พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. somsakby

    somsakby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +61
    ผมทำบุญกับสภากาชาดไทยเป็นรายเดือนๆละ 200บาท ไม่ทราบว่าจะตรงกับข้อกำหนดไหม ถ้าตรงช่วยตอบมาที่ somsakby@walla.com เพื่อผมจะแจ้งสถานที่จัดส่ง
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ทำบุญแล้ว อย่าลืมกรวดน้ำด้วยนะครับ

    ผมนำบทกรวดน้ำและบทแผ่เมตตามาฝากด้วยครับ

    บทกรวดน้ำ ( บทแผ่ส่วนกุศล )<O:p</O:p
    อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า........................................ได้กระทำในครั้งนี้ ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ( สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ) กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,ผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรตัวของข้าพเจ้าเอง เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ<O:p></O:p>
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    หรือ<O:p</O:p

    อิทัง เม มาตาปิตุนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ มารดาบิดา ของข้าพเจ้า ขอให้ มารดาบิดา ของข้าพเจ้า จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า ขอให้ ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง เม ครุปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ครุปัชฌายาจริยา<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เทวะตาโย<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ เทวดาทั้งหลาย ขอให้ เทวดาทั้งหลาย จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ เปตะโย<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ เปรตทั้งหลาย ขอให้ เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา<O:p</O:p
    ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กรวดน้ำอิมินา อุททิสสนาธิฏฐานคาถา<O:p</O:p

    ( หันทะ มะยัง อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย ภะณามะ เส )<O:p</O:p

    อิมินา ปุญญะกัมเมนะด้วยบุญนี้อุทิศให้<O:p</O:p
    อุปัชฌายา คุณุตตะราอุปัชฌาย์ผู้เลิศคุณ<O:p</O:p
    อาจะริยูปะการาจะและอาจารย์ผู้เกื้อหนุน<O:p</O:p
    มาตา ปิตา จะ ญาตะกาทั้งพ่อแม่และปวงญาติ<O:p</O:p
    สุริโย จันทิมา ราชาสูรย์จันทร์และราชา<O:p</O:p
    คุณะวันตา นะราปิ จะผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ<O:p</O:p
    พรัหมะมารา จะ อินทา จะพรหมมารและอินทราช<O:p</O:p
    โลกะปาลา จะ เทวะตาทั้งทวยเทพและโลกบาล<O:p</O:p
    ยะโม มิตตา มะนุสสา จะยมราชมนุษย์มิตร<O:p</O:p
    มัชฌัตตา เวริกาปิ จะผู้เป็นกลางผู้จ้องผลาญ<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุขอให้เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้าอย่าทุกข์ทน<O:p</O:p
    ปุญญานิ ปะกะตานิ เมบุญผองที่ข้าทำ จงช่วยอำนวยศุภผล<O:p</O:p
    สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุให้สุขสามอย่างล้น<O:p</O:p
    ขิปปัง ปาเปถะ โวมะตังให้ลุถึงนิพพานพลัน<O:p</O:p
    อิมินา ปุญญะกัมเมนะด้วยบุญนี้ที่เราทำ<O:p</O:p
    อิมินา อุททิเสนะ จะและอุทิศให้ปวงสัตว์<O:p</O:p
    ขิปปาหัง สุละเภ เจวะเราพลันได้ซึ่งการตัด<O:p</O:p
    ตัณหุปาทานะเฉทะนังตัวตัณหาอุปาทาน<O:p</O:p
    เย สันตาเน หินา ธัมมาสิ่งชั่วในดวงใจ<O:p</O:p
    ยาวะ นิพพานะโต มะมังกว่าเราจะถึงนิพพาน<O:p</O:p
    นัสสันตุ สัพพะทา เยวะมลายสิ้นจากสันดาน<O:p</O:p
    ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเวทุกทุกภพที่เราเกิด<O:p</O:p
    อุชุจิตตัง สะติปัญญามีจิตตรงและสติ ทั้งปัญญาอันประเสริฐ<O:p</O:p
    สัลเลโข วิริยัมหินาพร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย<O:p</O:p
    มารา ละภันตุ โนกาสังโอกาสอย่าพึงมี แก่หมู่มารสิ้นทั้งหลาย<O:p</O:p
    กาตุญจะ วิริเยสุ เมเป็นช่องประทุษร้าย ทำลายล้างความเพียรจม<O:p</O:p
    พุทธาธิปะวะโร นาโถพระพุทธผู้บวรนาถ<O:p</O:p
    ธัมโม นาโถ วะรุตตะโมพระธรรมที่พึ่งอุดม<O:p</O:p
    นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะพระปัจเจกะพุทธสม<O:p</O:p
    สังโฆ นาโถตตะโร มะมังทบพระสงฆ์ที่พึ่งผยอง<O:p</O:p
    เตโสตตะมานุภาเวนะด้วยอานุภาพนั้น<O:p</O:p
    มาโรกาสัง ละภันตุ มาขอหมู่มารอย่าได้ช่อง<O:p</O:p
    ทะสะปุญญานุภาเวนะ, ด้วยเดชบุญทั้งสิบป้อง<O:p</O:p
    มาโรกาสัง ละภันตุ มา. อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    คำกรวดน้ำ ( ของเก่า )<O:p</O:p

