พันธมิตรที่ไปกู้ชาตินี่น่าจะได้บุญ หรือบาปครับ ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 24 พฤศจิกายน 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,605
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    มันขึ้นมาเองอีกเเล้วกับคําถามนี้ อ้อ เเต่ขอให้กระทู้นี้ไม่อิงการเมืองนะครับทุกท่าน ขอเเค่ความคิดของเเต่ละท่านพอครับ ขอบคุณครับ 1 บุญที่ไปเเสดงความจงรักภักดี รักชาติ ? 2 ไปเเล้ว ทําให้บ้านเมืองวุ่นวาย ผมว่ามันก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง ไม่รู้จะพูดอะไรเเล้วครับ ส่วนตัว ผมเ็ป็นกลาง ฟังได้ทั้งสองฝั่งครับ ไม่ชอบทะเลาะ อยากให้คนไทยรักกันดีกว่า ไม่รู้กระทู้นี้จะโอไหม ถ้าไม่โอ พี่ webmaster ก็ลบออกได้เลยครับ ผมก็ไม่เเน่ใจว่าดีเปล่าทีตั้งขึ้นมา ขอบคุณครับ
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    "ชาติล่มตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงต้องกู้" เมื่อชาติไม่ล่มกู้จนล่ม พฤติกรรมอย่างนี้คนกู้เป็นบาปมหันต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2008
  3. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    ทำอะไร เกิดผลอย่างไร ก็ได้รับผลอย่างนั้น

    กัมมุนา วัตตตี โลโก
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เรื่องบุญจากการจงรักภักดี รักชาติ อันนั้นขอยกไว้ให้ท่านอื่นพูดดีก่า

    ผมขอชี้เรื่อง บาปทางเศรษฐกิจ เพราะหลายๆคนเห็นว่า พวกเขาคือตัวการ
    ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี เรียกว่า ทำบาททางเศรษฐกิจ

    ก็ขอเสนอข้อมูลนิดหน่อย ประกอบการพิจารณา

    1. ตอนนี้ราคาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาถูก หรือ ราคาแพง ....ตอบ..ราคาถูก

    2. ตอนนี้เงินในมือนักลงทุนมีหรือไม่มี ตอบ....ก็น่าจะมี เพราะพึงถอนการซื้อออกไปเป็นจำนวนมาก

    3. ที่เขาไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นที่มีปัจจัยดี เพราะ พันธมิตรเป็นปัจจัยหรือเปล่า ......ไม่รู้แหะ

    4. ราคาหุ้นของพวกเราตกต่ำ เพราะ พันธมิตรเป็นปัจจัยหรือเปล่า .....เขาว่าเป็นเพราะแฮมเบอร์เกอร์นะ

    5. ถ้าตัดเรื่อง แฮมเบอร์เกอร์ออกไป เพราะมันไม่เกี่ยวกับหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี( หุ้นที่
    มีรายได้แน่นอน ไม่ใช่การได้เม็ดเงินจากการกู้ผ่านแฮมเบอร์เกอร์ ) ทำไมคนที่มีกะตังค์
    ถึงไม่ตัดสินใจซื้อหุ้นพวกนั้น เพราะหุ้นพวกนี้กำไรอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรจะชุมนุม
    หรือไม่ ( ทั้งนี้ถ้าเม็ดเงินไหลเข้ามา บริษัทพวกนี้จะเอามาลงทุนในส่วนย่อยเอง )
     
  5. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมว่าจะไม่ตอบ แต่ตอบก็ได้ ถ้าใครแรงเกินไป ผมก็จะย้ายกระทู้ไปเก็บนะครับ

    ผมไม่อยากให้ด่ากันนะครับ ตอบกลางๆดีกว่า ไม่อยากให้โทษกันไป โทษกันมานะครับ

    ประเทศก็เหมือนพ่อแม่

    พธม. กับ นปช. ก็เหมือนพี่น้องกัน ทั้ง 2 อยู่ในตระกูลเดียวกัน

    พี่กับน้องทะเลาะกัน ผลเสียย่อมเกิดกับพ่อแม่

    พี่หาว่า น้องเกเร ต้องจับเข้าคุก และตัดออกจากตระกูล

    น้องก็บอกว่า พี่ขี้โกง ต้องจับเข้าคุก และตัดออกจากตระกูล

    ต่างฝ่ายต่างบอกว่า ตัวเองทำเพื่อตระกูล เพื่อรักษาตระกูล และแสดงออกซึ่งความรักของตระกูล ถามว่าใครได้บุญ หรือใครได้บาป

