น้ำตาโพธิสัตว์...

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NCK2046, 14 กรกฎาคม 2008.

  1. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    วันนี้เพิ่งกลับจากชัยนาท หลังจากไปอยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่มา 10 วัน ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง

    พ่อปลูกถั่วฝักยาวมาได้ 2-3 เดือนแล้ว และก็เก็บขายได้เรื่อยๆวันละ10-20 กิโล ได้เงินประมาณวันละ 100-300 บาท ไม่แน่นอนตามจำนวนถั่วที่เก็บมาได้ และทุกครั้งที่กลับมาจากตลาด ก็เอาเงินมาวางไว้ที่จักรเย็บผ้าให้แม่เก็บไว้ แล้วยังไง แค่เรื่องพ่อปลูกถั่วฝักยาว ทำไมต้องเอามาเล่าให้ฟังด้วย

    ย้อนไปเมื่อตอนข้าพเจ้ายังตัวเล็กๆ อายุแค่ 10 ขวบ ลูกสาวคนโตที่มีแต่คนเอาอกเอาใจแบบคุณหนู สุดแสนจะดูถูกเด็กจนๆที่มาเล่นด้วย ก็ถูกส่งไปอยู่กับป้าอีกตำบลหนึ่ง เพราะปัญหาหนี้สินที่ครอบครัวเราประสบจำนวนหลายล้านบาท ชีวิตคุณหนูผู้สุขสบายก็เปลี่ยนกลายเป็นเด็กบ้านแตกที่พ่อหนีหนี้ ทิ้งแม่และพวกเราไว้เผชิญชะตากรรมข้างหลัง

    แม่ต้องเลี้ยงลูกเล็กๆอีก 2คน ไม่นับข้าพเจ้าและน้องชายคนรองที่อยู่บ้านป้า ความรู้สึกว่าครอบครัวที่อบอุ่นเลือนหายไป ข้าพเจ้าและน้องชายต้องช่วยป้าทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อตอบแทนที่ป้าส่งเราเรียน และเป็นลูกไล่ให้ญาติๆของพ่อค่อนแคะดูถูกตลอดมา แต่ความรู้สึกที่ดีของข้าพเจ้าที่มีต่อพ่อไม่เคยเปลี่ยน รู้สึกสงสารพ่อมาก จนเมื่อเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ และเริ่มจะมีรายได้บ้าง ก็ส่งให้พ่อใช้ตลอด จนพ่อกลับมาอยู่บ้านกับแม่อีกครั้ง พร้อมกับขอเงินข้าพเจ้าไปลงทุนขายเกลือ ด้วยความสงสารพ่อ ข้าพเจ้าทุ่มเทเงินทองให้ทุกอย่าง ไม่ว่าพ่อจะอยากได้เงินเท่าไร ก็หามาให้ทุกครั้ง แต่ธุรกิจที่ทำก็ไม่เคยได้กำไร กลับมีแต่หนี้สินพอกพูนซึ่งสุดท้ายก็เป็นข้าพเจ้าที่ตามใช้ เหมือนตอนที่ยังเด็กไม่มีผิด แถมยังมีภาระน้องสาวที่เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯให้ข้าพเจ้าส่งเสียอีก เพราะแกอยากให้น้องเรียนหลักสูตรอินเตอร์ แต่ไม่มีเงินส่ง สุดท้ายก็คือข้าพเจ้าอีกเช่นเคย

    พ่อยังเดินหน้าสร้างหนี้สินไม่ยอมหยุด จนข้าพเจ้าเหลือจะทน พูดจากันทางโทรศัพท์หลายครั้งให้หยุดลงทุนอะไรใหญ่โตได้แล้ว แต่ทุกครั้งพ่อก็ยังดื้อ แสดงความไม่พอใจออกมาทางน้ำเสียง นี่ชั้นมันผิดมากใช่ไหม?

