เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

สรุปว่า ที่โดนมาอาจจะมีหลายสาเหตุ (ที่คิดเอาเองนะครับ)
อาจจะโดนผีอำจริง หรือเกิดจากกายเหลื่อม ผมเองก็ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่ครับ

 

ประสบการณ์การโดนผีอำ..ของคนไม่มีตาทิพย์
วันนี้เพื่อนผมโดนผีอำแบบจะๆ เมื่อคืนมันฝันว่ามีผีมาบอกว่าหวยจะออก 83 มันเลยทุ่มเต็มที่
สรุปวันนั้นมันโดนผีอำมาตั่งแต่กลางดึกคืนวาน โดนอำนานมาก กว่าจะรู้ตัวก็เกือบ 4 โมงเย็นนี่แหละครับ เฮ่อผี นี่ร้าย จริงๆ
เรื่องนี้แต่งมาเพื่อคลายเคลียด อย่าถือสากันน๊ะครับ ถือซะว่าผมมอบยาดีให้ ทุกท่านละกัน ยาดีของผมคือ "ยิ้ม" ครับ

 

ผมไม่มีตาที่สามนะครับ แต่ผมขอเล่าบ้างอะครับ เพื่อท่านไหนรู้ช่วยบอกผมหน่อย คือผมเคยเห็นใครก็ไม่รู้อะครับ มายืนมองผมอยู่ ใส่โจงกระเบนสีแดง ไม่ได้ใส่เสื้อ มีสังวาลย์ คาดที่ลำตัว ไขว้กัน ผิวเหมือนผิวคนเลย ไม่ขาวไม่ดำ หุ่นเหมือนคนเจ้าเนื้อ แต่ก็ไม่ถึงกับอ้วน เป็นผู้ชายนะครับ ดูจากหุ่นแล้วไม่ใช่หุ่นเด็ก แต่ก็ไม่น่าจะใช่ผู้ใหญ่สะทีเดียว เขามาให้ผมเห็นแค่ช่วงลำตัวลงไปอะครับ ไม่ให้เห็นหน้า พริบตาเดียวก้หายไปเลย ทุกวันนี้ก็ยังจำภาพนี้ได้อยู่เลย และก็ยังไม่รู้เลยอะครับว่าเขาเป็นใคร

 

ประสบการ์ของคุณพลอยมณี ไม่น่าปลื้มเลยเนอะ มากคนมากความ มากเทพ มากเรื่องไปซะได้

 

อืม ใช่ ประสบการณ์คนมีไว้เรียนรู้ มันเรียนรู้ไม่รู้จบ มาร เทพ มิจฉา สัมมา ก็ต้องเรียนรู้ จะได้รู้ไว้ว่า ของจริง มันมีทั้งสวยงาม และ ไม่สวยงาม จะได้เลิกหลงซะที

หลายๆเรื่องมันก็ไม่เหมือนจินตนาการในวัยเด็ก เมื่อมาเจอกับตัว เราจะบอกว่า นี่นะเหรอ .... เฮ้อ... ปลงดีกว่า

อย่างที่พระพุทธองค์ทรงเจอ มารทั้งหลาย รวมถึง เทวบุตรมาร คือ เทวดาผู้มีมิจฉาทิฎฐิคิดว่าตนดี ต้องการบริวาร ต้องการของมัวเมา

แต่ องค์ดีๆก็มี เยอะ องค์ไม่ดีก็โดนปราบ องค์ใหม่ๆ เข้ามาก็มาสอนเราด้วย

พระพุทธองค์ทรงสอนแล้ว ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน จะสวรรค์ หรือ นรก ก็ด้วยจิตเรา กรรมของเรา

ทุกอย่างบนโลกต้องเรียนรู้ไป อย่าไปยอมคนเลว อย่าไปยอมแม้ว่ามันจะขึ้นชื่อว่าเทพ โดยสมมติ รูปอาจจะงามในสายตา หากใช้จิตมองจริงๆ มันก็แค่จำแลง

ปลื้ม ไม่ปลื้ม ก็ต้องมีบ้าง สุข มันก็มาจากทุกข์ จะได้ปลง และ ไม่ติด

ปล่อยวางซะที

 