    คำตอบก็ คือ "ใจ" ของพี่และน้อง

    ถ้าพี่เกลียดน้อง โทสะและโมหะอยู่ในใจพี่

    ถ้าน้องเกลียดพี่ โทสะและโมหะอยู่ในใจน้อง

    ถ้าพี่และน้องหันหน้ามาคุยกัน โทสะและโมหะก็จะสลาย สิ่งใดที่น้องและพี่ทำผิด ก็ตักเตือนกัน และต้องรับผลของกรรม เพราะนั่น คือ "กฎแห่งกรรม"

    เรื่องบางเรื่อง พ่อแม่ ลงมาตัดสินไม่ได้ เพราะถ้าเข้าข้าง "พี่" ก็จะเสีย "น้อง" ถ้าเข้าข้าง "น้อง" ก็จะเสีย "พี่"

    ถามใจตัวคุณเองดูว่า ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ คุณจะเลือก "พี่" หรือ "น้อง" หรือว่าปล่อยให้ "พี่" กับ "น้อง" ตีกันจนกว่าจะเข้าใจว่า "ความสูญเสีย" มี "ทุกข์เพียงใด" เพื่อที่พี่และน้องจะได้เห็นคุณค่าของคำว่า "ครอบครัว" และรักษาครอบครัวไว้ให้มีความสุข

    ประเทศไทย ก็เหมือนครอบครัวครับ เราต้องวางกำลังใจเหมือน "พ่อและแม่" ครับ มองดูห่างๆ แต่อย่าเข้าไปตัดสินครับ

    การอยู่เฉยๆไม่ได้หมายความว่า "ไม่รักครอบครัว" แต่การอยู่เฉยๆ คือ การเข้าใจผลดีและผลเสียของการเข้าไปตัดสิน ซึ่งเมื่อประเมินแล้วพบว่า "ผลเสีย" จากการเข้าไปตัดสินนั้นเป็นโทษแก่คนหมู่มาก เราก็ต้องวาง "อุเบกขา" นั่นคือ เรารู้เท่าทันเหตุและผลของกรรม ซึ่งก็คือ การกระทำนั่นเองครับ

    โมทนาครับ

    ปล. พิจารณาเอาเองเถอะครับว่า เราควรทำตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ครับ สำหรับผม เชื่อว่ากฎแห่งกรรมจะเป็นผู้ควบคุมเรื่องนี้ครับ
     
  6. sawasdeebangkok

    sawasdeebangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +100
    คิดถึงเรื่องนี้เศร้าจัง
    เมื่อเช้าไปตักบาตรที่บางลำภู ปรากฎว่าเมื่อตี 3 มีระเบิดที่บางลำภู 3 จุด อยู่ใกล้กำแพงวัดบวรฯ เลย
    แม่ค้าร้านพวงมาลัย บ่นว่ากลัวมาก กลัวไปต่างๆ เช่น กลัวว่าเช้ามืดมาโดนระเบิด กลัวว่าลูกค้าจะหายไปหมด กลัวว่ารายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครับ
    เศร้า
    ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้ปัญหาต่างๆ จบโดยเร็วด้วยเถิด
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ปัญหาในโลกมนุษย์จะสงบเพราะมนุษย์ด้วยกัน หากมนุษย์ยังมากด้วยโทสะ อาฆาตพยาบาทจองล้างจองผลาญกันและกัน พระอินทร์เห็นก็คงส่ายหน้า เหาะหนีไปบรรทมที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์สบายกว่ากันเยอะ 555+
    ส่วนพระวัดใกล้ๆก็รอสวดศพ
     
  8. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    ขึ้นอยู่กับเจตนาน่ะครับ แต่ปัญหาทุกอย่างสุดท้ายมันก็จะกลับสู่ภาวะปกติของมันเองล่ะครับไม่ช้าก็เร็ว อย่างธรรมชาติก็เช่นกันต้องรักษาสมดุลไว้เสมอ แต่อย่างว่าล่ะครับ โลกอนิจจัง ดีก็หมดได้ ชั่วก็หมดได้ ทุกอย่างต้องกลับสู่ภาวะสมดุลเสมอ
     
  9. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    การที่จะได้บุญมี ๑๐ ประการที่อ้างอิง....ดังนั้น ไปกู้ชาติ ไม่ได้บุญ
     
