การนั่งสมาธิจนหลับไปเองโดยไม่รู้ตัวนี่เรีียกว่า ได้ฌานหรือครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 3 ธันวาคม 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,465
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    คือผมฟังธรรมะอยู่ เเละหลวงพ่อท่านเอ่ยอย่างนี้ " มีอารมณ์เคลิ้มใกล้จะหลับ ก็อย่าดึงเอาไว้ ปล่อยให้หลับไปเลย ถ้าหากว่าหูฟังธรรม ใจตั้งใจรับฟังเสียงที่พูด จยนกระทั่งเกิดอารมณ์เึคลิ้ม เเสดงว่า จิตเริ่มเป็นสมาธิทีละน้อยละน้อย ถ้าจิตเข้าถึงฌานจะตัดหลับทันที ถ้าเราหลับลงไปในขณะนี้ก็ถือว่า จิตทรงฌานในธรรมะที่รับฟัง ตลอดเวลาถึงตื่น นอนกี่ชั่วโมงถือว่า ทรงฌานเท่านั้นชั่วโมงเป็นการได้กําไรมาก " คือบางวัน ผมจะนอนสมาธิ พุทโธไปจนหลับไป อันนี้เรียกว่า ผมได้ฌานหรือครับ ? ใครรู้ อธิบายด้วย ขอบคุณมากครับพี่ๆ เเละฝึกยังไงบ้างให้เราได้ฌาน
     
  2. uncle jing

    uncle jing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +219
    การทำสมาธิในท่านอน จนหลับในฌาน หรือหลับไปเฉยๆตามปกติ

    ให้สังเกตที่เวลาตื่นนอน หากหลับในฌานเมื่อตื่นจะภาวนาด้วยคำภาวนาเดิมต่อทันทีครับ ตื่นแล้วจะมีสติ รู้สึกสดชื่นแม้จะนอนเพียงชั่วโมงเดียวแต่รู้สึกว่าได้นอนเต็มอิ่ม

    เมื่อเริ่มหัดใหม่ให้ระวังการตกภวังค์หลับ ซึ่งเกิดจากการตั้งใจมากเกินไป หรืองกังวลว่าจะไม่หลับในฌาน อาการที่ปรากฏคือ รู้สึกว่านอนไม่พอแม้จะนอนถึง ๘ ชั่วโมงก็ตาม เมื่อผ่านไปหลายวันร่างกายจะอ่อนเพลียเหมือนคนอดนอน
     
  3. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ผมก็ฝึกอยู่ เช่นกันครับ
    เนื่องจาก รับยันต์เกราะเพชร สวดอิติปิโส จบ ก็ ท่องพุธโธ จนหลับ
    แต่ตอน ดันไม่ภาวนาต่อ โปรดแนะนำด้วยครับ
     
  4. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    หลับก็หลับครับ ฌาณก็ฌาณ

    ถ้านอนภาวนา แล้วจิตรวมเป็นฌาณ มันก็จะอยู่ในฌาณ ไม่ได้หลับ
    ถ้านอนภาวนา แล้วเคลิ้ม สติอ่อนลงจนหลับ ก็คือหลับครับ ตอนหลับนั้นจิตไม่มีเอกัคคตา

    ส่วนตัวผมคิดว่านอนภาวนาเป็นท่าที่ไม่ควรในการปฏิบัิติที่สุด ถ้าเข้าฌาณไม่คล่องจริงๆ นอนภาวนายังไงก็หลับครับ
     
  5. s_arch

    s_arch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +90
    ถ้าจิตเป็นสมาธิจะมีความรู้สึกตัวตลอดเวลา แม้ขณะหลับก็มีความรู้สึกตัว
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ได้ ชาน ครับ ชานบ้าน ชานเรือน หลับสบาย

    หากก่อนหลับ มีสติระลึกดู ถีนะ มิททะ ก็พอได้ประโยชน์ ได้จดจำสภาวะธรรม

    การนอนเพื่อจดจำสภาวะธรรมของ ถีนมิททะ ก็จะมีวัตถุประสงค์ แบบนี้คือไม่ให้
    ฝืนการง่วง เพราะเรากำลังยก ถีนมิททะ เพื่อศึกษา เพื่อจดจำสภาวะธรรม อาการ
    เจตสิกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องมีจิตที่ตั้งมั่นคอยตารู้ตามดู ไม่ใช่แนบไปกับ ถีนมิททะ

