พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 12 ตุลาคม 2008.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    คัดลอกจากบทความของคุณ 00ching00 ใน
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=18353

    -+( ตอนแรกไม่เชื่อ แต่มีในคัมภีร์ของกรมศิลปากร
    อยู่ในเถรวาทของพวกเรา เคยมีพระพุทธเจ้าองค์แรกจริง ๆ
    แต่ปรินิพพานไปนานแล้ว )
    -+ข้อมูลหาอ่านได้ในหอสมุดแห่งชาติครับ
    -+พระพุทธเจ้าพระองค์แรก ที่ตรัสรู้ก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีอยู่ จริง ๆ
    และมีคัมภีร์ปฐมมูลรับรองพระนาม คือ " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"
    -+หอสมุดแห่งชาติ มีคัมภีร์เก่า ๆ มากมายที่ยังไม่ได้แปล และมีสุดยอดคัมภีร์อีกหลาย ๆ คัมภีร์ที่ คนไทย ยังไม่รู้ และเป็นของเถรวาทแท้ ๆ ด้วย ครับ
    -+พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    ทรงตรัสแสดงแก่ท่าน " พระอัญญาโกณฑัญญะ"

    และ พระปฐมสาวกทุกองค์ในศาสนาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็จะทูลถาม

    พุทธประวัติ ของ " พระพุทธเจ้าองค์ปฐม"

    พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตทุกพระองค์ก็จะทรงตรัสแสดงให้ฟังปฐมสาวกได้ฟัง

    แม้มาในศาสนาของพระพุทธเจ้าของเราก็เหมือนกัน

    คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่มาก ต้นฉบับ เป็น " ภาษล้านนา "

    คณาจารย์ของกรมศิลปากร ได้แปลรวมไว้อยู่ใน หนังสือเล่มใหญ่ ชื่อ

    " โลกุปปัตติ อรุณวดีสูตร ปฐมมูล ปฐมกัป มูลตันไตรย "


    -และถ้ามีปัญหาถามว่า " พระพุทธเจ้าองค์แรก ใน พระพุทธศาสนา ที่ตรัสรู้ก่อนพระ

    พุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงพระนามว่าอะไร ?

    พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ อุบัตขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

    และพระองค์ไม่เคยได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นใดมาก่อนเลย เพราะยังไม่มี

    พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่องค์เดียว

    พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ใช้ระยะเวลาในการประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์เป็นเวลา

    ยาวนานกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่เกิดขึ้นมาภายหลัง คือ ทรงใช้เวลา 5,000 ปีนั่ง

    ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี และ

    ไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์ในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์มาก่อนเลย

    พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมมูล พระองค์นั้น ทรงพระนามว่า

    " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า "

    พระองค์มีพระชนม์มายุ 100,000 ปี แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน

    พระองค์ได้ทรงพยากรณ์เป็นพระองค์แรก ว่า

    " ต่อไปภายภาคหน้า ตระกูลของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ซึ่งจะมาตรัสรู้ต่อจาก

    พระองค์ จะมี 3 ตระกูล คือ

    1. ปัญญาธิกะ

    2. สัทธาธิกะ

    3. วิริยาธิกะ

    ซึ่งมีเหตุมาจาก มานพ 3 คน ได้มีสัทธาเลื่อมใสปั้นพระพุทธรูปเหมือน " พระติกขะ"

    คนแรก มีวิริยะน้อย และต้องการจะปั้นให้เสร็จเร็ว พระรูปที่ปั้นจึงมีขนาดเล็กที่สุด

    ด้วยผลแห่งกรรมนี้ จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าประเภท "ปัญญาธิกะ" คือ