  10. ttii01591

    ttii01591 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +15
    วันนี้ 24 พ.ย.51 รถติดมากผมต้องเดินทางไปทำงานผ่านเส้นทางที่มีการปิดถนน ผมต้องขับมอเตอร์ไซด์อ้อมจากเส้นทางเดิมหลายกิโลเมตร ขนาดมอเตอร์ไซด์ยังติดมากแล้วรถใหญ่ไม่ต้องพูดถึงล่ะครับ พวกเขาบอกว่ามากู้ชาติแต่เขากำลังสร้างกรรมกับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยที่ต้องใช้เส้นทางในการเดินทาง คนส่วนใหญ่เขาต้องทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพ จะให้เขาหยุดเดินทางอย่างนั้นหรือ นักเรียนกลัวอันตรายต้องปิดไม่ได้เรียน คนที่มาชุมนุมส่วนมากมาจากต่างจังหวัดไม่ต้องทำงาน แต่คนในกรุงเทพ ค่าครองชีพสูงนะครับบางคนหยุดงานวันนึงถูกปรับสองแรง แล้วใครท่านจำลอง ท่านสนธิเอาเงินมาช่วยความเดือดร้อนของคนที่เดือดร้อนรึป่าว ที่ว่ากู้ชาตินั้นครั้งที่ 19 ก.ย.49 พันธมิตรได้เสพสุขกันเท่าไหร่ เป็น สนช. คตส. สว. บอร์ดต่างๆ เงินเดือนเท่าไหร่ กรรมที่พวกเขาสร้างมีคนสาปแช่งมากมาย ก้อต้องรอให้ผลกรรมที่พวกเขาก่อส่งผลละครับ เราปุถุชนก้อคงต้องก้มหน้ารับกรรมที่เราเคยไปสร้างไว้กับเขาต่อไป ชาติก่อนๆพวกเราคงไปสร้างความเดือดร้อนให้พวกเขานะครับ แต่ใครที่ไปร่วมหรือคิดจะไปร่วมผมก้อขออโหสิกรรมจากพวกท่านด้วยนะครับอย่าจองเวรกับผมเลย อย่าทำให้พวกผมเดือดร้อนเลยสาธุ
     
  11. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,605
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    พุดถึง ถ้าทุกคนในเมืองไทยเราหันมาศึกษาธรรม เป็นพุทธศาสนิกชนกันอย่างจริงจัง ผมว่าการทะเลาะเบาะเเว้งคงไม่มีอย่างเเน่นอนในประเทศเรา
     
  12. ยอดกมล

    ยอดกมล สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +8
    คุณมาจากดินนี่ ถ้าจะไม่ค่อยชอบกลุ่มพันธมิตรซักเท่าไหร่ เอาน่ะคงห้ามคุณไมได้ เห็นด้วยกับคุณ KOMODO ดิฉันเคยทะเลาะกับน้องที่เคยส่งเสียเลี้ยงดูให้เล่าเรียน จัดงานแต่งให้ อุปการะแบบพี่ที่ดี ปรากฏว่าน้องหาเรื่องทะเลาะกับดิฉัน แล้วไปฟ้องแม่ใส่ไฟต่างๆนาๆ แม่โกรธ ดิฉันมาก เข้าข้างน้องโดยไม่ได้พิจารณาความจริง ทั้งที่ญาติๆก็เตือนแล้วว่าให้อยู่เฉยๆเพราะต่างก็เป็นลูกของตนเหมือนกัน ตัวดิฉันเองด้วยความน้อยใจแม่ จึงไม่ไปหาไม่ใยดี ปล่อยให้แม่ยินดีปรีดาอยู่กับน้องคนนั้น ประมาณ 2 ปี แม่โทรหาทั้งน้ำตาว่า เงินเก็บที่มีอยู่ สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ อีกหลายบาท โฉนดที่ดิน ทั้งที่บ้านและที่นา ถูกลูกคนนี้ เหมาหมดเลย แม่มีลูกหลายคนแต่เพราะลมปากทำให้แม่ทุ่มเทกับคนนี้คนเดียว ดิฉันเสียใจมาก เพราะความน้อยใจแม่ของตนทำให้แม่วายวอดอยู่ในขณะนี้ ดิฉันจึงพาแม่ไปปฏิบัติธรรมแต่คนกำลังสูญเสีย ท่านก็ยังทำใจไม่ได้ซักเท่าไหร่ ดิฉันเองก็เฝ้าเตือนตัวเองว่าต่อไป จะไม่มีวันปล่อยให้ความโกรธ ความน้อยใจ ความไม่สบายใจมาทำร้ายตัวเองและแม่บังเกิดเกล้าอีกแล้ว ไอ้โง่มันวิ่งถึงก่อนไอ้ฉลาดเสมอ ส่วนแม่ ดิฉันก็เตือนท่านให้ทำใจว่า ดีแล้วที่ไม่เหลือจะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้ต้องพะวง เรื่องกินอยู่ลูกคนนี้จะดูแลเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เอามาเล่าสู่ฟัง ประเทศชาติช่วงนี้วิจารณ์ไม่ได้เลย เพราะคนกำลังสับสนในการทำความดี อย่าเพิ่งวิจารณ์อะไรเดี๋ยวตกเป็นเครื่องมือของเขา (ใครก็ไม่รู้)
     
