ภัยอนาคต ปรับเปลี่ยน บรรเทา หรือหนักขึ้น อย่างไร

ภัย ภายนอก อันเกิดกับ ดิน น้ำ ไฟ ลม เกิดกับรูปที่มีชีวิต และ ไม่มีชีวิต ให้เสียหายและแตกสลายไป

ถ้าจะกระทำให้เกิดกำลังการเปลี่ยนแปลงได้ ต้องสร้างเหตุกรรมรวมที่ดี มากถึงมากจนไม่อาจนับประมาณได้

ภัยทั้งหลาย ที่เราจ้องมานาน ต้องเกิดตามเหตุที่สำเร็จมานานแล้ว สั่งสมจนถึงจุด
แถมนับวัน แม้แต่ผู้ที่ศึกษาธรรม ที่ไม่อาจทนต่อธรรมภาคอกุศลในตนได้ ก็ประทุอารมณ์ให้ชนะสติสัมปชัญญะ ก่อเหตุอกุศลกรรมออกมาใหม่อีก
คนต่อคน
กลุ่มต่อกลุ่ม
สังคมต่อสังคม

****

ในวิถีพุทธ
คือ เริ่มจากบรรเทา และ ดับไฟภายใน ของแต่ละปัจเจกบุคคล

เมื่อไฟภายในดับเย็นลง

ก็เจริญกระทำกรรมดีฝ่ายกุศลให้มาก เริ่มจากตน ออกสู่ชนหมู่มาก

กลุ่มภาวนา สวดมนต์ ทำบุญกุศลต่างๆ ถ้าจะเทียบแล้ว ยังน้อยมาก
แถมบางกลุ่ม ก็ ทะลุจุดเดือด มาฟาดฟันกันเอง
ดับแสงสว่างของตนและมวลรวม ที่กว่าจะสร้างยากแสนยาก ให้มัวหม่น และจางไป
จนแทบจะไม่เห็นแสงสว่างเลย

***

เชื่อว่า เดิมทีทุกท่านเข้าใจแนววิถีนี้
แต่ ธรรมชาติบางอย่างที่ขัดขวางในดวงใจสัตว์โลก เค้าไม่ยอมให้ทำง่ายๆ


อย่ามองข้ามความดีเล็กน้อย ทั้งกาย วาจา ใจ ของตน
ที่ต้องเพียรพยายามรักษา ประคองไว้

ใช้พรหมวิหารสี่ ให้มากๆ จะประสานแสงสว่างที่กระจัดกระจายท่ามกลางความมืดของโลกได้


พยายามให้เต็มที่


อย่างน้อย ในวันที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
เราสามารถสละ ธาตุทั้งสี่ ที่มาอาศัยนี้ ได้อย่างสบายใจ เด็ดเดี่ยว ก่อนไปเริ่มในร่างกายใหม่
ภพใหม่
เพราะ บอกตัวเองได้เต็มปากว่า " ฉันได้พยายามเต็มที่ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งแล้ว "


ขอแสงสว่าง เปล่งประกาย สาธุ