    ใช้เวลาในการสร้างบารมีน้อยเพื่อให้ตรัสรู้ได้เร็วที่สุด และพระวรการก็เล็ก

    เหมือนกับพระรูปที่ปั้น

    คนที่ 2 มีสัทธามาก แต่มีวิริยะน้อย ปั้นเหมือนพระติกขะ มากกว่าคนแรก พระรูปมี

    ขนาดปานกลาง ด้วยผลแห่งกรรมนี้ จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    ประเภท "สัทธาธิกะ" คือ ใช้เวลาในการสร้างพระบารมีปานกลาง

    คนที่ 3 มีวิริยะแก่กล้ามากที่สุด และต้องการจะปั้นพระพุทธรูปให้เหมือน "พระติกขะ"

    มากที่สุด จึงได้ใช้ระยะเวลาในการปั้นนานที่สุด และพระพุทธรูปที่ปั้นขนาด

    ใหญ่เท่าองค์จริง ด้วยผลแห่งกรรมนี้ จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าช้าที่สุด

    แต่ มีพระรูปกายสูงใหญ่มากที่สุด ใช้เวลาในการสร้างบารมีนานที่สุด


    นี่คือ มูลเหตุแห่งการเกิดขึ้นของ " พระพุทธเจ้า 3 ประเภท" ครับ

    [​IMG]
     
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +29,754
    มหาโมทนาสาธุ



    ...แม้มิได้เป็นหนึ่ง ที่นำหน้า

    แต่ขอเป็นข้า รองบาท ผู้สิ้นอาสวะให้เหยียบย่าง

    เป็นสะพาน ให้รัตนะ ออกโปรดสัตว์


    ขอเป็นดิน รองรับ แม้อุจาระ

    ให้พีชะ เหล่าพืชสัตว์ ได้อุบัติ และ เติบโต



    ด้วยอำนาจแห่งศรัทธาในรัตรานุภาพ และ พุทธเดชานุภาพนี้

    ด้วยอำนาจแห่งสัจจะ นี้

    ขอให้ข้าพเจ้า สำเร็จกิจดั่งปรารถนา แม้ต้องผ่านภพพระบรมศาสดา

    อีกนับล้านล้านโกฏิ เป็นเอนกอนันต์ แห่งจำนวนพุทธองค์ที่จะมาตรัสรู้



    สัจจะ สัจจัง อธิษฐามิ




     
  3. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    หลวงพ่อฦาษีลิงดำก็กล่าวไว้บ่อยๆ สมเด็จองค์ปฐม ลองไปหาอ่านได้ครับ
     
  4. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  5. ทรัพย์พระฤาษี

    ทรัพย์พระฤาษี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    โมทนาด้วยครับ


    <TABLE class=webtitle2 height=76 width="53%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=10>พระนิพพาน ไม่ใช่ภาษาพูด


    </TD></TR><TR><TD height=10>ไม่ใช่ภาษาเขียน แต่เป็นภาษาปฏิบัติ


    </TD></TR><TR><TD height=10>( คำสอนของ พระองค์ที่ 10 )


    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    [​IMG]




    [​IMG][​IMG][​IMG]ผมมีบทความดีๆเกี่ยวกับในหลวง อยากให้ลองอ่านกันครับ[​IMG][​IMG][​IMG]
    คลิกนี้
    http://palungjit.org//showthread.php?t=150879
    <!-- / message -->
     
  6. มาร-

    มาร- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +487
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ดีแล้ว ชอบแล้ว


    _____________________


    บุญกุศลเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจัก จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ร้อยชาติก็ดี หมื่นชาติก็ดี อสงไขย์ชาติก็ อนันตชาติก็ดี


    ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมอำนาจพระพุทธคุณอันไม่มีประมาณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักวาลที่มิได้มีประมาณ ทั้ง ห้วงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตกาล โดยมีสมเด็จ ภันเต ภควา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์พระประถม
    องค์พระสิริมิตร องค์พระธรรมสามี พระธรรมราชา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระ สิขี ทศพล ญาณที่1 เป็นสมเด็จองค์พระประธาน แห่งองค์พระพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระธรรม พระสัจธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อั้นไม่มีประมาณ เป็นองค์พระธรรมคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งองค์พระปัจเจกพุทธคุณ แห่งองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ อันไม่มีประมาณ ทั่วทั้งอนันตจักวาล ทุกกาล ทุกกัปป์ ทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็น องค์พระปัจเจกพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจ แห่งคุณพระสงฆ์ พระสาวกแห่งพระผู้มีพระภาค องค์ภันเต ภควา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทั่วทั้ง อนันตจักวาล อันไม่มีประมาณ อันหาที่สุด มิได้ เป็น พระสังฆคุณ