  13. mw1958

    mw1958 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +302
    คนในประเทศแตกแยกพร้อมจะห้ำหันกัน
    เกิดจากผลกรรมในอดีต
    หรือเกิดจากการกระทำของผู้นำ
    เจตนาของผู้นำเพื่อหวังประโยชน์และอำนาจส่วนตน
    เราชาวพุทธต้องเชื่อในกฎแห่งกรรม
     
  14. mw1958

    mw1958 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +302
    ประวัติศาสตร์ในอดีต การต่อสู้และการเปลี่ยนราชวงศ์ต่างๆในจีน
    ภาพยนตร์ที่เราดูกัน ล้วนมาจากการแก่งแย่งอำนาจของผู้คน ของผู้นำ
    ซึ่งมักจะอ้างว่ากระทำเพื่อประชาชนทั้งสิ้น
    แต่อย่างไรคนก็ยังเป็นคน ปากพูดอย่าง แต่ใจคิดอย่าง
    ล้วนแต่ต้องการแสวงหาอำนาจทั้งสิ้น
    โลภ โกรธ หลง ยังมีอยู่ในอนุสัย ของคน
    กฎแห่งกรรมจะเป็นตัวกำหนด
    การจะตัดสินใจในตัวผู้นำขอให้ยึดหลักธรรมะว่า
    ผู้นำมีกุศลกรรมบทหรือ อกุศลกรรมบท
    คือกายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 สุจริต หรือทุจริต
     
  15. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    .....เป็นไปตามกรรม....

    ....เวรกรรม ถึงวาระแห่งกรรม.....

    ...กรรม ร่วมกัน หนักเบา ต่างๆกันไป....

    ..หากปรารถนาในโลกย์...ย่อมยากหลีกพ้น....

    ...ทำใจ ให้พ้นโลกย์....ธรรมดาๆๆๆๆ....
     
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ธรรมะจากข่าว - พระพุทธรูปแห่งความสมานฉันท์</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>มิใช่เป็นข้อเขียนแนะนำพระเครื่อง แต่ต้องการแนะนำพระธรรม จากบุคลาธิษฐาน โดยอาศัยพระพุทธรูปปางห้ามญาติเป็นต้นแบบอธิบายธรรม

    พระพุทธรูปในท่ายืนแขนข้างซ้ายแนบพระกาย พระหัตถ์ข้างขวายกขึ้นเสมอพระอุระ มีลักษณะอาการห้ามปราม เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไป แม้ไม่แพร่หลายเท่าใดนัก เด่นชัดที่สุดก็คือหน้าองค์พระปฐมเจดีย์จ.นครปฐม มีพระพุทธรูปปางห้ามญาติยืนตระหง่านสูงใหญ่อยู่หนึ่งองค์ในชื่อ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ประชาชนให้ความเลื่อมใสบูชาสักการะกันมาก แต่ส่วนใหญ่จะยังไม่เข้าถึงความหมายแห่งธรรมในเรื่องนี้นัก

    แม้จะทราบกันเป็นที่แพร่หลายว่าพระพุทธรูปปางห้ามญาติสร้างจากเรื่องราวช่วงหนึ่งของพุทธประวัติเมื่อคราวที่พระประยูรญาติของพระพุทธเจ้าทั้งสองฝ่ายกำลังจะทำสงครามแย่งน้ำกัน ณ แม่น้ำโรหิณี แต่พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้ามทัพ โดยตั้งคำถามว่า สายน้ำกับสายโลหิตอย่างไหนมีความสำคัญมากกว่ากัน

    ทำนองเดียวกับคำพูดที่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ทำให้พระประยูรญาติแห่งศากยวงศ์และโกลิยวงศ์ เลิกล้มการประหัตประหารกัน

    พระพุทธรูปปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปที่แสดงถึงความสมานฉันท์ ปรองดอง สามัคคี ไม่เอาชนะคะคานซึ่งกันและกัน เมื่อนำไปประดิษฐานในที่ใด น่าจะน้อมนำจิตสำนึกไปสู่เรื่องราวพุทธประวัติดังกล่าว

