พระอมิตาภะพุทธเจ้า (การสร้างวัตถุมงคล南 無 阿 彌 陀 佛 พระอมิตตาพุทธ)

ขอให้กระทู้นี้ เจริญรุ่งเรืองด้วย ญาณบารมีจากทุกท่าน สาธุ สาธุ ขอโมทนา

 

南 無 阿 彌 陀 佛 ด้วยจิตน้อมระลึกถึงองค์พระอามิตตาพุทธเจ้า และองค์พระโพธิสัตต์ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน มีความรู้สึกอุ่นใจและปิติเช่นกันครับที่เราไม่ได้เดินอยู่ตามลำพัง...อย่างน้อยขอให้เรามาเป็นเสมือนแสงเทียนเล่มเล็กๆที่ช่วยกันจุดสว่างในที่มืด ...เพื่อให้เห็นเส้นทาง南 無 阿 彌 陀 佛(เพื่อให้พ้นจากอบายภูมิ...มีพระนิพพานเป็นที่หมาย)

ขอกุศลอันเกิดจากจิตน้อมสักการะ南 無 阿 彌 陀 佛และกุศลในจัดสร้างพระผงฯ บังเกิดให้เกิดปิติทั้งทางกายและใจแก่ทุกๆท่าน เปรี่ยมด้วยพละคือกำลังทั้งทางกายและทางใจเพื่อเดินตามรอยแห่งองค์พระศาสดาเทอญ

 

นะโม อมิตตาพุทธ


มหาสุขาวดีวยูหสูตร หรือ มหาอมิตายูสูตร บรรยายความว่า ในสมัยพุทธกาลนั้นมีอยู่คราวหนึ่ง ณ ท่ามกลางธรรมสภาอันประกอบด้วยพระอรหันต์จำนวนมากพระองค์ พระมหาโพธิสัตต์ พระโพธิสัตต์จำนวนมากและปวงเทพยดาอีกมากมายเกินกว่าจะคำนวนนับได้ ได้ปรากฎเหตุมหัศจรรย์ คือพระฉวีวรรณขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้าศากยมุนีได้เปล่งรัศมีเรืองรองขึ้น ด้วยเหตุนี้เองพระอรหันต์อานนท์เจ้าขึ้นทูลถามถึงมูลเหตุ และพระองค์เจ้าศากยมุนีจึงเล่า ประวัติและพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า อมิตาภะว่าแต่เดิมนั้น องค์พระอมิตาภะพุทธเจ้า ได้เป็นมหาราชาองค์หนึ่ง แต่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้า ณ เบื้องพระพักตร์ของพระโลเกศวรราชพุทธเจ้าและได้ฟัง ธรรมจากการเทศนาของพระองค์ท่าน เกิดความเลื่อมใสจับใจในธรรมบรรยายขององค์พระพุทธเจ้าโลเกศวร จึงได้ตัดสินใจสละราชสมบัติและทรงออกผนวชเป็นภิกษุมีนามว่า "พระภิกษุธรรมกร"(บ้างก็เรียกธรรมการะ) และ หลังจากออกผนวช ก็ได้เพียรปฏิบัติธรรมอย่างมั่นคงแน่วแน่ โดยมุ่งหวังที่จะบรรลุให้ถึงพุทธภูมิให้ได้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าให้ได้ในกาลเบื้องหน้า ทั้งนี้โดยตั้งปณิธานอย่างมั่นคงว่าถ้าพระองค์ได้บรรลุพระโพธิญาณแล้วก็ขอให้พระองค์จงเป็นผู้ได้รับมงคลพร 48 ประการ ตามที่ใจตนปรารถนาด้วย ถ้าหากไม่สามารถเป็นไปตามที่ตั้งใจ 48 ประการแล้ว ก็ยังจะขอที่จะไม่บรรลุพุทธภูมิเลย ในรายละเอียดของความตั้งใจ 48 ข้อนั้นล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่มหาชนทั่วๆไปในภายหลังทั้งสิ้น อาทิเช่น ขอให้พระองค์มีพุทธเกษตรที่มีความวิจิตรยิ่งที่ชื่อว่า สุขาวดีพุทธเกษตร ขอให้ผู้คนที่มาเกิดอยู่ ณ สุขาวดีพุทธเกษตรจงเป็นผู้ที่จะบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ทุกคนในอนาคต... ขอให้ผู้มีศรัทธาในองค์พระอมิตาภะ และได้รำลึกถึงสวดพระนามของพระองค์ และตั้งใจอยากจะได้เกิดในสุขาวดีโลกธาตุ จงได้ไปเกิดทุกคนโดยทั่วกัน...