    ข้าพระพุทธขอน้อมอำนาจ แห่งคุณพระบิดา พระมารดา พระอรหันต์ แห่งบุตร ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และของข้าพเจ้าทุกๆชาติ ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ เป็น คุณแห่งบิดาและมารดา

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณพระอาจารย์ ทุกๆรูป ทุกๆนาม ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ ตลอด อดีต ปัจจุบัน และอนาคต มีพระคุณที่ได้ประสิทธิประสาท วิชา สั่งสอนในคุณความดี ตั้งมั่นในสัมมาทิฐิ เป็น
    คุณแห่งครูบาอาจารย์

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณของ พระพรหม และเทพ เทวดา พระยายมราช ทุกรูป ทุกนาม ทุกๆชั้นฟ้า ทั้วทั้ง อนันตจักวาล สากลพิภพ อันไม่มีประมาณ จงร่วมกันบันดาล ปกป้องรักษาและอนุโมทนา

    ขออำนาจแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระปัจเจกพุทธคุณ พระสังฆคุณ คุณแห่งบิดา มารดา คุณแห่งครูบาอาจารย์ และ ทวยเทพเทวดาทั้ง โปรดดลบันให้....

    กุศลผลบุญ เหล่าใด ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำมา ได้บำเพ็ญมาโดยชอบ จำได้ก็ดี จำมิได้ก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขออุทิศกุศลเหล่านั้น แด่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ขอให้ได้ร่วมอนุโมทนา ขอให้มีส่วนร่วมในกองกุศลของข้าพเจ้า เพื่อยังผลให้ที่สุดแห่งกองทุกข์ จงหมดสิ้นไปด้วยเทอญ....
     
  7. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ตามหลวงพ่อฤาษีฯ สอนไว้ สมเด็จองค์ปฐมทรงพระนามว่า "พระสิกขีทศพล" ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกที่เลือกใช้พระนามนี้ จึงเป็น สมเด็จพระสิกขีทศพลที่ ๑
     
  8. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    กว่าจะมาถึงร้อยหรือพันจนนับไม่ได้ต้องมีจุดเริ่มต้นสิครับ
    อนุโมทนาครับ
    ขอนอบน้อมแด่องค์ปฐมบรมพุทธเจ้าที่เริ่มหมุนพระธรรมจักร พระพุทธเจ้าพระองค์ลำดับต่อมาเรื่อยๆที่หมุนพระธรรมจักรให้โลกนี้พรหม สวรรค์นรกและนาคพิภพได้รับ รสพระสัทธรรม
    แลน้อมนอบต่อพระสมณโคดมองค์ปัจจุบันที่ยังธรรมจักรให้หมุนอยู่ในกาลนี้จนข้าพระบาทได้รับรสนั้น
    ด้วยเศียรเกล้าของข้าพเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2008
  9. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +199
    ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ขอบพระคุณจริงๆครับ
     
  10. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    [​IMG]
     
  11. สี บุญมา

    สี บุญมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +315
    ไม่มีองค์แรกหรอก ไม่มีองค์สุดท้ายด้วย พระพุทธเจ้าเป็นวงกลม ท่านบอกได้ไหมล่ะว่าเมื่อเป็นวงกลมแล้วท่านจะเริ่มนับตรงไหนของวงกลมเป็นนับหนึ่ง
     