    ปัญหาบ้านเมืองของเราในวันนี้น่าจะใช้พระพุทธรูปปางห้ามญาติเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบ สันติ ไม่รุนแรงเลวร้ายขยายผล
    แม้ไม่มีพระพุทธเจ้าเสด็จมาห้ามทัพที่กำลังมีความขัดแย้งกันอยู่ แต่จิตใจแห่งความเป็นพุทธของเราท่านทั้งหลายนี่แหละ ที่จะช่วยนิมนต์พระพุทธเจ้าเสด็จมาสู่ใจของแต่ละคน ด้วยการทำความรู้สึกเป็นญาติกับทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของฝ่ายตรงข้ามทางความคิด คำพูด และการกระทำ

    เมื่อมีความรู้สึกอย่างแท้จริงว่าเขาเหล่านั้นเป็นญาติของเรา ก็ต้องลดราวาศอกให้แก่กันและกัน ไม่เอาชนะคะคานกัน จนต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง

    และโดยจริงแล้วในการรบราวีบีฑากันนั้น ไม่มีฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ มีแต่ฝ่ายแพ้มากกับแพ้น้อยเท่านั้น การหักห้ามใจ ด้วยการดับไฟโทสะและไฟอัตตามานะ เห็นแก่ประโยชน์ของทุกฝ่ายมากกว่าประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง น่าจะเป็นสิ่งสอดคล้องกับ พระพุทธรูปปางห้ามญาติดังกล่าว

    ท่านจันทร์ www.prajan.com


    ที่มา : http://www.komchadluek.net/2008/11/12/x_phra_j001_229429.php?news_id=229429


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2008
  17. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วันจันทร์ ปางห้ามญาติ


    [​IMG]
    วันจันทร์ ปางห้ามญาติ
    ลักษณะพระพุทธรูป

    พระพุทธรูปปางนี้นอยู่ในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองข้างยกขึ้นเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงห้าม เป็นแบบทรงเครื่องก็มี

    ประวัติและความสำคัญ

    ณ พระนครกบิลพัสดุ์ อันเป็นแว่นแคว้นที่ประทับของเจ้าศากยะ ซึ่งเป็นพระญาติข้างฝ่ายพระพุทธบิดา กับพระนครเทวทหะอันเป็นแว่นแคว้นที่ประทับอยู่ของเจ้าโกลิยะ ซึ่งเป็นพระญาติข้างฝ่ายพระพุทธมารดา ทั้งสองพระนครนี้ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโรหิณี ชาวนาของ ๒ พระนครนี้ อาศัยน้ำในแม่น้ำโรหิณีนี้ ทำนาร่วมกันมาโดยปกติสุข ต่อมาสมัยหนึ่งฝนแล้ง น้ำน้อย น้ำในแม่น้ำโรหิณีเหลือน้อย ชาวนาทั้งหมดต้องกั้น ทำนบทดน้ำในแม่น้ำโรหิณีขึ้นมาทำนา แม้ดังนั้นแล้ว น้ำก็ยังไม่พอ เป็นเหตุให้มีการแย่งน้ำกันทำนาขึ้น ขั้นแรกก็เป็นการวิวาทกันเฉพาะเพียงบุคคลต่อบุคคล แต่เมื่อไม่มีการระงับด้วยสันติวิธี การวิวาทนั้นก็ลุกลามมากขึ้นจนถึงคุมสมัครพรรคพวกเข้าไปประหารกัน และด่าว่ากระทบถึงชาติ โคตร และลามปามไปถึงราชวงศ์ ในที่สุดกษัตริย์ผู้เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้าทั้งสองเมือง ก็ยกกำลังพลเข้าประชิดกัน เพื่อแย่งน้ำ โดยหลงเชื่อคำยุยุงพูดเท็จของอำมาตย์ที่กำลังเคียดแค้น มิทันได้ทรงวินิจฉัยให้ถ่องแท้แน่นอนว่า เมื่อเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นเกิดขึ้น ควรจะระงับด้วยสันติวิธี พระพุทธเจ้าทรงทราบก็ทรงพระมหากรุณาเสด็จมาห้าม สงครามการแย่งน้ำระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย โดยทรงแสดงโทษคือความพินาศย่อยยับของชีวิตมนุษย์โดยเหตุอันไม่สมควร ที่พระราชาจะต้องมาล้มตายทำลายเกียรติของตน เพียงเพราะแย่งน้ำกันทำนาเพียงเล็กน้อย ครั้นแล้วพระญาติทั้งสองฝ่ายก็ทำความเข้าใจกันได้และหันมาสามัคคีกัน พระพุทธจริยาที่ทรงโปรดพระญาติ เพื่อห้ามมิให้ทะเลาะวิวาท สู้รบกันเพราะเหตุแห่งการแย่งน้ำนี้ เป็นมงคลแสดงอนุภาพแห่งธรรมที่พระองค์ทรงแสดง พุทธศาสนิกชนผู้หนักในธรรมคำสอน เล็งเห็นคุณอัศจรรย์แห่งอนุสาสนีปาฎิหาริย์ จึงถือเป็นเหตุในการสร้าง พระพุทธรูปขึ้น เรียกว่า ปางห้ามญาติบ้าง ปางห้ามสมุทรบ้าง