พลอยเอย...เรานะบุญเยอะเทพต่างๆเลยมาจองเอาไว้ใช้งาน มันก็ยุ้งอย่างนี้แหละ

แต่กลับกันบางคนไม่มีไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอะไรเลยก็พยายามนำเข้ามาใส่ตัว

เนี่ยและหนา มนุษย์...ไม่รู้จักพอ

 

อ่า...พี่ วิษณุ เรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่เป็นอย่างมาก ที่พี่ใช้ตาที่สามดูให้นะค่ะถึงรู้ว่า พวกเค้าเหล่านั้นเป็นใครบ้าง มิฉะนั้นคงจะ งง มากมาย เพราะสื่อสัมผัสเรามันเพี้ยนไป ยังไก่อ่อนนัก จิตตกบ้าง ดีบ้าง ไม่มั่นคง

ต้อง;41อย่างมากที่พี่วิษณุ เป็นคนดี ใจกว้าง ยอมรับในสิ่งที่หนูทำกรรมไม่ดีไว้ มันชั่ววูบหน่ะ (วูบนานๆ) พี่มาสะกิดหัวใจ เหมือนเป็นคนบอกทางให้คนตาบอดได้เห็น ทำให้เปลี่ยนความรู้สึก มีอะไรก็รบกวนพี่บ่อยๆ เกรงใจ้ เกรงใจนะ อิอิ เพราะหนูก็ทำตัวน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน 555 เรายังเบื่อตัวเองเลย หุหุ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


เยี่ยมครับ

 

วะวะวะว้าววพูดเรื่องผีอำกันเหรอ ผมนี่แหละตัวกลางเลยไปนอนบ้านไหนที่ไหนโดนตลอด

เด๋วจะเล่าให้ฟังนะ วันผมเพิ่มย้ายมาอยู่บ้านยายใหม่ๆเพราะผมต้องมาเรียนมัธยมที่นี่

แต่ผมคิดผมคงไม่ถูกโฉลกกับท่านเจ้าที่เจ้าทางสักเท่าไรอยู่ๆเรื่องก็มาครับท่านผู้อ่านที่

เคารพรัก ตอนนั้นกำลังนอนหลับเคลิ้มกำลังสบายเลย อยู่ๆก้อยากตื่นไม่รู้ทำไมแต่พอจะ

ตื่นมันตื่นไม่ได้ครับพี่น้อง โดนแล้วกูผมคิดในใจแบบนี้เอาระหว่างโดนไรหนอดิ้งไม่ได้

หายใจไม่ออก กระดิกนิ้วยังทำไม่ได้เลยครับ ผมเลยคิดไปแง่ดีว่า อาการแบบนี้เคยเรียนมา

มันไม่ใช่ผีอำปลอบใจตัวเองครับ พวกด๊อกๆๆทั้งหลายเขาเคยบอกว่ามันเป็นร่างกายพัก

ผ่อนมากเกินไปจนทำให้ร่างกายไม่ขยับผมก็คิดแบบนี้และครับท่านผู้อ่าน แต่มันไม่เป็นยัง

ที่คิดนี่สิครับอยู่ก็มีเสียงนกแสรกมาร้องข้างหู หนำซ้ำยังมีเสียงคนหัวเราะดังกังวานน่ากลัว

มากเอาแล้วสิ มันไม่ใช่อาการแบบพวกด๊อกๆบอกนี่หว่า ก้คิดในแง่ดีอีกและว่าจิตหลอน

พยายามปลอบใจตัวเอง ปลอบไปได้สักพัก เอ้ยจะบ้าตาย ! แมร่งเอ้ยอะไรอีกนี่ ไม่ดงไม่

ด๊อกแล้วโดนจริงครับ ไม่ได้ยินแค่เสียงนกแสรกไม่ได้ยินแค่เสียงคนหัวเราะแต่มองเห็นเลย

ครับ แต่แปลกว่าทั้งที่โดนอำหลับตาขยับไม่ได้ แต่ทำไม๊ทำไม มองเห็นภาพห้องทั้งที่หลับ

ตา แล้วยังเห็นห้องที่เรานอนได้ละทั้งที่หลับตาอยู่ คิดในใจว่า ไม่อยากเห็นโว้ย แต่ไม่เห็น