    ข้าพเจ้าคิดมากจนล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับทราบว่าตัวเองเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ที่พุ่มพวงเป็น จึเริ่มรู้สึกเจ็บใจและคืองแค้น จากความรักความสงสารก็กลายเป็นความเกลียดฝังอยู่ในใจลึกๆ เขาไม่รักเราเลยสักนิด ไม่เคยสนใจเราเลยว่าเราทำงานหนักแทบตายแค่ไหน คงเห็นเราเป็นที่ผลิตเงินอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างโยนทิ้งมาที่เราทั้งหมด เป็นความเจ็บปวดสุดบรรยาย เพราะถ้าคนอื่นทำกับเราคงไม่แค้นเท่า นี่คนๆนี้คือพ่อของเราเองแท้ๆ ที่ไม่เคยรักเราเลย คนรักกันเขาไม่สร้างหนี้ให้อีกคนตามใช้อยู่ฝ่ายเดียวหรอก

    ความด้านชาก็เริ่มเข้าครอบงำหัวใจ ข้าพเจ้าปฏิญาณตนไว้กับฟ้าดินว่า ด้วยบุญทั้งหมดที่ได้บำเพ็ญเพียรมา แม้เกิดมาไม่ว่าชาติใด ขึ้นชื่อว่าคนที่ไม่รักไม่สนใจข้าพเจ้าอย่างนี้ อย่าได้เกิดมาเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องร่วมสายโลหิตข้าพเจ้าเลย คนที่จะมาเป็นพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรหรือลูกหลาน จะต้องรักและใส่ใจ จริงใจต่อข้าพเจ้าอย่างแท้จริงเท่านั้น

    แม้ว่าแค้นแสนแค้นอย่างไร แต่ด้วยหน้าที่ ข้าพเจ้าก็จำต้องตอบแทนคุณท่านเพราะเป็นผู้ให้กำเนิด คิดเสมอว่าเราจะเลี้ยงดูเขาให้ดี แต่อย่ามาเอาอะไรจากความรู้สึกเราอีก มันด้านชาไปหมดแล้ว หลังๆเวลาพ่อโทรมา ข้าพเจ้าก็จะเงียบ ถามคำตอบคำ จนพ่อไม่กล้าโทรมาเอง เพราะรู้ว่าข้าพเจ้าไม่อยากคุยด้วย (เวลาพ่อโทรมา จะถามว่าสบายดีไหม แล้วก็ขอเงินทุกครั้ง)

    และกลายเป็นข้าพเจ้าจะสนิทกับแม่มากกว่า หลังจากไม่ได้คุยกับพ่อนาน 2-3 เดือน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมากลับไปอยู่บ้าน ก็ไม่อยากคุยกับพ่อ แทบไม่มองหน้าแกด้วยซ้ำ แกผอมลงมากและแก่มากแล้ว เห็นแกออกไปเก็บถั่วฝักยาวเอามาขายทุกเช้า ข้าพเจ้าเฝ้าแต่มองดูโดยไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไร รถกระบะเก่าๆบุโรทั่งที่ข้าพเจ้าให้เงินแกไปซื้อมา 25,000 บาท ตอนนี้แกขายไปแค่ 15,000 คงจะเอาเงินมาทำทุนปลูกถั่วฝักยาวนี่แหละ เพราะน้ำมันแพงวิ่งขายเกลือไม่คุ้มแล้ว

    แกพยายามชวนข้าพเจ้าคุยตลอด แต่ข้าพเจ้าจะตอบสั้นๆ ไม่อยากคุยด้วย หลังๆแกคงรู้ตัวเลยไม่ได้ชวนข้าพเจ้าคุยอีก แกได้แต่ซื้อขนมบ้างผลไม้บ้างมาให้กิน แกคงอยากให้อะไรข้าพเจ้าบ้างหลังจากที่ไม่เคยให้อะไรมาเลยตลอดชีวิต ถึงมันจะเป็นแค่ขนมใส่ใส้ มันทอด กล้วยแขก หรือก๊วยจั๊บถุงเดียว แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกทราบซึ้งในความพยายามนั้น มากกว่าที่พ่อจะยกที่ดินหรือสมบัติพันล้านอะไรให้เสียอีก

