ย้อนตำนานความเชื่อพลังลึกลับสู่ศรัทธากับสิ่งที่มองไม่เห็นใน..ประเพณีรำผีมอญ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 4 มิถุนายน 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=blue22blod vAlign=top>ย้อนตำนานความเชื่อพลังลึกลับ สู่ศรัทธากับสิ่งที่มองไม่เห็นใน... ประเพณีรำผีมอญ


    </TD></TR><TR><TD class=default12 vAlign=top> [​IMG]

    มอญ หรือที่เรียกกันว่า ไทยเชื้อสายมอญ อาศัยอยู่กระจัดกระจายตามจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย เช่น นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และราชบุรี เป็นต้น คนมอญเหล่านี้ นับถือพุทธศาสนา นิกายเถรวาท และยังยึดถือระบบความเชื่อ ในเรื่องผีเรือนหรือผีบรรพบุรุษ ดังนั้นจึงยังมีการประกอบพิธีกรรม ที่เกี่ยวข้องกับผีอยู่ เช่น พิธีรำผี เป็นต้น

    พิธีรำผี ถือเป็นพิธีกรรมทางครอบครัว มีสาเหตุมาจากการผิดผี คือ เมื่อมีคนเข้ามาพักที่บ้าน และเจ้าของบ้านเกิดเจ็บป่วย ในระหว่างนั้น ถือว่าผีโกรธเจ้าของเรือน ต้องทำการบนบานศาลกล่าว โดยเอาน้ำมารดที่เสาเอก และกล่าวอโหสิกรรมต่อผี รวมทั้งจัดพิธีเลี้ยงผีด้วย คือ
    - พิธีเลี้ยงผีแบบธรรมดา คือ จัดเลี้ยงตามปกติ
    - พิธีกินทั้งยืน หรือพิธีรำ โดยขณะที่ยืนรำจะหยิบอาหารกินไปด้วย
    และสาเหตุอีกประการหนึ่ง คือ ถ้าครอบครัวใด ไม่มีลูกชายเป็นผู้รักษาผีเรือน ก็ถือว่าหมดผีไปจากตระกูล ต้องทำการถอนเสาเอกออกจากเรือน และทำพิธีกินทั้งยืน หรือพิธีรำผี เท่ากับเป็นการเชิญผีเรือน ให้ไปอยู่ศาล ซึ่งเตรียมไว้ให้บริเวณบ้านหลังนั้น
    สำหรับการจัดพิธีรำมอญ มักจะมีขึ้นในเดือนคู่ ยกเว้นวันพระ และวันเข้าพรรษา และถ้าครอบครัวใด ได้จัดงานพิธีใดก็ตามขึ้นมาแล้ว ในปีนั้นจะไม่สามารถจัดพิธีรำผีได้ โดยก่อนวันทำพิธี 1 วัน ต้องเตรียมอาหารสำหรับใช้ในพิธี เช่น ข้าวเหนียว, หัวหมู, ขนมต้ม, ข้าวขนมกล้วย, แป้งคลุกน้ำตาลทอด, กล้วยน้ำว้า และมะพร้าวอ่อน เป็นต้น เพื่อเลี้ยงญาติพี่น้องหรือแขกที่เชิญมา วันทำพิธี เริ่มตั้งแต่ 9 นาฬิกา มีการตั้งผีเรือน หรือโรงพิธีชั่วคราว ทำด้วยไม้ไผ่จักตอกสานทำเป็นหลังคา มีแท่นวางเครื่องเซ่น หรือเครื่องบูชา มีเสาสูงแขวนเสื้อและหมวก หน้าเรือนผีมีต้นหว้า ซึ่งชาวมอญเชื่อว่ามีผีอยู่ ปกติจะสร้างในบริเวณบ้าน แต่สำหรับงานนี้ จัดขึ้นที่ลานกว้าง ภายในวัดคงคาราม และมีหญิงชราทำหน้าที่หมอผีให้อยู่ในเรือนพิธีหน้าแท่นเครื่องบูชา
    เครื่องบูชาหรือเครื่องเซ่น ทำเป็นบายศรีใส่อาหารต่างๆ เช่น ข้าวตอก หัวหมู และผลไม้ต่างๆ เป็นต้น จากนั้นผู้เป็นลูกหลาน จะถือผ้าผีซึ่งเป็นผ้าผืนยาว ที่ผูกห้อยลงมาจากหลังคาเรือนผี ชูไว้เหนือศีรษะ หมอผีเอาเหล้าวนที่เครื่องเซ่น แล้วพูดเบาๆ มีดนตรีบรรเลงเป็นระยะๆ หลังจากนั้น หมอผีใช้เชือกพันรอบต้นกล้วย 3 ครั้ง ผู้เป็นลูกหลานช่วยกันเฉือนโคนต้นกล้วย แล้วทาขมิ้นที่หัวต้นกล้วย และใช้ดาบสับ วางใบตองตรงที่ดาบฟันต้นกล้วยลงไป นอกจากนั้นยังวางขนม ข้าวตอก กล้วยน้ำว้าลงบนสันดาบ หลังจากนั้น นำเหล้าขาวมาวนแล้วพ่น เมื่อเสร็จแล้วนำของวางบนสันดาบ ไปวางยังแท่นเครื่องเซ่นใต้ชายคาเรือนผี ผู้ร่วมพิธีฟันกล้วยออกเป็น 9 ท่อน หมอผีแจกข้าวตอกไว้ให้สำหรับปา 9 ครั้ง ขณะที่หมอผีรำ ต่อจากนั้นมีการรำหน้าเรือนผี