    จากหนังสือกิตติคุณหลวงพ่อเดิม พุทธสโร ( พระครูนิวาสธรรมขันธ์ )<O:p</O:p

    วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์<O:p</O:p
    อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา อาจะริยูปะการา จะ มาตา ปิตา จะ ญาตะกา ( ปิยา มะมัง ) สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิจะ พรหมะมารา จะ อินทา จะตุโลกะปาลา จะ เทวะตา ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โวมะตัง ฯ<O:p</O:p
    อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง เย สันตาเน ฮีนา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม ฯ<O:p</O:p
    พุทธา ทีปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ<O:p</O:p
    คำแปล<O:p</O:p

    ด้วยการทำบุญนี้ ขอให้พระอุปัชฌาย์ผู้มีพระคุณสูงสุด ขอให้อาจารย์ผู้มีอุปการะ ขอให้มารดาบิดาและญาติทั้งหลาย ( ผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า ) ขอให้พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา อีกทั้งท่านผู้มีพระคุณ ขอให้พระพรหมและหมู่มาร ทั้งพระอินทร์และท้าวโลกบาลทั้งสี่ กับเทวดาทั้งหลายด้วย ขอให้พระยม และมนุษย์ทั้งหลาย ที่รักใคร่เป็นมิตรสหาย ที่เป็นกลางๆ รวมทั้งพวกที่มีเวรต่อกันด้วย ขอให้บรรดาสัตว์ทั้งหลาย จงมีความสุขทั่วกัน และขอบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ จงอำนวยความสุขทั้งสามประการ ขอให้ท่านทั้งหลายจงบรรลุอมตะนิพพานโดยเร็วเถิด<O:p</O:p
    ด้วยการทำบุญนี้ และด้วยการอุทิศส่วนกุศลนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรลุพระนิพพานซึ่งตัดขาด ( กิเลส ) ตัณหาและอุปาทาน โดยเร็วและโดยง่ายเถิด กว่าจะลุถึงนิพพาน บรรดาสิ่งเลวร้ายทั้งปลายเหล่าใดที่มีอยู่ในสันดานของข้าพเจ้า ขอให้บรรดาสิ่งเลวร้ายทั้งหลายเหล่านั้น จงสูญสิ้นไปทุกๆขณะด้วยเถิด ข้าพเจ้าไปเกิดในภพใดใด ขอให้จิตใจซื่อตรง มีสติปัญญา มีความเพียรขัดเกลากิเลส และขอให้ศัตรูหมู่มารทั้งหลาย จงอย่าได้มีโอกาสทำการรบกวนในเวลาข้าพเจ้าทำความเพียรเลย<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้า ทรงเป็นนาถะที่พึ่งอันประเสริฐ พระธรรมเป็นที่พึ่งอันสูงสุด พระปัจเจกพุทธเจ้าก็เป็นที่พึ่งด้วย พระสงฆ์ก็เป็นที่พึ่งอันสูงสุด ของข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพอันเยี่ยมยอด ของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสงฆ์ทั้งหลาย เหล่านั้น ขออย่าให้มารทั้งหลายได้มีโอกาสเลย.<O:p</O:p


