สัตว์มงคลกับการเลือกทำเลที่ตั้ง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR class=fron15><TD vAlign=top>หลักชัยภูมิเป็นหลักการที่เป็นกายภาพและมีเหตุผลที่พิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่าวิชาอื่นๆของฮวงจุ้ย สามารถสังเกตได้จากลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ แสง สี วัตถุ ต้นไม้ สิ่งแวดล้อม สถาปัตยกรรม และบรรยากาศของพื้นที่ ชัยภูมิที่ดีย่อมจะส่งผลที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ คือมีความสงบ บรรยากาศดี เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย อยู่แล้วมีความสุข มีสุขภาพกายใจที่ดี หรืออยู่ในทำเลที่ดีเหมาะสมแก่การค้าขาย ผู้คนสัญจรผ่านไปมา ทำให้ค้าขายรุ่งเรือง นอกจากนี้ก็ยังมีความเชื่อว่าชัยภูมิยังทำให้เกิดผลที่พิสูจน์ไม่ได้อีกเป็นจำนวนมากทั้งผลดีและผลร้าย มีอิทธิพลต่อผู้อยู่อาศัยโดยตรง และอาจมีผลต่อเพื่อนบ้านข้างเคียงได้อีกด้วย
</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>
สำนักที่เน้นการสอนเรื่องนี้คือสำนักรูปลักษณ์ (Form) ที่สอนเกี่ยวกับเรื่องการเลือกที่ตั้ง การพิจารณาทำเลดีร้ายของพื้นที่ ปัจจัยแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อพื้นที่ทั้งในทางกายภาพและในทางสัญลักษณ์

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top> ตัวอย่างปัจจัยทางกายภาพ
ภูเขา ทิวเขา
แม่น้ำ
รูปทรงของบ้านฝั่งตรงข้าม
รูปร่างที่ดิน
ถนน เส้นทาง
ต้นไม้ใหญ่
เสาไฟฟ้า
ท่อระบายน้ำ
สะพานลอย
ทางด่วน
สะพานข้ามแม่น้ำ
อื่นๆ</TD><TD vAlign=top width="50%"> ตัวอย่างปัจจัยทางสัญลักษณ์ (มีผลทางความเชื่อ)
ตราครุฑ
ยันต์แปดเหลี่ยม
ปล่องโรงสี/เมรุเผาศพ
ศาลเจ้า/วัด
โรงพยาบาล
สุสาน
อื่นๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>
หากศาสตร์การออกแบบสถาปัตยกรรมต้องมีการเลือกพื้นที่ (Site selection) และวิเคราะห์ที่ตั้ง (Site analysis) ศาสตร์ของฮวงจุ้ยก็มีวิชาชัยภูมิสำหรับการเลือกซื้อที่ดิน หาทำเลที่ดี ให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยหรือทำกิจการ หลักชัยภูมินี้เริ่มต้นมาจากการสังเกตพื้นที่ที่ให้คุณให้โทษของชาวจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ว่าพื้นที่แบบใดจะให้คุณอย่างไร ให้โทษอย่างไร แล้วจึงนำมาสรุปเป็นรูปแบบของชัยภูมิที่ดีเอาไว้ถ่ายทอดมายังคนรุ่นหลัง
</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

ภาพแสดงการวางผัง​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR class=fron15><TD vAlign=top>

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>1. เต่าดำ ให้ความหมายของอายุวัฒนะ ความสุขสงบในชีวิต ความหนักแน่น บารมี ความเป็นประธานและได้รับการยอมรับนับถือ มีลักษณะสงบนิ่ง (หยิน)