ในที่สุด 10 กัลป์ที่แล้ว พระภิกษุธรรมกรได้บรรลุเป็นพระอมิตาภะพระพุทธเจ้าดังตั้งใจไว้ มหาปณิธาน 48 ข้อ ของ พระโพธิสัตต์ธรรมกรที่ได้ตั้งสัตย์ไว้มีดังนี้



1.หากในพุทธเกษตรของพระองค์ยังมี(ภาวะทุกข์ทรมาณของ) นรก เดรัจฉาน เปรต หรือ อสุรกาย จะไม่ขอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(หรือไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด อีกนัยหนึ่งคือ ไม่ขอ บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทุกๆข้อในตอนท้ายให้หมายถึงพระธรรมกร)



2.หากในพุทธเกษตรของพระองค์ยังมีสัตว์ที่ต้องตายและตกสู่อบายภูมิ(ภูมิต่ำทั้งสี่ข้างต้น) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



3.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มีฉวีวรรณผุดผ่องดั่งทองคำ(ผิวพรรณเป็นสีทอง) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



4.หากในพุทธเกษตรของพระองค์ยังมีการแบ่งแยกระหว่างเทวดากับมนุษย์ ยกเว้นแต่ เมื่อผู้คนเห็นว่า การแบ่งแยกเป็นเพียงสมมติบัญญัติ(ไว้ใช้กรณีเฉพาะ) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



5.หากในพุทธเกษตรของพระองค์มีสัตว์ที่อุบัติแต่ ไร้ ซึ่งบารมีสูงสุด และ ไม่อาจควบคุมตัว เพื่อที่ว่าจะได้สามารถก้าวล่วงพุทธเกษตรจำนวนหนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิ*แห่งในชั่วขณะจิตเดียว จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



* นิยุต เท่ากับ จำนวนเลขหนึ่งที่มีศูนย์ตามสี่สิบสองตัว หรือหนึ่งพันล้านล้านในที่นี้คือ(หนึ่งร้อยพัน) พันล้านล้านโกฏิ



6.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มี สัญญา(ความจำได้หมายรู้) ที่จะจดจำอดีตชาติของตนอย่างน้อย หนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิกัลป์ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



7.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มีตาทิย์ ที่สามารถมองเห็นโลกธาตุอย่างน้อยหนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิแห่ง จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



8.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มี หูทิพย์ที่สามารถได้ยินเสียงธรรมจากพุทธเกษตรอย่างน้อย หนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิแห่ง จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



9.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่ เจโตปริยญาณ(หยั่งรู้ความคิดของผู้อื่น) เพื่อจะรู้การกระทำและความคิดสรรพสัตว์ในพุทธเกษตร หนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิแห่ง จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



10.หาสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ยังมีความคิดเชิงยึดติด(หรือครอบครอง) แม้แต่ร่างกายของตนเอง จะไม่ขอบรรลุพระโพธิญาณสูงสุด



11.หากสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มีศรัทธามั่นคงในสัจจะตราบจนบรรลุนิพพาน จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



12.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีผู้สามารถประมาณจำนวนสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์ได้ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด(ประการหนึ่ง)

หรือ ถ้าจะนับจำนวนสัตว์ใน 3 ล้านโลกธาตุ ที่ภายหลังได้กลายเป็นพระปัจเจกพุทธะทั้งสิ้น ก็ต้องใช้เวลานับนานถึง หนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิกัลป์ จึงจะนับหมด มิฉะนั้นจะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด(ประการที่สอง)



13.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว รัศมี(แสงสว่าง) ของพระองค์สามารถประมาณได้ในพุทธเกษตร จำนวนนับหนึ่งร้อยพันนิยุตโกฏิแห่ง จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



14.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว อายุของสัตว์ที่อุบัติในสุขาวดีสามารถประมาณได้(ยกเว้นแต่พวกที่ตั้งจิตอธิษฐานขอจำกัดอายุตนเอง) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



15.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว อายุของพระองค์มีขีดจำกัดอยู่ในร้อยพันนิยุตโกฏิกัลป์ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



16.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ยังมีชื่อของ "บาป" หลงเหลืออยู่จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



17.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระพุทธะทั้งหลายในพุทธเกษตรจำนวนไม่ถ้วน ไม่กล่าวสรรญเสริญ พระนามของพระองคื ไม่ ประกาศเกียรติคุณของพระองค์ จะไม่ขอบรรลุพระโพธิญาณสูงสุด