    ถ้าจิตแนบไปกับ ถีนมิททะ ก็จะหลับไป มีอาการวูบหลับได้ ชานบ้านชานเรือน
    แล้วตอนตื่นขึ้นมามักจะทึกทักว่า สำเร็จมัก(มาก)ผล เพราะหลับหนึ่งทีก็บรรลุ
    หนึ่งที

    ถ้าจิตไม่แนบกับ ถีนมิททะ มีจิตหนึ่งเป็นผู้ดูอยู่ ถ้าจิตมันจดจำสภาวะธรรมของ
    ถีนมิททะ ได้ จะเกิดสติ สังเกตุดีๆนะครับ ผมพึ่งพูดว่าเกิดสติ ดังนั้นการที่ตั้ง
    ใจดูอยู่นั้นไม่เรียกว่ามีสติ ยังถือว่าไม่ใช่ ต้องให้จิตมันจดจำสภาวะธรรมของ
    ถีนมิททะ ได้แล้วมันทันอารมณ์ถีนมิททะ ก็จะเกิดสติ จิตจะสว่างโพลงขึ้นใน
    ขณะที่ยังรับรู้ว่ากายภายนอกนั้นนอนหลับสบาย จิตมันตื่นสว่างโพลงแต่กาย
    หลับสบาย แบบนี้แหละครับถึงจะเรียกว่าได้ฌาณ ไม่ใช่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าองค์
    บริกรรมยังอยู่ แต่เป็นลักษณะที่จิตตื่นตลอดตั้งแต่เริ่ม ท่ามกลาง และตื่นขึ้นลุก
    เดิน
     
  7. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    แบบนั้นเรียกว่าได้ชานบ้านล่ะ

    การได้สมาธิจะมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดแบบ 100% คือมีสติรู้ตัวกว่าการดำเนินชีวิตปกติอีก การได้ฌานก็เช่นเดียวกัน ตะต้องไม่หลับและมีสติรู้ตัวแจ่มชัดตลอด แม้แต่อุเบกขาในฌาน 4 ก็มีสติรู้ตัวชัด

    อย่างไรก็ตาม การหลับในสมาธิก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีอย่างนึงนะครับ ไม่เสียหลาย ถ้าเรานั่งสมาธิง่วงแบบไม่ไหวแล้วจะหลับก็หลับไปเลยถือว่าเป็นการพักผ่อน พอพักผ่อนพอแล้วก็ทำสมาธิต่อแบบมีสติ ความก้าวหน้าก็จะเพิ่มขึ้น ๆ

    เป็นกำลังใจให้นักปฏิบัติทุกคนครับ
     
  8. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    ฌาน เป็นสมาธิที่แนบแน่น ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้จิตสงบและระงับนิวรณ์

    มาดูคำว่า นิวรณ์ นะครับ หนึ่งในนิวรณ์ห้า คือถีนมิทธะ ซึ่งเป็นคำสองคำ กล่าวคือ "ถีนะ" หมายถึงความท้อแท้ใจหรือความหดหู่ใจ และ "มิทธะ" หมายถึงความเกียจคร้านหรือง่วงซึม

    การที่มีมิทธะอยู่ในจิต แสดงว่ายังไม่ได้ฌาน (มั๊งครับ? เดาเอาเอง)

    ผมจำถ้อยคำของพระอาจารย์ทางสมาธิหลายท่านแนะนำว่า หากผู้ปฏิบัติรู้สึกง่วงนอนมาก ซึ่งไม่สามารถขจัดความง่วงนี้ได้ ให้ภาวนาจนกระทั่งหลับไป และก่อนภาวนาให้ตั้งนาฬิกาปลุกกับตนเองว่าจะใช้เวลานอนนานแค่ไหน เพื่อป้องกันไม่ให้จิตเกิดการเกียจคร้านจากการนอนมากเกินไป พอตื่นก็ให้ภาวนาต่อไป (อันนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบจากคำถาม -_-')