แค่ห้องนี่สิครับ เห็นแขกครับ แขกไม่ได้รับเชิญ คน1เด็กน้อยไม่มีตัว หน้าตาบูดเบี้ยวแถม

เห็นอยู่ครึ่งตัว ไม่อยากเห็นยิ่งเห็น แล้วเห็นคนแก่ใส่ชุดดำกับผู้หญิงนี่ไม่เห็นหน้าเห็นแต่

เห็นตัวหน้ากลัวมาก ทั้งหมดช่วยกันหัวเราะดังทั่วห้อง ผมสิครับสติหายแทบจะบ้าตาย

กระดิ๊กนิ้วกระดิกไม่ได้หายใจไม่ออก ผมตัดสินใจจะตะโกนให้คนมาช่วยปลุกผมทีแต่

ผมตะโกนออกไปสุดแรงเกิดแต่ทำไมไม่มีเสียงออกมาสักนิด จึงคิดในใจตายๆๆๆตายแน่ๆกู

นึกถึงบทสวดบทไหนกำลังจะท่อง แนะมันแย่งท่องไปอีก แถมยังท่องให้เราฟังเฉยเลย

เอ้ยผีไรวะเก่งกันจัง ท่องมนต์ได้เฉยเลยงะ แล้วผมจะทำไงดีสตืไม่อยู่กลับเนื้อกลับตัว

ท่องบทไหนมันก้เอาไปท่องเฉยเลย แล้วกูจะทำไงดี อยู่พระคุณเจ้า เสียงพระมาโปรด

ไม่ใช่เสียงพระที่ไหนหลอกครับ เสียงแมวมันทำไรตกดังโครม ผมสะดุ้งตื่นหลุดออกจากผี

อำทันที มองดูตัวเองโครตตะระเหนื่อยเลยเหงื่อนี่ซุ่ม เหมือนไปวิ่งมาราทอนที่ไหนมา

เด๋วของหอบแปบหนึ่งแล้วได้สติวิ่งไปเปิดไฟ ไม่กล้านอนทั้งคืนเลยวันนั้น นั่งดูทีวีรอจน

เช้าจะหลับไม่กล้าหลับเด๋วมันมาอีกเหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จบครับเรื่องมีอีกเยอะไม่ใข่แค่นี้

ผมโดนประจำ ไปไหนต้องโดนนะตัวผมไม่รู้เป็นไร ต้องทำใจครับ

เด๋วจะมาเล่าอีกนะครับถ้ามีเวลา ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านของผม

 

เอาล่ะ อาจารย์เปิดเทศกาลผีอำและ อาจารย์เตี้ยเล่าได้ขำดี คิดเรื่องแก้ต่างผีอำเหมือนกัน
สำหรับผู้ไม่มีพลัง ผู้ไม่รู้จักพลังทั้งหลาย ก็คงเหมือนกับกลมๆ ประมาณกลั้ว กลัววววว

นอนอยู่ดีๆ ตื่นขึ้นมาเหมือนมีใครปลุก แต่สุดท้ายขยับตัวไม่ได้ จะยกมือ พยายาม
อ้าปากเรียกคนข้างๆยังไม่ได้เลยค่ะท่าน เหมือนตะโกนเรียกแล้ว พี่แกก็ไม่รู้สึก
ยิ่งสติจำได้ว่า อาการอย่างนี้แหละ เขาเรียก ผีอำ คำๆนี้ แหละที่ไปกระตุ้นต่อมกลัวเข้า
ขนหัวก็ลุกตั้ง ใจจะเป็นน้ำแข็งไปซะงั้น งานนี้กลมๆใช้วิธีการแผ่เมตตา ท่องประโยคแรก
โดนบีบแบบหายใจไม่ออก โน่นจนจะจบท่อน เธอถึงได้คลาย จากนั้นข้าน้อย
ก็เปิดไฟนอน แยงตาก็ดีกว่าให้ผีอำ

สมัยนอนหอหญิงมหาลัย อำไปก็เขย่าเตียงไป อ่านหนังสือดึก จนไม่มีแรง กระป๋มเลย
ตัดสินใจกระโดดไปนอนเตียงรุ่นพี่ พี่แกก็ตัวเล็กซะเมือไหร่ แถมเตียงเดี่ยวอีก
เช้ามา พี่เขาบอกว่า ไม่ต้องเล่านะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน เพราะพี่กลัววววววว