    บทแผ่เมตตาให้ตนเอง<O:p</O:p
    อะหัง สุขิโต โหมิขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข<O:p</O:p
    อะหัง นิททุกโข โหมิขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์<O:p</O:p
    อะหัง อะเวโร โหมิขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร<O:p</O:p
    อะหังอัพยาปัชโณ โหมิขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง<O:p</O:p
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิขอให้ข้าพเจ้าจงมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ รักษา กาย วาจา ใจ ให้พ้นจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หรือ<O:p</O:p

    อะหัง สุขิโต โหมิ, นิทุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพยาปัชโฌ โหมิ, อะนีโฆ โหมิ, อะโรโค โหมิ, สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ.<O:p</O:p
    ขอให้ตัวของเราเอง จงมีความสุข ปราศจากทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีความลำบาก ปราศจากโรคภัย รักษาตนอยู่เถิด<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    คำแผ่เมตตา<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O:p</O:p
    อะเวราจงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O:p</O:p
    อัพพะยา ปัชณาจงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O:p</O:p
    อะนีฆาจงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O:p</O:p
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุจงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ ท่านทั้งหลาย ที่ท่านได้ทุกข์ขอให้ท่านมีความสุข ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็นชะลาพุชะ ที่เกิดเป็นอัณฑะชะ ที่เกิดเป็นสังเสทะชะ ที่เกิดเป็นโอปปาติกะ จงมารับกุศลผลบุญให้ถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์<O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    บทแผ่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    เมตตา<O:p</O:p

    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O:p</O:p
    อะเวรา โหนตุจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย<O:p></O:p>
    อัพะยาปัชณา โหนตุจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย<O:p</O:p
    อะนีฆา โหนตุจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<O:p></O:p>
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุจงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กรุณา
    <O:p</O:p
    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O:p</O:p
    สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุจงพ้นจากทุกข์เถิด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มุทิตา

    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O:p</O:p
    ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุจงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด<O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    อุเบกขา<O:p</O:p

    สัพเพ สัตตาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O:p</O:p
    กัมมัสสะกาเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน<O:p</O:p
    กัมมะทายาทาเป็นผู้รับผลของกรรม<O:p</O:p
    กัมมะโยนิเป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด<O:p</O:p
    กัมมะพันธุเป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์<O:p</O:p
    กัมมะปะฏิสะระณาเป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย<O:p</O:p
    ยัง กัมมัง กะริสสันติกระทำกรรมอันใดไว้<O:p</O:p
    กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วาดีหรือชั่ว<O:p</O:p
    ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น<O:p</O:p
    สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ จงอย่าได้มีเวรเบียดเบียนกันและกัน <O:p</O:p
    จงอย่าได้มีความลำบากเจ็บไข้เลย จงเป็นผู้มีสุขพ้นทุกข์ภัยทั้งสิ้น กับขอจงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญอันเราได้กระทำแล้วทุกเมื่อเทอญ<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    คำแผ่เมตตา ( หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี )<O:p</O:p
    ( หันทะ มะยัง เมตตาผะระนัง กะโรมะ เส )<O:p</O:p

