รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 28 กันยายน 2006.

  1. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    แล้วตอนนี้ มีของไหมล่ะครับ จะได้ไปซื้อ
     
  2. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    <CENTER>พุทธทำนาย ภัยพิบัติของโลก </CENTER>
    <!--detail--><!--images-->
    <CENTER>[​IMG]
    </CENTER>
    <!--images-->คำพยาการณ์
    ขององค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า

    “อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว
    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก”
    พระพุทธเจ้าบอกว่า ค.ศ. 2000 โลกจะไม่สลาย พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ตลอด 5000ปี
    ทรงตรัสชี้ว่า เขตประเทศต่อไปนี้ จะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากจะสามารถทรงพระพุทธศาสนาตลบ 5000ปี นี่หมายถึงประเทศไทย

    ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้นในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย
    สำหรับท่านนักปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิตก็จะเร่งรัดตัวเอง กำลังใจก็จะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิดก็จะเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย ขอให้ทุกท่านยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าที่ให้ไว้คือ

    สังคหวัตุ 4 ได้แก่
    1.1 ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู
    1.2 ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุข เขาจะรักเรา เราก็มีความสุข
    1.3 อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน
    1.4 สมานัตตตา ไม่ถือตัว ไม่ถือตน





    พรหมวิหาร 4 ได้แก่
    2.1 เมตตา ความรัก
    2.2 กรุณา ความสงสาร
    2.3 มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นใครได้ก็ยินดีด้วย
    2.4 อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง



    จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย 3 ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า “พุทโธ”
    ก่อนจะหลับให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” และเวลาตื่นนอนใหม่ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไหร่ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นปกติอย่างนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตน ธรรมรัตน และสังฆรัตน ทั้ง 3 ประการ จิตของท่าจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้าจะทำจิตใจของท่านให้เยือกเย็นมีความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย ก็จะพ้นภัยด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ

    ถ้าจิตของเราไม่นิยมในขันธ์ 5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้


    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ(3จบ)
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง






    การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

    1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
    2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
    3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
    *ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน

    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    2. พายุถล่ม
    3. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว
    4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)
    5. คลื่นยักษ์จากทะเลา
    6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria,อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน
    7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมากก่อน
    8. อดอยากขาดแคลนอาหาร

    การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
    1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6เดือน
    2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    4. ที่อยู่อาศัย
    5. ยารักษาโรค
    6. ด่างทับทิมและคาราไมล์(จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่มาได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนอาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
    8. เครื่องช่วยชีวิต
    9. แสงสว่างเช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
    10. เครียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

    การดุแลตัวเองในช่วงวิกฤติ

    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น
    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดนเด็ดขาด
    5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
    7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
    8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
    9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษเช่น งูพิษ จระเข้
    10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

    การเตรียมจิตวิญญาณ

    1. ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้น ต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
    2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
    3. ฝึกการละวาง
    4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
    5. ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

    การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย

    1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางสิ่งนั้น รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป หากละวางไม่ได้จะเกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
    2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
    3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้กลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ
    4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

    ลางบอกเหตุก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 )

    ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงาย และดูหดหู่ สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งน้ำตาซึม
    เรื่องเวลาที่แน่นอนนั้น ขอบอกตามตรงว่า ไม่ทราบ เพราะจริงๆแล้วน่าจะเกิดตั้งแต่ ค.ศ. 1999 ตามที่นอสตราดามุสทำนายเอาไว้ แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว ภัยธรรมชาติที่รุนแรงอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ และจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่างๆ คิดว่าจะเกิดภายใน 1 – 3 ปีนี้
    เป็นกรรมของสัตว์โลกนะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ปลายปี 47 แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อย ๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทางดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและอุบัติภัยสงคราม และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิลงมาก ภัยพิบัติจึงจะสงบ
    ต่อไปที่จะวิบัติหนัก ๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น
    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯ ก็มิใช่จะปลอดภัยเพราะฝ่ายรักษาภายในของกทม เริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะ แก่งทั้งหมด เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้ สัญญาณของยุคจักรพรรดิที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เช่น เรื่องธาตุแก้วเจ็ดประการที่เริ่มเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น
    ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่า แค่นาคโก่งหลังขึ้นมามนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไปบางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ นี่ยังไม่นับภัยพิบัติจากท้าวกกนาคแถวลพบุรีที่ในไม่ช้า (ช่วงท้ายของภัยพิบัติ) จะลุกขึ้นมา (ภายใน) เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ ขณะที่ทหารลิง 18 กองพล ที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อยู่ที่อื่น ครูบาอาจารย์ท่านว่ายักษ์กกนาคตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัว พิษของยักษ์ก็จะทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้ มนุษย์จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีลก็ไม่เป็นไร
    เราค่อนข้างมั่นในว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจและไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง (ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง
    ศาสนาอื่นนั้นไม่มีเหลือ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมด เท่าที่ทราบต่อไป มหาอำนาจอย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย ศูนย์กลางโลก ศูนย์กลางศาสนา อยู่ในประเทศไทย ซึ่งต่อไป ที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนา
    ในยุคจักรพรรดิ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดย 3 ร่มโพธิ์ศรีอัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิจะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลกอย่างที่พวกยิงเขาคิดจะครองโลกกันนั้นไปไม่ถึงดวงดาวหรอกเพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว
    เหตุที่เกิดในภาคใต้ซึ่งเป็นเขตพระพุทธศาสนายังรุนแรงขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่นๆนั้น จะรุนแรงกว่านี้มาก และความหายนะที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมากด้วย
    ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่า อย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณของพวกนี้ เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้น ที่ครูบาอาจารย์ท่านว่า พวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้นก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้ก็มาเกิดมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตประเทศไทย และประเทศใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทยส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีในภพภูมิไหนมาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้น และเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ และบางครั้งการทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก แต่คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ที่เห็นก็คือผลที่แสดงออกมาภายนอก และพยายามอธิบายกันด้วยเหตุผลและผลทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการรู้นอกแต่ไม่รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก แต่ไม่เข้าใจถึงกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นเหตุอยู่ภายใน เป็นต้น นี่คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆ
    ก็เลยเกิดความ “ประมาท” ต่อไปจะมีพระจักรพรรดิเป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมิกราชจะคล้ายพระสังฆราชและจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่งจะทำหน้าที่คล้ายกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนานั่นเอง และก็มีเหล่าอัญญาสิทธิ์ บางคนก็อาจยังไม่รู้ตัวเอง ถึงเวลาแล้วก็คงจะได้เห็นว่าของจริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านจะมีชื่อเสียงในหมู่เทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภกัณฑ์ ฤาษี ดาบส ฯลฯ พวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมิกราช แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จัก เพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบ ๆ และลี้ลับ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น “ดังบ่ดี ดีบ่ดัง”
    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนดและยุคพระยาธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในกึ่งกลางพุทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    อย่างในยุคพระเวสสันดร หลังจากพระเวสสันดร ได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดยุคพระยาธรรมิกราชหรือยุคพระจักรพรรดิขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าลูกชายพระเวสสันดรจะเป็นพระจักรพรรดิในสมัยนั้นในยุคร่วมสมัยปัจจุบันนี้ มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมีจนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกัน ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว
    ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ หากเมื่อใดที่ผู้ที่เขาได้พรพระอินทร์เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา ระบบที่เขาทำหน้าที่ภายในเขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีล 5 ศีล 8 ของบุญบารมีที่แต่ละท่านบำเพ็ญเพียร สั่งสมมา
    ให้ลองนึกถึงคลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหนที่ทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวันหายวับไปได้ในพริบตาเมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียงเล็กหน่อย ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์เพื่อล้างพวกผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระยาธรรมบนโลกนี้ก็จะเหลือคนไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้