ก่อนหน้านี้ซัก 5-6ปี ไปอ่าน กระทู้ที่ห้องลึกลับพันทิพ ใครโพสจำไม่ได้แล้ว
เขาว่าเป็นลักษณะที่เราเพิ่งตื่นใหม่ๆ ร่างกายกับสมองทำงานไม่ประสานกัน
สมองสั่งให้ขยับ แต่ร่ายกายยังไม่ทันปรับตัว เลยไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
แถมบอกว่าอาการเห็น ได้ยิน เป็นเรื่องผิดปกติเสียอีก โอ....เราไม่กลัวแล้ว
วิทยาศาสตร์แก้ได้ เอาล่ะใจเย็น ไม่ใช่ผี อย่างมากก็แผ่เมตตา ก็โอเค แล้วนะชีวิต

และแล้วหลังจากนั้นอีก 2ปี ฝันหวานๆที่คิดว่า ผีอำ ไม่มีจริงนั้น ไม่ถูกเสียแล้ว
ผีตัวแรก ของกลมๆ(ที่มองเห็นได้) มาโชว์ตัวสักประมาณซักตี 4-5
ขากระตุกอีกแล้ว ที่ว่าอีกแล้วเพราะ เป็นมาหลายคืนเลยช่วงนั้น ไอ้เราก็คิดว่า
แม็กนีเซียมในร่างกายไม่พอ คราวนี้ ลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นเงาดำ รูปร่างอย่างคน
เหมือนตามองตา ส่งภาษาทางใจ ไอ้เจ้านี่รับรู้ได้ว่า ยัยกลมๆมองเห็น
เธอรีบโดด เหมือนคนโดดใส่เตียงนอนอย่างนั้น แล้วเสียงก็ฟังยังกะปอบ
ง่ำๆๆๆ หัวใจเต้นถี่ ก็สัพเพ จนจบ แล้วบอกจะทำสังฆทานให้ เขาถึงได้ไป
ไปถามหมอดู เขาก็บอกว่า ตามมา2-3เดือนแล้ว มิน่า หึยยยยยย ทั้ง อำ ทั้ง
กระตุกขา

หลังจากทำบุญใส่บาตรต่อกัน ก็ยัง โดนอำอีก สัพเพเสร็จก็งัวเงียนอนต่อ
ตั้งแต่เอาวิทย์มาเกี่ยวก็นอนแบบไม่เปิดแล้วไฟ ง่วง พอทำท่าจะหลับ
คุณพี่ที่อยู่ข้างๆ ก็ละเมอมาทันทีว่า ไหนบอกว่าจะหาเสื้อให้ แต่วววววว
เจ้าเดิมยังมิยอมไปอีก อำแล้วอำอีก ยัยนี่ก็ยังจะเอาแต่นอน ยอมรับว่าขี้เซา ขี้ลืม

หุๆ นี่เป็นเรื่องเล่าของคนไม่มีตาทิพย์ ผู้มีพลังโปรดสงสารด้วยขอรับ
จะปล่อยให้อำ เขาก็บีบๆๆๆๆ สุดท้ายทุกวันนี้ กลมๆใช้วิธีให้บุญตาม
หลวงพ่อเกษม วัดน้ำหนาว ให้บ่อยๆเรื่อยๆ จะได้ไม่ต้องมาให้เห็น
ยอมรับว่า ทุกวันนี้ใจยังเต้น กลัว ถึงจะรู้ว่า เขามาขอส่วนบุญก็เหอะ
ไม่เหมือนอาจารย์นี่นา ซานติก้าเดินมาตัวดำเป็นแถว ยังไม่กลัวอีก
เจอผีที่จอดรถ ยังฝากรถกะผี แถมติ๊ปด้วยบุญสะอีก เยี่ยมยอดจริงๆ

 