    อะหัง สุขิโต โหมิขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข<O:p</O:p
    นิททุกโข โหมิจงเป็นผู้ไร้ทุกข์<O:p</O:p
    อะเวโร โหมิจงเป็นผู้ไม่มีเวร<O:p</O:p
    อัพะยาปัชโฌ โหมิจงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน<O:p</O:p
    อะนีโฆ โหมิจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์<O:p</O:p
    สุขี อัตตานังปะริหะรามิจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นผู้ถึงความสุข<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา อัพะยาปัชณา ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกัน<O:p</O:p
    โหตุและกัน<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานังขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด<O:p</O:p
    ปะริหะรันตุ <O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากทุกข์ทั้งมวล<O:p</O:p
    ปะมุญจันตุ<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโตขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้พรากจากสมบัติอัน<O:p</O:p
    มา วิคัจฉันตุตนได้แล้ว<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของๆตน มีกรรม<O:p</O:p
    กัมมะทายาทา กัมมะโยนิเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติด<O:p</O:p
    กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณาตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย<O:p</O:p
    ยัง กัมมัง กะริสสันติ, จักทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป จักต้อง<O:p</O:p
    กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา, เป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป<O:p</O:p
    ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คำแผ่เมตตา<O:p</O:p
    ( พระอาจารย์สมชาติ ธมมะโชโตศูนย์ปฏิบัติแสงส่องชีวิต สี่แยกหินกอง จ.สระบุรี)<O:p</O:p
    อิทังโน ปุญญะภาคัง สัพพะสัตตานัง เทมะ, ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ที่ได้บำเพ็ญมาแล้วในวันนี้ให้แก่ บิดา มารดา อุปัชฌาย์ครูอาจารย์ ท่านผู้มีพระคุณ ท่านผู้มีบุญคุญ ตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวร เทพบุตร เทพธิดา ทุกๆพระองค์ ภูตผีปีศาจทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O:p</O:p
    สัพเพ สัตตา, อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น <O:p</O:p
    อะเวรา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย<O:p</O:p
    อัพะยาปัชณา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย<O:p</O:p
    อะนีฆา โหนตุ, จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<O:p</O:p
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ, จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นนี้ เทอญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    (bb-flower <O:p</O:p
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    หากท่านใดที่บริจาคเลือดให้สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2549 ผมจะให้พระสมเด็จกรมเจ้าคุณท่า 1 องค์ (เนื้อผงสีขาว รักแดงนะครับ) แล้วแจ้งให้ผมทราบทาง messages ด้วยนะครับ ว่าท่านใดได้บริจาคเลือด เมื่อวันที่เท่าไร ผมจะได้บอกหลวงปู่ครับ อย่าลืมแจ้งชื่อ
     
  4. Sunny

    Sunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    1,405
    ค่าพลัง:
    +8,071
    เท่าที่ผมมีอยู่และเคยเห็นพระปี 2408 มีนับสิบๆพิมพ์ครับ รวมถึงสมเด็จวังหน้า สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า และพิมพ์พิเศษอีกมาก พระที่สร้างในยุคสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ช่วงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 นับว่าเยอะมากครับ ถ้าบางท่านได้ทราบหรือได้เห็นอาจตกใจก็ได้ว่ามีจำนวนมากมายเหลือเกินจนคิดว่าเป็นของปลอมครับ ปู่ประถมเองยังเคยเอ่ยปากว่าเรื่องพระเนี่ย เรียนกันไม่จบจริงๆครับ

    ขออนุโมทนากับคุณ Sithipong ด้วยครับ ผมเองก็ตามเก็บพระปู่ใหญ่อยู่เหมือนกัน ได้มีวาสนาครอบครองอยู่พอสมควร ทั้งนี้ ก็มีเป้าหมายเพื่อนำมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆด้านต่อไปครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  8. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ขอโมทนาบุญกับคุณสิทธิพงศ์ และทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมทำบุญโดยการบริจาคเงิน และ/หรือบริจาคโลหิตด้วยนะครับ
     