    เหตุการณ์ต่างๆที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่งที่เหตุการณ์รุนแรงที่สุด คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะอันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11 มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกันเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว บรรยากาศช่วงแรกๆจะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล หลังจากนั้นไม่นานนัก ลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลมจะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เป็นเสียงของพญามัจจุราชที่พิพากษาโลกในด้านความเป็นมนุษย์คนชั่วทุกคนจะถูกประหารชีวิตและจะตายอย่างทรมาน ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป
    ปลายปี 2548 นี้ จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีคนตายจำนวนมาก ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไปจะรอด และอีก 5 ปีต่อไปน้ำจะท่วมภาคใต้ และจะร้ายแรงกว่าสึนามิหลายเท่า ผู้คนที่รอดชีวิตจำต้องเดินทางขึ้นเหนือเพื่อให้พ้นภัยโดยระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก
    คนที่ไม่เคยเข้าวัดก็รีบเข้าวัดซะ ตอนนี้ก็ยังทัน รีบหาของดี วัตถุมงคลติดตัวไว้ แต่ถ้าเป็นคนที่มีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดีและสุดท้ายให้นั่งสมาธิ เพราะไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้นอกจากสมาธิ และผู้ที่ปฏิบัติสมาธิได้อภิญญา เรียกว่าให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้และปี 2549 พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตในตอนนี้ จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ (ท่านลงมาเกิดในคราวนี้ไม่ใช่จะมาเป็นพระพุทธเจ้า แต่เพื่อช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือได้ไหวครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจากภัยสงครามครั้งมหึมาที่จะทำให้มีคนตายมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านอาจจะเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ได้แต่ยังไม่แสดงตัวเท่านั้น)
    หากท่านไม่แน่ใจว่าตัวท่านมีความดีพอที่จะรอดพ้นจากมหาภัยพิบัติครั้งนี้ละก็ ขอให้หาของดีติดตัวเอาไว้เป็นอย่างดี หรือถ้าหาของดีไม่ได้จริงๆ ก็จงทำตัวของท่านให้เป็นคนดีเพื่อความดีจะรักษาตัวของท่านเอง หากท่านไม่เชื่อก็จงอย่างเพิ่งปฏิเสธ เช่น เชื้อโรคที่ตาเปล่าของเรามองไม่เห็น แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันมี เพราะเรามีเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศน์ที่จะส่องเห็นแล้ว ส่วนเรื่องอย่างอื่นเช่นที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้า เครื่องมือที่จะเห็นก็มีแล้วคือการปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ แต่อยู่ที่ท่านจะใช้เครื่องมือ หรือรู้วิธีใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่เท่านั้นเอง
    ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือที่หลวงพอฤาษีลิงดำ ท่านเขียนไว้ว่า อีกไม่กี่ร้อยปี จะมีพระมหากษัตริย์ท่านหนึ่งเดินทางจากเหนือมาบูรณะวัดท่าซุง ขณะนี้ วัดท่าซุงก็ยังคงเป็นปกติดี แสดงว่าหลังจากนี้ไม่นานนักคงต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้วัดท่าซุงร้าง ซึ่งปัจจุบันวัดท่าซุงยังมีคนไปทำบุญถือศีล ปฏิบัติธรรมอย่างไม่ขาดสาย แต่จะมีเหตุใดเล่าที่ทำให้วัดร้างได้นอกจาก..
    (อาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างชาติซึ่งเป็นชนวนให้เกิดอภิมหาสงครามครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยก็เป็นได้)
    ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จงหมั่นทำดีเพื่อรักษาชีวิตรอดเทอญ

    ประเทศไทย เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองรักษาไว้ ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลกและจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป
    มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงามและมีอายุไขที่ยาวจนน่าประหลาดใจ มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้า โดยที่ไม่ได้สร้างเทคโนโลยีที่ก่อปัญหาให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้ ซึ่งแม้แต่ปัจจุบันบางคนก็ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก และเป็นประเทศแรกที่มีผุ้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้เป็นแห่งเดียวของโลก โดนใช้พลังจิตในการขับเคลื่อนโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้เสียหายเหมือนอย่างเช่นปัจจุบัน
    นอกจากนี้ต่อมไพนิล หรือตาที่3ของมนุษย์จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีตในระยะเวลาไม่นานนัก (ภายใน6ปี)
    พระศรีอริยะเมตไตร จะเปิดเผยพระองค์ เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจให้กับมวลมนุษยชาติ ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนา และพระองค์ได้มาปรากฏที่ประเทศไทยนี่เอง
    ดังเช่นหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกว่า ใครบ้ามาลองภูมิท่าน ท่านก็แกล้งทำตัวเป็นคนบ้าตอบเสียเลย เพราะพวกมาลองของกับหลวงพ่อพวกนี้ พอพูดความจริงไม่ค่อยเชื่อ แต่พอโกหกคิดว่าเป็นเรื่องจริง

    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดรู้แล้วจงรีบร้อนบอกเล่าสู่กันฟัง หรือพิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยท่านให้หลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง
    ถ้าบุคคลใดไม่เชื่อมั่นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเกิดเดือดร้อนในปีจอนี้ ขึ้น 4 ค่ำ ผู้มีบุญจะลงมาเกิด พร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าไม่มีอยู่ในบ้านเรือนของผู้ใด จะมีพวกปีศาจร้ายเข้าทำลายอย่างแน่แท้ ในปีจอต่อปีกุนยามเดือนหงาย จะเกิดมีงูพิษอยู่บนหัวกัดฉกให้ตาย และฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการเช่น
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะศึกสงคราม
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะน้ำและไฟ
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีใครดูแลใคร
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะอดข้าวปลาอาหาร
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะนอนไม่หลับ
    - ทุกข์ยากร้อน เพราะผัวเมียไม่เห็นหน้ากัน
    ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทน์ จะมีฤาษีทองคำสึกลาบวชออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ใครตักน้ำ อาบน้ำ กินน้ำตามห้วยนองคลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน พญายมราชจะนำเอายาพิษพ่นมาใส่โลกมนุษย์
    นี่คือพระคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนลงในใบลาน
    จงรักษาเก็บไว้ให้ดีเพื่อช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย พระคาถาได้เขียนไว้ดังนี้
    “ปะโต เมตัง ปะละชิมินัง สุขะโต จุตี
    เมตตะ นินะนัง สุขะโต จุติ”




    พระคาถาข้อนี้จะเขียนลงใส่ใบลานแผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดีให้ติดไว้บนประตูห้องเรียนหรือรถราพาหนะ หรือพันหัวไว้ในยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตราย ในกาละเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้ที่คุ้มครองรักษาเหล่ามนุษย์โลก ได้ไปกราบทูลต่อพระอินทร์ว่ามนุษย์โลกทำกุศลผลบุญ (ความดี) เพียง 3 ส่วน และทำบาปกรรม (ความชั่วร้าย) ถึง 10 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระอินทร์จะได้ลงโทษกับมนุษย์โลกถึง 9 ข้อ นับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุน คือ
    - จะให้เกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
    - จะให้เกิดสารพิษต่างๆ (อาหารเป็นพิษ - อากาศ)
    - จะให้เกิดไฟไหม้
    - จะให้เกิดกาฬโรคต่างๆ
    - จะให้เกิดน้ำท่วม
    - จะให้เกิดอดข้าวปลาอาหาร
    - จะให้เกิดฟ้าผ่า
    - จะให้เกิดอาฆาตฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนใจบาป
    - จะให้เกิดร้อนมาก หนาวมาก