  12. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อนุโมทนาในความคิดนะครับ
    แม้จะรู้ว่าเป็น อจินไตยะ แต่ผมเองก็ขอโอกาสแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย นะครับ
    ผมเองกลับคิดเห็นไม่ตรงกับคุณสี บุญมา ตรงที่ว่าการเป็นพระพุทธเจ้านั้นมิใชวงกลม
    แต่ก็เป็นแค่ความคิดและความเข้าใจของผมอ่ะนะครับ นานาจิตตัง
    หากคิดเห็นประการใดโปรดชี้แนะด้วยนะครับ
    ขึ้นชื่อว่าบัณฑิตผู้มีปัญญา ไม่ว่ามีผู้ใดกล่าวสิ่งใด ย่อมพิจารณาตามจริง เชื่อมั่นในปัญญาของตนแต่เคารพและให้เกียรติในปัญญาและความคิดของผู้อื่น
    ถือว่า ฟังความคิดเห็นของผู้รู้น้อย กล่าวสักเล็กน้อยนะครับ


    ไหนๆ ใช้คณิตศาสตร์อธิบายแล้ว ลองใช้เส้นจำนวนอธิบายดูนะครับ
    สังสารวัฎนี้จิตวิญญาณทั้งหลายนั้นเปรียบดั่งจุดๆหนึ่งที่หมุนรอบตัวเองเป็นวงกลม(เวียนว่ายตายเกิด) เมื่อนำจุดมาเรียงต่อกันก็จะกลายเป็นเส้นตรง(เส้นที่ลากจากอนันต์สู่อนันต์ ซึ่งสติปัญญาและภูมิรู้ของเราไม่สามารถหยั่งได้ถึงเบื้องต้น และเบื้องปลาย แต่จุดเหล่านั้นหมุนอยู่กับที่)
    ความจริงแล้วจิตที่ดูเหมือนวิ่งไปมานั้นเกิดดับๆๆๆๆๆ
    เกิดดับนับครั้งไม่ถ้วนก็จะทำให้เรามองเห็นเป็นเส้น และเข้าใจว่าจิตใจมันวิ่งไปมาแต่ความจริงแล้วเกิดดับๆ เร็วๆ เกิดที่ตาก็ดับที่ตา เกิดที่หูก็ดับที่หู เกิดที่ใจก็ดับที่ใจ

    การเวียนว่ายตายเกิดของเราต่างหากที่เป็นวงกลมแต่ถ้าเราหยุดการเคลื่อนไหว ก็จะกลายเป็นจุดจุดหนึ่งที่หยุดนิ่ง (บรรลุธรรม ไม่เวียนว่ายตายเกิด เมื่อรู้เหตุ ย่อมดับเหตุแล้วหยุดนิ่ง จิตยังเกิดดับตามเหตุปัจจัยแต่ไม่มีตัณหาในการสร้างภพ จะทำกรรมก็ทำจากความคิดว่างๆ ที่เรียกกันว่า มหากริยาจิต ไม่มีมโนภาพ)ในสังสารวัฎที่ไม่หมุนวนต่อ เมื่อไม่หยุดนิ่งก็ไม่อาจหมุนไปตามหรือร่วมไปกับจุดใดๆที่ยังหมุนอยู่ด้วย เหตุต่างๆของโลกได้(ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม) เมื่อเรานำจุดที่หยุดหมุนแยกออกมา แล้วนำมาเรียงต่อกันก็จะกลายเป็นส่วนของเส้นตรง(เส้นตรงบอกปลายไม่ได้ แต่ส่วนของเส้นตรงนั้นมีจุดเริ่มต้น แต่บอกจุดสิ้นสุดไม่ได้)

    ดังนั้นภาวะพุทธะ ย่อมเปรียบดั่งส่วนของเส้นตรง ที่แต่ละจุดหยุดนิ่ง(จุดที่มีจุดเริ่มและลากยาวไปไม่สามารถหยั่งได้ว่าถึงไหน) ย่อมมีจุดเริ่มต้น นั่นคือองค์ปฐมบรมพุทธเจ้า และพระองค์ต่อๆมา จนถึงพระโคตมะพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่ยังธรรมจักรให้หมุนอยู่ไงหล่ะครับ
    และต่อๆไป (ที่เป็นนิตยโพธิสัตว์แล้ว อีกในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น)