    ที่มา : http://www.maleeseacon.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=58979

     
  18. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ทรงห้ามพระญาติฝ่ายพระบิดากับฝ่ายพระมารดา ซึ่งแย่งกันทดน้ำเข้านา มิให้วิวาทกัน <!--colorc--><!--/colorc-->

    ภาพที่เห็นอยู่นั้น แสดงถึงเหตุการณ์ตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับเมืองพระญาติ แต่คราวนี้เสด็จมาลำพังพระองค์เดียว <!--coloro:#000099--><!--/coloro-->เสด็จมาเพื่อทรงระงับสงครามระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย พระญาติฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธบิดา<!--colorc--><!--/colorc--> ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธมารดา ปกครองโกลิยนคร หรือ เทวหนคร ก็เรียก <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ทั้งสองฝ่ายตั้งบ้านเรือนอยู่คนละริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี <!--colorc--><!--/colorc-->แล้วเกิดพิพาทกันในปัญหาเรื่องน้ำที่ทดขึ้นทำนา เมื่อฝ่ายอยู่ทางเหนือน้ำทดน้ำจากแม่น้ำเข้านา ฝ่ายทางใต้ก็ขาดน้ำ ทั้งสองฝ่ายเปิดประชุมเพื่อตกลงกันก่อน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรง ถึงกับขุดบรรพบุรุษขึ้นมาประณามกัน

    "ไอ้พวกสุนัขจิ้งจอกสมสู่กันเอง" ฝ่ายที่ถูกด่าว่าอย่างนี้ เพราะต้นสกุลหลายชั่วคนมาแล้ว ได้อภิเษกสมรสกันระหว่างพี่ชายกับน้องสาว

    "ไอ้พวกขี้เรื้อน" ฝ่ายตรงข้ามที่ถูกด่าตอบอย่างนี้ ก็เพราะต้นสกุลเป็นโรคเรื้อน ถูกเนรเทศออกนอกเมืองไปอยู่ป่า

    ทั้งสองฝ่ายเตรียมกำลังคน คือ กำลังทหารและอาวุธจะเข้าห้ำหั่นกัน พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า จึงเสด็จมาทรงระงับสงคราม ทรงประชุมพระญาติทั้งสองฝ่าย แล้วทรงซักถามถึงต้นตอของตัวปัญหา

    พระพุทธเจ้า "ทะเลาะกันเรื่องอะไร"

    พระญาติ " เรื่องน้ำ พระพุทธเจ้าข้า"

    พระพุทธเจ้า " ระหว่างน้ำ กับชีวิตคนนี่ อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน"

    พระญาติ "ชีวิตคนมากกว่า พระพุทธเจ้าข้า"

    พระพุทธเจ้า " ควรแล้วหรือ ที่ทำอย่างนี้"

    พระญาติดุษณียภาพทุกคน ไม่มีใครกราบทูลเลย

    พระพุทธเจ้า " ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่ในวันนี้ ทะเลเลือดจะไหลนอง"

    (โลหิตนที ปวัตติสสติ)

    พระญาติทั้งสองฝ่ายเลยเลิกเตรียมทำสงครามกัน เหตุการณ์ตอนนี้เป็นบทบาทสำคัญตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า เพราะเห็นความสำคัญนี้ คนรุ่นต่อมาจึงสร้างพระพุทธรูปปางหนึ่งเป็นอนุสรณ์ที่เรียกว่า <!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->"พระปางห้ามญาติ"<!--colorc--><!--/colorc--> นั่นเอง


    [​IMG]

    ที่มา : http://www.intania8x.com/forums/index.php?showtopic=755&st=50
     
  19. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    รัฐศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ ตอนที่ ๕
    (พระสงฆ์กับการเมือง)