ในทางกายภาพ เต่าดำมีลักษณะเป็นภูเขา หรือเนินเขาที่ลาดเอียง มีมุมไม่เกิน 45 องศาเมื่อมองจากที่ดินไปถึงยอดเขา ไม่อยู่ใกล้ชิดที่ดินเกินไป ต้องเป็นภูเขาที่มีต้นไม้ปกคลุมเขียวชะอุ่ม ไม่เป็นภูเขาหัวล้านหรือภูเขาที่มีแต่ก้อนหินที่ดูแห้งแล้ง ไม่สูงชันจนเกินไปจนทำให้ดินถล่ม หรือดูแล้วข่มที่ดินของเรา นอกจากนี้ยังต้องไม่เป็นภูเขาหัวแตก หรือเป็นช่องเขาที่เป็นทางน้ำไหล เพราะจะเป็นบริเวณที่อาจโดนน้ำจากภูเขาไหลลงมาท่วมพื้นที่ได้
ปัจจุบันสภาพในเมืองอาจจะไม่มีภูเขาที่เหมาะสม ก็ยังสามารถใช้สิ่งอื่นแทนเต่าดำได้ แต่ต้องเป็นสิ่งที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เช่น อาคารที่สูงกว่าในซึ่งอยู่ในทิศหลังบ้าน, ต้นไม้ใหญ่เขียวชะอุ่ม, เนินดินที่ถมไว้สูง หรือ องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เป็นต้น ซินแสบางคนแนะนำให้เอาก้อนหินใหญ่ๆหรือรูปปั้นเต่าไปตั้งไว้ในทิศด้านหลังด้วยความเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดพลังของเต่าดำได้ ซึ่งอาจจะช่วยไม่ได้จริงเนื่องจากก้อนหินใหญ่ไม่เพียงพอจะเกิดสภาพที่ช่วยให้เกิดบารมี ความสงบนิ่งได้ ส่วนรูปปั้นเต่านั้นเป็นการแก้ไขในเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่ได้มีผลในทางกายภาพ ซึ่งคงไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรนอกจากเจ้าของบ้านจะต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น​

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top bgColor=#cccccc height=1></TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

​

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>2. มังกรเขียว ให้ความหมายของเกียรติยศ ชื่อเสียง ความเจริญรุ่งเรือง การปกป้องคุ้มครอง การโอบล้อม มีลักษณะของความเคลื่อนไหว (หยาง)

ในทางกายภาพ มังกรเขียวจะมีลักษณะเป็นเนินเขาที่ค่อนข้างเรียวยาว อาจมีลักษณะแคบๆหรือคดโค้งบ้าง เนื่องจากธรรมชาติของมังกรที่จะมีลำตัวที่ยาวและคดเคี้ยว มังกรเขียวจะมีตำแหน่งอยู่ด้านซ้ายของบ้านหรือที่ดิน เป็นเนินเขาที่สูงประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงภูเขาเต่าดำที่อยู่ด้านหลัง ในสมัยโบราณสามารถใช้ป้องกันอันตรายจากลมพายุและข้าศึกได้ หากมีการกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวบริเวณมังกรเขียว เชื่อว่าจะทำให้เกิดพลังงานมังกรที่จะให้โชคลาภ เกิดความรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัย
ในสมัยปัจจุบันสิ่งที่ใช้แทนมังกรเขียวนอกจากแนวเนินเขาแล้ว ก็สามารถใช้แนวของต้นไม้ที่ไม่สูงมาก เป็นทิวยาวๆ ใช้กลุ่มอาคารด้านข้างแทนก็ได้ หากเป็นภายในบ้านก็นิยมจัดให้ทิศมังกรเขียวเป็นทางเดิน ทางสัญจรเนื่องจากมีการเคลื่อนไหว อาจจะวางตู้ปลาหรือสิ่งเคลื่อนไหวอื่นๆเพื่อกระตุ้นพลังของมังกรได้อีกด้วย​

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top bgColor=#cccccc height=1>

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=230>

​

</TD><TD vAlign=top>3. เสือขาว ให้ความหมายของพลังอำนาจ การพิทักษ์รักษา การคุ้มครองปกป้องจากภยันตราย ความเข้มแข็ง โอบอุ้มช่วยเหลือ มีสภาวะสงบนิ่ง (หยิน)

ในทางกายภาพเสือขาวจะมีลักษณะเป็นเนินเขาที่สูงเท่าๆกับมังกรเขียว คือสูงราวครึ่งหนึ่งของความสูงเต่าดำ เสือขาวเป็นเนินป้อมๆหนาๆดูแล้วให้ความสงบนิ่ง (ต่างจากมังกรเขียวที่เพรียวกว่า และเน้นการเคลื่อนไหว) เนินเสือขาวจะอยู่ด้านขวาของบ้าน/ที่ดิน ทำให้เกิดความสงบนิ่ง มีความมั่นใจ ทำงานได้มีประสิทธิภาพ หากในสมัยโบราณของจีนเนินเสือขาวก็จะคุ้มกันภัยจากข้าศึกและพายุทะเลทราย