    ดังนั้นผมคิดว่าพระพุทธเจ้าองค์ปฐมคือพระพระพุทธเจ้าองค์แรกที่หลุดพ้น จากบ่วงแห่งมารและนำสัตว์พ้นไปสู่ภาวะจิตเกษม
    สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันต้องมีจุดเริ่มต้นแต่จุดสิ้นสุดนั้นยังไม่อาจตอบได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะสัตว์ที่เป็นอนิตยโพธิยังมีอีกมากมาย(แต่เหล่าสัตว์ที่ไม่รู้ อะไรเลยมากมายยิ่งกว่า เฮ้อ....)
    พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระองค์แรกย่อมแตกต่างจากองค์อื่นๆเพราะไม่เคยมีใคร เป็นมาก่อนไม่มี การพยากรณ์ ไม่มีธรรมเนียม ของพุทธก่อนหน้านี้ การบำเพ็ญบารมีย่อมไม่มีผู้ใดชี้แนะ ผมว่าที่เราเรียกว่าพระบรมครูนั้น เป็นการยอกย่องที่สมควรอย่างยิ่งทีเดียว เพราะเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว ย่อม ยังจิตใจของสัตว์อื่นให้ถือเอาเป็นอารมณ์ เป็นแบบอย่างว่า เราเองก็ต้องการเป็นผู้นำสัตว์อื่นให้ออกจากทุกข์เปรียบดั่งเช่นพระองค์ จึงเริ่มมีผู้ปราถนาตามพระองค์ .........
    ถามว่าแล้วพระพุทธเจ้านั้นตรัสรู้สิ่งใด
    ก็เป็นสิ่งเดียวกันครับ
    เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมมีพระคุณ ความรู้และกำลังยิ่งใหญ่เสมอเหมือนกัน กับพระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอเหมือนได้(เพราะการบังเกิดย่อมไม่พร้อมกัน) สิ่งอื่นนอกจากตัวพระองค์(ประเทศ ฐานะ ชาติกำเนิด วาระ ไม้ตรัสรู้ พระสาวก ฯลฯ)จะต่างกันออกไปก็ตามแต่กรรมและบารมีที่สั่งสมมา เพราะฉนั้นธรรมะทั้งหลายย่อมเป็นสิ่งเดียวกัน จะเชื่อใครก็ดีหมดขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า(ทั้งหลาย)
    เราทั้งหลายผู้บังเกิดในศาสนาของพระโคดม ในส่วนของพระองค์อื่นๆที่ตรัสู้แล้วเราก็เคารพในฐานะเป็นพระผู้ไปดีพ้นแล้ว และมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดสัตว์เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าทั้งหลายและพระพุทธเจ้าของเรา ส่วนพระองค์ที่ยังไม่มาก็ไม่จำเป็นต้องไปเร่งรัดท่านมากมาย ท่านเหล่านั้นแม้นิตยโพธิแต่ก็ยังไม่ประเสริฐเท่าพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ไปแล้วนะครับ เราเอาท่านมาเป็นแบบอย่างก็เพียงพอแล้ว เพื่อเป็นการเคารพพระพุทธองค์ปัจจุบัน และพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ เราจึงพึงศึกษาในธรรมของพระพุทธเจ้าของเราและปฏิบัติตามด้วยความเคารพครับ
    ผู้ใดจะตั้งความหวังว่าขอให้เกิดในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆไปก็ได้ แต่ผมว่าถ้าหากเราทำความดีให้ถึงพร้อมเราย่อมได้โอกาสในการศึกษาและปฏิบัติเช่นนี้อีก เพราะ การทำสิ่งใดที่ทำได้โดยง่ายย่อมต้องมีบุญเก่ามาก่อน สาธุ