    ล่วงเข้าวันที่ 8 ข้าพเจ้าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปของพ่อผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยทนงตน ดื้อรั้นไม่ฟังใคร มีความคิดขวางโลก และเอาทุกๆอย่างไปจากข้าพเจ้า สร้างวิบากกรรมให้กับข้าพเจ้าถึง 20 ปีเต็ม กลับกลายเป็นคนแก่ๆที่ดูน่าสงสาร นั่งคัดเมล็ดถั่วจากกระป๋อง เอาถั่วไปส่งที่ตลาดแล้วเอาเงินให้แม่เก็บ ซึ่งปกติแกจะเก็บเงินเองและใช้หมดไปกับการลงทุนอื่นๆอย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้ไม่ ทุกบาททุกสตางค์แกส่งให้แม่เก็บ ถึงมันจะเป็นเงินไม่มากมายอะไร แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจของแก ข้าพเจ้าแอบคิดว่า ถ้าแกทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกเมื่อตอนหนุ่มๆ ป่านนี้พวกเราคงรวยกันมากๆแล้ว ไม่ต้องลำบากอย่างนี้

    วันนี้พ่อขับรถมอเตอร์ไซค์มาส่งข้าพเจ้าที่ท่ารถ เราไม่ได้คุยอะไรกันเลยตลอดทาง ข้าพเจ้ารู้ดีว่าเพราะอะไร ความรู้สึกเครียดแค้นนั้นสลายตัวลงไปแล้ว แววตาสุดท้ายก่อนจากข้าพเจ้ามองพ่อด้วยความรู้สึกใหม่ ความรู้สึกของการให้อภัย แม้เราจะไม่ได้พูดอะไรกันเลย

    ในความทุกข์ยากที่ผจญมาตลอด 20 ปีเต็ม ข้าพเจ้ารู้ด้วยสัญชาตญาณว่าฟ้ากำลังจะเปิดแล้ว นั่งบนรถทัวร์วันนี้ข้าพเจ้าจึงร้องไห้ด้วยความปิติ อย่างน้อยความอดทนทำดีของข้าพเจ้าก็เป็นผล แม้ก่อนหน้านี้ไม่มีที่ท่าเลยว่าชีวิตจะดีขึ้น แต่จากนี้ไปข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่าครอบครัวของเราจะได้พบความสุขเสียที

    ไม่มีโพธิสัตว์องค์ใด ได้ตรัสรู้โดยไม่ต้องผจญความทุกข์ยากแสนสาหัส

    น้ำตาของโพธิสัตว์หลั่งเพราะความทุกข์ยากเช่นนี้มากกว่าน้ำทะเลในมหาสมุทรทั้งสี่รวมกันเสียอีก

    แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะถึงฝั่งฝัน...

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2008
  2. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  3. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนา

    [​IMG]

    ณ.โอกาศนี้ ขอน้อมองค์คุณ
    พระพุทธะอรหันต์ พระมหาพุทธะอรหันต์
    พระอรหันต์ พระมหาอรหันต์
    พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์
    จงบันดาลให้ทุกท่าน
    ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา
    ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามพุทธะประสงค์ ตรงต่อพระนิพพาน
    ในชาติปัจจุบันกาลนี้ด้วยเทอญ

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  4. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    ถึงคุณเจ้าของกระทู้นะครับ

    ก่อนอื่น ผมขอบอกเลยว่า ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดีนะครับ ว่าเป็นอย่างไร ต้องผจญความทุกข์ยากมากมาย เข้าใจ ความรู้สึกนี้มากๆ

    แต่อยากจะบอกว่า ในเมื่อคุณให้อภัยคุณพ่อแล้ว (หรือ แม้จะไม่ให้อภัยก็ตามเถอะ)

    ไม่ควร ที่จะนำเนื้อหาเกี่ยวกับคุณพ่อ โดยเฉพาะในแง่ลบ หรือ ไม่ดีนักมาเขียน ม้ว่าจะมีเจตนาดี นำมาให้เป็นอุทาหรณ์ หรือ อะไรก็ตามแต่