    ผมจำได้ด้วยว่า มีบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคำแนะนำในการแก้การง่วงนอนจากพุทธวาจา ก็แนะนำประมาณนี้ครับ

    คำถาม "เวลาหลับ จิตอยู่ที่ใด?" (อันนี้อยากรู้ครับ ^_^')

    นอกจากนี้เคยได้ยินได้ฟังมาว่า แม้แต่พระอรหันต์ยังคงมีมิทธะ แต่เป็นมิทธะในกาย หมายความว่า ร่างกายอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ทำแต่ละวัน เป็นผลให้ร่างกายต้องการการพักผ่อน (แต่พระอรหันต์ไม่มีมิทธะทางจิต นะครับ)

    ดังนั้นพระอรหันต์ผู้ซึ่งมีสติสมบูรณ์ จำต้องเปลี่ยนอิริยาบถไปเป็นการทำสมาธิในท่านอน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน อันซึ่งเป็นทางสายกลางครับผม

    ผมก็สงสัยเหมือนกันว่า "ขณะที่พระอรหันต์กำลังนอนหลับ จิตของพระอรหันต์อยู่ในฌาน หรือเปล่า?"

    ปล. เรายังเป็นผู้มีปัญญาน้อย ฤาจะเข้าใจผู้ที่ถึงพร้อม
     
  9. tawanaok

    tawanaok สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบนอนสมาธิ เคยพยายามนั่งดูแล้วรู้สึกอึดอัด แต่เวลานอนล่ะสบาย สงสัยโรคขี้เกียจแล้วเอามาอ้างหรือปล่าว ฮ่า ฮ่า ก็ดีน่ะครับรู้สึกตัวตลอด เป็นชั่วโมงก็ได้ไม่หลับ ต้องถอยออกมาก่อนถึงจะหลับได้ คนอื่นไม่รู้เป็นยังงัย เคยพยายามปล่อยใจตามสบายตั้งใจกะจะให้หลับไปเลย กลายเป็นว่าใจนิ่งสมาธิลึกกว่าธรรมดาเข้าไปอีก ไปหนักเอาตอนถอนจากสมาธิ สนุกดี
     
  10. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    เหมือนกันค่ะ ชอบนอนสมาธิ แต่จะบอกให้ดูดีว่านอนเล่น ไม่ได้หลับน๊า

    ถ้าเป็นตอนกลางคืน มันจะแปลกตรงที่มันเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ตื่นมาสดชื่นมาก

    บางครั้งนอนเล่นตอนกลางวัน บางครั้งมันก็สั่น กระเพื่อมข้างใน เหมือนตัวข้างในจะหลุดออกมา เป็นบ่อย ๆ ทำให้เวลานั่งสมาธิ รู้สึกเข้าได้ลึกขึ้น ละเอียดขึ้นด้วย นิ่งดี อย่างที่หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเคยบอกไว้น่ะค่ะ ถ้าไม่เป็นฌาณ จะไม่ตัดหลับ ได้ประโยชน์จากการนอน นี่แหระค่ะ
     
  11. Add-on

    Add-on Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +64
    ตั้งใจ อดทน พยายาม
     
  12. jokerpalm

    jokerpalm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +46
    นอนเจริญฌานไงครับ ถ้าจำจับลมหายใจตอนตื่นมาได้ถือเป็นการเจริญฌานครับผม
     
  13. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,092
    จิตละจากนิวรณ์ได้ ก็คือละจากกิเลสไปชั่วคราว เหมือนเราพิจารณาตัดขันธ์ 5

    จิตก็จะสงบด้วยอารมณ์สบายๆ แล้วเราก็ทรงอารมณ์สบายๆนั้นไปเรื่อยๆ ก็เป็น

    อารมณ์ชิน เราก็เรียกทรงฌานเหมือนกัน

    ถ้าเป็นรูปฌาน อารมณ์สบายๆนั้น เช่นถ้ามั่นคงกับลมหายใจเข้าออก ก็มี วิตก วิจารณ์

    ความรู้สึกสบายๆนั้น ก็เป็น สุข และ ปิติ กับสิ่งอารมณ์ดีๆนั้นครับ ทุกอารมณ์จะถูกวาง