    มหันตภัยทั้ง 9 อย่างนี้ จะรอดพ้นเฉพาะคนใจบุญ คนที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รีบเร่งทำแต่ความดีมากกว่าทำบาปกรรมชั่วร้าย ถ้าผ่านปีจอ ปีกุนไปแล้ว ทุกคนพร้อมลูกหลาน จะได้รับความสุขสบายกันถ้วนหน้า เวลาเหลือน้อย ให้ทุกคนเคร่งครัดถือ ศีล 5 ให้ขยันไหว้พระ ภาวนา ให้ทาน เพื่อการกุศลอย่างต่อเนื่อง

    สุดท้ายพระผู้ทรงศีลยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ดังหนังสือ “อินทร์ตก”
    “อินทร์ตื่น”
    ถ้าท่านผู้ใดเชื่อ ศรัทธา บูชา เคารพกราบไหว้หรือบนบานว่าจะบอกเล่าถึงผู้อื่นหรือลงพิมพ์แจกให้สาธุชน คนทั้งหลายรับรู้ด้วยแล้วท่านจะปรารถนาสิ่งใดจะได้ดังใจนึก พยาธิที่เบียดเบียนก็จะหายขาด
    <!--detail--><!-- [​IMG].... --><!-- <hr color="#ffffff">"อัพเดตทุกลมหายใจกับ Mthai SMS NEWS พิมพ์ M ส่งมาที่ 4825908 สมัครวันนี้ทดลองใช้ฟรี 15 วัน ค่าบริการ 29 บาท/เดือน"
    -->

    <HR>
     
  3. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    <TABLE class=toc id=toc summary=Contents><TBODY><TR><TD>Contents

    [hide]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>if (!window.onloadFuncts) { var onloadFuncts = [];}onloadFuncts[onloadFuncts.length] = function() { if (window.showTocToggle) { window.tocShowText = "show"; window.tocHideText = "hide"; showTocToggle();}};</SCRIPT>
    [edit] 13 มกราคม 2550 ภัยธรรมชาติกระหน่ำ 3 ทวีป

    วันเดียวกัน สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ แจ้งว่า น้ำท่วมและแผ่นดินถล่มอันเนื่องจากฝนตกหนักนานกว่าสัปดาห์บนเกาะเลย์เตและเกาะซามาร์ ทางตอนกลางของประเทศ รวมทั้งเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน สูญหาย 5 คน บาดเจ็บอีก 16 คน บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 800 หลัง ประชาชนราว 2.3 หมื่นคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ถนนหลายสายบนเกาะมินดาเนายังคงใช้การไม่ได้ เพราะน้ำท่วมหรือพังเสียหาย
    ส่วนที่มาเลเซีย สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า เกิดฝนตกหนักในภาคใต้ของประเทศ ทำให้ประชาชนประมาณ 5 หมื่นคน ต้องหลบภัยในที่สูง หลังพยายามกลับเข้าบ้านพัก อุทกภัยครั้งนี้นับเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 37 ปี ส่งผลให้ถนนหลักหลายสายในรัฐยะโฮร์ถูกตัดขาด โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองยะโฮร์ บารู ประสบภัยรุนแรงที่สุด ประชาชนเกือบ 2 หมื่นคน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ คาดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก เนื่องจากฝนจะตกต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์ ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 15 คน ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1 แสนคน เนื่องจากน้ำท่วม สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ขณะเดียวกัน ที่ยุโรปยังต้องเผชิญกับพายุร้ายและคลื่นลมแรงที่กวาดซัดเกาะหลายเกาะของอังกฤษและบางส่วนของทวีปยุโรป ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน หายสาบสูญอีก 7 คน ด้านเจ้าหน้าที่ยามฝั่งของอังกฤษต้องตระเวนไปที่ทะเลเหนือท่ามกลางทะเลบ้า เพื่อลากจูงเรือโดยสารลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารราว 100 คน ที่ต้องลอยเคว้งกลางทะเล เพื่อกลับขึ้นชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ ขณะที่เรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งหวุดหวิดชนขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่ง ส่วนที่เบลเยียม ชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนมอเตอร์เวย์ เนื่องจากกระแสลมแรงราว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ที่เนเธอร์แลนด์ ทางการประเมินความเสียหายจากพายุที่พัดกระหน่ำชายฝั่งว่าสูงถึง 15 ล้านยูโร นอกจากนี้ ลมพายุซึ่งรุนแรงพอๆ กับเฮอร์ริเคนยังพัดกระหน่ำสาธารณรัฐเช็ก ทำให้หลังคาบ้านปลิวว่อน ต้นไม้ถูกลมพัดจนถอนรากถอนโคน ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่รวมไปถึงบริเวณชายแดนของโปแลนด์และออสเตรีย
    ข้ามฟากมหาสมุทรแอตแลนติกไปที่ทวีปอเมริกา ลมหนาวจากขั้วโลกได้พัดกระหน่ำทั่วภาคกลางของแคนาดา จนกระทั่งทางการต้องประกาศเตือนภัยประชาชนว่าอุณหภูมิอาจจะลดฮวบฮาบจนถึงจุดเยือกแข็งภายใน 10 นาที โรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดมานิโตบา ต้องปิดโดยปริยาย ขณะที่สตรีคนหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากรถยนต์ลื่นไถลตกถนน ส่วนอีก 2 คน เสียชีวิตเนื่องจากรถพุ่งชนกองหิมะ
    ด้านสำนักสิ่งแวดล้อมแคนาดา เตือนว่า กระแสลมแรงจัดอาจทำให้อุณหภูมิลดลงจนติดลบ 45 องศาเซลเชียส ในจังหวัดมานิโตบาและซาสคัตเชวัน ขณะที่เมืองวินนิเปก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง อุณหภูมิได้ลดต่ำไปถึงระดับ -30 องศาเซลเซียสแล้ว ถือเป็นเมืองใหญ่ที่เผชิญกับความหนาวเย็นมากที่สุดในประเทศ
    • อธิบดีกรมอุตุฯ ย้ำไม่กระทบไทย
    นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงกรณีเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.3 ริคเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทิศตะวันออกของเกาะคูริล หรือละติจูด 46.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 154.4 องศาตะวันออก ของประเทศญี่ปุ่น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กที่บริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด เมื่อเวลา 12.52 น. ตามเวลาประเทศไทย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยอยู่ห่างจากญี่ปุ่นมาก น่าจะกระทบกับประเทศที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดมากกว่า อย่างไรก็ตาม กรมอุตุฯ กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าญี่ปุ่นได้รับความเสียหายมากน้อยแค่เพียงใด และกรมอุตุฯ จะประกาศทางสื่อทั้งทีวี วิทยุ มือถือ แจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย


    [edit] 4 มกราคม 2550

    [​IMG] [​IMG]