    (ผมเข้าใจว่าคุณอยากจะระบาย หรือ เขียนให้พระโพธิสัตว์ท่านอื่นทราบ เข้าใจนะครับ)
    แต่ด้วยคุณของบิดาและมารดา นั้นสูงประมาณนับไม่ได้ เป็นพระอรหันต์ของลูก การที่คุณ นำเรื่องราวคุณพ่อมาเขียน ไม่ควรนะครับ

    เพราะด้วยเศษกรรม ที่คุณคิดว่าเพียงนิดเดียว แค่นี้ (แม้แค่นิดเดียวจริงๆ) จะนำให้คุณต้องมีวิบากกรรมเช่นนี้ อีกหลายชาติมากๆนะครับ เตือนด้วยความหวังดี
    เพราะเนื่องจาก พระคุณของท่านยิ่งใหญ่เหนือสิ่งใด ดังนั้นแม้เศษกรรมเพียงนิดเดียว ก็จะทำให้เกิด วิบาก (ผลของกรรม) ตามมาอีกหลายร้อยชาติ

    แม้ว่าท่านอาจจะทำไม่ดีกับคุณก็ตาม คุณก็ยังไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดน้อยใจนะครับ เพราะพระคุณท่านใหญ่หลวงเหลือประมาณนัก

    ยิ่งถ้าคุณอธิษฐานเป็นพระโพธิสัตว์ด้วยแล้ว กรรมทุกอย่างที่คุณทำ จะต้องมาชดใช้ทั้งหมด แม้ในชาติสุดท้ายที่เป็นพระพุทธเจ้าก็ตามเถอะ ไม่ว่าเศษของกรรมจะน้อยนิดเพียงใด (ลองไปอ่านคำอธิบาย ในกระทู้ที่ผมตั้งในครับ เรื่อง การไม่ควรปรามาสบุคคลผู้ปรารถนาพุทธภูมิ)

    ด้้วยความหวังดี ไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงนะครับ คุณควรจะเก็บความรู้สึก นี้ไว้ในใจดีกว่า และ ถ้าลืมได้ หรือให้อภัยได้ก็ยิ่งดีนะครับ อย่าได้นำข้อความ องคุณพ่อคุณมาเขียน แม้ว่าคุณจะเจตนาดีก็ตามเถอะ

    พุทธภูมินอกจาก จะมีเมตตาให้อภัยแล้ว จะต้องมีขันติเป็นเลิศนะครับ ความทุกข์ยากแค่ไหน จำเป็นต้องอดทนไว้ ไม่ควรนำมาเขียน เพราะถ้าคุณเขียน ก็แสดงว่า ขันติคุณหมด อุปมาเปรียบดังธรณี ที่แม้ใครจะถ่มน้ำลาย หรือ ถ่ายปัสสาวะอุจจาระใส่ ก็หามีสักครั้งไม่ ที่ธรณีจะสั่นคลอน

    คิดในแง่ดีนะครับ พยายามอดทน หรือ ขันติ ก็เป็นการสร้างขันติบารมี อีกมุมหนึ่ง ได้ชื่อว่าเก็บแต้ม ทั้งเมตตาบารมี และ ขันติบารมี ดีออก สองเท่า
    แต่ถ้าคุณให้อภัยแล้ว แต่ยังนำมาเขียน ก็แสดงว่า ได้แค่เมตตาบารมี ขันติบารมีไม่ได้ อันนี้ขาดทุนนะครับ


    ถ้าคุณสามารถพูดกับคุณพ่อ ทำดีกับคุณพ่อโดยไม่ลังใจแม้แต่นิดโดยไม่แอบคิดว่า คุณพ่อทำอะไรกับคุณบ้าง ถือว่าเป็นคุณพ่อบังเกิดเกล้า และ สามารถลืม ได้สนิทใจ กับเรื่องราวที่คุณพ่อทำกับคุณ คุณจะถึงผ่านข้อสอบข้อนี้ได้นะครับ ถ้ายังทำไม่ได้ คุณก็จะต้อง กลับมาเกิดอีกแบบนี้หลายๆชาติจนกว่าข้อสอบข้อนี้จะผ่านนะครับ

    ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียวหรอกที่มีปัญหาอึดอัด เชื่อว่าทุกคน คงมีความทุกข์มากมาย รวมทั้งตัวผมด้วย แต่ต้องอดทน ไม่ปริปากให้ใคร ยกเว้นนานๆครั้ง ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นบิดามารดาแล้ว ผมขอเถอะครับ ไม่อยากให้คุณต้องได้รับวิบากกรรมนี้อีกหลายชาติ

    ว่างๆจะเล่าเรื่อง เหตุที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมถูกพระเทวทัต กลิ้งหิน ทับพระองค์ จนเกิดห้อพระโลหิต ที่นิ้วก้อย เดี๋ยวมาอธิบายครับ แล้วจะรู้ว่า เศษกรรมนิดเดียวจริงๆ ก็ตามพระองค์มาจนชาติสุดท้าย

    อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครจะเห็นด้วยหรือ ไม่ แล้วแต่นะครับ ไม่บังคับ
    กัลยาณมิตร
     
  5. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    คุณพ่อของคุณย่อมได้รับกรรมในส่วนที่ท่านทำไม่ดี กับ ครอบครัว
    และคุณก็ได้รับผลกรรม (ซึ่งคุณอาจเคยไปทำกับใครไว้ในหลายชาติก่อนๆ จึงประสบวิบากกรรมอันนี้)

    คุณพ่อคุณปัจจุบัน ตามที่คุณเล่า ท่านก็ได้รับกรรมที่ท่านทำมามากแล้ว ยิ่งท่านแก่ลงทุกวัน พยายามสำนึกผิด แล้ว คุณก็ควรปฎิบัติกับท่านอย่างบุตร ที่ดี ที่พึงกระทำต่อบิดาเทอญ

    ส่วนผลของกรรมที่พ่อคุณทำมาแต่ในอดีต ท่านย่อมได้รับผลของกรรมที่ท่านทำมาแน่นอน แต่หาใช่หน้าที่ของบุตร หรือ หน้าที่ของคุณที่พึงจะซ้ำเติมท่านไม่

    "ข้าพเจ้าปฏิญาณตนไว้กับฟ้าดินว่า ด้วยบุญทั้งหมดที่ได้บำเพ็ญเพียรมา แม้เกิดมาไม่ว่าชาติใด ขึ้นชื่อว่าคนที่ไม่รักไม่สนใจข้าพเจ้าอย่างนี้ อย่าได้เกิดมาเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องร่วมสายโลหิตข้าพเจ้าเลย คนที่จะมาเป็นพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรหรือลูกหลาน จะต้องรักและใส่ใจ จริงใจต่อข้าพเจ้าอย่างแท้จริงเท่านั้น"

    การเป็นพุทธภูมิ ต้องมีจิตใจกว้าง มีเมตตา เหลือสุดประมาณเกินกว่าจะคะเนได้ ต้องมีเมตตาแม้กับศัตรูที่มาปองร้ายทำลายชีิวิตเรา หรือ แม้แต่จะฆ่าเราก็ตาม

    ดังประวัติที่พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ ในสมัยหนึ่งที่พระองค์เป็นฤาษี ทรงสอนให้รู้จักขันติ แต่มีกษัตริย์กินเหล้า ไม่เชื่อ ว่าพระองค์มีขันติจริง จึงสั่งให้ตัดแขน ตัดขา ตัด หู ของฤาษีทีละส่วน แต่พระโพธิสัตว์หาได้สะทกสะท้านไม่ ก่อนสิ้นลมหายใจ พระองค์ยังทรงขอให้กษัตริย์ผู้นั้นมีอายุยืนนาน หาได้ปองร้าย เคียดแค้นแต่อย่างใด (อันนี้สรุปคร่าวๆ)


