอาจารย์ผู้สัก ท่านจะกรุณาเรียกยันต์ ปลุกยันต์ และลอง ถ้าคุณลงคงกระพันมา อาจารย์ท่านก็อาจลงมีดดู ท่านแค่วางลงขยับหน่อยก็รู้แล้วว่า อยู่ไม่อยู่ เข้าไม่เข้า

เมื่อเสื่อมเสียแล้ว ก็ต้องล้างอันเดิม ถอนเสียแล้วก็ ลงสักใหม่ ต่อไปก็ต้องรักษาให้ดี
สวัสดีครับ
<!-- / message -->

 

อยากหาเรียนก็คงหายากหน่อยนะครับ เค้าไม่ค่อยมีคนสอนกันหรอก
ขนาดคนใกล้ตัวกันเองยังไม่สอนเลย เค้าจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี

 

สวัสดีครับ ยายทองประสา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมไม่ค่อยได้ทักเลยนะ อ่านในกระทู้หลายกระทู้แล้ว รู้สึกยินดีที่ได้รู้จักกับคนที่ศรัทธาในศาสนาพุทธและศาสตร์โบราณเหมือนกับผม รวมทั้ง ท่านnnnด้วย

 

ขอบคุณคุณยายทองประสามากครับ
ว่างจากงานประจำ และมีทรัพย์พอเดินทางไปหา จะทำตามที่แนะนำทันทีเลยครับ

 

จะสนใจไปทำไปกับไสยะศาสตร์

แม่แต่องค์สมเด็จท่านก็ไม่เห็นสอนแล้วทำไมเราต้องไปอยากรู้อยากเรียนในสิ่งที่มันเป็นโลกีย์ด้วย คนที่ศึกษาไสยศาสตร์ ทุกคนขึ้นต้นด้วยความ"อยาก"ทั้งนั้น อยากเหนียว อยากคงกระพัน อยากมีเสน่ห์ อยากฯลฯ ขึ้นต้นว่าอยากก็คือตัณหา (b-green) พุทธศาสตร์นี่ของแท้ ถ้าท่านทั้งหลาย หลับตา ทำสมาธิ พิจารณาสังขารด้วยปัญญา แล้วเอาวิปัสนาญาณมาควบ อภิญญาก็จะมาเอง ตามมาด้วยสมาบัติ 8 และอาจไปถึงปฎิสัมภิทาญาณ แต่ถึงที่สุดก็ต้องละทุกอย่าง คนเราจะเหนียวหรือไม่เหนียว ผมว่า เพียงแต่คุณมี พรหมวิหาร 4 เป็นประจำใจ ศาสตราวุธใด ๆ คงไม่มาระคายผิวคุณได้ จริงมั๊ยครับ ลองพิจารณากันดู

 

มันก็จริงแต่คนเราในโลก ล้วนแต่ยังข้องเกี่ยวในโลกด้วยกันทั้งนั้น หากจะหักห้ามใจให้ไม่อยากนั้นไม่ได้ หากศาสตร์บางอย่างมันทำให้เห็นว่าสิ่งที่อยู่เหนือโลกนั้นมีอยู่จริง แล้วทำให้คนเรานั้นศรัทธาในศาสนาขึ้นมา มันก็น่าจะดีไม่น้อยอย่าลืมว่าปาฎิหารย์นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนศรัทธาในศาสนาขึ้นมา แต่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ก็ไม่ได้ว่ามันผิด เพียงแต่พระองค์ไม่ยกย่องเท่านั้นเอง พระองค์ทรงค์ยกย่องคำสอนที่ก่อให้เกิดปาฎิหารย์ อีกทั้งพระองค์ก็มิได้ห้ามไม่ให้แสดงฤทธิ์ หากแต่ห้ามไม่ให้แสดงฤทธิ์พร่ำเพื่อ นี่แหละคือ คุณค่าของไสยศาสตร์ เพียงแต่ว่าบุคคลผู้นั้นจะหลงในทางนี้หรือไม่ หรือว่าจะเอาไปใช้ในทางใด หากการเหนียวคง อยู่คงแก่อาวุธทั้งปวงได้แล้วป้องกันบ้านเมืองได้ บ้านเมืองเราสมัยก่อน ก็ได้อาศัยวิชาพวกนี้แหละปกป้องข้าศึกและศาสนามา ท่านว่ามันดีมั้ย ขอให้พิจารณาดูไว้ก็ดีไม่น้อยนะครับ

 

จะทำอะไรก็ขึ้นต้นด้วยความอยากทั้งนั้น
การวิปัสสนาก็ขึ้นต้นด้วยความอยาก
เมื่อสำเร็จผลแล้วความอยากนั้นก็หายไป

 

เกือบลืม PATAPATA ผมเห็นความตั้งใจของคุณแล้ว เมลล์มาหาผมด้วยหรือตั้งกระทู้ก็ได้
cadet63@thaimail.com

 

Godgi

คือว่าผมก็ไมสักมาเช่นกันครับแต่ว่ามชอบหลงไปผิดครูบ่อยของจะเสื่อมท้นที่เลยรึป่าวครับรึว่าจะค่อยๆเสือมครับโปรดให้คำชี้แนะด้วยนะครับ[b-wai] [b-wai] (bb-flower

 

ขออีกนิด

เรื่องการแสดงฤทธิ์นั้น ถ้าพุทธศาสตร์ก็ต้องบอกว่าเกิดจากอภิญญา ซึ่งมันอยู่ตรงข้ามกับไสยศาสตร์ ต้องแยกกันให้ชัดเจน ถ้าเกิดศรัทธาต่อพุทธศาสนาเพราะการได้รู้ได้เห็นไสยศาสตร์นั้นไม่น่าจะเป็นได้ เพราะไสยศาสตร์ไม่มีข้อไหนที่ชี้ให้เห็นพุทธศาสนา แต่ถ้าอภิญญา อันนี้เกิดจากสภาวะที่จิตมีความรู้ความสามารถโดยมีพื้นฐานจากความสงบ สอาด สว่าง เห็นได้ว่าตรงกันข้ามกับไสยศาสตร์ (ผิดถูกอย่างไร โปรดให้อภัยและโปรดชี้แนะผู้ด้อยปัญญาผู้นี้ด้วยเทอญ)

 

ได้ยินว่ามีเรียน ที่สำนักกุญแจไสยศาสตร์ แถวปากเกร็ดครับ