  9. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    สวัสดีครับคุณสิทธิพงศ์ และเพื่อนๆ
    โมทนากับทุกท่านที่บริจาคเลือดครับ ในส่วนตัวผมอยากทำแต่เป็นตับอักเสบเคยไม่รู้ไปบริจาคตอนอยู่มัธยมสภากาชาดเค้าส่งผลมาบอกว่าใช้ไม่ได้ เลยทำได้แต่บริจาคช่วยทางอื่นๆครับ
     
  10. mr.sanyalak sanyalak

    mr.sanyalak sanyalak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +182
    ดีจังเลยครับที่มีแต่คนมีน้ำใจ (ถ้าคนไทย ไม่ช่วยคนไทยด้วยกัน แล้วจะรอให้คนชาติไหนมาช่วยเรา) น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศ ไม่อย่างนั้นคงได้ร่วมบุญในการบริจากเลือดในครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าคนชาติไหนถ้าเรื่องน้ำใจสู้คนไทยไม่ได้ซักนิดเดียว เชื่อผมสิครับ..." อนุโมทนา สาธุ " กับสหายธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมทำกุศลในครั้งนี้ทุกท่านครับ...
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ข้อแตกต่างระหว่างพระสมเด็จวัดระฆัง กับ พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.เนื้อหาของสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าจะกระเดียดไปทางพระพิมพ์สมเด็จของวัดใหม่อมตรส แต่ที่เป็นชนิดเนื้อน้ำมันก็มีอยู่เป็นบางพิมพ์ บางพิมพ์ก็ห่างไกลจากวัดระฆังฯ บางพิมพ์ก็ใกล้เคียงกัน แต่มีข้อแตกต่างที่พอจะเห็นได้ชัดจากการลงรัก การตัดขอบ มวลสาร และจุดโค๊ด<O:p</O:p
    2.สมเด็จวัดระฆังฯทุกองค์ทุกทรงพิมพ์จะต้องมีการตัดขอบข้าง ส่วนพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่ามีทั้งพิมพ์ที่มีการตัดขอบข้างและพิมพ์ยกถอดในตัว ไม่มีการคัดขอบ<O:p</O:p
    3.ด้านหลังของพระพิมพ์สมเด็จวัดระฆังฯ จะปรากฏรอยคลื่นที่เรียกว่า
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ตัวอย่าง พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ครับ เป็นพิมพ์พระประธานครับ แต่พิมพ์พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น มีหลายพิมพ์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PB010220.JPG
      PB010220.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      1,081
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2005
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ผมขออธิบายอีกครั้งนะครับ สำหรับพระพิมพ์ของวังหน้า เผื่อว่า อาจมีท่านอื่นๆ ยังไม่ได้อ่านครับ