    ผศ.มานพ นักการเรียน
    ๐๔ มีนาคม ๒๕๔๙
    ความหมายของพระสงฆ์
    พระสงฆ์คือ หมู่สาวกผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในทางรัฐศาสตร์ พระสงฆ์หรือองค์การทางศาสนาเป็นกลุ่มทางสังคม ที่มีวัตถุประสงค์ของทางการเมือง (รวมด้วย) คือให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของคณะสงฆ์และมีนโยบายการพัฒนาคณะสงฆ์/พระพุทธศาสนา
    การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองเป็นเรื่องแห่งปัจจุบันสมัย ที่ทุกคนควรเข้าไปเกี่ยวข้อง บางคนที่มีความคิดล้ำหน้ามองว่า พระสงฆ์ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองและการเรียกร้องสิทธิของคณะบุคคลเท่าที่ควรจะเป็น
    พระสงฆ์คงเหลือบทบาทหรือพันธกิจอยู่เพียง ๒ บ และ ๒ ส คือ บ = บิณฑบาต บ =บังสุกุล ส = สังฆทาน และ ส = สวดมนต์ ซึ่งเป็นเรื่องกิจวัตรและกิจกรรมทางพิธีกรรม โดยไม่ได้ใส่ใจต่อทุกขสัจของสังคมรอบด้าน

    พระพุทธเจ้ากับการเมือง
    ๑. กรณีห้ามการระงับข้อพิพาทไขน้ำเข้านาของพระญาติทั้ง ๒ ฝ่าย
    พระพุทธเจ้าทรงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อทั้ง ๒ ฝ่าย มีความตึงเครียดเผชิญหน้า รอให้มีการปะทุออกมา อันจะก่อให้เกิดความสูญเสียทำลายชีวิตผู้คน กรณีนี้คือเรื่องการห้ามหรือการระงับข้อพิพาทไขน้ำเข้านาของพระญาติทั้ง ๒ ฝ่าย คือฝ่ายศากยวงศ์ซึ่งเป็นฝ่ายพระบิดา และฝ่ายโกลิยวงศ์ซึ่งเป็นฝ่ายพระมารดา พระพุทธเจ้าทรงสอบสวนไต่ถามถึงที่มาของเรื่องและทรงให้ข้อคิดแก่พวกพระญาติ
    พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระญาติว่า “มหาบพิตร ทะเลาะด้วยเรื่องอะไรกัน“
    “พวกข้าพระองค์ไม่ทราบ พระเจ้าข้า”
    “แล้วใครจักทราบเล่า”
    พวกพระญาติจึงสอบถามไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง แล้วกราบทูลว่า “ทะเลาะกันเพราะน้ำ พระเจ้าข้า”
    “น้ำมีราคาเท่าไร มหาบพิตร”
    “มีราคาน้อย พระเจ้าข้า”
    “กษัตริย์ทั้งหลายมีราคาเท่าไร มหาบพิตร”
    “ขึ้นชื่อว่ากษัตริย์ทั้งหลายประเมินค่ามิได้ พระเจ้าข้า”
    “การที่พวกท่านทำให้กษัตริย์ซึ่งหาค่ามิได้ให้ฉิบหาย เพราะเหตุแห่งน้ำเพียงเล็กน้อย สมควรแล้วหรือ”
    พวกพระญาติยอมรับโดยดุษณีภาพ สุดท้ายพระบรมศาสดาจึงตรัสเตือนพวกพระญาติว่า “มหาบพิตร เพราะเหตุไร พวกท่านจึงกระทำกรรมเช่นนี้ เมื่อเราไม่มีอยู่ ในวันนี้ แม่น้ำคือโลหิตจักไหลนอง พวกท่านทำกรรมไม่สมควร เป็นผู้มีเวรด้วยเวร ๕ มีความเดือดร้อนเพราะยังเต็มไปด้วยกิเลส มีความขวนขวายแสวงหากามคุณอยู่ แต่เราตถาคตมีนัยตรงกันข้าม”