    ในตอนสายลูกสาวคนโตของครอบครัว จะอาบน้ำแต่งตัวหน้าเรือนผี โดยนั่งเหยียดขาบนในตอง ที่รองอยู่กับไม้กระดาน 1 แผ่น หมอผีจะเทน้ำปนขมิ้น ให้ผู้อาบล้างหน้าก่อน แล้วจึงให้พี่น้องร่วมตระกูล มารองน้ำเพื่อล้างหน้า แล้วใช้น้ำที่เหลือ รดผู้อาบจากลำตัวถึงขา 3 ครั้ง เมื่อแต่งตัวแล้ว ต้องให้หมอผีแต่งตัวให้อีกครั้งหนึ่งบนเรือนผี โดยนำผ้ามานุ่งทับผ้าผืนที่นุ่งอยู่เดิม มีผ้าพาดไหล่ ผ้าคาดเอว และผ้าคลุมศีรษะ เป็นต้น จากนั้นจุดธูปเทียน หมอผีและผู้ร่วมพิธี ยืนรำถือช่อใบไม้และถือดาบ แล้วนั่งรำกับพื้น โดยถือช่อใบไม้ บ้องไม้ไผ่ ดาบ พานใส่อาหาร โดยที่หมอผีเป็นผู้หยิบให้ เมื่อดนตรีหยุดก็หยุดรำ
    หลังจากนั้นจุดเทียน 6 เล่ม โดยหมอผีวางพานเทียนบนแท่นเครื่องบูชา ดนตรีเริ่มบรรเลงอีกครั้ง หมอผีวนพานเทียนรอบแท่นบูชา แล้ววางบนศีรษะ ประมาณ 3 ครั้ง หลังจากนั้นประคองพาน และผ้าผียกขึ้นลงสลับกันหลายๆ ครั้ง แล้ววางพานที่แท่น นำพานบายศรีมารำประคองท่าเดิมอีก แล้วจึงวางพานไว้ที่แท่นตามเดิม จากนั้นเป็นการรำด้วยท่ายืน มือถือช่อใบไม้ บ้องไม้ไผ่ ผ้าคาดเอว แล้วเริ่มรำแบบยืน โดยประคองผ้าผี ที่มีอาหารอยู่ แล้วรำท่าพาดดาบไว้บนบ่า รำบ้องไม้ไผ่ขนาดสั้น โดยกระทุ้งหลังคาเรือนเบาๆ เสร็จแล้วเริ่มรำอีกด้วยการยกพานอาหาร ยกหม้อทราย ก็เป็นอันเสร็จพิธีของผู้รำ ที่เป็นลูกสาวคนโต
    หลังจากนั้น จะห่ออาหารวางไว้บนแท่น หมอผีรำเดี่ยวอีกครั้ง และเปลี่ยนผู้ร่วมรำเป็นลูกสาวคนรอง โดยรำเหมือนคนก่อนต่างกันเพียงแต่ไม่มีการอาบน้ำ และใช้เวลารำไม่นานนัก โดยขณะรำหมอผี จะจับตัวผู้รำโยกไปมา ทั้งนี้เพื่อให้ผีมาเข้าร่างผู้รำ เมื่อรำเสร็จแล้วบรรดาญาติทั้งหลาย จะขึ้นไปบนเรือนผีประมาณกลุ่มละ 3 คน แต่งตัวด้วยผ้าใหม่ เข้าไปร่วมพิธีรำ ถ้าผีเข้าร่างคนใด คนนั้นก็จะถือจานอาหารเพื่อหยิบกิน และแจกจ่ายผู้ที่นั่งอยู่บริเวณนั้น และเมื่อใดที่คนรำที่มีผีเข้าร่างอยู่ กระโดดกลับไปที่เรือนผี นอนคว่ำกับพื้นและจับผ้าผี ผีก็จะออกทันที การรำเป็นกลุ่มเช่นนี้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่งโมง ต่อมาเวลาประมาณบ่าย 3 โมง มีพิธีการกินไก่ โดยจัดอาหาร เช่น ข้าวเหนียว, กล้วยน้ำว้า, มะพร้าวอ่อน, เหล้าขาว เป็นต้น วางข้างๆ ฉีกไก่ออกเป็นชิ้นๆ โดยที่คนมีผีอยู่ในร่าง จะกระโดดออกมาพร้อมกับถือกะละมังไก่ เพื่อแจกแก่คนบริเวณนั้น เป็นที่สนุกสนาน ผีที่เข้าร่างผู้รำตอนนี้ไม่เพียงแต่ผีบรรพบุรุษเท่านั้น แต่ยังมีผีจรและผีกระเหรี่ยงอีกด้วย
    หลังจากนั้น เป็นการรำกลุ่มรอบต้นหว้านอกโรงพิธี มีแต่หญิงรำกระโดดไปมาอย่างสนุกสนาน มีการแบกหาบข้าว กระบอกน้ำ กล้วย มะพร้าวอ่อน ฯลฯ มากินกัน หลังจากนั้นผู้ชายแต่งตัวเป็นช้าง มาให้ผู้หญิงไล่คล้อง เวลาประมาณ 4 โมงเย็น นำหยวกกล้วยทำเป็นเรือยาวประมาณ 1 ศอก ใส่สายสิญจน์ไว้ในเรือ หมอผีถือมะพร้าวอ่อน 2 ใบ หาบกล้วย 2 หวี เดินปาไปทีละลูกจนหมด นอกโรงพิธีหลังจากนั้น นำเรือมาใส่ของให้เต็ม ยกไปไว้ที่ต้นไม้หน้าโรงพิธี แล้วตัดออกเป็น 2 ท่อน นำเสื้อกับหมวกที่แขวนอยู่หน้าเรือนผี มาวางบนต้นไม้ เป็นอันเสร็จพิธี

    ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

    อัพเดทโดย : ศศิวิมล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    -----------------------
    ที่มา :
    http://variety.mcot.net/inside.php?docid=2200&doctype=11
     
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    เป็นพิธีกรรมที่สมัยนี้คงจะหาชมได้ยากแล้วล่ะครับ
     
  3. dark-green

    dark-green เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +310
    That's interesting. :0
     
  4. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
    เหมือนรำปอบผีฟ้าหรือเปล่าเอ่ย
     
  5. แทนคุณ

    แทนคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +333
    สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ที่ผมได้เห็นมาช่วงเด็กๆ ที่เขาเรียกกันว่ารำผีมอญ ( เพราะผมมีเชื้อสายมอญ อยู่จังหวัดราชบุรี) แต่ละครั้งที่มีการตั้งปะรำพิธี ก็ถือเป็นงานใหญ่ของหมู่บ้าน ผู้คนจะมาร่วมชมกันอย่างมากมาย แต่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ไม่มีให้เห็นแล้ว จะมีก็แต่การไหว้ผีมอญประจำปี ของแต่ละบ้านเท่านั้น
    ที่เขาบอกว่าผีมอญดุนั้น ท่าจะจริงนะครับ เพราะขนาดผมเองเป็นลูกหลาน ก็ยังไม่มีข้อยกเว้น
    ยังโดนเลย เพียงแค่คะนองปากพูดพาดพิงถึงผีมอญที่เป็นต้นตระกูล ทำนองว่าไม่อยากให้เอาเข้ามาอยู่ที่บ้าน คนก็ส่วนคน ผีก็ส่วนผี พอตกคืนนั้นก็โดนทันที มีเงาดำเข้ามากดที่แขนทั้งสองข้างนั่งอยู่บนตัว ขยับไม่ได้ ต้องท่อง นะโมพุทธายะ แล้วเป่าใส่
    จนร่างนั้นกระดอนออกไป ต้องคลานลงจากเตียงแล้วก็คลานเข้าไปในห้องพระ มันก็แปลกนะครับ พอถึงห้องพระลุกได้ทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่แหละประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
    ปัจจุบันนี้ผีต้นตระกูลก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วผมเองก็สงบปากสงบคำ
    ไม่พูดพาดพิงอีกต่อไป หาดอกไม้+น้ำ+ขนม มาไหว้เป็นครั้งคราวที่มีโอกาสครับ
     
  6. kung29

    kung29 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +4
    เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีเชื้อสายมอญ (อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี) และเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดพิธีรำผีมอญ ที่บ้านของญาติ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดทำพิธีกรรมของต้นตระกูลของทางตากับยายของเราเอง