    [edit] 15 มกราคม 2550 สหรัฐเผชิญพายุน้ำแข็ง หิมะ น้ำท่วม และทอร์นาโด

    สหรัฐเผชิญพายุน้ำแข็ง หิมะ น้ำท่วม และทอร์นาโด
    ชิคาโก 15 มค. - สื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่สหรัฐ รายงานว่า ฝนที่ตกลงมาเป็นน้ำแข็ง ท่ามกลางหิมะ ลูกเห็บ น้ำท่วมฉับพลัน และทอร์นาโด กระหน่ำพื้นที่ต่าง ๆ ของสหรัฐ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย จากอุบัติเหตุถนนลื่น ในขณะที่พายุเล่นงานพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และคาดว่าจะมีไปจนถึงวันอังคารนี้
    น้ำแข็ง ลม และหิมะ ทำให้ต้นไม้หักโค่น สัญญาณไฟจราจรและไฟฟ้าดับ ทำให้การเดินทางบนถนนติดขัด ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว และการสวดมนต์ที่โบสถ์วันอาทิตย์ และธุรกิจต้องปิดกิจการ มีผู้เสียชีวิต 10 คน จากถนนลื่นที่รัฐโอกลาโฮมา และยังมีอุบัติเหตุอีกกว่า 200 ราย ผู้คนนับแสนไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง
    ส่วนที่รัฐมิสซูรี ตามสถานที่ และโรงแรมต่าง ๆ เต็มไปด้วยผู้คนที่มาอาศัยไออุ่นท่ามกลางอุณหภูมิเย็นจัด ขณะที่รัฐเท็กซัส เกิดฝนตก และน้ำท่วมฉับพลัน สำหรับที่รัฐแคลิฟอร์เนีย อุณหภูมิเย็นจัดเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่ปกติมักมีสภาพอากาศอบอุ่นปานกลางตลอดทั้งปี ด้านรัฐโคโลราโด หิมะตกหนา 1 เมตร และมีรายการแผ่นน้ำแข็งหนา 3 นิ้ว ที่รัฐอิลลินอยส์ แคนซัส และมิสซูรี โดยคาดว่าพายุจะเล่นงานบริเวณชายฝั่งตะวันออกในวันอังคารนี้.-สำนักข่าวไทย


    [edit] 17 มกราคม 2550 หูเป่ยหิมะถล่มคนเดือดร้อน8แสน อู่ฮั่นเตือนภัยหิมะระดับสีส้มครั้งแรก

    หูเป่ยหิมะถล่มคนเดือดร้อน8แสน อู่ฮั่นเตือนภัยหิมะระดับสีส้มครั้งแรก
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2550 14:04 น.
    หิมะที่ตกหนักทำให้การจราจรบางส่วนติดขัด ซินหัวเน็ต
     
  4. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    ถ้าจำประเทศไม่ผิด คือประเทศแคนนาดา วิศวกรเขากำลังออกแบบเมืองบนน้ำ สร้างอาคารบนแพ(ไม่ทราบเป็นวัสดุประเภทใด) ลักษณะเหมือนผักกะเฉด เป็นอาคารสถานที่และถนนที่ตั้งอยู่บนแพที่สร้างเป็นท่อนๆ มีข้อต่อที่ยืดหยุ่นสามารถบังคับให้เคลื่อนที่เปลี่ยนทิศทาง หลบหลีกกระแสน้ำที่รุนแรงหรือแผ่นดินไหวได้
     
  5. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ว่าอีก 5 ปี จะเกิดอริยบุคคลขึ้นจำนวนมาก ท่านว่าท่านไม่ได้พยากรณ์แต่ท่านสอนให้ญาติโยมเจริญสติตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอน ญาติโยมก็เพียรเจริญสติ ( เหมือนท่าน ว่านเมล็ดพันธ์ ตอนนี้เริ่มงอก ไม่ช้าก็จะออกดอกบานสะพรั่ง ) ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า ตราบใดที่โลกยังมีคนที่เจริญสติอยู่ตราบนั้นโลกย่อมไม่ว่างเว้นจากอริยบุคคล
     
  6. ปิ่นเมือง

    ปิ่นเมือง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +61
    น่าเศร้าจริงที่เราต้องเกิดมาในยุคนี้....รักกันไว้คนไทย (smile)
    อยู่บ้านนอกจะห้าซื้อห้องอย่างว่าที่ ไหน ราคาเท่าไหร่
    จะไม่ตายยกบ้านคราวนี้หรอ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2008
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หนาวนี้!! ปรับธาตุด้วยสมุนไพรไทย “เบญจกูล”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 พฤศจิกายน 2551 06:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะ” วลีที่มักได้ยินอยู่เสมอเมื่อถึงช่วงอากาศแปรปรวน แดดรวน ฝนกระหน่ำฟ้า และวันที่ต้องยืนท้าทายลมหนาว แต่หากสุดวิสัยจะดูแลสุขภาพ เมื่อเชื้อโรคแล่นเข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็พานไม่สบายเอาง่ายๆ ยิ่งธาตุทั้ง 5 ตามความเชื่อของแพทย์แผนไทยไม่สมดุลด้วยแล้ว จะยิ่งส่งผลให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และอาการป่วยก็พานจะเรื้อรังไปเสียอย่างนั้น

    ดังนั้น หนาวนี้จึงมีวิธีปรับธาตุด้วยสมุนไพรไทยที่เรียกว่า “เบญจกูล” มาฝาก จะได้ยืนท้าทายลมหนาวได้โดยไม่ต้องเป็นหวัด หรือภูมิแพ้กำเริบอีก


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผลดีปลี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>** เบญจกูล คือต้นอะไร?
    ผิดเสียแล้วหากใครจะไปค้นหาต้นไม้หรือสมุนไพรไทยชนิดนี้ เพราะแท้จริงแล้ว “เบญจกูล” ไม่ใช่สมุนไพรต้นเดี่ยวๆ หากแต่เป็นสมุนไพรไทย 5 ชนิด อันประกอบด้วย ผลดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิงแดง และเหง้าขิงแห้ง

    อ.กุสุมา ศรียากูล และทีมงานจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรทั้ง 5 ชนิดของหมอแผนไทย พบว่า ทั้ง 4 ภูมิภาคของไทยใช้เบญจกูลในการปรับธาตุ และรักษาโรคเรื้อรัง เช่น ใช้ร่วมกับยารักษาริดสีดวงทวาร ภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินอาหาร อัมพฤกษ์ อัมพาต และแก้โลหิตสตรีหลังคลอดบุตร แต่จะแตกต่างไปในภาคใต้ที่ใช้สมุนไพร 5 ชนิดนี้ร่วมกับยารักษาโรคมะเร็งต่างๆ ในรูปของยาต้ม

    รู้จัก เบญจกูล คร่าวๆ แล้ว มาทำความรู้จักกับสมุนไพรในตำรับนี้แต่ละตัว ไล่เรียงจาก...

    ผลดีปลี สรรพคุณตามตำราแพทยศาสตร์สังเคราะห์ ระบุว่า ช่วยขับลม และจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่าช่วยในการบีบรัดตัวของระบบทางเดินอาหารด้วย ส่งผลดีต่อการขับถ่ายและผิวหนังแตกระแหง อีกทั้งยังแก้ปวดเมื่อย เจ็บเนื้อเจ็บหลังได้อีกด้วย


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=190 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=190>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจตมูลเพลิงแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>รากช้าพลู ช่วยระงับขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ แก้ปัสสาวะมากเกินไป หรือปัสสาวะขัด

    เถาสะค้าน แม้ผลการศึกษาจะยังไม่ได้รับการยืนยันสรรพคุณ แต่จากการสอบถามและประสบการณ์ของแพทย์แผนไทยในแต่ละภูมิภาคเห็นพ้องต้องกันว่า ช่วยได้เมื่อเกิดเบื่ออาหาร หายใจขัด และท้องเต็มไปด้วยลม โดยเถาสะค้านยังเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมอยู่จนปัจจุบัน

    รากเจตมูลเพลิงแดง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจนิยมใช้ขับเลือดลม แต่ถ้าหากใช้ผิดวิธีก็จะทำให้คนมีครรภ์แท้งได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดของสมุนไพรไทยชนิดนี้

    “ถ้าหากรู้ไม่จริงถ้านำมาใช้ก็ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ ถ้ารู้จริงพอมาใช้ก็เกิดประโยชน์และทำให้คนสุขภาพดี” อ.กุสุมา แนะนำ