อ่า เรื่องผีอำเหรอ เคยเจอหลายครั้งอ่ะ ยิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านพักที่บางเขนนี่
แรกๆมาเยี่ยมบ่อยมาก รู็สึกเหมือนมีเสียงคนเดินมา ตึก ตึก ตึก (บ้านพักเป็นบ้านไม้)
คิดในใจเลย เอาแล้ว มาเยี่ยมกันอีกแล้ว หนักๆมือไม้ขยับไม่ได้นะ
ดิ้นๆไปสักพัก เค้าก้อไป หลังๆนี่ ไม่ค่อยมาหากันแล้ว โดนครั้งล่าสุดเมื่อประมานสามเดือนก่อน เค้ามาแบบเดิม เสียงเหมือนคนเดิน ตึก ตึก เราก้อเหมือนดิ้นไม่ได้นะ
แต่คิดแบบตวาดไป บอกว่าให้ไปๆ คราวนี้ ไปง่ายๆแฮะ
แล้วตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้มาหากันอีกเลย

 

ใครมีประสบการ์ณเกี่ยวกับ ซานติก้าผับบ้างครับ ขอความรู้หน่อยครับอาจารย์

 

พยายามอย่า พูดถึง ซานติก้า..ถ้าแว่วไป.เขาจะแห่มาเข้าเวบทั้งโขยง
มากกว่า 60 วิญญาณ...อาจจะมากกว่า จำนวนสมาชิกที่อ่านกระทู้อยู่อีก
.เคยคิด จะใส่บาตรแผ่เมตตา..เวลาเราใส่ ก็ต้องไป ที่หน้าตลาดเช้า
มีแม่ค้าจัดเป็นชุดๆๆเตรียมไว้ ชุดละ 20 -25 บาท..เป็นกับข้าวพื้นๆๆ
ปรากฏในจิตว่า เขาไม่อยากรับ...เพราะ อาหารนั้น เกรดต่ำเกินไป
.........................................................................
พวกเขาเกือบทั้งหมด เป็นคนระดับสูง บางคนไฮโซ..กินแต่ละมื้อ ก็ ต้องแพง
หัวละ 800-1000. บาท..ขี่รถเก็ง ขี่รถ สปอร์ต กันทั้งนั้น
วิญญาณ ยังไม่ลืมสภาพ ก่อนตาย..ก็ยังไฮโซ.
.จึงต้องเป็นเรื่อง ของ พ่อ-แม่ ญาติของผู้ตาย ที่ จะดำเนินการ
..เพราะรู้ว่า ก่อน ตาย..ผู้ตายชอบกินอะไร..เกรด อำหารเป็นเช่นไร
เป็นข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง..คนที่ไม่พร้อมที่ จะตาย.
.ก็จะไม่เชื่อว่า ตัวเองตายแล้ว
......................................................................
วิญญาณ ฝรั่งที่ ตายด้วยซึนามิ มากมายเมื่อหลายปีก่อน.
.ยังไม่คิดว่า ตัวตาย..ก็ยังนั่งรถเมล์เล็ก ๆๆ นั่งตุ๊กๆๆ ให้ ผู้ คนเห็น เป็นประจำ
.................................................................................

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ เรื่องที่ สิบเจ็ดของ ตาที่สาม
ถอดระหัสเลข
.......................................................................
ที่บู๊ธ 042 บนสถานี รฟม กำแพงเพชร ตรงข้าม ตลาดสด อตก
เป็นที่ ตั้งชมรมของ สมาชิก ผู้ มีตาทิพย์ และ ผู้เห็นผี
แต่ละวันจะมีคนมานั่งคุยกันเรื่อง เห็นผี เห็น พญานาค เห็น เทวดา
กันแน่นขนัด...คนนอกที่หลุดเข้าไป ฟัง..
จะเหมือนหลุดเข้าไปในโลก ของ คน ผิด ปกติ
........................................................................
ที่ จริงแล้ว ที่ ชมรม เหมือนเมืองตักศิลา..มี การอบรมการสอน
ศาสตร์ ที่ไม่มีใครเขาสอนกัน..
.....................................................
เช่น มองเห็นแสงรอบตัวเป็นชั้นๆๆ.. /
มองเห็นเทพ เทวดา องค์ ใน ที่อยู่ในตัว
มองเห็นว่า ใครมีผีสิง..ผีเข้ามาครอบ
สอนเปิดตาที่สามเพื่อให้ เห็นผี
พอจบหลักสูตร ก็ พาลงสนามกันเป็น รถบัส
ไปดูเมืองผี เมืองพญานาค..ฯลฯ
........................................................
สอนให้รู้จัก คุยกับต้นไม้/ คอกไม้..ว่า เขาคิดอย่างไร
สอนให้รู้จักพูดคุย ภาษาหมา ภาษาแมว..
ไว้คุยกับ หมาแมว ที่เลี้ยงที่ บ้าน..ว่า สะบายดีใหม..เจ็บ ตรงไหน
อยากกินอะไร...
...........................................................
สอนวิชาฮวงจุ๊ยว่า จะแก้ยังไง..จึงจะทำให้ บ้านอยู่ สะบาย
ร้านจึงจะขายไดั..จะต้องตั้งพระบูชาที่ บ้านยังไง ท่านจึงจะให้คุณ
อย่าว่า แค่นั้นเลย..แค่เอาพระมาห้อยคอ ผิด..ก็ทำให้ อายุสั้น ตายได้
คนที่ ชอบใส่พระดังๆๆ แรงๆๆ มีสิทธิที่ จะตายก่อนเพื่อน
..........................................................................