    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ
    สาธุ
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    ขอนอบน้อม แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น แลนอบน้อมแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า
    <!-- / sig --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009
  13. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอโมทนาบุญธรรมทานอันเป็นมหากุศลครับ
     
  14. มาร-

    มาร- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +487
    กระทู้นี้กระผมทนเห็นตกไปอยู่หน้า สอง มิได้

    ขุด ขุด ขุด

    เพื่อเหล่า สาธุชน
     
  15. มาร-

    มาร- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +487
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ดีแล้ว ชอบแล้ว

    ขอให้เจริญในธรรม ยิ่งๆขึ้นไปครับ

    เพียงได้แค่ได้ยินพระนาม และ สรรเสริญ แห่งองค์พระพุทธคุณ แห่งองค์พระสัสมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งนับว่า ไม่เสียชาติเกิดแล้ว

    แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จองค์ประถม องค์พระบรมครู องค์ต้นพระพุทธวงศ์
    มีโอกาส ที่หาไม่ได้ง่ายนัก

    เราเกิดมาเป็น สัก 20 อสงไขย์ แล้วได้มีโอกาส ได้ รู้ ได้แจ้ง ได้สรรเสริญ องค์พระพุทธคุณ แห่งองค์สมเด็จองค์ประถม ก็ถือว่าไม่เสียชาติเกิดแล้วหล่ะครับ

    ขุด ขุด ขุด เพื่อ เหล่า สาธุชน
    _______________________________________________

    บุญกุศลเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจัก จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ร้อยชาติก็ดี หมื่นชาติก็ดี อสงไขย์ชาติก็ อนันตชาติก็ดี ..........................

    ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมอำนาจพระพุทธคุณอันไม่มีประมาณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักวาลที่มิได้มีประมาณ ทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมี ภันเต ภควา องค์พระสิริมิตร องค์พระธรรมสามี พระธรรมราชา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิขี ทศพล ญาณที่1 สมเด็จองค์พระปฐมเป็นสมเด็จองค์พระประธาน แห่งองค์พระพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระธรรม พระสัจธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อันไม่มีประมาณ เป็นองค์พระธรรมคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งองค์พระปัจเจกพุทธคุณ แห่งองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ ทั่วทั้งอนันตจักวาล ทุกกาล ทุกกัปป์ ทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็น องค์พระปัจเจกพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจ แห่งคุณพระสงฆ์ พระสาวกแห่งพระผู้มีพระภาค องค์ภันเต ภควา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทั่วทั้ง อนันตจักวาล อันไม่มีประมาณ อันหาที่สุด มิได้ เป็น พระสังฆคุณ

    ข้าพระพุทธขอน้อมอำนาจ คุณบิดา คุณมารดา พระอรหันต์แห่งบุตรของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และของข้าพเจ้าทุกๆชาติ ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ เป็น คุณแห่งบิดาและมารดา

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณพระอาจารย์ ทุกๆรูป ทุกๆนาม ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ ตลอด อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ได้ประสิทธิประสาท วิชา สั่งสอนในคุณความดี ตั้งมั่นใน มรรค มีองค์ 8 เป็น คุณแห่งครูบาอาจารย์

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณของ พระพรหม และเทพ เทวดา พระยายมราช ทุกรูป ทุกนาม ทุกๆชั้นฟ้า ทั้วทั้ง อนันตจักวาล สากลพิภพ อันไม่มีประมาณ จงร่วมกันบันดาล ปกป้องรักษาและอนุโมทนา

    ขออำนาจแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระปัจเจกพุทธคุณ พระสังฆคุณ คุณแห่งบิดา มารดา คุณแห่งครูบาอาจารย์ และ ทวยเทพเทวดาทั้ง โปรดดลบันให้....
    กุศลผลบุญ เหล่าใด ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำมา ได้บำเพ็ญมาโดยชอบ จำได้ก็ดี จำมิได้ก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขออุทิศกุศลเหล่านั้น แด่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ขอให้ได้ร่วมอนุโมทนา ขอให้มีส่วนร่วมในกองกุศลของข้าพเจ้า