สำหรับปัจจุบัน ต้นไม้ใหญ่สามารถใช้แทนเสือขาวได้ ช่วยป้องกันลมพายุ ป้องกันฝุ่น เสียง ปิดมุมมองจากภายนอกบ้าน และบังแดดให้กับตัวบ้านทำให้บ้านมีความสบาย ปลอดภัย อาจแทนได้ด้วยองค์ประกอบสถาปัตยกรรม เช่น แผงบังแดด, ชายคายื่น เป็นต้น แต่ต้องระวังอย่าให้เกิดการเคลื่อนไหว เพราะจะทำให้เสียพลังของเสือขาว​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top bgColor=#cccccc height=1>

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>4. หงส์แดง ให้ความหมายของโชคลาภ เงินทอง ความโชคดี ความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ การติดต่อประชาสัมพันธ์ การสัญจร ค้าขาย ดึงดูดลูกค้า ผู้คนนิยมชมชอบ

ในทางกายภาพ หงส์แดงจะเป็นเนินที่ราบด้านหน้าบ้าน หากหน้าบ้านมีน้ำไหลผ่าน หงส์แดงอาจจะเป็นเนินที่อยู่ฝั่งเดียวกับบ้าน หรืออีกฝั่งของแม่น้ำก็ได้ มีลักษณะเป็นที่ราบกว้างๆ พอเหมาะแก่ขนาดขงตัวบ้าน กล่าวคือ ถ้าบ้านมีขนาดใหญ่ ที่ราบนี้ก็ต้องใหญ่ด้วย ถ้าบ้านขนาดเล็กที่ราบนี้ก็ไม่ต้องใหญ่มาก ให้ขนาดเป็นสัดส่วนกัน

ในปัจจุบันที่ราบหงส์แดงนี้ก็เหมือนเป็นลาน หรือสนามหน้าบ้าน หากอยู่ริมน้ำก็เป็นท่าน้ำ หรือหากเป็นร้านค้า ก็เป็นบริเวณโถงต้อนรับ หรือพื้นที่หน้าร้านที่คนจะเข้าร้านมาเลือกซื้อของได้ หากมีหงส์แดงที่พอเหมาะ ลูกค้าก็จะเกิดความรู้สึกได้รับการเชื้อเชิญเข้าไปเลือกซื้อของ แต่ถ้ามีน้อยเกินไปจะดูไม่ต้อนรับ ไม่น่าเข้าร้านก็เป็นได้​

​

</TD><TD width=256>

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top bgColor=#cccccc height=1>

​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top></TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR class=fron15><TD vAlign=top>ชัยภูมิที่ดีนั้นเสือขาวและมังกรเขียวควรจะมีขนาดใกล้เคียงกัน หากด้านซ้ายหรือด้านขวายาวมากเกินไปก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลของพื้นที่ ตามความเชื่อนั้นเสือขาวหมายถึงภรรยา ส่วนมังกรเขียวหมายถึงสามี หากด้านใดยาวกว่าก็จะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจ ถือสิทธิ์ขาดในบ้าน ชัยภูมิที่ดีจึงควรจะมีทิวเขาทั้งสองด้านเหมาะสมกันไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งให้เกิดปัญหา



</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

ภาพแสดงแนวทิวเขามังกรเขียวยาวกว่าเสือขาว สามีเป็นใหญ่ในบ้าน​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

ภาพแสดงแนวทิวเขาเสือขาวยาวกว่ามังกรเขียว ภรรยาเป็นใหญ่ในบ้าน
​

</TD></TR><TR class=fron15><TD vAlign=top>

ภาพแสดงแนวทิวเขากระดูกสันหลังมังกร และพื้นที่ชัยภูมิที่ดี
ตามแนวคิดสัตว์มงคลทั้งสี่ มีแนวสายน้ำรวมตัวด้านหน้าเพื่อเพิ่มโชคลาภ​

ที่มา http://cyberclass.msu.ac.th/cyberclass/cyberclass-uploads/libs/html/37882/unit2_01.htm