    แล้วนับประสาอะไรกับพ่อคุณ ผู้ให้กำเนิดคุณมา แค่การที่ท่านให้คุณกำเนิดมา ก็ใช้บุญคุณชาตินี้ไม่หมดแล้ว คุณจริงไม่ควรคิดเช่นนั้นนะครับ

    ถ้าคิดเช่นนั้น ลองกลับไปถามใจตัวเอง สิว่า การที่คุณปรารถนาพุทธภูมิ เพื่ออะไร ต้องทำบารมีอะไรบ้าง แล้วเราพร้อมกับสิ่งนั้นหรือไม่

    คำพูดอาจจะดูแรงนะครับ แต่หวังดีเต็มร้อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2008
  6. ปัจเจกพุทธะ

    ปัจเจกพุทธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +121
    อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
    ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
    อนุโมทนาครับ.
    บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
    โทร.1900-222-200 6บาท/นาที
     
  7. ท้องฟ้าและแผ่นดิน

    ท้องฟ้าและแผ่นดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +127
    เราเองก็เคยเกลียดพ่อแม่
    เราเองก็เคยเกลียดคนทั้งโลก
    เราเองก็เคยสงสัยว่าทำไมต้องเกิดมา
    ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น
    ความตายคือหนทางในใจ
    ความทุกข์คือวิถี
    ความเหงาคือที่สถิตย์
    ไม่รู้คืน ไม่รู้วัน
    ชีวิตคือความว่างเปล่า และหม่นหมอง
    โทษทุกสิ่ง โทษทุกอย่าง

    เราไม่ได้ฆ่าตัวตาย
    แต่ใจเราตายไปเนิ่นนาน
    นานแสนนาน

    แต่วันเวลาเปลี่ยนไป
    ณ วันนี้เราขอขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
    เรารู้หนทางแห่งเรา
    ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในอดีต
    ประดุจเปลวเพลิง
    ที่จักแผดเผาเราอย่างบ้าคลั่ง
    เพื่อที่เราจักได้เข้มแข็งขึ้น
    จากเหล็กชั้นเลว กลายเป็นเหล็กน้ำพี้
    จากเม็ดกรวดธรรมดา เจียรนัยกลายเป็นเพชรน้ำงาม
    จากสัตว์ตัวหนึ่ง กลายเป็นโพธิสัตว์

    ขันติบารมี เมตตาบารมี ปัญญาบารมี ทานบารมีรวมทั้งการให้อภัยทาน
    และบารมีทั้งหมด
    เราได้มาจากไหน
    ทุกสิ่งเกิดจากความเมตตาของทุกคนรอบข้างเรา
    เราเป็นสุขแล้ว
    เราอยากให้ทุกคนเป็นสุขเช่นกัน
    เราเป็นสุขเพราะรู้ว่าเราไม่ใช่เราในอดีต
    เราในอดีตนั้นตายไปเนิ่นนานแล้ว อดีตจบสิ้นไปนานแล้วเช่นกัน

    อย่าลืมกราบเท้าผู้มีพระคุณที่ทำให้เธอเกิดมาถึง 2 ครั้ง
    ครั้งแรกในฐานะคน
    และครั้งที่สอง ในฐานะพระโพธิสัตว์

    จะปลดปล่อยสรรพสัตว์ไปทำไม
    หากยังปลดปล่อยตัวเองจากอดีตไม่ไ้ด้

    จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ไปทำไม
    หากคนที่รักเธอมากที่สุดยังร้องไห้เพราะเธออยู่

    ไม่ว่าเธอจะเป็นหญิงหรือชาย
    หากธรรมแห่งอภัยทานเกิดขึ้นแก่เธอ
    ไม่ว่า อดีต ปัจจุบัน หรือว่าอนาคต
    เราขอกราบธรรมนั้นด้วยใจบูชา