    เอาไว้อย่างเบาๆ แต่มั่นคงคือไม่หวั่นไหวจากกิเลส

    ในรูปฌาน ถ้าเราปล่อยไปตามธรรมชาติ ก็จะเป็น 1-2-3-4 วางไปสักพักก็จะ เป็น

    4-3-2-1 ไปๆมาๆ นอกจากเราจะไปกำหนด อยากให้ทรงอยู่ตรงไหน

    อยากรู้ต้องทำเองอ่ะครับ การมานั่งคิดว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นั้น คงไม่ถูกต้องเท่าไหร่

    แล้วจริงๆ ไปต้องไปแล้วคิดว่าเราได้ ฌาน 1 หรือ 2 หรืออะไรก็แล้วแต่ อันนี้เรียกว่า

    ติดนิวรณ์ ไม่ได้อะไรหรอกครับ กิเลสมันกินใจอยู่ครับ

    การหลับ หลังจากการเขาสมาธิ เป็น ฌาน นั้น ไม่ต้องคิดมากครับ ทุกอย่างเป็นไปได้ครับ

    ลองดู ธรรมทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ธรรมทุกอย่าง ไม่ได้มีแต่ในตำราครับ

    ลองปฏิบัติจริงๆแล้วจะรู้ครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2008
  14. เดินทาง

    เดินทาง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +38
    นอนสมาธิดูลมที่จมูกจนหลับเหมือนกันครับ บางวันก็หลับง่ายดี บางวันก็หลับยาก
    บางครั้งก่อนตื่นจะเห็นเป็นเส้นบ้าง พักหลังไม่สนใจเส้นเลยไม่เห็นแล้ว...
    เขาบอกให้นอนหันศรีษะไปทางทิศเหนือ นอนตะแคงขวา จะหลับสนิทดีครับ และจะจำความฝันได้ดีด้วยครับ (ตอนอยู่ในความฝันบางวันจะเหมือนจริงมากเลยครับ)
    ผมเลยกลับมานอนทางทิศตะวันออกเหมือนเดิมครับ ฝันเหมือนจริงมากจนสับสนนะครับ
     
  15. pmicrobes

    pmicrobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +112
    ยังไม่เข้าใจพอเลยยังไม่ออกความคิดเห็นครับ ขอโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  16. HS6GIN

    HS6GIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +98
    ทำประจำค่ะ นอนสมาธิภาวนาไปเรื่อยๆ จนหลับทำให้จิตไม่วอกแวก ไม่คิดเรื่องอื่น ตื่นมารู้สึกสดชื่น มีพลัง สมองปลอดโปร่ง.................ด้วยความเคารพธรรม
     
  17. สุดหล้าฟ้าเขียว

    สุดหล้าฟ้าเขียว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    เห็นด้วยกับคุณMikas ครับ ในเรื่องที่ว่า หลับก็คือหลับ ฌานก็คือฌาน ครับ

    เหตุผล - ผมว่า เรื่องของ ฌาน นั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับจิต ซึ่งต้องเป็นสมาธิ

    ครับ ดังนั้น การเพ่งอารมณ์จนจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ โดยการกำหนดที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วแต่

    ละท่านที่ได้รับการฝึกอบรมจากครูอุปัญชาอาจารย์ท่านใด จิตต้องอยู่ สติต้องอยู่ในสมาธิ

    ดังนั้น หากเพื่อนหลับ นั่นแสดงว่า สมาธิหลุดครับ ไม่น่าจะเรียกว่า ฌาน ครับ

    -สำหรับคนที่นอนหลับยาก การทำสมาธิในท่านอน จะช่วยให้หลับง่ายครับ

    -ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยนะครับ
     
  18. napapatch_datch

    napapatch_datch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +57
    ฌาน เป็นสมาธิที่แนบแน่น ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้จิตสงบและระงับนิวรณ์

    มาดูคำว่า นิวรณ์ นะครับ หนึ่งในนิวรณ์ห้า คือถีนมิทธะ ซึ่งเป็นคำสองคำ กล่าวคือ "ถีนะ" หมายถึงความท้อแท้ใจหรือความหดหู่ใจ และ "มิทธะ" หมายถึงความเกียจคร้านหรือง่วงซึม