 

ที่ชมรม เป็นเหมือนโรงเรียนสอนวิชาพิเศษที่ไม่เหมือนชาวบ้าน
จะเหมือน โรงเรียนพ่อมด แห่ง แฮรี่ ปอ๊ตเตอร์..ก็ไม่ผืด
จึงมีคนมาสมัครเรียนกันมาก รวมแล้ว หลายร้อยคน
....................................................................
คนที่มาเรียนก็ไม่ใช่คนธรรมดา..เป็นคนพิเศษ ที่ ชอบแสวงหา
วิชาใหม่ แปลกๆๆ มาเพิ่ม...จึงมาสมัครเรียนกันแยะ
แต่ละคนเก่งจากที่เดิม กัน ทั้ง นั้น..มาแปลกๆๆ ต่างกันไป
มีมากมาย..
แต่วันนี้ จะเล่า เฉพาะ คนที่เก่งทาง วิชาถอดระหัส เลข
...............................................................
แน่นอน จะต้องเกี่ยวกับ เลขผา หน้าไม้
อย่างเลข เจ็ดหลัก / เลขกราฟนี่ก็ได้ ยินบ่อย
................................................................
มีอยู่ คนหนึ่ง..ที่มาจากสำนัก สอน วิชา ฮวงจุ๊ย
ฮวงจุ๊ย เป็นวิชาที่แก้ไข บ้าน / ร้านค้า..ให้ปลอดโปร่ง..
จะได้ อยู่สะบายและขายดี
.......................................................................
เขาเล่าว่า เสียค่าเรียนประมาณ 15,000.- บาท ต่อการเรียน 1 ค๊อส
ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน..จะมีหลักการสารพัด
ที่ จะให้ บ้าน/ ร้านค้าดี/... ใช้เข็มทิศ/ ดู ทิศทางไหล ของลม
..........................................................................

และ สุดท้าย คือ การฝึก อ่านเฉพาะเลขบ้าน เช่น 25/13..ฯล"
พอนึกถึงเลขบ้านที่ ว่า..ตัวบ้านก็จะมาอยู่ ตรงหน้า..
โดยตัวเราไม่ไม่ต้องไป ถึงสถานที่จริง
ส่วนใหญ่ ผู้ใช้จะเรียกบ้านโดยวิธีที่ ว่ามาดูก่อน
ว่า บ้านเป็นยังไง..ตรงไหน เสีย / ตรงไหน มีผีแอบอยู่
ที่ ต้องทำก่อน เพราะ เวลาไป ยัง สถานที่จริงๆๆ
จะได้ ทำงานได้ อย่างรวดเร็ว..เป็นที่ประทับใจ
แก่ เจ้าของ บ้าน ที่ให้เราไปดู
..............................................................