    ๒. กรณีห้ามการทำสงคราม
    อีกกรณีหนึ่ง พระเจ้าวิฑูฑภะ โอรสพระเจ้าปเสนทิโกศล เมื่อได้ราชสมบัติแล้ว ทรงระลึกถึงเวรที่พวกศากยะก่อไว้จึงยกกองทัพไปเพื่อจะล้างแค้นพวกเจ้าศากยะที่ดูหมิ่นตน พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงเสด็จไปประทับ ณ ร่มไม้ใบบางต้นหนึ่งในรัฐสักกะ ดักทางที่กองทัพพระเจ้าวิฑูฑภะจะผ่านไป
    พระเจ้าวิฑูฑภะเสด็จไปถึงที่นั่น ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธเจ้าประทับอยู่เช่นนั้น จึงเสด็จเข้าไปถวายอภิวาทนิมนต์เสด็จไปประทับที่ร่มไม้อีกต้นหนึ่งในรัฐโกศลซึ่งมีใบหนาทึบสนิทดีกว่า แต่พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า “ช่างเถอะ มหาบพิตรร่มเงาของญาติเย็นสบายดี” พระเจ้าวิฑูฑภะก็ทรงทราบว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาคุ้มครองพระญาติ จึงถวายบังคมยกกองทัพกลับกรุงสาวัตถี

    เมื่อทรงนึกถึงการดูหมิ่นของพวกศากยะขึ้นมาอีก ความแค้นอาฆาตก็พุ่งขึ้นจึงยกกองทัพไปอีกถึง ๒ ครั้ง พระพุทธเจ้าก็เสด็จไปประทับนั่งให้เห็นอย่างนั้น ทำให้พระองค์ต้องยกทัพกลับ ในวาระสุดท้ายพระพุทธเจ้าทรงวางเฉย เพราะทรงเห็นบุพกรรมองพวกศากยะที่ทำไว้หนักนัก เมื่อพระเจ้าวิฑูฑภะยาตราทัพออกไปไม่เห็นพระพุทธเจ้าก็บุกทะลวงเข้าไปจนถึงกรุงกบิลพัสดุ์ แล้วสั่งให้ฆ่าพวกศากยะตายไปไม่เหลือแม้แต่ทารกที่ยังดื่มนมอยู่ก็ไม่ไว้ชีวิต แต่เหมือนพวกศากยะที่หนีรอดไปได้ด้วยกลอุบายก็มีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย
    พระเจ้าวิฑูฑภะเมื่อล้างแค้นได้สมประสงค์แล้วก็ยกทัพกลับไปพักอยู่ที่หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำอจิรวดี เผอิญในคืนนั้นฝนตกหนักจึงเกิดน้ำหลากไหลมาท่วมกองทัพของพระเจ้าวิฑูฑภะจมน้ำตายเสียเป็นส่วนมาก พระเจ้าวิฑูฑภะเองก็สิ้นพระชนม์ในคราวนี้ด้วย เมื่อพระเจ้าวิฑูฑภะสิ้นพระชนม์แล้ว รัฐโกศลก็ขาดกษัตริย์จึงต้องตกอยู่ในอาณัติของพระเจ้าอชาตศัตรูแห่งรัฐมคธ

    ที่มา : http://www.src.ac.th/web/index.php?option=content&task=view&id=427&Itemid=69
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    อ่านเล่นๆแล้วคงสรุปได้นะครับว่า การเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้งนั้น

    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ "กู้ชาติ" ครับ มีแต่ "ห้ามญาติ" หรือ "ห้ามทัพ" แม้น "ศากยะวงศ์" ของพระองค์ต้องสูญสิ้น แต่พระองค์ก็ทำได้แค่ตักเตือน 3 ครั้งเพื่อยุติการเข่นฆ่า แต่เมื่อเป็นกรรมที่ศากยะวงศ์ต้องรับ พระองค์ก็ทรงปล่อยครับ เช่นเดียวกับตอนห้ามพระญาติแย่งน้ำกัน ซึ่งพระองค์ยับยั้งการเข่นฆ่ากันได้ทัน

    จะได้ "บุญ" หรือ "บาป" ผมว่า พิสูจน์กันยาก ผมคิดว่า นี่คือ เหตุผลที่เว็บพลังจิตจึงห้ามไม่ให้โพสต์เรื่องการเมืองครับ เรื่องบางเรื่อง ต่างคนต่างความคิดครับ แม้นเป็นศิษย์ของหลวงพ่อองค์เดียวกัน แต่เมื่อขัดแย้งกันทางความคิด ก็ทำให้ความสัมพันธ์เสียไปได้ งานทางศาสนาที่เคยร่วมทำกันมา ก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

    ดังนั้นเป็นกลางดีที่สุดครับ สถาบันชาติ เริ่มสั่นคลอน เพราะคนเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาโยง ดังนั้นเราต้องช่วยกันรักษาสถาบันศาสนาให้เข้มแข็งครับ จะสีแดง หรือ สีเหลือง ก็มาทำบุญร่วมกันได้ครับ พักเรื่องการเมืองไว้สักเว็บก็คงจะดี

    โมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...