    ซึ่งแม่กับป้าเล่าให้ฟังว่า พิธีรำผีมอญนี้เป็นพิธีที่ไม่ได้จัดทำกันง่ายๆ ครั้งล่าสุดที่ทำคือเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตอนแม่เรายังเด็กอยู่เลย

    แล้วบังเอิญ พี่สาวเราคนนึงซึ่งเป็นญาติๆ กันเค้ากำลังจะแต่งงาน ก็มีหมอดูทักว่าพี่เค้าเป็นคนมอญหรือป่าว ให้ไปจัดพิธีรำผีซะนะ แล้วครอบครัวจะอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายร่ำรวย

    หนึ่งในพิธีนั้นจะให้สะใภ้ ลูก หลาน ทั้งหญิงชาย เฉพาะตระกูลผีเดียวกันเท่านั้นมาร่วมรำ ซึ่งการรำนี้จะมี วงดนตรีไทย พวกกลองตะโพน และที่แปลกสุดๆ ก็จะเป็นคนที่มารำนั้นคือญาติ พี่น้องของเราเอง ซึ่งทุกคนที่รำนั้น ล้วนแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ประมาณว่า "ถูกผีเข้า" แต่ไม่น่ากลัวตรงที่เป็นผีบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ มิใช่ผีสัมภเวสีแต่อย่างใด

    พี่สะใภ้เราก็เป็นคนหนึ่งที่กลัวมาก แต่ก็ต้องเข้าพิธีด้วย ไม่ว่าจะเป็นแม่ ป้า น้า อา ทุกคนปรากฎว่า ทั้งรำ ทั้งเต้นไม่หยุด จนหมดเวลาของเขาประมาณ คนละ 10-15 นาที พอกลับถึงบ้านก็เล่าสู่กันฟังอย่างสนุกสนานและมีเรื่องแปลกๆ หลายอย่างที่ได้เจอ ทุกคนจะบอกว่ารู้ตัวว่าตัวเองกำลังรำอยู่แต่ไม่สามารถหยุด หรือควบคุมได้เลย ขนาดยายเราอายุ 80 ปีแล้ว กระโดดเหมือนคนสาวๆ เรยคิดดู เราก็กลัวยายจะล้มไป เพราะยายไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนแม่เราค่อนข้างเป็นคนอ้วน แต่กระโดดได้สูงมากๆ เต้นเหมือนม้าเรย หุหุ (ขำ ตลกกันใหญ่เรย) ส่วนญาติคนอื่นๆ ก็เหนื่อยหอบไปตามๆ กัน

    และเหตุการณ์ที่พบในวันนั้น คือเมื่อเวลาเย็นแล้ว พิธีก็ได้จบลง แต่ว่าพี่สะใภ้เรา กลับร้องไห้เสียงดัง ว่า "แม่จ๋า แม่จ๋า" ไม่ยอมกลับบ้าน อ้าวคราวนี้ก็งงกันล่ะซิว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่าป้าเนือง เจ้าของบ้านที่จัดพิธี ต้องเข้ามาปลอบใจ และหมอที่ทำพิธี เค้าก็ถามว่าเป็นใคร พี่สะใภ้เราก็บอกว่าเป็นลูกสาวของป้าเนืองเจ้าของบ้าน แต่ตายไปแล้วตอนอายุ 7 ขวบ (ปัจจุบันคงอายุ 40ปีแล้ว) บอกว่าคิดถึงแม่ อยากได้เสื้อกับกระโปรง ..... บรื๋ออออ น่ากัวเหมือนกันนะ

    สรุปได้ว่าป้าเนืองแกเคยมีลูกคนโต แต่ตายไปนานแล้ว ตอนอายุ 7 ขวบ ก็ไม่ได้ทำบุญไปให้เรย นึกว่าคงไปเกิดแล้ว ครอบครัวเค้าก็เลยทำบุญและซื้อเสื้อผ้าทำบุญไปให้วิญญาณของลูกแกด้วย

    ที่สำคัญคือ พี่สะใภ้เราเค้าเป็นคนจ. สกลนคร แล่ะไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวป้าเนืองเลย เพิ่งแต่งงานกับพี่ชายเราได้ 3 ปี ขนาดที่บ้านเรายังจำไม่ได้เลยว่าป้าแกเคยมีลูกแต่ตายไปนานแล้ว

    อันนี้ก็เป็นอันว่าหลายๆ คนที่มาดูในพิธีคงเชื่อว่าผีมีอยู่จริง แต่ส่วนตัวเราเชื่อ 100% เพราะว่าเคยเห็นคนแก่ผีเข้ามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็กลัวเหมือนกันนะ หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...