18.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์ในทิศทั้งสิบศรัทธาพระองค์ด้วยความคิดที่แน่วแน่ ปรารถนาจะไปเกิดพุทธเกษตรของพระองค์ ได้กล่าวความระลึกถึงหรือท่องชื่อพระองคื 10 ครั้ง ถ้าพวกเขา ไม่ได้อุบัติในสุขาวดี จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสุงสุด ..ยกเว้นแต่ พวกที่ประกอบอนันตริยกรรม* และผู้จ้วงจาบทำลายพระธรรม



*อนันตริยกรรม คือ กรรมหนักที่ส่งผลก่อนกรรมอื่น เป็นกรรมหนักที่สุดในฝ่ายบาปอกุศล มีอยู่ 5 ประการ คือ ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต และ ยุให้สงฆ์แตกกัน(บางท่านก็ถือว่าบิดเบือนพระธรรมวินัยก็เกี่ยวเนื่องอยู่ในข้อนี้ เพราะเป็นเหตุใสงฆ์ขัดแย้งไม่ลงรอยกัน)



19.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์ที่มุ่งตรัสรู้ในโลกธาตุอื่น และเป็นผู้ที่ภายหลังได้ยินชื่อของพระองค์ ได้ทำสมาธิระลึกถึงพระองค์ด้วยความคิดที่แน่วแน่ ขณะที่พวกเขาสิ้นใจ ถ้าพระองคื ไม่ได้ ไปปรากฎต่อหน้าพวกเขาพร้อมเหล่าภิกษุ เพื่อช่วยให้จิตของพวกเขาสิ้นสุดความหวาดหวั่นแล้วละก็ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



20.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว มีสัตว์พุทธเกษตรน้อยใหญ่ได้ยินชื่อของพระองค์ ได้กำหนดจิตขออุบัติในพุทธเกษตรของพระองค์(คือสุขาวดี) ได้สั่งสมคุณธรรมความดีไว้มาก แม้แต่พวกท่องชื่อระลึกถึงแดนสุขาวดีเพียง 10 ครั้ง ถ้าพวกเขาเหล่านั้น ไม่ได้อุบัติในแดนสุขวดี(ตามที่ตั้งจิตปราถรถนา) แล้วละก็ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด ยกเว้น พวกประกรอบอนันตริยกรรม และ ผู้ที่ขัดขวางบิดเบือนพระธรรม



21.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว เทวดาหรือมนุษย์ในสุขาวดี ไม่มี ลักษณะมหาบุรุษ(มหาปุริสลักษณะ) 32 ประการ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



22.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ทั้งหลายที่อุบัติในสุขาวดียังต้องเกิดใหม่อีก มากกว่า 1 ครั้ง ก่อนจะหลุดพ้น จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด ยกเว้น เหล่าพระโพธิสัตว์ที่มีปณิธานจะรักษาพระธรรม ผู้อุทิศตนเพื่อความหลุดพ้นของสรรพสัตว์ ผู้ปรารถนาจะทำพุทธกิจในโลกธาตุต่างๆ ปรารถนาจะรับใช้พระพุทธเจ้า และ ชี้นำสัตว์จำนวนมากมายเท่าเม็ดทรายในท้องน้ำคงคาไปสู่ปัญญาสูงสุด



23.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรสุขาวดี ไม่ สามารถไปเคารพพระพุทธเจ้าอื่นมากมายนับได้หลายร้อยนิยุตโกฎิองค์ในพุทธเกษตรอื่นๆ พร้อมกับสักการะด้วยสิ่งของต่างๆ อันจะนำไปสู่ความสุขใจได้ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



24.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรสุขาวดี ปรารถนาให้กุศลกรรมของท่านบันดาลให้เกิดรัตนสมบัติหรือของขัญต่างๆ ถ้าของขวัญเหล่านั้น ไม่ ปรากฎตามที่ท่านปราถนาในบัดดล จะไม่ขอบรรลุพระโพธิญาณสูงสุด



25.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ที่อุบัติในสุขาวดี ไม่ อาจท่องจำธรรมด้วยอาการแห่งความรู้แจ้ง(สัพพัญญู) จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



26.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรของพระองค์ ตั้งจิตบูชาพระพุทธเจ้าในพุทธเกษตรอื่นนับไม่ถ้วน ด้วยสิ่งของต่างๆ ตามแต่ใจปรารถนา ถ้าพระพุทธเจ้าเหล่านั้น ไม่ ยอมรับการบูชาด้วยสิ่งของต่างๆ เหล่านั้นด้วยพระเมตตาแล้ว จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