    พระพิมพ์ของวังหน้า
    <O:p</O:p
    พระวังหน้า เริ่มมีการจัดสร้างจากพระบัณฑูรย์ของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (ท่านเป็นพระราชโอรสองค์ต้นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า) โดยเริ่มมีการจัดสร้างขึ้นครั้งแรก ประมาณปี พ.ศ.2400 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    การจัดสร้างพระของวังหน้านั้น จะมีมวลสารที่นำมาสร้างอยู่หลายอย่าง เช่น ปูนเพชร (ซึ่งนำเข้ามาจากเทือกเขาเมืองอันฮุย ประเทศจีน โดยท่านกรมเจ้าคุณท่า ท่านเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี นามเดิมว่า ท้วม บุนนาค ส่วนกรมเจ้าคุณท่านั้น หน้าที่ราชการของกรมท่า มีหน้าที่ชำระความระหว่างคนไทยกับชาวต่างประเทศ ,รับรองพ่อค้าชาวต่างประเทศ รวมไปถึงการรับรองฑูตานุทูตของต่างประเทศ ,การนำฑูตานุฑูตของไทยไปเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,การค้าขายกับต่างประเทศ ถ้าเปรียบเทียบในสมัยปัจจุบัน คือกระทรวงการต่างประเทศ) ,ผงอิทธิคุณ (เป็นผงที่เกิดจากการที่พระสงฆ์เขียนบาลี หรือยันต์ต่างๆ ) ซึ่งได้จากวังหน้าเอง หรือสำนักมูลกจายย์ ทั่วพระนคร ,เศษผงทองคำ(ใช้ในการโรยที่หน้าพระพิมพ์ แต่ในบางพิมพ์ก็จะไม่มี) เป็นหลักใหญ่ ส่วนในการผสมผง ตำผงนั้น 1 ครกใช้ระยะเวลา 4 ชั่วโมง จึงจะใช้ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในการพุทธาภิเษกนั้น เป็นพิธีพุทธาภิเษกหลวง ที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (อยู่ในวังหน้า ปัจจุบันสถานที่ของวังหน้า คือม.ธรรมศาสตร์ ,พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร ,วิทยาลัยนาฎศิลป์ ,โรงละครแห่งชาติ) องค์พระประธานที่วัดบวรสถานสุทธาวาสคือพระพุทธสิหิงค์ โดยเชิญสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มาเป็นประธานการปลุกเสก แต่ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเชิญหลวงปู่เทพโลกอุดร มาปลุกเสกให้ด้วย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตัวอย่างของพระวังหน้านั้น เช่น สมเด็จวังหน้า ,สมเด็จกรมเจ้าคุณท่า ,หรืออย่างกรุวัดท้ายตลาด, ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญท่านได้นำพระไปบรรจุกรุที่วัดท้ายตลาด หรือพระหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญท่านนำพระไปถวายให้กับหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ (ท่านอ.ประถม อาจสาคร ท่านบอกว่า ชื่อของหลวงพ่อแก้ว นั้น ท่านชื่อ สุข แต่ที่ผู้คนเรียกท่านว่าหลวงพ่อแก้วนั้น เนื่องจากพระที่ท่านแจก เปรียบกับแก้วสารพัดนึก นั้นเอง)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หากท่านใดมีพระวังหน้า ท่านสามารถนำไปพิสูจน์ได้โดยนำพระวังหน้าไปให้พระหรือครูบาอาจารย์ที่ท่านได้วิปัสสนาญาณแล้ว ท่านตรวจดูได้ว่าอิทธิคุณขององค์พระเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้เสก ส่วนที่ผมใช้คำว่าอิทธิคุณนั้น ปกติทั่วๆไปจะใช้คำว่าพุทธคุณ แต่ท่านอ.ประถม ท่านบอกว่า คำว่าพุทธคุณ นั้นหมายถึงคุณของพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพระพิมพ์ แต่อย่างใด<O:p</O:p


    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2005
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off"></TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off"></TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">
    พระประวัติกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (โดยย่อ)







    <O:p</O:p

    ครั้นเมื่อมีการผลัดแผ่นดินใหม่ ในปีพ.ศ. 2411อันเป็นปีแรกแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สถาปนากรมหมื่นบวรวิชัยชาญขึ้นดำรงตำแหน่งมหาอุปราชวังหน้าทรงพระนามว่า "กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญสถานมงคล"
    กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญสถานมงคลทรงเป็นพระราชโอรสองค์ต้นในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาอุปราชในรัชกาลที่ 4มีพรสวรรค์ในด้านศิลปศาสตร์วิทยาการแทบทุกแขนงสาขาคือวิชา รัฐศาสตร์ วิชาการทหารแบบยุโรป การช่างและการฝีมือ หลักการบริหารราชการแผ่นดิน วิชาพุทธศาสตร์ ทรงเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐานมาแต่ครั้งเยาว์วัย ทั้งเจนจบในพิชัยสงครามประกอบด้วย ไสยเวทย์มนตรา ท่านได้เริ่มสร้างพระโลกอุดรบรรจุในพระเจดีย์วังหน้ารุ่นแรกประมาณปี พ.ศ.2400 ในสมัยรัชกาลที่ 4 ครั้งเมื่อทรงดำรงราชอิสริยยศ
    เป็นพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศฯ โดยได้อาราธนาองค์ปรมาจารย์อรหันต์อธิษฐานฤทธิ์ให้เสร็จสรรพ เรียกกันว่า