    และสุดท้ายคือ เหง้าขิง ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่มีชื่อเสียงมากตัวหนึ่ง แต่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาในการนำมาใช้มากเช่นกัน เนื่องจากว่าขิงในเมืองไทยมีหลายสายพันธุ์ อีกทั้งในตำราไม่ระบุว่าการนำขิงมาใส่ตำรับเบญจกูลนั้นต้องเป็นแห้ง ถ้าซื้อขิงบ้านซึ่งสรรพคุณอ่อนกว่า แต่เมื่อคุณก้าวไปในร้านขายตำรับยา คุณจะได้ขิงบ้านมาแน่นอน แม้ฤทธิ์จะอ่อน แต่แน่นอนว่าหาไม่ยากเท่าใด


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ช้าพลู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>** ปรับธาตุ 5 กินอิ่ม นอนสบาย
    เมื่อพิจารณาและรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว อ.กุสุมา พบว่า ทั้งในตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์ และคำบอกเล่าของแพทย์แผนไทย และหมอพื้นบ้านต่างเห็นเป็นอย่างเดียวกันว่า “เบญจกูล” ช่วยปรับธาตุทั้ง 4 ในร่างกายได้อย่างสมดุล ทำให้ไม่เจ็บไม่ไข้ กินอิ่มและหลับสบาย

    “จากการศึกษาตำราคัมภีร์ ถ้าเป็นอะไรเกี่ยวกับการปรับธาตุเสมอๆ จากการสัมภาษณ์หมอต่างๆ ก็จะคล้ายๆ กัน รายละเอียดของการหลากหลาย เนื่องจากแต่ละคนมีสัดส่วนการใช้ไม่เหมือนกัน เรียกว่า ยักย้ายถ่ายกระแสยา กล่าวคือ คนแต่ละคนจะใช้ยาไม่เท่ากัน เรียกเป็นตำรับยา ซึ่งแต่ละอันมีทั้งเท่ากันและไม่เท่ากันตามสัดส่วนของพิกัดยาที่ปรุงไว้”

    อย่างไรก็ตาม แม้การใช้สมุนไพรทั้ง 5 ชนิดร่วมกันจะปรับธาตุอย่างได้ผล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหรือข้อห้ามที่ไม่ควรใช้เช่นกัน ซึ่งหมอแผนไทยจะห้ามใช้สมุนไพรกลุ่มนี้กับคนที่เป็นไข้ตัวร้อน ความดันโลหิตสูง คนที่มีแผลเปื่อยอักเสบ และว่า ที่คุณแม่ซึ่งตั้งท้องจะอ่อนหรือแก่ก็ห้ามเด็ดขาดเพราะมียาที่สามารถทำให้แท้งได้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เหง้าขิง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>** อยู่อย่างไรในหน้าหนาว
    นอกจากอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยละเหี่ยแรงโดยหาสาเหตุไม่ได้แต่แก้ด้วยการปรับธาตุไปก่อน 1-2 สัปดาห์แล้วค่อยให้ยาตัวอื่นตามก็จะทำให้อาการดีขึ้นได้แล้ว อ.กุสุมา บอกอีกว่า ในเวลาอากาศหนาวซึ่งช่วงนี้ทั่วประเทศไทยส่วนใหญ่กำลังประสบกับภาวะหนาวเฉียบพลัน คือ หนาวเร็ว และหนาวมากในบางพื้นที่มีผู้ป่วยจากน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งประสบกับภัยหนาวอีกจะทำให้ไม่สบายเรื้อรังได้

    การกินยาเบญจกูลเพื่อปรับธาตุ 1-2 สัปดาห์จะช่วยยับยั้งบรรเทาการเกิดไข้เนื่องจากเปลี่ยนฤดูได้ จะไม่ต้องเจ็บป่วย อาการหนาว การกินยาปรับธาตุ 1-2 สัปดาห์ อาการเป็นไข้เปลี่ยนฤดูก็จะบรรเทาและไม่เจ็บป่วยได้

    อ.กุสุมา บอกว่า รูปแบบของการใช้เบญจกูลจะแตกต่างกันออกไปบางแห่งใช้ต้มในรูปน้ำ บ้างใช้เป็นยาเม็ด และปัจจุบันพัฒนาเป็นแคปซูล โดยในอนาคตอาจจะได้รับการพัฒนาต่อยอดด้านเภสัชวิทยาและคลินิกต่อไป

    ตำรับยาเบญจกูล เป็นยารสเผ็ดร้อนและเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาสมุนไพรที่ใช้ดูแลสุขภาพกันมานานหลายร้อยมิหนำอาจจะล่วงถึงพันปี การนำกลับมาใช้อย่างต่อเนื่องในยุคปัจจุบันอาจจะเพิ่มตัวเลือกให้แก่กลุ่มยาส่งเสริมสุขภาพที่ช่วยรักษาดุลยภาพระหว่างธาตุในร่างกายและธาตุของจิตใจให้เป็นปกติ แข็งแรง เข้าทำนองสุภาษิต “กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน” จริงไหม


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=218 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=218>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เถาสะค้านแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=BODY cellSpacing=5 cellPadding=7 align=center bgColor=#000000 border=3><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc>
    วิธีต้านภัยหนาวด้วยสมุนไพรใกล้ตัว

    นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำวิธีการดูแลสุขภาพด้วยหลักการแพทย์แผนไทยในช่วงหน้าหนาวนี้ ว่า จากทฤษฎีของแพทย์แผนไทยที่บอกว่า คนเรามีธาตุเป็นองค์ประกอบ 4 ธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยการเจ็บป่วยในแต่ละช่วงฤดูกาลจะขึ้นอยู่กับการเสียสมดุลธาตุในช่วงนั้นๆ

    โดยในหน้าหนาวจะเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำในร่างกายที่ขาดสมดุล สำหรับอาการที่มักจะพบบ่อยๆ คือ มีเสมหะ เจ็บคอ แสบคอ ซึ่งเป็นโรคในกลุ่มทางเดินหายใจของแพทย์แผนปัจจุบันนั่นเอง

    กลุ่มคนที่น่าเป็นห่วงในฤดูหนาว คือ คนที่เป็นโรคประจำตัวคือ หอบหืด ซึ่งมีโอกาสถูกกระตุ้นให้แสดงอาการได้ง่ายและเร็วกว่าฤดูอื่นๆ

    ดังนั้น การดูแลสุขภาพในหน้าหนาวของการแพทย์แผนไทยต้องใช้ทฤษฎีเรื่องอาหารปรับสมดุลธาตุน้ำ โดยใช้รสชาติของอาหารป้องกันการเจ็บป่วยช่วยปรับธาตุทั้ง 4 ให้สมดุล
    สำหรับอาหารที่แนะนำ คือ อาหารรสเปรี้ยว ขม เช่น ประเภทต้มยำ ยำต่างๆ น้ำพริกรสเปรี้ยว ผักจิ้มเครื่องเคียงทั้งรสเปรี้ยวและขม เช่น ยอดมะกอก ช่อมะม่วง ยอดติ้วยอดแต้ว ผักเม็ก มะระ สะเดา แกงขี้เหล็ก เป็นต้น ซึ่งสรรพคุณของรสเปรี้ยวจะช่วยขับเสมหะ บำรุงเสมหะ ส่วนรสขมจะช่วยบำรุงน้ำดีและช่วยให้เจริญอาหาร