    ธรรมเหล่าใด ยังประโยชน์แก่ข้าพเจ้าฉันใด
    ธรรมเหล่านั้นจงถึงพร้อมแด่สรรพสัตว์ทั้งหลายฉันนั้น
    เพื่อยังผลให้ที่สุดแห่งกองทุกข์ จงหมดสิ้นไปด้วยเทอญ....
     
  16. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ครับ ผมเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้าพระองค์แรก
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
    "ดูกรภิษุทั้งหลาย
    สังสารวัฏฏ์หาเบื้องต้นเบื้องปลายได้โดยยาก

    สัตว์ที่พอใจในการเกิดย่อมเกิดบ่อย ๆ

    และการเกิดใดนั้น ตถาคตกล่าวว่า
    เป็นทุกข์เพราะสิ่งที่ติดตามมาก็คือ
    ความแก่ชรา ความเจ็บปวดทรมาน และความตาย
    ความต้องพรากจากสิ่งที่อันเป็นที่รัก
    ความต้องประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก
    ความแห้งแล้งความคร่ำครวญความทุกข์กายทุกข์ใจ
    และความคับแค้นใจยังรากยังมั่นคง

    แม้ตนไม้จะถูกตัดแล้วมันก็สามารถขึ้นได้อีก
    ฉันเดียวกัน เมื่อบุคคลยังไม่ถอนตัณหานิสัย
    ขึ้นเสียจากดวงจิตความทุกข์ก็เกิดขึ้นอีกแน่
    "
     
  17. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603
    พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อริยสัจสี่ และ ปฏิจจสมุปบาท

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เมื่อมีเริ่ม...ก็ต้องมีที่สิ้นสุด....

    ไม่พ้นแม้แต่...สังสารวัฏ ๓๑ ภูมิ

    ..............................

    ให้ดูจิต อย่าส่งจิตออกนอก

    คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ต้องหยุดคิดจึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยคิด

    ....หลวงปู่ดุลย์ อตุโล....



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2010
  18. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    สาธุ สาธุ ไม่เคยรู้เช่นกันเมื่อได้รู้แล้ว ปิติจริงๆ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2010
  19. พระยงยุทธ วิสุทฺโธ

    พระยงยุทธ วิสุทฺโธ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +68
    ขออนุโมทนาครับดีแล้วๆ
     
  20. นอนสมาธิ

    นอนสมาธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +322
    อนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ
    ขออณุญาตินำบทความจากคุณ freebird (Siriwat Suwanchawee)
    จากเพจ ธรรมะ สัตบุตร (Googleกูรู)


    พระพุทธเจ้าองค์แรก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า พระตัณหังกรพุทธเจ้า - มีคำตอบ - กูรู


    ก่อนจะแสดงความเห็นเรื่องพระพุทธเจ้าองค์แรก ขอกล่าวถึงบทสวดมนต์บทหนึ่งก่อนนะครับ ชื่อว่าบท "สัมพุทเธ"
    ขึ้นต้นว่า "สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ..."

    ในคำแปลบทที่ ๑ ของบทสวดมนต์นี้แปลว่า
    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์ด้วยเศียรเกล้าฯ

    ในคำแปลบทที่ ๒ ของบทสวดมนต์นี้แปลว่า
    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑,๐๒๔,๐๕๕ พระองค์ด้วยเศียรเกล้าฯ

    ในคำแปลบทที่ ๓ ของบทสวดมนต์นี้แปลว่า
    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ๒,๐๔๘,๑๐๙ พระองค์ด้วยเศียรเกล้าฯ