    เรารู้ว่าเธอผ่านความเลวร้ายมาแล้ว
    เราแค่อยากจะบอกว่า
    โพธิสัตว์ทุกคนต้องเจอเรื่องอย่างเธอเช่นกัน
    ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง
    ทุกคนเกิดมามีบทเรียนที่ต้องเรียนรู้

    น้ำตาแห่งความเศร้าโศกในอดีตจักเหือดหาย
    น้ำตาแห่งความปิติในปัจจุบันจักก่อกำเนิด
     
  8. combatgirl

    combatgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +121
    ยินดีด้วยค่ะ
     
  9. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    ขอพี่ได้เปรียบประดุจดังประทีปธรรมนำทาง แก่ทุกดวงจิต ให้ก้าวล่วงวัฏสงสาร สู่วิมุติธรรมโดยเร็ว
    ขอบารมีพี่จงเป็นดังนาวาลำใหญ่ พาฝูงชนก้าวข้ามวัฏสงสาร เพื่อความวิมุติหลุดพ้น คือ พระนิพพาน ด้วยเทอญ
    ขอแสดงความยินดีในธรรมที่พี่ได้
    ขอแสดงความยินดีในเส้นทางมหาบารมี ที่พี่กำลังเดิน
    ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่พี่ ตลอดเส้นทาง
    ด้วยจิตคารวะ
    ณ.วชิรา
     
  10. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    ผมขอให้กำลังใจแล้วกันนะครับ หวังว่าทุกอย่างในชีวิตคุณจะผ่านไปได้ด้วยดี เจริญทั้งในทางโลกและทาธรรมมากขึ้น

    อนุโมทนาสาธุครับ
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    พระคุณพ่อ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1326572#post1326572
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
    พุทโธหาย....?
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1329341#post1329341
    ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา) เอ๊า!!ใครอกหักยกมือขึ้น
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1338677#post1338677
     
  11. พระชยภัทร อนามโ

    พระชยภัทร อนามโ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,667
    ค่าพลัง:
    +728
    จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
     
  12. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    ในความเห็นส่วนตัว พุทธภูมิก็ไม่ใช่สิ่งพิเศษไปกว่าสามัญชนเท่าไหร่ อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด เป็นกิเลสที่มีกันทุกคน แต่สิ่งที่พุทธภูมิมีมากกว่าสามัญชนก็คือ เมื่อถึงคราวจำเป็น ความคิดของพุทธภูมิ จะเพ่งเล็งไปเพื่อช่วยคนอื่น มากกว่าความเจ็บปวดของตน

    เมื่อใดที่ใส่ใจในความเจ็บปวดของตน ความเจ็บปวดนั้นจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อใดที่ใส่ใจในความเจ็บปวดของผู้อื่น ความเจ็บปวดส่วนตนจะจางคลายไป ดังนั้นการช่วยเหลือคนอื่นให้มีความสุขจึงช่วยทำให้จิตใจของเหล่าพุทธภูมิจางคลายจากทุกข์

    จึงฝากบอกเพียงว่า พุทธภูมิไม่ได้มีความเลิศเลออะไรมากกว่าสามัญชน พระอริยเจ้าต่างหากที่มีคุณสมบัติพิเศษปานนั้น

    พุทธภูมิเป็นเพียงเผ่าพันธ์พิเศษ ที่มีความอดทนต่อความทุกข์ และมีความสุขได้ท่ามกลางไฟทุกข์ด้วยวิธีประหลาดๆ

    ผมก็พุทธภูมิน่ะ และความทุกข์ของผมก็คล้ายๆคุณนั่นแหละ ถามว่าผ่านมันมาหรือยัง ก็ตอบว่ายังไม่รู้น่ะ มันก็มาเป็นระลอกๆ แล้ววันหนึ่งมันก็จะผ่านไป
     
  13. Ball ^_^

    Ball ^_^ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +49
    อนุโมทนาครับ

    เป็นกำลังใจให้พระโพธิ์สัตว์ทุกท่านฝ่าฟันอุปสรรค์ จนสำเร็จซึ่งพระโพธิญาณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...