    นอกจากนี้ ยังมีอาหารรสเผ็ดร้อนจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยขับเสมหะ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา พริก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาหารบำรุงธาตุน้ำ ดังนี้ร่างกายก็จะสดชื่นแข็งแรงมีภูมิต้านหนาวได้ดี
    ไม่เพียงธาตุน้ำจะส่งผลต่อระบบภายในเท่านั้น

    นพ.นรา ยังบอกอีกว่า ปัญหาผิวแห้งถือเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับคนทุกวัยไม่แพ้กัน ทั้งผิวแห้ง ผิวคัน แสบร้อน หากดูแลไม่ดีก็อาจอักเสบหรือติดเชื้อได้ จึงขอแนะนำน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันมะกอกทาผิว เนื่องจากเป็นสารที่อุดมด้วยวิตามินอี มีสารต้านอนุมูลอิสระ
    และในกรณีที่ผิวแห้งมากๆ แนะนำว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นได้นาน น้ำมันมะพร้าวและน้ำมันงาจะซึมบำรุงผิวได้ดีและเร็ว ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังและป้องกันมะเร็งผิวหนังจากแสงแดดได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137171

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2008
  8. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ส้วมฉุกเฉิน! ใช้ง่ายเบา-ถูก-ทนทาน-พกพาสะดวก...

    by orniriya on 22.11.08 / Nature & Nurture
    [​IMG] การปลดทุกข์เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำกันเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทุกข์หนัก
    ทุกข์เบา แต่ถ้าที่แห่งนั้นที่เราไป ไม่มี ..ส้วม.. สำหรับปลดทุกข์ละ จะทำงัยดี
    วันนี้เราเลยนำส้วมฉุกเฉินสำหรับพกพามาฝากเพื่อนๆ กัน...
    กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือภาคเอกชน ปฏิวัติกระดาษให้เป็นส้วมเคลื่อนที่ในภาวะฉุกเฉิน
    เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภับพิบัติธรรมชาติ และนักท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ
    เริ่มผลิตนำร่อง 1,000 ชิ้น
    เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยวัสดุกระดาษลูกฟูก สำหรับแก้ปัญหาความไม่สะดวกในการใช้ห้องสุขา
    ขับถ่าย จุดเด่นของส้วมฉุกเฉิน คือใช้ง่าย ทนทาน น้ำหนักเบา ราคาถูก และยังเป็นมิตรกับ
    สิ่งแวดล้อม ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก ราคาประหยัด ไม่เกิน 60-80 บาทต่อชิ้น
    ผู้ใช้สามารถนำไปใช้งาน ได้อย่างสะดวกเพราะมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและประกอบได้ง่าย
    อีกทั้งยังมีความทนทานแข็งแรง รองรับน้ำหนักกดทับได้ถึง 100 กิโลกรัม และใช้งานได้ประมาณ
    100 ครั้ง รวมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เมื่อใช้งานจะต้องมีถุงพลาสติกเป็นส่วนประกอบ
    โดยใส่ไว้ด้านใน เพื่อรองรับของเสียจากร่างกาย เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บถุงพลาสติก และเปลี่ยนถุงใหม่
    ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
    ผลิตส้วมฉุกเฉินให้ โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ จำนวน 1,000 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ
    100,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ
    อันเนื่องมาจากน้ำท่วม ตลอดจนภัยภัยพิบัติธรรมชาติ.
    ที่มา: Thaipost
     
  9. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    มันเป็นกระดาษ แล้วมันกันน้ำไหมอ่ะ
     
  10. ปิ่นเมือง

    ปิ่นเมือง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +61
    เท่าไหร่หรอ เอาไว้ยามฉุกเฉิน
     
  11. nsa2969

    nsa2969 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    เจ๋งดีครับส้วม
     
  12. nsa2969

    nsa2969 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    การดำรงค์อยู่ของเรา จากผมเอง

    ขอพูดนิดนึงนะครับ
    การทำเราจะสร้างที่หลบภัยได้นั้น ต้องวางแผนไว้ครับ และจัดการเรื่องที่ทางให้เรียบร้อย เรามาดูวิธีตามความคิดของผมกันนะครับ

    1.จัดหาผู้คนที่ต้องการหลบภัยให้ครับ ห้ามเพิ่มทีหลัง ถ้าเราเพิ่มคนให้ทีหลังนั้นหมายความว่าความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น เพราะขณะที่เกิดภัยพิบัติผู้คนก็ต้องการที่อยู่และอาหาร เมื่อมีใครคนหนึ่งมีที่อยู่แต่อีกกลุ่มใหญ่ๆไม่มีที่อยู่ก็ต้องเกิดกว่ารุกราน ดังนั้นตรงนี้สำคัญมากๆควรคิดดีๆนะครับ

    2.เมื่อได้จำนวนคนคงที่แล้วก็จัดหาที่สำหรับหลบภัย อาจจะเป็นบ้านดินอย่างท่านหัวหน้ากลุ่มภัยพิบัติ หรือว่าประกอบเองและทดสอบเอง เราต้องทำกันตั้งแต่แรกๆ เพราะถ้าเกิดภัยแล้วมีเวลาเตรียมแค่ 3 เดือน คงไม่ทันหรอกครับ ถึงตอนนั้นเงินหายาก วัสดุก็ไม่มีเนื่องจากไปใช้ในสงครามหมด ดังนั้นต้องเตรียมการไว้ สร้างให้ใหญ่พอสำหรับครอบครัวเรา มีที่สำหรับห้องต่างๆ อาจจะใช้งบประมาณเยอะแต่ก็ลองค่อยๆเก็บ ค่อยๆสรางสิครับ

    3.เมื่อเรามีที่สำหรับอาศัยแล้ว อีกอย่างก็คืออาหาร การตุ่มอาหารนั้นเป็นเรื่องยากมากๆครับ ที่แนะนำคือมาม่าครับตุ่มไว้เยอะๆ และก็น้ำดื่มครับ ควรหาแท้งน้ำใหญ่ๆสักอันแล้วก็ต่อกับปั้มสูบน้ำใต้ดิน ให้สวิตในการเปิดปั้มอยู่ในบ้านเลยครับ สำหรับการเก็บอาหารนั้นจำเป็นต้องให้ความเย็นก็หาตู้เย็นสัก 1.6 คิว หรือสัก 5 คิวก็ได้ครับ เรื่องไฟฟ้านั้นจะอธิบายทีหลังครับ ถ้าเราอยากถนอมอาหารอาจจะตากแห้งหรืออบก็ได้ โดยใช้ไฟครับ แล้วน้ำก็ควรใช้ด่างทับทิบล่างครับหรือทำเครื่องกรองน้ำแบบใช้เองก็ได้ครับ ดังนั้นเรื่องอาหารควรจะสะอาดและไม่มีสิ่งเจือปน เพราะอาจทำให้มีใครคนหนึ่งเจ็บป่วยแล้วแพร่เชื้อโรคได้

    4.สุขอนามัยครับ เรื่องสำคัญเลยเราควรทำที่ขับถ่ายให้ไหลลงสู้บ่อหมักก็ได้ครับ เรื่องบ่อหมักผมจะพูดทีหลังนะครับ ไม่ควรให้สกปรก เรื่องการกำจัดขยะนั้นก็ต้องทำให้สม่ำเสมอเพื่อจะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนะครับ โดยทำทางทิ้งขยะออกไปนอกบ้านก็ได้นะครับ เรื่องภาชนะต่างๆก็เช่นกัน ควรล้างทุกครั้งหลังที่ใช้เสร็จ ไม่ปล่อยให้เป็นแหล่งของเชื้อโรค หรือยุง เอ๊ะ ยุงจะมีหรือตอนนั้น ไม่รู้ละครับพูดไปก่อน ^-^ ถ้ามีแอลกอฮอล์ด้วยก็ดีครับ เอาไว้เช็ดช้อนส้อมก่อนรับประทานอาหาร ดังนั้นควรทำให้ทุกอย่างสะอาดครับ เพื่อป้องกันโรคที่อาจทำให้เสียชีวิต