    <O:p</O:p

    "สมเด็จพระโลกอุดร" หรือพระพิมพ์วังหน้าทรงแกะแม่แบบโดยฝีพระหัตถ์ 2 พิมพ์ และรุ่นต่อมาเป็นฝีพระหัตถ์ล้วนๆเพื่อสร้างแจกในงานพระศพของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวนอกนั้นสร้างเมื่อสมัยเป็นวังหน้าแล้วอีกหลายรุ่นนอกนั้นสร้างเมื่อสมัยเป็นวังหน้าแล้วอีกหลายรุ่น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในปีพ.ศ. 2411 ท่านเจ้าคุณกรมท่าได้สั่งให้ช่างทำการต่อสำเภาหลวงขึ้นหลายลำ เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศเช่น บังคลาเทศ ศรีลังกา หมู่เกาะสุมาตรา ตลอดจนแหลมมลายูและประเทศจีน เพื่อเป็นการรักษาดุลย์การค้าส่วน กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ได้ดำริให้สร้างเตาเผาอบเครื่องเบญจรงค์ซึ่งถือเป็นเตาแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในบริเวณพระราชวังหน้าเป็นเตาเผาส่วนพระองค์สาเหตุสำคัญก็คือได้มีการคลั่งเครื่องเบญจรงค์เมื่อต้นรัชกาลที่ 4 และขาดตอนไปในปลายรัชกาลโดยเริ่มหันไปนิยมเครื่องกังใสลายครามเป็นส่วนใหญ่เพราะประเทศทางยุโรป กำลังนิยมมากและมีการสั่งซื้อเครื่องกังใสลายครามจากประเทศจีนเป็นสาเหตุให้กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ จำ
    เป็นต้องสร้างเตาเผาอบเครื่องเบญจรงค์ขึ้นมา ซึ่งในการนี้ได้มีการร่วมมือประสานงานจากกับท่านเจ้าคุณกรมท่า ในการสั่งหุ่นถ้วยชามจากทางประเทศจีนที่ไปทำการค้าขายอยู่และการทำเครื่องเบญจรงค์นี้เองที่ต่อมาได้มีบทบาทในการก่อให้เกิดพระสมเด็จปัญจสิริและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าขึ้นมา

    [b-wai] [b-wai] [b-wai]



    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2005
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off"></TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">มีหลายท่านสอบถามมาเรื่องของท่านอาจารย์ประถม ผมขอลงเรื่องราวโดยย่อที่เกี่ยวกับพระหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อีกครั้งนะครับ



    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ลองดูพิมพ์อื่นๆ บ้างนะครับ

    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PB010227.JPG
      PB010227.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      998
    • DSCN2211.JPG
      DSCN2211.JPG
      ขนาดไฟล์:
      626.8 KB
      เปิดดู:
      808
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ยังมีอีกครับ เป็นร้อยพิมพ์
    ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยสอนผมว่า

    รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ
    กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย
    ไป่เห็นชะเลไกล กลางสมุทร
    ชมว่าน้ำบ่อน้อย สุดล้ำลึกเหลือ

    ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ประถม มากครับ ขอบพระคุณครับ

    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2005
  19. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    แล้วแบบไหนครับที่แจกผู้บริจาคเลือด
     
  20. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ขออนุโมทนาครับคุณ sithiphong ที่ได้ให้โอกาสเพื่อน ๆ ที่นี่ได้มีโอกาสได้มีพระของหลวงปู่ท่านไว้ในคอบครอง ถ้าไม่มีคุณ sithiphong ผมคงไม่มีโอกาส ขอบคุณจริง ๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...