    การที่มีมิทธะอยู่ในจิต แสดงว่ายังไม่ได้ฌาน (มั๊ง? เดาเอาเอง)

    จำถ้อยคำของพระอาจารย์ทางสมาธิหลายท่านแนะนำว่า หากผู้ปฏิบัติรู้สึกง่วงนอนมาก ซึ่งไม่สามารถขจัดความง่วงนี้ได้ ให้ภาวนาจนกระทั่งหลับไป และก่อนภาวนาให้ตั้งนาฬิกาปลุกกับตนเองว่าจะใช้เวลานอนนานแค่ไหน เพื่อป้องกันไม่ให้จิตเกิดการเกียจคร้านจากการนอนมากเกินไป พอตื่นก็ให้ภาวนาต่อไป (อันนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบจากคำถาม -_-')

    จำได้ด้วยว่า มีบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคำแนะนำในการแก้การง่วงนอนจากพุทธวาจา ก็แนะนำประมาณนี้

    คำถาม "เวลาหลับ จิตอยู่ที่ใด?"

    นอกจากนี้เคยได้ยินได้ฟังมาว่า แม้แต่พระอรหันต์ยังคงมีมิทธะ แต่เป็นมิทธะในกาย หมายความว่า ร่างกายอาจจะมีอาการเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ทำแต่ละวัน เป็นผลให้ร่างกายต้องการการพักผ่อน (แต่พระอรหันต์ไม่มีมิทธะทางจิต )

    ดังนั้นพระอรหันต์ผู้ซึ่งมีสติสมบูรณ์ จำต้องเปลี่ยนอิริยาบถไปเป็นการทำสมาธิในท่านอน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน อันซึ่งเป็นทางสายกลาง

    ก็สงสัยเหมือนกันว่า "ขณะที่พระอรหันต์กำลังนอนหลับ จิตของพระอรหันต์อยู่ในฌาน หรือเปล่า?"

    ปล. เรายังเป็นผู้มีปัญญาน้อย ฤาจะเข้าใจผู้ที่ถึงพร้อม

    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    "เราทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่ว เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"

    <!-- / sig -->
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก่อนที่จะไปกันใหญ่

    ขอชี้แจงบางประการ

    พระท่านจะชี้ให้ดูจุดที่ควรสังเกตเอาไว้สำหรับ โยนิโสมนสิการด้วยตนเองในกรณี
    ที่เราไม่ได้อยู่ใกล้กัลยาณมิตร (พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ สหายธรรม)

    จุดที่ชี้ให้ดูได้ว่า ผลการปฏิบัตินั้นเป็นอย่างไร ท่านจึงมักชี้ให้ ดู คุณภาพของจิต
    ขณะตื่นขึ้นจากภวังค์จิตทั้งหลาย เช่น ออกจากนิมิตสมาธิ ออกจากการนอนหลับ

    ให้สังเกตุจิตว่าวิ่งไปจับฉวยอะไรขึ้นมาทำ

    จิตที่ยังเป็นอเสขะบุคคล จะมีการทำงานของจิตที่วิ่งไปฉวยอะไรขึ้นมาทำเสมอ

    เช่น

    ปุถุชนผู้ไม่เคยฝึก ก็จะหยิบเอาฝันมาพิจารณาว่าฝันอะไร หากมีอนุสัยด้านใด
    ก็จะปรุงต่อด้านนั้นเช่น โกรธ กลัว ชอบใจ อินเลิฟ เห็นเลข ก็ว่ากันไป

    ปุถุชนที่ฝึกสมาธิ ก็จะหยิบเอาองค์บริกรรมมาทำ มาเป็นงานของใจ เป็นภพ
    ชาติของตน ( แสดงให้เห็นว่ายังไม่สิ้นภพชาติ )

    ปุถุชนที่เจริญสติปัญญาแล้ว ก็จะเริ่มที่จะไม่หยิบอะไรขึ้นมาดู จะไม่ใส่ใจว่า
    ฝันอะไร มัองค์บริกรรมอะไรต้องทำต่อ ไม่มีการเสพ หรือ เสวยภพชาติ