27.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรสุขาวดี ไม่มี พลังกายเข้มแข็งประหนึ่งเพชรหรือสายฟ้าของพระนารายณ์ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



28.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่เพียบพร้อมไปด้วยความงามแห่งเครื่องประดับตกแต่ง ยังเห็นว่ามีพุทธเกษตรอื่นที่งามวิจิตรยิ่งกว่า จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



29.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีธรรมน้อยที่สุดในพุทธเกษตรสุขาวดี ไม่ สามารถรับรู้ต้นโพธิ์(ธรรม) อย่างน้อย 100 โยชน์ขึ้นไป จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



30.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ไม่ว่าจะมีการเรียนการสอนหรือไม่ ถ้าสัตว์ทั้งหลายในพุทธเกษตรของพระองค์ หยั่งไม่ถึงความรู้สมบูรณ์ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



31.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พุทธเกษตจรของพระองค์ ไม่ สามารถส่องสว่างจนเห็นได้จากพุทธเกษตรอื่นๆจำนวนนับไม่ถ้วนในทุกทิศทาง จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



32.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มี แจกันนับแสนที่ทำด้วยอัญมณีทุกชนิด บรรจุเต็มไปด้วยเครื่องหอม อบรำด้วยคันธูปลอย อยู่เหนือ เทวดา มนุษย์ และทุกสิ่ง สำหรับใช้บูชา พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์แล้ว จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด

33.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ในพุทธเกษตรของพระองค์ ไม่มี สาย(ละออง) ฝนดอกไม้รัตนะ ตกลงมาอย่างสม่ำเสมอ และ หากที่นั่นไม่มีเสียงดนตรีก้องกังวานอยู่เป็นนิจ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



34.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ทั้งหลายที่อยู่ใน

สุขาวดี ไม่ เต็มไปด้วยความสุขที่อยู่เหนือกว่าเหล่า เทวดาและมนุษย์ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



35.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์จิตใจสูงในพุทธเกษตรอื่นทั่วทุกทิศจำนวนประมาณไม่ได้ได้ยินพระนามของพระองค์(พระอมิตตาภะ) แล้วไม่อาจหลุดพ้นจากการเกิด และ ไม่ มีความรู้แน่ชัดในธารณีจนได้บรรลุบัลลังก์แห่งโพธิ ด้วยอำนาจบุญกุศลจากการได้ยินนั้น จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



36.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สตรีในพุทธเกษตรอื่นทั่วทุกทิศจำนวนประมาณไม่ได้ ได้ยินพระนามของพระองค์แล้ว ยังเกิดอาการขาดสติ(ประมาท) ไม่สามารถตั้งจิตสู่โพธิญาณ ครั้นเมื่อหลุดพ้นจากการเกิดแล้ว กลับไม่ ชิงชังในธรรมชาติอิสตรีของเธอ หรือ เมื่อยังต้องกลับไปเกิดก็จะเกิดเป็นอิสตรีอีก หากเป็นเช่นนั้น จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด(ข้อนี้หมายความว่า สตรีที่ได้ยิน พระนามอมิตาภะแล้วเมื่อเกิดใหม่จะได้เป็นชาย ถ้าไม่ต้องเกิดแล้ว ก็จะหลุดพ้นไปจากธรรมชาติด้านลบของผู้หญิง)



37.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรทั่วทุกทิศจำนวนประมาณมิได้ ได้ยินพระนามของพระองค์ และ ก้มลงบูชาด้วยความเคารพแล้ว ไม่ได้รับการสรรเสริญจากหมู่เทวดาและชาวโลก ในขณะที่บำเพ็ญโพธิสัตวธรรม จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



38.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในสุขาวดี ยังต้องย้อม เย็บ ซัก ตากจีวรเอง หรือ ไม่ได้สวมใส่จีวรที่ใหม่และดีเลิศเร็วเท่าใจคิด จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



39.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรสุขาวดี ไม่มี ความสุขเทียบเท่ากับพระภิกษุที่หลุดพ้นจากทุกข์(พระอรหันต์) และ ได้บรรลุสมาธิระดับที่สาม จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



40.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสตว์ในพุทธเกษตรสุขาวดี ไม่ อาจสร้างเครื่องประดับตบแต่ง จำนวนมากจากต้นไม้รัตนะต่างๆ ตามที่ใจพวกเขาปรารถนา จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



41.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ที่อุบัติในพุทธเกษตรอื่นได้ยินพระนามของพระองค์แล้ว ยังต้องเป็นทุกข์แม้เพียงน้อยนิดจากประสาทสัมผัส จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