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เทพพิทักษ์ 4 ทิศของจีน

<!-- Main -->มังกรเขียวประจำทิศตะวันออก สีเขียว ธาตุไม้ ฤดูใบไม้ผลิ

ชาวจีนโบราณถือว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคของจักรพรรดิเหลืองเป็นต้นมา มังกรก็กลายเป็นตัวแทนของผู้มีเชื้อสายจีนทั้งมวล โดยเฉพาะเมื่อถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น ปรากฏภาพวาดและตำนานเกี่ยวกับหวงตี้หรือจักรพรรดิเหลืองที่ทรงมังกรเป็นพาหนะเหินบินสู่ฟ้า มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งยงอีกด้วย ตำนานกล่าวว่า มังกรเขียวมีลำตัวเป็นงู หัวเป็นกิเลน หางเป็นปลา มีเครายาว มีเขา เท้าคล้ายกรงเล็บ รูปลักษณ์เป็นมังกรเหิน เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เนื่องจากประจำทิศตะวันออก ธาตุไม้มีสีเขียว จึงเป็นมังกรเขียว

เสือขาว ประจำทิศตะวันตก สีขาว ธาตุทอง ฤดูใบไม้ร่วง

เสือเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งมวล เนื่องจากประจำทิศตะวันตก ธาตุทอง มีสีขาว จึงกลายเป็น เสือขาว เป็นตัวแทนของอำนาจบารมี ความเคารพยำเกรงและการทหาร เนื่องจากเสือเป็นนักล่า กินเนื้อ ดังนั้นจึงมีภาพลักษณ์เป็นเทพเจ้าแห่งศึกสงครามและการล่าสังหารอีกด้วย สถานที่หรือชัยภูมิในสมัยโบราณหากมีชื่อของเสือขาว จึงมักมีนัยสำคัญทางทหาร นอกจากนี้ยังใช้ในการตั้งชื่อหน่วยกำลังรบ และใช้เป็นตราสัญลักษณ์ในการบัญชาการเคลื่อนทัพ หรือสลักเป็นลวดลายคู่กับมังกรเขียวบนบานประตูทั้งสองข้างเพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย

หงส์แดง ทิศใต้ สีแดง ธาตุไฟ ฤดูร้อน

หงส์เป็นเจ้าแห่งปักษา และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ มีรูปลักษณ์เดิมมาจากนกหลากหลายชนิด อาทิ ไก่ฟ้า ห่านฟ้า นกกระจอก เหยี่ยวนกกระจอก นกนางแอ่น ฯลฯ ในตำนานกล่าวว่า หงส์มีรูปคล้ายไก่ฟ้า มีสีขนสลับลายเป็นประกาย มีนิสัยรักสะอาด ช่างเลือก (มีความละเอียดอ่อนประณีต) เนื่องจากรูปลักษณ์เป็นนก ประจำทิศใต้ ธาตุไฟ สีแดง จึงได้ชื่อว่า หงส์แดง ภายหลังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อลัทธิเต๋า จากสัตว์เทพค่อยวิวัฒนาการเป็นรูปลักษณ์ของครึ่งคนครึ่งสัตว์ จากนั้นกลายเป็นเทพที่มีรูปเป็นหญิง

เต่าดำ ประจำทิศเหนือ สีดำ ธาตุน้ำ ฤดูหนาว

เต่าดำหรือเสวียนอู่ มีรูปลักษณ์เป็นเต่า แต่มีเกล็ดคล้ายงู มีลักษณะร่วมกันของเต่าและงู บ้างใช้สัญลักษณ์เป็นรูปเต่าที่มีงูพันรัดกลางลำตัว แต่เดิมมาจากการใช้กระดองเต่าในการทำนายทายทัก ซึ่งหมายถึงการให้เต่านำคำถามลงไปสู่โลกแห่งวิญญาณเพื่อนำคำตอบกลับมายังโลกมนุษย์ อีกทั้งกระดองเต่ามีสีดำ จึงปรากฏในรูปเต่าดำ ภายหลังได้มีการขยายความออกไป โดยเห็นว่าเต่าอาศัยอยู่กับน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่จนถึงท้องทะเลกว้าง จึงได้รับการขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้งเต่ามีอายุยืนนาน จึงเป็นสัญลักษณ์แทนการมีอายุวัฒนะ

ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zercon&month=07-11-2008&group=7&gblog=33

 

มังกรเขียวต้องเคลื่อนไหว เสือขาวควรจะนิ่ง

หงส์แดงต้องกว้างขวาง เต่าดำต้องมั่นคง

นั้นคือ สิ่งสมดุลย์

 

กราบขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ
กราบขอขมาและอโหสิกรรมด้วยครับ สาธุ