พระเกษมไม่สอนภาวนาหรือ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย sasitorn2006, 1 สิงหาคม 2008.

  1. sasitorn2006

    sasitorn2006 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +4
    เตรียมความพร้อมสู่การภาวนา จากพระไตรปิฎก

    ศีลยังไม่ดีไปทำกรรมฐาน...ผลคือบ้า เล่ม 1 หน้า 763

    .....จริงอยู่ ความบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า เป็นของได้ด้วยยาก,
    การบรรพชาและการอุปสมบท เป็นของได้ด้วยยากยิ่งกว่านั้น.

    แต่พระวินัยธร (ผู้ช่ำชองพระวินัย) ควรพูดอย่างนี้ว่า เธอ จงปัดกวาดโอกาสที่เงียบสงัด
    แล้วนั่งพักกลางวันชำระศีล ให้บริสุทธิ์ จงมนสิการ (ตรึกตรอง) อาการ ๓๒ ดูก่อน.
    ถ้าศีลของภิกษุนั้นไม่ด่างพร้อยไซร้, กรรมฐาน ย่อมสืบต่อ, สังขารทั้งหลาย ก็เป็นของปรากฏชัดขึ้น,
    จิตก็เป็นเอกัคคตา (มีความสงบ) ดุจได้บรรลุอุปจาระและอัปปนาสมาธิ ฉะนั้น,
    ถึงวันจะล่วงเลยไปแล้วก็ตาม เธอก็ไม่ทราบ. ในเวลาวันล่วงเลยไป เธอมาสู่ที่อุปัฏฐากแล้ว ควรพูดอย่างนี้ว่า
    ความเป็นไปแห่งจิตของเธอ เป็นเช่นไร?
    ก็เมื่อเธอบอกความเป็นไปแห่งจิตแล้ว ควรพูดกะเธอว่า
    ขึ้นเชื่อว่าบรรพชามีความบริสุทธิ์แห่งจิตเป็นประโยชน์, เธออย่าประมาท บำเพ็ญสมณธรรมเถิด.

    ส่วนภิกษุใด มีศีลขาด กรรมฐานของภิกษุนั้นย่อมไม่สืบต่อ จิตย่อมปั่นป่วน
    ถูกไฟคือความเดือดร้อนแผดเผาอยู่ ดุจถูกทิ่มแทงด้วยปฏัก ฉะนั้น
    ภิกษุนั้น ย่อมลุกขึ้นในขณะนั้นทีเดียว เหมือนนั่งอยู่บนก้อนหินที่ร้อน ฉะนั้น......


    ศีลยังไม่ดี
     
  2. sornchai-k

    sornchai-k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +672
    โห เยอะ อ่านไม่หมดครับ ขอโทษนะครับสื่อเรื่องอะไรครับ
     
  3. sasitorn2006

    sasitorn2006 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +4
    การปฎิบัติ สมาธิ และ ภานาเพื่อให้เกิดปัญญาที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนา
    โดยต้องดำเนินตามขั้นตอน ทาน ศีล สมาธิ และปัญญา อย่างถูกต้อง ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้น มรรคผล ก็ไม่ใช่เรื่องใกลตัว

    และสิ่งเหล่านี้กำลังสื่อว่า หลวงพ่อมิได้คิดคำสอนขึ้นเอง ตั้งตัวเป็นศาสดาเสียเอง แต่หลวงพ่อเป็นเพียง สาวกของพระพทธเจ้า จึงนำพระพุทธพจน์ของพระองค์มาสอนพวกเราต่อแค่นั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2008
  4. guitar1913

    guitar1913 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +81
    นั่นหล่ะครับคือสิ่งหนึ่งที่ผมเคยไปกราบเรียนสอบถามท่าน ผมเลยขอถอยกลับมาศึกษาปฏิบัติจากพระหลวงพ่อ,หลวงตา บ้านนอก ที่ท่านอาจจะศึกษาพระไตรปิฎก ไม่มากแต่มุ่งเน้นให้คนละถอนกิเลส ตัณหา ซึ่งเป็นสมุทัย เพื่อความดับทุกข์ เพราะด้วยสภาพปัจจัยเเวดล้อมปัจจุบัน หากจะรอให้ทานสมบูรณ์,ศิลบริสุทธิ์ อาจจะไม่ได้เริ่มเข้ามามองเข้ามาที่ตัวเอง (โอปนยิโก)ตามที่พระพุทธองค์สอน และผมเองโอกาสเข้าวัดไม่มากแต่ฟังวิทยุหลวงตา,สังฆทาน ได้น้อมคำสอนท่านหลวงตา ซึ่งทุกวันก่อนทำวัตรเย็น ทางสถานีจะบอกว่า หลวงตาท่านสอนให้ทุกวันให้กราบพระสวดมนต์ เพราะเป็นจิตเป็นใจ .... เพราะหากรอความสมบูรณ์ข้างต้นทั้งทาน,ศิล หากตายก่อน ภพหน้าไม่รู้จะได้เกิดเป็นมนุษย์พบพุทธศาสนา และได้ฟังธรรมของพระศาสดาหรือไม่ เพราะหากไม่มีพระพุทธรูป(ด้วยพุทธบริษัทสายพันธ์ใหม่ไม่ยึดเรื่องดังกล่าว )ให้นอบน้อม นโม ให้เสื่อมใสศรัทธา ก่อนจะมาศึกษาธรรม คงจะลำบาก เพราะหากเทียบเคียงกับเรื่องการศึกษาในปัจจุบัน สมัยผมเรียนมานี มานะ สมัยนี้ไม่มีก็คงเหมือนกัน และโอกาสที่พุทธบริษัท ที่ยังไม่เลื่อมใส จะเข้าถึงพระไตรปิฎกเลยคงยาก และอีกอย่างพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ส่วนใหญ่ก็ได้พร่ำสอน ธรรมะอยู่ที่จิตที่ใจ การศึกษาคือการศึกษาเข้ามาข้างในตัว ดังนั้นหากไม่เร่งภาวนาจะเอาอะไรมารู้ ซึ่งผมเคยได้รับมาจากวิทยุ เมื่อภาวนาและเข้าถึงจุดหนึ่ง ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพระตถาคต,พระธรรม,พระสงฆ์ จะมากจนแทบน้ำตาไหล
     

แชร์หน้านี้

Loading...