42.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ได้ยินพระนามของพระองค์ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งในพุทธเกษตรอื่นแล้ว ไม่ อาจเข้าถึงสมาธิในระดับที่เรียกว่า สุวิภักตวตี(Suvibhakavati) อันเป็นสมาธิที่พระโพธิสัตว์จะสามารถเห็นพระพุทธเจ้าองค์ต่างๆ จำนวนประมาณไม่ได้ในแต่ละขณะและ ถ้าสมาธินี้สิ้นสุดหรือ ขาดตอนกลางคัน จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



43.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ทั้งหลายได้ยินพระนามของพระองค์ในพุทธเกษตรอื่นที่แตกต่างจากสุขาวดีแล้ว ไม่ อาจถือกำเหนิดในตระกูลที่สูงส่งจนกระทั่งบรรลุธรรม ด้วยอานาจแห่งบุญที่เกิดจากการได้ยินนั้น จะไม่ขอบรรลุพระโพธิญาณสูงสุด



44.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรอื่นได้ยินพระนามของพระองค์แล้ว ไม่ บังเกิดความปิติยินดีในวิถีแห่งโพธิสัตว์ จวบจนบรรลุธรรมด้วยอำนาจแห่งบุญจากการได้ยินนั้น จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



45.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ทันทีที่พระโพธิสัตว์ได้ยินพระนามของพระองค์ในโลกธาตุอื่นแล้ว ไม่ อาจเข้าถึงสมาธิในระดับที่เรียกว่า สมันตานุคต(Samantanugata) อันเป็นสมาธิที่พระโพธิสัตว์จะสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้าองค์ต่างๆ จำนวนประมาณไม่ได้อยู่ในทุกขณะ และ ถ้าสมาธินี้ขาดตอนลงก่อนที่ท่านเหล่านั้นจะหยั่งถึงพุทธภูมิ จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



46.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว สัตว์ทั้งหลายที่อุบัติอยู่ในสุขาวดี ไม่อาจได้ยินคำสั่งสอนธรรมที่พวกเขาปราถรถนาเร็วเท่ากับความคิด จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



47.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว ทันทีที่พระโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรนี้หรือที่อื่น ได้ยินพระนามของพระองค์แล้ว ยังหันหลังให้กับปัญญาญาณสูงสุด(อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ) ได้อีก จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



48.หากภายหลังที่ได้บรรลุพระโพธิญาณสูงสุดแล้ว และ กลายเป็นพระพุทธศาสดา ทันทีที่พระโพธิสัตว์ภูมิแรกขึ้นไป ได้ยินพระนามของพระองค์ในพุทธเกษตรต่างๆ แล้วยังหันออกห่างพระรัตนตรัย จะไม่ขอบรรลุโพธิญาณสูงสุด



​

 

อนุโมทนากับคุณlittle mermaid ครับ / ขอน้อมสักการะต่อพระมหาปณิธาน อันยิ่งใหญ่แห่งพระองค์ ที่ทรงมีพระเมตตาและพระมหากรุณาต่อสรรพสัตว์

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.425837/[/MUSIC]

南无阿弥陀佛​

<O
阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛阿弥陀佛保佑我的全家和身边的朋友们

 

南無阿彌陀佛
อนุโมทนาครับ ถ้าพี่พอจะช่วยอะไรได้บางก็บอกนะครับ วันนี้เมื่อช่วงบ่ายก็พึ่งไปรับพระฯ จากน้องโอ๊ค ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตาอธิฐานจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เลยแวะซื้อพวงมาลัยบูชาองค์ พระฯ คิดว่าพรุ่งนี้คงจะเริ่มนำองค์พระบรรจุแล้วเริ่มจัดมอบให้น่าจะสักประมาณวันจันทร์ แล้วผมได้ไรค์ซีดีเพลงที่ ซือเฮียท่านมอบให้เป็นที่ระลึก เป็นบทสวดจีนกลางแต่ทำเป็นเพลง เหมือนที่ โพสต์ไว้ แต่จะมีทั้งหมด12เพลง น่าฟังมาก (อย่างเพลงแรกผมก็ใช้ฟังเวลานั่งสมาธิ)

 

วันนี้ตลอดช่วงเช้าก็แพ็คองค์พระฯเรียบร้อยจากนั้นก็แพ็คลงกล่องพัสดุ คิดว่าช่วงสัปดาห์หน้าจะส่งมอบได้ แต่คงต้องดูตารางสอนเทอม2ก่อนว่าจะสามารถออกไปส่งได้ในวันไหน