    5.เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค ผมเชื่อครับว่าทุกคนต้องมียาสามัญประจำบ้าน ใครไม่มียกมือขึ้น ไม่ต้องยกละครับไปซื้อเลยครับ บอกร้านขายยาว่าซื้อยาสามัญประจำบ้านครับ แล้วก็ซื้อคาลาไมน์มาด้วยก็ดีนะครับ เอาไว้ใส่ตุ่มคันครับ อีกอย่างก็คือเครื่องนุ่งห่มควรจะสะอาดนะครับ ไม่ใช่ใส่ 7 วันเปลี่ยนที
    เรามีน้ำแล้วสามารถซักได้ก็ซักเลยครับ ตอนกลางคืนอากาศอาจจะหนาวมากให้หาผ้าห่มไว้หลายๆผืนนะครับ หรือจะนอนกอดกันก็ได้ เพราะความอบอุ่นของร่างกายคนเราจะอยู่ในผ้าห่มครับ ไปออกไปในทำให้อุ่นตลอด ดังนั้นควรเตรียมเครื่องนุ่งห่มให้พอกับคนที่ต้องการ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นตลอด และเมื่อไม่สบายควรกินยาและพักผ่อน ถ้ามีความรู้ทางด้านการดูแลผู้ป่วยยิ่งดีครับ

    6.ช้อปปิ้ง !!! การตุ่มอาหารหรือหาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค ควรหาสิ่งจำเป็นไว้มากๆไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ขนม หรืออาหารแห้งเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรู้ ผงซักฟอก ทุกๆอย่างที่จำเป็น อีกอย่างคือ เมล็ดพืชหลายๆพันธุ์ อย่างผักชี ผักบุ้งครับ ใครหลายๆคนในนี้อาจบอกว่า จะเอาเมล็ดพืชไปทำไม บอกได้เลยครับเมื่อวันที่ฟ้าส่าง จะไม่มีต้นไม้ใดๆเลย ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาไว้เพื่อนำมาปลูก เรือด้วยครับ แท้งน้ำ หน้ากากกันสารเคมี ฯลฯ ดังนั้นก่อนที่จะไปซื้อของเรียมไว้ควรจดไปให้ครบและซื้อทุกอย่างให้เร็วที่สุด

    7.ลงมือปฎิบัติ ผมจะอธิบายทุกๆอย่างที่ติดค้างไว้เมื่อกี้นะครับ

    -ติดตั้งแท้งน้ำ คือต้องทำแท้งน้ำไว้ให้ใกล้ตัวบ้านที่สุดเพราะถ้าไกลต้องเสียเงินต่อท่อเข้ามา แล้วอีกอย่างจะเกิดแผ่นดินไหว ท่อเราอาจแตกได้ ไม่แนะนำให้ต่อท่อใต้ดิน แล้วควรสร้างบ้านให้แท้งด้วย หลายคนอาจบอกว่างั้นก็เปลืองดิ ไม่ต้องทำแบบดีสุดๆก็ได้ครับ เพียงแต่ทำเพื่อป้องกันแท้งน้ำไม่ให้มันแตกหรือรั่ว เพราะเชื้อโรคและสารพิษอาจเข้าไป แล้ววิธีการดูดน้ำใต้ดินเอาครับ ให้เจาะลงไปสัก 10-20 เมตรเลยก็ได้ครับ แล้วให้ปั้มดูดขึ้นมา ตัวปั้มเป็นอันโนมัติยิ่งดีครับ เหมือนบ้านผมใช้ เพราะเมื่อเราเปิดก๊อก น้ำก็จะไหลทันทีแบบน้ำประปาครับ แต่ปัญหาคือต้องใช้ไฟครับ

    - ปั่นไฟใช้เอง ให้ใช้วิธีเอารถจักรยานมาปั่นนะครับแบบนั้นเลยเพียงแต่ท่านต้องทำไดนาโมเอง สำหรับผู้รู้หรือเป็นช่างก็จะทำได้ แต่ถ้าไม่รู้ก็ศึกษาไว้ครับไปที่ลิ้งนี้เลยครับhttp://online.benchama.ac.th/science/learning/sci/pra_website2/pan2.htm
    ควรใช้แบบกระแสสลับนะครับ เพราะปั้มและตู้เย็นใช้ไฟกระแสสลับ เราอาจจะปั่นเก็บไว้ในแบตเตรี่ก็ได้ครับ ควรหาแบตไว้สัก 4-5 ลูกครับ ปั่นไฟเข้าแบต พอยามจำเป็นค่อยนำมาใช้ก็ได้ครับ อีกทางเลือกคือพลังงานลมครับ ติดตั้งกังหันไว้นอกบ้านครับ ไม่ต้องเอาใหญ่มากก็ได้เพราะอาวุธนิวเครียทำให้ลมแรง อาจล้มใส่ตัวบ้านพังหมดครับ ปั่นเก็บไว้อย่างที่บอกละครับ

    - บ่อหมัก เอาไว้ใส่มูลสัตว์ เศษอาหาร เศษผัก ลงไปหมักครับ เมื่อหมักเราก็จะได้แก๊สมีเทนนำมาหุ่งต้มอาหารได้ บ่อหมักมีหลายแบบนะครับ แต่ที่แนะนำคือยอดโดมครับ การทำบ่อหมักไม่เพียงแต่ได้แก๊สครับ ยังได้ปุ๋ยอีกด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับบ่อหมักดูที่นี้ http://www.geocities.com/originalbiogas/subindex.html และ http://www.dede.go.th/dede/index.php?id=174 ลองอ่านดูนะครับ กากของก๊าซชีวภาพสามารถนำมาเป็นอาหารหมู ไก่ ได้ครับ และก๊าซสามารถนำมาผลิตไฟฟ้าเองได้ด้วย

    - ปลูกผัก เมื่อฟ้าส่างก็มีฝน เราก็ลงมือปลูกผักได้เลยนะครับ รีบๆปลุกเลยเพราะตอนนั้นเราจะหิวมากๆ ดุแลรดน้ำ พรวนดิน ให้แพร่พันธุ์เลยนะครับ แล้วสัตว์ละ !! หลายๆคนอาจถาม ถ้าท่านอยากกินก็ต้องลงทุนเลี้ยงไว้ในบ้าน หรือแยกห้องออกไปเฉพาะ เพราะตอนนั้นเลี้ยงข้างนอกไม่ได้ครับมีสารพิษ และควรให้สะอาดครับ

    ก็จบแค่นี้ละครับ ขอให้ท่านๆลอดจากภัยพิบัติและมีแต่ความสุขนะครับ
    เอาไว้โอกาศหน้าจะพิมพ์บทความดีๆมาอีกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2008
  13. wanchai2550

    wanchai2550 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +411
    ได้รับเมล์จากน้องมา คิดว่าอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการหาเป้ ถุงนอน ไว้ใช้ครับ
    สำหรับผม คิดว่าถ้าลด 50% ก็น่าสนใจ แต่ก็ขึ้นกับความพอใจของแต่ละท่าน ครับ