    มาถึงตรงนี้ พระท่านก็ชี้ประโยชน์พึงหวังได้อีกก็คือ ยามที่เราตื่นมันจะพ้น
    จากการมีเจตนาเป็นชนกกรรมอยู่ เมื่อตื่นขึ้นสิ่งที่เป็นอาจิณกรรมอันจิต
    ระลึกได้เป็นอันแรก คือ ภพชาติที่พึงหวังได้ขณะสิ้นลมหายใจ ถ้าไม่มีกรรม
    ตัดรอนอื่นมาแทรก ก็ให้ดูว่า จิตคว้าอะไรมาทำงานของใจ ก็อันนั้นคือภพ
    ชาติที่จะได้หลังการจุติในชาติถัดไป

    เช่น

    ตื่นมานึกถึงการทำบุญตักบาตร ก็พึงหวังว่าน่าจะได้ภพ เทวดา

    ตื่นมานึกถึงองค์บริกรรม ฌาณต่างๆ ก็พึงหวังว่าน่าจะได้ภพ พรหม

    ตื่นมาไม่นึกถึงอะไรเลย ไม่หยิบฉวยอะไนขึ้นมาดูเลย โดยที่มีสติบริบูรณ์
    ไม่ใช่เพราะงัวเงียตกอยู่ใต้โมหะมูลจิตเป็นชนก ก็พึงหวังว่าน่าจะสิ้นภพชาติได้
    ถ้าไม่ผลิกไปยินดียินร้ายกับการไม่หยิบฉวย (กลับมาอยู่ในสุคติภพ)

    สรุป

    การนอนทำสมาธิ ก็คือ การนอนทำสมาธิ ไม่ใช่เพื่อเอาผลว่า ตื่นขึ้นมา
    แล้วเจออะไร ขอให้แยกการพิจารณาเรื่องนี้ออกเป็นสองเรื่องที่แยกจาก
    กัน ไม่ใช่เรื่องเหตุปัจจัยของกันและกัน ไม่ใช่นอนสมาธิเพื่อเอาผลจาก
    การตื่นจากสมาธิแล้วมีอะไร

    หากเผลอทำความเข้าใจว่า นอนสมาธิคือเรื่องเดียวกันกับการ วัดผลการ
    ปฏิบัติ เดี๋ยวจะมุ่งไปนอนสมาธิกันท่าเดียว ซึ่งจริงๆไม่ใช่ นั่ง ยืน เดิน
    สมาธิ ก็สามารถดูผลจากการตื่นนอนแล้วจิตยังหยิบฉวยอะไรหรือไม่นั้น
    ได้ทั้งนั้น

    ร้อยละ 0.01 เท่านั้นที่ทำสมาธิในท่านอน แล้วจะทำสมาธิได้

    ร้อยละ 0.0001 เท่านั้นที่ทำสมาธิในท่าใดๆ แล้วจะได้ฌาณ

    ร้อยละร้อย ทำสมาธิท่าไหนก็ได้ ชาน ทั้งนั้น อันนี้ก็พักผ่อนหลับสบาย
    ไปไม่เสียหายอะไร เว้นแต่ต้องการเป็นคนจริง ก็ไม่ควรที่จะให้เกิดการ
    หลับจมภวังค์(ฝัน นิมิต)เกิดขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2008
  20. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ผมว่าคุณก็รู้เองน๊ะอย่าหลอกตัวเอง หลับก็คือหลับ ฌานก็คือฌาณ การนอนภาวนา

    จนจิตทิ้งกายปล่อยกายให้หลับ แต่จิตตื่นทรงฌานต่อ อันนี้ผมว่าพูดง่ายแต่ทำยากมาก

    เคยลองดูหลายครั้งแล้ว สุดท้ายทนความง่วงไม่ไหวหลับไปก่อนเสมอ .... ผมว่าการนั่ง

    จะทำให้สมาธิต่อเนื่องได้มากกว่า และมีโอกาสเข้าฌาณได้มากกว่าครับ นอนให้ได้

    ฌาณผมว่าต้องเป็นคนที่มีของเก่ามาหรือว่า จริตไปทางนอนสมาธิแล้วจิตสงบเข้าถึง

    ฌาณได้ง่าย ก็อาจเป็นข้อยกเว้นให้ทำได้ แต่อย่างเราๆท่านๆคิดว่าคงหลับคร๊อกฟี้ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...