 

<TABLE class=tborder id=post1423773 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 13-08-2008, 12:11 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ศักดิ์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1423773", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 03:46 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 887
ได้ให้อนุโมทนา: 4,549
ได้รับอนุโมทนา 7,736 ครั้ง ใน 877 โพส
พลังการให้คะแนน: 299




</TD><TD class=alt1 id=td_post_1423773 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->การสร้างวัตถุมงคล南 無 阿 彌 陀 佛 (พระอมิตตาพุทธ)
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ธรรมสวัสดี สาธุชนผู้ซือไจ้ทุกท่านครับ

เข้าไปในห้องพระเครื่องเห็นมีการสร้างวัตถุมงคลกัน ผมเคยคิดว่าจะสร้างพระพิมพ์องค์พระอมิตตาพุทธเจ้าบ้าง(เพื่อจะได้จุติในพุทธเกษตรแดนสุขาวดี) และที่สำคัญไม่ค่อยเห็นมีการจัดสร้าง ส่วนมากจะเป็นพระศากยมุณีพุทธเจ้า และพระไภษชยคุรุพุทธเจ้า องค์พระโพธิสัตต์ฯก็มีผู้ศรัทธาสร้างอยู่มาก แต่ก็คงได้แค่คิดและเก็บข้อมูลวิธีการจัดสร้างอยู่

นโมอามิตาพุทธ

<!-- / message --><!-- edit note -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>



ทำอย่างไรถึงจะได้ไปอุบัติในสุขาวดีพุทธเกษตร

กล่าวกันว่าพุทธเกษตรเป็นสถานที่สวยงามวิจิตรงดงาม อลังการมาก ๆ เบื้องล่างใต้แท่นดอกบัวลงไปเป็นพื้นราบเกลื่อนด้วยทรายทอง ต้นไม้ยักษ์เป็นแถวเป็นทิว แต่ละต้นสูงหลายร้อยฟุต กิ่งทองใบหยก ใบเป็นรูป 3 เหลี่ยมบ้าง 5 เหลี่ยมบ้าง 7 เหลี่ยมก็มี ล้วนออกดอกเป็นแสงได้ทุกต้น วิหกนกไพรนานาชนิด ล้วนมีแสงในตัว นกบางตัวมี 2 หัว กระทั่งหลายหัว 2 ปีก กระทั่งหลายปีก พวกมันโผบินว่อนล้อลมอย่างอิสระเสรี ขับลำนำเป็นนามศักดิ์สิทธิ์ของอมิตพุทธเจ้า รอบ ๆ รั้วลูกกรงตกแต่งด้วยสีสันต่าง ๆ 7 สี ชาวพุทธฝ่ายมหายานเกือบทุกนิกายจะกล่าวถึงสุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิตภะพุทธเจ้า และตั้งใจที่จะได้ไปจุติยังพุทธเกษตรของพระองค์ เพราะว่าในหนึ่งวันของพุทธเกษตรเท่ากับ 1 กัปป์ในโลกมนุษย์ ผู้ที่อุบัติในดินแดนสุขาวดีนั้นล้วนเป็นโอปปาติกะทั้งนั้นที่นั่นมีแต่ความสุข ปราศจากโรคภัย มีอายุยืนนานอันหาที่เปรียบมิได้ และที่สำคัญผุ้ที่อยุ่ในดินแดนนั้นจะบรรลุนิพพานแน่นอน หากผู้ที่ยังมีกิเลสหนาอยู่จะได้รับการขัดเกลาจากที่นั่น


หลักการสำคัญที่มีการยอมรับนับถือในการปฏิบัติมากที่สุดมีดังนี้

1. สิ่ง แปลว่า ศรัทธา ต้องมีศรัทธาปะสาทะต่อองค์พระอมิตาพุทธอย่างแท้จริง และไม่สงสัยในองค์ท่าน
2. จ๋วง แปลว่า ปณิธาน คือ ต้องมีปณิธานอันแน่วแน่ทีจะมุ่งไปสู่สุขาวดีพุทธเกษตร
3. เหง แปลว่า ลงมือปฏิบัติ คือต้องลงมือปฏิบัตกุศลกรรมทังปวงที่เป็นปัจจัยส่งเสริมไปยังพุทธเกษตรอย่างสม่ำเสมอ