    ใครสนใจเป้ Deuter ราคาถูกกันมะ!! 30-70% off] บุกโกดัง United BMEC (Thai)
    โกดังดังกล่าวอยู่ที่ สุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุท 17 แยก 20 ครับ … มาดูกันว่าเจออะไรบ้าง …
    สรุปของมันถูกจริงๆคับ ใครเป้ขาด หาเป้ใหม่ๆอยู่ หรือใครสนใจเป้ยี่ห้อนี้อยู่ แนะนำให้ลองไปดูก่อนซื้อเลยครับ
    อ้อรุ่นใหม่ๆ ที่ออกปีนี้ไม่มีนะครับ มีแต่โฉม 2007 ลงไป
    เอาให้สะดวก ควรทำตามนี้ 1.) เข้าไปหารุ่นที่ชอบที่
    2.) โทรไปสอบถามราคา 023006733
    3.) ไปที่โกดัง
    4.) จ่ายเงิน + ถามถึงของแถม ^^
    เห็นว่ามีคนสนใจหลายคนครับ

    ขออภัยทางผมไม่ทราบวิธี / ไม่สามารถ นำแผนที่แสดงในกระทู้ได้ คิดว่าถ้าคนที่สนใจจริงๆ ก็คงหาได้ไม่ยากครับ ไปตามข้อมูลก็จะพบบริษัทฯ ครับ เข้าซอยอ่อนนุช 17 และไปจนถึงแยกที่ 20 ทางขวามือ เข้าซอยแยกที่ 20 ตรงเข้าไป สังเกตฝั่งซ้ายมือจะพบอพาร์ทเม้นท์ เลยไปหน่อยก็จะเป็นบริษัท United BMIC ตัวหนังสือสีเขียว หรือจะเรียกมอเตอร์ไซด์จากปากทางอ่อนนุช ถึงบริษัท ประมาณ 30 บาท (จากการโทรสอบถามครับ) ส่วนตัวผมถ้ามีเวลาก็จะไปดูครับ เวลาเปิดปิด 9.00 - 17.00 น. ปิดวันอาทิตย์ ครับ
     
  14. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ส่วนใหญ่ Deuter ที่ลดราคา มักเป็น...

    รุ่นเก่าๆ หรือ รุ่นที่ ไม่มีขายในเว็บ Deuter(ผลิตในเอเซียเท่านั้น) ลดที่ 50 %

    รุ่นใหม่ๆ ปี 2008 ลดกันมากสุด 30 %

    บางทีถ้ามีงานท่องเที่ยว ก็ลองไปดูบ้างก็ดีครับ ก็จะมีลดราคาประมาณนี้เหมือนกัน มาจากแหล่งเดียวกันครับ
     
  15. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    เห็นว่าเราต้องอยู่ใต้ดินกันเป็นเดือน ผมเลยลองศึกษาการปลูกพืชในยามอยู่ใต้ดิน
    ตอนนี้มีเวลาบ้างก็มานั่งหาข้อมูล และนั่งสมมุติฐานอยู่คิดแล้วทำออกมาไม่รู้จะใข้ได้ไหม
    พืชจะเป็นยังไง กำลังหาข้อ อยู่ครับ ใครมีข้อมูลมาลงหัวคิดกันครับ
    อีกอย่างเรื่องไฟฟ้า เรื่องน้ำ อากาส ลองช่วยกันเพื่อความอยู่รอดครับ ใครจะมัวเมาอะไรปล่อยเค้า
    เรามาหาทางเตรียมตัวไว้ก่อน
    ถ้าได้เรียนปริญญา วิทยาศาสตร์ ทดลองทำวิจัยท่าจะดี จะได้หาข้อมูลง่ายกว่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2008
  16. JONGKON SIRISIN

    JONGKON SIRISIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2006
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +360
    ดีคับดี เอาใจช่วยคุณลิงเมืองละโว้ครับ ขอให้สำเร็จเร็ว ๆนะครับ
    แล้วเผยแผ่เป็นกุศลนะครับ
     
  17. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    ตอนนี้ผมได้ข่าวมาว่า ที่ จังหวัดลำพูน มีสถนาที่ หนึ่ง กำลังสร้างปฐมเจดีย์ ผมก็ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรแต่รู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะมีความสำคัญในอนาคตแน่ๆ เดี่ยวยังไงถ้าได้รายละเอียดแล้วจะมาบอกเพื่อนๆอีกทีนะครับ
     
  18. jojo_TKT

    jojo_TKT สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +8
    เมืองนอกเขาจะใช้ฝารองนั่งชักโครก มาวางบนถังสีพลาสติกขนาด20ลิตร(ถังที่เราชอบเอามาใส่น้ำอะครับ)
    แล้วก็ทำจุดยึดให้มั่นคงระหว่างฝากับถัง ใช้แทนชักโครกครับ
    ผมว่าว่างๆจะลองทำดูซักอันนึง ต้นทุนไม่เกิน300เอง

    แต่ถ้าไม่คิดมากก็ใช้ฝาปิดถังเจาะรูเลยก็สะดวกดีครับไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2008
  19. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ถึงพี่ Marine24 ครับ

    อยากสอบถามครับว่า เคยไปร้านพวกอุปกรณ์เรือ หรือไม่ครับ

    มันจะมีพวก อุปกรณ์ เซฟตี้ อ่ะครับ เห็นเขาบอกว่า มีพวก Emergency Food อ่ะครับ พอจะทราบไหมครับ

    ตอนนี้ผมจะจัดเป้ฉุกเฉิน สำหรับพี่สาวผมครับ เผอิญย้ายอยู่ที่ใหม่ ตึกสูง ชั้น 30 ครับ กำลังหาข้อมูล น่ะครับ
     
  20. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ตอนนี้ข่าวแผ่นดินไหวมาอีกแล้ว แถม มีไฟไหม้บ่อยด้วย

    และมีพี่สาวอยู่ตึก ชั้น 30 ด้วย ครับ เพิ่งไปอยู่ได้ไม่นาน ก็เลยจะจัดเป้ฉุกเฉินไว้ให้ครับ

    งบประมาณเป้ ชุดนี้ อยู่ที่ 3,000 บาท สำหรับ 2 คน เป็นของใหม่ทั้งหมด ที่ผ่านการแสกนว่า น่าจะใช้ได้ดี ในยามฉุกเฉินจริงๆ

    1. เป้ขนาดประมาณ 30 ลิตร 1 ใบ
    2. แท่งเรืองแสง 3 แท่ง อายุการใช้งาน 3 ปี
    3. นกหวีด Storm เสียงดังที่สุดในโลก 1 อัน
    4. ชุดปฐมพยาบาล 1 ชุด
    5. Tool Card (ที่เปิดกระป๋อง ที่เปิดขวด) 1 อัน
    6. มีดพับขนาดเล็ก 1 อัน
    7. ไฟฉาย 1 กระบอก
    8. อาหารฉุกเฉิน ขนาด 500 กรัม 2500 แคลอรี่ 1 กล่อง (ข้อมูลอาหาร http://www.compactforlife.com/seven-oceans-food-rations/ ) มีตัวแทนขายอยู่ในเมืองไทย
    9. น้ำดื่มฉุกเฉิน 500 มิลลิลิตร (ข้อมูลน้ำดื่ม http://www.compactforlife.com/seven-oceans-water-rations/ ) มีตัวแทนขายอยู่ในเมืองไทย

    10. หน้ากากกันสารพิษ N95 จำนวน 2 อัน กันควัน ฝุ่น ผงซีเมนต์
    11.ถุงมือช่าง 2 คู่
    12. ออกซิเจนกระป๋อง 1 กระป๋อง
    13. ถ่านไฟฉาย สำหรับ ไฟฉาย
    14. เสื้อกันฝนปันโจ แบบใช้แล้วทิ้ง

    เท่านี้ล่ะครับ คิดว่า หากเกิดเหตุ ได้ใช้เกือบทุกอัน

    แต่ถ้าจะจัดให้ตัวผมเอง ก็คงมากกว่านี้ และงบมากกว่านี้ด้วย เช่น เพิ่มวิทยุ เข้าไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...