 

วิธี เรียกบ้านมาดู..ข้าพเจ้า เคยเห็นมาก่อนหน้า
นี้ ด้วยความประหลาดใจ
เมื่อ หลายปีก่อน..หลวงพ่อ ท่านคล้ายแห่ง อ. ฉวาง นครศรีฯ
ท่านเคยแสดงให้ดู
ท่านให้ คนที่มีปัญหา เรื่องบ้าน และผีในบ้าน..บอกเลขบ้าน
พอได้ ท่านก็ นั่งหลับตาครู่หนึ่ง..แล้วก็นั่งวาด แผนผัง บ้านที่ เขาบอก
.."บ้านมึง ชั้นเดียว..มีสี่ ห้อง มีห้องรับแขก ห้อง นอน สอง ห้อง
ห้อง ครัว แล้ว ก็ ห้องน้ำ...เออ บ้านนี้ มันมีผี ดู..อยู่ ตรงนี้ ๆๆ
ผี ไม่แข็ง เท่าไหร่..เดี๋ยวกู จะให้ ข้าวสารเลกไป..มึงเอาไปไล่ได้ เลย
.........................................................................
ทีนี้ ก็ลองให้เขาทำพิธี เรียกบ้านตามที่เขาเรียนมาให้ดู
เราก็เอาจิตตามดู ว่า เขาทำยังไง..ไอ้เราก็ชำนาญเรื่อง ลักจำ
วันหลังก็ลอง เอาวิชาลักจำมาใช้...เออ !!! ได้ผล..บ้านมาจริงๆๆด้วย
ทีนี้เราเรียนวิชา กราฟฟิค ในคอม..ก็ก้าวหน้า กว่า ซิ!!
.......................................................................
เราก็เอาจิตเรียกบ้านมาหมุน โดยรอบ วนซ้าย วนขวา.
.ตีลังกา เอาหลังคาลง..มองจาก ใต้ถุนทะลุพื้น ขึ้นไป
แล้ว แบบนี้ ผีมัน จะหลบไปได้ ยังไง.
.เรียกว่า ตรวจบ้านด้วยจิตไฮเทค
.................................................................

 

เรื่องเลขบ้าน เรียกมาดูได้ สะบายๆๆ
อีกเรื่องที่ เหลิอเชื่อ และง่ายมาก..คือเลขทะเบียนรถยนตร์
เขาใช้จิต อ่านเลขทะเบียนรถยนตร์..พออ่านปั้บ.รถมาเลยในจิต
รถเป็นยังไง..คนขับเจ้าของ เป็นยังไง ขับรถแบบไหน
ซิ่ง หรือ ว่า เป็นเต่า เกะกะ
....................................................................
มันบอกหมด
ทำความสะอาด ฮ่วยมาก
น้ำมันเครื่อง เลยเวลาใช้งานมามาก..ไม่เคยเปลี่ยน
รังผึ้ง สกปรก./.ใส้กรองอากาศ ไม่เคยทำความสะอาด
โชคอัฟ หน้า ซ้าย เสีย / ยางหลังซ้าย ลมอ่อน /
ดอกยางหน้า ขวาโล้นไป..เกียร์เพลากลางสั่น..
จอยเพลา.จะขาด / ลูกยางแหนบ เสียหมดอายุ
ถ้า อู่ไหน จะประหยัดเวลา จ้าง คนที่ มีพลังจิต ด้านนี้ มานั่ง
พอ รถจอดซ่อมเข้าอู่
ไม่ต้องเปิด กระโปรงรถ /ไม่ต้องก้ม ลงมองใต้ท้องรถ
ไม่ต้องฟังเสียงเครื่องยนต์ วิ่ง
..................................................................
เขียนใบสั่งในคอมได้ เลย..ว่า ต้อง ซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ อะไร บ้าง
ว่า เป็น ชุดเลย..เจ้าของรถที่ จะมาให้ซ่อม งง ตาย..รู้ได้ ไง
ตอนนี้งงๆๆไป ก่อน อีก 5-6 ปี เรื่องเหล่า นี้
จะเป็น ของ ธรรมด๊า..ธรรมดา
.......................................................................
พอเขามาแสดงให้..เราก็ใช้จิตลักจำ ตามเคย
พอลองมั่ง..ก็ดีแฮะ
ต่อ นั้นมา ก็เลยเอาวิชานี้ เข้าสอนในหลักสูตร.
.การเรียนเปิดตาที่สาม เพิ่ม เป็นอีกวิชาหนึ่ง แถมให้
............................................................