ในหลักการทั้ง 3 นั้นจะต้องปฏิบัติตนดังนี้

1.หมั่นบูชาพระอมิตาพุทธเจ้าเป็นนิจ (กายกรรม)
2.สวดสรรเสริญสาธยายมนต์ของพระอมิตตาพุทธ เช่น นะโมอมิตาภายะ พุทธายะ หรือ นำมออนีถ่อฮุก หรือ อามิถ่อฟอ (วจีกรรม)
3.ตั้งปณิธานอันแน่วแน่และมั่นคงที่จะไปสุขาวดี (มโนกรรม)
4. กำหนดจิตตรึกตรองถึงพุทธเกษตรของพระอมิตาพุทธ และพระอวโลกิเตศรวร และพระมหาสถานปราปต์ เป็นประจำ
5. แผ่ส่วนกุศลให้เหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงโดยไม่แบ่งแยก


แต่มีข้อยกเว้นของผู้ที่ไม่สามารถที่จะไปที่นั่นได้คือ

ผู้กล่าวจาบจ้วงพระธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งปวงและ ผู้ทำอนัตริยกรรม 5 คือ ฆ่าพ่อ1 ฆ่าแม่1 ฆ่าพระอรหันต์1 โลหิตปาทา1 และสังฆเภท ทำให้สงฆ์แตกแยก1 ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นกรรมหนัก ไม่ได้ขึ้นแม้แต่สวรรค์ หรือนิพพาน หากแต่ตกอเวจีมหานรก อย่างเดียว

 

สาธุ สาธุ ชอบแล้ว

ขอโมทนาเป็นอย่างสูง

 

อนุโมทนาด้วย อยากได้บูชาซักองค์ เรืองสิทธิ์ รังสิตานนท์ 68/108 ม.6หมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140

 

วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ บางบัวทอง นนทบุรี

ภาพในพระอุโบสถมีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์เป็นประธาน
องค์แรกด้านซ้าย คือ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า
องค์ตรงกลาง คือ พระอมิตตาภพุทธเจ้า
องค์ทางด้านขวา คือ พระไภษัชชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า

<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Images</LEGEND>

</FIELDSET>

 

ตรงกลางวิหารนี้ประดิษฐาน 3 องค์ ค่ะ

ซ้ายมือองค์แรก พระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์
องค์ตรงกลาง พระอมิตตาภพุทธเจ้า
องค์ขวามือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
​

<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Images</LEGEND>

​

</FIELDSET>

 

อุโมทนา สาธู
ครับ

โครงการผมยังไหมไปไหนเลยครับ
หยุดมาตั้งแต่ไหมสบายจนวันร้นังไหมไห้ไปชื้อผ้าแลสีเลย
คงต้องทำเดื่อนหน้ามังครับ
อากาศไหมดี

 

อนุโมทนาครับน้องหนึ่ง ......ไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องเร่งรีบใจเย็นๆ...เพียงแค่มีศรัทธาเต็มเปรี่ยม...สิ่งที่ตั้งใจไว้ก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง..南 無 阿 彌 陀 佛 ขออนุโมทนากับคุณLittle Mermaid สำหรับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับองค์ท่านครับ..เดียวผมว่าจะไปแถวเซ็นต์ทรัสเวลด์..ไปดูpackageที่จะใส่องค์พระฯเพิ่ม เตรียมไว้ก่อนจะได้สบายๆไม่ต้องรีบร้อน

 

南無阿彌陀佛บุญรักษาครับ สำหรับ น้องโอ๊คกับน้องเจนพี่กะว่าจะนำองค์พระฯไปมอบให้เองเพื่อจะได้มีพูดคุยขอธรรมกันบางครับ ช่วงหลังไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร แล้วตั้งใจว่าจะนำองค์พระขึ้นไปมอบให้พระคุณเจ้าที่ชลบุรีด้วยครับ(เพราะท่านเมตตามาโดยตลอด)แต่คงต้องหาเวลาที่เหมาะ ช่วงนี้ที่โรงเรียนฯกำลังวุ่นๆเรื่อง สมศมาตรวจโรงเรียนแต่ตั้งใจว่าจะหาเวลาขึ้นไปอีกครั้งครับ.......南 無 阿 彌 陀 佛

 

ภาพถุงที่บรรจุองค์พระฯ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffe737 height=25>วันประสูติพระอมิตตาภุทธเจ้า (ออมีทอฮุด) แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ จีน (28/12/2008)</TD><TR><TD class=WorkCenterContentFont height=25> วัน เสาร์ ที่ ๒๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ มิ่นก๊กที่ ๙๗ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ จีน
ออนีทอฮุดเซงต่าน 奥尼头佛僧咱