    ตัวเลขที่ยกมานี้มีความหมายนะครับ
    ในบทแรกมีที่มาว่า จำนวน ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์นั้น คือ จำนวนพระพุทธเจ้าในอดีตที่พระโพธิสัตว์ประเภท "ปัญญาธิกะ" ได้พบ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อย่างเช่นเจ้าชายสิทธัตถะท่านก็พบมาจำนวนเท่านี้
    ในบทที่สองมีที่มาว่า จำนวน ๑,๐๒๔,๐๕๕ พระองค์นั้น คือ จำนวนพระพุทธเจ้าในอดีตที่พระโพธิสัตว์ประเภท "ศรัทธาธิกะ" ได้พบ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    ในบทที่สามมีที่มาว่า จำนวน ๒,๐๔๘,๑๐๙ พระองค์นั้น คือ จำนวนพระพุทธเจ้าในอดีตที่พระโพธิสัตว์ประเภท "วิริยาธิกะ" ได้พบ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อย่างเช่นพระศรีอาริย์ท่านเข้าข่ายประเภทนี้

    ดังนั้นจำนวนพระพุทธเจ้าในอดีตจึงมีไม่ใช่น้อย เปรียบเทียบแล้วก็เท่ากับจำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาครับ
    ส่วนที่ว่า ๒๘ องค์ ตัวเลขนี้คือเศษ ๒ หลักท้ายของ ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์ เท่านั้น เป็นตัวเลขน้อยมากๆ ดังนั้นพระตัณหังกรจึงไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์แรก หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

    ความเข้าใจในนามพระพุทธเจ้าที่มักเข้าใจกันผิดว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก (ซึ่งอาจจะถูกในความหมายที่ท่านเข้าใจก็ได้ ลองพิจารณาดูแล้วกัน) เช่น
    พระพุทธโกนาคมน์ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม (ของ ๕ องค์) นับจากต้นภัททกัปนี้
    พระทีปังกร เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม (ของ ๒๕ พระองค์) นับจากพระโพธิสัตว์เริ่มบำเพ็ญปรมัตถบารมี
    พระตัณหังกร เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม (ของ ๒๘ พระองค์) นับจากต้น ๔ อสงไขยเศษแสนมหากัปสุดท้าย (มีพระทีปังกรเป็นองค์ที่ ๔)
    พระศากยมุนีพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม (ของ ๓๘๗,๐๒๘ พระองค์) นับจากพระโพธิสัตว์เริ่มบำเพ็ญอุปบารมี
    พระพรหมเทวะพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม (ของ ๕๑๒,๐๒๘ พระองค์) นับจากพระโพธิสัตว์เริ่มบำเพ็ญบารมี
    พระทีปังกรพุทธเจ้า (องค์ก่อน) เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่พระโพธิสัตว์ได้พบและตั้งปฐมจิตอธิษฐานอยากเป็นพระพุทธเจ้า (เป็นชาติสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นผู้หญิง)

    คราวนี้ก็กลับมาที่พระพุทธเจ้าองค์ปฐมจริงๆ หมายถึงองค์แรกก่อนพระพุทธเจ้าทั้งหมด ไม่มีพระพุทธเจ้าก่อนหน้านี้อีกแล้ว
    พระนามของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมปรากฏในคัมภีร์ปฐมมูล กล่าวว่าพระองค์มีพระนามว่า ติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก พระองค์จึงไม่เคยได้พบเห็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาก่อนเลย การบำเพ็ญพุทธบารมีของพระองค์ท่านนั้นยากยิ่งนัก เพราะไม่มีพุทธจริยาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนให้เห็นเป็นแบบอย่าง แม้การประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์เพื่อการตรัสรู้ก็ยาวนานที่สุด โดยประทับนั่งใต้ต้นไม้ ๒๕ ต้น ต้นละ ๒๐๐ ปี รวมทั้งหมดเป็นเวลาถึง ๕,๐๐๐ ปี จึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระองค์มีพระชนมายุ ๑๐๐,๐๐๐ ปี
     

แชร์หน้านี้

Loading...