(ยังมีต่อ)

 

เมื่อวานนี้ (17มค 2552) มีผู้ที่เรานับถือ มาเยี่ยมที่บู๊ธหนึ่งคน
คือคุณ ชาติชาย...แกมาที่บู๊ธหลายครั้งเหมือนกัน..มาทีคุยสนุก
มาพูด มาสอน มาคุยธรรมะ / เอาของ วัตถุมงคลแปลกๆๆมาให้ตรวจ
ส่วนใหญ่ เป็น วัตถุมงคลประเภท ทำเสน่ห์..ให้คนรัก ให้ ค้าขายดี
........................................................................
หลายครั้งที่แกมา..แกจะพูดแย็บๆๆ อยู่เรื่องหนึ่ง
คือ บัตรประชาชน..และการถอดระหัส..แกพูดสั้นๆๆ
แต่เราฟังแล้ว..ไม่ค่อยสน..
เพราะ คิดว่า แก..พูดเล่น แบบอ่าน กราฟชีวิต
..........................................................
แต่คราวนี้ พอแก โผล่มา กลางวง..มีคนนั่งอยู่ 3-4 คน
ในสมองสั่ง..ให้ทุกคนเตรียมบัตรประชาชนไว้..ทุกคนก็เตรียม
พอ แกนั่ง เรา ก็เริ่ม.
."เอ้า.. เอาหน่อย..ตรวจบัตรประชาชนหน่อย อยากรู้เรื่อง.."
...................................................................
แกก็ดีน่ะ..เล็กเชอร์ เลย.."ไอ้เราก็ลักจำ ตามเคย"
ได้ความว่า บัตรประชาชนนั้น มีความสำคัญ ยิ่ง เพราะ หมายถึงชีวิต
.......................................................................
เลขสิบสามหน่วยที่เป็น ระหัส ประจำตัว ประชาชน
เป็นระหัส ของ พระยายม.หรือ ทะเบียนของ ยมโลก
ที่ จะบอกว่า เกิดเมื่อไหร่..จะตายเมื่อไหร่ ตายด้วยโรคอะไร
ด้วยอุบัติเหตุหรือ เปล่า..ตายแล้ว ไปไหน
จะต้องขึ้นสวรรค์ หรือ ลงนรก
จะต้องเกิด อีกกี่ชาติ จึงจะบำเพ็ญตน แล้ว หลุดพ้นได้
แล้วก็ ตรวจให้ทีละคน.
.เออ..เข้าเค้าแฮะ..เพราะเวลามาตรวจเรา
เราก็รู้แล้วว่า เราจะเป็นยังไง..แม่นกว่า 80 %
.............................................................

 

อีกระหัสหนึ่ง คือ เลข หกหลักที่อยู่ใต้รูป บนบัตร
เป็นระหัส ของมหาดไทย..เหมือนทะเบียนบ้านบนโลก
มันจะบอกว่า จะต้องทำอาชีพอะไร /ต้องอยู่กับที่หรือ ต้องเดินทาง
จะต้องไปอยู่ภาคไหน..ชีวิตจึงจะประสบความสำเร็จ
จะรวยหรือ จะจน..จะเป็นชนชั้นใด.
ชั้นกรรมาชีพ / ชั้นกลาง มนุษย์กินเงินเดือน / ผู้บริหาร ชนชั้นสูง
......................................................................
เราก็ลักจำ ด้วยจิต..พอเขาไป ก็ลองมั่ง..ทำได้ แฮะ
แต่เหนื่อยเกิน
อย่างเลขบ้าน ไม่เกิน 5 หลัก /ทะเบียนรถ ก็ไม่เกิน 6 หลัก
มันสั้น..เวลาใช้จิต มัน เบาๆๆ กินพลังน้อย
มาเจอ บัตรประชาชนเบอร์ประจำตัว เลข 13 หลัก
บวก อีก6 หลัก ระหัส มหาดไทย รวมเป็น 19หลัก
เมาตายเลย..กินพลังมาก เพลียง่าย
ก็เลยเอามาเป็นแค่ความรู้ ว่า เป็นอย่างไร..และเราทำได้..ก็พอแล้ว
........................................................................