วันนี้ตามคติความเชื่อ พระอมิตตาพุทธเจ้า หรือ ออนีทอฮุก หรือ奥尼头佛 อาจจะเป็น
ชื่อของพระภิกษุสงฆ์ชื่อเดิม ซึ่งชื่อเดิมนั้น เป็นชื่อ อิ้วซังก๊ก สกุลเดิมคือ ฮุก ซึ่ง
คำว่า"ฮุก" จะใช้ในพระพุทธ ซึ่งพระอมิตตาพุทธเจ้า เป็นพระแห่งทางพระสัตว์ปาลโลก
หรือ อามีทอฮุด 奥尼头佛 ซึ่งเป็นชื่อของพระพุทธจีน หรือ อานีฮุก
อา แปลว่า พุทธ
มี แปลว่า พระ
ทอ แปลว่า เจ้า
ฮุก แปลว่า เป็นชื่อเรียกของพระพุทธเจ้า
อามี่ทอฮุด แปลว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายทั้งปวง

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อนุโมทนาครับ คุณLittle Mermaidสำหรับข้อมูลดีๆ
วันนี้ช่วงเที่ยงได้ออกไปส่งพัสดุ(องคพระฯ-ซีดี) ที่ไปรษณีย์หลักสี่ เจ้าหน้าที่น่ารักมากครับ คือเรื่องของเรื่องผมไม่คุ้นกับการส่งพัสดุ ซึ่งก็ question ว่าทำไม่ต้องเอาเชือกผูกกล่องพัสดุด้วย ก็เลยไม่ได้ผูกไป ทางเจ้าหน้าที่ก็อธิบายให้ฟังว่าต้องผูกไม่อย่างงั้นกระดาษที่ผึกไว้อาจจะหลุดออกมาได้ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ให้ม้วนเชือกมาให้ผูก ก็เล่นเอางง เพราะต้องยืนผูกถึง10ชุด นึกว่าจะกลับเข้ามาสอนหนังสือไม่ทันแล้ว(พวกเด็กนักเรียนคงดีใจแย่แต่ก็ทำให้เด็กๆผิดหวังเพราะมาทันพอดี...)
ครับวันนี้จึงขอนำรายชื่อมาแจ้ง พร้อมด้วยรหัสที่ลงทะเบียนไว้ ทุกท่านจะได้ตรวจสอบ พัสดุได้ว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว โดยตรวจสอบได้ที่
http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/Default.aspx
1. คุณก้องเกียรติ RE012036679TH
2. คุณ ธีระพล RE012036682TH
3. คุณ วิฑูร RE012036696TH
4. คุณ ดำรงศักดิ์ RE012036705TH
5. คุณ อรรถพล RE012036719TH
6. คุณ จุฬาลักษณ์ RE012036722TH
7. คุณ รสริน RE012036736TH
8. คุณ ศรีศักร RE012036740TH
9. คุณ นันทิพัฒน์ RE012036753TH
10. คุณ สุริยะ RE012036767TH

ส่วนท่านอื่นจะทย่อยส่งไปให้นะครับ(ช่วงนี้เป็นโรคขาดวิตามิน-M.อยู่จะเป็นประจำช่วงปลายๆเดือน.....)
ท้ายนี้ขอให้เรามาช่วยกันสวด" 南無阿彌陀佛 นำมอฮอมีทอฝอ" ด้วยกันเพื่อความสงบในใจเราและแผ่ความสงบในใจพร้อมทั้งความปรารถนาดีไปสู่บุคคลรอบๆข้าง. ขอความสงบและความปิติเบิกบานจงมีแด่ทุกท่าน ทุกกาลทุกเมื่อ ขอพระบารมีแห่งพระอามิตตาพุทธเจ้าตลอดทั้งองค์พระโพธิสัตต์ประทับอยู่ในจิตของทุกท่านครับ 南無阿彌陀佛
บุญรักษาครับ
พงษ์ศักดิ์ วร.(หลี่ต้าหลิน)

 

โมทนาด้วยนะครับมาสเซอร์ สำเร็จซะที

ขอบคุณมากนะคร๊าบบ

อามีทอฟอ~

 

อนุโมทนาด้วยนะครับ ขอให้เจริญในธรรม และขอให้ พี่ศํกดิ์ได้เจริญมรรคผลนิพพานในปัจจุบันและอนาคตด้วยนะครับ

 

คุณศักดิ๋มีความพยายาม&ตั้งใจมากๆเลยครับ จนสำเร็จได้
กว่าจะอ่านจนถึงหน้าสุดท้าย เหนื่อยเลย
ขออนุโมทนาด้วยนะครับ